ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นายจ้างเกาหลีบ่นระงมต่างชาติจะเข้าประเทศได้เมื่อไหร่? มีเพียงแค่กัมพูชาเข้าได้แล้วที่อื่นล่ะ?

    #thaikuk #thaikuknews #แรงงานต่างชาติ #ขาดแคลนแรงงาน #เกาหลีใต้

    https://thaikuk.com/korea-news/general/when-are-foreign-workers-arriving-20210214/

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ได้มีคำสั่งให้ยกเลิก “กฎหมายคุ้มครองสิทธิประชาชน" เป็นการชั่วคราว พร้อมให้อำนาจตำรวจ-ทหาร สามารถเข้าตรวจค้นบ้านเรือนประชาชนและควบคุมตัวผู้ใดก็ได้ โดยไม่ต้องมีหมายศาลอีกต่อไป
    .
    คำสั่งชุดดังกล่าวถูกประกาศเมื่อวานนี้ ขณะสถานการณ์กำลังก้าวเข้าสู่วันที่ 8 ของการชุมนุมประท้วงต่อต้านการรัฐประหารในเมียนมา
    .
    ส่งผลให้กฎหมายคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งถูกตราเป็นกฎหมายในรัฐธรรมนูญของพม่าเมื่อปี 2011 ในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านจากระบอบเผด็จการเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยในเมียนมาต้องสิ้นสุดลงในทันที
    .
    คำสั่งที่ลงนามโดย พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ได้ระงับกฎหมาย 3 มาตรา ที่เกี่ยวข้องกับ "การปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของพลเมือง"
    .
    ซึ่งกฎหมายส่วนนี้คือกฎหมายที่ว่าด้วย การให้อำนาจตามคำสั่งศาลในการพิจารณาออกหมายค้น และออกคำสั่งควบคุมตัวประชาชน
    .
    รวมไปถึงการยกเลิกข้อจำกัดเกี่ยวกับอำนาจของกองกำลังรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงทรัพย์สินส่วนตัวเพื่อค้นหาหรือจับกุมตัว อีกทั้งยังเปิดทางให้ตำรวจ-ทหารสามารถสอดแนมประชาชนผ่านระบบสื่อสารได้อีกด้วย
    .
    เพื่อให้ท่านไม่พลาดทุกสิ่งที่น่าสนใจจากเพจ Thailand State กด Like เพจและตั้งค่า See First ⭐️ เพื่อติดตามข้อมูลดีๆได้เลยครับ
    .
    Source : https://www.reuters.com/article/us-...ng-forces-hunts-protest-backers-idUSKBN2AD05A
    .
    #ThailandState #ThailandStateUpdate

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #มอร์มูฟเป็นข่าว ป้องกันได้รัดกุมขึ้น!!! รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ โดยระบุว่า ศูนย์ CDC ของประเทศสหรัฐอเมริกา ออกมาประกาศถึงผลการวิจัยใหม่ที่ระบุว่า วิธีการใส่หน้ากาก 2 ชั้น โดยใส่หน้ากากผ้าทับหน้ากากอนามัย และวิธีการผูกปมที่หน้ากากอนามัยจะทำให้ป้องกันเชื้อ COVID-19 ได้ดีขึ้น

    ศูนย์ CDC ระบุอีกว่า การทำให้หน้ากากมีความหนามากขึ้น และกระชับกับใบหน้า เพื่อลดการรับเอาละอองฝอยที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย เป็นวิธีการปรับปรุงหน้ากากที่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเริ่มมีเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่กระจายโรคเก่งขึ้นกว่าเดิม

    ** จากการทดลองในห้องปฏิบัติการ นักวิจัยทำการจำลองผลของหน้ากากแบบต่างๆ ว่าจะสามารถป้องกันละอองฝอยจากการไอและการหายใจได้ดีแค่ไหน โดยเปรียบเทียบระหว่างไม่ใส่หน้ากาก, ใส่หน้ากากผ้า, ใส่หน้ากากอนามัย, ใส่หน้ากากผ้าทับหน้ากากอนามัย, ผูกปมที่ยางเกี่ยวหูของหน้ากากอนามัย, รวมไปถึงการใส่วัสดุเพิ่มเติมอื่นๆ เข้ากับใบหน้า ผลที่ได้พบว่า ทั้งวิธีการใส่หน้ากากผ้าทับหน้ากากอนามัยและวิธีผูกปมที่ยางเกี่ยวหูเพื่อให้หน้ากากฟิตกับใบหน้านั้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ทั้งในการป้องกันการแพร่ละอองฝอยออกจากตัวผู้ป่วยและป้องกันการรับละอองฝอยที่ติดเชื้อเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้นถึง 95% เทียบกับคนที่ไม่ใส่หน้ากาก.

