หยุดทำร้ายลำไส้ด้วยโยเกิร์ต !

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR>หยุดทำร้ายลำไส้ด้วยโยเกิร์ต !

หยุดทำร้ายลำไส้ด้วยโยเกิร์ต
!
พอดีได้อ่านบทความของนายแพทย์ บรรจบ
ชุณหสวัสดิกุล จากมติชน สุดสัปดาห์ เลยต้องสะดุ้งกันไปเป็นแถบๆ ทั้งญาติพี่น้อง
และเพื่อนพ้องในออฟฟิศ[FONT=Micros!
oft Sans Serif] ก็เรามันสาวรักสุขภาพ อะไรที่เค้าว่าดิบดีเราก็ทำ
เราก็ทาน แต่บางทีเราก็ไม่ค่อยจะได้ฉุกคิดเสียก่อนหรอกว่า
มันมีคุณตามสรรพคุณที่เค้ากล่าวอ้างกันจริงรึป่าว

เคยมีคนบอกมาเหมือนกันว่า ให้ทำโยเกิร์ต
สูตรน้ำผึ้งผสมมะนาว เพราะทานแล้วช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
แต่ก็ต้องมาเหยียบเบรกเอี๊ยดอ๊าดกันก็คราวนี้
[/FONT]

โดยคุณหมอ
บรรจบได้บอกเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยไว้ว่า


1. ความหวานจากน้ำผึ้งที่ใส่เข้าไป
แคลอรี่ความหวานจากน้ำผึ้งก็คือแคลอรี่จากน้ำตาล
การทานน้ำผึ้งไม่ได้ปลอดภัยกว่าการทานน้ำตาล
ความหวานของน้ำผึ้งสามารถเปลี่ยนให้โปรตีนจับตัวเป็นก้อน ขนาดแบคทีเรียในโปรตีนยังตายเมื่อเจอกับน้ำผึ้ง
คนโบราณจึงมักใช้น! ้ำผึ้งทาแผลเปื่อยเพื่อฆ่าเชื้อโรค
แต่ผลข้างเคียงก็คือทำให้เนื้อเยื่อบริเวณแผลเปลี่ยนสีและแปรรูปกลายเป็นแผลเป็น
ส่วนคนจีนโบราณเค้าจะใช้น้ำผึ้งในการดองศพ ลองนึกดูนะว่า
น้ำผึ้งเข้มข้นสามารถดองเนื้อเยื่อได้ถึงขนาดนั้น โอ้ว
แล้วกระเพาะและลำไส้เราจะเป็นอย่างไร




2. โยเกิร์ต เป็นสิ่งบริโภคที่ไม่เหมาะกับคนเอเชีย
เพราะโยเกิร์ตคือผลผลิตของนมวัว ซึ่งคนเอเชียร้อยละ 50 -80 แพ้โปรตีนในนม
สามารถทำให้เด็กแรกเกิดเป็นโรคภูมิแพ้ได้
ถึงแม้ว่าการทานโยเกิร์ตจะทำให้ถ่ายท้องได้คล่องก็จริงอยู่
แต่ผลข้างเคียงที่ตามมาล่ะ นั่นก็ขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาภูมิแพ้ของคนนั้นๆ
หากคุณมีอาการแพ้นมวัว โปรตีนนมวัวก็จะทำให้เยื่อบุลำไส้ระคายเคือง
เซลล์เยื่อบุเกิดอาการบวมน้ำ จึงปล่อยสารคัดหลั่งออกมา ขับถ่ายเป็นน้ำเหลวๆ ออกไป
ถ้าปล่อยให้ระคายเคืองซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น ก็จะทำให้ภูมิต้านทานคุณปรวนแปร
จากแค่อาการแพ้ธรรมดาๆ ก็สามารถพัฒนาการเป็นลมพิษ ผื่นคัน ไปจนถึงหอบหืด
และร้ายแรงที่สุกก็คือ โรคลำไส้เรื้อรังค่ะ


3.
ท้องผูกต้องแก้ด้วยไฟเบอร์
ต้องทานอาหารพวกเส้นใยอาหารให้มาก การทานโยเกิร์ตผสมน้ำผึ้งมะนาวไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุด

