แบบนี้เข้าขั้นโรคจิตหรือเปล่า?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย tanyatornbtp, 2 พฤษภาคม 2008.

  1. tanyatornbtp

    tanyatornbtp สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +8
    คือปกติเป็นคนขี้ลืมมากคะ
    ...........
    สาเหตุก็คงเพราะขาดสติในชีวิตประจำวัน
    ...........
    คือทำอะไรไปตามอัตโนมัติ โดยลืมใส่ใจ
    ...........
    แต่จะมีสติดีในเรื่องฉุกเฉิน หรือเมื่อความทุกข์มาเยือน
    ..........

    เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อสองปีที่แล้วประมาณเดือนสิงหาคม
    เป็นช่วงที่ดิฉันอ่านหนังสือธรรมะอยู่มากหลายเล่ม
    ชอบการบรรยายธรรมของหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน (ฟังด้วย อ่านด้วย)
    และก่อนหน้านั้นก็ได้มีโอกาสไปฝึกกรรมฐานที่วัดฯมาด้วย
    ในตอนที่อ่านหนังสือก็มีความสงสัยว่า"เห็นหนอ"ที่หลวงพ่อกล่าวถึง
    จะมีอาการเป็นอย่างไร แต่ความสงสัยก็ตั้งอยู่ได้ไม่นาน
    เนื่องจากว่าเป็นคนขี้ลืม..

    วันหนึ่งมีเพื่อนชวนไปครอบครูกับผู้มีญานทิพย์ชื่อดัง
    ซึ่งเพื่อนคนที่มาชวน เขามีองค์ ด้วยความอยากรู้อยากลอง
    ก็ได้มีโอกาสไปทำพิธีครอบครูกับเขาด้วย
    วันต่อมาเวลากลางวัน จิตใจ, ร่างกายสบายดีทุกอย่าง
    และก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องพิธีกรรมนั้นแล้ว
    แต่อยู่ดี ๆ ก็อยากอาเจียน ต้องลุกไปอาเจียนในห้องน้ำถึงสอง,สามครั้ง
    หลังเหตุการวันนั้นก็ไม่ได้เล่าให้เพื่อนคนนั้นฟัง แล้วก็ลืมไป...

    หลังจากนั้นไม่นานดิฉันตั้งใจว่าจะไปฝึกสติที่วัดอัมพวันอีก
    ก่อนออกเดินทางมีเรื่องน่าแปลกใจ คือกรอบรูปซึ่งเป็นรูปของดิฉันเอง
    มันเป็นกรอบกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
    ตกลงมาแตกเสียงดัง.. ทำให้ใจคอไม่ค่อยดี
    แต่คิดว่าคงไม่น่ามีอะไรมั้ง เพราะมีความตั้งใจแรงกล้า ยังไงก็ต้องไป
    ถ้าเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถก็ไม่น่าจะมีอะไร
    ประกอบกับคิดว่ากรอบกระจกที่แตกกระจายนั้น เป็นกระจกที่อย่ด้านหลังรูป
    กระจกด้านหน้าซึ่งก็บาง แต่ไม่แตก ฉะนั้นก็ไม่ควรจะวิตกมากมาย

    ขณะเดินทางมีอยู่ช่วงหนึ่งหน้าหวาดเสียวมาก ๆ
    รถเกือบประสบอุบัติเหตุ แต่ก็แคล้วคลาด
    อาจเพราะได้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ
    และคงเป็นความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อช่วยด้วย

    การนั่งสมาธิ และเดินจงกรมที่วัดในคราวนั้น
    จิตนิ่งได้ไว ไม่ค่อยวอกแวกไปเรื่องอื่น
    จนกระทั้งวันที่สามขณะที่กำลังนั่งสมาธิอยู่นั้น
     