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ซินแสเข่ง ซัดกลุ่มราษฎร ทำพิธีหน้าศาลหลักเมืองทำผิดประเพณี เตือนจะเกิดอัปมงคลต่อบ้านเมือง
    14 ก.พ. 2021การเมือง, ข่าว
    [​IMG]
    เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นายชมทรรศน์ ฤทัยผ่อง หรือ ซินแสเข่ง ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์พยากรณ์แห่งประเทศไทย ได้วิเคราะห์กรณีที่ กลุ่มราษฎรได้ประกอบพิธีกรรมไสยศาสตร์ ประกาศชัยชนะหน้าศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร เมื่อคืนวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา

    พิธีดังกล่าวคือพิธีสาปแช่งเทน้ำลงพื้น เหมือนพิธีกรรมหลวงในอดีตของพิธีพระมหากษัตริย์ในสมัยโบราณ เพื่อสาปแช่งให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ราษฎรได้รับชัยชนะ

    ทั้งนี้ ซินแสเข่ง เห็นว่าการทำพิธีดังกล่าวเป็นการกระทำผิดนอกลู่นอกทางต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดิน ไม่ใช่พิธีกรรมที่ถูกต้องตามประเพณี เป็นความคิดของคนจิตคิดวิตถารที่ดื้อดึงเอาของสูงแผ่นดินมาเล่นกัน รัฐบาลและเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจำเป็นต้องปกป้อง เพราะจะมีผลให้เกิดอาถรรพ์ต่อบ้านเมือง มีการก่อกบฏเหตุเกิดจลาจลบ้านเมืองไม่สงบ

    ซินแสเข่ง เตือนปี64 จะเป็นปีแห่งความทุกข์ เหตุความวุ่นวายต่างๆจะแตกหักมากขึ้น

    ซินแสเข่งยังกล่าวต่อด้วยว่าการสาปแช่ง โดยใช้วาจากล่าวถึงผู้มีศักดินา ไม่ใช่มีผลต่อรัฐบาลหรือสถาบันสูงสุดของประเทศชาติ แต่อาจจะมีผลกระทบต่อพวกผู้ดีไฮโซ คนมีเงินบรรดากลุ่มพ่อค้า คหบดีผู้ที่อยู่ในฐานะมีอันจะกินที่จะได้รับความเดือดร้อนจากการสาปแช่ง ส่งผลให้พ่อค้าคหบดีผู้ได้รับการแต่งตั้งได้รับยศถาบรรดาศักดิ์ผู้ที่มีความร่ำรวย มั่งคั่ง หรือเป็นเศรษฐีจะได้รับวิบากกรรมที่กลุ่มแกนนำราษฎรสาปแช่งไว้

    https://www.brighttv.co.th/news/politics/sinsaekeng-ratsadorn

    แกนนำประกาศชัยชนะทำพิธีศาลหลักเมืองสำเร็จ แยกย้ายกลับ ม็อบยังตกค้างปาระเบิดก่อกวน จนท.เจ็บ
    เผยแพร่: 13 ก.พ. 2564 21:14 ปรับปรุง: 13 ก.พ. 2564 21:14 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    564000001496213.jpg




    แกนนำม็อบราษฎรประกาศชัยชนะ หลังส่งตัวแทนเข้าไปทำพิธีหน้าศาลหลักเมืองสำเร็จ ยุติการชุมนุมแยกย้ายกลับบ้าน แต่ม็อบบางส่วนยังอารมณ์ค้าง เผชิญหน้าขว้างระเบิดปิงปองก่อกวนเจ้าหน้าที่ ได้รับบาดเจ็บ

    ความคืบหน้าการจัดกิจกรรม “นับ 1 ถึงล้าน คืนอำนาจให้ประชาชน” ของกลุ่มราษฎร หลังจากได้เคลื่อนขบวนด้วยการเดินเท้าจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง มุ่งหน้าไปยังศาลหลักเมือง เพื่อทำพิธีทวงจิตวิญญาณเมืองกลับมาเป็นของราษฎร และเมื่อไปถึงบริเวณหน้าศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน เวลาประมาณ 19.00 น.ขบวนผู้ชุมนุมก็ถูกสกัดด้วยแนวของเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้ประกาศแจ้งให้ทราบถึงการห้ามชุมนุมภายในรัศมี 150 เมตร จากเขตพระบรมมหาราชวัง

    หลังจากนั้น แกนนำได้ขอเจรจาเพื่อส่งตัวแทนเข้าไปทำพิธีในบริเวณศาลหลักเมือง ขณะเดียวกัน ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ปิดไฟสปอตไลต์ที่ส่องไปยังผู้ชุมนุมด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่ยอมปิด ผู้ชุมนุมที่อยู่แนวหน้าพร้อมโล่ได้เข้ารื้อแผ่นเหล็กกั้นของเจ้าหน้าที่เพื่อจะฝ่าแนวกั้นเข้าไป ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน และมีเสียงดังคล้ายระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง พร้อมกับควันโขมง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการยิงแก๊สน้ำใส่ผู้ชุมนุม จนกระทั่งการเผชิญหน้ากันยุติลง และฝ่ายผู้ชุมนุมได้เจรจากับตำรวจขอส่งตัวแทน 4 คน นำโดย นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ และ น.ส.ณัฏฐธิดา มีวังปลา หรือ พยาบาลแหวน เข้าไปทำพิธีบริเวณหน้าศาลหลักเมือง โดยทั้งสี่คนได้เข้าไปพร้อมกับนำขวดน้ำ 1 ขวดเทลงพื้น พร้อมกล่าวทำพิธีกับศาลหลักเมือง ขอให้เลือกข้างอยู่ฝ่ายราษฎรไม่ใช่ฝ่ายศักดินา ลงท้ายด้วยการกล่าวคำว่าศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎรจงเจริญ

