เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ย้อนเกร็ด-เพชรในตม
'แก้วสารพัดนึก'-วัดสัก
===============

นาม "วัดสัก" เป็นของเก่าตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ราวปี 2310 ส่วนปัจจุบันคือ "วัดเสาธงหิน"!

วัดตั้งอยู่ที่ท่าน้ำบางใหญ่ นนทบุรี ไม่ไกลจากเมืองหลวง อดีตนั้น เป็นสถานที่พักทัพ ชุมนุมพลของ "พระเจ้าตาก" เมื่อคราวระดมพลกู้กรุงที่เสียให้กับพม่า เมื่อท่านผ่านมาวัดนี้เห็นทำเลเหมาะ มีต้นไม้ร่มรื่นสมชื่อ 'วัดสัก' ก็พักทัพปรับเสบียงและปักธงทัพเอาไว้ ด้วยการใช้ก้อนหินมาสุมๆเป็นฐานเพื่อให้ธงเป็นที่สังเกตเห็น

กาลต่อมาหลังจากกู้อิสรภาพสำเร็จ กองหินที่เป็นเครื่องหมายปักธงชุมนุมพลยังคงอยู่ ชาวบ้านจึงเปลี่ยนชื่อวัดเป็นศิริมงคลรำลึกเหตุการณ์ในเสี้ยวประวัติศาสตร์ครั้งนั้นว่า...วัดเสาธงหิน!

ประวัติศาสตร์วัด ประวัติศาสตร์เมืองของบ้านเรา จึงควบคู่กันไปเสมอ สมดังที่กล่าวกันว่า "วัดคู่บ้าน พระคู่เมือง" มาแต่นมนานกาเล ไม่มีทางแยกออกจากกัน วัดเป็นที่พึ่งทางใจของชาวบ้าน พระสงฆ์ที่ดีก็อนุเคราะห์รับใช้ชาวบ้านตอบแทนข้าวน้ำ-อาหารที่พวกเขาแบ่งส่วนดีที่สุดให้ เพื่อทำนุบำรุงผู้สืบทอดพระศาสนา

วัดเสาธงหินมีเนื้อที่ 9 ไร่เศษ เป็นวัดที่สร้างโบสถ์ด้วยศิลาแลง ซึ่งอาจจะเป็นวัดแรกของชานเมืองหลวง ในปี 2518 ได้มีการบูรณะครั้งใหญสำหรับอุโบสถเก่าแก่แต่ครั้งกรุงศรีฯ โบสถ์ประวัติศาสตร์แห่งนี้

การบูรณะต้องใช้ทุน ไม่มีอะไรดีที่สุดเท่ากับออกวัตถุมงคลให้กับผู้บริจาคทรัพย์ ซึ่งทางวัดก็ได้สร้างเหรียญ 2 แบบคือ...

เหรียญพระแก้วมรกตรูปไข่ใหญ่ เรียกชื่อว่า "แก้วสารพัดนึก" และอีกแบบเป็น ไข่ใหญ่แบบป้อมเป็นรูปอดีตเจ้าอาวาส"พระครูธรรมโกศล-โต"ซึ่งมีชื่อพ้องกับพระประธานองค์สำคัญในโบสถ์ "หลวงพ่อโต" โดยมี พระครูนนทปัญญาภรณ์ เจ้าอาวาสเวลานั้นเป็นผู้ดำเนินงาน

พิธีพุทธาภิเษก กระทำกันยิ่งใหญ่ไม่น้อยหน้าแห่งใดถึง 3 วัน 3 คืน แม้เป็นวัดชานกรุงแต่ได้นิมนต์พระสงฆ์องค์สำคัญมาเพียบหลายสิบรูป

--หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
...(ประธานปลุกเสก)
--หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
--หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
--หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส
--หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง(นนท์)
--ลพ.ทองสุข วัดสะพานสูง(นนท์)
--ลป.เหรียญ วัดบางระโหง(นนท์)
--ลพ.ทองอยู่ วัดใหม่หนองฯ
--พระครูนนทปัญญาภรณ์
=======ฯลฯ=======

