เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ร่วมบุญครับ

 

มหาลาภองค์เอกเฉียบขาดแห่งที่ราบสูง เดินทางเข้าบ้านใหม่น้องเสฯ เป็นบารมีศรีบ้านซึ่งครบครันสมาชิกอบอุ่น

ขอพลานุภาพแห่งอริยสงฆ์องค์แท้ที่ไม่ต้องสงสัยในบารมีคุณความดีและวิชา ปกปักรักษา คุ้มครอง ส่งเสริมก้าวหน้าทุกวิถีทาง วันจันทร์จัดส่งครับ

 

โอนร่วมบุญแล้วครับ

 

เนื่องจากเมื่อเดือนที่แล้ว ผมได้บอกคุณสุไว้ว่า หากหลังจากวันที่ ๒๐ ไปแล้ว ถ้าข้าวสารหมดหรือเงินหมด ขอให้แจ้งผมมาได้เลย จะรีบดำเนินการให้ก่อน
และเมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน ที่ผ่านมา คุณสุก็ได้แจ้งมาว่าข้าวสารหมดแล้ว ตอนนี้ได้ขอยืมของคุณปัทม์มาหุงอยู่

ผมจึงได้รีบโอนเงินในส่วนของค่าโครงไก่และค่าอาหารแมว จำนวน ๒,๘๐๐ บาท ไปให้ก่อนทันที


จากนั้นก็โทรไปสั่งข้าวสารจากร้านวิลาศค้าข้าว โดยได้สั่งเผื่อให้คุณปัทม์ด้วย ซึ่งทางร้านก็รีบทำการบรรจุถุงให้ทันที แล้วนำส่งถึงบ้านสวนรักในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ ๒๒ เมษายน ซึ่งก็คือเมื่อวาน







(คุณปัทม์ได้ฝากให้ช่วยสั่งให้ด้วยเดือนละประมาณ ๑๐ ถัง)

 

โอนเงินร่วมบุญให้แล้วครับ ส่วนเกินหนึ่งร้อยบาทร่วมทำบุญกับคุณอาครับ

 

วันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๔ ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๖ ปีฉลู
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

สวัสดีครับ คุณอาวันวิ ท่านบก. และสมาชิกทุกท่านครับ ผมไม่รู้ไปอยู่ไหนมา เข้ามาอ่านได้ยังไงยังงงอยู่เลยครับ ผมได้อ่านนักขุดกรุฯ ตั้งแต่วันที่ 10 จนถึงวันนี้ เพิ่งได้ 1700 กว่าๆ สุดยอดกระทู้จริงๆครับ งานการไม่ได้ทำครับ เผลอเป็นอ่าน ยังอ่านไม่จบตอนจ้าวถ้ำครับ แต่อยากเขียนมาสวัสดีก่อน และให้กำลังใจคุณอาวันวิครับ สุดยอดจริงๆ เปรียบเทียบได้กับ เจ เค โรว์ลิ่ง ที่เขียนแฮรี่ฯ ให้ลูกเค้าอ่าน ทีละตอนสอง สุดยอดจริงๆครับ

และได้ความรู้เรื่องพระกับเครื่องราง ของคุณอา ท่าน บก. และสมาชิก แถมประวัติศาสตร์ในแต่ละช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2017 ด้วยครับ สุดยอดกระทู้ครับ

 

สวัสดีคุณอาวันวิและแฟนคลับทุกท่าน

 

ป่านนี้ยอดตะกรุดที่ไม่ต้องโม้สรรพคุณเรื่องราคาร้อย เก่งเกินล้าน คงเดินทางถึงท่านคนคลองฯ โมทนาครับ

 

อีกหนึ่งท่านจอดแมงกะไซด์ใส่บาตรยามเช้า เป็นความสุขเล็กๆริมถนนที่พระภิกษุสงฆ์ท่านได้มอบให้กับคนทำบุญ

บุญมาหาถึงที่ ไม่สละเวลาสักนิดนึงทำหรือร่วมอนุโมทนาก็น่าเสียดายเวลาที่หายใจทิ้งไปปลี้ๆเปล่าๆ

 

รับทักที่ไม่เคยห่างหาย
จากน้องปรายฯยามบ่าย

 

ลองว่ารู้เรื่องเบื้องหลัง เจ เค โรลว์ลิ่ง คนเขียนพ่อมดแฮร์รี่ิก็สำแดงว่า เป็น"หนอนหนังสือ"ตัวฉกาจอีกท่าน