    564000001496201.jpg


    หลังจากนั้น ทั้งสี่คนได้เดินชูสามนิ้วออกจากหน้าศาลหลักเมือง ไปยังบริเวณกลุ่มผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันอยู่หน้าศาลฎีกา และนายอรรถพล ได้ขึ้นปราศรัยบนรถเครื่องเสียง นัดหมายให้มาชุมนุมกันอีกครั้งในวันที่ 20 ก.พ.เพื่อติดตามทวงถามกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมที่ได้เรียกร้องให้ปล่อยแกนนำ 4 คน ที่ถูกจับกุมในฐานความผิดตามมารตรา 112 ไปก่อนหน้านี้ และไม่ได้ประกันตัว ได้แก่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นายอานนท์ นำภา นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และ นายปฏิภาณ ลือชา หรือ หมอลำแบงค์ พร้อมกับได้ประกาศชัยชนะที่สามารถเข้าไปทำพิธีหน้าศาลหลักเมืองได้สำเร็จ

    ขณะที่แกนนำปราศรัยอยู่นั้น ผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งยังคงเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยังคงตั้งแนวกั้นระหว่างผู้ชุมนุมกับศาลหลักเมือง และมีการขว้างปาขวดน้ำสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้แกนนำที่ปราศรัยอยู่ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงขอให้หยุดขว้างปา ถ้าไม่หยุดถือว่าไม่ใช่พวกเรา อย่างไรก็ตาม ผู้ชุมนุมบางส่วนยังคงรวมตัวเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ ทำให้ น.ส.ปนัสยา สิทธิจริวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำผู้ชุมนุม ได้เดินมาใช้โทรโข่งพูดกับผู้ชุมนุมให้ยุติการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่และเดินทางกลับบ้าน แต่ก็ยังมีผู้ชุมนุมที่ไม่ยอมกลับ

    เวลาประมาณ 20.30 น. แกนนำที่ปราศรัยอยู่บริเวณหน้าศาลฎีกาได้ประกาศยุติการชุมนุมและแยกย้ายกันกลับ แต่ก็ยังคงมีผู้ชุมนุมบางส่วนยังคงประจันหน้ากับเจ้าหน้าที่ และขว้างวัตถุเสียงดังคล้ายระเบิดอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งคาดว่าจะเป็นระเบิดปิงปอง จนเวลาประมาณ 20.50 น.เจ้าหน้าที่ประกาศจะสลายการชุมนุมขั้นเด็ดขาด และทำการจับกุมผู้ชุมนุมที่ยังไม่ยอมสลายตัว

    ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย โดยเมื่อเวลา 00.50น. ศูนย์เอราวัณด้รายงานข้อมูลผู้บาดเจ็บในเหตุชุมนุมบริเวณถนนราชดำเนินใน ที่นำส่ง รพ.รวม 20 ราย แบ่งเป็น รพ.ตำรวจ 15 คน
    รพ.กลาง 2 คน
    รพ.วชิรพยาบาล 1 คน
    รพ. มิชชั่น 1 คน
    รพ.แพทย์ปัญญา 1 คน

    564000001496202.jpg


    564000001496203.jpg


    564000001496204.jpg


    564000001496205.jpg


    564000001496206.jpg



    564000001496208.jpg

    564000001496209.jpg

    564000001496210.jpg

    564000001496211.jpg

    564000001496212.jpg

    https://mgronline.com/politics/detail/9640000014559
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข้อห้ามสำหรับผู้สักยันต์เล่นของ ....เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ (ไม่เชื่ออย่าลบหลู่)

    จากข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นสื่อต่าง ๆ หรือจากคำบอกเล่าที่เคยได้ฟังมาคร่าวๆ
    ข้อห้ามสำหรับผู้สักยันต์เล่นของ ดังต่อไปนี้

    ห้ามลอดราวผ้า เนื่องจากราวผ้านั้นเป็นที่รวมเสื้อผ้าของหญิงชายที่นำไปซักแล้วเอามาตากจึงมีทั้งผ้าซิ่น หรือกางเกง ถือว่าเป็นของต่ำ หากผู้ที่ถือคาถาไปลอดจะทำให้ของที่ถืออยู่เสื่อม

    ห้ามกินของเหลือ เช่น อาหารที่เหลือทิ้งไว้ หรือกินทีหลังเขา คนถือวิชามักจะต้องทานก่อนเสมอ

    ห้ามกินผักปลั๋ง เพราะผักชนิดนี้มีผิวมันลื่น เชื่อว่าคาถาที่ถือจะลื่นไหล ไม่มั่นคง ไม่แข็งแรง

