ร่วมแลกเปลี่ยนเคล็ดลับในการประคองศีล 5 กันคะ่

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ren, 22 กรกฎาคม 2009.

  1. ฟ้ากับเหว

    ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +372
    จิงเออ แสดงว่า ถ้าไม่ตรงต่อเราอาจเป็นมารก็ได้ว่างั้น เพราะเขาชนะ แต่ชนะด้วยอะไร ด้วยความจริงรึด้วยความคิดว่าไม่ตรงกัน ไม่อะ เพราะว่าจะไม่เอนเอียง ไปตามที่ชอบจะค้านเมื่อมันไม่เป็นธรรมและมันไม่ใช่ความจริง แต่ความจริงจะมีมากน้อย ก็ไม่ว่ากันเพราะ มากเท่าไหร่ละ และที่เห็นคือ ถ้าตรงใจก็จะคิดว่าเป็นพวกเดียวกัน ถ้าไม่ตรงใจก็จะกลายเป็นฝ่ายตรงข้าม แล้วอะไรคือความจริง แมวเน่า หมู่ไหม้เน่า พูดกี่ทีก็ไม่รู้เรื่อง แต่ก็ไม่ว่า เพราะไม่รับว่าเข้าใจรึไม่ หมูเน่าไหม้เหม็นอาจถูกแต่ที่ไม่ชอบเพราะว่า มันไม่ได้ถูกเพราะเพียงแค่คำพูด เหมือนกับที่ว่า พ้นแล้วพ้นอีก แต่ว่ายังเที่ยวถามหาว่า แบบนี้พ้นไหม คนที่ฟังบางคนว่าดีบางคนว่ามันก็แปลกดีนะ
     
  2. ฟ้ากับเหว

    ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +372
    555 ขอขำอีกนิด เพื่อความสบายใจ 555
     
  3. ฟ้ากับเหว

    ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +372
    แต่นะคนมันจะต้องแค่ไหนถึงกล้าทำขนาดนั้น แยกแยะให้ได้แล้วกันว่า อันใดทางโลกอันใดทางธรรม มันเอามารวมกันไม่ได้ ไม่งั้นคงต้องแจ้งความตามข้อหา นานา เกือบทุกสิ่งที่ไม่ถูกต้องตรงตามใจ ไม่ว่าเพื่อใครมันก็แยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง โลกส่วนโลก ทำหน้าที่ตามความเหมาะสมยึดหลัก กรรม ธรรมส่วนธรรมไม่วินิจฉัยไม่พิจารณาก็ไม่อาจพ้นจากวัฏสังสารนี้ได้
     
  4. ฟ้ากับเหว

    ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +372
    เพราะอะไรถึงสงสัย...ใครสงสัย เราเองสงสัยหรือคนอื่นสงสัยก่อน หรือ เพราะเรานั่นแหละสงสัยเลยพาให้คนอื่นสงสัย รึเป็นเพราะว่าเราอยากทำให้คนอื่นสงสัย ทุกเงื่อนไข ตรงไหนที่น่าพิจารณา ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่นั่งหาอยู่ทุกวันคือสติ จะเพื่อให้มีชีวิตรอดก็ดี จะเพื่อให้พ้นทุกข์ก็ดี ก็คือสติ จะอยู่อณูไหน ก็เอาไปเติมให้มันเต็ม ดูเหมือนผู้ร้ายแต่คือความจริง เติมลงไปข้างหน้าหรือข้างหลังได้หมดเช่น สติอุเบกขาหรืออุเบกขาสติ แล้วมันจะเป็นปฏิปักษ์กับบางอย่างเพราะว่า บางอย่างไม่ชอบสติ เช่น ถ้ามีสติก็ไม่มีนิวรณ์ เช่น อุปกิเลสทั้งหลาย สติจะคอยทำลาย แต่ว่าทำลายแล้วมันก็เกิดใหม่ได้ตลอด เพราะแค่ทำลายหรือห้าม หรือยับยั้ง เหลือแต่ว่าอะไรที่มำให้ไม่ต้องมีการยับยั้งดูเหมือนสูงแต่ก็สูงนั่นแหละ พูดลอยๆ มันไม่มีทางเห็น ลำพังแค่สติที่ระลึกได้ถึงรูปนาม หรือขันธ์ทั้ง 5 ก็ไม่ง่าย กิเลสอย่างไรก็คือกิเลส จะบอกว่ากิเลสคือแสงสว่างคงช่วยสนับสนุนไม่ได้ ทำไมถึงว่าแบบนั้น ข้อความด้านบนก็บ่งบอกว่า จะเอากิเลสมาเป็นจุดขาย ก็ทำใจลำบากหวังว่า คงไม่เป็นมารนะ กับหมูไหม้เน่า และแมวเน่า
     
