ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. ต้นแก้ว

    ต้นแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2007
    โพสต์:
    828
    ค่าพลัง:
    +3,569
    ได้โอนเงินร่วมบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ ฯ จำนวน 309 บาท 08/05/51 เวลา 13.37 น. อนุโมทนาบุญและแบ่งบุญให้กับทุกท่านด้วย
     
  2. ชิน9

    ชิน9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +247
    สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ได้โอนเงินจำนวน2,000.-ร่วมทำบุญนะครับ

    อาม่า คื้อเจ็ง แซ่ซิ้ม
    คุณพรชัย เบญจนากาศกุล
    คุณชินพงศ์ เบญจนากาศกุล
    คุณสุรีย์ เบญจนากาศกุล
    คุณสิรินุช แซ่ลี้

    ขอทุกท่านร่วมอนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  3. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    [FONT=AngsanaUPC, BrowalliaUPC, CordiaUPC]ขันธะวิมุติสะมังคีธรรมะ[/FONT]
    [FONT=AngsanaUPC, BrowalliaUPC, CordiaUPC]ลายมือต้นฉบับ [/FONT]
    [FONT=AngsanaUPC, BrowalliaUPC, CordiaUPC]ของ[/FONT]
    [FONT=AngsanaUPC, BrowalliaUPC, CordiaUPC]หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต[/FONT]
    [​IMG]

    <!--BEGIN WEB STAT CODE----><SCRIPT language=javascript1.1 src="http://truehits2.gits.net.th/data/d0005425.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://hits.truehits.in.th/func/th_donate_1.6.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://hits.truehits.in.th/func/th_common_1.4.js"></SCRIPT><!--END WEB STAT CODE---->
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="80%" align=center border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ccccff>
    [​IMG]










    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ขันธะวิมุติสะมังคีธรรมะ
    นมัตถุ สุคตัสสะ ปัญจะธรรมะขันธานิ
    ************
    ข้าพเจ้าขอน้อมน้อมซึ่งพระสุคตบรมศาสดาสักยมุนี สัมมาสัมพุทธเจ้า และพระนวโลกุตตรธรรม ๙ ประการแลอริยสงฆ์สาวก
    บัดนี้ ข้าพเจ้าจักกล่าวซึ่งธรรมะขันธ์โดยสังเขป ตามสติปัญญา ฯ
    ยังมีท่านคนหนึ่งรักตัวคิดกลัวทุกข์ อยากได้สุขพ้นภัยเที่ยวผายผัน เขาบอกว่าสุขมีที่ไหนก็อยากไป แต่เที่ยวหมั่นไปมาอยู่ช้านาน นิสัยท่านนั้นรักตัวกลัวตายมาก อยากจะพ้นแท้ ๆ เรื่องแก่ตาย วันหนึ่งท่านรู้จริงทิ้งสมุทัยพวกสังขาร ท่านก็ปะถ้ำสนุกสุขไม่หาย เปรียบเหมือนดังกายนี้เอง ฯ
    ชะโงกดูถ้ำสนุกทุกข์ทลาย แสนสบายรู้ตัวเรื่องกลัวนั้นเบา ทำเมินไปเมินมาอยู่หน้าเขา จะกลับไปเป่าร้องซึ่งพวกพ้องเล่า ก็กลัวเขาเหมาว่าเป็นบ้าบอ สู้อยู่ผู้เดียวหาเรื่องเครื่องสงบ เป็นอันจบเรื่องคิดไม่ติดต่อ ดีกว่าเที่ยวรุ่มร่ามทำสอพลอ เดี๋ยวถูกยอถูกติเป็นเรื่องเครื่องรำคาญ ฯ
    ยังมีบุรุษคนหนึ่งอีก กลัวตายน้ำใจฝ่อ

