ควรจะเอาแบบโพธิสัตว์เป็นผู้นำ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 23 เมษายน 2021.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
    ?temp_hash=c60161dd449ddadbc9c86c3ab85a9d58.jpg

    #ควรจะเอาแบบโพธิสัตว์เป็นผู้นำ
    จอมปราชญ์ทั้งหลายชมเชยตลอด
    ทานบารมี พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
    มีทานบารมีเป็นพื้นฐานทุกพระองค์ไม่เว้นเลย
    #การเสียสละเป็นพื้นฐานสำหรับโพธิสัตว์
    #ที่ปรารถนาความเป็นพระพุทธเจ้า
    มีความเสียสละเป็นพื้นฐาน
    เพราะฉะนั้นบริษัทบริวารท่าน
    จึงมากทีเดียว
    บรรดาโพธิสัตว์ที่ไหนบริษัทบริวารมาก
    มากจริงๆ เพราะความเสียสละ
    เสียสละจนกระทั่งถึงชีวิตจิตใจท่าน ก็เสียสละได้
    เวลาไปจนตรอกจนมุมนี้
    เช่น พาเพื่อนฝูงบริษัทบริวาร ไปเที่ยวหากิน
    ถูกนายพรานเขาดัก เขาจะฆ่าให้ฉิบหายหมด
    ท่านเป็นหัวหน้าไป โพธิสัตว์
    นี่ดูซิ ถ้าธรรมดาหัวหน้าจะแหวกหนี
    ปล่อยให้บริษัทบริวารตายเรียบเลย นี้ไม่เป็นอย่างนั้น
    เวลาไปเจอข้าศึกที่เขาดักข้างหน้า ไม่มีทางออกแล้ว
    จําเป็นจริงๆ ไม่มีทางออก
    ท่านสู้เลย
    ท่านเตือนบริษัทบริวารให้วิ่งย้อนหลังให้หมด
    เราจะเข้าสู่สงครามคนเดียว
    ตัวเดียว วิ่งเข้าหานายพราน
    เขาดักหน้าดักหลัง แทนที่จะพาเพื่อนฝูง หรือใครวิ่งหนี
    ไม่ไปนะ นี่ล่ะความเสียสละท่าน
    เตือนบริษัทบริวารเดี๋ยวนั้น
    ให้วิ่งย้อนกลับให้หมด
    เราจะเข้าสู่สงคราม ที่เขาเตรียมจะฆ่าอยู่แล้ว
    ท่านวิ่งเข้าไปเลยเชียว
    วิ่งเพ่นพ่านๆ ผ่านนายพรานคนนั้น ผ่านนายพรานคนนี้
    ใครยิงก็จะถูกกันใช่ไหมล่ะ
    ท่านวิ่งสวนหน้าสวนหลังเข้าไปนั้น
    ที่นี้เขาก็สนใจสิ เพราะวิ่งเข้าไปหานายพราน เคยมีที่ไหน
    สัตว์ทั้งหลาย มันวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิง แต่นี้กลับวิ่งเข้าหานายพราน วิ่งชนนู้นชนนี้
    ทีนี้ จะยิงที่ไหนก็ยิงไม่ได้ มันจะถูกกัน
    วิ่งหลบหน้าหลบหลังอยู่ตามบริเวณนายพราน
    ทางนั้นก็ชุลมุนวุ่นวายดูแต่สัตว์ตัวเดียวนี้ แทนที่มันจะวิ่งหนี มันวิ่งเข้าหาคน หานายพราน
    คนนั้นจะยิงคนนี้จะยิง ยิงที่ไหนมันก็จะถูกพวกเดียวกัน
    พวกบริษัทบริวารก็วิ่งออกหมด ท่านประกาศบอกแล้วว่า
    ให้วิ่งย้อนกลับให้หมด
    เราจะเข้าสู่จุดสำคัญ คือสงคราม วิ่งเข้าเลยนะ
    สุดท้ายนายพรานจะยิง ก็ยิงไม่ได้ มันจะถูกกัน เพราะท่านวิ่งหลบไปตามนายพราน แทนที่จะวิ่งหนีไม่วิ่ง