    ห้ามกินฟักเขียว เพราะมีลักษณะคล้ายนมผู้หญิง แม้แต่ลอดร้านไม้ที่ปลูกก็ไม่ได้

    ห้ามกินมะเฟือง หรือแม้แต่ลอดใต้ต้นมะเฟือง เพราะลูกมะเฟืองมีลักษณะคล้ายอวัยวะเพศหญิง

    ห้ามลอดต้นกล้วย ที่ใบกล้วยปกเคลือกล้วยหรือปลีกล้วย ก็เชื่อว่าคาถาจะเสื่อมเช่นกัน

    ห้ามกินข้าว กินน้ำงานศพ หรือแม้แต่ดมไอกับข้าวงานศพก็ไม่ได้

    ห้ามลอดเงา ปราสาทศพ

    ห้ามลอดสายผ้าเต้นท์คลุมปราสาทศพ

    ห้ามลอดใต้ถุนบ้าน อันนี้แล้วแต่บางคนถือหรือไม่ถือ บางคนถือจริงจังถึงกับต้องยอมเสียเวลาเดินอ้อมบ้านเลยก็มี เกี่ยวกับเรื่องการลอดใต้ถุนบ้าน

    คนโบราณมักจะทำบ้านใต้ถุนสูงเพราะกันน้ำท่วม และเพื่อความเย็นสบายในเวลากลางวันและกลางคืน บนบ้านจะใช้เป็นที่อยู่อาศัยหลับนอนเท่านั้น แต่ใต้ถุนจะเป็นที่เก็บข้าวของทางการเกษตร หรือเลี้ยงสัตว์

    แต่ถ้าในปัจจุบันสภาพบ้านเมืองมันเปลี่ยนแปลงไป บ้านใต้ถุนสูงไม่นิยมสร้างกันนิยมหันไปสร้างบ้านตามแบบสถาปัตยกรรมตะวันตกไปเสียหมด มีตึก มีอาคารที่มีการสร้างสองสามชั้นขึ้นไป ซึ่งส่วนมากมักจะเป็นสถานที่ราชการหรือที่ ๆ จะต้องติดต่อธุระเป็นส่วนใหญ่

    แล้วคนที่ถือคาถาจะทำอย่างไรในเมื่อลอดไม่ได้ ขอขยายประเด็นตรงนี้นะครับ บ้านไม้ยกใต้ถุนสูงในสมัยก่อน ระหว่างใต้ถุนกับชั้นบนจะต้องคั่นกลางด้วยแป้นไม้เป็นแผ่น ๆ ยาว ๆ เป็นตัวกั้นเพื่อเป็นที่รองรับอาศัยน้ำหนักของคนบนบ้าน

    แต่! การปูแป้นไม้สมัยก่อนจะไม่ปูชิดสนิทกันดี เหมือนการปูพื้นปาเก้ จะปูห่างกันไห้ว่างเป็นช่องแคบ ๆ สลับกันไปท่านที่เคยเห็นบ้านไม้สมัยก่อนคงนึกออก เพื่อกวาดเอาเศษฝุ่นบนบ้านให้ตกลงไปตามช่องแคบ ๆ นี้

    และเพื่อเป็นที่ระบายอากาศจากข้างล่างด้วย ถือเป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านเพราะสภาพอากาศเมืองไทยเป็นเมืองร้อนชื้น เศษฝุ่นบนบ้านนั้นแน่นอนต้องมาจากเท้าของเราอยู่แล้ว ดังนั้นที่ท่านไม่ให้ลอดใต้ถุนบ้านก็เพราะกลัวว่าเศษฝุ่นจากเท้าของคนบนบ้านจะปลิวตกลงมาใส่หัวเรา

    นี่เป็นสาเหตุของข้อห้ามนี้และถ้าถามว่าปัจจุบันเราต้องลอดอาคาร หลาย ๆ ชั้นจะเป็นยังไง เรียนเหมือนข้างต้น ว่าอาคารปัจจุบันไม่ได้ไช้แป้นไม้ทำแล้ว

    แต่ใช้ซีเมนต์เทหนาหลายคืบหลายศอกนัก จึงเป็นไปไม่ได้ที่เศษฝุ่นจากเท้าคนที่อยู่ข้างบนมันจะตกทะลุมาลงบนหัวเราได้ จึงไม่ต้องไปกังวลในเรื่องการลอดใต้ถุนอาคารและใต้ถุนบ้านในปัจจุบันเลย

    ห้ามให้ใครมาจับหัว ลูบหัว

    ห้ามเคี้ยวใบพลู โดยไม่เด็ดปลายออก

    ห้ามถ่มน้ำลายลงชักโครก หรือ คอห่าน เพราะจะทำให้อำนาจคาถาที่เราท่องบ่นหายไปไม่วาจาสิทธิ์
    -----------------------------------------------