จะเห็นว่า นี่เป็น "เพชรในตม" ระดับ 'เหรียญดี-ปีลึก-เกจิยอด- พิธีเยี่ยม' ไม่น้อยหน้าเหรียญดังๆหนแห่งไหน แต่เป็นเหรียญที่ตกอยู่ในพื้นที่มาก ไม่ค่อยกระเซ็นออกมาให้เห็นมากนัก การแลกเปลี่ยนพุทธพาณิชย์ จึงอยู่หลักร้อย แต่ราคา"พุทธคุณ" สูงลิบลิ่วเกินกว่าหลักล้าน อุดมด้วยความสวยงาม บริสุทธิ์ผุดผ่องของการพระศาสนา สมควรนำมา "ย้อนเกร็ด-เพชรในตม" เป็นความรู้ดูเพลิน อ่านก็สนุกพอประมาณ แถมเกร็ดประวัติศาสตร์ให้เรียนรู้ไปในตัว ไม่ต้องมี "มหาเทพนิยายปกรณัม" (นิยายกริม) มาเสริมเรื่องอภินิหารเพื่อขายพระ

ชม 2 เหรียญวาระสร้างโบสถ์ศิลาแลงของชานกรุง...

เหรียญพระแก้วมรกต รุ่น " แก้วสารพัดนึก" แน่นอนว่า "หลวงปู่โต๊ะ" บรรจุด้วยพระพุทธคุณ "แก้วสารพัดนึก" ซึ่งใช้ประจำตัวอย่างเชี่ยวชาญ เป็นเหรียญเนื้อทองแดงผิวไฟบางๆใช้วิธี 'รมร้อน' ในยุคนั้น เมื่อกาลเวลาผ่านไปเกือบ 50 ปี ผิวท่านก็กลับ กลายเป็น"ผิวหิ้ง" สุดแสนคลาสสิคอย่างที่เห็น เหรียญนี้ญาติผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงซึ่งเป็นคนพื้นที่ทำบุญจากวัด แบ่งให้มาเมื่อปี 2525 บอกว่ารับกับมือหลวงปู่ ก็ไม่แน่ใจว่าหลวงปู่รูปใด?...เก็บไว้บูชาเพราะมีประวัติศาสตร์น้อยๆให้เก็บไว้เล่า ดีที่สุด!

พระแก้วมรกตเครื่องทรงฤดูรัอน เหรียญตอกโค้ตที่ด้านขวามือเรา (ใต้เข่าองค์พระ)เด่นชัด

ด้านหลังอันอุดมด้วยมหายันต์ตั้งแต่แถวบน "อะสังวิสุโลฯ" ว่าไปเรื่อยรอบเป็นวงกลม รอบในก็เป็นมหาลาภด้วยพร...'มหาลาโภ ชัยยะลาโภ สัพพะลาโภ ภะวันตุเม' เป็นอันแน่ใจได้ว่า สร้าง-เสกให้เป็น "แก้วสารพัดนึก" แห่งโชคลาภโภคทรัพย์ โภคผลโดยแท้ อย่าได้สงสัย

เหรียญที่วางกับกล่องนานๆ ด้านหลังแห้งเป็น "ผิวหิ้ง" แบบนี้ ถ้าเป็นเหรียญดังๆแต่ดูไม่เป็นไม่รู้ว่าเก๊หรือแท้?...เจอะสภาพอย่างที่เห็น คว้าเข้ากระเป๋า จ่ายตังค์ได้เลย ไม่ต้องมัวส่องกล้องรอให้ใครมาแย่งตัดหน้า

นี่คืออีกหนึ่งเคล็ดลับที่นักเล่นระดับปลาเก๋าราดพริกไม่ค่อยบอกกล่าวหรือสอนกัน เป็นหนึ่งในเคล็ดวิธีดูเหรียญแท้ตาเปล่าไม่เกิน 3-5 วิฯ ได้แต่ห้ามว่า "อย่าล้าง" !...(ยกเว้นดูเป็น ดูขาด และสกปรกมากเกินควร)

รูปไข่ใหญ่แต่ไม่เทอะทะ ขอพรและบารมีสูงส่งแห่ง "พระแก้วมรกต" องค์พระปฏิมากรคู่บ้านคู่เมือง แลเหล่าอริยสงฆ์ผู้อุดมคุณวิเศษครบถ้วน จงประสิทธิ์สัมฤทธิ์ผลท่านผู้อ่านและสมาชิกทุกท่าน ประสบแต่ความสำเร็จทุกด้าน ดั่งมี "แก้วสารพัดนึก" ในมือทุกเมื่อเทอญ

