ติดตามสถานะการณ์

ANIMAL: เจ้า Baraack เหมือนได้เกิดใหม่ เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียเข้าช่วยเหลือแกะที่ถูกพบในป่า ที่ต้องอยู่กับขนสุดหนาไม่ได้ตัดมานานนับหลายปี ใช้ชีวิตลำบาก มองไม่เห็น เคยมีเจ้าของมาก่อน
.
แกะตัวผู้ที่ถูกพบในป่าใน Victoria ออสเตรเลียได้ถูกช่วยเหลือโดยศูนย์พักพิงสัตว์ และตัดขนที่หนักกว่า 35 กิโลกรัม หรือเทียบเท่าราวน้ำหนักจิงโจ้หนึ่งตัวเลยทีเดียว ซึ่งนี่เป็นการตัดขนของมันครั้งแรกในรอบหลายปี และได้ถูกตั้งชื่อว่า Baraack
.
จากการตรวจสอบคาดว่าเจ้า Baarack เคยมีเจ้าของมาก่อน เนื่องจากมีร่องรอยของแท็กติดหู Edgar's Mission ศูนย์พักพิงสัตว์เผยว่า แกะต้องได้รับการตัดขนอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง มิฉะนั้นมันจะยาวเรื่อยๆอย่างที่เกิดขึ้นกับเจ้า Baraack และเป็นอันตรายต่อชีวิต โดยเจ้าหน้าที่เผยว่ามันไม่ได้รับการตัดขนมาอย่างน้อย 5 ปี
.
แม้ว่าสภาพกีบเท้าจะปกติดี แต่เจ้า Baraack มีน้ำหนักตัวที่ต่ำกว่าปกติ และด้วยขนที่อยู่รอบๆตัว และหัวของมันทำให้มันมองเห็น และเคลื่อนไหวได้ยากลำบาก โดยบนขนของมันมีทั้งกิ่งไม้ และแมลงติดอยู่
.
โดยปกติแล้วแกะป่าจะมีการสลัดขนเองตามธรรมชาติ แต่การถูกเพาะพันธุ์โดยมนุษย์ ทำให้ขณะนี้มีแกะหลากหลายพันธุ์ ที่ต้องการตัดขนอย่างน้อยทุกๆปี เพื่อสภาพความเป็นอยู่ที่ดีของมัน
.
ขณะนี้ Baraack ได้อยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ Edgar's Mission บ้านหลังใหม่ที่เขาจะเอ็นจอยอยู่กับแกะ และสัตว์อื่นๆที่ได้ถูกช่วยเหลือไว้
.
"หากเราสามารถมีชีวิตอย่างมีความสุข และสุขภาพที่ดีได้ โดยไม่ทำอันตรายและเบียดเบียนสัตว์อื่น ทำไมเราถึงไม่ทำ" - Edgar's Mission
.
Source:

https://www.reuters.com/article/us-...australia-shorn-of-35-kg-fleece-idUSKBN2AO0CW



https://fb.watch/3Sj-ToNOoJ/

https://fb.watch/3SkF5p2xnh/

เรียบเรียง: ร่มธรรม ขำนุรักษ์

 

https://www.thairath.co.th/news/foreign/2038055

 

ส.ส.ก้าวไกล ซัดปมเยียวยา “เราชนะ” ผ่านเป๋าตัง หลังพบ ปชช.ยอมเสียส่วนต่างแลกเงินสด!
.
นอกจากปัญหาการลงเบียนเข้าร่วมโครงการ “เราชนะ” ในกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน ที่ต้องต่อแถวยาวเหยียดหน้าธนาคาร รวมไปถึงความยุ่งยากในขั้นตอนการกรอกเอกสาร และต้องใช้บัตร ปชช.สมาร์ทการ์ดลงทะเบียนด้วยนั้น
.
ขณะนี้พบว่าการเยียวยาที่ไม่ได้รับเป็นเงินสด ทำให้ประชาชนจำนวนมาก ยอมเสียส่วนต่างจากการแลกสิทธิ์ใช้จ่ายในแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ออกมาเป็นเงินสด เพื่อนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เนื่องจากมีรายจ่ายที่จำเป็นต้องจ่ายรออยู่แล้ว อีกทั้งยังสะดวกต่อการใช้จ่ายมากกว่า
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้แสดงความเห็นเกี่ยวข้องกับประเด็นนี้ ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ระบุว่า “รัฐบาล เถียงผมว่าถ้าเยียวยาเป็นเงินสด คนจะเอาไปซื้อเหล้า ซื้อบุหรี่ จะทำไง”
.
นายวิโรจน์ ระบุว่า นี่คือจุดยืนที่ต่างกันอย่างชัดเจน ของผมกับฝ่ายรัฐบาล ผมให้ความสำคัญกับการใช้สิทธิอย่างสะดวกของประชาชนส่วนใหญ่ แต่รัฐบาลกลับเอาอคติของตน ที่มีต่อคนกลุ่มหนึ่ง มาเหมารวมประชาชนส่วนใหญ่ จนทำให้ประชาชนต้องพลอยลำบาก จากการถูกจำกัดสิทธิไปด้วย ที่สำคัญปัญหาที่รัฐบาลกังวล เอาเข้าจริงการใช้จ่ายผ่านแอพฯ ประชาชนก็สามารถฮั้วกับร้านค้าได้ คือไปใช้สิทธิซื้อสินค้าอื่น แล้วขอแลกเป็นเงินสดหรือเหล้า ยอมให้ร้านค้าคิดค่าหัวคิว โดยจ่ายในราคาที่แพงขึ้น”
.
ก่อนหน้านี้ “นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชา” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ชี้แจงคำถามที่ว่าทำไมไม่จ่ายเงินเข้าบัญชี แล้วให้ถอนเป็นเงินสดได้จะได้ใช้จ่ายเงินได้ตามใจชอบ ระบุว่า เรื่องแรกเลยคือเรากำลังอยู่ในช่วงสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 การสัมผัสธนบัตร จึงเป็นเหตุที่อาจทำให้ติดเชื้อ COVID-19 ไม่เพียงเท่านั้น เรายังคิดถึงเรื่องการลดความแออัดของประชาชนจำนวนมากที่จะไปต่อคิวกดเงินสดออกจากตู้ ATM ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสนับสนุนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของกระทรวงสาธารณสุข
.
และอีกเหตุผลสำคัญคือ ต้องการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า และให้เงินหมุนเวียนอยู่ในชุมชน เพราะร้านค้าที่รับซื้อหรือรับบริการจะเป็นร้านเล็กๆ มีเป้าหมายที่จะช่วยเหลือคนตัวเล็ก และให้เงินหมุนหลายรอบในระบบเพื่อช่วยเหลือการใช้เงินในชีวิตประจำวันของคนตัวเล็กให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
.
#ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29
#เราชนะ #เป๋าตัง #เยียวยาโควิด