  5. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    อ่านแล้วด้วยความใส่ใจ หลายเม้นทํ
    แต่ยังไม่เห็นคำไหนเป็น
    "ปัจจุบันธรรม"
    มีแต่แซะ มีแต่ถากถางทุกบรรทัด
    กล่าวแบบนี้จะเป็นที่ชื่นชอบ
    ของมาร จึงจะเห็นว่าไม่มีใคร(มาร)
    ขวาง เห็นยัง?
    สังเกตดูจิ่ ถ้าคำกล่าวที่ถูกใจมารมากๆ มารก็จะไม่แทรกแซง ดูเผินๆ เหมือนสยบมารได้ แต่ที่แท้มารไม่ขัดขวางเพราะ
    ถูกใจมาร
    แต่ถ้าเมื่อใดกล่าว"ธรรมเป็นธรรม"
    จะมีการแทรกแซงทันทีไม่.
    มากก็น้อย
    ไม่เชื่อลองกล่าว"ธรรมให้เป็น
    ธรรม" ดูสิ ลองพิสูจน์ดูว่าจะถูกขัดขวาง
    มั้ยเอ้อ
    ถ้ากล่าวแล้วเงียบ แปลว่าถูกใจมาร
    จำไว้นะ
     
  6. Enzo Zen

    Enzo Zen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2021
    โพสต์:
    1,107
    ค่าพลัง:
    +675

    ผู้รู้มีเองฮับ มีอยู่แล้ว จะก่อไม่ก่อก้อมี

    ตัวที่คอยดู คอยรู้ คอยมองนี่นั่น นั่นแหล่ะ ผู้รู้
    ถ้าจะไม่ก่อ ก้อเอาจิตไปวางระหว่างผู้รู้ กับสิ่งที่ถูกรู้ "ตรงคำว่า"แยก" นั่นแหล่ะ

    แถวๆกลางอก จิตมันมารู้เอง เพราะมันเห็นทุกความรู้สึกออกไปจากตรงนี้ ก้อเลยมารู้ตรงนี้

    กลางอกก้อเป็นอานาปา.... เพราะว่า ต้นลม อยู่ที่ปลายจมูก กลางลม ที่อกแถวลิ้นปี่ ปลายลมก้อแถวสะดือ

    ใครจะซีเรียสผู้รู้มั้ย อันนั้นก้อตามลิขสิทธิ์ความคิดส่วนหัว แต่เวลาเขาใช้ภาษาสื่อสารกันให้พอเข้าใจ เขาก้อใช้คำนี้ ผู้รู้ หรือจิตอัตตา จิตอวิชชา แล้วแต่จะเรียก ...ที่ฝึกกันตอนนี้ ส่วนตัวคิดว่า มันคือการปฎิวัติเงียบในผู้รู้กันนั่นแหล่ะ
     
  7. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    เวลาที่จิตเป็นอุเบกขา(เป็นปกติ)
    เปรียบเหมือน
    พ่อแม่....ยืนดู...ลูกเล่น...
    ...อยู่ข้างสนามเด็กเล่น
    ไม่ได้....พยายามลงไปเล่น
    ....เพียงแต่เห็นอยู่

    มรรคมีองค์แปด....คือการยกระดับจิต
    ในคนทั่วไป
    ค่าของจิตปกติ...มักติดลบ

    ....สังเกตุตัวเองก็ได้
    เวลาปกติระหว่างวัน....จิตเป็นยังไง
    ....หลงเหม่อๆ
    ....คิดปรุงแต่ง...คิดอดีตบ้าง...อนาคตบ้าง
    ....เวลาตาเห็นสิ่งโน้นนี้ หูได้ยินเสียงโน้นนี้
    มันปรุงแต่งไปทางไหน

