แชร์ประสบการณ์และคำสอน

สวัสดีอีกครั้งครับทุกท่าน
สักครู่ที่ผ่านมา18.05
ผมได้โทรสายตรงไปกราบเรียนถามหลวงพ่อเหิน ถึงชื่อยันต์ในภาพ##หลังเหรียญรุ่นมงคลธารทิพย์.ครับว่า หลวงพ่อลงยันต์อะไรครับ
ได้คำตอบแล้วครับที่หลายท่านตั้งคำถามในหลายๆโพสต์ที่ทางเพจต่างๆลงไว้ครับ
หลวงพ่อบอกว่า ชื่อ##พระยาคลังทองแสนหาบ
(ราชสำเภาทอง)
ส่วนตัวนะด้านบนเป็นยันต์ผูกทรัพย์และปัดรังควานอุปสรรค์ครับ

ข้อมูลที่ผมนำมาถ่ายทอดต่อหากผิดถูกประการใด ผมขอน้อมรับคำติชมและทักท้วงได้เลยครับท่าน

หลวงพ่อท่านฝากมาบอกครับ ขยันประหยัดอดทน ดิ้นรนนั่นแหละจะรวยและอยู่รอดของขลังที่ใหนก็ช่วยไม่ได้ ถ้าขี้เกียจและฟุ่มเฟือยครับ
สาธุครับ

cr.หนุ่มสุพรรณ ครับผม

 

#ขอเผยแผ่บารมีหลวงพ่อครับ
สมเด็จพระพุฒาจารย์โตและหลวงพ่อเหิน ปุญญักเขตโต พระมหาเถระสองท่านนี้แม้ว่าจะอยู่กันคนละยุคสมัยก็ตามครับ แต่มีอะไรที่คล้ายๆกันนะครับ หากท่านทั้งหลายศึกษาประวัติหลวงปู่โตอย่างละเอียด แล้วมาสนทนามาฟังธรรมหลวงพ่อเหินดูบ้างแล้วจะเห็นว่ามีอะไรที่คล้ายๆกัน เช่นไหวพริบในการตอบคำถาม และหลักการแสดงเหตุผล ของท่าน ฟังแล้วได้สาระและน่าทึ่งในการโต้ตอบปัญหาธรรมครับ ท่านเฉลียวฉลาดและปราดเปรียวไวมากครับ ทั้งยังแม่นในธรรมบททั้งบาลีและอรรถคาถาในพระสูตรต่างๆ อีกด้วยครับ ท่านเป็นทั้งพระป่าปฏิบัติ พระพัฒนา พระเผยแผ่และได้ทั้งสมถะและวิปัสสนาครับ ชนิดที่ผมกล้าพูดว่าท่านครบเครื่องทั้งเวทมนต์เลขยันต์และตำราที่เก่าๆแปลกๆทั้งหมดที่หาไครรู้ได้ยากแต่ท่านรู้หมดและรู้จริงๆอีกด้วยครับ ที่สำคัญวันดีคืนดี ท่านนึกอยากทำอะไรที่น่าทึ่งที่เกินวิสัยของคนทั่วไปจะทำได้ท่านก็ยังทำได้อีกครับ เช่นอยู่ๆท่านบอกให้ถ่ายรูปท่าน แต่ถ่ายแล้วไม่ติดภาพท่าน ติดแต่อาสนะที่ท่านนั่งแต่ว่างเปล่าจากรูปตัวท่านมันช่างน่าแปลกครับ
เสร็จแล้วท่านหัวเราะและบอกว่า##รูปกูต่อไปในภายภาคหน้าจะแพง. จะให้ติดง่ายๆได้ยังงัยวะ แล้วท่านก็หัวเราะ
ขอกราบพระมหาเถราจารย์ทั้งสองรูปด้วยความเคารพสูงสุดครับ

cr.หนุ่มสุพรรณ ครับผม

 

สวัสดีครับ วันนี้ผมขอนำภาพหลวงพ่อเหิน บุญญักเขต มาลงโพสต์ครับผม ก๊อปมาจากภาพที่คุณซิลล์ราตรีได้โพสต์ไว้มาลงบ้างครับผม ผมเคารพรักนับถือหลวงพ่อท่านนี้มากเพราะเคยอยู่ไกล้ท่านมาพักนึง ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีความเมตตากรุณาสูงมากรูปหนึ่ง และสมถะเรียบง่ายกันเองกับทุกคนและปฏิบัติตนในสมณะธรรมวินัยดีมากๆอีกรูปหนึ่ง เมื่อปี 2555 ผมเคยติดตามท่านไปอยู่ในป่า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี มีครั้งหนึ่งท่านนั่งภาวนาภายในเงื้อมหินคล้ายถ้ำ นั่งนานติดต่อกันไม่ยอมลุกหรือขยับเลยนานถึง 15วันเต็มๆ ผมนอนนั่งเฝ้าท่านอยู่ตลอด24ชม.ตลอด15 วัน พอเข้าวันที่ครบ15วันแล้วตอนเช้ามืดวันนั้นท่านได้หายไปจากที่นั่งอยู่ ผมเดินตามหาทั่วบริเวณนั้นแต่หาไม่พบ จนกระทั่ง เวลา 08.10 กว่านาทีผมเห็นท่านเดินลงจากป่าบนเขาสูงชันลงมาและสพายบาตรด้วยผมเลยรีบไปรับบาตร แต่น่าแปลกแถวนั้นไม่มีบ้านคนและไกลมากสิบกว่ากิโลเมตรแล้วท่านไปบิณฑบาตรที่ใหนมาเพราะหายไปแค่2ชม.กว่าไม่น่าจะกลับทัน พอท่านมานั่งลงที่กรดท่านเปิดบาตรออกมา ผมเห็นมีข้าวเหนียวหนึ่งปั้นกับปลาช่อนย่างและพริกตำใส่มาแค่นั้น ผมเลยถามว่าหลวงพ่อไปรับบาตรที่ใหนมาครับ แต่ท่านก็ไม่ตอบ แต่กลับบอกว่า ฉันเสร็จแล้วเราจะเดินทางต่อนะ จะไปทางอีสาน ส่วนทิดก็กลับบ้านได้แล้วมาหลายวันแล้วเดี๋ยวคนที่บ้านจะห่วงเอานะ. ผมส่งหลวงพ่อหลังจากฉันเสร็จขึ้นรถโดยสารแล้วผมก็กลับ ตั้งแต่นั้นผมศรัทธาหลวงพ่อองค์นี้มาตลอด เพราะที่ไปพักแขวนกรดนั้นอยู่กลางป่าลึกเขาป่าก็รกมาก ผมเดินออกมากับท่านต้องใช้เวลาถึง 5 ชม.เต็ม จึงถึงทางลาดยางได้ แล้วท่านไปบิณฑบาตรยังงัยที่ใหนถึงกลับไวได้ขนาดนั้น จนทำให้ผมนับถือและทึ่งพร้อมสงสัยในเรื่องนี้มาถึงปัจจุบันครับ แต่ท่านก็ไม่ยอมบอกทุกครั้งที่ผมถามเช่นกัน.
ปัจจุบันนี้ท่านไปจำพรรษาที่วัดป่าสัก ต.ยางงาม อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ครับผม ขอขอบคุณๆซิลล์เจ้าของคนแต่งภาพหลวงพ่อที่เอาภาพมาเผื่อกันครับขอบคุณครับผม

cr.หนุ่มสุพรรณ ครับผม

 

สวัสดีทักทายครับ

ด้วยอภิมหาบารมีธรรมและความเมตตายิ่งใหญ่ของบูรพาจารย์อีกรูปหนึ่งของเมืองไทย

#หลวงพ่อเหินบุญญักเขต

พระผู้เป็นแสงสว่างส่องนำทางของสาธุชนให้เดินออกจากความมืดไป

ให้พบความสว่างในจิตใจพบธรรมอันประเสริฐของพระพุทธองค์

พระผู้เปรียบดังสายน้ำฝนอุดมสมบูรณ์

เปี่ยมด้วยความรอบรู้ในแทบจะทุกๆด้านทั้งทางโลกและทางธรรม

รอบรู้สมถวิธีและวิปัสสนาวิธีแตกฉานในคำภีร์เวทและยันต์โบราณที่ทรงคุณอานุภาพ

ซึ่งนับวันจะหาผู้รู้คำภีร์เหล่านี้เช่นท่านนับจะหายากขึ้นทุกวันแล้ว

และพรั่งพร้อมด้วยญาติบริวารที่ดีงามมีคุณธรรมและจิตใจที่ดีตามที่หลวงพ่อเป็นแบบอย่างนำพาให้ดำเนินตาม

อีกหลายประการที่ไม่สามารถบรรยายให้ครบได้ต้องสัมผัสเองครับ

กราบหลวงพ่อผู้เป็นพระอาจารย์ผู้ทรงคุณเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้าครับสาธุๆ

cr.หนุ่มสุพรรณ ครับผม

 

กท.1 14/12/64
แผ่นตบในตำนาน จุดเริ่มต้นแห่งปฐมบท ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่มอบมาให้บูชาและรักษา
#ศิษย์หางแถว

cr.Nattapong Pamkhunthod


เป็นแผ่นทองแดงที่เหลือจากทำตะกรุดท่านนำมาวางเรียงซ้อนกัน 9 แผ่นแล้ววางทับด้วยแผ่นหินหนาประมาณ 1-2 นิ้ว แล้วท่านเขียนอักขระลงบนกระดาษแล้ววางไว้บนแผ่นหิน และใช้มือตบลงไป ปรากฏว่าอักขระที่เขียนบนกระดาษทะลุลงไปติดแผ่นทองแดงทุกแผ่นที่วางอยู่ใต้แผ่นหิน

 

กระทู้ที่ 1 17/12/64

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวาน ก่อนที่กระผมจะลากลับ ได้ขอความเมตตาจากหลวงปู่ ให้เป่ากระหม่อมให้ตามปรกติทุกครั้งที่ผมไปหาท่าน ปรกติทุกครั้งผมก็ไม่เคยที่จะถ่ายรูปอยู่แล้ว เพราะเรื่องบางเรื่อง ผมจะรู้กับหลวงปู่แค่สองคนจะไม่ค่อยได้แพร่ภาพอะไรสักเท่าไร แต่ดีที่เมื่อวานพี่ท่านที่ร่วมคณะไปด้วยกัน ท่านหวังดีว่า อยากจะเก็บภาพสวยๆไว้ให้ จึงขออนุญาตหลวงปู่ท่านเก็บภาพ พี่ท่านนี้ถ้าเอ่ยชื่อมาหลายๆคนคงรู้จักท่านดี เป็นช่างภาพที่เล่นกล้องถ่ายรูปมานานกว่า 30 ปี และเป็นคนที่ถ่ายภาพได้สวยมากคนหนึ่ง

เมื่อหลวงปู่ท่านได้เริ่มบริกรรม ก็เริ่มกดซัตเตอร์ ปรกติ จนถึงช่วงที่หลวงปู่ท่านได้เป่า จึงหยุดถ่าย พอมาดูรูปที่ถ่าย สีกับจางเหมือนรูปถ่ายสมัยโบราณ ทั้งๆที่กล้องโทรศัพท์เป็นรุ่นที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่ง ที่หนักสุดคือรูปที่ 3 เกิดเหตุอันน่าอัศจรรย์ใจ รูปออกมาอย่างที่เห็น ถ้าขืนถ่ายต่อไปมีหวังเลนกล้องอาจแตกได้

เป็นเรื่องที่น่าแปลก ที่นำมาเล่าสู่กันฟัง

จะเป็นด้วยบุญฤทธิ์ ด้วยเดชเเห่งพุทธานุภาพ ศิษย์คนนี้ขอกราบแทบเท้าองค์หลวงปู่สืบไป

กราบหลวงปู่เหิน ปุญญักเขตโต

cr.ชาย บูรพา

 