 

ขนมปังโบราณ 'บากอร์คานิ' มื้อเช้ายอดฮิตในบังกลาเทศ

ชวนชมกรรมวิธีการทำขนมปังโบราณ "บากอร์คานิ" (Bakorkhani) ของชาวบังกลาเทศ
.
ขนมปังโบราณนี้มีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโมกุล ลักษณะเป็นขนมปังกรอบทรงกลมทำจากแป้ง นม เกลือ ชีส และสารให้ความหวาน จัดเป็นขนมสำหรับมื้อเช้าที่หาทานได้ทั่วไปและได้รับความนิยมในย่านเมืองเก่าของกรุงธากา เมืองหลวงของบังกลาเทศ
.
(บันทึกภาพวันที่ 23 ก.พ. 2021)
.
อ่านข่าวน่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : www.xinhuathai.com

 

สหรัฐ : น้ำตกไนแองการ่า ❄️
มันคือดินแดนมหัศจรรย์ช่วงฤดูหนาวที่น้ำตกไนแองการ่า อากาศเย็นจัดทำให้น้ำตกกลายเป็นน้ำแข็งสวยงามพร้อมสายรุ้ง นักท่องเที่ยวประทับใจในการมาเยือนในช่วงนี้


Lindsay DeDario, Reuters

 

ฟิลิปปินส์ : แม่น้ำ สีแดง
หลังจากน้ำทะเล ในอ่าวทางภาคใต้เป็นสีแดง วานนี้มีภาพแม่น้ำในฟิลิปปินส์ Brgy Barit, Candaba, Pampanga กลายเป็นสีแดงเลือด เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาสาเหตุ

#โพสน้ำในอ่าวเป็นสีแดง

 

ญี่ปุ่น : จังหวัดฟุกุชิมะตรวจพบสารกัมมันตภาพรังสีเกินมาตรฐานในปลาทะเล
จากข้อมูลของสหพันธ์การประมงประจำจังหวัดฟุกุชิมะตรวจพบสารกัมมันตภาพรังสีในปลาที่จับได้ที่พื้นประมงห่างจากเมืองชินจิ โรงไฟฟ้า 8.8 กม. ลึก 24 เมตรในวันที่ 22 ก.พ. จากการตรวจวัดโดยละเอียดที่สถาบันวิจัยจังหวัดพบว่าความเข้มข้นของซีเซียมกัมมันตภาพรังสีอยู่ที่ 500 เบเคอเรลต่อกิโลกรัมซึ่งเกินมาตรฐานอาหารแห่งชาติที่ 100 เบเคอเรลต่อกิโลกรัม สหพันธ์การประมงประจำจังหวัดจึงตัดสินใจระงับการขนส่งปลากระพงดำจนกว่าจะได้รับการยืนยันความปลอดภัย / มี 15 ชาติที่ระงับการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2011 การรั่วไหลครั้งที่แล้ว
#ไทม์ไลน์ #
*แผ่นดินไหว 7.3 ในวันที่ 13 ก.พ. 2021 โรงไฟฟ้าเสียหายบางส่วน แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันปลอดภัย
* ระดับน้ำหล่อเย็นลดลงในเตาปฏิกรณ์สองเครื่องที่โรงงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหว 13 ก.พ. คาดว่ารั่วไหลในอาคารแต่ควบคุมได้
* 22 ก.พ. ตรวจพบปลาปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีสูงเกินมาตรฐานห่าง 8.8 ก.ม. จากโรงไฟฟ้า(ตามเนื้อข่าวขัางต้น)
ภาพ :AP /NHK

 