    ที่มา >>ClickHere<<
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2008
  4. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    [​IMG]
    มาหาแล้วพูดครง ๆ น่าสงสาร ถามว่าท่านพากเพียรมาก็ช้านาน เห็นธรรมที่แท้จริงแล้วหรือยังที่ใจหวัง เอ๊ะทำไมจึงรู้ใจฉัน บุรุษนั้นก็อยากอยู่อาศัย ท่านว่าดี ๆ ฉันอนุโมทนา จะพาดูเขาใหญ่ถ้ำสนุกทุกข์ไม่มี คือ กายะคะตาสติภาวนา ชมเล่นให้เย็นใจหายเดือดร้อน หนทางจรอริยวงศ์ จะไปหรือไม่ไปฉันไม่เกณฑ์ ใช่หลอกเล่นบอกความให้ตามจริง
    แล้วกล่าวปฤษณาท้าให้ตอบ
    ปฤษณานั้นว่า ระวึง คือ อะไร ?
    ตอยว่า วิ่งเร็ว คือวิญญาณอาการไว เดินเป็นแถวตามแนวกัน สัญญาตรงไม่สงสัย ใจอยู่ในวิ่งไปมา สัญญาเหนี่ยวภายนอกหลอกลวงจิต ทำให้คิดวุ่นวายเที่ยวส่ายหา หลอกเป็นธรรมต่าง ๆ อย่างมายา
    ถามว่า ห้าขันธ์ ใครพ้นจนทั้งปวง ?
    แก้ว่า ใจซิพ้นอยู่คนเดียว ไม่เกาะเกี่ยวพัวพันติดสิ้นพิษหวง หมดที่หลงอยู่เดียวดวง สัญญาลวงไม่ได้หมายหลงตามไป
    ถามว่า ที่ว่าตาย ใครเขาตาย ที่ไหนกัน ?
    แก้ว่า สังขารเขาตาย ทำลายผล
    ถามว่า สิ่งใดก่อให้ต่อวน ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2008
  5. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    [​IMG]
    แก้ว่า กลสัญญาพาให้เวียน เชื่อสัญญาจึงผิดคิดยินดี ออกจากภพนี้ไปภพนั้นเที่ยวหันเหียน เลยลืมจิตจำปิดสนิทเนียน ถึงจะเพียรหาธรรมก็ไม่เห็น
    ถามว่า ใครกำหนดใครหมายเป็นธรรม ?
    แก้ว่า ใจกำหนดใจหมายเรื่องหาเจ้าสัญญานั้นเอง คือว่าดี คว้าชั่ว ผลัก ติด รัก ชัง
    ถามว่า กินหนเดียวไม่เที่ยวกิน ?
    แก้ว่า สิ้นอยากดูรู้ไม่หวัง ในเรื่องเห็นต่อไปหายรุ่งรัง ใจก็นั่งแท่นนิ่งทิ้งอาลัย
    ถามว่า สระสี่เหลี่ยมเปี่ยมด้วยน้ำ ?
    แก้ว่า ธรรมสิ้นอยากจากสงสัย สะอาดหมดราคีไม่มีภัย สัญญาในนั้นพราก สังขารนั้นไม่กวน ใจจึงเปี่ยมเต็มที่ ไม่มีพร่อง เงียบระงับดวงจิตไม่คิดครวญ เป็นของควรชมชื่นทุกคืนวัน แม้ได้สมบัติทิพย์สักสิบแสน ก็ไม่เหมือนรู้จริงทิ้งสังขาร หมดความอยากเป็นยิ่งสิ่งสำคัญ จำอยู่ส่วนจำ ไม่ก้ำเกิน ใจไม่เพลินทั้งสิ้น หายดิ้นรน
    เหมือนดังเอากระจกส่องเงาหน้า แล้วอย่าคิดติดสัญญา เพราะสัญญานั้นเหมือนดังเงา อย่าได้เมาไปตามเรื่องเครื่องสังขาร ใจขยับจับใจที่ไม่ปน ไหวส่วนตนรู้แน่เพราะแปรไป ใจไม่เที่ยงของใจใช่ต้องว่า รู้ขันธ์ห้าต่างชนิดเมื่อจิตไหว แต่ก่อนนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2008
  6. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    [​IMG]
    [​IMG]
    หลงสัญญาว่าเป็นใจ สำคัญว่าในว่านอกจึงหลอกลวง คราวนี้ใจเป็นใหญ่ไม่หมายพึ่ง สัญญาหนึ่งสัญญาใดมิได้หวง เกิดก็ตามดับก็ตามสิ่งทั้งปวง ไม่ต้องหวงไม่ต้องกันหมู่สัญญา เปรียบเหมือนขึ้นยอดเขาสูงแท้แลเห็นดิน แลเห็นสิ้นทุกตัวสัตว์....สูงยิ่งนักแลเห็นเรื่องของตนแต่ต้นมา เป็นมรรคาทั้งนั้นเช่นบันใด
    ถามว่า น้ำขึ้นลงตรงสัจจังนั้นหรือ ?