ต่อไปก็จะเป็นเหรียญที่สร้างพร้อมกันพิธีเดียวกันของวัด ซึ่งเป็นเหรียญสวยงาม เนื้อทองแดงผิวไฟ จะนำมาให้ร่วมบุญสัก 1 เหรียญ รอชมอีกสักพัก

 

หลวงพ่อโต-วัดเสาธงหิน
"ปู่โต๊ะ-พ่อสุด"เสก-ปี18
===============

สร้างพร้อมเหรียญ "แก้วสารพัดนึก" พิธีใหญ่ 3 วัน 3 คืนด้วยกัน วัดเสาธงหิน นนทบุรี ปี18 รายละเอียดอ่านได้ที่ "ย้อนเกร็ด-เพชรในตม" ด้านบน

เหรียญหลวงพ่อโต ทองแดงผิวไฟ รักษาดียังแดงแปร็ดบาดใจ ให้ร่วมบุญวัตถุมงคลประวัติสุดติ่ง เข้าตำรา...'เหรียญดี ปีลึก พิธียอด เกจิเยี่ยม'...

=======700=======

พระครูธรรมโกศล(โต)อดีตเจ้าอาวาสวัดเสาธงหิน เหรียญออกแบบสวยงาม มอบผู้ร่วมทำบุญสร้างอุโบสถศิลาแลงในปี 18

หลังพระปิดตา กับสัญลักษณ์ "จปร." ที่ติดหน้าบันโบสถ์ แสดงว่าได้รับพระบรมราชานุญาตมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว "พระปิยมหาราช" สมเป็นวัดเก่าโบราณจากยุคกรุงศรีอยุธยา

พระคาถาด้านข้าง..."อุดธังอัดโธ มะอะอุ โธอัดธังอุด"
ยืนยันเป็นเหรียญแนวมหาอุตม์ตามรูปพระปิดตา ตอกโค้ตสวยงามด้านล่างขวามือเรา โค้ตตัวเดียวกับเหรียญ'แก้วสารพัดนึก'

ขนาดและความงามของเหรียญไข่ออกลักษณะป้อม

เทียบความงามกับเหรียญแก้วสารพัดนึก เดิมๆไม่ผ่านการใช้ทั้งคู่

 

แจ้งโอนร่วมบุญเรียบร้อยแล้วครับ โมทนาสาธุครับ

 

ก่อนนอนเข้ามาโมทนาโอนปัจจัยของน้องสกายฯ บุญง่ายๆไม่ยุ่งยาก และทำให้นอนหลับฝันดีมีความสุข ตื่นมาพบแต่สิ่งที่ดีของชีวิตทุกวัน ก็ต้องย้ำอีกรอบ จัดส่งท่านเดินทางวันจันทร์ครับ

 

วันที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๙ ปีขาล
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

บุญเช้า อนุโมทนาบ่าย
เปลี่ยนเป็นร่ายอักษรกวี...

เข้าคิวรอ.......ต่อเติมบุญ
พรพระหนุน...คุณหมานุด
หยุดเห่าหอน..พรพิสุทธิ์
ชาติหน้ามุด...หลุดเป็นคน!

 

ย้อนเกร็ด-เพชรอีสาน
@"หลวงปู่มั่น ทัตโต"@
สมเด็จแหวกม่านจัมโบ้
===============

พระที่สร้างเพียง 99 องค์ตามอายุวัฒนะ หลวงปู่มั่น ทัตโต เทพเจ้าแห่งสามเหลี่ยมมรกต หรืออีกนัย "เทพเจ้าแห่งนาจะหลวย" อุบลราชธานี เมืองดอกบัวงาม เพชรอีสาน!

อริยสงฆ์วัยเกิน100 ผ่านพ้นแผ่นดินเลือด เดือดปุดเป็นสีชมพูล่วงเป็นสีแดงนับแห่งไม่ถ้วนในยุค"ไทยฆ่าไทย" และท่านอยู่บนผืนดินแห่งความขัดแย้งรุนแรงที่สุดแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ร้าวฉานของประเทศ !