  2. tanyatornbtp

    tanyatornbtp สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +8
    สัญญามันเกิดขึ้นเอง โดยที่ดิฉันไม่ได้จงใจไปคิด
    อันแรกเป็นข้อสงสัยที่เคยมีว่า เห็นหนอ เป็นอย่างไร
    พอเกิดขึ้นแล้ว กำลังสติมีไม่พอ เลยเผลอคิดปรุงไป
    และขณะที่คิดก็ไม่มีสติกำกับคอยดู คือหลงไปในคิดเต็ม ๆ
    ตอนนั้นเหมือนมีเสียงลึกลับอยู่ในสมองตัวเอง
    ถามปัญหาอะไรไป อยากรู้อะไร ก็ตอบให้ได้หมด
    (มารู้ตอนหลังว่าเป็นตัวอวิชชา)
    ก็เลยหลงผิดคิดว่าอ๋อ นี่ไงล่ะ เห็นหนอ เราได้มาแล้ว
    ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    อีกสักพักหนึ่ง เจ้าสัญญาก็เกิดขึ้นอีก
    ทีนี้มาพร้อมกับอาการทางกาย
    ที่อยู่ ๆ ก็หนักเนื้อหนักตัวเหมือนบังคับตัวเองไม่ได้
    ด้วยกำลังสติที่ไม่ดีพอ
    เลยอยากรู้ว่าอาการหนัก ๆ ที่ต้นคอ, หัวไหล่
    เมื่อยหน้า, เมื่อยขากรรไกร มันคืออะไร
    จึงได้เผลอทำตามกิเลส โดยหมุนคอไปมา
    ยกหัวไหล่แล้วหมุนไปมา อ้าปากกว้าง
    <O:p></O:p>
    และประกอบกับสัญญาเก่า ที่ได้เคยไปเข้าพิธีครอบครูมา
    ก็เลยเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองมีองค์
    พอคิดไปอย่างนั้น ในขณะที่กำลังสติอ่อนลงมาก
    เลยฟุ้งไปเลย เกือบกู่ไม่กลับ
    <O:p></O:p>
    โชคดีว่ามีกัลยณมิตรพูดให้สติว่า
    หลวงพ่อบอกว่า คนมีสติดี ผีก็ไม่เข้า เจ้าก็ไม่ทรงนะ
    <O:p></O:p>
    เสียงในหัวของดิฉัน(อวิชชา)ยังบอกอีกว่า
    ดิฉันจะต้องตายภายในสามวันห้าวัน
    ตอนแรกกลัวมาก เพราะขาดสติ
    แต่พอเริ่มตั้งสติได้ก็หายกลัว
    ก็ยังเชื่อที่เสียงนั้นพูด และก็รอพิสูจน์
    (เพราะว่ากำลังสติสัมปชัญญะยังไม่แข็งแกร่งพอ
    จิตจึงไม่รู้ว่า อันไหนจริง อันไหนเท็จ)
    <O:p></O:p>
    จากเหตุการณ์วันนั้น ทำให้ดิฉันระวังการกระทำของตัวเองอย่างมาก
    เพราะว่าสัญญา มันช่างจดช่างจำจริง ๆ
    แม้แต่บางเรื่องที่สมองเราลืมไปแล้ว<O:p></O:p>
     
  3. tanyatornbtp

    tanyatornbtp สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +8
    รบกวนท่านผู้รู้ได้อธิบายถึง "เห็นหนอ" ที่หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน
    มักจะกล่าวถึงบ่อย ๆ เป็นวิทยาทานด้วยคะ
    ขอกราบอนุโมทนามา ณ.ที่นี้ด้วย
     