    ตอบว่า สังขารแปรแก้ไม่ได้ ธรรมดากรรมแต่งไม่แกล้งใคร ขืนผลักไสจับต้องก็หมองมัวชั่วในจิต ไม่ต้องคิดขัดธรรมดา สภาวะสิ่งเป็นจริง ดีชั่วตามแต่เรื่องของเรื่องเปลื้องแต่ตัว ไม่พัวพันสังขารเป็นการเย็น รู้จักจริงต้องทิ้งสังขารที่ผันแปรเมื่อแลเห็น เบื่อแล้วปล่อยได้คล่องไม่ต้องเกณฑ์ ธรรมก็เย็นใจระงับรับอาการ
    ถามว่า ห้าหน้าที่ มีครบกัน ?
    ตอบว่า ขันธ์แบ่งแจกแยกห้าฐานเรื่องสังขาร ต่างกองรับหน้าที่มีกิจการ จะรับงานอื่นไม่ได้เต็มในตัว แม้ลาภ ยศ สรรเสริญ เจริญสุข นินทา ทุกข์ เสื่อมยศ หมดลาภทั่ว รวมลงตามสภาพตามเป็นจริง ทั้งแปดอย่างใจไม่หันไปพัวพัน เพราะว่ารูปขันธ์ก็ทำแก่ไข้มิได้เว้น นามก็มิได้พักเหมือน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2008
  7. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    [​IMG]
    จักรยนต์ เพราะรับผลของกรรมที่ทำมา เรื่องดีพาเพลิดเพลินเจริญใจ เรื่องชั่วขุ่นวุ่นจิตคิดไม่หยุด เหมือนไฟจุดจิตหมองไม่ผ่องใส นึกขึ้นเองทั้งรักทั้งโกรธไปโทษใคร
    อยากไม่แก่ไม่ตายได้หรือคน เป็นของพ้นวิสัยจะได้เชย เช่นไม่อยากให้จิตเที่ยวคิดรู้ อยากให้อยู่เป็นหนึ่งหวังพึ่งเฉย จิตเป็นของผันแปรไม่แน่เลย สัญญาเคยอยู่ได้บ้างเป็นครั้งคราว ถ้ารู้เท่าธรรมดาทั้งห้าขันธ์ ใจนั้นก็ขาวสะอาดหมดมลทินสิ้นเรื่องราว ถ้ารู้ได้อย่างนี้จึงดียิ่ง เพราะเห็นจริงถอนหลุดสุดวิถี ไม่ฝ่าฝืนธรรมดาตามเป็นจริง จะจนจะมีตามเรื่องเครื่องนอกใน ดีหรือชั่วต้องดับเลื่อนลับไป ยึดสิ่งใดไม่ได้ตามใจหมาย ใจไม่เที่ยงของใจไหววิบวิบ สังเกตจับรู้ได้สบายยิ่ง เล็กบังใหญ่รู้ไม่ทัน ขันธ์บังธรรมมิดผิดที่นี่ มัวดูขันธ์ธรรมไม่เห็นเป็นธุลีไป ส่วนธรรมมีใหญ่กว่าขันธ์นั้นไม่แล
    ถามว่า มีไม่มี ไม่มีมี นี้คืออะไร ?
    ทีนี้ติดหมด คิดแก้ไม่ไหว เชิญชี้ให้ชัดทั้งอรรถแปล โปรดแก้เถิด ที่ว่าเกิดมีต่าง ๆ ทั้งเหตุผล แล้วดับไม่มีชัดใช่สัตว์คน นี้ข้อต้นไม่มีอย่างนี้ตรง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2008
  8. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    [​IMG]
    ข้อปลายไม่มี นี้เป็นธรรมที่ลึกล้ำไตรภพจบประสงค์ ไม่มีสังขาร มีธรรมที่มั่นคง
    นั้นแล องค์ธรรมเอก วิเวกจริง ธรรมเป็น ๑ ไม่แปรผัน เลิศภพสงบยิ่ง เป็นอารมณืของใจไม่ไหวติง ระงับนิ่งเงียบสงัดชัดกับใจ ใจก็สร่างจากเมาหายเร่าร้อน ความอยากถอนได้หมดปลดสงสัย เรื่องพัวพันขันธ์ห้าซาสิ้นไป เครื่องหมุนในไตรจักรก็หักลง ความอยากใหญ่ยิ่งก็ทิ้งหลุด ความรักหยุดหายสนิทสิ้นพิษหวง ร้อนทั้งปวงก็หายหมดดังใจจง
    เชิญโปรดชี้อีกอย่างหนทางใจ สมุทัยของจิตที่ปิดธรรม ?
    แก้ว่า สมุทัยกว้างใหญ่นัก ย่อลงก็คือความรักบีบใจอาลัยขันธ์ ถ้าธรรมมีกับจิตเป็นนิจนิรันดร์ เป็นเลิกกันสมุทัยมิได้มี จงจำไว้อย่างนี้วิถีจิต ไม่ต้องคิดเวียนวนจนป่นปี้ ธรรมไม่มีอยู่เป็นนิตย์ติดยินดี ใจตกที่สมุทัยอาลัยตัว
    ว่าอย่างย่อทุกข์กับธรรมประจำจิต เอาจนคิดรู้เห็นจริงจึงเย็นทั่ว จะสุขทุกข์เท่าไรมิได้กลัว สร่างจาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2008
  9. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    [​IMG]