หากด้วยพระมหาบารมี อำนาจพระพุทธคุณสูงส่งปกป้องรวมทั้งความเมตตาในตนอันไม่มีประมาณ ไม่ยึดถือเทือกเถาเหล่ากอ ไม่เข้าข้างฝ่ายใดว่าผิดฤาถูก หลวงปู่มั่น ทัตโต จึงเดินทางผ่านกาลเวลา เป็นอริยสงฆ์ 5 แผ่นดินได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ เมื่อได้ติดตามประวัติหลวงปู่อย่างละเอียด

หลวงปู่มั่น ในสมัยที่ยังทรงสังขารแข็งแรง เป็นพระสงฆ์ที่ถือ "ธุดงควัตร" เข้มแข็ง ดังประหนึ่ง "พระมหากัสสปะเถระเจ้า" พระอรหันต์อัครสาวกลำดับที่ 3 หรือรูปที่3 ในพระพุทธองค์หลังจากทรงประกาศพระศาสนา...พระมหากัสสปะเถระผู้เป็นเอตทัคคะในด้านธุดงควัตร ปฏิบัติตนเป็นนิตย์ดั่งนี้-;

--1..ใช้แค่ผ้าบังสุกุลหรือผ้าเก่าที่เขาทิ้ง
--2..มีผ้า 3 ผืนไตรไจรวรเป็นวัตร
--3..บริโภคเฉพาะที่บิณทบาตเท่านั้น
--4..บิณทบาตตามลำดับ
--5..ฉันในอาสนะเดียว ประกอบด้วย
---นั่งฉันหนเดียว
---ฉันวันละหนึ่งครั้ง
--6..ฉันในบาตร อาหารเทรวม
--7..รับบาตรเสร็จแล้ว ไม่รับอะไรอีก
--8..อยู่ป่าเป็นวัตร
--9..อยู่โคนต้นไม้เป็นวัตร
-10..อยู่กลางแจ้ง ไม่เข้าที่มุงบัง
-11..อยู่ป่าช้าเป็นวัตร
-12..อยู่ในเสนาสนะที่เขาจัดให้เท่านั้น
-----ใครขอให้สละที่พัก-สละได้ทันที
-13..ยืน เดิน นั่ง ไม่เอาหลังสัมผัสพื้นเลย

หลวงปู่มั่น ทัตโต ผ่านพ้นวิถีธุดงควัตรอย่างเอกอุช่ำชองและโชกโชน ดังนั้นไม่ต้องสงสัยว่า ทำไม หลวงปู่จึงเก่งและศักดิ์สิทธิ์รอบด้านระดับ "พระปัจเจก"

การเขียนแบบนี้ หากไม่มีหลักฐานให้เห็น ก็เหมือนเขียนเชียร์พระในยุคที่มีแต่การโฆษณาประชาสัมพันธ์ไร้สาระของนักขายพระนักเล่านิทานโกหกยิ่งกว่าเด็กเลี้ยงแกะ...

ดังนั้นจึงขอนำภาพบางส่วน จากหนังสือเด่นที่สุดที่อาจจะเหลืออยู่เล่มเดียวในโลกนี้มาประกอบเรื่องการถือ"ธุดงควัตร"ของหลวงปู่ก่อนย่างเข้าวัยชรา ได้รับอาราธนามาอยู่วัด

หนังสือเล่มนี้ ตีพิมพ์ตั้งแต่ พ.ศ.2498 อายุเกือบ 70 ปี ในยุคที่คนไทยแทบจะไม่รู้หรือได้เรียนหนังสือเลย และการพิมพ์หนังสือเผยแพร่ก็เหมือนเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่หลวงปู่มั่นถูกยกย่องและตีพิมพ์ด้วยหนังสือบนแผ่นดินอีสานได้อย่างน่าอัศจรรย์

****ขอขอบพระคุณภาพประกอบจากเพจ และเจ้าของหนังสือ ซึ่งได้ถ่ายทอดให้เห็นชื่อเจ้าของ+เพจที่นำลงตามภาพ***

เจ้าของหนังสืออารัมภบทไว้ก่อนลงภาพ สำหรับแฟนๆชาวที่ราบสูงซึ่งมีมากมายในกระทู้คงทราบความและแปลได้อย่าง สบม.

