พระโพธิสัตว์ ๑๐ พระองค์ บางองค์ยังมีชีวิตอยู่

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย pal_bh, 24 สิงหาคม 2008.

  1. pal_bh

    pal_bh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +132
    พระโพธิสัตว์ ๑๐ องค์บางองค์ตายไปแล้ว บางองค์ยังมีชีวิตอยู่ ที่มีชีวิตอยู่ก็อยู่ในเมืองไทยนี่ละ บำเพ็ญบารมีอยู่ บำรุง สืบต่อพระพุทธศาสนา บวชเป็นพระก็มี ไม่ได้บวชก็มี
     
  2. pal_bh

    pal_bh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +132
    พระโพธิสัตว์ และพระมหาโพธิสัตว์ ที่มีหลักฐานอยู่ในพระไตรปิฎก ๑๐ พระองค์ที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต และที่ไม่มีในพระไตรปิฎก ที่ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว เป็นนิยตโพธิสัตว์แล้วก็มีหลังจาก ๑๐ พระองค์นี้ตรัสรู้ไปแล้วก็มี
     
  3. pal_bh

    pal_bh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +132
    ได้ยินว่า ณ ตอนนี้ พระโพธิสัตว์ และมหาโพธิสัตว์ ๔ พระองค์ที่ได้มาบำเพ็ญบารมีและเกิดที่ประเทศไทย และบวชเป็นพระภิกษุ มรณภาพไปแล้ว ๒ พระองค์ เหลืออยู่สองพระองค์ ณ ตอนนี้
     
  4. pal_bh

    pal_bh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +132
    พระรังสีมุนีนาถโพธิสัตว์ เป็นพระโพธิสัตว์ที่จะมาตรัสรู้เป็น "พระรังสีมุนีนาถสัมมาสัมพุทธเจ้า" องค์ที่ ๖ นับจากพระศรีอาริยเมตตรัย
    ได้ยินว่า ท่านมาบำเพ็ญบารมีทางภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ และเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศ ตอนนี้ท่านได้มรณภาพแล้ว ที่พำนักของท่านอยู่ในถ้ำ ไม่มาพบปะผู้คน ก่อนท่านจะมรณภาพประมาณ ๓๐ กว่าปี ท่านก็ได้ออกมาปรากฏตัวและได้ช่วยเหลือแนะนำสั่งสอนผู้คนโดยทั่วไป ท่านมีพระคาถาของท่านเอง เพื่อให้ได้ระลึกถึง

    ".....พุทธัง รังสี"

    ในสมัยพุทธกาล ท่านก็ได้มาเกิดเพื่อบำเพ็ญบารมีเกี่ยวข้องกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โตเทยยพราหม แบ่งปันพระบรมสารีริกธาตุ

    ในอนาคตสมัยของพระองค์ที่ตรัสรู้ พระองค์มีพระวรกายสูงได้ ๖๐ ศอก (พระสมณโคตมสัมมาสัมพุทธเจ้า พระวรกายสูง ๘ ศอก) มีพระชนมายุยืนได้ ๕๐๐๐ ปี
    ในศาสนาพระพุทธรังสีมุนีนั้น มนุษย์ทั้งปวงกระทำการงานเลี้ยงชีวิตเหมือนมนุษย์ทุกวันนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2008
  5. pal_bh

    pal_bh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +132
    พระสุมงคลโพธิสัตว์ เป็นพระโพธิสัตว์ที่จะมาตรัสรู้ในอนาคตกาล นับจากพระศรีอาริยเมตตรัย องค์ที่ ๑๐ พระนามว่า "พระสุมงคลสัมมาสัมพุทธเจ้า"

    ได้ยินว่า ท่านได้เกิดมาบำเพ็ญบารมีอยู่ที่ประเทศไทยนี่ละทางจังหวัดราชบุรี และในตอนนี้ท่านได้บวชเพื่อ เผยแผ่ สืบต่อ ทำนุ บำรุงพระพุทธศาสนา