⚠️#ผลพวงแผ่นดินไหววันก่อน

(1) น้ำที่ใช้หล่อเลี้ยงเตาปฏิกรณ์ปรมาณูของโรงไฟฟ้าฟุคุชิมะที่ 1 และ 3 ลดลงอย่างต่อเนื่อง (หายไปหลายสิบเซ็นติเมตร) ซึ่งตอนนี้ก็ต้องเติมน้ำอยู่ตลอด ยังไม่มีผลกระทบอะไร

นอกจากนี้เพื่อป้องกันการระเบิดของไฮโดรเจน จึงต้องเติมไนโตรเจนเข้าไปในเพื่อให้ความดันในระบบอยู่สูง แต่ปรากฎว่าตอนนี้ในเตาปฏิกรณ์ที่ 1 ความดันภายในลดจาก 1.2 กิโลปาสคาล เหลือ 0.1 กิโลปาสคาล หรือ เกือบเทียบเท่าความดันปรกติในอากาศ

✒ Worst case scenario หรือ กรณีเลวร้ายที่สุด ถ้าหาสาเหตุที่น้ำรั่วไม่เจอ หยุดน้ำ และ ปรับความดันไม่ได้ ก็อาจจะเกิดการระเบิดเหมือนตอน 2011 อีก แต่ ณ ตอนนี้ทุกอย่างยังปรกตินะคะ สวดมนต์และเชื่อในนักวิทยาศาสตร์กันค่ะ

✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼

#ปลดล็อกสถานการณ์ฉุกเฉิน

เครดิต:
NHK　https://www3.nhk.or.jp/news/special/coronavirus/data/
https://www3.nhk.or.jp/news/html/20210223/k10012881251000.html
https://www.news24.jp/articles/2021/02/23/06828321.html

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น

 

สรุปคำสั่งเชียงใหม่ ที่ 19/2564 เดินทางเข้าเชียงใหม่ไม่ต้องกักตัว ยกเว้นผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่สีแดง จ.สมุทรสาคร ต้องกักตัว 14 วัน มีผล 25 ก.พ. 64 เป็นต้นไป

1. ให้ยกเลิกคำสั่ง คกก.โรคติดต่อเชียงใหม่ ที่ 13/2564
.
2. ให้ยกเลิกคำสั่ง คกก.โรคติดต่อเชียงใหม่ ที่ 18/2564 ( ยกเลิกกักตัวผู้เดินทางมาจาก จ.ปุทมธานี และ อ.แม่สอด จ.ตาก)
.
3.ให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (จ.สมุทรสาคร)
-ต้องแสดงตนว่าเดินทางมาจากพื้นที่ดังกล่าว พร้อมแสดงเอกสารรับรอง
-ต้องกรอกข้อมูลในระบบ CM-CHANA
-ติดตั้งและใช้แอปฯ "หมอชนะ"
-ต้องรายงานตัวกับเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่โดยทันที หรือติดต่อ 084-8052121 หรือ 084-8053131
-ต้องกักกันตนเอง 14 วัน และ/หรือ ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
.
4.ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 8 จังหวัด กรุงเทพฯ สมุทรสาคร นครปฐม ตาก สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี ราชบุรี
-ต้องกรอกข้อมูลในระบบ CM-CHANA
-ขอความร่วมมือและติดตั้งแอปฯ "หมอชนะ"
-สังเกตอาการตนองอย่างใกล้ชิด
.
5.ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเหลืองและสีเขียว)
-ให้สั่งเกตอาการตนเองอย่างใกล้ชิด
.
ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่ 25 ก.พ. 64 เป็นต้นไป
.
>>> อ่านประกาศฉบับเต็ม https://www.cm108.com/w/45022/

 

อินโดนีเซีย : ภูเขาไฟ ซินาบุง ในเกาะสุมาตราเหนือ ปะทุอีกครั้งในเช้ามืดวันนี้
การปะทุล่าสุด ซินาบุงเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 05:06 น. ปริมาตรของลาวาที่ยอดเขาซินาบุงมีมากถึง 4 ล้านลูกบาศก์เมตร ภูเขาซินาบุงพ่นเถ้าถ่านเมฆร้อนไกลถึง 2,000 เมตร
#ภูเขาไฟเคยปะทุล่าสุด กันยายน 2020

 

ซาอุดีอาระเบีย : ใน Tabok หิมะตกหนักในทะเลทราย สุดท้ายเป็นทรายไส้หิมะ

 

ภาพนี้ดูเหมือนแมงกะพรุนหรือใบบัว?