กระทู้ที่ 1 17/12/64

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวาน ก่อนที่กระผมจะลากลับ ได้ขอความเมตตาจากหลวงปู่ ให้เป่ากระหม่อมให้ตามปรกติทุกครั้งที่ผมไปหาท่าน ปรกติทุกครั้งผมก็ไม่เคยที่จะถ่ายรูปอยู่แล้ว เพราะเรื่องบางเรื่อง ผมจะรู้กับหลวงปู่แค่สองคนจะไม่ค่อยได้แพร่ภาพอะไรสักเท่าไร แต่ดีที่เมื่อวานพี่ท่านที่ร่วมคณะไปด้วยกัน ท่านหวังดีว่า อยากจะเก็บภาพสวยๆไว้ให้ จึงขออนุญาตหลวงปู่ท่านเก็บภาพ พี่ท่านนี้ถ้าเอ่ยชื่อมาหลายๆคนคงรู้จักท่านดี เป็นช่างภาพที่เล่นกล้องถ่ายรูปมานานกว่า 30 ปี และเป็นคนที่ถ่ายภาพได้สวยมากคนหนึ่ง

เมื่อหลวงปู่ท่านได้เริ่มบริกรรม ก็เริ่มกดซัตเตอร์ ปรกติ จนถึงช่วงที่หลวงปู่ท่านได้เป่า จึงหยุดถ่าย พอมาดูรูปที่ถ่าย สีกับจางเหมือนรูปถ่ายสมัยโบราณ ทั้งๆที่กล้องโทรศัพท์เป็นรุ่นที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่ง ที่หนักสุดคือรูปที่ 3 เกิดเหตุอันน่าอัศจรรย์ใจ รูปออกมาอย่างที่เห็น ถ้าขืนถ่ายต่อไปมีหวังเลนกล้องอาจแตกได้

เป็นเรื่องที่น่าแปลก ที่นำมาเล่าสู่กันฟัง

จะเป็นด้วยบุญฤทธิ์ ด้วยเดชเเห่งพุทธานุภาพ ศิษย์คนนี้ขอกราบแทบเท้าองค์หลวงปู่สืบไป

กราบหลวงปู่เหิน ปุญญักเขตโต

cr.ชาย บูรพา

เปิดดูไฟล์ 5835631 เปิดดูไฟล์ 5835632 เปิดดูไฟล์ 5835633

 

ใครมีรุ่น(ไตรมาสบูชาครู)นี้รีบเลี่ยมขึ้นคอเถอะครับ มีญาณสายที่สูงที่สุดลงประทับรักษา น้อยคนที่จะอัญเชิญท่านลงมาได้ แต่หลวงพ่อเหินท่านสามารถอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สูงที่สุดลงมาประทับรักษาได้ ท่านไม่ธรรมดาจริงๆ ท่านคือของจริงอย่างไม่ต้องสงสัยครับ
#เป็นความเชื่อส่วนบุคคลผู้ที่รู้คือผู้ที่ได้ศึกษาในศาสตร์พลังพุทธคุณเท่านั้น

แปลกมากครับ พอผมจะโพสต์ในแนวนี้ โทรศัพท์ผมอัพโหลดไม่ได้ จนต้องได้ขออนุญาตจากหลวงพ่อก่อน ว่าผมขออนุญาตเผยแพร่บารมีหลวงพ่อครับ แล้วยกมือท่วมหัว พอเอามือลง โทรศัพท์โหลดปรื๊ดทีเดียวเลยครับ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ

ผมไม่ใช่สายปั่นหรือสายอะไรไดๆทั้งสิ้นนะครับ ผมเป็นคนที่ชอบศึกษาในศาสตร์ของพลังพุทธคุณพระเครื่องเสาะหาพระเครื่องที่มีพุทธคุณสูงๆมาใช้เพื่อเป็นสิริมงคล แต่ละสายแต่ละครูบาอาจารย์ก็จะเจอต่างกัน เช่นสายหลวงปู่สูนย์ จันทวัณโณ วัดป่าอิสสระธรรม ก็จะเป็นสายพญานาคราช โชคลาภเมตตาจะสูง สายหลวงปู่สิงห์โต จิตตธัมโม จะเป็นสายพญาครุฑ ยักษ์ ท้าวเวสสุวรรณ พญานาคราช พระอินทร์ เด่นกันโรคกันภัยสูง เมตตาสูง ส่วนหลวงพ่อสุพจน์ วัดศรีทางธรรม จะเป็นสายของท้าวเวสสุวรรณ ปู่เจ้าสมิงพราย ท่านเชิญอะไรลงได้หมด เด่นกันคุณไสย์มนดำต่างๆ และคงกระพันธ์มหาอุตม์สูง แต่สายหลวงพ่อเหินนี่ เจอสายสูงเลย

ซึ่งผมยังไม่เคยเจอในสายได ถือว่าสุดมาก ที่ผมบอกว่าสายสูงสุดนั่นก็คือ ในเหรียญของท่านมีกระแสญาณทิพย์ขององค์พระสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า สถิตย์ประทับรักษาอยู่ ให้ทุกท่านคิดดูว่าบารมีหลวงพ่อเหินนั้นท่านจะขนาดไหน ที่สามารถอัญเชิญกระแสญาณขององค์พระสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ลงจากแดนนิพพานมาอำนวยอวยชัยได้ ผมถือว่านี่คือที่สุดแล้ว สูงที่สุดแล้ว

ผมไม่ได้บอกให้ทุกท่านเชื่อนะครับโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ ผู้ที่เชื่อคือผู้ที่ศึกษาในศาสตร์พลังพุทธคุณเท่านั้น ส่วนใครที่ไม่เชื่อก็ให้เลื่อนผ่านได้เลยนะครับ อย่าค้อมเม้นอะไรที่เป็นการปรามาสครูบาอาจารย์นะครับ ไม่เชื่อก็ให้เก็บไว้ในใจครับ

Cr.Ruechai Chamai

 

#จากมวนบุหรี่กายสิทธิ์ที่ทุกๆคนต้องการ_สู่เหรียญไตรมาสบูชาครูมวนบุหรี่ที่จะมีกันทุกๆคน
#ถอดรหัสคำสอนเหรียญไตรมาสบูชาครู
#เหรียญรุ่นนี้คณะศิษย์ได้จัดสร้างเพื่อนำปัจจัยหลังหักค่าใช้จ่ายถวายหลวงพ่อทั้งหมด คาดว่าน่าจะได้ประมาณหลายล้านบาท ถวายไปรอบแรกแล้ว 1,000,000 บาท #มากเป็นประวัติศาสตร์!!!
และคงเหลือที่ต้องถวายในครั้งต่อไป #วิหารเทพสถิตย์แห่งนี้ก็จะได้สร้างเสร็จสิ้นสมบูรณ์100%
ทีนี้เราจะมาถอดรหัสคำสอนและมหามงคลสิ่งดีที่ซ่อนอยู่ในเหรียญรุ่นนี้กันครับ (ย่อๆเข้าใจง่ายๆ)
#ขออธิบายภาษาแม้ผู้ไม่ได้ร่ำเรียนมาก็เข้าใจง่ายๆไม่เน้นบาลีไม่ต้องแปลยาก ตามสไตล์ผมครับ✨

อ่านอักขระหัวใจที่หลวงพ่อเมตตาประสิทธิและบรรจุ นับวนจากซ้ายไปขวา ตามเข็มนาฬิกา อ่านตามนี้เขาเรียกยันต์เป็น คนเรียนมารู้จริงจะรู้ดี ได้ว่า

"พุทธะสังมิ นะชาลีติ อิทะคะมะ โพธิสัตโต นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ มะอะอุ"

#แปลฉบับตรงๆง่ายได้ตามนี้ คือ
#พุทธะสังมิ มาจาก ไตรสรณคมณ์ หรือที่พึ่งทั้ง 3 คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ย่อมาจากเวลาเราจะไหว้พระหลังนะโมจบ ก็ตั้งจิตระลึก พุทธังสรณังคัจฉามิ ลฯ ไปเรื่อยๆ นี่จึงเป็นการสรรเสริญบารมี
พุทธคุณใช้ได้108ประการ เล่าไม่หมด เยอะมาก
#นะชาลีติ หรือหัวใจพระสิวลี พระพุทธองค์ทรงยกย่องว่าท่านคือ ผู้มีโชคลาภมากอย่างเป็นเลิศ ซึ่งที่ซ่อนอยู่ในหัวใจนี้แปลง่ายๆ คือ
นะ มีความนอบน้อม มีสัมมาคารวะ
ชา มีความขยัน ทำมาหากิน ที่สุจริต สัมมาอาชีวะ
ลี ไม่นอนตื่นสาย นอนพอกำลังกาย
ติ ว่ารวมด้วยให้ทำปฏิบัติทั้งหมด
พุทธคุณด้านโชคลาภเงินทองจึงมาเด่นที่สุด
#อิทะคะมะ หรือหัวใจอิธะเจ ย่อมาจากหัวใจอิธะเจ 13 สมัยก่อนใช้ลบทำผงตั้งต้นอิทธิเจตามสูตรคัมภีร์วิชามูลกัจจายณ์ หรือใช้เสกแป้ง เสกน้ำล้างหน้า เสกน้ำกิน #เสกบุหรี่สูบ!!! ตำนานขุนแผนก็ใช้คาถานี้เสกย่องเข้าหานางพิมและหลายๆคน บางสำนัก ก็ใช้ อิทะคะมะ ปาสุอุชา เพิ่มไปด้วย
พุทธคุณด้านเมตตามหานิยมจึงมาเด่นที่สุด
#โพธิสัตโต คือ ผู้บำเพ็ญเพียร สร้างบุญบารมี เพื่อปรารถนาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต หรือปรารถนาตรัสรู้เป็นปัจเจกพระพุทธเจ้า (ไม่ได้เผยแผ่ศาสนา) หรือเป็นพระอนุพุทธะ ซึ่งโพธิสัตว์ก็จะมีหลายระดับเช่นกัน (ไม่ขอกล่าวถึง เพราะยาว) ในอดีตที่เรารู้จักกันส่วนมาก ก็จะมี หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ (บทสรรเสริญบูชาท่าน นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา) หรือหลวงปู่ดู่ (บทสรรเสริญบูชาท่าน นะโม โพธิสัตโต พรหมปัญโญ)
#หลวงพ่อเหินท่านได้ตั้งสัจจะว่าวาจาตั้งจิตอธิษฐานบำเพ็ญบุญบารมี สู่พระโพธิสัตว์ เช่นกัน
#ท่านจึงบรรจุคำว่าโพธิสัตโตนี้อยู่เหนือสุดบนสุดยอดสุดทางด้านซ้ายมือ
พุทธคุณ 108 ประการ และอยู่เหนือทุกๆสิ่ง
#นะโมพุทธายะ คือ พระเจ้า 5 พระองค์ องค์ที่ 5 คือ พระศรีอารย์ที่ทุกๆคนรอคอย หัวใจนี้เป็นแม่ธาตุใหญ่ การสร้างวัตถุมงคลทุกๆอย่าง ต้องปิดด้วยแม่ธาตุใหญ่นี้ (ครูบาอาจารย์สอนผมมา ผมเผยแผ่ต่อให้) จะเห็นได้ว่าท่านอัญเชิญอยู่บนสุดยอดสุดด้านขวามือ #อธิบายง่ายๆการตรัสรู้จากพระโพธิสัตว์บำเพ็ญเพียรจนเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป (นี่คือ แผนภูมิ เส้นทางของผู้บำเพ็ญเพียร)
พุทธคุณ ครอบจักรวาล ป้องกัน แคล้วคลาด ปลอดภัย ใช้ได้ทุกทาง ตามจิตประสงค์ เพราะไม่มีสิ่งใดจะประเสริฐและยิ่งใหญ่เสมอเหมือน
#นะมะพะทะ คือ ตั้ง ธาตุุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ ตั้งธาตุ เดินธาตุ หนุนธาตุ ให้บังเกิด หรือ นะมะ (นมัสการ) พะทะ (พุทธะ) นมัสการพระพุทธเจ้า การบรรจุหัวใจนี้ วัตถุมงคลส่วนใหญ่จึงจำเป็นต้องมี
พูดง่ายๆก็คือ การก่อร่างสร้างจนเป็นตัวเป็นตน
พุทธคุณ จึงหนุนดวงชะตา หนุนโชค หนุนลาภ หนุนยศ หนุนตำแหน่ง ปรับธาตุในร่างกายให้อโรคพยาธิ
#จะภะกะสะ คือ หัวใจหนุนธาตุ 4 (หลายๆท่านจะลืมหรือไม่ใช้) #แต่หลวงพ่อเหินท่านจะลงในวัตถุมงคลโดยเฉพาะเหรียญท่านตลอดทุกรุ่น
พูดง่ายๆหัวใจนี้จะไปเร่งนะมะพะทะให้แรงและเร็วขึ้น ที่นี้เราไปแปลเข้าใจความหมายง่ายๆกัน
#จะภะกะสะหรือหัวใจธาตุพระกรณีนี่คือหัวใจคนดี ที่นี้รู้หรือยังครับ ที่หลวงพ่อท่านเลือกลงหัวใจนี้ในเหรียญและวัตถุมงคล เพราะแปลง่ายๆได้ว่า
จะ จงละเว้นคบคนชั่วเสีย
ภะ ให้คบหาสมาคมบัณฑิต คบหาคนดีนั่นแหละ
กะ ให้สร้างบุญสร้างบารมี ทั้งกลางวันกลางคืน
สะ ให้ระลึกและสังวรณ์ความไม่เที่ยงของสังขารนี้
พุทธคุณ เมตตามหานิยม ค้าขาย เงินทอง ชื่อเสียง ชั้นเลิศ ไม่มีศัตรูภัยพาลใดๆ ศัตรูพินาศดับไป
#มะอะอุ คือ แก้วมงคล 3 ประการ ศีล สมาธิ ปัญญา หากใครมีครบทั้ง 3 อย่างนี้ จึงเสมือนมีแก้วสารพัดนึก #หลายๆคนจึงเรียกว่าหัวใจแก้วสารพัดนึก หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล ท่านก็จะชอบใช้จารวัตถุมงคลด้วยหัวใจนี้บ่อยมากที่สุด หากใครมีครบ 3 อย่างนี้ ก็ถือได้ว่าเป็น บุคคลที่ประเสริฐ เป็นที่รักใครยกย่องทั้งของมนุษย์ เทวดา และสรรพสัตว์
พุทธคุณ ดั่งมีสารพัดนึก คิดหวังสิ่งใดสำเร็จ สมดังปรารถนา ไม่มีสิ่งใดมาขวางมากั้นได้