    เครื่องมัวคือสมุทัยไปที่ดี รู้เท่านี้ก็คลายหายร้อน พอพักผ่อนเสาะแสวงหาทางหนี จิตรู้ธรรมลืมจิตที่ติดธุลี ใจรู้ธรรมที่เป็นสุข ขันธ์ทุกข์แท้แน่ประจำ ธรรมคงธรรม ขันธ์คงขันธ์เท่านั้น และคำว่าเย็นสบายหายเดือดร้อน หมายจิตถอนจากผิดที่ติดแท้ แต่ส่วนสังขารขันธ์ปราศจากสุขเป็นทุกข์แท้ เพราะต้องแก่ไข้ตายไม่วายวัน จิตรู้ธรรมที่ล้ำเลิศ จิตก็ถอนจากผิดเครื่องเศร้าหมองของแสลง ผิดเป็นโทษของใจอย่างร้ายแรง เห็นธรรมแจ้ง ถอนผิดหมดพิษใจ จิตเห็นธรรมดีล้นที่ผิด พบปะธรรมเปลื้องเครื่องกระสัน มีสติอยู่ในตัวไม่พัวพัน เรื่องรักขันธ์ขาดสิ้นหายยินดี สิ้นธุลีทั้งปวงหมดห่วงใย ถึงจะคิดก็ไม่ห้ามตามนิสัย เมื่อไม่ห้ามกลับไม่ฟุ้งพ้นยุ่งไป พึงรู้ได้บาปมีขึ้นเพราะขืนจริง ตอบว่า บาปเกิดได้เพราะไม่รู้ ถ้าปิดประตูเขลาได้สบายยิ่ง ชั่วทั้งปวงเงียบหายไม่ไหวติง ขันธ์ทุกสิ่งย่อมทุกข์ไม่สุขเลย
    แต่ก่อนข้าพเจ้ามืดเขลาเหมือนเข้าถ้ำ อยากเห็นธรรมยึดใจจะให้เฉย ยึดตวามจำว่าเป็นใจหมายจนเคย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2008
  10. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    [​IMG]
    เลยเพลินเชยชม "จำ" ทำมานาน ความจำผิดปิดไว้ไม่ให้เห็น จึงหลงเล่นขันธ์ห้าน่าสงสาร ให้ยกตัวอวดตนพ้นประมาณ เที่ยวระรานติคนอื่นเป็นพื้นไปไม่เป็นผล เที่ยวดูโทษคนอื่นนั้นขื่นใจ เหมือนก่อไฟเผาตัวต้องมัวมอม
    ใครผิดถูกดีชั่วก็ตัวเขา ใจของเราเพียรระวังตั้งถนอม อย่าให้อกุศลวนมาตอม ควรถึงพร้อมบุญกุศลผลสบาย เห็นคนอื่นเขาชั่วตัวก็ดี เป็นราคียึดขันธ์ที่มั่นหมาย ยึดขันธ์ต้องร้อนแท้เพราะแก่ตาย เลยซ้ำร้ายกิเลสกลุ้มเข้ารุมกวน เต็มทั้งรักทั้งโกรธโทษประจักษ์ ทั้งกลัวนักหนักจิตคิดโหยหวน ซ้ำอารมณ์กามห้าก็มาชวน ยกกระบวนทุกอย่างต่าง ๆ ไป
    เพราะยึดขันธ์ทั้ง ๕ ว่าของตน จึงไม่พ้นทุกข์ภัยไปได้นา ถ้ารู้โทษของตัวแล้วอย่าชาเฉย ดูอาการสังขารที่ไม่เที่ยงร่ำไปให้ใจเคย คงได้เชยชมธรรมะอันเอกวิเวกจิต ไม่เที่ยงนั้นหมายใจไหวจากจำ เห็นแล้วซ้ำดู ๆ อยู่ที่ไหว พออารมณ์นอกดับระงับไปหมดปรากฏธรรม เห็นธรรมแล้วย่อมหายวุ่นวายจิต จิตนั้นไม่ติดคู่จริงเท่านี้หมดประตู รู้ไม่รู้อย่างนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2008
  11. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    [​IMG]
    วิถีใจ รู้เท่าที่ไม่เที่ยง จิตต้นพ้นริเริ่ม คงจิตเดิมอย่างเที่ยงแท้ รู้ต้นจิตพ้นจากผิดทั้งปวงไม่ห่วง ถ้าออกไปปลายจิตผิดทันที
    คำว่ามืดนั้นเพราะจิตคิดหวงดี จิตหวงนี้ปลายจิตคิดออกไป จิตต้นดีเมื่อธรรมะปรากฏหมดสงสัย เห็นธรรมะอันเลิศล้ำโลกา เรื่องคิดค้นวุ่นหามาแต่ก่อน ก็เลิกถอนเปลื้องปลดได้หมดสิ้น ยังมีทุกข์ต้องหลับนอนกับกินไปตามเรื่อง ใจเชื่องชิดต้นจิตคิดไม่ครวญ ธรรมดาของจิตก็ต้องคิดนึก พอรู้สึกจิตต้นพ้นโหยหวน เงียบสงัดจากเรื่องเครื่องรบกวน ธรรมดาสังขารปรากฏหมดด้วยกัน เสื่อมทั้งนั้นคงที่ไม่มีเลย
    ระวังใจเมื่อจำทำละเอียด มักจะเบียดให้จิตไปติดเฉย ใจไม่เที่ยงของซ้ำให้เคย เมื่อถึงเอยหากรู้เองเพลงของใจ เหมือนดังมายาที่หลอกลวง ท่านว่าวิปัสสนูปกิเลส จำแลงเพศเหมือนดังจริงที่แท้ไม่จริง รู้ขึ้นเองหมายนามว่าความเห็น ไม่ใช่เช่นฟังเข้าใจชั้นไต่ถาม ทั้งตรึกตรองแยกแยะแกะรูปนาม ก็ใช่ความเห็นเองจงเล็งดู รู้ขึ้นเองใช่เพลงคิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2008
