พุทธศาสนาในมุมมองของ...แม่ชีฝรั่ง

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย paang, 16 พฤศจิกายน 2005.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,326
    [​IMG]



    "ศาสนาพุทธในสายตาของฉันนั้น ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ศาสนา แต่ยังเป็นปรัชญาชีวิต เราไม่จำเป็นที่จะต้องเชื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ชีวิตของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับ พระผู้เป็นเจ้าดลบันดาลให้เป็นไป แต่ชีวิตเป็นของเรา เราสามารถ ที่จะมีชีวิตที่ดีได้ หรือไม่ดีก็ได้ อยู่ที่การทำตัวของเราเอง เราเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งของตัวเรา" และนี่เป็นมุมมองเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาของ บริจิต เป็นแม่ชีชาวออสเตรเลีย

    หลักธรรมของพระพุทธศาสนา อย่างหนึ่งที่แม่ชีบริจิต บอกว่า แตกต่างจากหลักธรรม ของศาสนาอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง คือ พระพุทธเจ้าไม่เคยทรงตรัสว่าให้เชื่อ แต่ท่านสอนให้เราหาความจริง ด้วยการปฏิบัติเอง พิสูจน์ทดสอบธรรมะที่ท่านตรัสไว้ ด้วยการปฏิบัติให้รู้จริง ด้วยตัวเอง คำนี้เองที่ทำให้ฉันสนใจ พุทธศาสนา ที่ฉันไม่ต้องทำตัว เหมือนเป็น ลูกแกะที่เอาแต่เดินตามคนเลี้ยง

    อย่างไรก็ตาม จากการแสวงหาความรู้เรื่อง พุทธศาสนาหลายๆ สำนัก ทำให้เธอค้นพบว่า แม้ว่าผู้สอนพุทธศาสนาจะเคร่งในวัตรปฏิบัติและ ถ่ายทอดความรู้เรื่องพุทธศาสนาได้ดีเพียงใด แต่ทุกคนก็ยังคงต้องปฏิบัติด้วยตนเอง ไม่มีใครมาทำแทนให้ได้ เราควรดีใจที่วันนี้ยังมีครูบาอาจารย์ที่พอจะมีความรู้จากประสบการณ์มาถ่ายทอดให้ด้วยตัวเอง สอนในวิถีทางที่ถูกต้อง ซึ่งสำคัญมาก เราไม่สามารถเข้าใจได้ ถ้าเราฟังธรรมะแต่เพียงอย่างเดียว เราจะได้ความรู้จากการอ่าน แต่ถ้าเราต้องการจะรู้จริงให้ลึกซึ้ง ต้องปฏิบัติด้วยตนเอง เป็นทางเดียวที่จะรู้ได้ บางครั้งมีคนมาถามเกี่ยวกับพระเจ้าว่า พระเจ้ามีจริงหรือไม่


    [​IMG]



    "แม้ว่าพระเจ้ามีจริง แต่ฉันเชื่อในแนวทาง ที่พระพุทธเจ้าสอน พระพุทธเจ้ารู้ทุกอย่างในโลกนี้ รู้ทั้งจักรวาล พระองค์ยังคงรู้เรื่องพระเจ้าด้วย และท่านยังคงรู้ว่าใครสร้างเรา นั่นก็คือตัวเราสร้างตัวเราเอง มีทุกข์และการดับทุกข์อยู่ที่ใจเรานี้เอง ไม่มีใครมาลงโทษเรา เว้นตัวเราเองที่จะได้รับผลแห่งการกระทำของเรา ไม่มีใครให้รางวัลเราโดยที่เราไม่ได้ทำความดีอะไร ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว นั่นคือสิ่งทั้งหมดที่เป็นไป ไม่มีพระเจ้าสร้าง เราสร้างทุกอย่างเอง ความกลัวในการทำบาป ความละอายต่อบาปจะเกิดขึ้นในใจ ไม่ใช่กลัวว่าพระเจ้าจะลงโทษ" นี่คือสิ่งที่แม่ชีฝรั่งเชื่อว่าคนเราจะพบความสุขหรือ พ้นความทุกข์ได้ต้องเกิดจากการกระทำของตัวเราเอง

    อย่างไรก็ตาม เธอได้เล่าประวัติย้อนหลังให้ฟังว่า เป็นชาวออสเตรเลีย เกิดเมื่อปี ๒๕๐๕ ช่วงที่ยังเป็นเด็กจะชอบฟังเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้าและ พระเยซู โดยขณะนั้นมีความรู้สึกว่าต้องการจะเป็นคนดี แต่เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นประมาณอายุ ๑๒ ปี ก็ลืมความตั้งใจในวัยเด็ก ทำตัวเหมือนวัยรุ่นทั่วๆ ไปที่ต้องการแต่ความสนุกสนาน

    จนกระทั่งอายุ ๒๐ ปี จึงได้พบกับริชาร์ด และได้แต่งงาน มีลูก ๒ คน ลูกคนแรกเป็นผู้หญิง คนที่สองเป็นผู้ชาย การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างมีความสุขเหมือนครอบครัวอื่นๆ แต่มีเหตุการณ์ที่ทำให้ชีวิตของต้องเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมถึง ๒ ครั้ง คือ