#ผมถอดรหัสและคำสอนที่หลวงพ่อท่านตั้งใจสอนทุกๆคนและปฏิปทาที่ท่านตั้งมั่นในจิต จะเห็นได้ว่าท่านอัญเชิญหัวใจ อักขระเลขยันต์ คำสอน และจุดประสงค์ ปฏิปทาที่ท่านตั้งใจ ตั้งมั่นบำเพ็ญเพียร สะสมบุญบารมี และปฏิบัติ ด้วยความเด็ดเดี่ยว เพื่อไปให้ถึง ได้ลึกซึ้ง #ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา

#ทุกสิ่งเป็นฐานสู่ยอดแห่งสัจจะอธิษฐาน

#ส่วนด้านล่าง หลวงพ่อเหิน ปุญญักเขตโต ท่านปิดด้วย อุ คือ ฉัพพรรณรังสี หรือ ปัญญา หรือตรัสรู้

#และเลข๑ คือ สายลำธารเล็กๆ สู่สายธาร จนเป็นมหาธารบุญ จากผู้เคารพรัก และศรัทธาหลวงพ่อ ทุกๆคนเห็นพ้องต้องกัน มีวัตถุประสงค์เดียวกันชัดเจน สมัครสมานสามัคคี ร่วมบุญร่วมใจ คลิ้นมหาชนมาจากทั่วสารทิศ จนมหาธารทุกๆสายนั้น
#ไหลรวมกันเป็น1ดียวด้วยแรงบุญด้วยแรงศรัทธา ในครูบาอาจารย์รูปเดียวกัน เหมือนแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน ไหลรวมเป็นเจ้าพระยา รวมกันเป็น 1 เดียว
#เงินบริสุทธ์ทุกๆบาทจากหยาดเหงื่อและแรงงานผู้ศรัทธาจึงได้ก่อเกิดเป็นอานิสงส์มหาบุญนี้
ถ้าเป็นกาแฟก็เหมือนหาแฟที่หลวงพ่อชอบฉันเป็นประจำ "#เบอร์ดี้๑ในใจคุณ"
#จึงเป็น1ไม่เป็น2รองใคร

#หลวงพ่อนั่งบริกรรมตั้งธาตุหนุนธาตุประสิทธิสรรพวิชาที่ท่านร่ำเรียนมา และท่านี้ คือ #ท่าที่เป็นอัฒลักษณ์เป็นเอกลักษณ์ของท่าน 1 เดียว ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน หลายๆคนเวลาพบเจอท่าน ก็อยากให้ท่านเมตตาท่านี้ให้ด้วยกันทุกๆคนนั่นแหละ (ขอเมตตาท่านเสกของให้)
#เหรียญรุ่นนี้จะมีพลังอานุภาพแรงมาก_รอบๆเหรียญหมุนวนเป็นพายุ เพราะเป็นท่าที่ท่านกำลัง รวมธาตุ ตั้งธาตุ หนุนธาตุ ดึงธาตุ ประจุประสิทธิ
(ส่วนตัวคิดว่าท่านคงเมตตา เสกอัดลงโองการมหาปัทมึน มนต์พระกาฬ และสรรพสุดยอดวิชา ให้ด้วย)

#มวนยาสูบกายสิทธิ์ ที่หลายๆคนอยากได้ อยากมี เพราะมีประสบการณ์เล่าขานมากมาย
#ถ้าใครมีเหรียญรุ่นนี้จึงเหมือนมีมวนยาสูบกายสิทธิ์ของหลวงพ่อด้วย 2 อิน 1 นอกจากประสบการณ์ไปเองได้หายเองได้มาเองได้ และอื่นๆ ยังมีประสบการณ์หลังไมค์ที่ข้อความมาเล่าให้ผมฟังเยอะแยะ และผมยังไม่เคยเล่าที่ไหนมาก่อน เช่น
"พี่ๆรูปหลวงพ่อนั่งถือมวนยา ยาสูบติดไฟได้เอง สีแดงเลย ผมไม่ได้ตาฝาด" ผู้เล่า
"รูปหลวงพ่อนั่งถือบุหรี่ ท่านกระพริบตาครับ" ผู้เล่า
#และอื่นๆอีกมากมาย_จึงถือได้ว่ารุ่นนี้ของดีของจริงงานบุญวัตถุประสงค์ชัดเจนจริง!!!❤️

#สรุปเหรียญรุ่นนี้จึงใช้บูชาได้108ประการดั่งมีแก้วสารพัดนึกสมปรารถทุกประการ หากไม่เกินกรรม
#จึงขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านทั้งทีมผู้สร้าง_ผู้ร่วมบุญ_ผู้เกี่ยวข้องทุกๆท่าน สาธุครับ
ผู้บันทึก : พิษณุ ปุณศรีสกลกิต 12 มิ.ย.64

#เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อเหิน_เสมาฉัพพรรณรังสีเป็นยังไง_เหรียญไตรมาสนี้จะเป็นอย่างนั้น เช่นกัน!!!
ผลบุญครั้งนี้อานิสงส์แรง และเร็ว ขอแสดงความยินดีกับทุกๆท่านด้วยครับ ✨
#โอกาสเป็นของผู้ศรัทธาและตาคมเสมอ ⚡
#ศรัทธามาปาฏิหารย์มีบารมีเกิด
#ศรัทธาต้องมาก่อนแล้วสิ่งดีๆจะตามมา ตาคม !!!

Cr.พิษณุ ปุณศรีสกลกิต

 

#ต่อไปจะพลิกแผ่นดินหาครับ 8/3/64
#ต่อแต่นี้ไม่มีอีกแล้วชักยันต์กลางอากาศปัดตลอดกริ่งเหินฟ้า

คำถามมากมายกับข้อสงสัย"หลวงปู่ชักยันต์อะไร"ในพิธีอธิษฐานจิตอัญเชิญบารมีองค์พระธาตุพนมและพระมหากัสสปะสู่วัตถุมงคล"หนึ่งเดียวในแผ่นดิน"
เหตุที่ท่านชักยันต์กลางอากาศปัดตลอดด้วยเหตุที่สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิสิทธิที่ยากจะอนุญาติให้เข้าทำพิธีด้านในขององค์พระธาตุ ที่สำคัญท่านบอกว่ามี"เทวดามาร่วมพิธีนับแสนองค์มาร่วมอนุโมทนามากกว่าคนธรรมดาอีก" ท่านจึงเขียนยันต์"ยอดพรหม"
ถวายองค์พระธาตุและเทพพรหมเทวดา ยันต์นี้จะติดในวัตถุมงคลทุกชิ้นที่เข้าร่วมพิธี หากคนที่ปฏิบัติจนมีทิพยจักขุหรือตาที่สามจะเห็นยันต์สีทองนี้ติดในวัตถุมงคลทุกชิ้นและองค์พระธาตุเป็นสีทองสว่างไสว
#วิชาปัดตลอด เป็นวิชาตามใจนึกเกิดจากจิตที่เป็นสุญญตาไม่มีรูปแบบเป็นความว่างเปล่า ความเป็นสูญคือไม่มีตัวตนถือเอาเป็นตัวตนไม่ได้ สุญญตามีความหมาย4นัยยะคือ

1.ความว่างเปล่าปราศจากความเป็นบุคคลตัวตน เขา เรา โดยเฉพาะขันธ์5เป็นอนัตตา ตลอดจนว่างจากสารัตถะเช่นความไม่เที่ยง ความสวยงาม ความสุข เป็นต้น ปรมัตถ์ธรรมดังเช่นขันธ์ ธาตุ อายตนะและปฏิจจสมุปบาทที่แสดงแต่ตัวสภาวะให้เห็นความว่างเปล่าปราศจากสัตว์ บุคคลเป็นเพียงสภาวะธรรม
2.ความว่างจากกิเลส มีราคะ โทสะ โมหะ เป็นต้นก็ดี สภาวะที่ว่างจากสังขารทั้งหลายก็ดีหมายถึงนิพพาน

3.โลกุตตรมรรค ได้ชื่อว่าเป็นสุญญตาด้วยเหตุผลสามประการ คือเพราะบรรลุด้วยปัญญามี่กำหนดพิจารณาความเป็นอนัตตามองเห็นสภาพความว่างเปล่าจากกิเลสมีราคะเป็นต้นและเพราะมีสุญญตาคือพระนิพพานเป็นอารมณ์

4.ความว่างที่เกิดจากความกำหนดหมายในใจหรือทำใจเพื่อให้เป็นอารมณ์ของจิตในการเจริญสมาบัติ เช่นผู้เจริญอากิญจัญญายตนสมาบัติกำหนดใจถึงภาวะว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย

#ในแผ่นดินนี้ในอดีตมีครูบาอาจารย์หลายรูปกำหนดจิตปัดตลอดได้ เช่นหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน หลวงปู่ศุข เกสโร วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลานและสมเด็จลุน วัดโพธิชัยยาราม สปป.ลาว
cr.Tong Phanin

 