  12. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    [​IMG]
    รู้ต้นจิต จิตต้น พ้นโหยหวน ต้นจิตรู้ตัวแน่ว่าสังขารเรื่องแปรปรวน ใช่กระบวนไปดูหรือรู้อะไร
    รู้อยู่เพราะหมายคู่ก็ไม่ใช่ จิตคงรู้จิตเองเพราะเพลงไหว จิตรู้ไหว ๆ ก็จิตติดกันไป แยกไม่ได้ตามจริงสื่งเดียวกัน จิตเป็นสองอาการเรียกว่าสัญญาพาพัวพัน ำม่เที่ยงนั้นก็ตัวเองไปเล็งใคร ใจรู้เสื่อมของตัวก็พ้นมัวมืด ใจก็จืดสิ้นรสหมดสงสัย ขาดค้นคว้าหาเรื่องเครื่องนอกใน ความอาลัยทั้งปวงก็ร่วงโรย ทั้งโกรธรักเครื่องหนักใจก็ไปจาก เรื่องใจอยากก็หยุดได้หายหวนโหย พ้นหนักใจทั้งหลายโอดโอย เหมือนฝนโปรยใจ ใจเย็นเห็นด้วยใจ ใจเย็นเพราะไม่ต้องเที่ยวมองคน รู้จิตต้นปัจจุบันพ้นหวั่นไหว ดีหรือชั่วทั้งปวงไม่ห่วงใย ต้องดับไปทั้งเรื่องเครื่องรุงรัง อยู่เงียบ ๆ ต้นจิตไม่คิดอ่าน ตามแต่การของจิตสิ้นคิดหวัง ไม่ต้องวุ่นต้องวายหายระวัง นอนหรือนั่งนึกพ้นอยู่ต้นจิต
    ท่านชี้มรรคฟังหลักแหลม ช่างต่อแต้มกว้างขวางสว่างไสว ยังอีกอย่างทางใจไม่หลุดสมุทัย ขอจงโปรดชี้ให้พิสดารเป็นการดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2008
  13. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    [​IMG]
    คือ อาลัยรัก เพลินยิ่งนักทำภพใหม่ไม่หน่ายหนี ว่าอย่างต่ำกามคุณห้าเป็นราคี อย่างสูงชี้สมุทัยอาลัยฌาน ถ้าจับตามวิถี มีในจิต ก็เรื่องคิดเพลินไปในสังขาร เพลินทั้งปวงเคยมาเสียช้านาน กลับเป็นการดีไปให้เจริญจิตไปในส่วนที่ผิด ก็เลยแตกกิ่งก้านฟุ้งซ่านใหญ่ เที่ยวเพลินไปในผิดไม่คิดเขิน สิ่งใดชอบอารมณ์ก็ชมเพลิน เพลินจนเกินลืมตัวไม่กลัวภัย
    เพลินดูโทษคนอื่นดื่นด้วยชั่ว โทษของตัวไม่เห็นเป็นไฉน โทษคนอื่นเขามากสักเท่าไร ไม่ทำให้เราตกนรกเลย โทษของเราเศร้าหมองไม่ต้องมาก ส่งวิบากไปตกนรกแสนสาหัส หมั่นดูโทษตนไว้ให้ใจเคย เว้นเสียซึ่งโทษนั้น คงได้เชยชมสุขพ้นทุกข์ภัย
    เมื่อเห็นโทษตนชัดรีบตัดทิ้ง ทำอ้อยอิ่งคิดมากจากไม่ได้ เรื่องอยากดีไม่หยุดคือตัวสมุทัย เป็นโทษใหญ่กลัวจะไม่ดีนี้ก็แรง ดีแลไม่ดีนี้เป็นพิษผิดสำแลง ธรรมไม่แจงเพราะอยากดีนี้เป็นเดิม ความอยากดีมี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2008
  14. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    [​IMG]
    มากมักลากจิต ให้เที่ยวคิดวุ่นไปจนใจเหิม สรรพชั่วมัวหมองก็ต้องเติม ผิดยิ่งเพิ่มร่ำไปไกลจากธรรม ที่จริงชี้สมุทัยนี้ใจฉันคร้าม ฟังเนื้อความไปข้างนุงทางยุ่งยิ่ง เมื่อชี้มรรคฟังใจไม่ไหวติง ระงับนิ่งใจสงบจบกันที ฯ
    อันนี้ชื่อว่า ขันธวิมุติสะมังคีธรรมะ ประจำอยู่กับที่ ไม่มีอาการไปไม่มีอาการมา สภาวธรรมที่เป็นจริงสิ่งเดียวเท่านี้ และไม่มีเรื่องจะแวะเวียน สิ้นเนื้อความแต่เพียงเท่านี้ ฯ
    ผิดหรือถูกจงใช้ปัญญาตรองดูให้รู้เถิด ฯ
    พระภูริทัตโต ฯ (หมั่น)
    วัดสระประทุมวัน เป็นผู้แต่ง ฯ
    [​IMG]