หน้าปกเก่างั่ก คร่ำคร่าน่ากลัวเปื่อยคามือ ต้องขอยกย่องชมเชยผู้เก็บรักษาที่สามารถนำกระดาษไม่มีคุณภาพจาก 60 กว่าปีที่แล้ว หลุดรอดมาถึงวันนี้ จะเห็นพ.ศ.ที่ระบุชัดเจน 2498...

--ชื่อบนปกคือ...ธุดงค์กรรมฐาน
--ระบุนามชัด พระอาจารย์มั่น ทัตโต

ปกอีกส่วนหนึ่ง ที่เจ้าของบอกว่า ทำสำเนาไม่ได้หนังสือจะพัง ชมกันพอสังเขปเพียงนี้ ให้รู้ว่า "หลวงปู่มั่น ทัตโต" นั้นเป็นเจ้าแห่ง"ธุดงควัตร" รูปหนึ่งเมืองไทย เป็น "พระป่า-มหานิกาย" ที่เกรียงไกรน่ายกย่องที่สุด ไม่แพ้สาย "พระป่ากรรมฐาน-ธรรมยุติ" ในยุคเดียวกันที่นำทัพโดย "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" ปรมาจารย์กองทัพธรรมซึ่งเป็นสหายของท่าน

รับทราบอีกมิติหนึ่งของหลวงปู่นอกเหนือจากที่เคยทราบกันมากมายจากกระทู้นี้ตลอดมาแล้ว ก็ขอเชิญชม..."เพชรอีสาน" พระดีหนึ่งเดียวของหลวงปู่ที่สร้างในปี 19-20 ในช่วงอายุ 99-100 ปี

ด้วยวาระมงคลและความพิเศษของวาระนี้ จึงสร้างได้เพียง 99 หรืออาจจะมีแค่ 100 องค์เท่านั้น

"พระสมเด็จแหวกม่าน พิมพ์จัมโบ้ หลวงปู่มั่น ทัตโต"!!!

นำมาให้ชมพร้อมกับกล่องเดิมๆ จะใช้วิธี "ภาพเล่าเรื่อง" กระเดื่องเดชดังเคย ไม่มีน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งลอยแพ แลแล้วแสนจะน่าเบื่อหน่าย...

พระสมเด็จแหวกม่าน จัมโบ้ เนื้อว่าน 108 ผสมใบลานเผาและเนื้อผงพุทธคุณอื่นๆ ว่านมหาเดช มหาฤทธิ์ มหาเมตตา มหาโชคลาภ ฯลฯ ที่หลวงปู่สะสมไว้จากการเดินธุดงค์ตลอดชีวิตถูกนำมาบดละเอียดผสมเป็นเนื้อเดียวกับเนื้อหาผงมงคลอื่นๆ ทั้งยังมี "เนื้อผงว่านยาอายุวัฒนะ" เป็นองค์ประกอบลงไปด้วย อาจไม่โด่งดังเหมือน "ผงยาวาสนา" หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว แต่ก็แจ๋วที่สุดของแดนอีสาน

อีกมวลสำคัญก็คือ "พระเกศาธาตุ" ที่หลวงปู่ใส่ลงไปมากมายทั้งขาว-ดำ บรรจุอยู่ในองค์สมเด็จหน้า-หลัง-ข้าง เห็นเกือบทุกเส้นชัดเจน สำหรับองค์นี้ ด้านหน้ามีนับสิบเส้น

"การปลุกเสก"....หลวงปู่อธิษฐานจิตเดี่ยว ก่อนนำไปวัดหนองป่าพง มอบ "หลวงปู่ชา" ยอดอริยแดนอีสานอีกรูปซึ่งเป็นสหธรรมิกรุ่นน้องนับถือหลวงปู่มาก อธิษฐานจิตซ้ำอีกครั้ง เป็นพระสมเด็จแหวกม่าน ที่อลังการงานสร้าง-เสก สมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งพระชุดนี้จะพบเห็นเฉพาะ พิมพ์แหวกม่าน-ธรรมดา" ทั่วไป รวมทั้ง "พิมพ์แหวกม่าน-หลวงปู่ชา" วัดหนองป่าพงที่สร้างได้คล้ายๆกัน

พิมพ์จัมโบ้ตามตัวอย่าง เปิดในเว็บประมูลใหญ่ทุกเว็ป รวมทั้งเพจพระเครื่องเมืองอุบล-เมืองอีสาน ที่ว่าเป็นเพจดังและดีมีคนเข้าชมใช้บริการมาก พบเจอรวมกันทุกเพจ ไม่เกิน 3 องค์!!!