    ส่วนใหญ่จิตอยู่ตรงไหน....
    คนทั่วไป....ไม่หลงคิด...ก็หลงเหม่อ
    เพราะงั้น
    ค่าปกติ....ติดลบ
    แต่จะลบมาก...หรือน้อยก็แล้วแต่คนไป

    และมรรคแปดนี้ล่ะครับ
    จะยกระดับจิตเรา....ให้มีปกติ....ที่เป็นกลาง

    แต่ช่วงเวลาไหน...เกิดปิติเอิ่มอิ่มใจ
    จะเกิดจากการทำบุญหรืออะไรก็ตาม
    จิตที่เป็นกุศล....ค่าเป็นบวก

    จิตคนทั่วไป.....มักติดลบ...เป็นปกติ
    .....แต่ก็มีบางช่วงเวลา...ที่เป็นบวกบ้าง
    ขึ้นๆลงๆอยู่แบบนี้...ไม่เสถียร

    แล้วจิตเป็นกลางอยู่ตรงไหน?
    จิตที่เป็นอุเบกขา...นี่ล่ะจิตที่เป็นกลาง

    เวลามีสติระลึก...
    หลังการระลึกรู้...จิตเป็นอุเบกขา
    ....ขณะหนึ่ง
    แต่ไม่เพียงพอ....
    นี่ยังไม่ใช่ค่าปกติ......ของจิต
    คำว่า....
    (ค่าปกติของจิตคือ อยู่ระดับไหนส่วนใหญ่)
    อย่างที่เคยแสดงเป็นรูปธรรมให้เห็น

    +1...+2...+3...+4...+5...+6...+7...+8...+9
    สมมุติให้ค่า+นี้
    เป็นขณะที่จิตเป็นกุศล.....

    0
    สมมุติให้ 0 นี้เป็นอุเบกขา
    เป็นกลาง....

    -1...-2...-3...-4...-5...-6...-7...-8...-9
    สมมุติให้ค่า-นี้
    เป็นขณะที่จิตเป็นอกุศล.....


    คนทั่วไป....มักหลงไปในโลกความคิด
    เหม่อๆเผลอๆ....จะมีบางขณะมีกุศลจิตบ้าง

    -5___-4___-2___+1_-3____+2___+3_
    +7_____-2__________-1_____+1__+2
    ______-1___+1___________+2_____-3
    -6___-4___-3____+1_-3_+1_+2___+1
    _____-5__-6___-1__+2__-1___-3__+1

    ....................


    จิตของคนที่....เข้าไปดูเข้าไปรู้
    หลังการเข้าไปดูอารมณ์ของจิต...
    จะเกิดอุเบกขา...ความตั้งมั่น...
    ขึ้นมาหนึ่งขณะ... -4__0_+1

    เมื่อมีความขัดเคืองใจ
    แทนค่าด้วย "-4"

    ตรง 0
    นั่นล่ะ...ค่าเป็นกลางที่จิตตั้งขึ้น1 ขณะ
    เกิดหลังจากการมีสติ...
    ....เข้าไปรู้ว่าจิตมีความขัดเคือง

    +1 คือ ค่าที่จิตเป็นกุศลขึ้นมา


    -7___0_-6_0_4______+2_______0_+3
    +8______0_+5______+2_+3_-3_+1__
    +4______-2_____-6_____-7___0__-4__
    ______-2____0____-1____+2+4+6____
    +6____0____+4+5_____0___1_______

    นี่คือ....คนที่เข้ามาดู....เข้ามารู้
    เริ่มมีการตั้งมั่นเป็นขณะๆ...
    หลังการเข้าไปรู้อารมณ์

    ................

    -4___0+2____-6_0_+1___+5_0_+1__
    +8______0_+5_0___+2_0+3_-0_+1__
    -5__0_+3_0_+6_0_+3_____0_-4___0
    -7___0_-6_0_+4____+2_______0_+3_0
    -4_0__+6_0____+3__0___-4__0_+2_0
    +6__0_+4_0_+1_0_+3_____0_-6___0

    แม้จะมีสติเกิดบ่อยถี่แค่ไหน....
    เกิดความตั้งมั่นมาเป็นขณะๆ
    ....แต่จิตยังขึ้นลงไม่หยุด
    เพราะขาดมรรคองค์อื่น...
    เข้าจัดการกับอนุสัยความเคยคุ้นเดิม
    ....ไปพร้อมกัน

    ........................