    ขอขอบคุณ
    http://sangdham.8m.com/mun01.html

    *ผู้จัดทำเว็บไซท์ ได้รับหนังสือเล่มนี้มาพระแรมโบ้ เมื่อวันพุทธที่ ๒๑ มีนาคม๒๕๔๔ ที่สำนักสงฆ์ป่าเขมฺมโก อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ในวันนั้นได้เดินทางไปส่ง พระจรัญ ฐิตธมฺโม (จรัญ ไกรราช) ที่วัดถ้ำเขาน้อย บ้านทองหลาง ต.คอกควาย อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี เมื่ออ่านจบ มีความตั้งใจว่า ถ้าได้มีโอกาสทำเว็บไซท์ธรรมะ จะนำเรื่องนี้มาเผยแผ่บนอินเตอร์เน็ต ให้ผู้ที่สนใจใคร่ในธรรมได้อ่าน และศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้าที่หลวงปู่มั่นเป็นองค์เทศนา ขอให้ผู้ที่สนใจใคร่ในธรรม จงเป็นผู้มีดวงตาเห็นธรรม ในภพนี้ชาตินี้ ทุกท่าน เทอญ ฯ


    <TABLE cellSpacing=3 cellPadding=5 width="80%" align=center border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#999999 height=57>[FONT=AngsanaUPC, BrowalliaUPC, CordiaUPC]คำนำ[/FONT]
    [FONT=AngsanaUPC, BrowalliaUPC, CordiaUPC](โดยผู้จัดพิมพหนังสือ) [/FONT]




    </TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc>
    [FONT=CordiaUPC, AngsanaUPC, BrowalliaUPC]ประมาณเกือบ ๒๐ ปีมาแล้ว ที่ได้มีโอกาสเห็นรูปภาพของพระภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งแขวนอยู่หน้าห้องชุมนุมพุทธศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช เป็นภาพที่ท่านยืนสำรวมอยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง แรกเห็นก็ประทับใจยกมือไหว้ท่าน สืบถามได้ความว่าท่านคือ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จากนั้นได้อ่านประวัติ ข้อวัตรปฏิปทาขององค์ท่าน เกิดความเลื่อมใสศรัทธา เสมือนหนึ่งได้พบองค์จริงของท่าน แม้ขณะนี้ก็ได้มีโอกาสมาประพฤติปฏิบัติ (อย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ) ตามวัดครูบาอาจารย์ซึ่งก็อยู่ในสายขององค์หลวงปู่มาโดยตลอด จึงถือเสมือนองค์ท่านคือพ่อแม่ครูอาจารย์ของตนด้วย เมื่อได้อ่านหนังสือ "ขันธะวิมุติสะมังคีธรรมะ" ฉบับพิมพ์ครั้งแรก ส่วนหนึ่งเป็นข้อธรรมะที่องค์หลวงปู่เขียนด้วยลายมือของท่านเอง อีกส่วนหนึ่งเป็นคติธรรมคำสอนที่สันนิษฐานว่าเป็นขององค์ท่านด้วยเช่นกัน จึงคิดจัดพิมพ์ขึ้นเพื่อประโยชน์ในการร่วทรักษาธรรมะขององค์ท่านให้เป็นหลักฐานสืบต่อไป และทั้งเผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปที่สนใจด้วย ครั้นปรารภจะจัดพิมพ์ ก็ได้กลุ่มกัลยาณมิตรช่วยดำเนินการให้ ตั้งแต่การจัดพิมพ์ต้นฉบับ การจัดหน้า ตลอดทุกขั้นตอนของการจัดพิมพ์ จนสำเร็จลุล่วงด้วยความเรียบร้อย ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาแด่กลุ่มกัลยาณมิตร อันได้แก่ คุณพรสิทธิ์ อุดมศิลป์จินดา คุณวราพร ลาภบริสุทธิ์ศักดิ์ และ คุณรัตนา พระยาน้อย ตลอดจนเจ้าหน้าที่ในสำนักพิมพ์ที่มีส่วนในความสำเร็จของหนังสือเล่มนี้ทุกท่าน[/FONT]
    [FONT=CordiaUPC, AngsanaUPC, BrowalliaUPC]ขออานุภาพคุณพระรัตนตรัย จงดลบันดาลให้ทุกท่านที่กล่าวมาแล้ว และผู้ที่เข้ามาศึกษาธรรมะนี้ จงเข้าถึงธรรมเพื่อเป็นที่พึ่ง ที่ระลึก ที่รักษาตน ตลอดจนถึงความพ้นทุกข์ด้วยกันทุกท่าน เทอญ ฯ[/FONT]
    [FONT=CordiaUPC, AngsanaUPC, BrowalliaUPC]ผู้จัดทำ[/FONT]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2008
  15. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    หนังสือสุทธิแสดงสถานะเดิม ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    และฟันปลอมที่ท่านใช้

