เตรียมตัวให้พร้อม!มันกำลังมา แจ้งข่าวสารการชำระโลก

คำสื่อเตือน จะเกิดขึ้นภัยพิบัติใหญ่
อีก 7 เดือน นับจากนี้
จาก อ.โอเล่ เดอะก๊อตซีเคร็ต

ธาราทิพย์พิมนต์
บันดาลดลศิริมา
ช่วยคนดลดารา
ศิริมาพาร่มเย็น
7 เดือน กับภัยพิบัติจะอุบัติทุกข์ยากเข็ญ
คนตายวายชีพเป็นจะให้เห็นใน 7 เดือน

พอได้ดู VDO นี้ของ อ.โอเล่ ก็เลยสรุปข้อมูลว่าโลกกำลังเกิดอะไรขึ้น และจะเป็นอย่างไร?

https://vt.tiktok.com/ZSRPnwyST/

จะว่าไปแล้ว จิตยิ้มเลิกสนใจข้อมูลภัยพิบัตินับตั้งแต่ลงกระทู้สุดท้ายแล้วค่ะ มีแม่ชีท่านหนึ่งพยายามจะบอกว่าจะเกิดภัยใหญ่ และส่ง VDO มาให้ ก็รู้สึกเฉย และมีเพื่อนมาบอกว่าจะเกิดพายุใหญ่ ก็รู้สึกเฉย สนใจแต่งานออนไลน์ของตนเอง แต่เหตุที่ต้องกลับมาทำคือ ไม่ได้สนใจภัยพิบัติ สนใจแต่เรื่องขายออนไลน์ แต่ VDO ภัยพิบัติขึ้นมาเป็นระยะ ๆ ก็ไม่รู้สึกอะไร มารู้สึกเอะใจ ตอนขับรถตัดหน้ากระทันหัน รถถึงตัวแต่ไม่โดนแม้แต่ปลายเล็บ และคู่กรณีก็ล้มอย่างไม่เป็นอะไรเลย จนกระทั่งมาเจอ VDO ของ อ.โอเล่ จึงได้เข้าใจค่ะ

มีความคิดว่าจะนำมาลงที่เว็บพลังจิตด้วย เพราะคิดว่าผู้มาอ่านเป็นระดับไม่ธรรมดา แต่ก็ลังเลและเปลี่ยนใจจะไม่ทำ พอออกไปที่ tiktok ก็เจอ VDO พายุใต้ฝุ่นถล่มเกาหลีอย่างหนัก ก็เลยตัดสินใจ
นำมาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟังค่ะ

ทุกครั้งเมื่อได้ยินคลื่นความถี่ในอกาศมีแรงกดดันสูง และรับรู้สึกได้ถึงวังเวง และรับรู้แรงกระเพื่อม คือ ก่อนหน้าจะเกิดกับ ปากีสถาน และเกาหลีใต้ ทั้ง 2 ครั้ง ว่าเหตุเกิดก่อน คือ การรับรู้ถึงคลื่นแม่เหล็ก หรือ คลื่นความถี่ในอากาศสูงมีแรงมาก ก่อนภัยพิบัติใหญ่จะเกิดขึ้น น่าจะมีสาเหตุและส่วนเกี่ยวข้องมาจากเหตุนี้ คือ คลื่นถูกส่งมาจากนอกระบบโลก ด้วยการช่วยโลกยกระดับพลังงาน


ลองฟัง VDO ของ อ.โอเล่ และ อ.เสรีดูค่ะ



https://vt.tiktok.com/ZSRPWAXDN/

และ อ.เสรี ที่กล่าวไว้ว่า... น้ำปีนี้จะมาก เทียบเท่าปี 54




https://vt.tiktok.com/ZSRPWAAeP/

 

สิ่ง..ที่จะทำให้โลกรอดพ้นภัยพิบัติ



สืบเนื่องจาก....VDO นี้
https://vt.tiktok.com/ZSRQLpaf2/

..เลยตัดสินใจที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

จะเรียกว่า.. อะไรดี ขอเรียกว่า " นิมิตร" ก็แล้วกันค่ะ ซึ่งเหตุการณ์ หรือ " นิมิตร" นี้ ได้เกิดขึ้นหลังจากที่โพตส์ครั้งที่แล้ว เพียง 1 วัน ที่จริงเมื่อรับรู้แล้วอยากจะนำมาเล่าบอกกล่าวกัน "กลัวจะไม่เชื่อ" ก็เลยไม่นำมาลง แต่ก็มีเหตุนิมิตร ครั้งที่ 2 ด้วย จึงมั่นใจบวกกับความรู้ของสิ่งศักดิ์ที่เคยแจ้งกับชาวโลกว่าจะรอดพ้นจากภัยพิบัติรุนแรงมากหรือน้อย ขึ้นกับการ"ตัดสินใจ"ของมวลมนุษย์ชาติ







หลังจาก 1 วัน ที่ได้ลงโพสต์ครั้งที่แล้ว ที่บ้านประมาณ ตี 4 ฝนตกอย่างกับฟ้าทะลุ พอตื่นขึ้นมาปุ๊บ สิ่งที่นึกขึ้นได้ คือ แมวตัวน้อยที่เลี้ยงไว้ในหลังบ้านอยู่หากทิ้งเอาไว้ ต้องเปียกปอนแน่นอนก็รีบลุกและนำเข้าบ้าน ชั่วอึดใจในตกห่าใหญ่หยุดลงกระทันหันทันที ..เกิดความสงสัย...เพราะอะไร?

และครั้งที่ 2 เช่นกัน ฝนตกน้อยกว่าแรก ลุกขึ้นรีบนำแมวเข้ามาข้างใน พอนำเข้ามาแล้วกลับมานอน ฝนหยุดตกทันที ...สงสัย..เอะใจ..มีอะไรหรือเปล่า...ก็เก็บไว้ในใจ!

สาเหตุที่ตัดสินใจนำมาเล่า เนื่องจากได้ดู VDO ใน tiktok ของกลุ่มคณะนักรบโทรจิต ช่วยเหลือภัยพิบัติ กับ VDO ภัยพิบัติต่าง ๆ.ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในข่วงระยะหลายวันที่ผ่านมา ผนวกกับ VDO เกิดการล่อแหลมของสงครามที่ ประเทศสหรัฐลงคลิปเตือนประชาชน เตรียมพร้อมรับมือกับนิวเคลียร์

ซึ่งคำทำนายของ อ.โอเล่ ได้เกิดขึ้นแล้วว่าจะมีผู้นำระดับโลก เสียชีวิต 3 คน ที่ผ่านมาควีนของอังกฤษ ได้เสียชีวิตแล้ว 1

กับคำถามว่า โลกจะรอดพ้นภัยพิบัติได้อย่างไร หรือ จะผ่อนหนักให้เป็นเบาได้อย่างไร มีอยู่วิธีเดียวตาม " นิมิตร" คือ การช่วยเหลือเกื้อกูลกันของชาวโลก ความเป็นหนึ่งเดียวกันของชาวโลก อย่างโมเดลของหมูป่าถ้ำหลวง.. ยังมีหลายประเทศที่ตกทุกข์ได้ยากจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังมีหลายประเทศที่ต้องตกระกำลำบาก หากผู้นำโลกมีความเมตตาเอื้อเฟื้อโดยที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ต้องทนทุกข์ทรมานเป็นจำนวนมาก ในหลายประเทศไม่ว่าจะอดอยาก ขาดแคลนพลังงาน ลี้ภัยสูญเสีย เหล่านี้คือความทุกข์เข็ญซึ่งเป็นการทำผิดกฎของสากลจักรวาลอันใหญ่หลวง

การเป็นหนึ่งเดียวกันของมวลมนุษยชาติโลกคือ พลังงานป้องกันภัยพิบัติผ่อนหนักให้เป็นเบา หากแม้นโลกจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ ภัยพิบัติจะจัดการเคลียร์ผู้สร้าง หรือ ผู้ทำผิดสากลจักรวาลเสียก่อน ก่อนที่สงครามนิวเคลียร์จะทำลายโลกนี้

ระหว่างภัยพิบัติ กับสงคราม จะเลือกสิ่งใด!

 

ตาพายุ เฮอริเคน "เอียน" ที่สหรัฐค้นหา คืออะไร?

เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว

ทำไมพลังงานของโลกลดลง จึงสะเทือนทั้งจักรวาล!

ระบบใหญ่ที่เรียกว่า "เอกภพ" คือพลังงานรูปทรงกลมคล้ายผลส้มที่ถูกสร้างขึ้นทับซ้อนอยู่บน สนามพลังงานสากล อันเป็นสนามพลังงานที่มีอยู่แต่เดิมมา มนุษย์เรียกขานพลังงานสากลนี้ว่า "แดนสุญญตา"

ระบบเอกภพประกอบด้วยการแลกซี่น้อยใหญ่ บนกาแล็กซี่ยังมีระบบจักรภพทับซ้อนอยู่ด้วย

กาแลกซี่ทางช้างเผือก เป็น 1 ในกาแล็กซี่ที่ว่านั้น และเป็นหนึ่งเดียวที่มีจักรภพทับซ้อนอยู่ในระบบถึง 2 ระบบจักรภพ และเป็นกาแล๊กซี่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางของระบบเอกภพมากที่สุด

ระบบจักรภพ เป็นระบบที่ประกอบด้วยดวงอาทิตย์ 1 ดวง ซึ่งจะเป็นจุดศูนย์กลางของระบบ นอกจากนั้นดาวเคราะห์ต่าง ๆ และดาวจันทร์ ซึ่งเป็นดาวเพื่อน ของดาวเคราะห์ดวงนั้น ๆ ที่จะต้องหมุนรอบตัวเอง โคจรไปรอบ ๆ ดาวเคราะห์ของตน โดยดาวเคราะห์แต่ละดวงก็จะต่างหมุนรอบตัวเองขณะโคจรไปรอบ ๆ ดวงอาทิตย์ในเวลาเดียวกัน

ระบบกาแล็กซี่ทุกระบบก็เช่นเดียวกัน นอกจากแต่ละกาแล็กซี่ต่างจะต้องหมุนรอบแกนของตนเองแล้ว ยังจะต้องหมุนรอบไป จุดศูนย์กลางใหญ่ที่เรียกว่า "เอกภพ" ไปในขณะเดียวกันอีกด้วย