#นะฉัพพรรณรังสี รังสีของพระพุทธเจ้าที่ครูบาอาจารย์ท่านยึดถือเป็น"ยันต์ครู"มีหลายแบบหลายสำนักแต่ยึดถือกันมานานมักกล่าวถึงสองสำนักนี้
๑.สายท่านอาจารย์เทพ สาริกบุตร ที่ท่านได้ไปเรียนมาจากวัดประดู่ในทรงธรรม อยุธยา แต่ที่ท่านใช้จะแตกต่างจากที่หลวงพ่อสละใช้แม้หลวงพ่อสละ วัดประดู่ในทรงธรรมจะเป็นบุตรบุญธรรมของอ.จาบ หรือที่ปรากฏในรูปท่าน อ.จาบ สุวรรณหรือศิษย์ของท่านเรียกท่านว่า "ก๋งจาบ" ที่แม้แต่หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ยังนับถือท่านเป็นครูบาอาจารย์ของท่าน "ก๋งจาบ"เป็นครูบาอาจารย์ของเกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคต่อมามากมายหลายองค์ เช่นหลวงพ่อเทียม วัดกษัตริย์ตราธิราช หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน ศิษย์ทั้งสามองค์ของก๋งจาบได้แสดงอภิญญาปรากฏในพิธีหล่อพระหลวงปู่ทวดของวัดปราสาทบุญญาวาส สามเสน แผ่นยันต์ของสามองค์ไม่หลอมละลายเป็นที่เลื่องลือจนทุกวันนี้

๒.สายหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท โดยท่านลงยันต์นะฉัพพรรณรังสีไว้ที่รูปของท่าน ซึ่งหลวงปู่ศุขมอบนะตัวนี้ไว้ให้หลวงพ่อพุฒ วัดเขาไม้แดงและท่านอ.มนัส สิวาภิรมย์รัตน์ได้ไปเรียนมาโดยท่านเรียกว่า"นะพันนะรังสี"ซึงเขียนตามภาษาเดิม ตำราของหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านลงด้วยสูตรปถมังพินธุทุกตัว แต่มีเคล็ดเกร็ดย่อยลงไปในตัว"นะ"ต่างๆอีกพอสมควร

"นะฉัพพรรณรังสี"ตัวนี้ท่านอ.เทพ สาริกบุตร ท่านใช้เจิมหน้าผากให้ลูกศิษย์ หลวงปู่ศุขท่านลงไว้ที่รูปของท่านนั่นย่อมแสดงว่า"นะฉัพพรรณรังสี"เป็นยันต์ที่มีความสำคัญมากเกิดประสพการณ์มากมายแก่ผู้มีบุญได้ลง"นะฉัพพรรณรังสี"อยู่กับตัว

"หลวงพ่อเหิน บุญญักเขต"ได้อัญเชิญยันต์นี้มาปะจุไว้ในหลังเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรกของท่านเพื่อคุ้มครองป้องกันภัยภยันตรายต่างๆ ทั้งยังเป็นมหายันต์หนุนดวงเสริมวาสนาบารมีแก่"ผู้มียันต์นะฉัพพรรณรังสี"ติดตัว

Cr.Suprakorn Akkarachokekul

 

#โชว์ ร่วมเผยแพร่บารมีหลวงพ่อครับ
#Cr.ข้อมูลจากพี่ อิน อจินไตย
ตะกรุดสี่เกลอ(สังวาลย์เพชรพระพุทธเจ้า) กะระมะถะ (บางฉบับเรียกคาถาหัวใจพระพุทธกัสสปะ) แต่จริงๆแล้วคาถานี้ตามโบราณส่วนใหญ่นิยมถอดมาจากคาถา สังวาลย์เพชรพระพุทธเจ้า คือ "กะระมะถะ กิริมิถิ กุรุมุถุ เกเรเมเถ " ใช้ภาวนาแต่งตัวคงกะพัน ใช้ได้หลายประการ ทางคงกระพันให้เสกพริกไทยกิน เสกขมิ้นกินก็ได้ เสกเหล้ากินก็ได้ ถ้าจะมัดผีให้ใช้คาถานี้มัดไปมิได้แล เวลาจะใช้ทางคงกระพัน ท่านให้ถอดเป็นดังนี้ กะระมะทะ กิริมิทิ กุรุมุทุ เกเรเมเท ให้เสกด้วยคาถานี้คงทนดีนักแล ฯหลวงพ่อท่านนำคาถานี้มาลงทำตะกรุดให้ลูกศิษย์ให้ได้ใช้บูชากัน โดยท่านได้นำแผ่นโลหะทั้ง ๔ ชนิด มีตะกั่ว ทองแดง ทองเหลือง เงิน เรียงชั้นพันม้วน ขนาดความยาว ๔ นิ้ว ถักพันเชือกด้วยเชือกไนล่อนสีดำเป็นลายกระบองเกลียว และร้อยผูกเชือกคาดด้วยเงื่อนพิรอด ตะกร้อ หัวท้ายมีทั้งหมด ๓ สี แดง น้ำเงิน น้ำตาล สร้างทำไว้ทั้งหมด ๑๘๐ ดอก ในวันงานพุทธาภิเษกเหรียญรุ่นแรก ได้นำออกมาตอก โค้ทชื่อ หลวงปู่ เหิน จำนวน ๓๐ ดอก ตั้งใจนำออกให้บูชา ดอกละ ๑๕๐๐ บาท สำหรับคนที่จะมาร่วมงานพุทธาภิเษก พอดีมีสถาณการณ์โควิท คนมาร่วมงานไม่ได้ เลยไม่ได้ให้ใครได้บูชา ตะกรุดนี้หลวงพ่อท่านเรียกชื่อว่าตะกรุดสี่เกลอ ตามตำราจะมีอานุภาพไปทางด้านคงกระพันสูง และผู้ที่นำไปใช้บูชาจะทำให้เป็นคนใจร้อนและจิตใจจะออกไปทางนักเลง(ของหลวงพ่อไม่ร้อน) หลวงพ่อท่านบอกยุคนี้คงกระพันไม่สำคัญเท่าไรจึงลงยันต์สำคัญต่างๆครอบ กำกับไว้อีกหลายพระยันต์ ให้มีอานุภาพครอบคลุมในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเมตตา ค้าขาย แคล้วคลาด ป้องกันภัย ๑๐๘ ประการและยันต์ช่วยเรื่องทำมาหากินในยุคเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองเพื่อให้ลูกศิษย์ลูกหา ได้ลืมตาอ้าปาก และยังเป็นเครื่องมงคลคุ้มครองตนเองได้อีกด้วย หลวงท่านเสกประจุลงธาตุ กำกับกับธาตุ จนท่านเห็นว่ามีอานุภาพเต็มแล้ว ท่านจึงนำออกมาให้บูชาร่วมบุญสร้างวิหารกับท่านส่วนหนึ่ง และท่านยังออกแจกจ่ายให้กับผู้คนที่แวะเวียนมากราบทำบุญกับท่านออกไปอีกเป็นจำนวนมากโดยท่านไม่ได้คิดเรื่องมูลค่า ใครได้ไปเก็บไว้บูชาให้ดีครับ ตะกรุดนี้หลวงพ่อท่านบอกทำในพรรษา สร้างทำไว้แค่ ๑๘๐ ดอก ท่านต้องลงจารแผ่นโลหะทั้งหมด ๗๒๐ แผ่น+-×÷€£¢(เยอะนะ) .... ใครมากราบหลวงพ่อจะเห็นหลวงพ่อท่านสอนธรรมมะญาติโยมบ้าง ท่านนั้งสูบยาบ้าง และหลังๆสายตาหลวงพ่อท่านไม่ค่อยดีมากนักเพราะท่านต้องตอกแผ่นยันต์มากท่านต้องเพ่งอักขระและแสงสะท้อนจากโลหะมาเข้าตาท่านอีก แต่ท่านยังมีเมตตาทำตะกรุดชุดนี้ออกมาให้ได้บูชากันอีก ใครได้ไปเก็บไว้ให้ดีครับ การทำตะกรุดของหลวงพ่อท่านพิถีพิถันมากในทุกขั้นตอน ง่ายๆลวกๆท่านไม่ทำให้เสียชื่อครูบาอาจารย์ของท่าน ชื่อเสียงของท่าน หลวงพ่อท่านไม่ได้ทำออกมาง่ายๆนะครับทั้งฤกษ์ยาม และวาระ นานไปจะเป็นตำนานครับ(หลวงพ่อท่านมักบอกลูกศิษย์ใกล้ชิดอยู่เสมอตะกรุดของท่านมีอานุภาพเทียบเท่าเหล็กไหล)เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ ติดวัตถุมงคล ดีกว่าติดสิ่งอัปมงคล หลวงพ่อท่านเทศน์ไว้ว่า ทางขึ้นสวรรค์เราก็ทำกันเอง ทางลงนรกเราก็ทำกันเอง ไม่มีใครทำให้เราได้อยู่ที่จะเลือกขึ้นฯ หรือจะเดินลงฯ

 

#ขอเผยแผ่ธรรมของหลวงอาค่ะ.
ในปี2563 มิ๊วได้โทรไปสนทนากับหลวงอา และได้ถามท่านว่า คำว่า #ภควา" ที่มีความหมายว่าผู้มีความเจริญจำแนกธรรมนั้นคือจำแนกอะไรบ้างมีอะไรบ้างอยากรู้รายละเอียดที่กว้างออกไปค่ะ.
#หลวงอาท่านจึงให้หากระดาษปากกาจดไว้ดังนี้ค่ะ
น้องมิ๊วเอ๊ยจงฟังและพิจารณาตามนี้เถิด
คำว่า #ภควานั้นมีความหมายดังต่อไปนี้มี13ประการว่า
1.มีอิสริยยศ เป็นใหญ่และอิสระ
2.เสพอริยคุณอันประเสริฐ
3.ผู้ควรได้รับทานทั้งหลายมีข้าวน้ำเป็นต้น
4.แจกซึ่งแก้วคือปัญญาแห่งพระสัทธรรม
5.หักชำระล้างอธรรมอันเป็นบาปทั้งหลายได้แล้ว
6.มีพระบารมีสั่งสมมานานมาก
7.มีกายและจิตเจริญด้วยภาวนาธรรม
8.ถึงที่สุดแห่งการสิ้นภพ
9.มีพระภาคคือบารมีธรรม30ประการ
10.หักเสียซึ่งกองกิเลสมีราคะเป็นต้น
11.ประกอบด้วยบุญและปัญญาอันหาที่สิ้นสุดมิได้
12.มีพรหมวิหารกว้างใหญ่ต่อสัพพสัตว์ทั้งหลายไม่มีที่สิ้นสุด
13.หมดความพอใจในการกลับมาเกิดโดยเด็ดขาดคือถอนรากแห่งภพสำเร็จแล้ว
คำว่า ภควา มีความหมายจำแนกได้13อย่างตามนี้นั้นแลน้องมิ๊วเอ๊ย.