    วิ่งเข้าไปหานายพราน แล้วยิงไม่ทันๆ หลบหน้าหลบหลังอยู่นั่น
    ลูกน้องทั้งหลายก็ออกได้ไปได้เลย
    สุดท้ายท่านเองก็ไม่ตาย
    เมื่อนายพรานกำลังชุลมุนจะยิง หลบหน้าหลบหลัง ปั๊บออกไปได้เลย
    พวกนายพรานทั้งหลายเลยอ้าปาก หมดหวัง
    พวกบริษัทบริวารไปได้หมด
    นี่เราพูดถึงเรื่องความเสียสละของหัวหน้า
    เช่นโพธิสัตว์เป็นอย่างนี้
    ท่านเสียสละอะไรๆอย่างนี้
    ท่านมอบให้บริษัทบริวาร
    ท่านได้กินก็กิน ไม่ได้กินก็ไม่กิน
    ความเห็นแก่บริษัทบริวาร
    ถึงเวลาจะเป็นจะตาย ท่านเสียสละเลย
    นี่ละคุณค่าแห่งความเสียสละของผู้เป็นหัวหน้า
    ต้องเป็นนักเสียสละ
    ไม่ใช่ผู้เป็นหัวหน้า
    เป็นหัวหน้าที่เป็นนักกอบโกย
    นักรีดนักไถ นักกินห้ากินสิบ
    กินบนโต๊ะ ใต้โต๊ะ กินใต้ดิน เหนือดิน กินทุกแบบทุกฉบับ
    อย่างสมัยปัจจุบันนี้ ก็มาโดนเอาเมืองไทยเรา
    หัวหน้าของเมืองไทยมันเป็นแบบไหน
    โพธิสัตว์เป็นหัวหน้าบริษัทบริวาร
    ท่านเสียสละให้ลูกน้องทั้งหลายเอาตัวรอด
    ท่านเสียสละ เข้าไปหาแดนแห่งความตาย
    ประกาศให้ลูกน้องบริษัทบริวารวิ่งกลับหลังให้หมด
    ท่านจะเข้าสู่จุดที่จะเป็นเพชฌฆาต
    สุดท้ายท่านก็เอาตัวรอดได้บริษัทบริวารรอดได้หมดเลย
    +++++
    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    (ควรจะเอาแบบโพธิสัตว์เป็นผู้นำ ณ ศาลาสวนแสงธรรม
    กรุงเทพฯ 17 กุมภาพันธ์ 2549)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
    พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของในหลวงรัชกาลที่ ๙ คนเห็นความดีของท่านทั่วโลก เห็นไหมว่ามีฝรั่งทั้งผู้หญิงผู้ชายสมัครเป็นจิตอาสาช่วยงานที่สนามหลวง นั่นไม่ใช่ว่าเขาทำเพราะสนุก แต่มาเพราะศรัทธาจริง ๆ ของทองผาภูมิก็มีฝรั่ง แต่เสียดายว่าลุงเดฟตายไปเสียก่อน ไม่เช่นนั้นลุงเดฟก็คงเป็นจิตอาสาทองผาภูมิเหมือนกัน
    .
    เรื่องของการทำความดีเป็นสากล คำว่าสากลก็คือทั่วโลกก็ยอมรับกันทั้งนั้น ในเมื่อใครทำดีให้เขาเห็นว่าดีจริง ๆ ทุกคนก็ยอมรับในความดีนั้นเช่นกัน ในลักษณะเดียวกับธรรมะ ไม่จำกัดด้วยสถานที่ เชื้อชาติ หรือระยะเวลา เป็นส่วนที่ทุกคนยอมรับและต้องการกันทั้งนั้น
    .
    ทุกคนก็อยากจะมีภพหน้าที่ดี ๆ พูดง่าย ๆ ก็คือว่าตายดี ขณะที่มีชีวิตอยู่ก็ให้มีความสุขความสงบ แต่หลายศาสนาก็แสวงหาผิดทาง พวกเราถือว่าโชคดีเกิดมาในศาสนาพุทธที่มีหลักธรรมที่แท้จริง ช่วยให้พวกเราพ้นทุกข์ได้
    .