นั่นหมายความว่า ทุกกาแล็กซี่ภายในระบบเอกภพ ต่างหมุนรอบแกนหมุนของตนเองและโคจรไปรอบดาวเคราะห์โลก ซึ่งดำรงอยู่ตรงพิกัดตำแหน่งจุดศูนย์กลางทรงกลมแห่งเอกภพด้วยกันทั้งสิ้น

มนุษย์เริ่มแลเห็นความหมายของดาวเคราะห์โลก ซึ่งมีความหมายสำคัญต่อระบบใหญ่กันบ้างแล้วหรือยัง

เหตุใดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงทรงโปรดปรานและห่วงใยดาวเคราะห์โลกดวงนี้เป็นอย่างยิ่ง

นั่นย่อมหมายความว่า ดาวเคราะห์โลกดวงนี้เป็นจุดศูนย์กลางของระบบใหญ่ที่เรียกว่า "เอกภพ" ระบบเอกภพขนาดใหญ่จะดำรงความสมดุลอยู่ได้ จะต้องมีพลังอำนาจสูงพอที่จะต้านทานการเปลี่ยนแปลงพลังงานใด ๆ ที่เกิดขึ้นภายในเอกภพนี้ได้เสมอ

ด้วยเหตุนี้ ความสำคัญและความหมายต่อความสมดุลที่แท้จริงของดาวเคราะห์โลกก็คือ

1.ต้องมีพลังอำนาจในตนเองสูงพอที่จะทำให้ระบบย่อยอื่น ๆ ในเอกภพได้ยึดเหนี่ยว
2.ต้องมีพิกัดการดำรงอยู่ของตนเองในเอกภพนี้ คงที่เสมอ
3.ต้องมีความสมดุลกันในทั้งมิติกายภาพและมิตพลังงาน ภายในระบบดาวเคราะห์โลกของตนเองตลอดไป

ถ้าพิจารณาเงื่อนไขทั้งสมประการนั้นอย่างถ่องแท้แล้ว จะพบว่า ลำพังเทหวัตถุทรงกลมที่เรียกว่า "โลก" ซึ่งถูกกำหนดให้หมุนรอบตนเอง และโคจรรอบดวงอาทิตย์ด้วยอัตราเร็วคงที่และต่อเนื่องย่อมไม่สามารถสั่นสะเทือนตนเองเพื่อตอบสนองเงื่อนไขทั้งสามประการนั้นได้อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นดาวเคราะห์โลกยังต้องมีหน้าที่เป็นพี่ใหญ่ หรือเป็นผู้นำดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ทั้ง 8 ดวงในจักรภพเดียวกันนี้ เพื่อขับเคลื่อนตนเองและดาวเพื่อนทั้งแปดโคจรไปรอบ ๆ ดวงอาทิตย์ ซึ่งมนุษย์จะค้นพบความจริงได้ทุก 360 ปี ซึ่งเป็นภาระค่อนข้างหนักอยู่ไม่น้อย

สรรพสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในมิติกายภาพและในมิติพลังงาน ที่เป็นกลไกชิ้นหนึ่งซึ่งทำหน้าที่ร่วมกระบวนการในการสั่นสะเทือนเพื่อก่อให้เกิดพลังอำนาจตนเองของดาวเคราะห์โลก ในอันที่จะนำไปสู่ พลังอำนาจการค้ำจุนเอกภพ ในบั้นปลายนั่นก็คือ การเป็นหนึ่งเดียวกัน และเป็นหนึ่งเดียวกันกับดาวเคราะห์โลก

ดิน หิน ทราย
พืชพันธ์ไม้ สายน้ำ สายลม แสงแดด คลื่นพลังงานต่าง ๆ
สัตว์ประจำโลก สิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่
มนุษย์โลกทุกคน
ดาวเคราะห์โลกซึ่งเป็นตัวตนทางกายภาพเอง
รูปธรรมจิตวิญญาณที่ดำรงซ้อนอยู่ในมิติโลกทางกายภาพ

ทุกสรรพสิ่ง จัดว่าเป็นสรรพสิ่งในระบบเดียวกัน มีหน้าที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ต้องเป็นเพื่อนรวมงานกันกับดาวเคราะห์โลก และเป็นหนึ่งเดียวกันกับดาวเคราะห์โลก

คำว่า "ความสมดุล" ต้องทั้งสองมิติหรือสองด้าน คือสมดุลทางด้านกายภาพ และสมดุลด้านพลังงาน

ความสมดุลดังกล่าวจะดำรงอยู่ได้อย่างคงที่ ทุกสรรพสิ่งในระบบโลก จะต้องเข้าถึงความสมดุล 3 ประการ
1.สมดุลด้านน้ำหนักมวล
2.สมดุงด้านพิกัดตำแหน่งแห่งการดำรงอยู่ที่ถูกกำหนดไว้เมื่อแรกสร้าง
3.สมดุลด้าอำนาจแม่เหล็กโลกในมิติพลังงาน

การสมดุลด้านน้ำหนักมวล
1.มีการเหวี่ยงหมุนรอบตัวเอง ด้วยอัตราเร็วคงที่
2.มีการโคจรไปรอบ ๆ จุดศูนย์กลางของจักรภพ คือดวงอาทิตย์ด้วยอัตราเร็วคงที่
3.มีแนวแกนหมุรที่เอียงทำมุมกับแนวดิ่ง ซึ่งตั้งฉากกับแนวระนาบระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ที่มุมองศาที่คงเดิมตลอดเวลา

ยุคปลายพลังงานเก่า โลกมีอัตรการหมุนรอบตัวเองที่จัดว่า ช้าที่สุด ถ้าต่ำกว่าระดับมาตรฐาน ดาวเคราะห์จะไม่อาจยึดรั้งสรรพสิ่งที่อยู่ในดาวเคราะห์โลกเอาไว้ได้อีกต่อไป

ที่มาของขยะทางวัตถุน้ำหนักมวลเพิ่มขึ้นบนโลก คือ
ขยะทางวัตถุและเทคโนโลยี
น้ำหนักมวลรวมของมนุษย์และสัตว์โลก
จำนวนรูปธรรมมนุษย์ไม่สมดุลเพิ่มขึ้น

การที่มนุษย์มุ่งแต่จะขุดเอา คุ้ยเอา หรือดูดซับทรัพย์กรที่เป็นแร่ธาตุต่าง ๆ มาจากเนื้อในโลกเพื่อนำไปใช้ผลิตเป็นวัตถุเทคโนโลยีขยะทั้งหลายอย่างไร้สำนึก เป็นการลดน้ำหนักมวลของสรรพสิ่ง

การเป็นเพื่อนของโลก ของแต่ละสรรพสิ่งที่อยู่ในระบบโลก จึงหมายถึง การเป็นผํ้มีหน้าที่ผลิตสร้างประจุไฟฟ้าบวกป้อนให้แก่ดาวเคราะห์โลกของตน

สิ่งใดที่ให้แระจุบวกแก่โลกของตนไม่ได้ จึงหมายถึง "ขยะ" ที่รกโลก



https://vt.tiktok.com/ZSRV2Rq4B/

สิ่งศักดิ์เคยสื่อเตือนมนุษยชาติ โลกกำลังยกระดับพลังงาน ต้องการความร่วมมือร่วมใจของมนุษยชาติในการยกระดับพลังงานนี้


หากติดตามเรื่องสงครามของชาติมหาอำนาจ ระหว่างรัสเซีย กับยูเครน (นาโต้) มีการกล่าวกันไว้ว่า เกิดยั่วยุกันไปมา ทั้งการทดสอบขีปนาวุธ หากก้าวผิดเพียงก้าวเดียว หายนะจะเกิดกับโลกได้

ที่ผ่านมา พายุเฮอริเคน " เอียน" เกิดอะไรขึ้น



สหรัฐอเมริกา
https://vt.tiktok.com/ZSRV231Nb/


ส่งโครนสำรวจท่ามกลางพายุเพื่อติดตามการเคลื่อนที่ของตาพายุที่หลายคน ที่หลายคนเข้าใจว่า ฟ้าผ่าที่ตาพายุ

แท้จริงแล้ว ใจกลางตาพายุ หรือ ตามรูปนั้นคือ

คลื่นพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กความถี่สูงที่เกิดจากการกระทำทางเทคนิคนอกระบบโลก

มหันตภัยธรรมชาติจากการสั่นสะเทือนในการยกระดับคลื่นความถี่สนามแม่เหล็กโลกนั้น

มนุษยชาติได้รับสื่อสัญญาณเตือนมาเป็นระยะ ๆ คลื่นอากาศร้อน คลื่นอากาศเย็น โรคระบาด โรคร้ายชนิดใหม่ เศรษฐกิจโลกจะพังทลายลง จิตสำนึกอันต่ำทรามของชนชั้นผู้นำ แผ่พลังงานลบกระทำที่เลวร้าย ไร้ยางอายบนผืนแผ่นดินนั้น จนเกิดความไม่สงบสุขของสังคม

เหตุแห่งหายนะเกิดจากตัวการสำคัญ 2 ฝ่าย คือ ผู้สร้างและผู้งมงาย

ผู้สร้าง คือ ผู้ที่มีจิตใจคิดนึกอยู่กับวัตถุและอำนาจ ที่มุ่งมั่นกับการสร้างตนเองและพวกตัว ด้วยการทำลายและเบียดเบียนสรรพสิ่งอื่นในโลก ผู้ที่ใช้อำนาจทำฐานอำนาจ ทำลายโอกาส เพื่อเปิดโอกาสแก่พวกตน ทำลายชีวิตเพื่อชีวิตของตนและคอยบงการให้อยู่ใต้อำนาจของตน

ผู้ตาม ผู้งมงาย คือผู้ที่ยินยอมพร้อมใจให้ผู้สร้างชี้นำหรือบงการเพื่อจุงจิตวิญญาณของตน

สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกที่ต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติเป็นภาวะวิกฤติอย่างต่อเนื่อง จนถึงกำหนดการชำระโลกครั้งสุดท้าย บนแผ่นดินเป้าหมายที่ถูกกำหนดไว้ จุดศูนย์กลางการสั่นสะเทือนของโลก คือประเทศและทวีปที่เจริญไปด้วยเทคโนโลยี จะได้รับภัยหนักหนาที่สุดบนโลกนี้