  4. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    เคยอ่านเจอเหมือนกันครับ เห็นว่าหลวงพ่อท่านจะกำหนดจิตที่ระหว่างคิ้ว หรือที่ทางโยคะมักจะเรียกจุดนี้ว่า "ตาที่สาม" แล้วท่านก็จะเห็นนิมิตต่างๆเป็นญาณหยั่งรู้ ตามแต่ที่หลวงพ่อท่านจะต้องการทราบน่ะครับ เพียงแต่ว่าท่านจะแนะนำว่าให้บริกรรมว่า "เห็นหนอ" ไปด้วย เพื่อที่จะทำให้เกิดสติ ถ้าภาพที่เห็นเกิดจากสัญญาหรือการปรุงแต่ง หรือจินตนาการเอาเอง ภาพนิมิตเหล่านั้นก็จะหายไป แต่ถ้าบริกรรมว่า "เห็นหนอ" ประกอบกับภาพที่เห็นไปแล้วจะทำให้เกิดสติแยกแยะได้ออกว่าสิ่งที่เห็นนั้นเป็นจริงหรือไม่อย่างไรน่ะครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหลวงพ่อท่านก็อาศัยประสบการณ์การปฏิบัติธรรมของท่านมาอย่างยาวนานหลายๆสิบปีมาประกอบด้วยน่ะครับ จึงทำให้ท่านมีญาณหยั่งรู้ที่ค่อนข้างแม่นยำและสามารถแยกแยะสิ่งที่เห็นระหว่างภาพที่ลวงกับสิ่งที่เป็นจริงได้อย่างถูกต้องน่ะครับ

    เรื่องของความทรงจำนั้นมีทั้งส่วนที่เป็น "จิตสำนึก" และ "จิตใต้สำนึก" น่ะครับ หรือความทรงจำที่ถูกบันทึกไว้ในสมองกับสัญญาความทรงจำที่ถูกบันทึกไว้ในดวงจิตนั่นเอง คนที่นั่งสมาธิแล้วสามารถระลึกถึงความเป็นไปในชาติก่อนๆได้ก็เนื่องจาก สติหยั่งรู้เข้าถึงสัญญาในดวงจิตที่บันทึกข้อมูลต่างๆในอดีตชาติได้น่ะครับ

    เรื่องญาณหยั่งรู้หรือภาพนิมิตต่างๆนี้ ต้องอาศัยประสบการณ์ และความช่างสังเกต ความละเอียดอ่อนของนักปฏิบัติแต่ละท่านมาประกอบด้วยน่ะครับ ซึ่งก็จะเข้าถึงญาณต่างๆได้มากน้อยละเอียดอ่อนแม่นยำแตกต่างกันไปน่ะครับ
     
  5. อดีตโก

    อดีตโก สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +1
    ผมเคยฟังซีดีท่านแล้วมาผมคิดเอาเองนะครับเห็นคือเหตุครับ (เหตุเกิดแล้วต้องดับไปทุกเรื่องที่เห็นมีเหตุแล้วมีผลที่มันจะเกิดจะดับครับ)หนอคือรู้ครับ(รู้แล้วจบ)หากไม่เข้าใจไม่เห็นให้เห็นหนอหลายๆครั้งท่านว่าดังนั้นนะครับทำบ่อยเข้าเราจะรู้ว่ามันจะจบอย่างไรก่อนที่มันจะจบด้วยครับ(รู้เท่าทัน)อีกอย่างอย่ายึดติดเพราะจะเห็นอย่างอื่นอีกมากที่เกิดดับๆๆๆผมคิดดังนี้นะครับ
     
  6. แม่จิ๊บโจ้

    แม่จิ๊บโจ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +314
    เห็นให้รู้ว่าเห็น แต่อย่าเอาจิตไปตามปรุงแต่ง
     
  7. Saint Telwada

    Saint Telwada สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2008
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +5
    คุณเจ้าของกระทู้ ข้าพเจ้าแนะนำ ให้คุณ คอยติดตามอ่าน กระทู้เรื่อง "บรรทัดฐานการปฏิบัติ สมาธิ " แล้วอาการต่างๆของคุณจะดีขึ้น
    ส่วนอาการที่คุณเล่ามานั้น มีสาเหตุอยู่หลายประการ
    และมีหลายวิธีที่สามารถทำให้คุณรู้และรักษาอาการที่เกิดกับคุณได้ คือ
    1. ไปโรงพยาบาล พบแพทย์เพื่อตรวจรักษา เพราะอาจเป็นอาการของโรคทางกาย ที่คุณไม่รู้ตัว
    2. ไปพบ จิตแพทย์ เพื่อปรึกษา อาจได้ข้อคิด ความรู้ ความเข้าใจ และคำแนะนำดีดี สำหรับ การปฏิบัติตัว มิให้เกิดอาการที่ไม่พึงประสงค์
    หมายเหตุ... การไปพบจิตแพทย์ มิได้หมายความว่าคุณป่วย เป็นโรคจิตประสาทนะขอรับ แต่อาการของคุณ เกี่ยวกับ จิตและประสาทด้วย ดังนั้น การพบจิตแพทย์ เพื่อปรึกษา จึงเป็นการหาข้อมูลความรู้ เพื่อการขจัดอาการของคุณขอรับ
     