แท้จริงแล้วมันคือภาพถ่ายจากโดรน เป็นภาพของอวนจับปลา
ขนาดใหญ่ที่ถูกโยนลงทะเล เพื่อจับ กะตักนอกชายฝั่ง ฟู้เอียน ซึ่งเป็นจังหวัดริมชายฝั่งะวันออกตอนกลางของเวียดนาม

:CGTN

 

INNOVATION : กล้องอัจฉริยะ ช่วยชีวิตนกจากกังหันลม ตรวจจับเมื่อนกเข้าใกล้ ใบพัดจะหยุดทำงาน
.
แม้กังหันลมผลิตไฟฟ้าจะเป็นสิ่งที่ช่วยโลกในการสร้างพลังงานสะอาด แต่ในขณะอีกด้านหนึ่งนั้น มันก็เพิ่มอัตราการตายของนกที่บินมาชนใบพัดกังหันลม จากการศึกษาติดตามในพื้นที่ที่ติดตั้งกังหันลมจำนวน 176 เสาเป็นเวลา 1 ปี (2019) พวกเขาพบว่าอัตราการตายของนกอินทรีนั้นอยู่ที่ประมาณ 7.5 ตัวต่อปี
.
แต่หลังจากที่ได้ติดตั้งกล้องอัจฉริยะให้กับกังหันลม พวกเขาพบว่าอัตราการตายนั้นลดลงเหลือประมาณ 2.5 ตัว ซึ่งลดลงถึง 62%
.
กล้องอัจฉริยะนี้ถูกพัฒนาโดยบริษัท IdentiFlight พวกเขาใช้กล้องที่ตรวจจับนกอินทรี หรือนกอื่น ๆ โดย A.I. ที่จะคอยแยกวัตถุต่าง ๆ ว่าเป็นนกหรือไม่ในรัศมี 1 กม. หากกล้องตรวจจับได้ว่าวัตถุนั้นคือนก มันจะไปสั่งการให้ใบพัดหยุดหมุน เพื่อความปลอดภัยของนกตัวนั้น
.
แม้เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ช่วยในเรื่องสิ่งแวดล้อมจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็ไม่ดี 100% ข้อเสียเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นจะช่วยให้เรากลับมามอง และดูแลโลกของเราให้ครอบคลุมที่สุดเท่าที่เราจะทำได้เช่นเดียวกับที่เราสร้างกังหันชม และกล้องตรวจจับนกที่ได้ช่วยทั้งนกและโลก
.
Source :
1. https://besjournals.onlinelibrary.wiley.com/doi/abs/10.1111/1365-2664.13831

2. https://www.identiflight.com/

เรียบเรียง : Witit

 

DISCOVERY: นักวิทยาศาสตร์พบรูปวาดจิงโจ้ อายุ 17,300 ปี บนหินเพดานถ้ำ ซึ่งเป็นศิลปะบนหินที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ
.
นักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรเลียค้นพบศิลปะบนหินที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ อายุ 17,300 ปี และศิลปะบนหินนี้เป็นรูปจิงโจ้ สัตว์ประจำประเทศนี่เอง
.
งานศิลปะที่ว่ามีขนาดใหญ่ 2 เมตร วาดด้วยดินเหลืองที่ผสมด้วยสีแดงจากลูกมัลเบอร์รี่ มันอยู่บนเพดานของถ้ำหินที่ถูกค้นพบในภูมิภาค Kimberly ฝั่งตะวันตกของประเทศออสเตรเลีย โดยงานศิลปะที่ค้นพบนั้นเรียกว่า “ศิลปะหินของชาวพื้นเมือง” (Aboriginal Rock Painting)
.
Damien Finch นักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัย Melbourne ได้ใช้วิธีการหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสี (radiocarbon-dating) ในโคลนของรังตัวต่อ เพื่อเป็นการหาอายุของงานศิลปะชิ้นนี้ เขาได้กล่าวว่า การพบเจอโคลนของรังตัวต่อทั้งด้านบน และด้านล่างของงานศิลปะเป็นอะไรที่หาเจอได้ยาก ซึ่งหลังจากที่ได้ทำการหาอายุของโคลนของรังตัวต่อทั้งสาม พวกเขาพบว่ามันมีอายุระหว่าง 17,500 - 17,100 ปี อายุของภาพวาดฝาผนังก็น่าจะเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน แต่อายุที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดคือ 17,300 ปี การคาดคะเนนี้จึงทำให้งานศิลปะชิ้นนี้เป็นงานศิลปะที่สมบูรณ์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย และทำให้เข้าใจได้ว่าเจ้าของผลงานนี้น่าจะเป็นคนจาก 600 รุ่นก่อนหน้าพวกเรา
.
ส่วนรูปแบบในการวาด งานวิจัยก่อนหน้านี้ได้มีการศึกษารูปแบบหรือสไตล์ของภาพวาดนับพัน และพบรูปแบบที่เก่าแก่ที่สุดที่เรียกว่า Irregular Infill Animal หรือ Naturalistic Period รูปแบบของสไตล์นี่จะเป็นการวาดโครงร่างสัตว์โดยจำลองจากขนาดจริง และใช้เทคนิคการขีดเส้นที่ไม่เท่ากันลงในพื้นที่ว่าง ซึ่งรูปแบบนี้ก็ตรงกับลักษณะรูปแบบของภาพวาดจิงโจ้ดังกล่าว
.
อีกสิ่งที่น่าสนใจคือ ภาพของจิงโจ้บนหินนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับศิลปะบนหินจากเกาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีอายุมากกว่า 40,000 ปี ทำให้นักวิจัย Dr. Sven Ouzman จากมหาวิทยาลัย Western Australia คาดว่ามีการเชื่อมโยงระหว่างวัฒนธรรม
.
ก่อนหน้านี้ นักวิจัยได้ค้นพบศิลปะภาพวาดสัตว์ในถ้ำอายุ 45,000 ปี ซึ่งถือได้ว่าเป็นศิลปะถ้ำภาพสัตว์เก่าแก่ที่สุดในโลก ที่เกาะสุลาเวสี ประเทศอินโดนีเซีย ภาพที่วาดบนผนังถ้ำนั้นเป็นภาพหมูขนาดเท่าของจริง
.
อย่างไรก็ตาม ภาพวาดที่คาดว่าเก่าแก่ที่สุดอยู่ในแอฟริกาใต้ มันเป็นภาพวาดที่มีลักษณะคล้ายเครื่องหมายแฮชแท็ก อายุ 73,000 ปี
.
ศิลปะบนหินนี้ยังสามารถเป็นตัวบอกนักวิจัยได้ว่าในอดีตแต่ละยุคนั้น มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง อย่างในช่วงยุคของ Naturalistic ภาพวาดส่วนใหญ่จะเป็นภาพของสัตว์และพืชเช่น จิงโจ้ ปลา นก และพืชต่าง ๆ เพราะสภาพแวดล้อมในช่วงยุคนั้นเอื้อเฟื้อต่อคนที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตอื่น แต่พอเข้ามายุคของ Gwion ภาพวาดส่วนใหญ่จะภาพคนที่มีการแต่งตัวมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ที่ทำให้คนจากพื้นที่ต่าง ๆ ได้มาพบเจอกัน และสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันมากขึ้น
.
เกร็ดความรู้เล็กน้อย
ยุคศิลปะรูปแบบ Gwion เป็นยุคศิลปะที่มาหลังยุคศิลปะรูปแบบ Naturalistic โดยรูปแบบของ Gwion จะมีการวาดภาพของคนที่มีเครื่องประดับบนหัวพร้อมกับถือบูมเมอแรง ซึ่งมีอายุราว 12,000 ปีที่แล้ว
.
เราไม่อาจรู้ได้ว่าศิลปะรูปจิงโจ้บนหินนี้เป็นภาพวาดรูปแรกของชาวพื้นเมืองออสเตรเลียจริง ๆ หรือเปล่า เพราะบางทีในอนาคต นักวิทยาศาสตร์อาจจะมีการค้นพบใหม่ ๆ ซึ่งอาจจะมีอายุเก่าแก่ผลงานชิ้นนี้ก็เป็นได้ แต่ถ้าเกิดว่าผลงานชิ้นนี้เป็นศิลปะที่เก่าแก่ที่สุดจริง ๆ เพราะเหตุใดผู้วาดจึงเลือกที่จะวาดจิงโจ้ เป็นไปได้มั้ยที่ผู้วาดนั้นอาจจะไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตอย่างอื่นเลย เป็นไปได้มั้ยว่าผู้วาดนั้นอาจจะนับถือบูชาจิงโจ้ อะไรคือเหตุผลของเขากันนะ