ราคาก็ว่ากันตามใจชอบ ตั้งแต่หลักพันกลาง-ถึงหมื่น ตามสภาพความงามขององค์พระ เพียงแต่ไม่มีของหมุนเวียนให้นักสะสมบูชาได้เห็นเท่านั้น

ด้านหลัง "เส้นพระเกศา-หลวงปู่" เพียบ!...เส้นยาวเห็นชัดไม่แพ้ด้านหน้า นับรวมแล้วกว่าสิบเส้น บางเส้นก็ตกผลึกเป็นพระธาตุ จะเห็นรอยจารแผ่วเบาลายมือหลวงปู่ ในพิมพ์จัมโบ้ เกือบทุกองค์ เป็น'จารแห้ง" คือจารหลังจากเนื้อพระแห้งแข็งแกร่งแล้ว จึงติดน้อยบ้าง มากบ้าง สำหรับองค์นี้ เห็นเพียงเลือนลาง แต่เป็นองค์จัดว่าสวยงามระดับ"แชมเปี้ยนอีสาน" เพราะอยู่ในกล่องเดิมตั้งแต่ออกจากวัด ไม่มีส่วนใดสกปรกสึกหรอชำรุดแม้น้อยนิด!
แน่ละ...องค์พระจัมโบ้ ด้านข้างจึงต้องใหญ่หนา จับวางได้ไม่ต้องมีตัวช่วย สวยงามเรียบร้อยทุกด้าน
ให้เห็นภาพหายสงสัย...'จัมโบ้"ขนาดไหน? ก็เท่ากับกล่องไม้ขีดไฟพญานาคพอดิบพอดีนั่นแหละ ลองกดขยายภาพดูก็ได้ ส่วนอีกภาพ เป็นกล่องเดิม รักษาคู่กันมาเก่าเก็บ

ปิดท้ายสำหรับ "เพชรอีสาน" เมืองดอกบัวงามตัวจริง เสียงจริงที่ไม่ต้องกังขา หานิทานมาเล่าประกอบ เขียนกวีประกอบก็พอ...

ไหว้แหวกม่าน....บ่ย่านไผ
อุปสรรคใด.....ไหนหักหาญ
ผ่านพ้นหนัก..ตักตวงต้าน
พิบัติพาล....รอนราญรา
--หลวงปู่มั่น...มาดมั่นคง
--เทียวธุดงค์..ปลง'เบกขา
--กายาพับ.....ดับตัณหา
--สู่มรรคา.....อวิชาสูญ!

หมายเหตุ...รอนราญ=การต่อสู้
........'เบกขา = อุเบกขา

บารมี หลวงปู่มั่น ทัตโต ปกปักรักษาคุ้มครองสมาชิกมีความสุขร่มเย็น มั่นคง ทุกท่านเทอญ !

 

"พระสิวลี-หลวงปู่มั่น"
เพชรน้ำหนึ่งแดนอีสาน
===============

เนื้อดิน 7 ป่าช้าที่ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ หนึ่งในข้อ "ธุดงควัตร"ของยอดภิกษุที่ถือในยามธุดงค์ปฏิบัติธรรมชนิดตายเป็นตายก็คือ...

--นอนในป่าช้า!!!

หลวงปู่มั่น ทัตโต ก็ปฏิบัติเยี่ยงนี้เป็นนิจ ตราบจนชราภาพมาก ท่านจึงปักหลักสร้างวัดโนนเจริญ ทำให้แถบถิ่นนั้นเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาด้วยบารมียิ่งใหญ่ของท่าน สมฉายานาม "เทพเจ้าแห่งนาจะหลวย" ที่ผู้คนพร้อมใจกันตั้งให้ มิใช่ยกย่องกันเอง เออเองของลูกศิษย์ที่ขายพระ

พระเนื้อดิน 7 ป่าช้า ชุดใหญ่ที่ท่านสร้างฝากไว้ในแผ่นดินปี 21 จึงเป็นชุดเหมาะสมกับวัตรปฏิบัติอย่างที่สุด ไม่มีพระรูปใดเวลานั้นจะสร้างได้ดีเท่านี้อีกแล้ว