    ข้อห้ามสำหรับคนเล่นสาริกาลิ้นทอง
    สาริกาลิ้นทอง อีกหนึ่งศาสตร์ความเชื่อที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่สมัยโบราณ เชื่อกันว่าเป็นเทพผู้มีความศักดิ์สิทธิ์ ทางด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม โชคลาภ เจรจามีแต่คนเชื่อถือ หากผู้ใดมีไว้สักการะบูชา ก็จะเป็นสิริมงคลแก่ผู้นั้น
    ด้วยเหตุนี้ สาริกาลิ้นทอง จึงเป็นที่นิยมในหมู่นักเจรจาธุรกิจ พ่อค้า แม่ค้า และประชาชนทั่วไปแต่ทั้งนี้ก็ยังมีข้อห้าม รวมไปถึงข้อถือปฏิบัติสำรับผู้ที่เล่นสาริกาลิ้นทอง มากมาย ดังนี้ ห้ามกล่าวว่าบุพการี, ครูบาอาจารย์, ผู้มีพระคุณ , ห้ามคนเล่นศรีษะ , ห้ามลอดใต้ราวผ้า , ห้ามทานอาหารเหลือจากผู้อื่น แต่ทานร่วมกับผู้อื่นได้ , ห้ามดื่มร่วมแก้ว หรือ ขวดร่วมกับผู้อื่น , ห้ามทานเครื่องเซ่นไหว้, ของแจกทาน, ของงานศพ , ห้ามแช่งด่า, ใส่ร้าย, ใส่ความผู้อื่น และสุดท้าย ห้ามบ้วนน้ำลายลงในโถส้วมเด็ดขาด
    ------------------------------------------------

    คำว่า ไสย หมายถึง ลัทธิอันเนื่องด้วยเวทย์มนต์ คาถา และวิทยาคม ไสยนั้นแบ่งออกเป็นไสยขาว อันหมายถึงวิชชาอันลึกลับใช้เวทย์มนต์ไปในทางที่ดี เช่นการทำเครื่องราง ของขลังและวัตถุมงคลต่างๆ เพื่อป้องกันภัยอันตราย หรือเพื่อเป็นเมตตามหานิยม เมตตามหาเสน่ห์และอิทธิวิธี ส่วนไสยดำหมายถึงวิชชาที่กระทำคนให้เป็นไปต่างๆนาๆเช่น ปล่อยคุณไสย ปล่อยตะปูเข้าท้องคนอื่น ปล่อยหนังควายเข้าท้อง บิดลำใส้ ปล่อยผีไปทำร้ายผู้อื่นให้มีอันเป็นไปต่างๆนาๆ นำบาตรวัดร้างไปฝังเพื่อทำให้บ้านแตกสาแหรกขาด เป็นต้น

    คำว่า ไสย นี้แปลความหมายอีกอย่างก็หมายถึงสิ่งที่ลึกลับที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเนื้อได้นอกจากเมื่อมันได้ออกมาเป็นผลลับแล้วเท่านั้น ส่วนคำว่า ศาสตร์ หมายถึง ตำรา วิชา วิทยา คำสั่ง ข้อบังคับบัญชา ศาสนา รวมเข้ากับไสย เป็นไสยศาสตร์ อันหมายถึง ตำราทางไสยยาศาสตร์ลึกลับเกี่ยวกับอิทธิฤทธิ์ปาฎิหาร เวทย์มนต์ คาถา อำนาจจิต เป็น ต้น ไสยเวทย์ ไสยศาสตร์ หมายถึงตำราทางไสย วิชาทางไสย ไสยศาสตร์ เป็นวิชาว่าด้วยลัทธิเวทย์มนต์คาถาและวิยาคมเป็นศาสตร์ๆหนึ่งที่แยกย่อยมาจากศาสตร์ 18 ประการของอินเดียโบราณไสยศาสตร์แทรกอยู่ในความเชื่อของคนไทยมาตราบนานเท่านานกว่า7,000ปีและแทรกอยู่กับความเป็นอยู่ของคนไทยตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย เช่นการเสกทำน้ำมนต์ให้คลอดง่าย โกนผมไฟ ทำขวัญ สร้างบ้านใหม่ ขึ้นบ้านใหม่ ทำขวัญ สวดบ้าน ตราสังข์ ทำโลงศพ เอาศพลงจากเรือน ทำประตูป่า ทำบันไดผี นำศพขึ้น เผา การเสกน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ และประเพณีไทยหลายๆอย่างล้วนแต่แทรกด้วยไสยศาสตร์ทั้งสิ้น ไม่ว่าวิทยาศาสตร์จะเจริญไปถึงไหนเพียงใดวิทยาการอินฟอเมชั่นเท คโนโลยี่จะก้าวหน้าไปเพียงใดขนาดไหน แต่ความเชื่อทางไสยศาสตร์ไม่มีวันที่จะหมดไปจากมนุษย์ชาติได้เหตุผลเพราะว่าเป็นศาสตร์ๆหนึ่งที่ดำรงอยู่ในโลกมนุษย์มานาน มากแล้วและมิใช่เพียงแต่เมืองไทยเท่านั้นที่มีความเชื่อในด้านไสยศาสตร์หลายๆประเทศที่เจริญและพัฒนาแล้วก็ยังมีความเชื่อในด้านไสยศาสตร์ของประเทศนั้นนั้นอยู่