    ถ้าใช้การมีวิหารธรรมเป็นเครื่องอยู่ของจิต
    ทุกครั้งที่มารู้ที่ลม...รู้ที่กายที่เป็นวิหารธรรม
    ค่าของจิตจะเป็น0
    จิตตั่งมั่นขึ้น

    พอเริ่มมั่นระลึกอยู่กับลมหายใจ

    ___-7___-6__-9___000___+4__-5___+8
    -3____00___-2__+6_______-1__+1__00
    __+6___0000__-4____-6___-1____0__0
    -8_______-6_____0_____+3________+1_
    _7________0___+3__+4___-2___-6___0

    ........................

    เมื่อจิตอยู่กับลมหายใจบ่อยขึ้น
    จิตจะกลับมาที่ความตั้งมั่นเป็นกลางที่ 0
    ....มากขึ้น

    -6____00000__-2___+2__0000000
    0000___+3___-1___000000__+5__
    0000000000__+3__00000000__-1
    00000000_+8_______0000000000
    00000__-1__0000000___+9_____0

    ...........

    เมื่ออยู่กับอุเบกขา....ถึงจุดนึง....มากพอ
    จะเกิดวิเวกภายใน...ตรงนี้คือ
    ฐานจิตมีความเป็นกลาง....
    ตั้งมั่นเพื่อรู้อยู่ภายใน.....

    00000000000000_-1_000000000
    00000000000000000000_-2_000
    0000_+4_000000000000000000
    00000000000000000000000000
    00000000000000000000000000
    000000_+6_0000000000000000
    00000000000000000000000000
    00000000000000_-2_000000000
    00000000000000000000000000

    นี่ล่ะ มรรคแปด....ยกระดับจิต
    สู่ความเป็นกลาง.....
    อุเบกขา....วิเวก...เป็นปกติของจิต
    เมื่อไหร่
    มีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาแทรก
    ....จะคิดความคิด
    ....ความรู้สึกพอใจ...ไม่พอใจ
    ....ความขัดเคืองใจ

    ก็เห็นสิ่งนั้นได้ชัดเจน....

    000000000000-2_000000000000

    การแทรกเข้ามาของความขัดเคืองใจ-2
    เห็นได้ชัดเจน
    เพราะจิตมีค่าปกติเป็น0 คืออุเบกขา

    มรรคมีองค์ที่แท้จริง
    ....ทำงานแบบนี้
    ยกระดับจิต....ให้จิตเป็นกลาง
    อาศัยความตั้งมั่น
    เห็นความจริง....ของกายใจนี้

    การที่จิตตั่งมั่นแล้วเห็นอยู่......
    สิ่งที่จะไม่เกิดแน่ๆ
    สำหรับการเดินมรรคแบบนี้
    คือ...ไม่สำคัญในสิ่งที่เห็น
    และไม่สำคัญในสิ่งที่ถูกเห็น

    สัมมาสมาธิที่จิตตั้งมั่นจริงๆ คือแบบนี้
    ตัดมรรคออกเหลือแค่สติ...ไม่ได้

    บางคนไม่เห็นมรรค.....เดินดุ่มๆไป
    ตัดนั่นตัดนี่....
    แล้วคิดว่าวันนึงจิตจะดำเนินไปเอง
    แต่...มันไม่เป็นอย่างนั้น
    ....ราคาที่ต้องจ่าย
    คืออาจเป็นการพลาดมรรคผล...
    .....ไปเลยก็ได้
     
  8. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626

    เวลา...เห็นอารมณ์ได้บ่อยขึ้นถี่ขึ้น
    เกิดพอใจไหม.....
    เมื่อไหร่..เกิดเวทนาความพอใจ
    มันจะเกิดตัณหา.....เมื่อเกิดตัณหา
    ....อุปทานย่อมเกิด
    จะรู้ทัน.....หรือไม่รู้
    การยึดในการรู้...และตัวรู้..เกิดในจิตแล้ว
    ถึงได้บอก....กับดักมันเยอะ
    มันจะยึด...แบบเงียบๆ
    หรือยึดแบบร้องหา...โหยหา...การรู้นั้น
    ก็เป็นอุปทานทั้งนั้น
     