  8. tanyatornbtp

    tanyatornbtp สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +8
    ถ้าปัญหามันเกิดมาจากจิตเรา ก็ควรจะแก้ด้วยตัวเอง
    ไม่น่าจะต้องไปปรึกษาจิตแพทย์
    คนเจริญสติอยู่เป็นประจำ
    จะเพี้ยนไปได้ยังไงล่ะคะ
    ไม่ค่อยเคลียร์กับคำแนะนำ
     
  9. tanyatornbtp

    tanyatornbtp สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +8
    [​IMG]ภาพจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 3 พ.ค. นี้
    คนจะไปสร้างกุศล มักมีมารผจญ จริง ๆ ด้วย
    น่าสงสารผู้เสียชีวิต (ลูกศิษย์วัดอัมพวัน)
    ขอจงไปสู่สุขคติด้วยเถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2008
  10. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    อนุโมทนากับคำตอบของท่าน ท่านตอบคำถามที่ท่านตั้งได้แล้วด้วยตัวท่านเอง
     
  11. od2499

    od2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    298
    ค่าพลัง:
    +532
    ต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่าผมไม่มีความรู้ภูมิธรรมอะไร จะตอบตามความเข้าใจแบบใช้สามัญสำนึก เขียนเพื่อมาให้พิจารณาครับ อย่าเพิ่งเชื่อ

    เห็นหนอ ของหลวงพ่อจรัล ตามความเข้าใจของผม ก็คงจะหมายถึงได้อภิญญาแบบตาทิพย์แหละครับ ซึ่งกว่าจะได้ ก็ต้องบำเพ็ญเพียรภาวนาหลายๆปีมากๆ มีความก้าวหน้าทางธรรมเรื่อยๆ เช่นนั่งสมาธิเห็นดวงแก้วจนชัดสุกใส จะบังคับให้เล็กให้ใหญ่ได้ ใครที่จะได้อภิญญาทางนี้ คงต้องทั้งบำเพ็ญเพียรมากๆ แล้วก็คงต้องมีบุญเก่าด้วย ไม่ใช่ว่าใครทำหลายๆปีแล้วจะได้ทุกคน หรือว่าแทบไม่เคยนั่งสมาธิเลย แต่อยู่ๆก็ได้มาแบบปาฏิหารย์ ถ้ามีจริงคงจะเป็นเปอร์เซนต์น้อยมากๆทำนองแบบถูกรางวัลที่ 1 แหละครับ

    ทีนี้ คุณต้องถามตัวเองดูว่า คุณปฏิบัติมามากแค่ไหน มีความก้าวหน้าทางธรรมเรื่อยๆขึ้นไม๊ ถ้าปฏิบัติมามาก มีความก้าวหน้ามาตามลำดับ ผมก็อยากแนะนำว่าให้รีบไปหาครูบาอาจารย์ อย่างหลวงพ่อจรัล หรือที่วัดท่าซุง เพื่อว่าท่านจะได้ชี้แนะทางที่ถูก คุณจะได้ไม่เสียเวลามางมหาเอง ซึ่งอาจหลงทางได้