มีเคสตัวอย่างที่น่าสนใจอยู่เคสหนึ่งของคุณหมอบรรจบ
เมื่อคนไข้ท่านหนึ่งซึ่งเป็นคนที่ใส่ใจสุขภาพ ทานข้าวกล้อง ทานผัก ทานป! ลา
ตามแบบไทย จนผลตรวจเลือดของเธอเมื่อ 2 เดือนก่อนที่เธอจะเปลี่ยนวิธีทานนั้นนับได้ว่าเลือดของเธอสวยมาก ไร้ไขมัน
สิ่งตกค้างใดใด สะอาดหมดจดจริงๆ แต่เมื่อ 2
เดือนให้หลัง หลังจากที่เธอหันมาทานโยเกิร์ตเพื่อช่วยแก้ปัญหาท้องผูก
ปรากฎว่าผลเลือดของเธอมีคราบไขมันที่กำลังจะจับตัวเป็นก้อน
รวมกันอยู่เป็นกลุ่มๆ ไขมันในเลือดสูง
เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคคลอเรสเตอรอลสูงได้ ลองดูภาพผลเลือดแบบ Dark Field ภาพที่หนึ่งซึ่งเป็นผลเลือดครั้งก่อนของเธอ และภาพที่สอง
ซึ่งเป็นผลเลือดหลังจากที่เธอหันมาทานโยเกิร์ตผสมน้ำผึ้ง มะนาว ดูค่ะ

นี่คือ
ผลเลือดครั้งก่อน ที่เม็ดเลือดของเธอสะอาดมาก
ไร้สิ่งตกค้าง ​

ภาพที่สอง
หลังจากที่เธอหันมาทานโยเกิร์ตสูตรนี้
คราบไขมันที่กำลังจะจับตัวเป็นก้อน รวมกันอยู่เป็นกลุ่มๆ
กับเม็ดเลือดของเธอ ​

ขอขอบคุณ
บทความดีๆ จาก



คอลัมน์ธรรมชาติบำบัด
มติชน
สุดสัปดาห์
!
โดย นายแพทย์ บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล</SPA N>


มาจาก: Forward Mail
​

</TR></TBODY></TABLE>
www.limparty.com

 

ขอบคุณค่ะ โธ่ นึกว่ากินแล้วดีซะอีก

 

ง่ะ

 

กินแดด กันเถอะพวกเรา
จะได้หมดปัญหา..
กินอะไรก็มีปัญหาทั้งนั้น..
วุ่นวายจังชีวิต

 

คนในโรงงานทำโยเกิร์ต ก็บอกมาว่า อย่าซื้อโยเกิร์ตมากิน
โยเกิร์ตที่ว่า เป็นโยเกิร์ตแบบกระปุก ยี่ห้อดังๆ ที่ีีโฆษณาตามจอทีวี

สงสัยว่าทำไมห้ามไม่ให้กิน (ของโปรดชั้นเลยนะ)
เขาว่า ในกระบวนการผลิต มันใส่แต่สารสังเคราะห์ทั้งนั้นเลย กินไปก็ไม่ได้ประโยชน์
(เข้าทำนอง "คนทำไม่ได้กิน คนกินไม่ได้ทำ" แป่ววว..)

ช่ายๆ แดดมีประโยชน์ โดยเฉพาะแดดช่วงเช้าพระอาทิตย์เพิ่งขึ้น
็กินแล้วสุขภาพแข็งแรงนะ จะบอกให้

 

ลงแบบนี้ เดี๋ยวของเขาขายไม่ได้ก็เจ๊งซิครับ

 

โห... ตั้งหน้าตั้งตากินไปตั้งเยอะแล้วค่ะ
แต่ตอนนี้ ก็ลดไปเยอะแล้วค่ะ หันมาทานแอ๊ปเปิ้ลลล แทนอ่าค่ะ
คุณหมอบอกว่า ไฟเบอร์สูง และมีสารอาหารครบ
ก็เลยทานเปิ้ล เป็นประจำ วันละลูกค่ะ ^^