    ครั้งแรก เกิดขึ้นหลังคลอดลูกชาย มีความรู้สึกกลัวตายขึ้นมาอย่างมาก กลัวว่าสามีและลูกๆ จะตาย มันเป็นความรู้สึกที่แย่มาก และมักจะเกิดขึ้นช่วงเวลาเย็นของทุกๆ วัน เป็นอยู่อย่างนี้ประมาณ ๑ เดือน แล้วก็หายไป

    ครั้งที่สอง เกิดขึ้นหลังจากที่ลูกชายอายุได้ ๘ เดือน เมื่อแม่สามีได้เสียชีวิตลง อาการกลัวความตายก็เกิดขึ้นมาอีก ซึ่งดูเหมือนว่าไม่มีใครสามารถหยุดยั้งความตายได้ ไม่มีใครสามารถช่วยให้รอดได้ ความรู้สึกกลัวการตายนี่เองที่ทำให้ไม่สบายใจ แอนเดรียที่เป็นเพื่อนสนิทได้ชวนไปฝึกโยคะ ทำให้ได้พบกับประสบการณ์ในการทำสมาธิ เกิดความสนใจกับเรื่องการฝึกจิตขึ้นมา




    [​IMG]


    แม่ชีบริจิต เล่าต่อว่า เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๓๒ ได้เดินทางมา ฝึกสมาธิครั้งแรกที่ประเทศไทย เป็นเวลา ๒ เดือน ซึ่งได้ปฏิบัติอย่างจริงจัง ปฏิบัติด้วยการกำหนดจิตสู่การกระทำทุกๆ อย่าง ไม่ยึดติด ไม่มีตัวตนและจิต สิ่งนี้เองที่เปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง หลังจากนั้นได้กลับไปประเทศออสเตรเลีย แต่กลับรู้สึกว่าชีวิตที่นั่นมันก็ดูเหมือนเดิมน่าเบื่อ ไร้สาระ ไม่มีอะไร หลังจากนั้นอีก ๒ เดือน จึงได้เดินทางกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง เพื่อปฏิบัติสมาธิ และครั้งนี้เองได้ขออนุญาต อาจารย์นำสามีและลูกๆ มาอยู่ด้วย


    [​IMG]


    จากนั้นได้เดินทางกลับไปออสเตรเลียอีกครั้ง เพื่อเตรียมเก็บของเล่นและลูกพร้อมด้วยเงินอีกจำนวนหนึ่ง และได้ทิ้งสามี (ริชาร์ด) ไว้ที่นั่น การกลับมาเมืองไทย ครั้งนี้ได้ตัดสินใจบวชเป็นแม่ชี สามีมารับลูกกลับไปดูแล ตั้งแต่นั้นมาก็ได้ตั้งใจหมั่นปฏิบัติรักษาศีลอย่างเต็มความสามารถ ตามทางขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พยายามแบ่งปัน

    ประสบการณ์ของตัวเองร่วมกับนักปฏิบัติชาวต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง หลังจากบวชเป็นแม่ชี ก็ตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง กำหนดทุกอิริยาบถ การกิน การเดิน การนั่ง การนอน ทั้งกลางวันและกลางคืน ยิ่งคิดถึงลูกก็ยิ่งต้องปฏิบัติให้มากขึ้น ขณะนั้นมีความฟุ้งซ่านมาก ทำอย่างนี้อยู่พักหนึ่ง ก็ไปถามอาจารย์ทวี ว่าทำอย่างไรก็ไม่หายคิดถึงลูก

    อาจารย์บอกว่า ถ้าเป็นแบบนี้ลองไปกวาดถนนดีกว่า และเข้าไปช่วยทำครัวยามว่าง พร้อมกับมีโอกาสฝึกภาษาไทยตั้งแต่นั้นมา ทำอย่างนี้อยู่ประมาณ ๒ ปี อาจารย์แนะนำให้ไปสอนพวกต่างชาติที่สนใจกับการทำกรรมฐาน ปฏิบัติทำสมาธิ ว่าการนั่ง นั่งอย่างไร การเดิน เดินอย่างไร สอนไปก็ช่วยงานในวัดไปด้วยเหมือนเดิมประมาณสัก ๒ ปี ระหว่างอยู่ที่แปดริ้ว มีเพื่อนคนไทยที่มาบวชเนกขัมมะ พามากราบ หลวงพ่อสังวาลที่วัดทุ่งสามัคคีธรรม เมื่อเห็นก็เกิดศรัทธาอยากมาอยู่ปฏิบัติกับท่าน แต่ก็ยังมาไม่ได้ ครูบาอาจารย์ทางนั้นมีพระคุณมาก แต่ในที่สุดได้ขออนุญาตอาจารย์ไปปฏิบัติธรรม อยู่กับหลวงพ่อสังวาลที่วัดทุ่งสามัคคีธรรม อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี แล้วก็ได้ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดจนถึงปัจจุบัน





    ที่มา http://www.komchadluek.ne
     
  2. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,400
    โมทนาครับ
     
  3. ossy

    ossy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2005
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +93
    โมทนาสาธุ
     
  4. Nukool

    Nukool เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +1,073
    ขออนุโมทนาครับ ขอให้บรรลุญาณอันประเสริฐสูงสุดครับ
     
  5. Pavitta

    Pavitta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +411
    ดีจัง อนุโมทนาด้วยครับ ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...