วันเวลาดังกล่าว การกระทำเทคนิคจากนอกระบบโลกและการกระทำเทคนิคจากระบบโลกเองมันจะเกิดขึ้นพร้อมกัน

คลื่นพลังงานไฟฟ้าความถี่สูงจะถูกส่งเข้ามาพุ่งตรงหาเป้าหมาย แนวแกนแม่เหล็กโลกจะเกิดการบิดตัวอย่างรุนแรงขึ้นพร้อมกัน เพราะมันจะถูกกระตุ้นให้เกิดการระเบิดขึ้นของไหลที่อยู่ด้านบน เพื่อนเปลี่ยนทิศทางของแนวแกนไปสู่ตำแหน่งที่กำหนดไว้ มันจะทำให้แผ่นดินใหญ่ของทวีปที่มีมหาสมุทรคั่นกลางเกิดการบิดตัวอย่างรุนแรงตามไปด้วย โดยมันจะรวมตัวกันเป็นคลื่นพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กเข้มข้น ดันทะลุผ่านชั้นเปลือกโลกขึ้นมายังผิวดิน แต่ละชั้นของเปลือกโลกซึ่งกำลังบิดตัวอยู่จะถูกคลื่นพลังมหาศาลกระแทกอัดให้เกิดการสั่นสะเทือนที่รุนแรงยิ่งกว่าแผ่นดินไหวครั้งใด ๆ การสั่นสะเทือนที่รุนแรงเกิดอย่างต่อเนื่อง แผ่นดินบางส่วนบนภาคพื้นทวีปจะแยกตัวออกจากกัน ตามรอยร้าวของเปลือกโลกดั้งเดิม น้ำทะเลจะถาโถมเข้ามาแทนที่ บริเวณที่ราบริมฝั่งทะเลของทวีปนั้นจะจมลงใต้น้ำ ขณะที่บริเวณบางแห่งของเมืองใหญ่ พื้นแผ่นดินจะยุบหายจมลงไปเบื้องล่างพร้อมวัตถุก่อสร้าง ฝุ่นฟุ้งเปลวไฟ หมอกควันและเสียงกัมปนาทมันจะเกิดขึ้นอื้ออึงภายในเวลาไม่นานมานัก ความสงบจะเริ่มก่อตัวขึ้นกลังจากนั้น 3 วันเต็ม

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ไม่ใช่มายา มันคือกระบวนการทางเทคนิคจักรวาล เพื่อการชำระระบบโลกเป็นครั้งที่ 4 นับแต่มีมนุษย์ดำรงอยู่ในระบบโลกใบนี้



ไฟจะลุกลามมาทางทิศตะวันออก....ดินฟ้าอากาศแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ เวลานั้นพลเรือนโลกเหลือน้อยมาก

เมื่อทุกสิ่งบนโลกกำลังดำเนินไปตามนั้นแล้วทุกประการ เหลือเพียงแต่ขั้นตอนการชำระโลกครั้งสุดท้าย กับภาวะวิกฤติภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นตอนนี้ และสงครามที่ไม่มีทีท่าว่าจะจบ ยั่วยุกันไปมา และเป็นสองครามระหว่างสองชาติมหาอำนาจรัสเซีย กับ NATO



เมื่อเหตุแห่งหายนะเกิดจากผู้สร้าง และผู้งมงาย ดาวเคราะห์โลก เป็นดาวเคราะห์แห่งทางเลือกเสรี มนุษย์มีทางเลือกเสรีที่จะตัดสินใจกระทำตอบต่อสิ่งเร้าใด ๆโดยที่เป็นเงื่อนไขของตนเองได้เสมอ ทุกคนมีอิสระในการคิดและตัดสินใจด้วยตัวเอง

การสื่อความรู้ใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ในรูปของคำพยากรณ์ใด ๆก็ตาม จักรวาลไม่มีความประสงค์จะให้เป็นเหตุแห่งความวิตกกังวล หวั่นไหวไปด้วยความขลาดกลัวสำหรับมนุษย์แล้วหยุไว้ที่อารมณ์นั้น โดยไม่คิดอ่านหาวิธีป้องกันแก้ไขใด ๆ เลย แบบบทการึิดและการกระทำที่ถูกต้องกว่าสามารถจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขอนาคตของมนุษย์เองได้ กลับถูกละเลยมันไป แม้จะรู้ล่วงหน้าถึงภัยพิบัติก่อนที่มันจะเกิดเป็นร้อยปีด้วยซ้ำ

การตัดสินใจที่ถูกต้อง จำเป็นต้องใช้ข้อมูลที่ถูกต้องและมากพอเสมอ คำพยากรณ์ล่วงหน้าที่หลาย ล้วนเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและคู่ควรต่อการคัดสินใจใหม่สำหรับมนุษย์อย่างยิ่ง ครั้งแล้วครั้งเล่าที่คำพยากรณ์ล้วนเป็นจริง เนื่องจากมนุษย์ไม่ยอมเปลี่ยนจิตสำนึกตนเองเลย ความวิบัติเลวร้ายที่มนุษย์ต้องเผชิญ กลายเป็นเรื่องโชคชะตาฟ้าลิขิตไป ทั้ง ๆ ที่มนุษย์แต่ละคนนั่นต่างหากเป็นผู้ลิขิตมันเอง



https://vt.tiktok.com/ZSRVhK1Aj/

 

ใครเคยอ่านการค้นพบทฤษฏีใหม่ "ชิ้นส่วนพลังงาน" กันบ้างคะ

https://www.bbc.com/thai/features-55377605

คิดอย่างไรกับความเห็นนี้...อย่าถือสา..ผู้ไปมาแล้วเล่าสู่กันฟังบ้าง เห็นด้วยจิต(จักขุ) ถูกไหม

ฌาน = โลก
ฌานสมาบัติ 8 ก็คือ ขั้นสุดท้าย เนวสัญญาฯ ความละเอียดอ่อนเท่ากับสภาวะนิพพานพรหม หมายถึงยังไม่ หากสภาวะจิตระดับนี้ยังไม่นิพพาน แต่ทีความสุขน้อง ๆ นิพพาน ถ้ายังไม่พ้นต้องลงมาเกิดอีก

เหมือนกับการขี่จรวดขึ้นไปในห้วงอวกาศ ตามขั้นของสภาวะจิต ยิ่งสูงยิ่งลึกซึ้งละเอียดอ่อน ไปตามห้วงแต่ละชั้นของอวกาศ สภาวะจิตสูง ความละเอียดอ่อนของจิตมากเท่าไหร่ ทำให้ไต่ระดับฌานสูงขึ้นตามสภาวะชั้นของแต่ละชั้น ความประณีตของฌานก็เช่นกัน ไต่สภาวะของอวกาศขึ้นไปตามลำดับ จนพ้นสภาวะของโลก คือ ฌานสมาบัตื 8 ก็คือ การเบากาย เบาจิต ความละเอียดอ่อนของจิต การสัมผัสก็เหมือนกับนกบินสูงยิ่ง ๆ ขึ้นไปตามลำดับของอวกาศ ยิ่งสูงยิ่งละเอียดอ่อน

ใครเคยส่งจิตพุ่งพ้นไปจากโลกได้บ้าง! ได้สัมผัสพลังงานความรู้สึกที่ว่า หลุดพ้นเป็นอย่างไร?

ใครเคยเห็นสนามพลังงานที่ละเอียดอ่อน ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังธรรมชาติได้บ้าง ด้วยจักขุ(ตาเนื้อ) คือ เป็นสนามพลังงาน คนละพลังงานกับธรรมชาติ คือ คนละคลื่นความถี่

ใครเคยเห็นโลกที่ไร้แก่นสาร คือ โหวงเหวง คือ เหมือนกับโลก หรือ ธรรมชาตินี้ที่เห็นว่ามีแต่มันจับต้องไม่ได้ หรือยึดถือครอบครองไม่ได้ ด้วยจักขุ ตาเนื้อ ได้บ้าง

และใครเคยได้รับรู้การที่จิตเข้าถึงสภาวะเมตตาสงสารใครอย่างสุดซึ้ง โดยที่มันออกมาจากหัวจิตหัวใจที่มันปราถนาดีอย่างสุดซึ้ง และจิตพุ่งไปเป็นหนึ่งเดียวกับสนามพลังงานที่ไร้ตัวตนได้บ้าง และสัมผัสได้ถึงถายในน้ำอมฤติที่แผ่ซ่านบรมสุข ละเอียดอ่อน หาอะไรเทียบมิได้เลย จากความสุขในโลกนี้

และใครเคยได้ผ่านคลื่นสั่นสะเทือนแนวดิ่งสู่ภายในตนเองบ้าง พบกับคำตอบสัจธรรมที่ใจยอมรับอย่างไร้เงื่อนไข เป็นคำตอบที่สยบให้กับทุกสรรพสิ่งอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ ได้เลย

และใครเคยพบท่านั่งสมาธิ มีอยู่ท่าหนึ่ง ที่กายประสานกันอยู่ในท่านี้ จะนั่งได้นานแสนนาน

และใครเคยพบสภาวะที่งจิตปรุงแต่งอยู่ภายใน ตัวรู้มันใหญ่กว่ามาก จิตที่ปรุงแต่งเหมือนหิ่งห้อยกระพริบ ๆ แพร๊บ ๆ

และใครเคยเข้าสภาวะตื่น ที่ ๆ ที่หลับ นอนหลับแต่จิตตื่นบ้าง

และใครเคยพบสภาวะความละเอียดอ่อนของธรรมชาติ บรมสุข ไร้ที่ตั้ง ไร้ขอบเขต

ทุกสภาวะนี้เกิดขึ้นได้โดยไม่ได้ตั้งใจ ถ้าไม่พบสภาวะเหล่านี้ จะไม่เข้าใจคำสื่อได้เลยค่ะ

และอีกหลายสิบสภาวะเกี่ยวกับสติ และสมาธิ

ใคร ๆ ก็รู้ว่าสมาธิของจิตยิ้มระดับไหน ระดับอนุบาล หรือ ใคร ๆ ก็ให้สมญานามว่า "จิตจักรยาน" นะคะ ถูกต้องแล้วคร๊าบผม

 

น้ำท่วมปาก ....