ยินดีต้อนรับน้องท็อป อ่านตั้งแต่วันที่ 10 ตะลุยมาได้ถึงพันกว่าหน้า เกินครึ่งมาเล็กน้อย ได้อ่านจบม้วนเดียวแน่ในช่วงนี้ิเพราะเป็นเวลาที่โควิดทำให้คนติดเกาะ...เอ้ย ติดบ้าน

เสียดายนิดที่เข้ามาอ่านช้า ทำให้บางตอนอาจมีข้อความ "หลุดหาย" เนื่ิองจากเว็ปปรับปรุงคุณภาพหลายครั้ง การเก็บข้อมูลเดิมจึงตกหล่นบ้าง เป็นช่วงๆ แต่สำหรับนักอ่านระดับเข้าขั้น จะตีความช่วงที่หล่นหายไปจากเครื่องมือยุคใหม่ พอได้อยู่

เข้ามาช้าหน่อย ก็ยังดีกว่าไม่มา ขอให้มีความสุขกับการอ่าน ว่างก็พักสายตา ใช้นิ้วจิ้มทักทายกันบ้าง ถือเป็นยาชูกำลังใจที่ดีและขอบคุณมาก

อ้อ-ที่บ่นกับตัวเองว่าไปอยู่ไหนมา เพิ่งได้พบพานเรื่องดี ของดี กระทู้เด็ดขนาดนี้...ก็ขอเรียนน้องท็อปว่า คนใหม่ๆที่เข้ามาอ่าน ร้องอย่างงี้ทุกคน-ฮ่า

 

รายละเอียดกับปฏิบัติการที่เล่ามา ถือว่าคุณพัฒน์ทำได้ดีมากที่สุดแล้ว ในยามที่ผู้คนลำบาก เพื่อนร่วมโลกสี่ขาหมู หมา ไก่ แมว ฯ ก็ยังมีอาหารประทังชีวิตบ้าง โลกนี้ยังไม่ล่มสลายเพราะเจ้าโควิดแน่นอน

ขอพวกเราจงตั้งใจดูแลตนเองและครอบครัวแข็งขันเข้าไว้ อย่าเป็นภาระหมอ-พยาบาล กับรัฐ ซึ่งกำลังลำบากมากในการเสริมเตียงให้ผู้ป่วยที่มากเป็นทวีคูณแต่ละวัน

(((ขณะจิ้มอยู่นี่ ตาดูช่าวทีวี. มันล่อเข้าไป-2,800 คน แล้วสำหรับเวลาที่ยังไม่เต็มวัน)))

บางคนควรปล่อยให้ตายและรักษาตัวเองแบบไอ้กันหรือทางยุโรป เพราะมันเป็นแล้ว ไม่อินังขังขอบคนอื่นหรือสังคมเลย ยังเที่ยวยังไปโน่นมานี่ิแพร่เชื้อเป็นว่าเล่น

แถมยังโกหกเรื่องไทม์ไลน์ ไม่บอกความจริงอีกต่างหาก บางคนถึงกับเอาไปติดหมอทั้งโรง'บาล

ท่านคิดว่าไอ้เลวเหล่านั้นสมควรเอาเงินภาษีของพวกเราไปรักษามันมั้ย ?โดยเฉพาะไอ้ระยำที่มาชุมนุมกันกลางถนนอย่างไม่หวั่นเกรงโควิด!

 

โมทนาบุญ+ทานบารมีน้องณัฐวุฒิ พระดีศรีอีสานคงเดินทางถึงทุกองค์อีกชั่วอึดใจ

ต่อไปก็เป็นรายการ..."เยือนเมืองเหนือ" ถิ่นน้องเลยครับ!

หะแรกว่าจะตั้ง...มนต์เมืองเหนือ แต่เกรงว่าจะไปซ้ำกับชื่อนักร้องเข้า เอาแค่ไปเยือน เหมือนสหายเก่า 'ปิ้กบ้าน" เจอเพื่อนเก่า เกลอเก่า พระดี ศรีเมืองเหนือ ก็พอเด้อ

 

ดอกไม้สีตามวัน
ปั่นกวีศรีตามใจ...

ไอม่านหมอก...หยอกอยู่หลัง
หน้าม้านั่ง.......ตั้งชมม่วง
ปวงบุปผา.......นัยนาหน่วง
ขาดคนห่วง.....ควงคู่เสาร์!