มอบ "พระสิวลี ดิน 7ป่าช้า" ซึ่งเป็นองค์เอก องค์ครูมีเส้นเกศาธาตุของท่านเพียบ ไม่รวมปฐวีธาตุ โลหะธาตุต่างๆที่ใส่ลงไปกระทั่งแม่เหล็กดูดติด ทั้งที่ 45 ปีที่แล้ว ไม่มีใครอุตริคิดเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ความพิเศษของมวลธาตุ ความศักดิ์สิทธิ์แห่งการเสก องค์ประกอบของดิน 7 ป่าช้าที่มีแร่ธาตุพิศดารผสมเหลือคณา จึงกระทำสิ่งเหนือโลกที่วิทยาศาสตร์หาคำตอบไม่ได้เหล่านี้ขึ้นมา

=======2,500=======

เกศาธาตุพิเศษสุด ที่หน้าอกเส้นขาวยาวมาก ที่ด้านข้างและกลางองค์ เส้นดำบ้าง ขาวบ้าง เห็นชัดเจน ไม่มีองค์ใดที่มีอยู่ในความครอบครอง มวลธาตุมากเท่าองค์นี้อีก จัดสรรให้เป็นพิเศษ สำหรับเอกอรหันต์แห่งโชคลาภ โภคผลโภคทรัพย์ ที่แม้แต่พระพุทธองค์ยังไม่ปฏิเสธในความเป็นเลิศด้านนี้ และ "หลวงปู่มั่น" ได้ทุ่มเทสรรพวิชาในช่วงอายุ "หนึ่งศตวรรษ" ถ่ายทอดองค์แทนพระสิวลีรุ่นนี้ออกมาดีที่สุด เป็น "พระสิวลีอันดับ1" แดนอีสานที่ไม่มีใครกล้าเถียง!

ความพิเศษที่เห็นเด่นชัด ขนาดถ่ายภาพง่ายๆ ยังเห็นเส้นเกศาท่านยาวออกมาด้านล่าง
วงเกศาเส้นยาวพิเศษให้ดูเพลินๆ

 

นางพญาพิมพ์เล็ก
"หลวงพ่อกวย"!
=============

พิมพ์พระโรงงาน แต่ไม่ใช่พระโรงงาน รูปเดียวกับพระนับร้อยที่ไม่ใช่พระนับเป็นร้อย กอบเป็นกำขายร้อยละบาทเมื่ออดีต!

เป็นพระเนื้อดินเผาแท้ของ หลวงพ่อกวย วัดบ้านแค พระนางพญาพิมพ์เล็กพิเศษ เผาเนื้อผิวนอกดำ-เนื้อในแดง

"แม่เหล็กดูดติด"...ทั้งหน้า-หลัง-ข้าง-บน-ล่าง ไม่เว้นพื้นที่ ยืนยันมวลสารดินที่นำมาสร้างเป็นของกรุ ของดี และเจ้าของเดิมก็ปิดทองแบบโบราณไว้อย่างดี ทองคำเปลวลอกหลุดเหลือแต่สะเก็ดเล็กๆตามซอกพองาม

ให้ชมและเชิญบูชาก่อนนอน เป็นศิริมงคลด้วยราคาไม่ฝันร้าย...

=======700=======

พิมพ์ที่โรงงานเอาไปถอด ปั้มออกมาเป็นพระนับร้อย แต่งหน้าตาเป็นการ์ตูน แต่องค์นี้ไม่มีหน้าตาเพราะพระสร้างด้วยมืออย่างโบราณของหลวงพ่อ ทองที่เจ้าของเดิมปิดเหลือไม่มาก ถ่ายภาพไม่เห็น ต้องเอาไปส่องเอง

ความเก่าของเนื้อดินเผา เด่นเด้ง ธรรมชาติฟ้อง ไม่ต้องลงกล้อง

เทียบเหรียญ 2 บาท ยืนยันความเล็กพิเศษกว่าพิมพ์อื่นๆ ยิ่งทำให้เล่นง่าย ดูง่าย เพราะพระโรงงาน พระสนามจะองค์ใหญ่กว่านี้เกือบร้อยทั้งร้อย

 

ร่วมบุญครับคุณอา สวยเกินห้ามใจครับ

 