ไม่รู้ว่าจะพูดดีไหม ! มันเป็นการรับรู้ขึ้นมาเอง มีสัญญาณบอกว่าคืออะไร ? เมื่อมองเห็นเหตุการณ์ทางสื่อ TV จิตรับรู้ว่า สิ่งที่มองเห็น จะต้องมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่ไม่แน่ใจเพราะเป็นการรู้แบบไร้รูป ไร้นาม รู้มาแบบซื่อ ๆ ขึ้นมาเอง และก็จบการรับรู้ไว้แค่นั้น

จนกระทั่งกลางเดือน ธค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นที่เกี่ยวกับความเป็นความตาย อยากนำข้อมูลมาลงเพื่อช่วยแบ่งปันข้อมูลที่รับรู้ ก็ลังเลและไม่แน่ใจ อีกทั้งได้รับการเตือนจากสิ่งที่มองไม่เห็น ก็หยุดไว้แค่นั้น

และก็มีสื่อต่าง ๆ ทางโซเซียลออกมาเป็นระยะ ๆ บังเอิญหรืออย่างไร จริงไม่จริง ยิ่งไปค้นคว้าข้อมูล มีคำที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ และหากเกี่ยวข้องกับบ้านเมืองประเทศชาติ อนาคตภายหน้าที่เป็นเหตุให้ตัดสินใจผิด มีผลต่อภัยพิบัติอีกจะทำอย่างไร

ใครเข้าใจสิ่งที่อยากสื่อกันบ้างคะ

และอีกประเด็นหนึ่ง.....ก็คือ

ข้อมูลวัคซีน mRNA ที่ใช้ทดลองกับมนุษย์ ซึ่งทางข้อมูลโลกออนไลน์กล่าวถึงกันมาก และข้อมูลทางต่างชาติผู้เชี่ยวชาญก็ออกมาตีแผ่กัน และหลายคนก็ออกมาบอกผล
กระทบกับคนใกล้ตัว

ได้ฟังเรื่องราวทั้งดี และไม่ดี มีทั้งฝ่ายไม่เห็นด้วย และฝ่ายสนับสนุน ได้อ่านข้อคิดเห็นของ ดร.ท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า วัคซีน mRNA ไม่ส่งผลกระทบถึงนิวเคลียส หรือ รหัสพันธุกรรม เป็นการสร้างโปรตีนมีคำสั่งให้ไรโบโซม สร้างโปรตีนหนามขึ้นมา เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน เกิดการรับรู้จดจำจะได้ป้องกัน เปรียบเทียบเมื่อ สร้างขึ้นมาแล้ว ทำหน้าที่หรือดำเนินการตามคำสั่งแล้ว มันก็จะสลายไป

จิตยิ้มอ่านแล้วก็เป็นข้อมูลที่ OK จิตก็มาพิจารณาแบบนิ่ง ๆ ได้คำตอบว่า mRNA เป็นรหัสคำสั่ง ต้องเกิดมาจากนิวเคลียสซึ่งเป็นผู้ออกคำสั่ง และคำสั่งนี้เป็นคำสั่งเฉพาะตัว จึงเรียกว่า รหัสพัสธุกรรม ศาสนาพุทธ เรียกว่า " กรรม" แต่ละคนมีไม่เหมือนกัน รหัสพัสธุกรรม เป็นเฉพาะบุคคลตามกรรมของตน และนิวเคลียสเป็นพลังงานที่ไม่มีอยู่ในโลกนี้ จึงเรียกได้ว่ารหัสคำสั่งพันธุกรรมเกิดขึ้นจากอำนาจจิต หรือ กรรมที่สั่งสมเอาไว้นั่นเอง

วัคซีนปกติ ได้มาจากเชื้อโรคที่ตายแล้ว หรือเชื้อโรคที่อ่อนแอ หรือ หมดสภาพ

แต่วัคซีน mRNA จะขึ้นมาโดยยังไม่รู้ผลจากการทดลอง เป็นรหัสสัญญาณคำสั่งเพื่อให้ร่างกายสร้างโปรตีนหนามขึ้นมา ตามหลักของการเกิดเชื้อโรค เชื้อไวรัสเป็น RNA สายเดี่ยวเมื่อกรดนิวคลิวอิกของเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายไปจับที่เซลล์ เซลล์จะสร้างไขมันขึ้นมาห่อหุ้มและมีการตัดแต่งสร้างโปรตีนหนามอีกชั้นเพื่อการยึดเกาะ และสร้างตัวมันเองขึ้นมาหรือเรียกว่าการแพร่กระจาย

อยู่ดี ๆ มีคำถามขึ้นมา 2 ขึ้นมา 2 ข้อว่า

1.เมื่อฉีด mRNA เข้าไปแล้ว ร่างกายจะสร้างตัวมันเองขึ้นมามากน้อยเพียงใด
2.ร่างกายแต่ละคนกำจัดออก ที่ว่ามันทำหน้าที่เสร็จแล้วตามรหัสคำสั่ง มันจะสลายหมดไปได้เพียงใด

การสร้างรหัสคำสั่ง ที่ไม่ได้เกิดจากนิวเคลียสเปรียบเสมือนการใส่สิ่งแปลกปลอมเข้าไป เมื่อเป็นไปตามกลไกของเชื้อโรคร่างกายย่อมสร้างไขมันมารองรับ เมื่อร่างกายแต่ละคนไม่สามารถกำจัดออกได้อย่างเท่ากัน จึงเกิดเป็นพิษภัยแก่ร่างกาย โดยเฉพาะไขมันกับระบบเลือดและการลิ่มเลือดอุดตัน และเมื่อไม่กำจัดออกไดจึงเป็นพิษในร่างกาย

นัยยะประมาณนี้ค่ะ เกิดจากการพิจารณาแล้วได้คำตอบออกมา อาจไม่สมบูรณ์ แต่เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาค่ะ

 

คำสื่อเตือนสติมนุษย์ล่วงหน้าถึงเหตุการณ์ก่อนสิ้นยุค ก็ได้เกิดขึ้นจริงแล้วอีก 1 เรื่อง

ยูคศิวิไลย์ตอนไหน!!!

มีหลายคนกำลังค้นหาคำตอบ ว่ายุคพลังงานใหม่คืออะไร ?

และยุคนี้...โลกกำลังยกระดับพลังงาน ครั้งที่ 4 จริงหรือ!! และถึงยุคศิวิไลย์หรือยัง

สิ่งศักดิ์สิทธิ์กล่าวไว้ว่า ในระยะต้นของมนุษย์ยุคพลังงานใหม่ หลังภัยวิกฤติทางธรรมชาติยุติลง กายภาพของโลกจะสะอาดขึ้นหลังการถูกชะล้าง สังคมมนุษย์อยู่ในยุคฟื้นตัวเต็มไปด้วยความสับสนหลากหลาย

โลกกับมนุษย์จะเผชิญการเปลี่ยนแปลงมากมายหลายอย่าง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้เปิดเผยให้มนุษย์ล่วงรู้เพื่อสร้างความเตรียมพร้อมต่อการดำรงชีวิต และเพื่อให้มีสติทางวิญญาณมากขึ้น ในช่วงการเปลี่ยนแปลงที่ยังไม่สิ้นสุด

ถึงยุคศิวิไลซ์หรือยัง ข้อสังเกต
1. กายภาพโลกสะอาดขึ้น
2.ในระยะต้นยุคพลังงานใหม่มนุษย์จะเกิดความสับสนที่อยู่ในช่วงยุคฟื้นตัว แต่มนุษย์จะรู้สึกแปลกใจตนเอง เมื่อพบว่าต่างก็แสวงหาความสงบในจิตใจได้ มีความมั่นคง ไม่หวั่นไหว สามารถดำเนินชีวิตท่ามกลางความสับสนได้อย่างไม่น่าเชื่อ (คือมนุษย์มีสติปัญญญาเพิ่มขึ้น และเข้าใจแก่นแท้สัจจะธรรมได้มากขึ้น)

ถ้าดูโลกและสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน โลกยังไม่ถึงจุดนั้น

แต่มีสิ่งหนึ่งที่จักรวาลได้เปิดเผยให้มนุษย์ล่วงรู้ เพื่อความเตรียมพร้อมทางสติวิญญาณ 1 ใน นั้น นั่นก็คือ..

วงการแพทย์จะค้นพบศาสตร์การบำบัดรักษาแบบใหม่

ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าปัจจุบันนี้ได้เกิดขึ้นจริงแล้ว นั่นก็คือข่าวดังตามสื่อที่ผ่านมา ของดาราหนังคุณวินัย ไกรบุตร และ อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต


คุณวินัยได้รับความทุกข์ทรมานมานานนับหลายปี แล้วตอนนี้ดีขึ้นตามลำดับ

และสิ่งที่เปิดเผย 1 ใน นั้นที่บ่งบอกว่าโลกกำลังยกระดับพลังงานให้สูงขึ้น มนุษย์จะติดต่อกับจักกรวาลไ้ด้ก็ง่ายขึ้น มนุษย์จะค้นพบศาสตร์ใหม่ ๆ

วงการแพทย์ยุคใหม่จะหันมาใช้วิธีการบำบัดรักษาคนไข้ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีอยู่มาผสมผสานกับศาตร์ในมิติที่ 3 ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานอย่างได้ผลมากขึ้น เช่น ใช้หลักการถ่ายทอดคุณสมบัติของตัวยาด้วยกระแสพลังงานจิตสู่คนไข้เพื่อการบำบัดรักษาให้หายได้โดยคนไข้ไม่ต้องทานยานั้นเข้าไป พวกเขาอาจนำยาจำพวกสมุนไพรที่ไมต้องผ่านกรรมวิธีสังเคราะห์ ที่มีคุณสมบัติในการรักษาโรค นั้น ๆ วางไว้บนฝ่ามือ แล้วใช้คลื่นพลังงานจิตด้านบวกของเขาช่วยดูดซับเอาคุณสมบัติของตัวยา ส่งผ่านเข้าสู่ร่างกายคนไข้ได้ทันที ขณะที่สมุนไพรนั้นยังคงอยู่ภาพเดิม ๆ มีคุณสมบัติทางยาคงเดิม ซึ่งนำไปใช้กับคนไข้รายอื่น ๆ ได้อีก

จากคำสื่อของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ปัจจุบันก็พอจะเห็นได้ลาง ๆ จากกรณีคุณวินัย และ อาจารย์เอก ความรู้จากการรักษาคนไข้โดยใช้ฝ่ามือ คือศาสตร์ในมิติที่ 3 ซึ่งอาจเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับมนุษย์




แต่ก็ทำให้มนุษย์โลกได้รู้ว่า โลกกำลังยกระดับพลังงานครั้งที่ 4 จริง คำสื่อที่เตือนล่วงหน้า วันนี้ได้เกิดขึ้นจริงแล้ว อย่ามัวสงสัยอยู่เลย ดาวเคราะห์โลกจะบอบช้ำเพียงใด และมนุษย์จะต้องเผชิญชะตากรรมรุนแรงระดับใด มนุษย์ทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยอย่างยิ่ง ถ้ามนุษย์กระทำได้ ภัยพิบัติที่ร้ายแรงก็จะบรรเทาลงได้เมื่อนั้น

 

คำเตือน ! ให้เฝ้าระวัง!!!