 

เยือนเมืองเหนือ...
หลวงปู่แก้ว สุทโธ
วัดดอยโมคคัลลาน์
~~~~~~~~~~~
1 ใน 3ทหารเสือเลือดเนื้ออีสานบ้านเฮา ที่ข้ามฟากมาเติบใหญ่เป็นยอดอริยเจ้าเข้าถึงธรรมประเสริฐสุดแห่งพระบรมมหาศาสดาทางภาคเหนือ

หลวงปู่แก้ว สุทโธ วัดดอยโมคคัลลาน์ จอมทอง เชียงใหม่

อีก 2 ทหารเสือที่โด่งดังคับฟ้ากว่าท่านคือ หลวงปู่แหวน สุจินโณ วัดดอยแม่ปั๋ง กับ หลวงปู่ตื้อ อาจลธัมโม ยอดปาฏิหาริย์จอมโลดโผนทั้งอรรถถ้อย อรรถธรรม!

(((ซึ่งยังมี 3 ทหารเสืออีกชุดคือ...หลวงปู่ขาว-หลวงปู่แหวน-หลวงปู่ตื้อ)))

หลวงปู่แก้ว สุทโธ เดินธุดงค์กับ หลวงปู่แหวน มากกว่า เมื่อถึงวาระแยกทางกันเติบใหญ่ทางธรรม ที่ดอยโมคคับลาน์ หลังจากรับข้อธรรมเต็มที่จากปรมาจารย์ใหญ่ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต กันแล้ว ก็สร้างวัด สร้างหนทางบรรลุวิถีธรรม ตราบเข้าสู่แดนเกษมอย่างเงียบเชียบ แจ่มใสสง่างาม ไม่เป็นภาระช้างหลัง ทิ้งไว้แต่ความดียิ่งใหญ่ ธรรมล้ำลึก วัตรปฏิบัตรเข้มข้น และความเป็น "ช้างเผือกเชือกงาม" ที่คนทั่วไปไม่สามารถพบเห็น หากไม่เข้าถึงท่าน เข้าถึงธรรม

หลวงปู่แก้ว สุทโธ คือเพชรเม็ดงามที่ไม่เคยผ่านการเจียระไนย ในด้านชื่อเสียงเรื่องวัตถุมงคล อิทธิปาฏิหาริย์ลวงโลกเหลวไหล เพราะท่านไม่ได้สร้างวัตถุมงคลออกมาบันดาลความร่ำรวยให้นักขายพระหรือพวกหากินกับพระ

พวกนี้แหละคือ พวกที่ทำให้ "พระสงฆ์ธรรมดา"พื้นๆขนาดคนในพื้นที่ยังไม่รู้จัก กลายเป็น"พระเทวดา" ในสายตาคนไกลวัด ไกลพื้นที่นับรูปไม่ถ้วน เพราะวิธีตีปิ้บโหมโฆษณาสรรพคุณอันไม่เคยมีในตนของพระสงฆ์เหล่านั้น มันทำเพียงเพื่อขายวัตถุมงคลที่พวกมันสร้าง เมื่อความดังสร่างซาหรือปิ้บแตกเพราะสร้างพระออกมาขายมากเกินไป ก็ไปเสาะหา พระสงฆ์ดาดๆพื้นๆที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก แต่แก่พรรษาหน่อย อยู่วัดไกลปืนเที่ยงไกลห่างหูไกลตาผู้คนเข้าไว้ จะเขียนเหาะได้ก็ไม่มีใคร ถ่อไปพิสูจน์ทราบ!

แล้วก็เอามาปั้นด้วย "ประวัติโลดโผน"บิดเบือน ตอกไข่ใส่สีละเลงเข้าไป นานวันเข้าก็กลายเป็น "พระเทวดา"แทบจะเหาะเหินเดินเมฆาได้ ทั้งที่อยู่แต่ในวัดไม่เคยมีธรรมะสอนสั่งใคร!!!

หลวงปู่แก้ว สุทโธ อยู่นอกเหนือสิ่งเหล่านี้ทุกประการ... การได้พบพานท่านของพวกขายพระ จึงเหมือน "ลิงได้แก้ว-ไก่ได้พลอย" เพราะมันไม่มีค่าทางการค้าขายทำกำไร มีแต่คุณค่าบริสุทธิ์สงฆ์...ซึ่งมักเป็นสิ่งสูญค่าของนักพุทธพาณิชย์

