"ข้าวใหม่-ปลามัน"กินกุ้ง-หอย-ปู-ปลา ที่ "บ้านแม่ช้อย" กรุงเก่า/แม่ช้อยนางรำ

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ข้าวใหม่-ปลามัน"กินกุ้ง-หอย-ปู-ปลา ที่ "บ้านแม่ช้อย" กรุงเก่า/แม่ช้อยนางรำ
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9510000124508
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>27 ตุลาคม 2551 15:24 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"กุ้งแม่น้ำย่าง" ความอร่อยที่แตกต่างไปจากเผาและปิ้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> "น้ำปริ่มสองฝั่ง..ลมเหนือโชยความหนาวมาเบาๆ
ยามนี้เรียกว่าช่วง "ข้าวใหม่ปลามัน" กินอาหารอร่อย
ขอเชิญมาเปิบอาหารไทยโบราณที่บ้านอีชั้นที่อยุธยา"

น้ำเหนือกับลมหนาว ไหล่บ่ากรรโชกมาถึงบ้านอีชั้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้วเจ้าข้า..เจ้านาย

ปีนี้น้ำไม่ท่วมบ้านอีชั้น

เพราะฉะนั้นจึงถือโอกาสเชื้อเชิญเจ้านายรวมทั้งแฟนคอลัมน์ไปกินอาหารข้าวใหม่ปลามัน ซึ่งเป็นช่วงที่กินปลาซึ่งหมายถึง กุ้ง หอย ปู อร่อยแล้ว ข้าวใหม่ที่เก็บเกี่ยวได้ตอนนี้..อร่อยที่ซู้ด!!

สมัยเด็ก..เด็ก เดือนตุลาพวกเราก็จะพากันไปงมกุ้งซึ่งก็หาไม่ได้ยากเย็นอะไร

แค่เอามือรูดเสาท่าเรือหน้าบ้าน ประเดี๋ยวเดียวได้กุ้งเต็มข้อง

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"น้ำจิ้มกุ้ง" เป็นสูตรคนกรุงเก่า ที่ไม่ใช่น้ำจิ้มซีฟูดที่ทำกันทั่วไป</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> กินกันไม่หวัดไม่ไหว ต้องเอาไปทำ "กุ้งต้มเค็ม" ใส่กระทงให้บ่าวไพร่ไปเร่ขายแถวหน้าสถานีรถไฟ สมัยนั้นกุ้งตัวโต..โต 3-4 ตัว กระทงละบาท ก็ยังหาคนซื้อยาก

สุดท้ายก็เลยต้องเอาไปทำ..ข้าวเกรียบกุ้งเก็บกินข้ามปี

ที่ร้านอาหารไทยโบราณ "บ้านแม่ช้อย นางรำ" ของบรรพบุรุษอีชั้นอยู่ตรงกันข้ามกับเจดีย์ศรีสุริโยทัย หรือสมัยก่อนเขาเรียกบริเวณนี้ว่า "บ้านป้อม" เพราะเคยเป็นป้อมต่อสู้กับไอ้พม่าข้าศึก

ตอน "บุเรงนอง" กรีฑาทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาก็มาตั้งค่ายอยู่บริเวณนี้

หรือตอนกรุงแตกครั้งสุดท้าย อีกามันร้องไห้แล้วบินมาให้ยอดพระปรางค์เสียบอกตายเป็นอาเพศ จึงเป็นเหตุให้เรียกวัดข้างอีชั้นว่า.. "วัดท่าการ้อง"

ส่วนวัดธรรมารามที่ติดกับรั้วบ้านอีชั้น

เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ หรือที่เรียกชื่อท่านสั้นๆว่า.. "เจ้าฟ้ากุ้ง" ท่านมาทรงพระนิพนธ์นันโทปนันทสูตรคำฉันท์ที่วัดนี้

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"ท่าน้ำบ้านแม่ช้อย" อยู่ที่สระหลังบ้านส่วนหน้าบ้านเป็นท่าน้ำติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา..จ้า!!</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ร้าน "บ้านแม่ช้อย นางรำ" เปิดขายมา 20 กว่าปีแล้ว