    บุคคลผู้เป็นธาตุธรรม ร่วมบำเพ็ญบารมีกับท่านมา ก็จะรู้สึกนิยมยินดี เคารพนับถืออยากร่วมปฎิบัติธรรม

    ในสมัยพุทธกาล ท่านก็ได้มาเกิดเพื่อบำเพ็ญบารมีเกี่ยวข้องกับองค์สมเด็จพระโคตมสัมมาสัมพุทธเจ้า ชื่อช้างปาลิไลยกะ

    ในอนาคตกาลที่พระองค์ตรัสรู้ พระสุมงคลสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระองค์สูงได้ ๖๐ ศอก พระชนมายุมีประมาณ ๑ แสนปี มีไม้กากะทิงเป็นพระศรีมหาโพธิ ท่านที่เป็นธาตุธรรมของพระองค์ก็จงให้ความเคารพนับถือไม้กากะทิง

    ในสมัยนั้น มีไม้กัลปพฤกษ์ต้นหนึ่ง ห้อยย้อยไปด้วยสิ่งของเครื่องประดับ มีประการต่างๆ ด้วยพระพุทธานุภาพ มนุษย์ในพระศาสนาของพระสุมงคลสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้มีการทำงานหาเลี้ยงชีพให้ลำบากใดๆเลย ได้อาศัยซึ่งต้นกัลปพฤกษ์นี้แหละ ประพฤติเลี้ยงชีวิตของตนเอง
    มนุษย์ทั้งหลายมีความผาสุกสบาย ขวนขวายแต่การเล่นเต้นรำแต่งตัวอยู่เป็นนิจ เสมอเหมือนเทพบุตร เทพธิดา ซึ่งได้ทิพยสมบัติในสวรรค์เทวโลกฯ (เป็นเพราะทานบารมีของพระองค์เมื่อครั้งเป็นพระโพธิสัตว์ ได้ตรัสพระเศียรถวายเป็นพุทธบูชา กระทำทานบารมีบรมจักร)
     
  6. แมวแหมว

    แมวแหมว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +49
    ลัทธิใหม่เหรอ อ่านแล้ว งง งง
     
  7. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ผู้ถาม : เมื่อทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทิศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมคะ...........?
    หลวงพ่อ : การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปี ๆ บุญก็ยังมีอยู่ถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปี ก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย ไม่ใช่เราทำบุญแล้ว เดี๋ยวเดียวมันหายไปไม่ใช่อย่างนั้นนะ
    ผู้ถาม :แล้วถ้าเผื่อทำบุญแล้ว ไม่ได้อุทิศส่วนกุศลจะได้บุญเต็มที่ไหมคะ...?
    หลวงพ่อ : ก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นผู้ได้สมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้เขาหรือไม่ให้ การอุทิศส่วนกุศล นี่นะ ถ้าเราไม่ให้ เราก็กินคนเดียวใช่ไหม..... ทีนี้ถ้าเราให้เขาของเราก็ไม่หมดอีก ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้างของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้ว เจ้านายขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญน่ะจะแบ่งได้ไหม จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ท่านรับบาตรนะ ท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า

    "สมมุติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย คนอื่นเขามีแต่คบ ไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง ก็มาขอต่อไฟที่คบของโยมแล้วคบทุกคนสว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม....?
    ท่านอนุรุทธก็บอกว่า ไม่ยุบ
    แล้วท่านก็บอกว่า "การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน ให้เขา เขาโมทนา แต่บุญของเราเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์"


    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ




    ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
     
  8. pal_bh

    pal_bh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +132
    พระศรีอาริยเมตตรัยโพธิสัตว์ เป็นพระโพธิสัตว์ที่จะมาตรัสรู้ในอนาคตกาล นับจากพระโคตมสัมมาสัมพุทธเจ้า ในภัททกัปป์นี้เอง ทรงพระนามว่า "พระศรีอาริยเมตเตยยสัมมาสัมพุทธเจ้า"