สัญญาณเตือน
1.การเคลื่อนตัวของใต้พิภพ
2.คลื่นความถี่สูงในอากาศมีกำลังมาก(เสียงดัง)
3.สภาพอากาศแปรปรวน คลื่นพายุลมแรง

ถ้าทั้ง 3 สิ่ง เกิดขึ้นพร้อมกัน ให้เฝ้าระมัดระวังภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้น

การเคลื่อนตัวใต้พิภพจากพลังงานของโลกไหว ถ้าโลกเปรียบดั่งลูกข่าง เวลาลูกข่างเกิดความสมดุล มันจะหมุนรอบตัวเองโดยไม่สัดส่าย แต่เมื่อลูกข่างใกล้จะล้มลง มันจะสัดส่ายไปมาอย่างเห็นได้ชัด ถ้าเปรียบได้ดั่งกับโลกของเรา เมื่อพลังงานลดลงมาก หรือเสียสมดุลโลกก็จะสัดส่าย จนทำให้รับรู้พลังงานการไหวของโลกได้

ส่วนคลื่นความถี่สูงในอากาศธรรมชาติ มันมีอยู่แล้ว ถ้ามันมีกำลังมาก คลื่ีนเสียงมันจะเสียงดังแรงผิดกว่าปกติ

ส่วนสภาพอากาศคลื่นพายุลมแรงแสดงว่าชั้นบรรยากาศมีคลื่นความถี่สะสมในชั้นบรรยากาศมากส่งผลให้ภูมิอากาศจึงมีปรากฎการณ์ให้รู้และสัมผัสได้ ยิ่งเกิดขึ้นก่อนและหลัง คลาส ให้เฝ้าระวัง!

พลังของโลกลดลง ที่จะทำหากให้มองเห็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น อันเนื่องมาจากสาเหตุ

1. คลื่นพลังจิตด้านลบ ที่สะสมในชั้นบรรยากาศตามโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลก เป็นพลังงานที่ไม่เป็นประโยชน์ ทำให้โลกหนัก บั่นทอนพลังงานให้ต่ำลง

2.การทำสงคราม การใช้อาวุธสงคราม ส่งผลให้การทำลายพลังงานกายภาพของโลกถูกทำลาย ทำให้พลังงานโลกเสียสมดุลหนักขึ้น

เป็นแค่ 2 ประการที่พอจะทำให้เห็นว่า โลกกำลังถูกมนุษย์ทำลายโลกได้อย่างไร

คิดว่านาซ่า น่าจะคงไม่ได้ฟังคำทายของเกจิอาจารย์ของเมืองไทย ได้ฟังแล้วใกล้เคียงและสอดคล้องกัน

https://vt.tiktok.com/ZSNQ112QV/




คลื่นความถี่ในอากาศสูงชั้นบรรยากาศของโลก จะตรงกับคำพุทธทำนายก็คือ

ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจจะเรียกผีเสื้อเหล็กนับแสนตัวมาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ

ผีเสื้อเหล็กนับแสนตัวมาปล่อยไข่ คือ คลื่นพายุสุริยะ คลื่นความถี่สูงในอากาศ

ผู้เป็นใหญ่ นัยยะ จักรวาล

เป็นไฟผลาญ แม่เหล็กแกนใจกลางโลก เหล็กไฟหลอมละลาย ทำให้แกนโลกขยับ

ส่งผลให้โลกยกระดับพลังงาน ความวิปริตทางกายภาพของระบบโลก จะยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆเมื่อเข้าใกล้สิ้นยุคพลังงานเก่า มนุษย์จำนวนมากมายจะต้องได้รับเคราะห์ภัยหนักหนา แต่จงรับรู้มันจะไม่ใช่วันสิ้นโลก มันกระทำด้วยความรักต่อโลกมนุษย์ เพื่อต้องการให้ฝ่ายอธรรมทั้งหลายรู้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ล้วนมีจริง

ไม่ต้องเชื่อก็ได้ค่ะ สำหรับระดับสมาธิของจิตยิ้ม มองดูแล้วอาจเป็นเรื่องเพ้อฝันสำหรับใครหลายคน แต่อยากให้ลองพิจารณาเหตุและผล และที่สังเกตุทุกครั้งที่ภัยพิบัติเกิดขึ้น จะรับรู้ได้ถึง 3 สิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ตามมาด้วยภัยพิบัติโลกตามประเทศต่าง ๆ

การจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แผ่นดินไหว สึนามิ ขึ้นอยู่กับระดับพลังงานของโลกที่ลดลง และการส่งพลังงานเข้ามาจะมากน้อยแค่ไหน

เมื่อนั่งสมาธิก็รับรู้ และออกมาพิมพ์ และมีข่าวเด้งมาแจ้งเตือน ว่ากลุ่มฮามาส กับอิสราเอลที่หยุดยิงจะกลับมายิงกันอีกครั้ง

สงครามโลกจะไม่เกิดขึ้น เกิดขึ้นแค่สงครามระหว่างประเทศก็ส่งผลกระทบกับโลกเรื่องพลังงาน มนุษย์ก็ต้องได้รับผลอยู่แล้ว

ที่จริงแล้วข้อมูลเหล่านี้ ผู้ทำงานทราบกันอยู่ และกำลังทำงานกันอยู่ ไม่ปล่อยให้โลกเป็นไป

นำคำเตือนของนาซ่ามาลงให้รับรู้ค่ะ

เพราะเราไม่รู้ว่า พลังงานของโลกมันจะถึงจุดที่มันตต้องรักษาความสมดุลของตัวเองมันเมื่อไหร่ เมื่อมวลมนุษยชาติไม่คิดจะช่วยเหลือโลก

เมื่อถึงจุดหนึ่งมันก็จะรีเซตตัวเอง จักรวาลจึงต้องยกระดับพลังงานโลก

ฝ่ายอธรรมคิดว่าหนีไปดาวดวงอื่นได้ แต่พวกเขาไม่รู้ว่า การไปอยู่ดาวดวงอื่นจะต้องมีค่าพลังงานเข้ากันได้กับคลื่นสนามแม่เหล็กของดาวดวงนั้น

 

โปรดใช้วิจารณญาณ

จากข้อมูลสัญญาณเตือนภัยทั้ง 3 ข้อ ถ้ามนุษย์สามารถรับรู้ได้พร้อมกัน ให้นับออกไปนับระยะเวลาอีกภายใน30 วัน จะเกิดภัยพิบัติขึ้นกับโลก ณ สถานที่ใดที่หนึ่งบนโลกใบนี้ หรือ หลายสถานที่พร้อมกันไล่เรี่ยกัน

เมื่อต้นมกราคม 67 อยู่ดี ๆ ก็รับรู้ เกิดเหตุการณ์ทั้ง 3 เหตุการณ์พร้อมกันประมาณ 1-2 วัน

และคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ?
ได้เห็นข่าวทั่งญี่ปุ่น และจีนเกิดขึ้น

แต่พอได้เห็นข่าวเกิดขึ้นที่ชิคาโกที่ USA อเมริกา ความรู้สึกบอกออกมาว่า ธรรมชาติกำลังเตือนสหรัฐอยู่



https://vt.tiktok.com/ZSFd12yJS/

https://vt.tiktok.com/ZSFd1MscC/

เพื่อไม่ให้สงครามบานปลายทำลายพลังงานของโลกให้ต่ำลงไปอีก

เมื่อคืน! ถ้าวันใดได้นั่งสมาธิ เมื่อตื่นขึ้นมากลางดึก ความรู้สึกแรกที่ตื่นขึ้นมาจะรับรู้ได้คือ คลื่นความถี่ต่ำที่โลกหมุนรอบตัวเอง เหมือนพลังงานการเคลื่อนตัวของโลกหมุนช้ามาก ในใจก็รู้สึกว่า ถ้ามันหมุนช้ากว่านี้อีก โลกคงพลิกคว่ำแน่ (โลกตีลังกากลับ คงอาจมาจากสาเหตุนี้มั้ง)

คำว่า "เนื้อนาบุญของโลก"

ถ้าตามศาสตร์จักรวาล คือ การกระทำทางจิตสำนึกของมนุษย์ เป็นการกระทำด้วยจิตที่ก่อให้เกิดกลุ่มพลังงานกรรมในมิติคู่ขนานซึ่งมนุษย์มองไม่เห็น ถ้ามนุษย์ไม่ปฏิบัติตามคำสอนของศาสดา พากันเดินสวนทางกับสัจธรรม เท่ากับมนุษย์กำลังผิดกฎกายภาพของจักรวาล ความหายนะและความวิบัติของโลกทั้งระบบจะต้องเกิดขึ้น เนื่องจากทุกสิ่งเสียสมดุลไป เมื่อนั้นมนุษย์เองจะต้องได้รับเคราะห์กรรมอันหนักหนา

ขณะนี้คำพยากรณ์ที่เป็นพุทธทำนาย ถูกมนุษย์ที่มีจิตวิญญาณชั่วร้ายเพราะไร้สำนึก พากันท้าลายสัจธรรมเหล่านั่นอย่างรุนแรง