  9. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    พอชี้ให้เห็น...ก็พากันร้อง...
    ไม่เคยสำคัญในการรู้....ไม่เอาผู้รู้
    ความจริงที่เกิด.....
    กับมองไม่เห็นอุปาทานในจิตกันเอง
    แต่บอกขันแข็งว่าตน...ไม่มี
     
  10. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    เมื่อไหร่อยู่กับลมหายใจ...
    จนจิตเปลี่ยนทาง...มีอุเบกขาเป็นปกติของจิต
    มันจะเกิด....
    ....การตั้งมั่นของจิต
    แล้วเห็นธรรมชาติทั้งภายใน....และภายนอก
    "ตอนจิตตั้งมั่น....แล้วเห็นอยู่"
    ตรงนี้ล่ะ...แยกรูปนามอยู่ภายในแล้ว
    แยกออกมา
    ...เป็นสิ่งรู้
    ...และสิ่งที่ถูกรู้
    แยกรูปนามโดย...ไม่สำคัญในการแยกนั้นด้วย
    ไม่ต้องตั้งท่า
    .....ผู้รู้เกิดหรือยัง?
    .....แยกรูปแยกนามได้หรือยัง?
    แต่แยกโดยสภาวะ....
    ที่จิตตั้งมั่นเป็นอุเบกขา....แล้วเห็นอยู่
     
  11. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    คุณคงหมายเอาสภาวะเก่าแนนมาพาดพิง ไม่คิดว่าคนอื่นเขาได้เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้นจากสภาวะนั้นเบ้างหรือคะ อีกอย่างที่มันหายไป เพราะเจตสิกมันหยุดทำงาน เห็นครั้งแรกไม่เข้าใจ พอเห็นอีกครั้งจึงแจ้งขึ้นเรื่อยๆ ธรรม มันจะค่อยๆเฉลยให้เราไปทีละเปราะ มันเป็น ธรรมชาติในกระบวนการของจิตรูปแบบนึง

    แล้วคุณรู้หรอคะ ว่าทำไมมันหายไป
     
  12. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    ไม่ได้อยากเอาสภาวะคุณแนน
    .....มาพาดพิงหรอกครับ
    แต่มันเป็นรูปธรรมที่เห็นเลย
    ...ที่คุณแนนคิดว่าไม่มีอุปทานในรู้...ในผู้รู้
    แท้จริง...มันมี
    แต่ต่อให้ถึงวันนี้....ก็ยังมีอยู่
     
  13. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    บอกไว้เลย คนภาวนาเป็น เวลาจิตมันแยกรูปนาม มันไม่เคยมีจังหว่ะตั้งตัวสักครั้ง ขนาดนั่งสมาธิตั้งใจแช่จิตสงบนิ่งเฉย มันยังแฉลบไปแยกรูปนามเอาเองโดยไม่ตั้งใจ

    ทำงานบ้านอยู่ดีๆ ก้อแยกรูปนามเองก้อมี ขับรถ เห็นกายแยกออกมาก็บ่อย

    พอตั้งใจรึ ไม่ได้กินอ่ะค่ะ
     
  14. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626

    การเจริญสติ...มันเป็นธรรมดา
    เมื่อไหร่สร้างสัญญากับอะไรไว้
    ....เมื่อเกิดสิ่งนั้นอีก....สัญญานั้นๆ
    จะเปลี่ยนเป็นสติระลึก
    ซึ่งมันทำงานอัตโนมัติอยู่แล้ว
    ใครฝึก...สร้างสัญญาให้อะไร
    มันก็เกิดสติระลึกได้.....
    ....เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
    ตื่นเต้นอะไรกับการทำงานของขันธ์ครับ
     
  15. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    สิ่งที่ผมพูดเป็นมรรคตลอดสาย...
    กลับมองไม่ออก
    สำคัญแต่สติ....ที่ใครฝึกยังไงก็เกิดอย่างนั้น
    มรรคองค์อื่นกลับโยนทิ้ง
     