    ได้ยินว่า ท่านได้เกิดมาบำเพ็ญบารมีอยู่ที่ประเทศไทยเช่นเดียวกันกับองค์อื่นๆ ทางภาคอีสาน และท่านก็ได้มรณภาพไปแล้ว

    บุคคลผู้เคยร่วมสร้างบุญสร้างบารมีมากับท่าน เป็นที่ทราบกันดี

    ในสมัยพุทธกาล ท่านก็ได้มาเกิดเพื่อบำเพ็ญบารมีเกี่ยวข้องกับองค์สมเด็จพระโคตมสัมมาสัมพุทธเจ้า ชื่อว่า อชิตภิกขุ
    ในอนาคตกาลที่พระองค์ตรัสรู้ มนุษย์ทั้งหลายมีอายุเฉลี่ย ๘ หมื่นปี มีไม้กากะทิงเป็นพระศรีมหาโพธิ มนุษย์มิได้ลำบากด้วยการทำมาหากินเลย เพราะทานบารมีที่พระองค์กระทำมาดีแล้ว

    ในสมัยนั้น มีไม้กัลปพฤกษ์ ห้อยย้อยไปด้วยสิ่งของเครื่องประดับ มีประการต่างๆ ด้วยพระพุทธานุภาพ

    กว่าที่จะถึงศาสนาของพระองค์ ไม่ใช่พรุ่งนี้มะรืนนี้ พวกเราต้องเวียนว่ายตายเกิดกันอีกนาน จงอย่าประมาทในการทำความดี
     
  9. pal_bh

    pal_bh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +132
    พระโพธิสัตว์ทั้ง ๔ องค์ ที่ท่านได้ลงมาบำเพ็ญบารมีเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนานั้น บางองค์ก็มาเต็มองค์ บางองค์ก็พิศดารมาบำเพ็ญบารมี
    แต่ทั้ง ๔ องค์นี้ ในตอนที่มีชีวิตอยู่ ท่านก็ไปมาหาสู่ และรู้จักกันดี
     
  10. damrong.lap

    damrong.lap เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2008
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +124
    ไม่ทราบว่าเป็นใครครับไม่เห็นบอกชื่อเลยหรือป็นความลับของสวรรค์เปิดเผยไม่ได้
     
  11. pal_bh

    pal_bh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +132
    พระโพธิสัตว์ล่วง ๑๐ องค์นี้ไป และได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว จะมาตรัสรู้ในอนาคต และยังมาบำเพ็ญอยู่ในประเทศไทยปัจจุบันนี้ และมีชีวิตอยู่
    โลก ๓ ไม่ว่างเว้นจากพระพุทธเจ้า

    แต่ถึงอย่างไร การอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้า ก็ยังเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก
     
  12. Cazear

    Cazear สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2008
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +22
    เท่าที่ผมได้ยินมา ไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่านะครับ

    องค์ที่ 2 พระรามเจ้า คือ พระอาจารย์ ครูบาศรีวิชัย

    องค์ที่ 9 พระติสสะ คือท่านพ่อบัณฑูรย์สิงห์ ได้ยินมาว่าท่านเคยเกิดเป็นพันท้ายนรสิงห์ด้วยครับ

    องค์ที่ 10 พระสุมงคล คือ หลวงปู่อ่ำ ธัมมทัตโต


    ผิดถูกอย่างไร ก็ช่วยชี้แนะครับ ผมก็อยากตะทราบว่า แต่ละองค์เป็นใครบ้าง ทั้งที่ไม่มีชีวิตอยู่ และมีชีวิตอยู่ เพื่อจะได้มีโอกาสได้สัมผัสกับท่านได้บ้างน่ะครับ
     