    ส่วน พิธีกรรม ไสยกรรมนั้นอาจไม่เหมือนกัน ในเมืองไทยในแต่ละภาคนั้นการประกอบพิธีกรรมต่างๆในแต่ละภาคนั้นก็ไม่เหมือนกัน สรุปแล้วไสยศาสตร์และไสยเวทย์มิใช่สิ่งที่ เลวร้ายขึ้นอยู่กับผู้ที่นำไปใช้เช่นการสกยันต์หากสักแล้วไม่ไปเป็นโจรผู้ร้ายไม่ไปปลิ้นชิงรบราฆ่าฟันเบียดเบียนเขาและตั้งตนอยู่ในศีลธรรมของนั้นก็จะคงทนถาวรไม่เสื่อม และยิ่งเข้มขลังยิ่งนัก และเป็นไสยศาสตร์ที่ประดับบารมีชายชาตรีมาแต่โบราณกาล ดังหลักฐานบันทึก .ความทรงจำ.พระนิพนธ์ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพว่า....? ส่วนตัวฉันเองจะเป็นใครแนะนำจำไม่ได้เสียแล้ว เกิดอยากเรียนวิชาอาคม คือวิชาที่ทำให้อยู่ยงคงกระพันชาตรีด้วยเวทย์มนต์และเครื่องรางต่างๆ มีผู้พาอาจารย์มาให้รู้จัก หลายคน ที่เป็นตัวสำคัญนั้นคือนักองค์วัตถา น้องสมเด็จพระนโรดมเจ้ากรุงกัมพูชา...การศึกษาวิทยาคมในสมัยนั้น โดยเฉพาะเด็กกำลังรุ่นหนุ่มเช่นตัวฉัน ด้วยได้ฟังเขาเล่า เรื่องและบางทีทดลองให้เห็นอิทธิฤทธ์ กับทั้งได้สะสมมีเครื่องรางแปลกๆประหลาดที่ไม่เคยเห็น....?

    ไสยศาสตร์เป็นลัทธิความเชื่อ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ที่เกิดขึ้น และดำรงอยู่จริง คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ในโลกใบนี้ไร้มนุษย์ที่เชื่อไสยศาสตร์ บุคคลที่มีญาณทัศนะลึกล้ำ เข้า ใจเหตุปัจจัยแห่งการก่อเกิดสรรพสิ่ง ทั้งชีวิต สังคม และจิตวิญญาณ จะไม่มองเหตุที่เกิดขึ้นเพียงด้านใดด้านหนึ่งแล้วปฏิเสธโดยสิ้นเชิง หากไสยศาสตร์แล้วที่ทำให้ผู้เชื่อมั่น นั้นสามารถคลายทุกข์ไปได้ มีความสุข ไม่เบียดเบียนผู้อื่น เวทย์มนต์ไสยศาสตร์ก็มิใช่สิ่งที่เลวร้าย ความงมงายในสิ่งที่ดีงามทำแล้วให้ตนเองสมหวังมีความสุขย่อมไม่ใช่สิ่งที่ ไม่มีเหตุผล

    ข้อห้ามทางกาละ

    1.ห้ามผิวปากเวลากลางคืนเชื่อว่าจะโดนคุณไสยที่ล่องลอยอยู่

    2.ห้ามโพกหัวหรือสวมหมวกในวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เชื่อว่าหัวจะล้าน

    3.ห้ามบ้วนน้ำลายลงโถส้วมเชื่อว่าวาจาจะเสื่อม

    4.ห้ามนั่งบนขั้นบันไดเพราะผีบ้านผีเรือนไม่ชอบ

    5.ห้ามนั่งบนหมอนเชื่อว่าคาถาจะเสื่อม

    6.ห้ามเล่าความฝันในขณะทานข้าวเชื่อว่าแม่โพสพท่านไม่ชอบ

    7.ห้ามเดินข้ามหนังสือเพราะเชื่อว่าจะเรียนไม่จำ

    8.ห้ามนุ่งผ้าเปียกเข้าบ้านเพราะเชื่อว่าผีไม่กลัวและจะทำให้ปวดท้อง

    9.ห้ามหญิงมีครรภ์ทำหน้าบึ้งเวลาจะหลับเชื่อกันว่าลูกออกมาจะไม่สวยไม่หล่อ

    10.ห้ามดมดอกไม้ที่จะนำไปถวายพระเชื่อกันว่าจมูกจะเป็นไซนัสหรือริดสีดวงจมูก

    11.ห้ามหลับเวลาฟังพระเทศเชื่อว่าชาติหน้าจะเกิดเป็นงู

    12.ห้ามเอาของคืนเมื่อให้ผู้ใดไปแล้วเชื่อว่าจะเป็นเปรต(นอกจากให้ยืม)

    13.ห้ามกวาดขยะกลางคืนเชื่อว่าผีไม่คุ้มและกวาดทรัพย์ออกหมด

    14.ห้ามตัดเล็บกลางคืนเชื่อว่าอายุจะสั้น

    15.ห้ามลอดไม้ค้ำต้นกล้วยและไม้ค้ำบ้านและห้ามลอดราวผ้าและห้ามลอดใต้แขนคนอื่นเพราะจะทำให้ของเสื่อม