และต่อมาภายหลังมิ๊วได้ค้นหาความหมายนี้ในพระไตรปิฏกอีกนาน
และพบว่ามีความหมายตามที่หลวงอาบอกทุกอย่างและครบ13ข้อเลยค่ะ แสดงให้เห็นว่าหลวงอาท่านจำพระไตรปิฎกได้แม่นยำมากและเป็นพระที่มีคุณภาพพร้อมทั้งคุณธรรมค่ะ
สาธุๆค่ะ

Cr.น้องมิ้ว มะปราง

 

เหรียญไตรมาส บูชาครู อักขระเลขยันต์ที่หลวงพ่อท่านนำมาลงไว้ในเหรียญรุ่นนี้ มีอะไรบ้าง ด้านหน้าเหรียญ หลวงพ่อท่านนำพระคาถาสำคัญๆมาลงไว้ ได้อย่างลงตัวและสวยงาม อ่านได้ดังนี้ พุทธะสังมิ นะชาลีติ อิทะคะมะ โพธิสัตตโต นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ มะอะอุ ซึ่งพระคาถาที่หลวงพ่อท่านนำมาลงไว้เป็นคาถาสำคัญที่มีอานุภาพมาก เช่น - พุทธะสังมิ พระคาถายอดศีลนี้ ท่านวางอุปเท่ห์วิธีใช้ไว้มากมาย เป็นไปได้รอบด้าน เป็นยอดพระคาถาทางเมตตา ทางอยู่คงก็ใช้ได้ ตลอดจนจะใช้เป็นล่องหนกำบังก็ได้ ท่านเรียกว่าฝอยท่วมหลังช้าง - นะชาลิติ หัวใจพระฉิมพลี” คาถามหาลาภ (พระสีวลี)” ใช้ด้านเมตตามหานิยม โภคทรัพย์มหาลาภ - อิทะคะมะ หัวใจอิธะเจ ใช้ทางเสน่ห์เมตตามหานิยม เมตา มหานิยม คนรัก คนหลง เมตตาเอ็นดู ช่วยเหลือ คุ้มครอง - โพธิสัตโต ที่หลวงพ่อลงไว้ เพื่อบอกให้ทราบว่า พระโพธิสัตว์ คือ บุคคลผู้บำเพ็ญบารมีธรรมอุทิศตนช่วยเหลือสัตว์ผู้มีความทุกข์ยากและจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต - นะโมพุทธายะ คาถานี้ก็คือคาถาพระเจ้า5พระองค์ ที่ใช้แทนพระพุทธเจ้า5พระองค์อีกทั้งยังมีความหมายของแม่ธาตุใหญ่ที่ให้กำเนิดทุกสรรพสิ่งบนโลกมีอานุภาพครอบจักรวาล - นะมะพะทะ หัวใจธาตุทั้ง๔ เป็นคาถาที่ย่ออักษรหน้าของคาถา เพื่อง่ายต่อการท่องจำ คาถานี้เป็นคาถาสรรเสริญพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเทียบกับธาตุทั้ง ๔
- นะ ธาตุน้ำ มีปกติไหล คือ สายธารแห่งพระเมตตาบารมี
- มะ ธาตุดิน มีความแข็งแกร่งประดุจเพชร หรือเขาศิลาล้วน คือพระขันติบารมี
- พะ ธาตุไฟ มีปกติร้อน คือ ปัญญาย่อมแผดเผากิเลสให้สิ้นไป คือ พระปัญญาบารมี
- ธะ ธาตุลม มีปกติไม่มีสิ่งใดขวางกั้น คือ พระทศพลญาณ พระญาณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ไม่มีสิ่งใดในจักรวาลต้านทานได้ - จะ ภะ กะ สะ ครับ หรือหัวใจธาตุ กรณีย์ ใช้หนุนธาตุ 4 ให้มีกำลังและมีอานุภาพมากขึ้นครับ และมีอานุภาพอีกหลายประการ - มะ อะ อุ" หมายถึง พระรัตนตรัย (พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์)เป็นส่วนสำคัญในหลายพระคาถา และยันต์หลายองค์ พบได้โดยทั่วไป ในบางคาถาหรือยันต์ก็สลับกันไปมา ตามแต่ครูบาอาจารย์ผู้ผูกคาถาหรือผูกยันต์จะผูกไว้ เช่น "อะ อุ มะ" "อุ มะ อะ" "อะ มะ อุ" ทำให้มีอานุภาพมากยิ่งเข้าไปอีกฯลฯ จะเห็นได้ว่าพระคาถาที่หลวงพ่อท่านคัดเลือกลงไว้ในเหรียญไตรมาส บูชาครูนี้ เป็นสุดยอดพระคาถาสำคัญๆที่หลวงพ่อท่านตั้งใจนำมาไว้ในเหรียญรุ่นนี้ เพื่อให้เหรียญชุดนนี้มีอานุภาพครอบคลุมในทุกๆเรื่อง ทุกๆด้าน และเหรียญไตรมาสบูชาครูนี้เอง หลวงพ่อจารึก คำว่า โพธิสัตตโต เอาไว้ด้านบนกลางเหรียญเพื่อบ่งบอกว่าท่านคือหน่อเนื้อสายพระโพธญาน พระโพธิสัตว์ คือ บุคคลผู้บำเพ็ญบารมีธรรมอุทิศตนช่วยเหลือสัตว์ผู้มีความทุกข์ยากและจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ฉะนั้นเหรียญนี้ จึงเป็นเหรียญที่สำคัญอีกรุ่นหนึ่งขององค์หลวงพ่อเหิน ที่ท่านอนุญาตให้ลูกศิษย์ภายในจัดสร้าง เพราะเห็นถึงเจตนาอันบริสุทธิ์ ของคณะลูกศิษย์กลุ่มนี้ที่นำรายได้ปัจจัยทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว นำปัจจัยมาถวายท่านทั้งหมด ปัจจัยจากเหรียญไตรมาสบูชาครูนี้ เพียงพอต่อการก่อสร้างสร้างวิหารฯในส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ตามเจตนารมณ์ ของหลวงพ่อทุกประการที่ท่านมารับเป็นประธานในการสร้างวิหารเทพสถิตย์นี้ เพื่อให้วิหารฯแห่งนี้ดำรง สืบทอดพุทธศาสนาต่อไปในอนาคตกาล ซึ่งหลวงพ่อท่านปรารถไว้ว่า ในไตรมาสนี้หลวงพ่อจะเสกอธิษฐานจิตให้ทุกวันในระหว่างที่ท่านจำพรรษา ที่สำนักเทือกเขาเพชรพญาธาร ท่านจะเสกอธิษฐานจิตทิ้งให้ไว้เป็นตำนาน อักขระเลขยันต์ สัพพวิชาความรู้ภูมิธรรมที่ท่านมีท่านจะ เสกประจุไว้ให้ในเหรียญรุ่นนี้ ให้สมกับคำว่าบูชาครู ไตรมาส #บารมี ปุญญักเขตโต #

Cr.Ford Nititada

 

กระทู้ที่1 23/8/2564
ขออนุญาตท่านแอดมินครับ ร่วมโชว์เผยแผ่บารมี หลวงพ่อเหิน ปุณญักเขตโตตั้งแต่ผมได้เหรียญฉิมพลีมา ผมก็นำเหรียญของหลวงพ่อไปเลี่ยมกรอบกันน้ำอย่างดี เพื่อจะได้อาราธนาท่านขึ้นคอก่อนออกจากบ้านไปทำงานทุกวัน ก่อนหน้านี้ขายของเงียบมากๆจนท้อครับ พอได้มาห้อยเหรียญรุ่นฉิมพลีจนรู้สึกได้ว่าขายของดีกว่าเดิมและก็มีลูกค้าเพิ่มขึ้นด้วยครับ (ความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ)กราบบารมีหลวงพ่อเหิน ปุณญักเขตโต ขอบคุณพี่เมธมา ที่สร้างผลงานออกมาได้สวยสดงดงามยิ่งนัก❤️สุดปัง ยินดีด้วย

cr.Chalongrat Thawronchat

 

กราบปู่เหินครับ..