แต่ความจริงเหล่านี้ ก็กลับกลายเป็น "ความดี" อีกมุมของผู้ที่ไม่สนพุทธพาณิชย์ หากเคารพบูชาคุณค่าพุทธคุณสูงส่งของอริยสงฆ์องค์จริง

พระของ หลวงปู่แก้ว สุทโธ ทุกรุ่น ทุกพิมพ์ที่ทันท่านอธิษฐานจิตให้เหล่าศิษย์ไว้บูชา ป้องกันตัวเอง หรือเสริมสิริมงคลก้าวหน้าชีวิต จึงเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ บริสุทธิ์ ลอยตัวเหนือราคา เจอะเจอที่ไหน ถ้าหากไม่เป็นการทำให้ชีวิตลำบาก ก็รีบเก็บเข้าบ้านไว้บ้าง...

ย่ำเยือนย่าน......ด้าน'อุดร'
เหลืองจีวร........พรพระเหนือ
หน่อเนื้อ"แก้ว"...แวววับเหลือ
พิสุทธิ์เชื้อ........เพื่อ"สุทโธ"!

หมายเหตุ...อุดร=ทิศเหนือ
...สุทโธ=ผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง!

เหรียญรูปไข่ครึ่งองค์ ทองแดงรมดำปี 20 ไม่เคยผ่านมือ-ผ่านใช้ ออกแบบ"บัวบานด้านหลัง" เร้นสัจธรรมความหมาย ท่านคือบัวบานเต็มที่โผล่พ้นน้ำเรียบร้อย...ความงามในการเปิดประเดิม เยือนเมืองเหนือ มอบให้เป็น "แก้ว-แหวน-เงิน-ทอง" ล้ำค่าที่จัดทยอยให้ร่วมบุญเป็นสิริมงคลชีวิต เก็บรักษาสิ่งสูงค่ามีราคามากแน่เมื่อถึงเวลา

=======700=======

เหรียญเปี่ยมความงาม หลวงปู่แก้ว สุทโธ เหรียญจริงงามกว่าภาพถ่ายหลายเท่า เพราะยังมีผิวกระจกเกือบเต็ม!

บัวบานเต็มที่ด้านหลัง ไม่ใช่แค่เป็นบัวพ้นน้ำ เป็นสัญลักษณ์บอกว่า ท่านเบ่งบานรับธรรมแห่งองค์พระศาสดา ลุสู่หนทางพ้นทุกข์ ไม่กลับมาเวียนว่ายอีกแล้ว

ขนาดเท่ากับ
เหรียญรูปไข่
ทั่วๆไป

 

ร่วมบุญครับ

 

ประวัติสั้นๆ-"หลวงปู่แก้ว สุทโธ"
--เกิด-นาแก นครพนม 2434
--บวชเณร อายุ12
--บวชพระ อายุ 21
--มรณภาพ 2522
--สิริอายุ 88
--นั่นหมายถึง หลวงปู่แก้ว บริสุทธิ์สงฆ์ที่สุดตั้งแต่เป็นเณรน้อย สงบ สอาด สว่าง ว่างเปล่า จวบวาระสุดท้าย

--ท่านสร้างวัดพระธาตุดอยโมคคัลลาน์ ในปี 2475ขึ้นสู่ยอดดอยที่มีประวัติเร้นลับมากมาย ทั้งตำนานพญานาคที่มีคนเห็นตัวจริงนับหนไม่ถ้วน จนต้องกลายเป็น "บันไดพญานาค" ขึ้นสู่ดอย และการเป็นที่สถิตของพระธาตุพระอรหันต์ถึง 5 รูป วัดยิ่งใหญ่สวยงามเมืองเหนือแห่งนี้ สำเร็จด้วยมหาศรัทธาชาวประชาถิ่นเหนือแถบนั้นล้วนๆ ทำไม่ได้หรอกถ้า หลวงปู่แก้ว ไม่ใช่อริยสงฆ์องค์แท้ อย่าว่าแต่จะสร้างวัด สร้างบันไดสักขั้นก็คงไม่สำเร็จ!

--เมื่อมรณภาพร่างท่านไม่เน่าเปื่อยเหมือนคนทั่วไป แต่ที่สุดคณะกรรมการวัดต้องจัดพิธีฌาปนกิจให้ท่านตามแบบฉบับพระป่าในปี 2526 หลังเก็บไว้หลายปี ไม่กล้าฝืนคำสั่งเสีย