Source
1. https://pursuit.unimelb.edu.au/articles/australia-s-oldest-known-aboriginal-rock-paintings (งานวิจัย)

2. https://www.bbc.com/news/world-australia-56164484 (ข่าว)

เรียบเรียง: buras

 

หญิงชาวมิชิแกนพบเกาะที่มีรูปร่างเหมือนกับ ... บน Google Map
.
ขณะ Joleen Vultaggio หญิงชาวมิชิแกนได้ทำการเซิร์ชบน Google Earth เธอก็ต้องตกใจอย่างมากที่ได้เห็นกับภาพเกาะที่มีรูปทรงสุดเอกลักษณ์ที่ดูเหมือนกับ...ตัว Y กลับหัวที่อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก และเผยว่าอยากจะไปเที่ยวที่นั่น และนั่งบนนั้น
.
ดูได้ที่ 20°37'37.0"S 166°18'02.0"E
https://goo.gl/maps/A55tJ17SgrkRzoN27

https://earth.app.goo.gl/D4F4rQ
.
Source: https://www.the-sun.com/news/2365479/google-earth-island-shape-of-a-penis/
.
เรียบเรียง: ร่มธรรม ขำนุรักษ์

 

โกลบอลไทม์ส สื่อทางการจีน เผย (25 ก.พ.) คำกล่าวของเฉิน ซู่ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรของจีนประจำสำนักงานสหประชาชาติ ณ กรุงเจนีวา เรียกร้องให้ประเทศตะวันตก หยุดละเมิดคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และใช้ซินเจียงแทรกแซงกิจการภายในของจีน แต่ควรให้ความสนใจการแก้ปัญหาสิทธิมนุษยชนของตนเอง

อ่านต่อ..https://sondhitalk.com/detail/9640000018837
.........................................................
ติดตามคลิป VDO เพิ่มเติมได้ที่
YoutubeSondhitalk: https://www.youtube.com/c/Sondhitalk
Website: https://www.sondhitalk.com
Podcast Sondhitalk: https://sondhitalk.podbean.com/

 