ตะกรุดโสฬสนี้หลวงพ่อท่านบอกสร้างทำได้ยากนัก ขนาดความยาว 2.5 นิ้ว 2แผ่น นอกตะกั่ว/ในทองแดงม้วนเข้าด้วยกัน ถักพันเชือก ออกที่วัดโป่งสะเดา นครสวรรค์ ปี๒๕๕๙ สร้างน้อยหายาก เป็นตะกรุดชั้นสูง รองจากตะกรุดจักพรรดิ์ หลวงพ่อท่านลงจารพระยันต์แบบพิสดาร ปลุกเสกทำเองทุกขั้นตอน วัตถุมงคลของพระอาจารย์เหินฟ้าทุกอย่าง จากที่ท่านเล่า
ท่านพิถีพิถันทั้งในการสร้างและเสกเป็นอย่างมาก
ทุกอย่างต้องเป็นไปตามชั้นตอนถูกต้องตรงตามตำรา
วิชาความรู้ที่ท่านร่ำเรียนมาอย่างไม่คลาดเคลื่อน
อย่างตะกรุดแบบต่างๆ ของท่าน พระอาจารย์เหินฟ้า
ท่านจะตัดแผ่นโลหะแต่ละอย่างแต่ละแผ่น แล้วลง
เหล็กจารอักขระลงเลขยันต์พร้อมเรียกธาตุหนุนธาตุ
อักขระแต่ละตัวๆ ไปจนกว่าจะครบถ้วนทุกอักขระตาม
ตำราบนแผ่นโลหะแผ่นนั้น ก่อนที่จะม้วนเป็นตะกรุด
ซึ่งท่านต้องมีคาถากำกับ เรียกจิตเรียกธาตุให้ถูกต้อง
ควบคู่กันไปด้วย
ท่านจะทำของท่านเองทุกขั้นตอน จะมีก็แต่การ
ถักเชือกพันเชือกเท่านั้น ท่านจะให้ลูกศิษย์ที่ท่าน
ครอบครูลงวิชาให้แล้วทำแทน ก่อนที่ท่านจะมาปลุก
เสกอธิษฐานจิตประจุพลังเวทอาคมจนเป็นที่พอใจ
คือจิตของท่านสัมผัสรู้ในพลังของตะกรุดแต่ละดอก
ว่ามีอานุภาพดั่งที่ต้องการแล้ว จึงจะมอบให้ลูกศิษย์
ลูกหาศรัทธาญาติโยมรับไปบูชาเป็นของดีติดตัว
ขอเรียนว่าทุกขั้นตอนการลงตะกรุดหรือแผ่น
ยันต์ในตำรับของพระอาจารย์เหินฟ้า แต่ละดอก
แต่ละแผ่น ต้องใช้เวลามากพอสมควร
ที่กล่าวมานั้น เป็นเพียงวิธีการโดยสังเขปของ
การทำตะกรุดของหลวงพ่อพระอาจารย์เหินฟ้า เป็นการสร้างทำได้ยากและพิสดาร ซึ่งจะหาครูบาอาจารย์ที่สร้างทำแบบท่านได้ยากมาก หรืออาจหาไม่มีเลย ตะกรุดทุกดอก ที่ท่านสร้างทำเป็นของสูง มีอานุภาพมาก ใครได้ไปบูชาแล้วทำหาย ตะกรุดนั้นจะกลับมาหาท่านเอง วัตถุมงคลที่ท่านสร้างและจัดทำขึ้นเองมีน้อยมากครับ และมีผู้ศรัทธานำไปใช้ก็เกิดประสบการณืหลายอย่าง ยันต์โสฬสมงคลนี้ เป็นมหายันต์ที่เกิดจากการนำเอายันต์ 3 ชนิดมารวมกันไว้ โดยใช้ตัวเลขแทนด้วยความหมายคงคลต่างๆ จากภาพตรงกลางช่อง เล็ก 9 ช่อง คือ ยันต์จตุโร ถัดมาวงกลาง เป็นยันต์สูตรตรีนิสิงเห และด้านนอกสุด เป็นยันต์อริยสัจโสฬส
1.ยันต์จตุโร ที่อยู่ตรงกลางยันต์โสฬส เป็นการลงด้วยตัวเลข 9 ตัว คือ 4 , 9 , 2 , 3 , 5 , 7 , 8 , 1 , 6 ตามลำดับ ยันต์นี้ เมื่อลงแล้วจะทำให้เกิดลาภ และ คุ้มภัยทั้งปวง นิยมลงยันต์นี้เดี่ยวๆ ในการตั้งเสาเอกด้วย นอกจากนั้นแล้วในตำรายังกล่าวว่าให้ใช้คู่กับตรีนิสิงเห และอริยสัจโสฬส จะลงในอาวุธ หอกดาบ ยามเข้ารบข้าศึก จะแคล้วคลาดทั้งปวง เขียนไว้ในสิ่งของ ขโมยจะลักมิได้เลย แช่น้ำกินปราศจากโรคภัย ถ้อยความอันตรายทั้งปวง เขียนใส่แผ่นเหล็กฝังในที่ ปลวกชุม ปลวกก็หนีไปสิ้น ในที่ๆ เลือดชุม เลือดก็หายหมดไป ฝังไว้ที่นา นกมิลงกินข้าวเลย ฝังไว้ไร่นา กันปูหนูทุประการ ถ้าจะปลูกต้นไม้ให้มีผลงอกงาม เขียนใส่แผ่นหินฝังรองไว้ ต้นไม้นั้นงอกงามแล เขียนใส่ผ้าปักไว้หลังคาเรือน ไฟมิไหม้เรือนแล ลงปิดประตูหน้าต่างกันโจร แช่น้ำกิน คลอดลูกง่าย ฯลฯ
จัตตุโร 4 นะวะโม 9 ทะเวโช 2 ตรีนิ 3 ปัญจะ 5 สัตตะ 7 อัฏฐะ 8 เอกะ 1 ฉะวัชชะราชา 6 พระคาถาจัตตุโร
2.ยันต์ตรีนิสิงเห จะเป็นยันต์แถวที่สองนับจากด้านนอก เวลาลงจะลง 3 7 เอา 5 คั่น 4 6 เอา 5 คั่น 1 9 เอา 5 คั่น ไปจนครบรอบ จะสังเกตเห็นว่า พอลงเลขรวมกันได้ 10 ก็จะคั่นด้วย 5 เสมอ พระยันต์นี้ใช้ลงผ้า หรือกระดาษ ปิดเสาเรือน หรือแขวน 8 ทิศ ก็ได้ ป้องกันภัยอันตราย ภูติผีปิศาจ ใช้ได้สารพัดแล หากนำยันต์นี้ลงคู่กับจตุโร ก็จะได้เป็นยันต์ ตรีนิสิงเหใหญ่ พุทธคุณก็เอาของ 2 พระยันต์นี้มารวมกัน
ตรีนิสิงเห มะอะอุ 3 สัตตะนาเค สะธะวิปิปะสะอุ 7 ปัญจะเพรชฉลูกันเจวะ อาปามะจุปะ 5 จัตตุเทวา นะมะพะทะ 4 ฉะวัชชะราชา อิสวาสุ สุสวาอิ 6 ปัญจะ อินทรานะเมวะจะ ทีมะสังอังขุ 5 เอกะยักขา มิ 1 นะวะ เทวา อะสังวิสุโลปุสะพุภะ 9 ปัญจะพรหมาสะหะบดี สะหะชะฏะตรี 5 ทะเวราชา พุทโธ 2 อัฏฐะอรหันตา เสพุเสวะเสตะ อะเส 8 ปัญจะพุทธานะมามิหัง นะโมพุทธายะ 5 พระคาถาตรีนิสิงเห
3.ยันต์อริยสัจจ์โสฬส มีกล่าวไว้ว่า พระคาถานี้บรรจุอยู่ในพระมหาเจย์ ที่พระเจ้าอโศกมหาราชทรงสว้างเอาไว้ ภายหลังนักปราชญ์ท่านผู้รู้ทั้งหลาย จึงผูกเป็นยันต์อริยสัจจ์โสฬสมงคลขึ้นฯ พระยันต์นี้มีคุณานุภาพมาก อาจป้องกันบำบัดเสัยซึ่งอุปัทอันตรายทั้งปวง ก่อให้เกิดลาภสการมงคล คุ้มครองป้องกัน ให้ได้รับควาสุขสวัสดี เป็นมหาวิเศษนักแล เป็นทั้งทางอยู่คง แลเป็นเมตตาด้วย ทำให้เกิดโภคทรัพย์เงินทอง ตามแต่จะใช้เถิด ยันต์นี้ใช้ได้ทุกประการ เวลาหล่อ พระพุทธรูปสักการะบูชา ควรลงพระยันต์นี้ใส่แผ่นทอง หลอมหล่อไปด้วย เพราะเป็นยอดมหายันต์ที่ศักดิ์สิทธิ์นักแล
โสฬสมังขะสัญเจวะ 16 นะวะโลกุตตะระธัมมะตา 9 จัตตาโร จะมะหาทีปา 4 ปัญจะพุทธามหามุนิ 5 ตรีปิฎก ธัมมักขันธา 3 ฉะกามาวะจะราตะถา 6 ปัญจะทะสะภะเวสัจจัง 15 ทะสะมังสิละเมวะจะ 10 เตรัสสะธุตังถาจะ 13 ปาฏิหารัญจะทะวาทัสสะ 12 เอกะเมรุจะ 1 สุราอัฏฐะ 8 ทะเวจันทังสุริยัง สักขา 2 สัตตะโพชฌังขาเจวะ 7 จุททัสสะจักกะวัตติจะ 14 เอกาทะสะวิษณุราชา 11 สัพเพเทวามัง ปลายันตุสัพพะทา เอเตนะมังขะละเตเชนะ สัพพะโสตถีภะ วันตุเม พระคาถาโสฬส
จากนั้นด้านนอกล้อมด้วยอักขระพระคาถา ถ้าเป็นยันต์โสฬสมงคลจะล้อมด้วยพระคาถาบารมี 30 ทัศ (ด้านบน อิติปาระ มิตาตึงสา ด้านขวา อิติสัพ พัญญุมาคะตร ด้านล่าง อิติโพธิมนุบปัดโต ด้านซ้าย อิติปิโสจะเตนะโม) แต่ถ้าเป็นยันต์โสฬสมหามงคลจะล้อมด้วย พระคาถา จตุราวุธ ( ด้านซ้าย อาวุธอา ฬะวะกะยักษ์ มีบ่วงเป็นอาวุธ ด้านขวา อาวุธยะมะราชา มีนัยน์ตาเป็นอาวุธ ด้านบน อาวุธพระอินทร์ มีสายฟ้าเป็นอาวุธ ด้านล่าง อาวุธท้าวเวสสุวัณ มีคทา เป็นอาวุธ)
พระยันต์นี้มิได้มีบังคับการลงยันต์ประทับด้านหลังไว้ ฉะนัพระยันต์นี้มิได้มีบังคับการลงยันต์ประทับด้านหลังไว้ ฉะนั้นในการลงยันต์ด้านหลังตะกรุดก็แล้วแต่พระเกจิแต่ละท่านจะลง พุทธคุณ ::ใช้สำหรับป้องกันอุปัทวันตรายทั้งปวง กันฟ้า-กันไฟ กันโจรภัย-กันภูตผีปีศาจ กันคุณผีคุณคนทุกชนิด หรือกันภัยทุกชนิดนั้นเองเนื่องจาก พระยันต์โสฬสมงคลนั้นถือเป็นพระยันต์อันเป็นมงคลสูงสุด แม้แต่สมเด็จพระสังฆราช แพ ยังเขียนยันต์นี้ใส่ไว้ใต้หมอน..(ขอบคุณข้อมูล.คุณอิน อจิไตร)

สาธุๆครับ....

 

วรรณะทั้ง๔... ตามคติไทยโบราณ เชื่อว่าครุฑเป็นพญาแห่งนกทั้งมวล และเป็นพาหนะของพระนารายณ์ ปกติอาศัยอยู่ที่วิมานฉิมพลี มีรูปเป็นครึ่งคนครึ่งนกอินทรี ได้รับพรให้เป็นอมตะ ไม่มีอาวุธใดทำลายลงได้ แม้กระทั่งสายฟ้าของพระอินทร์ก็ได้แต่เพียงทำให้ขนของครุฑหลุดร่วงลงมาเพียงเส้นหนึ่งเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ครุฑจึงมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า "สุบรรณ" ซึ่งหมายถึง "ขนวิเศษ" เนื่องจากพญาครุฑมีอำนาจและมีพลังเหนือทุกสิ่งอย่าง จึงถูกนำมาบูชาและใช้แทนตราสัญลักษณ์ต่างๆ ตั้งแต่ตรามหากษัตริย์ ตราทหาร ตำรวจ วิศวะ นายช่าง หรือคนที่รับราชการ หากคุณเป็นลูกหลานสายเลือดของพญาครุฑ มีพญาครุฑคุ้มครอง คุณจะมีบุคลิกคล่องแคล่วว่องไว ไปไหนมาไหนทำอะไรได้ด้วยตัวเอง ไม่ชอบพึ่งพาคนอื่น ลักษณะภายนอกดูดุ หยิ่ง น่าเกรงขาม แต่จริง ๆ แล้ว คุณเป็นคนจิตใจดี จริงใจ นอบน้อมถ่อมตน กตัญญู เป็นคนไม่ชอบพูดมาก รักอิสระ ไม่ชอบให้ใครมาสั่ง รักความซื่อสัตย์มาก ไม่ชอบถูกเอาเปรียบและไม่ชอบเอาเปรียบใคร ไม่ยอมแพ้ต่ออะไรง่าย ๆ เมื่อล้มแล้วพร้อมลุกขึ้นสู้ใหม่ได้อยู่เสมอ อานุภาพอีกนานับประการ⚡...พญาครุฑหล่อรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่หลวงพ่อดำริให้จัดสร้างเอง ดีในดีนอก ทั้งมวลสารที่ท่านให้ไปหล่อหลอม ทั้งรูปแบบพญาครุฑ ที่ถูกต้องตามลักษณะรวมไปถึงเจตตนาที่ดีในการจัดสร้างเพื่อนำรายได้มาจัดสร้างวิหารเทพสถิตย์ พญาครุฑรุ่นนี้อธิษฐานจิตมาหลายวาระ สร้างเสกมานาน เสกอธิษฐานจิตส่งท้ายปีเก่าและเสกอธิษฐานจิตต้อนรับปีใหม่อีก✨✨✨

cr.อิน อจินไตย

 