    เดี๋ยวนี้ฝรั่งทั่วโลกเขาใช้สมาธิในการเสริมสร้างสมรรถภาพในการทำงานให้กับคนของเขา ส่วนประเทศไทยของเรายังไม่ค่อยมีใครขยับเลย เมื่อวานนี้ที่คุมสอบธรรมศึกษา ที่เห็น ๆ อยู่ทำมาเป็น ๑๐ ปีแล้วก็คือซีพี ซีพีเขาพัฒนาให้ทุกคนเรียนหมด มีธรรมศึกษาตรี ธรรมศึกษาโท ธรรมศึกษาเอก แต่มีอันหนึ่งที่ซีพีทำแล้วอาตมาไม่เห็นด้วย ก็คือยกวัดไปไว้ที่เซเว่นฯ ที่ไม่เห็นด้วยเพราะว่าเท่ากับดึงคนไปจากวัด ในเมื่อดึงคนไปจากวัดเข้าไปในเซเว่นฯ ก็ไม่ใช่ความสงบที่แท้จริง
    .
    ในเรื่องของธรรมศึกษาอาตมายอมรับว่าเขาทำดี ทำถูก ถึงแม้ว่าจะเป็นการเพิ่มสมรรถภาพในการทำงานของบุคลากรของเขา แต่ว่าผลได้เกิดขึ้นกับตัวพนักงานจริง ๆ แต่ยกวัดไว้ที่เซเว่นฯ เหมือนอย่างกับทำเอาหน้า นี่วิจารณ์กันตรง ๆ นะ เหมือนกับทำเอาหน้า พอถึงเวลาก็นิมนต์พระไปเทศน์ แล้วคนก็ไปส่องกัน แต่เหมือนกับว่าเป็นงบประมาณการตลาด โฆษณาสินค้าทำนองนั้น"
    .
    "อะไรที่เป็นความดีแท้ ความดีสากล คนเห็นก็ชื่นชม อะไรที่ยังไม่ดีแท้ก็ต้องขัดเกลา ต้องปรับปรุงกันไป ยอมรับว่าคุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ มีแนวคิดที่ดี ก็คือพยายามจะเอาหลักของศาสนาให้เข้าถึงบุคลากรและประชาชนทั่วไป แต่บางอย่างกระทำแล้วกระทบกับส่วนเดิมที่ดีอยู่แล้ว
    .
    อย่างเช่นว่า ถ้าซีพีจะทำโครงการนี้ ก็หาวัดหลัก ๆ สมมติว่าภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก เสร็จแล้วก็จัดโครงการร่วมกับทางวัด ดึงคนเข้าวัดในจุดนั้น ๆ ก็จะเป็นโครงการที่เหมาะสมกว่าที่จะพาคนไปเข้าเซเว่นฯ ที่อยากเข้าเซเว่นฯ จริง ๆ นอกจากคนแล้วแม้แต่หมาก็อยากเข้า แย่งกันนอนหน้าเซเว่นฯ เพราะว่าเย็น ถึงเวลาก็เอาหัวเกยประตูนอน ประตูอัตโนมัติจะปิดก็ปิดไม่ได้ เพราะว่าหัวหมาเกยอยู่"
    .
    "ส่วนงานอื่น ๆ ที่จะใช้หลักธรรมในการพัฒนาสมรรถภาพของบุคลากรก็ไม่เคยเจอ ในทองผาภูมิใช้กันมาก ที่เห็นชัด ๆ เลยก็คือเรือนจำจังหวัดทองผาภูมิ
    .
    อย่าสงสัยว่าจังหวัดทองผาภูมิมีอยู่หรือ ? ทองผาภูมิเขามีโครงการแยกจังหวัดมานานแล้ว แต่ประชากรยังไม่พอ พวกส่วนของเรือนจำจังหวัด ขนส่งจังหวัด ศาลจังหวัด ไปอยู่ที่โน่นกันหมดแล้ว พูดง่าย ๆ ก็คือว่า อัตราเหมือนกับเป็นอีกจังหวัดหนึ่งแล้ว แต่ประชากรไม่พอ ประชากรในทะเบียนของทองผาภูมิจริง ๆ มีแค่ ๖๐,๐๐๐ กว่าคน ที่เห็นเป็นล้าน ๆ นั่นส่วนใหญ่เป็นมอญพม่า พี่น้องมอญพม่ายังไม่มีบัตร ไม่สามารถนับเป็นประชากรในทะเบียนบ้านได้"
    ...
    เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๐
    RHfzgJgxPf2YZDCvRPTfCMD&_nc_ohc=cSGkPdFqqYQAX-KjR0x&tn=32SMgKculfo9F24p&_nc_ht=scontent.fbkk22-6.jpg
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...