ขณะที่พวกเขาพากันกลัวอุกาบาตจะพุ่งชนโลก พวกเขากลัวการโจมตีของชนชาติอื่นด้วยอาวุธที่ทันสมัยกว่า และพวกเขาพากันกลัวมนุษย์ต่างดาว แต่พวกเขากลับมองข้ามภัยอันตรายจากอาวุธร้ายที่ตัวเองสร้างขึ้น มันจะไม่เกิดขึ้นเลยหากพวกเขาเปลี่ยนจิตสำนึกของตัวเองให้ถูกต้องและไม่กระทำการท้าทายอยู่อีกต่อไป

เนื้อนาบุญของโลก

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้กล่าวไว้ว่ามนุษย์คงรู้ว่า สมการจากจิตสำนึกด้านบวกของมนุษย์ เคยเป็นเรื่องลี้ลับมาตลอดในยุคพลังงานเก่า ถ้ามนุษย์สามารถใช้แรงสั่นสะเทือนทางจิตสำนึกของตนเองต่อโลกและเพื่อมนุษย์คนอื่นๆในโลกนี้ได้
พลังงานด้านบวกที่แต่ละคนปลดปล่อยออกมาสู่สนามแม่เหล็กโลกภายนอกร่างกาย มันจะมีพลังอำนาจมหาศาลที่มนุษย์เองคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

มนุษย์สามารถเข้าถึงการสั่นสะเทือนทางจิตสำนึกได้ จะเป็นประโยชน์ด้านพลังงานต่อดาวเคราะห์โลกอย่างยิ่ง ซึ่งสนามแม่เหล็กโลกได้เชื่อมโยงเครือข่ายไว้รองรับเอาจากจิตสำนึกมนุษย์ตลอด 24 ชั่วโมง

จงพิจารณาสมการพลังงานรวมจากจิตสำนึกของตนเองที่สั่นสะเทือนด้านบวก ก่อให้เกิดพลังงานไฟฟ้าด้านบวกที่ปลดปล่อยออกมาจากภายนอกให้แก่ดาวเคราะห์โลก อันเป็นสมการใช้พลังงานของจักรวาลดังนี้

£B = ผลรวมของพนักงานจิตสำนึกด้านบวกทั้งหมด
x=จำนวนมนุษย์ผู้กระทำ
B=ค่าพลังงานที่แต่ละคนปลดปล่อยมันออกมาในขณะนั้น

สมมุติเปรียบเทียบหมายความว่า จำนวน 1 ใน 3 ของพลังงานที่ถูกปล่อยออกมาในขณะนั้นจะมีค่าเท่ากับ จำนวนมนุษย์ผู้กระทำร่วมกันในขณะนั้นยกกำลังสอง คูณด้วยผลรวมของพลังงานด้านบวกที่แต่ละคนปลดปล่อยมันออกมา ซึ่งแต่ละคนอาจจะเท่ากันหรือไม่เท่ากันก็ได้

จำนวนค่าของพลังงานรวม ที่มนุษย์กระทำปลดปล่อยออกมาในขณะนั้นจะเท่ากับ 3 เท่าของจำนวนมนุษย์ผู้กระทำยกกำลังสอง คูณด้วยผลรวมของพลังงานด้านบวกที่แต่ละคนปลดปล่อยออกมาในขณะนั้น

เพื่อให้มนุษย์เข้าถึงจำนวนพลังงานมหัศจรรย์ที่มนุษย์เองไม่เคยล่วงรู้มาก่อนเลยว่ามันสามารถเกิดขึ้นในมิติที่ 3 แห่งกาลเวลาได้ทุกเมื่อ

มนุษย์ลองคิดและเล่นดูว่าถ้ามนุษย์ที่มีความสมดุลประมาณ 144,000 คนปลดปล่อยพลังงานด้านบวกให้แก่โลกอย่างต่อเนื่องพร้อมกันจะเป็นจำนวนหน่วยพลังงานหนึ่งในขณะใดขณะหนึ่ง จะพบว่าระดับพลังงานที่ปลดปล่อยออกมามีค่าพลังงานมหาศาลเลยทีเดียว มันมากพอที่ยกระดับขึ้นความถี่สนามแม่เหล็กโลกใบนี้ได้ด้วยการทำให้มันสั่นสะเทือนด้านบวกรุนแรง ถ้าพวกเขาปลดปล่อยพลังงานด้านบวกออกมาไม่เท่ากัน ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงผลต่างของพลังงานด้านบวกที่พวกเขาปลดปล่อยออกมา จะเกิดการผลักดันให้พลังงานหมุนวนอย่างรุนแรงและเร็วซึ่งมีผลต่อการเหวี่ยงตัวของโลกในขณะเดียวกันด้วย


การที่โลกยังหมุนรอบตัวเองอยู่ได้ ไม่ล้มคว่ำลงมนุษย์แต่ละคนบนโลกที่ คิดดี ทำดี พูดดีล้วนเป็นผู้ร่วมสนับสนุนกระบวนการนี้ทั้งสิ้น


(ข้อมูลจากหนังสือความลับเบื้องหลังมิติโลก ของอาจารย์ปริญญาตันสกุล)

 

จิตยิ้มยังอยู่ไหม

 

ยังอยู่ค่ะ ตัวตนยังอยู่ แต่ชื่อ jityim ถูกลบออกจากระบบเว็บพลังจิตแล้วค่ะ

ในช่วงแรกที่ใช้ "ฟ้ามี" ที่จะเข้ามาโพส เข้าใช้ขื่อ jityim ไม่ได้ ก็เลยไม่โพสต์ นึกในใจว่าหมดหน้าที่แล้วมั้งจึงออกไป

แต่แล้ววันหนึ่งอยู่ดี ๆ ลองเข้ามาที่พลังจิต มีชื่อฟ้ามี คาระบบและพร้อมกับมีรหัส****เอาไว้ พอกดมาเข้ามาได้เลยมาโพสต่อค่ะ

ก็ลองให้นึกดู ทุกครั้งการโพสของตนเอง jityim และฟ้ามี ไม่ใช่ว่าตนเองทำเพราะรู้มากหรอก
นะคะ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ อย่างโพสที่แล้ว ตนเองจะลงเรื่องที่อยากลง เพราะเห็นว่าน่าจะเกี่ยวเนื่องกัน แต่อยู่ดี ๆ ก็เผลอกดให้เด้งออก ๆ ไป จึงคิดว่าไม่ได้รับอนุญาติให้ลงมั้ง

และการลงโพสต์ก่อนหน้าที่แล้วจะพิเศษกว่าทุกโพสที่ผ่านมา Jityimจะใช้การนิ่งกับตนเอง ตัดจากโลกภายนอกแล้วจึงพิมพ์ แต่โพสที่ผ่านมาถ้าเป็นข้อมูลมาจากความลับเบื้องหลังมิติโลก ตนเองเป็นแค่คนอ่าน และสติไม่ได้ตั้งมั่น แค่เป็นการอ่านแบบเบา ๆ แล้วแป้นพิมพ์กูเกิ้ลทำงานเอง

แต่ที่น่าแปลกคือ การพิมพ์ไม่มีคำผิดเลยแม้สักคำ และแม้แต่คำว่า "ให้ลองคิดและเล่นดู" เรื่องพลังงานมอบให้แก่ดาวเคราะห์โลก มาทวนแล้วแปลก ๆ พอไปเช็คในหนังสือไม่มีคำนี้ และมาได้อย่างไร

ทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนเวลาจะพิมพ์เสนอขายของใช้แป้นพิมพ์กูเกิ้ล พิมพ์ทัังผิดและคำเพี้ยนเผลอเพี้ยนแบบทำลายตนเองเฉยเลย

ก็เลยมาลองคิดดู เช่นคำว่า "ให้มนุษย์ลองคิดและเล่นดู" มาได้อย่างไร หมายความคืออ่ะไร?
ก็มาคิดดูก็คือให้มนุษย์พิจารณา และลองเล่นหรือทดสอบพลังงานบวกทดลองกันดูว่า พลังงานช่วยสนามแม่เหล็กโลกยกระดับได้จริง ไหมนะค่ะ

 

คับ

 

คราวหน้า ก่อนจะเข้ามาดู ใน เวปไซต์ พลังจิต
ให้อธิษฐานขอต่อ พระสมเด็จองค์ปฐม ก่อนเป็น พระองค์แรก
ตามด้วย พระพุทธเจ้าทุกพระองค์
ตามด้วย พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์
ตามด้วย พระอรหันต์สาวกทุกรูป
ตามด้วย พระโพธิสัตว์เจ้าทุกท่าน
ขออธิษฐานจิตว่า หากท่านเหล่านี้ ต้องการสั่งสอนผู้ใด
ก็ขอให้ท่านเหล่านั้น สื่อจิต มาถึง ข้าพเจ้า
ขอให้ข้าพเจ้า เข้าใจใน ธัมมะ ที่จะต้องสอนด้วย

 

เมกา จะต้องโดนธรรมชาตินวด ไปเรื่อยๆ

เมกา และ เหล่าพันธมิตรของเขา
จะโดน ธรรมชาติลงโทษ จนยับเยิน
โดยจะโดนนวดไปเรื่อยๆ จะได้พบเจอกับ ภัยธรรมชาตินานาชนิด
ถ้ายังไม่หยุดความลำพองใจ ที่จะทำ สงครามนิวเคลียร์

 

งานเข้าแล้ว!!!ประเทศไทย

เมื่อวานวันที่ 10 ก.พ. เกิดการเปลี่ยนแปลงอากาศอย่างฉับพลัน รับรู้ได้ว่ามีคลื่นสะสมในอากาศ แต่ยังไม่ได้ยินคลื่นความถี่ในอากาศสูง และก็ไม่สามารถรับรู้เคลื่อนการเคลื่อนไหว
การกวัดแกว่งของพลังงานและเคลื่อนไหวใต้
พิภพได้

แต่พอรุ่งเช้าได้ยินคลื่นความถี่ในอากาศสูง และรับรู้การกวัดแกว่งของพลังงานได้อย่างชัดเจน และพร้อมคลื่นลมลมแรงเป็นระยะ ๆ ยิ่งนิ่งยิ่งรับรู้ได้ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องการเคลื่อนการสัดส่าย

ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ หลังจากรู้ข้อมูลความจริงเกี่ยวกับพลังงานของโลก เกิดการสงบทั่งคลื่นความถี่ในอากาศสูงไม่มี การแกว่งไหวการเคลื่อนใต้
พิภพก็สงบ

จึงเกิดคำหนึ่งในใจว่า "คำเตือน" ให้เกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยแก้ปัญหา หรือจะแก้ไขปัญหาก่อนดี สำหรับประเทศไทย

เพื่อนของคุณแชร์วิดีโอนี้กับคุณ ดูเลยตอนนี้! https://vt.tiktok.com/ZSFFowGNg/




ทำไม?งานเข้า..ประเทศไทย!!