โมทนาน้องณัฐวุฒิ เหรียญสวยที่สุด-พระดีที่สุดห่างไกลนิทานอวตารเหลวไหล ท่านได้ปิ้กบ้าน แม้จะไกลออกไปอีกนิด ก็เป็น ถิ่นเหนือเมื่อแสงธรรมบาน เฉกบัวบานรับอรุณ!

 

เยือนเมืองเหนือ...
"ครูบากองแก้ว ญานวิชโย"
เหรียญรุ่น2-ปี21วัดต้นยางฯ
=================
ยอดครูบาผู้ยิ่งใหญ่อีกรูปแห่งเมืองเหนือ ท่านมีฉายาเล่นๆในหมู่คนชอบเรื่องกีฬาว่า...'สามกอ'!

เพราะชื่อ "กองแก้ว"มี 2 กอไก่ กับเกิด"ปีไก่"ได้ กอ.มาอีกหนึ่งตัว เป็น"สามกอไก่" ยิ่งใหญ่อยู่แถวหน้าไม่เป็นคนแถวหลัง

ครูบากองแก้ว ญาณวิชโย วัดต้นยางหลวง สารภี เชียงใหม่ คือหนึ่ง "แก้วเกรียงไกร"ที่นำเสนอด้วยความภูมิใจในการ เยือนเมืองเหนือ

เข้ามาที่วัตถุมงคลของครูบาซึ่งเป็นธรรมดาของผู้มีลูกศิษย์ลูกหาท่วมเมือง มีสร้างไว้ครบเครื่องทั้งเหรียญ ดิน ผง และเครื่องรางของขลัง

กล่าวถึงเหรียญ ถ้าเป็นรุ่นแรกก็สร้างปี 17 แต่ส่วนใหญ่นักสะสมยกให้เหรียญนั่งพาน จตุพรชัย พิธีใหญ่ปี 20 เป็นรุ่นหนึ่ง

เหรียญครึ่งองค์หน้าเอียง ปี 21 จึงเป็นรุ่นที่ 2 นำของดี ทีเด็ด เพชรน้ำหนึ่งเมืองเหนือให้บูชาด้วยความงามระดับแชมเปี้ยน อายุกาลผ่าน 40 กว่าปียังมีรมดำติดเต็มร้อย

=======700=======

หนึ่ง'กองแก้ว'...เลิศแถวหน้า
เด่น "ครูบา' ......ศรัทธาก่อ
กอไก่เกิด.........เลิศสามกอ
ถ้วนหนึ่งหนอ....ขอกราบครู!

ประวัติย่อ-ครูบากองแก้ว
--------------------
--เกิด 12 สิงหาคม 2440
--สถานที่ สารภี เชียงใหม่
--อายุ 14 บรรพชา
--อายุ19 อุปสมบท
--มรณภาพ 2524
--สิริอายุ 84,พรรษา64

จะเห็นว่าท่านอยู่ในร่มกาสาวพัตรตั้งแต่เป็นสามเณร บริสุทธิ์ผุดผ่องดั่งแก้ว 3 ดวง พบพานมาทั้ง หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และ ครูบาศรีวิชัย ซึ่งท่านได้รวบรวมคนไปช่วยสร้างทางขึ้นดอยสุ
เทพอันยิ่งใหญ่ ร่ำเรียนวิชาทั้งครูบาแถวหน้าแห่งยุค พร้อมสรรพวิชาจากผู้เป็นครูมาจากแดนไกล วิชาของครูบากองแก้ว ญาณวิชโย จึงหลากหลาย เป็นดาวประกายพฤกษ์ประจำถิ่นโดดเด่นที่สุดรูปหนึ่ง ทำสิ่งใดก็ขลัง ศักดิ์สิทธิ์ ไม่จำเป็นต้องโฆษณาราคาคุย!

เหรียญรูปไข่ใหญ่งามที่สุด รมดำติดเต็มที่เห็นเป็นรอยจางนั้น แห้งซีดไปเองเพราะความเก่ากาลเวลา ไม่ใช่โดนมือใครสัมผัส
ด้านหลังรายละเอียดครบ กับอักขระมหายันต์ พระเจ้า 16 พระองค์ สร้างในวาระมงคล อายุ 82 ปีของท่านครูบา

เหรียญไข่ใหญ่
คุ้มค่าสะสมบูชา
งามตาหน้า-หลัง