    แต่ถ้าว่าคุณไม่ค่อยได้ปฏิบัติเท่าไร โอกาศที่เป็นไปได้สูงคือจิตคุณหลอกตัวเอง ทำให้คุณได้ยินเสียงในหัวแนะนำหรือบอกอะไร ถ้าเป็นอย่างนี้ ผมว่าอย่าเพิ่งคิดเลยว่าเสียงที่ได้ยิน อะไรจริงอะไรเท็จ คิดว่าทำไงจะไม่ให้ได้ยินเสียงพวกนี้จะดีกว่า ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า มันมีโอกาศเป็นไปได้สูงที่จิตคุณหลอกตัวเอง ถ้าปล่อยไว้ นานไปคุณจะไม่เป็นตัวของตัวเอง เพราะจะเหมือนมีคนสั่งคุณในหัวตลอด แต่ถ้าคุณมีอภิญญาได้ เห็นหนอจริงแบบปาฏิหารย์ ตอนนี้คุณก็ยังไม่พร้อม เพราะแยกไม่ออก ไม่รู้อันไหนจริงอันไหนปรุงแต่ง ก็ทำอย่างที่คุณเทวดาแนะนำ คือเริ่มเป็นขั้นตอน ให้มีความก้าวหน้าทางธรรมเรื่อยๆจนเราได้อภิญญา แบบนี้จะปลอดภัยกว่า ตอนนี้ถ้าคุณลบเสียงในหัวด้วยตัวเองได้ ก็ไม่ต้องปรึกษาใครครับ ถ้าไม่ได้ ก็ต้องปรึกษาครับ
     
  12. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ก็ เกิดจากความหวาดกลัว เป็นที่ตั้ง
    เรียกว่า อุปาทานจิตครับ
    คุณ ก็ต้องหาสาเหตุว่า แท้จริง ต้นเหตุของความทุกข์ของคุณอยู่ตรงไหน

    ผมเชื่อว่า คุณต้องมีความทุกข์มาก ไม่เช่นนั้นไม่ไปปฏิบัติธรรมหรอก
    และประกอบกับที่คุณเล่ามาด้วย ทั้งเรื่อง อาเจียน ทั้งเรื่องไปครอบครู

    นี้แสดงว่าต้องมีทุกข์

    การดับทุกข์ ให้ดับที่เราก่อน คือ หยุดคิดหยุดปรุงก่อน แล้วเรื่องอื่นค่อยตามแก้ไข คือ หยุดให้จิตเป็นสมาธิ ให้จิตใจสงบ แล้วเราค่อยๆ ลำดับเรื่องราวว่า

    เราต้องการ หรือ ไม่ต้องการอะไรใน ชีวิต ทุกข์ที่เราพบเจอนั้น มันมาจากเรื่องอะไร ถ้าพอเล่าให้ผมฟังได้ ก็จะดี

    เมื่อเรารู้เหตุหลักแล้ว เราค่อยๆ ไปแก้ไข เรื่องประกอบนะ
    บางทีเราอาจจะเครียด และ เกิดภาวะกดดัน กับชีวิต มามากก็ได้

    ตั้งสติให้ดีๆ ทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวร
    แล้ว ลองเล่ามาให้เพื่อนๆ ฟังว่า ทุกข์นั้นเกิดจากอะไร
     
  13. tanyatornbtp

    tanyatornbtp สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +8
    จริงอยู่ในช่วงเหตุการณ์ดังกล่าว
    ดิฉันมีความเครียดเรื่องงานอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ทุกข์หนักหน่วงอะไร
    เนื่องจากเพราะนิสัยขี้ลืม ก็เลยไม่ค่อยได้เก็บอะไรไว้
    เกี่ยวมั้ยคะว่า..อ่านหนังสือมากไป เก็บเนื้อเก็บตัวมากเกินไป
    คือเมื่อก่อนเวลาอ่านหนังสือธรรมะ จะอ่านไปด้วยคิดหาเหตุผลไปด้วย
    บางทีบรรทัดนึงอ่านซ้ำไปซ้ำมาสาม,สี่รอบ
    พอไปปฏิบัติ จิตเป็นสมาธิได้ง่าย
    แต่เป็นมิจฉาสมาธิ คือ หนักกับตัวความคิด
    ที่พยายามคิดเหตุผลในทุก ๆ เรื่อง
    อย่างเช่น เรื่องกรรมดำที่เคยได้ทำไว้ในอตีด
    ว่าตัวเองขาดคุณธรรมในข้อใดบ้าง
    (คือไม่วอกแวกไปเรื่องอื่น นอกจากเรื่องธรรมะ)

