เรื่องเด่น วาจาเป็นทิพย์ / หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีฯ)วัดท่าซุง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 18 พฤศจิกายน 2024 at 19:42.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,330
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,461
  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,330
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,461
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,330
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,461
  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,330
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,461
  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,330
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,461


    ฉบับเต็ม
    เสียงธรรมก่อนนอน(หนีนรกตอนที่ ๑๗,ศีล๕ควบกรรมบท ๑๐)ยึดพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง

    / ที่มา https://www.youtube.com/@Ssuwan1978
     
  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,330
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,461




    [​IMG]

    วจีกรรม ทำพระพุทธเจ้าต้องทรมานกายถึง ๖ ปี


    อย่าประมาทในการพูดจา คนทุกคนมีการทำกรรมด้วยวาจาโดยไม่คิดว่าจะมีโทษ หรือคิดว่ามีโทษเพียงเล็กน้อย จึงไม่ค่อยระมัดระวังคำพูดจากเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ การพูดจากับพ่อแม่ ควรต้องระวังอย่างมากๆ ไม่ว่าจะด้วยน้ำเสียง หรือการตำหนิติเตียน

    จะขอยกตัวอย่างวจีกรรมที่เราไม่คิดว่าจะผิดอย่างไร แต่ก็ทำให้พระพุทธเจ้าต้องทรมานกายถึง 6 ปี

    จากพระไตรปิฏกเล่มที่ ๓๒ ในสมัยพระกัสสปะพุทธเจ้า ก่อนที่พระองค์จะตรัสรู้ พระพุทธเจ้าของเราตอนนั้นเกิดเป็นพราหมณ์ชื่อโชติปาละได้พบพระกัสสปะ(ซึ่งเวลานั้นยังไม่ได้ตรัสรู้) และได้กล่าวกับพระองค์ว่า”จักมีโพธิมณฑลแต่ที่ไหน โพธิญาณท่านได้ยากอย่างยิ่ง” อ่านแล้วก็ไม่เห็นว่าจะเป็นวจีทุจริตตรงไหน อาจจะเป็นว่าโชติปาละมานพพูดในอาการของจิตที่แฝงเจตนาของการเยาะเย้ยถากถางหรือเปล่า นี่ก็เป็นคำพูดทที่คัดลอกมาจากพระไตรปิฏกเป๊ะๆ

    และอีกประโยคหนึ่งก็คือ “เราอันบุรพกรรมตักเตือนแล้ว” หลายๆคนเมื่อเจออุปสรรคปัญหาในชีวิตแล้วทุกข์โศกทุกข์ใจ ก็พึงคิดเสียว่า”นี่คือบุรพกรรมตักเตือน” อย่าคิดว่าเป็นโชคร้ายหรือเจ้ากรรมนายเวร ควรคิดว่า”ถ้าเราไม่ได้ทำกรรมนั้นไว้ เราคงไม่ได้รับผลแห่งกรรมนั้น และตั้งใจว่าเราจะทำแต่กรรมดีต่อไป”

    นี่ก็เป็นข้อเตือนใจจากพระพุทธเจ้า พระองค์เคยทำผิดพลาดอะไรไว้ พระองค์ก็ไม่ปิดบัง พระองค์ทรงเปิดเผยเพื่อเป็นสิ่งเตือนใจสำหรับสาวก เพื่อให้พวกเราระมัดระวังการใช้ชีวิต ตรงข้ามกับผู้มีอำนาจในปัจจุบันที่มักจะปิดบังความผิด แม้จะปรากฎชัดจนเป็นที่รู้กันโดยทั่ว แต่ก็แถไถ มีข้ออ้าง บิดเบือนไปเรื่อยๆ ยิ่งทำแบบนั้นก็ยิ่งผิดเพิ่มมากขึ้น และถ้าเราเป็นคนที่มีสัมมาทิฏฐิ เราก็ไม่ควรคบหาหรือเชิดชูคนแบบนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 6.jpg
      6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      121.2 KB
      เปิดดู:
      0
  7. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,330
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,461




    ?temp_hash=f72014939363580e484e010df59189ec.jpg

    วจีกรรม ทำพระพุทธเจ้าต้องทรมานกายถึง ๖ ปี


    อย่าประมาทในการพูดจา คนทุกคนมีการทำกรรมด้วยวาจาโดยไม่คิดว่าจะมีโทษ หรือคิดว่ามีโทษเพียงเล็กน้อย จึงไม่ค่อยระมัดระวังคำพูดจากเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ การพูดจากับพ่อแม่ ควรต้องระวังอย่างมากๆ ไม่ว่าจะด้วยน้ำเสียง หรือการตำหนิติเตียน

    จะขอยกตัวอย่างวจีกรรมที่เราไม่คิดว่าจะผิดอย่างไร แต่ก็ทำให้พระพุทธเจ้าต้องทรมานกายถึง 6 ปี

    จากพระไตรปิฏกเล่มที่ ๓๒ ในสมัยพระกัสสปะพุทธเจ้า ก่อนที่พระองค์จะตรัสรู้ พระพุทธเจ้าของเราตอนนั้นเกิดเป็นพราหมณ์ชื่อโชติปาละได้พบพระกัสสปะ(ซึ่งเวลานั้นยังไม่ได้ตรัสรู้) และได้กล่าวกับพระองค์ว่า”จักมีโพธิมณฑลแต่ที่ไหน โพธิญาณท่านได้ยากอย่างยิ่ง” อ่านแล้วก็ไม่เห็นว่าจะเป็นวจีทุจริตตรงไหน อาจจะเป็นว่าโชติปาละมานพพูดในอาการของจิตที่แฝงเจตนาของการเยาะเย้ยถากถางหรือเปล่า นี่ก็เป็นคำพูดทที่คัดลอกมาจากพระไตรปิฏกเป๊ะๆ

    และอีกประโยคหนึ่งก็คือ “เราอันบุรพกรรมตักเตือนแล้ว” หลายๆคนเมื่อเจออุปสรรคปัญหาในชีวิตแล้วทุกข์โศกทุกข์ใจ ก็พึงคิดเสียว่า”นี่คือบุรพกรรมตักเตือน” อย่าคิดว่าเป็นโชคร้ายหรือเจ้ากรรมนายเวร ควรคิดว่า”ถ้าเราไม่ได้ทำกรรมนั้นไว้ เราคงไม่ได้รับผลแห่งกรรมนั้น และตั้งใจว่าเราจะทำแต่กรรมดีต่อไป”

    นี่ก็เป็นข้อเตือนใจจากพระพุทธเจ้า พระองค์เคยทำผิดพลาดอะไรไว้ พระองค์ก็ไม่ปิดบัง พระองค์ทรงเปิดเผยเพื่อเป็นสิ่งเตือนใจสำหรับสาวก เพื่อให้พวกเราระมัดระวังการใช้ชีวิต ตรงข้ามกับผู้มีอำนาจในปัจจุบันที่มักจะปิดบังความผิด แม้จะปรากฎชัดจนเป็นที่รู้กันโดยทั่ว แต่ก็แถไถ มีข้ออ้าง บิดเบือนไปเรื่อยๆ ยิ่งทำแบบนั้นก็ยิ่งผิดเพิ่มมากขึ้น และถ้าเราเป็นคนที่มีสัมมาทิฏฐิ เราก็ไม่ควรคบหาหรือเชิดชูคนแบบนี้

    ขอบคุณที่มา dhamma4children
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...