หนุ่มมาเลเซียชนะอุทธรณ์กม.อิสลาม ‘ห้ามเกย์มีเซ็กซ์’ ครั้งแรกของประเทศ
.
ศาลสูงมาเลเซียตัดสินให้หนุ่มเกย์คนหนึ่งเป็นฝ่ายชนะคดีความในวันนี้ (25 ก.พ.) หลังยื่นอุทธรณ์กฎหมายอิสลามที่ห้าม “การมีเพศสัมพันธ์แบบผิดธรรมชาติ” นับเป็นชัยชนะทางกฎหมายที่ช่วยจุดประกายความหวังเรื่องสิทธิของคนรักร่วมเพศในแดนเสือเหลือง
.
ชายมุสลิมวัย 36 ปีซึ่งไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อได้ยื่นคำร้องต่อศาล หลังจากที่เขาถูกจับที่รัฐสลังงอร์เมื่อปี 2018 ฐานพยายามมีเพศสัมพันธ์แบบ “เกย์เซ็กซ์” ซึ่งเจ้าตัวยืนกรานปฏิเสธ
.
ทั้งนี้ การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างคนเพศเดียวกันถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในมาเลเซียซึ่งประชากรส่วนใหญ่นับถืออิสลาม แม้ที่ผ่านมาแทบไม่เคยมีใครถูกตัดสินลงโทษจริงๆ ก็ตาม
.
มาเลเซียประกอบด้วย 13 รัฐ และมีกฎหมาย 2 ระบบ ได้แก่ กฎหมายลายลักษณ์อักษร (civil laws) และกฎหมายอิสลามที่ว่าด้วยความผิดทางอาญาและครอบครัว ซึ่งจะถูกบังคับใช้กับชาวมุสลิมเท่านั้น
.
นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ LGBT+ มองว่า กฎหมายอิสลามหรือ “ชารีอะห์” กำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือเล่นงานชุมชนเกย์ในมาเลเซียมากขึ้น โดยมีจำนวนผู้ถูกจับกุมและลงโทษด้วยการเฆี่ยนและจำคุกมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
.
คณะผู้พิพากษาศาลสูงสุดมาเลเซียมีคำตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์ในวันนี้ (25) ว่า หลักกฎหมายชารีอะห์ที่ใช้ในรัฐสลังงอร์นั้น “ขัดต่อรัฐธรรมนูญ” และฝ่ายบริหารท้องถิ่นไม่มีอำนาจที่จะบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว
.
“นี่คือคำตัดสินครั้งประวัติศาสตร์ และเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากๆ ในแง่ของสิทธิ LGBT+ ในมาเลเซีย” นูมาน อาฟีฟี ประธานกลุ่ม Pelangi Campaign ซึ่งรณรงค์เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิ LGBT+ ระบุ
.
นูมาน ยังเรียกร้องให้รัฐสลังงอร์ยกเลิกมาตราที่ 28 ของกฎหมาย Syariah Criminal Offences (Selangor Enactment) ที่ออกในปี 1995 เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับรัฐอื่นๆ
.
อย่างไรก็ตาม มาเลเซียยังมีกฎหมายอาญามาตรา 377 ที่ใช้มาตั้งแต่ยุคอาณานิคม ซึ่งกำหนดระวางโทษจำคุกสูงสุด 20 ปีสำหรับการมีเซ็กซ์ทางทวารหนัก
.
“เราต้องการใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีโดยไม่ต้องกลัวถูกลงโทษ แน่นอนว่ามาตรา 377 ยังอยู่ ฉะนั้นมันยังไม่ใช่จุดจบเสียทีเดียว แต่อย่างน้อยวันนี้ก็คือจุดเริ่มต้น” นูมาน ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
.
หนุ่มมุสลิมได้อุทธรณ์ต่อศาลสูงสุดว่า รัฐสลังงอร์ไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้กฎหมายอิสลามเอาผิดการมีเพศสัมพันธ์ที่ผิดธรรมชาติ เนื่องจากเป็นการใช้อำนาจทับซ้อนกับประมวลกฎหมายอาญาของประเทศซึ่งกำหนดให้เกย์เซ็กซ์เป็นความผิดอาญาอยู่แล้ว
.
คณะผู้พิพากษามองว่าข้อโต้แย้งนี้มีน้ำหนักเพียงพอ และตัดสินว่าคำสั่งลงโทษของสภาศาสนาอิสลามแห่งรัฐสลังงอร์ “ละเมิดข้อจำกัดตามรัฐธรรมนูญ”
.
ชายคนนี้เป็นหนึ่งใน 11 คนที่ถูกจับกุมในข้อหาพยายามมีเซ็กซ์ทางทวารหนัก ระหว่างที่ตำรวจศาสนาบุกเข้าตรวจค้นบ้านส่วนตัวหลังหนึ่ง
.
ผู้ต้องหา 5 คนยอมรับสารภาพ และถูกตัดสินจำคุก, เฆี่ยน และสั่งปรับเมื่อปี 2019 ซึ่งเรียกเสียงวิจารณ์อย่างรุนแรงจากนักสิทธิมนุษยชนที่มองว่าคำตัดสินเช่นนี้สร้าง “บรรยากาศแห่งความกลัว” ต่อชาว LGBT+
.
ย้อนไปเมื่อปี 2018 หญิง 2 คนในรัฐตรังกานูก็ถูกสั่งเฆี่ยนในความผิดฐานพยายามมีเซ็กซ์แบบเลสเบี้ยน และในปีเดียวกันก็มีหญิงข้ามเพศคนหนึ่งถูกทำร้ายร่างกาย
.
ที่มา: รอยเตอร์, New Straits Times