  13. ติดปีก

    ติดปีก สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    236
    ค่าพลัง:
    +14
    ควรจำแนกและแยกแยะดีๆ เกี่ยวกับแนวทางการบรรลุธรรม
    หากเป็นฝ่ายเถรวาท มุ่งเน้นที่ สาวกยาน และปัจเจกยาน
    หากเป็นฝ่ายมหายาน มุ่งเน้นที่ โพธิสัตว์ยาน

    สรุปว่าที่ท่านกล่าวนั้น เป็นฝ่ายไหนกันแน่
    อ่านดูแล้วมันแปล่งๆ ยังไงชอบกล
     
  14. pal_bh

    pal_bh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +132
    ไม่ใช่ทั้งเถรวาท ไม่ใช่ทั้งมหายาน พุทธศาสนิกชน ต้องนับถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึก ไม่ควรเอานิกายเป็นเครื่องวัด เราชาวพุทธนับถือศาสนาเดียวกัน

    พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ พระอรหันต์ ท่านยังไม่มีนิกายไหน ? ชาวพุทธสายเลือดท่าน ก็ไม่มีนิกายเหมือนกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2008
  15. ติดปีก

    ติดปีก สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    236
    ค่าพลัง:
    +14
    กรรมเวร ?????

    คติพุทธแบ่งออกเป็นสองนิกายหลักๆ นิกายมหายาน กับเถรวาท
    แต่นี้เอาคติมาปนกันยุ่งกันไปหมด แล้วมาบอกว่าเป็นพุทธ ลัทธิไหนนี้

    หากอยากเป็นเจ้าลัทธิ ก็ให้เสนอแนวทางมาแล้วกัน
    ที่สำคัญก็อย่าได้นำแนวคิดที่เป็นนามธรรม จับต้องไม่ได้
    แล้วอย่าอ้างอิงพระพุทธองค์โดยไม่มีเหตุอันควรละ
     
  16. pal_bh

    pal_bh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +132
    อ่านคัมภีร์มาก
     
  17. pal_bh

    pal_bh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +132
    อชิตภิกขุ สมัยพุทธกาลท่านคงเป็นมหายาน ส่วนพระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ คงเป็นเถรวาท
    เถรวาท มหานิกาย คงเริ่มมีมาตั้งแต่ตอนนี้กระมัง ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2008
  18. pal_bh

    pal_bh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +132
    พระเมืองไทย คนทั่วไปคิดว่าเป็นนิกายเถรวาท
    พระท่านเกิดมาเพื่อบำเพ็ญบารมี สร้างบารมี ช่วยเหลือผู้คน คงปรารถนาความเป็นพระพุทธเจ้าไม่ได้ เพราะไม่ได้ชื่อว่า "นิกายมหายาน"
     
  19. pal_bh

    pal_bh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +132
    สัตว์โลกที่อยากจะช่วยสัตว์โลกอื่น ปรารถนาความเป็นพระพุทธเจ้า อย่าลืมนะ ประกาศให้รู้ทั่วกันด้วย ว่า
    "ข้าเป็นมหายาน" (ไม่งั้น เป็นไม่ได้ ไม่ถูกตามตำราเขา)
     
  20. The Shadow

    The Shadow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    557
    ค่าพลัง:
    +1,732
    ความเชื่อที่ว่าพระรูปนั้นคือ องค์นี้มาเกิดบำเพ็ญบารมี เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาจาก
    1.ความเชื่อของลูกศิษย์ที่คิด คาดเดากันเอาเอง
    2.พระสงฆ์เป็นผู้บอกกล่าวกับศิษย์ใกล้ชิด แล้วหลุดออกมา

    อย่างกรณีที่เจ้าของกระทู้บอกกล่าวก็เป็นความเชื่อส่วนตัว ที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่ยอมรับได้
    ซึ่งผมก็ได้ยินได้ฟังมาตลอด แต่ก็ฟังหูไว้หูนะครับ ตราบใดที่ไม่รู้ด้วยตัวเอง ก็ได้แต่ฟังครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...