    16.อย่าให้ใครข้ามหัวเพราะจะทำให้อาคมเสื่อมและของทุกอย่างเสื่อม

    17.ห้ามด่าแม่ผู้อื่นเพราะสาริกาลิ้นทองจะเสื่อม

    18.คนสักยันต์ห้ามกินฟักแฟงบวบน้ำเต้าและปลาไม่มีเกล็ดเพราะเชื่อว่าหนังจะไม่เหนียว

    19.หากไปในที่สถานที่แปลกๆห้ามทักเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆเพราะเชื่อกันว่านั่นคือคุณไสย หรือของไม่ดีหากใครทักจะเข้าตัวทันที

    20. ห้ามนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตกเพราะเชื่อว่าวิญญาณจะออกจากร่าง(อีกอย่างหนึ่งเป็นทิศที่หันหัวคนที่ตายไปแล้ว)

    21.ห้ามขึ้นบ้านวันเสาร์ เผาศพวันศุกร์ โกนจุกวันอังคาร แต่งงานวันพุธ เพราะเป็นอัปมงคล
    --------------------------------------------------------------------

    คาถา นะจังงัง

    ตั้งนะโม3จบแล้วบริกรัมคาถา " พะ นะ ทะ มะ "

    เป็นเวทย์มนต์ที่สะกด ให้อีกผู้หนึ่ง หยุดการเคลื่อนไหว ชั่วขณะ จะช้า เร็ว ขึ้นอยู่กับ สมาธิที่แข็งกล้าของผู้ร่ายมนต์
    มีประโยชน์มาก เหมาะสำหรับใช้ในสถานการณ์คับขัน ศัตรู ผู้คนทที่จะมาเข้าทำร้าย พอถูกคาถานี้เมื่อไหร่ จะต้องหยุด แข็งตัวทื่อๆ ไม่ไหวติง ยกเว้นซะแต่ ผู้อื่นผู้ใดมาคลายมนต์ที่สะกดไว้ หรือ หายเอง เมื่อมนต์เสื่อม คนที่โดนคาถานี้ จะรู้สึกชาทั่วตัว และแข็งเกร็งทั่วร่างกาย

    คาถากำบังตัว

    นะปิดตา โมมิเห็น พุทธซ่อนไว้ ธาหลับอยู่ ยะหายตัวไป ได้ด้วย

    นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ

    คาถากำบังตัว หากมีภัยมา เห็นว่าจวนตัวจะหนีไม่พ้น คาถากำบังตัว ตั้งใจให้มั่น กลั้นใจขมวดกอหญ้า จะหายตัวได้ชั่วระยะอึดใจหนึ่ง ศัตรูก็จะผ่านเลยไป จะมองไม่เห็นตัวเรา แต่ต้องใช้ในทางที่ถูก จึงจะใช้ได้ หากเป็นผู้ร้ายผู้ผิดจะไม่ได้ผลเลย

    นพดล อุ่นตา

    https://m.facebook.com/100004794466...9493756274&cached_data=false&ftid=u_m_t&mdf=1

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความเชื่อเรื่อง “หำยนต์” ของคนล้านนา
    17 ต.ค. 61
    DSC_5959-2.jpg

    หำยนต์เป็นชื่อของแผ่นไม้แกะสลักลวดลายโบราณที่ติดตั้งเหนือประตูห้องนอนของเรือนล้านนา ส่วนใหญ่เป็นแผ่นไม้รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามักเกี่ยวข้องกับความเชื่อลี้ลับที่สามารถดลบันดาลความเป็นไปต่าง ๆ ให้กับเจ้าของบ้าน แม้ความเชื่อเรื่องหำยนต์ จะซ่าลงไปในยุคสมัยปัจจุบัน แต่กระนั้นตามบ้านเรือนล้านนาโบราณยังคงความเชื่อเช่นนี้อยู่และอาจสืบทอดไปสู่คนรุ่นหลังในบางพื้นที่
    DSC_5959-2-800x531.jpg