นะปัดตลอด นะปัดตลอด ความหมายของคำว่า ' ปัด
ตลอด 'ตามพจนานุกรม
ปัดตลอด หมายถึง ว. มีขนขาวหรือดำ
เป็นแนวยาวไปตามสันหลังตั้งแต่หัว
ตลอดหางเช่น แมวปัดตลอด; เรียก
'นะ'ที่เขียนเป็นอักษรขอม สำหรับลง
และปลุกเสกให้แคล้วคลาดตลอด
ปลอดภัยว่า'นะปัดตลอด'. ครูบาอาจารย์ในสมัยก่อน ได้มีการสืบทอด สอนลูกศิษย์สืบต่อเนื่องกันมายาวนาน ต้นสายวิชานี้น่าจะมีมานาน พอๆกับอายุของพระพุทธศาสนา ซึ่งนะปัดตลอดเป็นหมวดหนึ่งของฤทธิ์อภิญญา ที่พึงมีที่ควรได้ สำหรับพระภิกษุสงฆ์ หรือฆราวาสผู้ทรงธรรม หรือมีคุณธรรม ว่าตั้งแต่ โลกีย์ยะ ไปจนถึงโลกุตระ (จะไม่ขอกล่าวถึง) ที่ทราบมาเพราะสายในดง ต้องเรียนวิชานี้และสำเร็จออกมากันเป็นจำนวนมาก จากในดง มาสอนต่อ กลายเป็นศิษย์นอกดง ซึ่งอดีตที่ผ่านมามีครูบาอาจารย์ที่สำคัญๆ ท่านเรียนสำเร็จกันมามาก ไล่มาแต่ยุคที่พอมีประวัติเช่น สมเด็จโต หลวงปู่ทองวัดเขากบ หลวงปู่ซวง หลวงพ่อแฉ่ง หลวงปู่ปาน หลวงพ่อทองสุข หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อวงษ์ ฯลฯ อีกหลายรูป ไม่เว้นแต่สายหลวงปู่มั่น ยังมีเรียนและสืบต่อวิชาการนี้กันมา เช่นหลวงปู่ฝั่น อาจาโร สอนลูกศิษย์ เช่นหลวงพ่อสมคิด และรวมไปถึงสายเขาอ้อ ก็สำเร็จวิชานี้หลายรูป ที่พอทราบ ก็หลวงพ่อคล้อย ถ้ำเขาเงิน พ่อท่านท้วม หลวงพ่อประสูติ และในยุคกลางๆมี หลวงปู่โต้ะ หลวงพ่อกวย ที่ท่านก็สำเร็จวิชานี้ ในยุคปัจจุบันนี้ก็มีอีกหลายรูป ไม่ขอกล่าวถึงฯลฯ นะปัดตลอด คือสิ่งที่ยืนยันในคุณธรรมที่พึงมี และยืนยันในพลังจิตที่มีในตัวท่าน ที่มองเห็นเป็นรูปธรรม สามารถพิสูจน์ได้ และบอกได้ว่าฤทธิ์และอภิญญาในพุทธศาสนา เป็นของจริง ว่านี้คือแค่เศษเสี้ยวเพียงส่วนหนึ่งเองของพระศาสนา อย่างอื่นๆไม่ต้องพุดถึง เช่น เหาะเหิน เดินอากาศ หายตัว เดินบนน้ำฯลฯ สิ่งเหล่านนี้ย่อมมีจริงและเป็นของจริง เพราะศาสนาพุทธเป็นศาสนา แห่งปัญญา เป็นศาสนาแห่งการให้มาทดสอบ ให้มาเรียนรู้ ใครๆก็ทำได้ ถ้าปฎิบัติตนเองให้ได้ตาม ขั้นตอนและหลักสูตรที่ครูบาอาจารย์ท่านวางไว้ และกำหนดไว้ พระพุทธเจ้าท่านสอนอยู่เสมอว่า อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ อย่าเชื่ออะไรตามๆกันมา ให้ทดสอบและพิสูจน์จนเห็นจริงค่อยมาศรัทธา นะปัดตลอด ที่เห็นเป็นรูปธรรม ในอดีตที่มีหลักฐานบันทึกไว้ และมีผู้คนเห็นเป็นสักขีพยานได้ “วิชานะปัดตลอด” ดังเรื่องที่มีการบันทึกไว้ว่าสมัยที่หลวงพ่อซวง เป็นเจ้าอาวาสวัดชีปะขาว ท่านได้ทำน้ำพระพุทธมนต์ไว้แจกจ่ายแก่ชาวบ้านที่มาร่วมงานวัด การจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ดังกล่าว จะมีพิธีกรรมที่แปลกพิสดารไม่เหมือนใคร กล่าวคือ ท่านจะถือกระดานชนวนไปที่หน้าโอ่งน้ำ หรือถังน้ำ ที่จัดเตรียมไว้ จากนั้นท่านจะเขียนอักขระเลขยันต์จนเต็มกระดานชนวนด้วยนิ้วมือที่จุ่มแป้งกระแจะ แล้วบริกรรมคาถาเรียกอักขระเลขยันต์ให้ลอยขึ้นมา พร้อมทั้งเป่ามนต์ลงไป สิ่งอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น คือ อักขระเลขยันต์เหล่านั้นจะไปลอยเด่นอยู่บนผิวน้ำในโอ่งน้ำหรือถังน้ำนั้นทันที ถือว่าเป็นการเสร็จสิ้นการทำน้ำพระพุทธมนต์อันพิสดารของท่าน น้ำพระพุทธมนต์นี้มีความศักดิ์สิทธิ์มาก นำไปใช้ได้สารพัด แล้วแต่จะอธิษฐานเอา ปรากฏการณ์นี้เป็นการยืนยันได้ว่า “หลวงพ่อซวงสำเร็จวิชานะปัดตลอด” อย่างแท้จริง สำหรับน้ำพระพุทธมนต์ของท่านได้รับสมญานามว่า “น้ำพุทธมนต์นะปัดตลอด หลวงพ่อซวง” และหลวงพ่อเดิม ที่ทางการนิมนต์ท่านมาค่ายทหาร ในจังหวัดนครสวรรค์ ท่านก็เหยียบรอยเท้า บนผ้าขาวเป็นตั้งๆ แล้วท่านตบนะปัดตลอด จนมีรูปรอยเท้าของท่านติดไปหมดทุกผืนบนผ้าขาว นี้ก็เป็นอีกตัวอย่างของอีกหนึ่งครูบาอาจารย์ หรือแม้ที่คราว พระเทพฯ ท่านเสด็จไปกราบ หลวงปู่โต้ะ วัดประดู่ฉิมพลี ครั้งหนึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ ไปนมัสการหลวงปู่โต๊ะ เมื่อปฎิสันถารกันพอสมควรแล้ว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้ทรงตรัสถามว่า
"หลวงปู่คะ ไสยศาสตร์มีจริงหรือไม่คะ?
ทำเอาหลวงปู่โต๊ะถึงกับอึ้ง แต่แค่พักเดียวท่านก็นึกออก หลวงปู่โต๊ะท่านหยิบปากกาข้างตัวท่าน มาเขียนนะที่ฝ่ามือ แล้วชูให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ดูตัว นะ
แล้วเอามือที่ลงนะนั้นมาเป่า แล้วชูให้ดูใหม่ ปรากฎว่านะที่ฝ่ามือท่านหายไปแล้ว และท่านก็ชี้ขึ้นไปบนขื่อ เมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทอดพระเนตรตามนิ้วหลวงปู่ ก็ทรงเห็นนะที่เมื่อครู่อยู่ที่ฝ่ามือหลวงปู่ ไปติดอยู่ที่บนขื่อแล้ว เป็นอันไม่ต้องอธิบายแล้ว
และที่เห็นมากับตาของผู้เขียนเองก็มีอยู่หลายครูบาอาจารย์ จากที่ผู้เขียนได้ตระเวนไปกราบครูบาอาจารย์อยู่เสมอ ก็จะขอยกตัวอย่าง เช่นมีหลวงพ่อรูปหนึ่ง อยู่ที่สุพรรณบุรี ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดบนเขา อาศัยเป็นพระลูกวัด แต่มีหน้าที่ช่วยเหลือและดูแลพัฒนาวัดให้เจริญ โดยปัจจัยทั้งหมดจากคนที่มากราบทำบุญกับท่านนำมาพัฒนาวัด และท่านทำวัตถุมงคล เป็นตะกรุด ออกให้เป็นของของขวัญกับผู้ร่วมบุญกับท่าน โดยตะกรุดที่ท่านสร้าง ท่านจะใช้นะปัดตลอดในการทำ เพื่อให้มีจำนวนมากๆในการสร้างทำตะกรุด โดยใช้วิธีการ กด ตบไปเบาๆไปบนกองแผ่น เงิน หรือแผ่นทองแดงจะติดยันต์ทั้งหมดเหมือนแผ่นแรกที่วางไว้ด้านบน เมื่อได้จำนวนมากพอท่านก็นำมาม้วน และ รอวันเสาร์ ๕ ท่านก็เสกอธิษฐานจิตอีกที่ ท่านบอกไว้ว่า ถึงไม่เสกก็ขลังแล้ว หลวงพ่อฯท่านเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่ฯท่านสอนเราฝึกอยู่นานร่วมสองปีแล้วท่านให้เราตบผงอิทธิเจลงบนแผ่นกระดานชนวนจนทะลุลงด้านล่างหลวงปู่ฯจึงบอกว่าใช้ได้ และตัวผู้เขียนเองยังได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อ ที่ใช้วิชานะปัดตลอด ในการสงเคราะห์ผู้เขียนอยู่หลายหน โดยการให้ผู้เขียนนำแผ่นทองคำเปลวแท้มาตามจำนวน มาให้ท่านลงอักขระคาถาที่แผ่นแรกแผ่นเดียว และท่านเมตตาตบนะปัดตลอด ตบแผ่นทองและอักขระให้จมหายติดเข้าไปในกะโหลกหน้าผาก คราวละหลายๆแผ่น ซึ่งเมื่อทำพิธีเรียบร้อย ไปตรวจดูในกระดาษปรากฏว่าแผ่นทองหายไปหมดไม่มีเหลือให้ได้เห็นซักแผ่น ผู้เขียนเคยได้รับการเป่ามากสุด ๓๒ แผ่นซึ่งเป็นที่น่าอัศจรรย์ ตัวผู้เขียนเองเคยไปเอกซเรย์ ตรงหน้าผากมาแล้ว ปรากฏตรงกะโหลกหน้าผากด้านใน ปรากฎเป็นรูป สี่เหลี่ยมติดอยู่ภายใน เสียดายที่แผ่นฟลิมย์แผ่นนี้หายไปจากการที่ผู้เขียนย้ายที่อยู่ จนแผ่นฟิมส์นี้ได้หายไปจนหาไม่เจอ… ปัจจุบันนี้ก็มีครูบาอาจารย์ของผู้เขียนที่เคารพนับถือ ที่ท่านทำ นะปัดตลอดชั้นสูงและพิสดารมากได้ แต่ไม่สามารถเผยแพร่ออกเป็นสาธารณะ คนที่ไม่เชื่อมาปรามาสจะได้รับผลกรรม กันไปป่าวๆ ครับพุทธศาสนา ยังคงอยู่ไปจนครบ ๕๐๐๐ ปี พระอริยะเจ้า ก็มีไปทุกยุคทุกสมัยครับ ตั้งแต่เริ่ม จนถึงที่สุดจบอรหันต์ และพระโพธิสัตยิ์ ที่ท่านลงมาสร้างบารมี ก็ลงมากันมาก มาตามช่วยเหลือผู้ที่เกี่ยวเนื่องกับท่านก็มีอยู่มากครับ ถ้าเราๆท่านนับถือพุทธศาสนา ขอให้เชื่อไว้เลยครับ เรื่องฤทธิ์และอภิญญา มีอยู่จริง บาป บุญ มีอยู่จริง นรก สวรรค์ก็มีอยู่จริงชาตินี้มี ชาติหน้าก็ย่อมมี ขอให้ทุกท่านยึดพระรัตนตรัย เป็นที่พึ่งอันสูงสุดครับ และหมั่นสร้างบุญ สร้างกุศล เอาไว้บ้าง ทาน ศีล และภาวนา ก็ให้ทำกันไว้บ้างครับ ใครทำใครได้ ผลบุญกุศลจะติดตามให้ผลดีกับเราไปในทุกๆชาติครับ และทุกๆอย่างเมื่อถึงเวลาเดี๋ยวมันก็จะมาเองครับ สำเร็จ สมหวังทุกประการครับ (ติดวัตถุมงคลดีกว่าติดสิ่งอัปมงคล)

Cr.อิน อจินไตย

 

ครั้งหนึ่งหลวงพ่อท่านได้แสดงธรรมไว้ให้หลานท่านฟังและนำมาเผยแพร่..
คติธรรมข้อคิดของหลวงอา #หลวงพ่อเหินบุญญักเขต.

อ้อมเอ้ย..คนบนโลกนี้มีคนหุงข้าวไม่มาก ถ้าเทียบกับคนกินข้าว

คนล้างจานก็มีไม่มาก ถ้าเทียบกับคนกินข้าวแล้วลุกหนีไป

บรรดาคนที่เรียกเราว่าอาจารย์หรือหลวงพ่อมีมาก

แต่คนทำอะไรเพื่อเราเพราะคิดว่าเราเป็นอาจารย์มีน้อย

คนอาศัยเราเพราะผลอะไรต่างๆมีมาก

แต่คนจะให้เราอาศัยมีน้อย

เมื่อคนไม่กี่คนทำให้หลวงอาเป็นที่รู้จักของคนทั้งหลายด้วยจริยาวัตรปฏิบัติใดๆตามจริงแล้วมีมากขึ้น

คนส่วนมากที่เหลือจึงแค่มารอเอาส่วนผลกำไรฟรีๆนั้นจากคนที่เผยแผ่ที่มีจำนวนน้อยนิดนั้น

จึงเปรียบเหมือนคนหุงข้าวจนเหนื่อยเพียงลำพังอย่างเดียวดายเพื่อคนส่วนมากที่รอกิน

แถมไม่ล้างจาน

แต่ทิ้งขว้างให้เป็นภาระผู้อื่นแม้แต่คนที่หุงข้าวที่สุกแล้วเลี้ยงตนก็ตาม

คนเหล่านี้มีความหิวกระหายขาดแคลนแต่ไม่เคยสำนึกทำเพื่อไครขอแค่ได้กินเท่านั้น

บรรดาศิษย์ที่หุงข้าวและล้างจานมีคุณค่าและหายากนักสำหรับเรา

ส่วนคนที่รอกินอย่างเดียวได้กินแล้วจากไปนั้น แม้มีจำนวนเป็นแสนก็หาประโยชน์อะไรไม่ได้

ประโยชน์ของเราที่หวังต่อศิษย์ที่หุงข้าวนั้นคือฝากธรรมสัมมาปฏิบัติไว้สืบทอดศาสนาให้ยาวนาน

ส่วนที่เหลือนอกนั้นไม่ใช่ศิษย์เราเลย

แม้เขาเหล่านั้นจะเรียกเราว่าอาจารย์ๆหรือหลวงพ่อก็ตาม แต่ใจเขาไม่มีความรู้สึกเช่นนั้นเลย