  16. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    สติมันแว๊บไปเองค่ะ
    ไม่ได้เจตนากำหนดรู้อะไรเลยก็มี และทุกครั้งที่เกิด กุศลจิตเกิดร่วมทุกครั้ง อันนแค่ข้อดีเบื้องต้น ของการเจริญสติ คือระงับกิเลสจรมาได้ ขณะนั้นเลย เบาเลยทันทีไม่มีการตั้งท่า
     
  17. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    พิมพ์ไปแล้วไงว่า
    .....อัตโนมัติ....ลองหาดูครัย
     
  18. Enzo Zen

    Enzo Zen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2021
    โพสต์:
    1,107
    ค่าพลัง:
    +675
    หมูไหม้ไม่เข้าใจ จิตแยกรูปแยกนามใช่ป่ะ

    จิต - แยก - รูป < มี 3 การกระทำ - จิตจะเห็นรูปกายแยกออก แบบคนนั่งในศาลา ศาลาเป็นรูป จิตเป็นคนอาศัยในรูป > จิตรู้แระว่ารูปกายนี้ไม่ใช่เรา >รู้กายชาวบ้านและสัตว์ด้วย ว่ากายพวกเขาก้อไม่ใช่ของพวกเขา

    จิต - แยก - นาม < มี3 การกระทำ - จิตเห็นอารมณ์ที่เข้ามากระทบ แยกออกแบบน้ำกับน้ำมัน ลองเอาน้ำมันหยอดในน้ำดู แยกแบบนั้นเลย > จิตรู้แระว่าความคิดปรุงแต่งนี่นั่นไม่ใช่จิต

    การแยกออกแบบนี้แหล่ะ จิตไม่มีอุปทานในรูปและอารมณ์.. จิตมันจะเฉยๆ ไม่ไปบวกไม่ไปลบ การจะเห็นแยกออกแบบนี้ได้คือจิตต้องมีกำลัง และอุเบกขาสติเกิดขึ้นแล้วจึงเห็นได้

    ไม่ใช่ขั้น กระทบทางตา หู แล้วรู้ผ่านๆ < อันนี้ยังไม่มีการแยกออก แค่ขั้นสร้างเหตุ ไปสู่การแยกรูปนาม > ไปอุอุเบกขา> และให้จิตมีกำลัง
    จิตแยกรูปนามได้ ก้อเห็นอยู่ ตั้งมั่นอยู่ มีอุเบกขา อันนี้เป็นมรรคเหมือนกัน

    แต่คำว่าเห็นอยู่ << ตัวนี้แหล่ะผู้รู้ จะทันความเคยชินแบบเนียนๆ ในการเห็นตัวนี้มั้ยก้ออีกเรื่อง

    สติเป็นใหญ่ ถ้าไม่มีสติ ก้อไม่มีสมาธิ ไม่มีศีล ไม่มีปัญญา มรรคก้อไม่เกิด แต่เมื่อใช้สติ สมาธิ ศีล ปัญญา มันดำเนินเป็นปัจจัยที่เกื้อหนุนกันไปเอง
     
  19. Enzo Zen

    Enzo Zen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2021
    โพสต์:
    1,107
    ค่าพลัง:
    +675
    ถ้าปัญญามันทันกัน มันก้อเคลียร์กันได้ ส่วนตัวก้อเห็นมันเคลียร์ได้ตลอด

    ผู้รู้ มันขั้นสุดท้าย ที่จิตเป็นหมอกๆ ....ลุงพยาธิเรียกจิตกระสือ ...คนที่ไม่ยึดผู้รู้มีประเภทเดียว อรหันต์
     
  20. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    สติที่คุณแนนพิมพ์ต่อให้ยาวเป็นหน้า
    .....สาระไม่ได้มีอะไร
    ....ผมย่อลงมาแค่2-3บรรทัด

    มรรคที่ผมโพส...มันแทรกการเจริญสติในนั้น
    แต่มันแค่ ....2-3 ประโยค
    ลองไปหาดู....เพราะตลอดสายของมรรค
    มันมีสิ่งอื่นที่ต้องโฟกัสอีก....ไม่ใช่แค่สติครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...