 

‘ไบเดน’ หัก ‘ทรัมป์’ เลิกคำสั่งแบนผู้ยื่นขอ ‘กรีนการ์ด’ เข้าประเทศ แต่ยังไม่เปิดรับแรงงานต่างชาติ
.
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ยกเลิกคำสั่งพิเศษในยุคของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ให้ระงับการออก “กรีนการ์ด” หรือเอกสารอนุมัติการอยู่อาศัยและทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายในสหรัฐฯ ซึ่งเดิมทีจะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. นี้
.
ทรัมป์ ออกคำสั่งดังกล่าวเมื่อปีที่แล้ว โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการปกป้องแรงงานอเมริกันท่ามกลางตัวเลขคนว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงโควิด-19 ระบาด
.
อย่างไรก็ดี ไบเดน ได้ประกาศยกเลิกคำสั่งแบนเมื่อวานนี้ (24 ก.พ.) พร้อมทั้งปฏิเสธข้ออ้างของ ทรัมป์ ด้วย โดยเขาระบุว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นการกีดกันครอบครัวไม่ให้ได้พบหน้า และยังส่งผลเสียต่อภาคธุรกิจในสหรัฐฯ
.
“มันไม่ได้เป็นการเพิ่มพูนผลประโยชน์ให้แก่สหรัฐอเมริกา แต่กลับเป็นการทำลายสหรัฐฯ มากกว่า ทั้งยังขัดขวางไม่ให้สมาชิกในครอบครัวของพลเมืองสหรัฐฯ หรือผู้ที่มีถิ่นพำนักอย่างถูกต้องเดินทางมาพบกับญาติมิตรที่นี่” ไบเดน ระบุ
.
ประกาศล่าสุดของ ไบเดน จะทำให้สมาชิกในครอบครัวพลเมืองสหรัฐฯ หรือผู้ที่ถือกรีนการ์ด สามารถอพยพโยกย้ายมายังอเมริกาได้ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ ทรัมป์ เคยเรียกว่า “การอพยพแบบลูกโซ่ (chain immigration)” นอกจากนี้ บุคคลที่ได้รับการคัดเลือกในโครงการ “ล็อตเตอรีวีซ่า” เพื่อเพิ่มความหลากหลายด้านประชากรก็จะสามารถเดินทางเข้าสหรัฐฯ ได้เช่นกัน
.
อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐฯ ยังคงคำสั่งแบนแรงงานต่างชาติชั่วคราวส่วนใหญ่เอาไว้ รวมถึงวีซ่า H-1B สำหรับแรงงานต่างชาติทักษะสูง ทว่าคำสั่งดังกล่าวจะหมดอายุลงในวันที่ 31 มี.ค.
.
เดือน ต.ค. ปีที่แล้ว ผู้พิพากษารัฐแคลิฟอร์เนียได้ออกคำสั่งยับยั้งไม่ให้ ทรัมป์ แบนแรงงานต่างชาติ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอเมริกันหลายแสนรายที่พยายามเดินเรื่องคัดค้านคำสั่งนี้ในชั้นศาล
.
เคอร์ทิส มอร์ริสัน ทนายด้านผู้อพยพในรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งเป็นตัวแทนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งแบนของทรัมป์ ระบุว่า รัฐบาลไบเดนจะต้องแบกรับภาระในการพิจารณาคำร้องขอวีซ่าที่คั่งค้างมานานหลายเดือน ซึ่งกระบวนการนี้อาจต้องใช้เวลาหลายปีทีเดียวกว่าจะเสร็จสิ้น
.
ที่มา: รอยเตอร์, WSJ

 

คู่แรกของโลก!หนุ่มแฝดบราซิลผ่าตัดแปลงเพศเป็นผู้หญิงพร้อมกัน

2หนุ่มบราซิล กลายเป็นคู่แฝดแท้คู่แรกของโลกที่เข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ ทำความฝันร่วมกันที่มีมาอย่างยาวนานกลายเป็นความจริง

เมย์ลา เรเซนเด และ โซเฟีย อัลบรูเคร์กี ซึ่งเติบโตในเมืองทาปีรา เมืองเล็กๆทางตะวันตกเฉียงใต้ของบราซิล เป็นเพศชายมาตั้งแต่เกิด แต่ทั้งสองคนรู้ตัวมาตลอดว่าแท้จริงแล้วพวกเธอนั้นเป็นผู้หญิง

ทั้งนี้ เมย์ลา ใช้นามสกุลของบิดา ส่วนโซเฟีย ใช้นามสกุลของปู่

"ฉันมักโปรยเมล็ดพันธุ์ดอกแดนดิไลออนบนอากาศ และภาวนาให้พระเจ้าเปลี่ยนฉันเป็นผู้หญิง" เมย์ลา นักศึกษาการแพทย์ ผมสีน้ำตาลวัย 19 ปี ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี "ฉันรักเรือนร่างของฉัน แต่ฉันไม่ชอบอวัยวะเพศชาย" และเล่าว่าเธอถึงกับร้องไห้เมื่อเห็นเรืองร่างใหม่ของตัวเองหลังผ่าตัดแล้ว