    [​IMG]

    ขอขอบคุณ http://www.84000.org/supatipanno/status.html
     
  16. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    เรื่อง ความไม่แน่นอน

    2 วันมานี้ นอนป่วยเลย ก็ยัง งง อยู่
    อาหารก็กินดีๆ ไม่มีอะไร แต่ท้องเสีย เฉยเลย
    เมื่อวาน ก็ ปวดหัวข้างเดียว จนต้องลางาน 2.5 ชั่วโมง

    ชีวิตเนี้ย ไม่แน่นอน เอาเลยจริงๆ นะครับ

    ผมจึงเสนอว่า ให้หมั่น ทำบุญ ทำทาน นะครับ
    แบบของการทำบุญทำทาน ก็มีหลายๆ แบบ
    ฟังธรรมะ จาก MP3 ก็เป็นบุญนะครับ
    เสริมปัญญา เสริมสติ ไม่ต้องใช้สตางค์มาก mp3 ก็มีแจกกันในกระทู้
    อื่นๆ นะครับ

    บางครั้ง พระที่ผมพอมีบ้าง ก็แบ่งไปทำบุญบ้าง ถึงจะน้อย
    ก็พอแบ่งได้ เพื่อเป็นบุญกุศลต่อไป

    เงินทำบุญก็ทำมาเรื่อยๆ ทุกเดือน ในแบบต่างๆ นะครับ

    เพราะ กายไม่ใช่ของเรานะครับ

    แล้วจะเอาอะไรที่แน่นอนครับ

    นอกจากความดี เพื่อเราจะเอาดีครับ

    สาธุครับ
     
  17. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +4,291
    กราบขอบพระคุณและโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้บริจาคให้กับทางทุนนิธิฯด้วยครับ โมทนา สาธุ โมทนา สาธุ โมทนา สาธุ ขอแจ้งเพิ่มเติมดังนี้
    คุณแม่ เลี่ยม โพธิวรรณ (คุณแม่พี่สิทธิพร) 1,000 บาท
     
  18. 16

    16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +419
    จริงแท้ครับ อย่าว่าแต่กายเลยครับ แม้แต่ " จิต " ก็ไม่ใช่ของเราครับ...ขอให้หายไวๆน่ะครับ คุณ chaipat


    อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ร่วมกันทำบุญด้วยครับ สาธุ ^-^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2008
  19. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ผมก็ขอขอบคุณ คุณ 16 ครับ

    แต่จิตก็ไม่ใช่ของเราเนี้ย ผมก็ไม่รู้ว่า จะเข้าใจได้ตรงไหมนะครับ


    เข้าใจว่า จิตนั้น อยู่ในอารมณ์เป็นกลาง มีสมาธิ ไร้อุปทาน

    ไร้การยึดติด (ไม่ติดอดีต ไม่ติดอนาคต มีปัจจุบันขณะนั้น รู้และวางอุเบกขา)