    ส่วนที่ไปครอบครูก็มิได้ไปเพราะความทุกข์
    แต่ไปเพราะตามเพื่อน อยากรู้อยากลองมากกว่า

    เคยอ่านเจอว่า คนที่ช่างคิด(อุปทานเยอะ)
    เหมาะกับการเจริญสติ ด้วยวิธีดูจิต
    ก็เห็นด้วยนะคะ เพราะคิดว่าเหมาะกับจริตตัวเอง
    ทุกวันนี้ก็ทำได้บ้าง เผลอซะส่วนใหญ่
    ก็เพราะเหตุที่เป็นคนขี้ลืมนี่ล่ะคะ
    ส่วนสมถะก็ทำบ้าง แต่จะไม่ใช้เวลานานมากนัก

    ไม่ค่อยได้สอบถามใคร เกี่ยวกับเรื่องปฏิบัติคะ
    แต่อยากจะขอถือโอกาสนี้ถามท่านผู้รู้ที่นี่
    กรุณาชี้ทางด้วยคะ
    อนุโมทนา กับวิทยาทานมาก ๆ คะ
     
  14. โปเต้ผู้ใฝ่ธรรม

    โปเต้ผู้ใฝ่ธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2007
    โพสต์:
    639
    ค่าพลัง:
    +573
  15. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
  16. X-MANengi

    X-MANengi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +40
    เห็นหนอ นี้ คล้ายๆ เจ็บหนอ หรือ ปวดหนอ หรือ อื่นๆ หรือป่าวครับ ไม่รู้นะ เวลาผมนั่งสมาธิ เมื่อยุงกัด หรือ ปวดตรงไหน จะพยายามเพ่งไปตรงจุดนั้นแล้วบอกในใจว่า เจ็บหนอๆๆๆๆ ไปเรื่อยๆจนหายเจ็บและมันก็ได้ผล กำคำว่า เห็นหนอ นี้อาจจะเป็นเห็นในเหตุ และภาพต่างๆที่ทำให้เกิดทุกข์มั้งครับ แล้วให้มันเป็นไปตามกรรมที่ทุกคนต้องเห็น ต้องเกิด หรือพูดง่ายๆคือ ปลงนั่นเอง (ไม่รู้มั่วรึป่าวก็พูดไปตามที่คิดน่ะครับ)
     
  17. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    เป็นแค่การตามรู้อาการครับพอรู้แล้วก็ปล่อยวางไป กลับมาที่สมาธิ ต่อ

    ผมเข้าใจว่าที่ไปรับครอบครูมานั้นที่ยังไม่ส่งผลต่อคุณมากเนื่องจากปกติ
    สมาธิคุณยังไม่ค่อยมั่นคง ทำให้ยังไม่มีอาการจากการครอบครูมากครับ
    พอท่านได้ฝึกสมาธิวิปัสสนาจิตเป็นสมาธิทำให้เกิดอาการอย่างว่าขึ้นมา

    ซึ่งน่ากลัวมากว่าถ้าหากท่านทำสมาธิได้และทรงอารมณ์ได้มากกว่านี้คงจะ
    มีอาการอะไรมากกว่านี้แน่นอน

    ผมก็ไม่รู้จะแนะนำวิธีแก้ยังไงนะครับ แต่ให้ทำสมาธิควบคู่กับสติไปด้วยครับ
    จะดีที่สุด ถ้าต้องการแลกเปลี่ยนธรรมะหรือต้องการแผ่นธรรมะ pm มาได้ครับ
    ยินดีที่ได้รู้จัก
     
  18. IEE

    IEE สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +12
    เห็นหนอ หลวงพ่อท่านให้เห็น ถึง สภาวะธรรมของไตรลักษณ์
     

แชร์หน้านี้

Loading...