แม้ระบบประกันสุขภาพของบราซิลครอบคลุมการผ่าตัดแปลงเพศ แต่ในบราซิลกลับมีคลินิกในด้านนี้น้อยมากๆและหายากมาก ทำให้ต้องต่อคิวเป็นเวลานาน เบื้องต้นพวกเธอจึงมีแผนเดินทางมาผ่าตัดในประเทศไทย ทว่าแผนดังกล่าวจึงต้องล้มเลิกไป หลังมาเจอคลินิกศูนย์คนข้ามเพศบราซิล(Transgender Center Brazil) เสียก่อน

พวกเธอเปลี่ยนแผนติดต่อไปยังแพทย์ของคลินิกแห่งนี้ และภายใต้การสนับสนุุนทางการเงินของคุณปู่ ซึ่งตัดสินใจขายสินทรัพย์ส่วนตัวช่วยหลานเกือบ 20,000 ดอลลาร์(ราว 6 แสนบาท) ทำให้ทั้งสองสามารถเข้ารับการผ่าตัดได้ตามความฝัน

พี่น้องฝาแฝดคู่นี้เข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ และ 12 กุมภาพันธ์ ตามลำดับ นายแพทย์โอเซ คาร์ลอส มาร์ติน แห่งคลินิกศูนย์คนข้ามเพศบราซิล ทำการผ่าตัดให้ทั้งคู่ โดยใช้เวลาคนละ 4 ชั่วโมง แยกกันคนละวัน

แพทย์รายนี้อ้างว่า "นี่เป็นเพียงเคสเดียวในโลก ที่ฝาแฝดเพศชายแต่กำเนิดเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศเป็นเพศหญิงพร้อมกัน"

ถือเป็นเวลานานพอสมควรสำหรับทั้งสองคน ที่ต้องเผชิญกับบาดแผลในจิตใจตั้งแต่วัยเด็ก ทั้งโดนรังแกและล่วงละเมิดทางเพศต่างๆนานา แต่ครอบครัวก็ให้การสนับสนุนทั้งคู่เสมอมา

เป็นที่ทราบกันดีว่า บราซิลเป็นหนึ่งในชาติที่มีทัศนคติเชิงลบต่อคนข้ามเพศมากที่สุดในโลก โดยเมื่อปีที่แล้ว มีคนข้ามเพศถูกฆาตกรรมในบราซิลถึง 175 คน มากกว่าประเทศไหนๆในโลก

เมย์ลา ซึ่งหันมาสวมบิกินี่หลังผ่าตัดแปลงเพศ ให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นถึงความสุขกับเรือนร่างใหม่ว่า ก่อนถูกวางยาสลบในโรงพยาบาล ยังไม่เชื่อว่าความฝันกำลังจะเป็นจริง

“เมื่อฉันตื่นขึ้นมา ฉันไม่เชื่อเลย บางอย่างยังจมปลัก ฉันไม่รู้สึกอึดอัดตอนนอนหรือนั่งลงอีกแล้ว ช่างเป็นสิ่งวิเศษจริงๆ การอาบน้ำครั้งแรกหลังออกจากโรงพยาบาลน่าอัศจรรย์จริงๆ” เมย์ลากล่าว

ส่วน โซเปีย ซึ่งกำลังเรียนปริญญาด้านวิศวกรรมโยธาในเซาเปาลู กล่าวว่า "ฉันภูมิใจที่ได้เป็นผู้หญิงข้ามเพศ ฉันใช้ชีวิตอยู่ในความหวาดกลัวต่อสังคมมานานมากแล้ว"

เมย์ลาเผยขั้นตอนก่อนการผ่าตัดว่า ทั้งคู่ได้รับการติดตามต่อเนื่องจากแพทย์ 4 ปี และได้รับการรักษาด้วยฮอร์โมน ซึ่งมันเป็นขั้นตอนทั้งหมดที่เธอแนะนำให้ผู้หญิงข้ามเพศทุกคนควรทำตาม

“เป้าหมายของฉันตอนนี้คือจบการศึกษาแพทยศาสตร์และซื้อบ้านอีกหลังให้ปู่ย่าเป็นการตอบแทนบุญคุณ” เมย์ลากล่าว

เมย์ลา หวังด้วยว่าประสบการณ์ของพวกเธอจะช่วยให้การแปลงเพศในบราซิลเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เนื่องจากผู้หญิงข้ามเพศจำนวนมากต้องยอมแพ้ เพราะคิวของโรงพยาบาลรัฐยาวเกินไป และเมืองบลูเมเนามีคลินิกแปลงเพศของเอกชนเพียงแห่งเดียว

สุดท้ายเมย์ลาทิ้งท้ายด้วยว่า พวกเธอหวังจะมีครอบครัวเป็นของตัวเอง อยากเป็นแม่รับเลี้ยงลูกบุญธรรม และต้องการช่วยเหลือคนข้ามเพศ ให้ต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อเพื่อความฝัน

(ที่มา:นิวยอร์กโพสต์/เอเอฟพี)

 

นี่คือช่างภาพชาวสหรัฐฯ ที่กำลังโด่งดังใน TikTok จากฝีมือการถ่ายภาพคนแปลกหน้าทั่วๆ ไป แต่กลับออกมาสวยงามเหมือนกับเป็นนางแบบนายแบบมืออาชีพ