    และปราศจากนิวรณ์ 5 ตัวด้วยครับ

    (นิวรณ์ 5 อกุศลธรรมที่คอยทำลายล้างความดี ก็มีนิวรณ์ 5 คือ
    1. กามฉันทะ ความพอใจในรูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัส อันเป็นวิสัยของกามารมณ์
    2. พยาบาท ความผูกโกรธ จองล้างจองผลาญ
    3. ถีนมิทธะ ความง่วงเหงาหาวนอน ในขณะเจริญสมณธรรม
    4. อุทธัจจกุกกุจจะ ความคิดฟุ้งซ่าน และความรำคาญหงุดหงิด
    5. วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัยในผลของการปฏิบัติ ไม่แน่ใจว่าจะมีผลจริงตามที่คิดไว้หรือไม่เพียงใด )
    และที่สำคัญรับรู้ การเข้ามาของสิ่งภายนอก ทางอายตนะที่ 6 อย่างเป็นจริง

    และจิตนั้นไม่วอกแวก ยังคงทรงอารมณ์ใจได้ครับ

    สาธุครับ
     
  20. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,789
    ค่าพลัง:
    +16,101
    นั่งดูสงครามในหัวข้อพระเครื่อง-วัตถุมงคล ในเวบพลังจิตนี้ ที่กล่าวถึงพระนอกวงการ หรือวงการไม่ยอมรับ กับพระเซียนเล่น สู้กัน แล้วจะบอกว่าเพลินหรือสนุก ก็บอกว่าไม่ใช่ทั้ง 2 อย่าง เพราะพระที่ทุนนิธิฯ แจก ก็อยู่ในประเภทนอกวงการ หรือวงการไม่ยอมรับเช่นกัน เพราะหากทุนนิธิฯ นี้นำพระที่วงการยอมรับ หรือเซียนเล่นกันมาแจกฟรี หมดปัญญาจริงๆ ที่จะทำได้ คงเอาแต่พระประเภทแรก นำมาให้ฌาณลาภีบุคคล คือพี่ใหญ่ ขออาราธนาบารมีท่านองค์ใหญ่ท่านลงมาเสกให้ แล้วก็แจกฟรี แต่รับรองได้อย่างหนึ่งก็คือ ไม่มีตามแผงแบกะดินแน่นอน แต่เป็นพระที่ผู้ขายเก็บไว้ต่างหาก เพราะรู้คุณค่า และรู้ว่าใครเสกมาก่อน และนำมาจากที่ใด ผงปูนเพชรที่ใช้ทำพระจะไปหาที่ไหนได้ ถึงทำได้ก็ไม่คุ้มกับราคาที่ผมเคยบูชามา ยิ่งพระหลวงปู่บรมครูฯ (หลวงปู่ใหญ่ฯ)ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไปเดินหาเถอะ ส่วนใหญ่เป็นกรุใหม่ หรือปลอมเลยก็มีแต่นี่ท่านผู้ให้ท่านเก็บไว้เป็นสิบปี ที่สำคัญก็คือหากนำพระนั้นมาหากินจริงๆ ก็คงไม่ใช่พวกเราคณะกรรมการทุนนิธิฯ แน่นอน ฝึกปฏิบัติกันมาตั้งนานเพื่อหนีอบายภูมิ ซึ่งถ้านำพระที่ไม่มีคุณภาพหรืออิทธิคุณที่สามารถคุ้มครองเรา หรือให้ความเจริญมาให้พวกเราและครอบครัวแล้ว "นรก" หรือ "อบายภูมิ" คงเป็นที่อยู่ของพวกเราทั้งคณะโดยแท้ เลยต้องวางตัวเป็นกลางไว้ก่อน เอางานช่วยพระสงฆ์ที่ท่านอาพาธรอความช่วยเหลือเป็นหลักก่อน นอกจากจะไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องเอากับเขาบ้าง เพราะคงปฏิเสธไม่ได้ว่า พระที่แจกให้ในชุดแรกเมื่อตอนเปิดกระทู้เป็นพระในกลุ่ม "วังหน้า" แต่เป็นการสร้างโดยท่านเจ้าคุณกรมท่า (ท้วม บุนนาค) ในสมัย ร.5 ด้วยเช่นกัน และพระที่คณะฯ ตั้งใจที่จะแจกในคราวหน้าที่เป็นพระ"กำลังใจ 1" ก็เป็นพระพิมพ์สกุลปัญจสิริ ที่เป็นพิมพ์มาตรฐานซึ่งเป็นพระพิมพ์สมเด็จในกลุ่มวังหน้าเช่นกัน
    ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงผมคิดว่า ผมและคณะฯ ก็คงต้องรักษาเกียรติยศ และพระเกียรติให้ท่านผู้สร้างคือท่านเจ้าคุณกรมท่า และท่านผู้อธิษฐานบารมีคือ ท่านหลวงปู่ใหญ่ฯ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ (โต) มิให้ท่านต้องเสื่อมเสียด้วยเหมือนกัน

    เมื่อถึงคราวนั้น หวังว่าพวกเราคงเอาใจช่วยคณะกรรมการฯ ด้วยน๊ะครับ

    พันวฤทธิ์
    10/5/51
     

แชร์หน้านี้

Loading...