แฟนอาหารไทยรสลิ้นแบบไทยกรุงเก่า อยุธยาเป็นลูกค้าประจำกันมานาน

พวกฝรั่งมังค่า ก็ชอบมานั่งที่ร้าน เขาว่าดูลม...ชมวิวสวยดี

บ้านอีชั้นตรงข้ามกับเจดีย์ทอง เหลืองอร่ามเป็นเจดีย์เก็บพระอัฐิของ "พระศรีสุริโยทัย" เป็นช่วงแคบที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา

คือประมาณสัก 50-60 เมตรเท่านั้น พวกพม่ามันถึงมาตั้งค่ายตีเข้ากรุงทางนี้

กรุงแตกครั้งแรกก็หน้าบ้านอีชั้น

ส่วนกรุงแตกครั้งที่สอง ตรงส่วนที่แคบที่สุดของแม่น้ำลพบุรี ตรงที่เรียกว่า "หัวรอ"

แต่ช่วงแคบของแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าบ้านอีชั้นเขาเรียกกันว่า "หัวแหลม"

ใครชอบประวัติศาสตร์ขอให้ไปนั่งจินตนาการกรุงศรีอยุธยายามเมื่อครั้งยังดีอยู่ได้ที่บ้านอีชั้น

โชคดีอาจจะได้กลิ่นหอมดอกไม้โบราณ กลิ่นกระแจะจันทน์หอมลอยมาแตะจมูก...ถูกหวยรวยกันมาเยอะแล้ว

ขอแนะนำอาหารไทย ฝีมือพวกบ้านอีชั้นดีกว่า เมนูที่คัดมาให้เจ้านายสั่ง มีดังนี้เจ้าค่ะ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> -กุ้งแม่น้ำชนิดกุ้งตกเบ็ดย่าง ชั่งขายตามน้ำหนัก (กรุณาสั่งล่วงหน้าที่โทร 0-3525-5268)
-หมี่กรอบแบบอยุธยา 100 บาท
-ปลาม้านึ่งบ๊วยหรือพริกมะนาวตัวละ 350 บาท
-ฉู่ฉี่ปลาน้ำเงิน 200 บาท
-แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย 120 บาท
-ปลาสลิดแดดเดียวหลน 100 บาท
-แกงคั่วหอยขม 100 บาท

นอกจากนั้นเจ้านายจะสั่งอะไรก็ตามใจ..ตามปาก รายการอาหารมีไม่มากแต่รับรองได้ว่าเจ้านายกินไม่หมด

"บ้านแม่ช้อย นางรำ" หาง่าย อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตรงข้ามเจดีย์ศรีสุริโยทัย หรือที่เรียกว่า "วัดสวนหลวงสบสวรรค์" ในสมัยโบราณ

บ้านของอีชั้นอยู่ระหว่างกลางวัดกษัตราธิราชกับวัดธรรมาราม

อาหารทุกรายการทำแบบรสชาติของคนกรุงเก่าโบราณ

อากาศเย็น..เย็น ยามลมหนาวเริ่มพัดมาเบา..เบา

น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาปริ่มสองฝั่ง อีกไม่กี่วันก็จะลอยกระทงกันแล้ว

รีบ..รีบไปกันตอนนี้เลยนะเจ้าค่ะ...เจ้านาย เพราะพอถึงคืน "จองเปรียงลอยพระประทีป"

...คนจองที่นั่งบ้านอีชั้นข้ามประเทศข้ามปี มันเป็นอย่างนี้จริง...จริงทุกๆปีเลยนะเจ้าค่ะ เจ้านาย..

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน "แม่ช้อยนางรำ" บริเวณหัวแหลม หรือตำบลบ้านป้อม ในตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์ 0-3525-5268
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอบคุณครับ...^^ อยากทานกุ้งแม่น้ำย่าง คู่กับ น้ำปลาหวานสะเดาครับ


.

 

เห็นแล้วน้ำลายไหล เลย อยากทานจัง.....

 

กินกับสะเดาน้ำปลาหวานได้ด้วยเหรอเฮีย เคยทานแต่กุ้งเผากับน้ำจิ้มแซบ ๆ