ชนหมูใด ประเทศใด ต่างพากันร่วมมือร่วมใจช่วยเหลือมอบโดยการปลดปล่อยพลังงานด้านบวกสู่สนามพลังงานในจักรวาลโลกออกมามากเท่าใด พื้นที่อยู่อาศัยย่อมจะได้รับผลลัพธ์ในรูปของภัยพิบัติที่ลดความรุนแรงลงได้ตามสัดส่วนพลังงานด้านบวกที่สร้างขึ้นเสมอ การกระทำที่ดีงามต่อกัน รู้จักปลดปล่อยพลังงานความรักมอบให้แก่กันและกันมากขึ้น จะช่วยเหลือตนเอง เพื่อนมนุษย์และแผ่นดินของตนให้หลุดพ้นไปจากเคราะห์ภัยรุนแรง จากกายภาพของโลกเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงที่สุดยิ่งกว่าครั้งใดในอดีต



พระพุทธเจ้าทรงตรัสเตือนในพุทธทำนาย เพราะความดีจากจิตสำนึกของมนุษย์ล้วนเกิดจากศีล หากโลกว่างเว้นจากศีล โลกจะลุกเป็นไฟ

เงื่อนไขการชำระโลกของจักรวาล เพื่อต้องการสร้างความสมดุลของระบบที่เสียไปให้คืนสู่ความสมดุลใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ความดาวเคราะห์โลกมีความเหมาะสมช่วยเหลือให้มนุษย์เข้าถึงเปิดมิติทางปัญญา เข้าถึงการรู้แจ้งด้วยตนเองง่ายขึ้น จนสามารถยุติวัฎจักรการเกิดดับ นำจิตวิญญาณของตนสู่การหลุดพ้น

เมื่อประเทศไทย เป็นเป้าหมายหลัก ที่จักรวาลปราถนาจะให้แผ่นดินนี้ เป็นศูนย์กลาง เป็นที่รวบรวมไว้ด้วยจิตวิญญาณผู้บริสุทธิ์ผู้มากด้วยความรู้ และเข้าถึงกฎเกณฑ์ทางกายภาพของจักรวาลได้อย่างลึกซึ้งไว้บนแผ่นดินนี้ตลอดมา

ตลอดเวลาอันยาวนาน แผ่นดินนี้ได้สร้างมนุษย์อัจฉริยะและพระอริยะจำนวนมาก การทำศึกสงครามเข่นฆ่าทำลายล้างกันเองไม่เคยปรากฎอย่างจริงจังเลย พวกเขามีรอยยิ้มที่จะมอบให้แก่กันและกัน มีความจริงใจต่อคนแปลกหน้าโดยไม่ต้องมีใครร้องขอ มีการแบ่งปันช่วยเหลือกันอย่างน่ายกย่อง มีสติและปัญญาอีกหลากหลาย มนุษย์ปัจจุบันควรเมียงมองอดีตนั้นเป็นเครื่องเตือนใจกันไว้บ้าง

แต่บัดนี้มนุษย์บนผืนแผ่นดินนี้ กำลังจะเปลี่ยนไป ที่กำลังเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกตนเองไปในทางต่ำลง จนน่าตกใจ แบบบทการดำเนินที่ดีงามในอดีต มันกลับเสื่อมสลายลง เพราะมนุษย์ยุคหลัง ๆที่มาถือกำเนิดใหม่บนแผ่นดินนี้ พากันละทิ้งพลังอำนาจในตนเองอันเกิดจากสติปัญญาและพลังอำนาจแห่งจิต ที่จิตวิญญาณถือติดตัวมาจากอดีตที่ดีงามของแต่ละคนจากในภพอดีตชาติ ไม่อาจเข้าถึงสติปัญญาทางวิญญาณของตนได้ เนื่องจากไปยึดติดรับเอามายา พากันละทิ้งกฎเกณฑ์ทางกายภาพของจักรวาลมากขึ้นเรื่อย ๆ
ทำผิด คิดชั่ว ทำตัวเป็นอุปสรรคของมนุษย์คนอื่น ๆ ทำลายชีวิตผู้อิ่น กดขี่ข่มเหงรังแกผู้อื่น สิ่งเหล่านี้กำลังจะทำให้ประเทศไทย มีความเสี่ยงจะต้องเผชิญชะตากรรมกับเกิดภัยพิบัติธรรมชาติที่รุนแรงถี่และบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ อันอาจมิเลี่ยงได้ในอนาคตอีนใกล้นี้

จากคำเตือนพุทธทำนาย ผู้ใดปรารถนาจะรอดพ้นจากภัยพิบัติให้รักษาศีล 5 และปฏิบัติตามคำสอนของตถาคตให้มั่นคง



จากกรณีข่าววันนี้ เรื่องการประกาศการครอบครองยาเสพติดตามที่รัฐกำหนดไว้ไม่ผิดถือว่ามีไว้เพื่อเสพ เป็นนโยบายที่ทำผิดกฎจักรวาลสากลอย่างแท้จริง พอ ๆ กับการทำสงคราม สงครามเป็นการทำลายกฏเกณฑ์ทางกายภาพ ยาเสพติดผิดศีล 5 เป็นการทำลายกฎด้านแก่นแท้ทางพลังงาน (จิตวิญญาณ) การผิดศีลข้อ 5 คือการทำลายมิติทางปัญญาของผู้อื่น (ทางอ้อม)อย่างแท้จริง

เมื่อคนในประเทศชาติส่วนมากขาดศีลธรรม เกิดจิตสำนึกบกพร่อง การกระทำทางจิตสำนึกก่อให้เกิดขยะทางพลังงานจากจิตสำนึกด้านลบไม่รู้จักรับผิดชอบชั่วดี เนื่องจากขาดสติและปัญญาทำตัวเป็นปัญหาและอุปสรรคผู้อื่นและอุปสรรคยากแก่การหลุดพ้น ดังนั้นเมื่อมนุษย์ส่วนใหญ่ในโลกเป็นเช่นนี้จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่โลกต้องถูกยกระดับพลังงาน

ข้อมูลเหล่านี้ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงทราบข้อมูลเหล่านี้ดีเพื่อประเทศชาติอยู่รอดจากภัยพิบัติ ประชาชนมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน นอกจากช่วยเหลือโลกแล้วยังช่วยให้ประเทศชาติรอดพ้นภัยพิบัติที่รุนแรงบรรเทาลงได้บ้าง

โดยพลังงานมวลรวมของชนในชาติพร้อมเพรียงร่วมใจกันสร้างขึ้น

สารเสพติดทำให้มนุษย์ขาดความยับยั้งชั่งใจ ศีลจึงเป็นเครื่องป้องกันรักษาให้สังคมมีความสงบสุข เมื่อผู้คนส่วนใหญ่มัวเมาขาดศีลไม่สามารถทำกิจกรรมทางจิตวิญญาณได้ จะมีพลังจิตที่อ่อนแอ ขาดความหนักแน่น หรืออ่อนไหวทางอารมณ์ คบคนพาล พาลไปหาผิด ส่งผลให้ประเทศชาติล่มสลาย ไม่สามารถทำหน้าที่ทางจิตวิญญาณได้ พลังงานมวลรวมประเทศอ่อนแอ

ในอดีตระบบโลกเสียความสมดุลทางพลังงานในสามมิติไม่มากนัก การสร้างพลังงานใหม่จากธรรมชาติที่ทีอยู่ในระบบขึ้นมาทดแทน ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับจักรวาลเลย แต่ถึงบัดนี้จักรวาลได้คำนวณค่าของพลังงานในระบบโลกที่มีอยู่ กับการจะช่วยสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อทดแทนกันกับที่มนุษย์กระทำให้มันขาดไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

มนุษย์ไม่รู้หรอกว่า ถ้าจะทำให้ระบบโลกมีความสมดุลดังเดิม เหมาะกับการเป็นห้องเรียนโลกมนุษย์ได้อีกต่อไปอย่างน้อยจักรวาลจะต้องใช้พลังงานทั้งดววงอาทิตย์และดววจันทร์ปริมาณมากมหาศาลล ชนิดที่พลังงานในระบบโลกเองไม่เพียงพอที่จะนำมาใช้ได้อีกแล้ว

การสร้างความสมดุลใหม่แม้แผ่นดินสยามก็มิอาจละเว้น ถ้าเสียสมดุลมากการกระทำทางเทคนิคย่อมจริงจังมากตามไปด้วย ถ้าเสียสมดุลเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับที่มันเกิดขึ้นบนแผ่นดินอื่น ๆ การกระทำทางเทคนิคย่อมน้อยลงเช่นกัน ผลการกระทำทางเทคนิคที่จะปรากฎเป็นภัยธรรมชาติจะรุนแรงมากหรือร้อยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขนี้ทั้งสิ้น

หากมนุษย์สังเกตุและจดจำได้จากสถิติของภัยธรรมชาติที่รุนแรงที่เกิดขึ้นในระบบโลก จะสังเกตุได้ว่า ความสมดุลทางพลังงานในระบบยิ่งเกิดจากการกระทำของมนุษย์ค่อนข้างไปทางด้านลบมากเท่าใด ภัยธรรมชาติที่รุนแรงจะเกิดถี่บ่อยตามไปด้วยเสมอ

ประเทศชาติจะบอบช้ำเพียงใด เราคงเดาได้ไม่ยาก ถ้าหากคำพุทธทำนายตรัสไว้ว่า ผู้ใดปฏิบัติตามคำสอนตถาคตได้อย่างมั่นคง การรักษาศีล 5 จะเป็นผู้ประสบภัยพิบัติน้อยที่สุด
เป็นไปตามพลังมวลกรรมรวมของประเทศ