เราไม่สามารถฝากธรรมสัมมาปฏิบัติใดๆไว้กับคนเหล่านั้นได้

จะฝากได้เพียงคนที่หุงข้าวที่มีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้นบนโลกนี้

เมื่อถึงเวลาอันสมควรเราจะปล่อยให้คนเหล่านั้นทนหิวไม่ไหว แล้วไปหากินที่ใหม่แล้วแต่เขาจะไปหากินเอาเอง

ส่วนเราจะงดและเลิกให้หุงข้าวและแจกข้าวตลอดกาลนานเพราะไม่ใช่หนทางวิธีที่จะสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาไว้ได้

ตระกรุดและเครื่องรางทั้งหลายเปรียบดั่งข้าว

คนสร้างวัตถุเปรียบเหมือนคนหุงข้าว

อีกไม่นานจากนี้ไปจะไม่มีทั้งสองอย่างที่ว่านั้นเหลืออยู่ในความดำริของเราเลย

นั่นแลคือความปราถนาของเราอย่างแท้จริง
บันทึกด้วย☎️4มิย64ค่ะ #บารมี ปุญญักเขตโต#


Cr.อิน อจินไตย

 

กท.2 26/6/64 เรื่องการเขียนอักขระเลขยันต์
พระเดชพระคุณ หลวงปู่เหิน ปุญญักเขตโต
ท่านไม่เป็นรองใคร ท่านจะเขียนสดขึ้นมาทั้งหมดไม่เคยกางหนังสือหรือตำราใดๆทั้งสิ้น
หลวงปู่เหินท่านบอกเสมอว่าการเขียนอักขระเลขยันต์ไม่ใช่จะเขียนอะไรก็ได้ผู้เขียนต้องมีความรู้ต้องกำหนดคาถากำกับในอักขระแต่ละตัวที่ลงให้ลงตัวพอดีอักขระแต่ละตัวจะมีบทกำกับระหว่างลงอักขระจะต้องภาวนากำกับไว้ด้วยอักขระยันต์นั้นๆถึงจะสมบูรณ์ ในภาพหลวงปู่เหินเมตตาลงแผ่นตะกรุด5นิ้วให้ใช้เป็นส่วนบุลคลเฉพาะตัวชุดนี้ท่านจารไว้ให้ทั้งหมด4แผ่นนานแล้วครับสำหรับผมได้รับเมตตาจากหลวงปู่เหินท่านทำให้ก็เลี่ยมแขวนติดตัวตลอดครับ,บอกเลยครับชีวิตดี๊ดี และดีขึ้นทุกวันครับด้วยบารมีหลวงปู่เหินครับ ใช้สติ ใช้เชาว์ปัญญา ในการทำ กิจการงาน ที่ลงมือทำจะสำเร็จสมหวังดังใจคำสอนที่หลวงปู่เหินจะสอนตลอดครับ มีสตินะ#
#ปัจจุบันหลวงปู่เหินท่านหยุดจารแผ่นแล้ว ใครที่มีเก็บไว้ ไม่ว่าจะเป็นการจารทุกแบบทั้งหมด ของหลวงปู่เหิน ต่อไปจะเป็นของที่ล้ำค่าและทรงคุณค่ามากครับ#❤️ตะกรุดตะกั่วจารมือทั้ง4แผ่นนี้อยู่ที่ท่านใดบ้างเพื่อนๆก็ลองสืบเอาครับ
Cr.ชัน จตุฤทธิ์

 

กราบหลวงพ่อเหิน...ครับ

##ตะกรุดจักพรรดิ์##


ตะกรุดจักรพรรดิ์...เครื่องรางชั้นสูง...หลวงพ่อเหินฟ้า

กรรมวิธีการการทำที่พิสดาร☀️✨⚡
ในการสร้างตะกรุดมหาจักรพรรดิ์ตราธิราชนี้นับเป็นการสร้างที่ยากแสนยาก ตามตำราของวัดประดู่ทรงธรรมซึ่งบัญญัติโดยสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้วนั้น พิธีกรรมการสร้างตะกรุดมหาจักรพรรดิ์ตราธิราชนั้นทำยากมาก

โดยกำหนดจะต้องตั้งประรำพิธีในพระอุโบสถและใช้อุปกรณ์มากเป็นที่สุดเฉพาะตัวตะกรุดต้องใช้ แผ่นทองแดงหนา 2 แผ่นลงอักขระวิเศษทั้งหน้าหลังรวมแล้ว ๔ ด้าน ต้องตั้งมณฑลพิธีใหญ่โตมโหฬาร ดาดเพดานด้วยผ้าขาวบริสุทธิ์ แวดล้อมด้วยแผงราชวัติ ฉัตรเศวตมงคล ธงสามชาย พร้องมสายสิญจน์ที่ชักโยงขึ้นเป็นองค์ยันต์ พระยันต์นี้เป็นยันต์ ๑๐๘ ตา (ยันต์ตารางสี่เหลี่ยม)

ลงด้วยคาถาอิติปิโสรัตนมาลา

ปะรำพิธีต้องทำอาสนะยกเป็นชั้นไปพอที่พระสงฆ์นั่งได้ ๑๐๘ รูป เพราะจะต้องอาราธนาพระเถระคณาจารย์ที่มีพุทธาคม ไสยเวทวิทยาคมและพลังจิตตานุภาพสูงให้ได้ ๑๐๘ รูป เพื่อเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมพระปริตรและบทบูชานพเคราะห์ อีกทั้งพุทธาคมศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ

กรรมวิธีการสร้าง ประกอบด้วยพระยันต์ศักดิ์สิทธิ์ และอักขระวิเศษมากมาย ตัวยันต์ประกอบด้วย ๑๐๘ อักขระ โดยแต่ละอักขระคือ ๑ พระคาถา โดยมี พระพุทธคุณ ๕๖ พระธรรมคุณ ๓๘ และพระสังฆคุณ ๑๔ รวมเป็น ๑๐๘ พระคาถา (อิติปิโสรัตนมาลา)

ขณะที่ลงพระยันต์อันศักดิ์สิทธิ์และอักระมหาวิเศษต่างๆนั้น พระสงฆ์แต่ละรูปจะสวดพระคาถาอิติปิโสรัตนมาลาแต่ละบทจนครบ ๑๐๘ บท รวมทั้ง พระทวาทสปริตต์ทั้งหมด ๑๗ ตำนาน สำเร็จจนจบ ๑๐๘ พระคาถาด้วยกัน แล้วจึงสวดคาถามงคลจักรวาลใหญ่ ธรรมจักรกัปวัฒนสูตร คาถาพระอะสีติมหาศาวก และมงคลจักรวาลน้อย

พิธีมหาจักรพรรตราธิราช จัดว่าเป็นมหาพิธีกรรมที่สำคัญยิ่งที่รวมเอาพิธีกรรมที่สำคัญมาไว้ในมหาพิธีนี้ เช่นพิธี สวดพระปริตรนพเคราะห์ พิธีสวดภาณวาร พิธีสวดพุทธาภิเศก พิธีสวดทิพยมนต์ (สวดชัย) พิธีสวดพระคาถาอิติปิโสรัตนมาลา เพราะเป็นพิธีสำหรับประกอบขึ้นเพื่อสร้างพระยันต์วิเศษมหาจักรพรรตราธิราชจารึกลงในแผ่นโลหะ ซึ่งประกอบขึ้นด้วยอำนาจของพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ



พิธีนี้เมื่อจะประกอบขึ้นจำเป็นจะต้องอาราธนาพระสงฆ์ อริยะเถระคณาจารย์มาร่วมประกอบพิธีเป็นจำนวนมาก เป็นพิธีที่ถือกันว่าสำเร็จขึ้นจากอิทธิฤทธิ์และบุญญฤทธิ์ของพระมหาบุรุษที่ทรงอานุภาพบรรลุถึงสมบัติบรมจักรพรรดิ์ที่แท้จริง นั่นก็คือ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระมหาสาวกเท่านั้น เพราะท่านสมบูรณ์พร้อมด้วยอริยทรัพย์และโลกียะทรัพย์ ฉะนั้น พิธีนี้เมื่อจะประกอบขึ้นจึงจำเป็นต้องนิมนต์พระอริยะเถระคณาจารย์มาให้ได้ครบ ๑๐๘ รูป โดยสมมติให้เป็นพระวิปัสสิสัมมาสัมพุทธเจ้า ๒๘ องค์พระอสีติมหาสาวก ๘๐ องค์ รวม ๑๐๘ องค์ เพื่อจะร่วมประกอบพิธีนี้

ตะกรุดมหาจักรพรรดิ์นี้เป็นของสูงค่า สมควรแก่พระมหากษัตริย์ เจ้าพระยา เจ้านายชั้นสูงหรือมหาเศรษฐี คหบดี ธนบดี ในทุกยุคทุกสมัย โดยผู้ครอบครองจะต้องประพฤติตนดี มีความกตัญญู มั่นอยู่ในศีลธรรม ไม่เบียดเบียนทำความเดือดร้อนให้ผู้อื่นและสังคม



แม้นจะเป็นสามัญชนธรรมดา หากได้ครอบครองบูชาและเป็นคนดี ประพฤติตนดี ทำมาหากินด้วยความสุจริต มีกตัญญูกตเวทีต่อบุพการี ครูบาอาจารย์และผู้มีพระคุณทั้งหลายแล้ว อานุภาพความศักสิทธิ์แห่งตะกรุดมหาจักรพรรดิ์นี้ จะดลบันดาลให้ผู้ศรัทธาและครอบครองได้เป็นเศรษฐีธนบดี หรือคหบดี มีทรัพย์สินเงินทอง บริวาร ที่ดินมากมาย รวมทั้งมีชื่อเสียงโด่งดัง มีโชคลาภก้อนใหญ่ ได้รับทรัพย์สมบัติ ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งใหญ่โต เป็นเจ้านายหรือ หัวหน้างานอย่างรวดเร็วไม่มีอุปสรรคใดๆมาขัดขวาง จะประสบกับความสำเร็จในทุกๆด้านไม่ว่าจะทำการใดๆ อะไร

แม้ว่าบางคราวอาจจะติดขัดมีอุปสรรคบ้าง แต่ก็จะมีปาฏิหาริย์โดยมีเหตุการณ์หรือผู้ให้การช่วยเหลือสนับสนุนอย่างดีเสมอ จนสำเร็จสมหวังดังประสงค์ทุกประการ

ทั้งยังคุ้มครองป้องกันผู้สวมใส่และบุคคลที่รักใคร่ ให้แคล้วคลาดพ้นจากอุปัทวเหตุ อุบัติเหตุ อุบัติภัยใดๆและภยันอันตรายต่างๆ ทั้งหลายทั้งปวง ทั้งยังปกป้องคุ้มครองโทษภัยจากอำนาจลึกลับ อาถรรพ์สิ่งชั่วร้ายต่างๆมิให้มากล้ำกรายได้ อีกทั้งดลบันดาลให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ ไร้ซึ่งโรคาพยาธิภัยต่างๆ มีความสุขสดชื่น ชุ่มชื่นใจอยู่เป็นนิจ



หากแม้นมีผู้ที่คอยอิจฉาริษยา ใส่ร้ายป้ายสีหรือคิดร้ายปองร้าย คนเหล่านั้นก็จะมีอันเป็นไปแพ้ภัยตัวเองไปในที่สุดในระยะเวลาอันใกล้ บางรายถึงกับสูญเสียสิ้นทั้งทรัพย์สินเงินทองหมดเนื้อหมดตัว ไฟไหม้บ้านที่อยู่อาศัย ครอบครัวแตกแยก หน้าที่การงานตกต่ำ การค้าขายขาดทุน หากินฝืดเคือง ถูกโกง ถูกปล้น หน้าตาหมองคล้ำหมดสง่าราศี โรคภัยร้ายเข้าสุมรุมเร้า สูญสิ้นความหวัง หมดสิ้นความสุขความเจริญทั้งปวง

ขอบคุณข้อมูล ของ..พี่อิน.อจินไตด้วยนะครับ..