สวัสดีคุณอาวันวิและแฟนคลับทุกท่าน

 

นิมนต์ครับ

 

วันที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๙ ปีขาล
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

ครับ-เป็นพระสิวลีองค์งามสุดที่ยังอยู่ในกรุ หน้าตาปาก จมูก สมบูรณ์ชัดทุกส่วนสัด องค์อื่นๆที่ยังมีไม่งามเท่านี้ มอบท่านเป็นศิริมงคลในยามที่ต้องการตัวช่วยอย่างแรง เรื่องทำมาหากินคล่องตัวและเสริมพลังโชคลาภอันโดดเด่นที่สุด

จัดส่งท่านเดินทางพรุ่งนี้ ให้น้องสกายฯพบแต่ความราบรื่นด้านการเงิน การงาน และความสำเร็จดั่งใจหมาย

 

น้องปรายฯทักเช้าพร้อมไก่โห่
ส่งท้ายวันหยุด หวังว่าคงเติมพลัง
ชาร์จแบตฯเต็มที่ก่อนทำงานพรุ่งนี้

 

คุณพัฒน์ก็จัดนางพญาพิมพ์เล็กแต่เช้าก่อนใส่บาตร เป็นองค์ที่สามที่ต้องจัดท่านล่องใต้วันพรุ่งนี้ โมทนาครับ องค์นี้เนื้อหาสุดยอด ดินเผาดำนอก-แดงในตามตำรา องค์เล็กแต่พลังยิ่งใหญ่ เล่นกับแม่เหล็กน่าทึ่งทั่วองค์ทุกมุม

 

เคาะพ่อกวยเสร็จ ก็ออกใส่บาตรกับหลวงพี่ อนุโมทนาบุญเช้าทันอกทันใจในวันอาทิตย์สดใส หวังว่าพระพิรุณท่านทิ้งช่วงยาวๆสัก2-3 วัน น้ำเหนือหนุนจะได้หมดพลัง ชาวกทม.พอหายใจหายคอสะดวก

 

จัดบุญต่อเนื่องดังสายน้ำ
โมทนากับคุณพัฒน์อีกครั้ง

 

หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
พระลีลาจิ๋ว-แม่เหล็กดูดติด!
===============

หนึ่งในชุดเนื้อดินเผา หลวงพ่อกวย วัดบ้านแค คือพระลีลาขนาดต่างๆ...นี่เป็น ชุดเล็กที่ควรขนานนามว่า...."จิ๋วแจ๋วเจาะโลก" !

ท่านถอดพิมพ์ทรงจากพระกำแพง ใช้เนื้อดินกรุกดเป็นพิมพ์ขนาดต่างๆ ประเดิมให้ชมและร่วมบุญด้วยองค์เล็กจิ๋วที่สุด แต่แม่เหล็กดูดติด พระเล็กยาวกว่าปลายเล็บก้อยหน่อยเดียว ราคาก็เล็กตามมิให้ปวดใจ...

=======400=======

ความเล็กแต่คลาสสิค เนื้อดินเผาสีดำ เก่าคร่ำคร่าถึงยุคได้อายุ ห่างไกลพระโรงงานมาก พระนับร้อยไม่ทำขนาดพิมพ์ทรงนี้ มันปั้มยากไม่คุ้มค่าเสียเวลาในสมัยโบราณ นอกจากกดด้วยมือทีละองค์ยิ่งไม่ทันกิน กว่าจะได้สักร้อยองค์ขายเป็นกำแค่บาทเดียว!!!

จิ๋วแต่แจ๋วเจาะโลกตัวจริง หลังปรากฏรอยนิ้วมือรำไร จับนอนวางบนกระจกจี้ให้ท่านหมุนตามได้...ห่างไกลพระนับร้อยพระสนามหลายปีแสง

เทียบเหรียญบาท พอให้เห็นขนาดจิ๋วของท่าน แต่มีอีกภาพด้านล่าง วัดขนาดกับพระนับร้อยโรงงานแม่เหล็กดูดไม่ติดให้เห็นจะืจะ คาตา
ขวา-พระโรงงาน...ซ้าย-พระที่หลวงพ่อสร้าง เนื้อหาต่างกันลิบ ชมให้กระจ่างตา...หนึ่งภาพมีค่ามากกว่าพันวาจา!