ปัจจุบันนี้ประเทศอเมริกา ซอมบี้


เหตุแห่งหายนะ
ผู้สร้างและผู้งมงาย
ผู้สร้างเป็นผู้ที่มีอำนาจเหนือเพื่อชี้นำและบงการจิตวิญญาณของมนุษย์ส่วนใหญ่ให้ยึดติดดไปกับมันในลักษณะอาการของคนที่ลุ่มหลงมัวเมา

ผู้ตาม
เขาสอนอย่างไรก็เชื่อตามนั้น
เขาสั่งอย่างไรก็ปฏิบัติตามนั้น
เขาทำอย่างไรก็เอาแบบอย่างตามนั้น

หรือว่าประเทศไทยกำลังจะเดินตามความเสื่อมทำให้โลกถดถอยห่างไกลสัจจะธรรม ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่ในชาติอาจจะไม่เห็นด้วย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพลังงานมวลกรรมรวมของประเทศ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้นำ ผู้เลือกถือว่าให้สิทธิ์มอบอำนาจให้แก่ผู้นำ ถือว่าเปรียบเสมือนเป็นผู้กระทำเองจะปัดหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบร่วมกันย่อมไม่ได้

ข้อมูลครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา มันหนักมาก เหมือนมันต้องแบกรับอะไรบางอย่าง ใช้พลังงานเปลืองมาก เขียนไปต้องนอนพักเป็นระยะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราอะไร? ในบางครั้งก็รับรู้ได้ถึงพลังงานเจ็บปวดที่มนุษย์กระทำต่อกัน

 

ใคร? รับรู้อะไรได้บ้าง ทำไม! พลังงาน ณตอนนี้มันชัดเจนมาก jityim ไม่ได้รับรู้คนเดียวใช่ไหม!!

 

ครับแรงมาก

 

จริงหรือคะ ใช่เรื่องคลื่นพลังงานการสั่นสะเทือนของโลกไหมคะ เอาเป็นว่า jityim อยากพูด หรือ อุปมาให้ลองพิจารณาดูกันดูนะคะ

เมื่อวันที่ 18 ก.พ. เมื่อสามารถรับรู้พลังงานการสั่นสะเทือนของโลก หรือคลื่นพลังงานได้ชัดเจนมาก ก็แปลกใจ !! เลยกำหนดจิตนิ่งดู ก็รับรู้ได้การไหวอย่างชัดเจน เกิดอะไรขึ้น!!

เผื่อว่าเราไม่ได้รับรู้คนเดียว การส่ง sign สัญญาณอะไรบางอย่างเกี่ยวกับพลังงานของโลกไหม ! ซึ่งพลังงานนั้นเกิดขึ้นเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งณ ปัจจุบันนี้ก็รับรู้การไหวลดลงมาก

การที่พลังงานรับรู้คลื่นการเคลื่อนไหวลดลงอันสืบเนื่องมาจากสาเหตุใด

1.พลังงานของโลกลดลงกระทันหัน แล้วกลุ่มพิทักษ์โลกรวมตัวกันช่วยเหลือมอบพลังงานให้แก่โลก พลังงานโลกจึงสมดุลขึ้น

หรือ...

2.เกิดกิจกรรมร่วมกลุ่มความรักความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน 2 กิจกรรมในเวลาไล่เลี่ยกัน




ซึ่งกรณีที่ 2 ก็เพิ่งมาเห็นข่าวทีหลัง จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า "เป็นไปได้ไหม"ก็ให้นึกย้อนไปที่คำกล่าวของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่กล่าวว่า

เพราะช่วงเวลาขณะนั้นไม่มีสงครามระหว่างประเทศเกิดขึ้นที่ไหน หรือมีแล้ว jityim ตกข่าว แต่ถ้าไม่มีเหตุการณ์ปกติ แล้วคลื่นพลังงานที่รับรู้ได้อย่างชัดเจน เป็นไปได้ไหม เกิดจากพลังงานบวกที่มนุษย์กลุ่มหนึ่งพร้อมใจกันปลดปล่อยพลังงานบวกอันเป็นพลังงานความรักที่แสดงเป็นพลังหนึ่งเดียวกัน ยกระดับความถี่ทางพลังงาน เพราะระหว่างที่มันสั่นสะเทือน พลังงานที่รับรู้ได้ในวันนั้นเป็นคลื่นลมเย็นสบาย ไม่ใช่คลื่นสะสมอากาศพายุลมแรง

ซึ่งเหตุการณ์ที่เคยเกิดการร่วมแรงร่วมใจของปวงชนชาวไทยที่แสดงพลังความรักความสามัคคีที่แสดงออกในหลวง ร.9 เมื่อ 20 ปีที่แล้วยังจำเหตุการณ์ติดตา มาจนถึงทุกวันนี้ ท้องฟ้าสว่างไสวยิ่งนัก สามารถมองเห็นดวงจันทร์ตอนกลางวันเกือบทั้งวัน

แสดงว่าพลังงานของโลกยกระดับสูงขึ้นสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไปในทางที่สวยงามดีขึ้น ถึงแม้ครั้งนี้ อาจจะไม่เท่ากับพลังงานที่ถวายแด่ ร.9 แต่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่า พลังงานความรักความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมอบพลังงานให้โลกสั่นสะเทือนสูงขึ้นได้ ดังคำกล่าวของสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เป็นไปได้ไหม!!

ถ้าโลกเปลี่ยนพลังงานบวกสูงขึ้น โลกจะสวยงาม เหมือนยุคพระพุทธเจ้าพระศรีอริยเมตไตรยที่มนุษย์มีการรักษาศีล มนุษย์จิตใจสูงส่ง โลกยุคพระศรีอริยเมตไตรยสวยงามดั่งสวรรค์

แลคิดต่อ มนุษย์จะต้องร่วมมือร่วมใจกันขนาดไหนสำหรับกายภาพโลก ณ ปัจจุบันที่โลกจะเป็นโลกยุคศิวิไลย์ หรือจะต้องเปลี่ยนโดยธรรมชาติชะล้างก่อนเท่านั้น หรือเป็นวัฏจักรโลก ที่เสื่อมลงเรื่อย ๆ พอถึงจุดหนึ่งอันเหมาะสมที่เสื่อมลงถึงที่สุดแล้วมันค่อย ๆ พัฒนาตัวมันเองขึ้นมาใหม่

ในช่วงยุคของเราถ้าพลังงานของโลกไม่เสียสมดุลมากไปจนโลกรับไม่ไหว เราก็รับสภาพนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้เป็นไปตามวัฏจักรของโลกก็แล้วกัน เป็นไปตามยุค

 

อาสวักขยญาณ

ขอรวบรวมเรื่องราวที่ได้ประสบพบเจอกับสภาวะในยุคกึ่งพุทธกาล ยุคแห่งธรรมโลกุตระเปิด หรือดังคำที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ตามคำพุทธทำนายว่า "แสงสว่างจะส่องลงมายังโลกอีกครา" เพื่อรวบรวมไว้ในกระทู้นี้ ซึ่งได้เคยลงไว้ในกระทู้ พุทธทำนาย ยุคกึ่งพุทธกาล จะเกิดภัยพิบัติและสงครามใหญ่ (ปีพ.ศ. 2560 เป็นต้นไป) ไว้ครั้งหนึ่งแล้ว

ขอนำความจริงที่ได้พบ ได้มีโอกาสประสบพบเจอ เผื่อจะเป็นประโยชน์เพื่อการพิจารณา...

คำว่า "สะดือทะเล" นัยยะหนึ่งหมายถึง การเข้าถึง ต้นกำเนิดอันเป็นความรู้จริงของสรรพสิ่งทั้งมวล จะอยู่ภายในห้วงที่ลึกที่สุดของทุกจิตวิญญาณล้วนมีคำตอบแห่งองค์สัจจะธรรม หรือ การเข้าถึง อาสวักขยญาณ

อาสวักขยญาณ ความรู้เป็นเหตุสิ้นอาสวะ, ญาณหยั่งรู้ในธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย,
ความตรัสรู้ (เป็นความรู้ที่พระพุทธเจ้าได้ในยามสุดท้ายแห่งราตรี)


หรือนัยยะ การอธิษฐานลอยถาดทองคำทวนกระแสน้ำ และถาดตกลงสู่ห้วงทะเลลึก คือ สะดือทะเล ที่ตกลงสู่ห้วงสะดือทะเลได้ ต้องฝ่าคลื่นกระแสน้ำลงไปสู่สะดือทะเล (โดยสามารถต้านกระแสน้ำลงสู่แนวดิ่งได้ )

ทุกครั้งที่พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมา ถาดที่ลอยลงสู่สะดือทะเล ลงไปกระทบกับเศียรพญานาคสะดุ้งขึ้นมา จึงรู้ว่าพระพุทธเจ้าได้ถืออุบัติขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และก็หลับไหลต่อ

ก็สื่อถึงว่า เมื่อพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมา ก็คือ การเข้าถึงอาสวขญาณ ที่นำพาหลุดพ้น ซึ่งยุคไม่มีพระพุทธเจ้า ไม่มีใครที่จะนำพาการหลุดพ้น คือ การบรรลุอาสวขยญาณ ที่เป็นองค์สัจจะธรรม องค์ธรรมที่อยู่ห้วงที่ลึกที่สุดของจิตวิญญาณได้

นัยยะก็คือ สะดือทะเล โดยเป็นสมาธิแนวดิ่งผ่านคลื่นการสั่นสะเทือนลงไป ค่ะ

เพื่อพิจารณาค่ะ

หลายท่านคงอาจสงสัย,!?

พบชั่วขณะ

ความปลงสลดสังเวชใจ เป็นเหตุ

ความยึดติดพันธนาการ เป็นอุปสรรคการหลุดพ้น

 

กำลังดีชึ้นคับ

 

ทกวันนี้ การหลอกลวงทางอออนไลน์มีมากมาย หลายรูปแบบ ที่คนร้ายสรรหา มาหลอก เฉพาะประเทศไทย วันหนึ่งๆ รับแจ้งความกว่าหมื่นคดี ความทุกข์ยากเดือดร้อน ของผู้เสียหาย จากการหลอกลวงของมิจฉาชีพ ต้องระวังตัวให้มากขึ้น
นี่ก็เป็นเหตุทำให้คลื่นแรงใช่ไหมครับ