    หำยนต์มักจะทำขึ้นพร้อม ๆ กับการปลูกเรือนใหม่ เมื่อเจ้าของบ้านได้แผ่นไม้ที่จะทำหำยนต์ อาจารย์หรือพระผู้มีวิชาจะนำแผ่นไม้มาผูกไว้กับเสาเอกเพื่อทำพิธีถอน ทั้งนี้เพราะคนเมืองล้านนานั้นเมื่อจะประกอบพิธีกรรมใด ๆ จะต้องทำพิธีสูตรถอนก่อนทุกครั้ง และก่อนที่แกะสลักลวดลายหำยนต์ เจ้าของบ้านจะต้องนำดอกไม้ ธูปเทียนมาอัญเชิญอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาไว้ที่หำยนต์ เมื่อทำการแกะสลักหำยนต์แล้วจึงนำมาประดับไว้ที่บริเวณเหนือประตูทางเข้าห้องนอนของเจ้าของบ้าน โดยจะมีการทำพิธียกขันตั้งหลวง ประกอบด้วย ดอกไม้ ธูปเทียน หมากพลู ผ้าขาว ผ้าแดง และสุราอาหาร ให้อาจารย์กล่าวอัญเชิญเทวดา อารักษ์ ผีบ้านผีเรือนมาปกป้องรักษาบ้านหลังนั้นให้อยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุข
    นี่เป็นความเชื่อหนึ่งของคนล้านนาที่ยึดถือปฏิบัติสืบทอดกันมาเป็นเวลานาน ทว่าในช่วงเวลา 30 – 40 ปีที่ผ่านมา มีนักวิชาการและปราชญ์ท้องถิ่นออกมาให้ทัศนะต่อหำยนต์ในหลายความคิดเห็น บ้างก็ว่าเป็นการทำไสยศาสตร์มนต์ดำของพม่าในยุคที่ปกครองเมืองเชียงใหม่ ขณะเดียวกันก็มีนักวิชาการกลุ่มหนึ่งให้ความหมายของหำยนต์ว่าเป็น ยันตร์สำหรับป้องกันภัยอันตราย อีกกลุ่มหนึ่งบอกว่าหำยนต์มีที่มาจากทับหลังซึ่งเป็นวัฒนธรรมเขมร แล้วแพร่หลายเข้าสู่ดินแดนล้านนา ซึ่งก็ว่ากันไป…


    ต่อไปนี้เป็นนานาทัศนะของผู้รู้หลายท่านที่ได้กล่าวถึงความหมายของหำยนต์ อาจารย์ไกรศรี หิมมานเหมินท์ กล่าวไว้ในหนังสือศิลปลานนาไทย เรื่องเรือนแบบล้านนาว่า คำว่า “หำ” เป็นศัพท์ล้านนาไทยแปลว่า “อัณฑะ” ถือว่าเป็นสิ่งที่รวมแห่งพลังบุรุษชน ส่วนคำว่า “ยน” คงได้มาจากภาษาสันสกฤตคือ “ยนตร์” แปลว่าสิ่งป้องกันรักษาที่ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นหำยนต์จึงเป็นส่วนตกแต่งเรือนและทำหน้าที่เป็นยันต์อันศักดิ์สิทธิ์ที่จะป้องกันอันตรายจากภายนอก ซึ่งมีที่มาจากเกียรติมุขในศิลปชวา
    DSC_5992-2-800x531.jpg
    อาจารย์ไกรศรี ยังกล่าวอีกว่า เมื่อครั้งที่สมัยพม่าเข้าปกครองล้านนา ได้บังคับให้คนเมืองอยู่อาศัยในบ้านที่มีรูปร่างคล้ายโลงศพของพม่า และหำยนต์นี้เป็นอัณฑะของพม่านั้นเอง เมื่อเจ้าของบ้านชาวล้านนาและคนในครอบครัวเดินเข้าออกห้องและลอดใต้อัณฑะนั้นก็จะถูกข่ม และทำลายจิตใจไม่ให้คิดกระด้างกระเดื่องต่อสู้ขับไล่พม่า ซึ่งไปสอดคล้องกับความคิดเห็นของ อาจารย์เฉลียว ปิยะชน กล่าวไว้ในหนังสือเรือนกาแลว่า เมื่อชาวล้านนาจะขายบ้านหรือซื้อบ้านต่อจากเจ้าของบ้านคนเก่า ก็จะทำพิธีด้วยการตีหำยนต์แรง ๆ เพื่อทำลายความขลัง การทุบตีหำยนต์เปรียบเหมือนการตีลูกอัณฑะวัวควายในการทำหมัน ซึ่งเป็นการทำให้หมดสมรรถภาพ การหมดความศักดิ์สิทธิ์ของหำยนต์ก็เช่นกัน
    ด้านอาจารย์มณี พยอมยงค์ ปราชญ์พื้นบ้านล้านนาให้ทัศนะว่า หำยนต์ มาจากคำว่า อรห+ยนต รวมเป็นคำว่า อรหันยันตะ แปลว่า ยันต์ของพระอรหันต์ ท่านกล่าวว่าในลวดลายต่าง ๆ ที่แกะสลักบนแผ่นหำยนต์นั้น น่าจะมีคาถาติดอยู่ เช่น คาถานโมพุทธศาสนา คาถากันผี เป็นต้น
    ในการกำหนดขนาดของหำยนต์ จะวัดจากความยาวของเท้าเจ้าของบ้าน ถ้าเป็นประตูขนาดเล็กก็จะใช้ขนาดสามเท่าของเท้า ประตูขนาดใหญ่จะต้องวัดให้ได้ขนาดสี่เท่าของเท้าเจ้าของบ้าน ทั้งนี้การปลูกเรือนในสมัยก่อน ส่วนใหญ่จะใช้สัดส่วนจากมนุษย์เป็นตัวกำหนด เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานและมีความเชื่อเข้าไปสัมพันธ์ว่า ควรจะเป็นขนาดเท้าของเจ้าของบ้านถือว่าเป็นการข่มผู้ที่จะลอดใต้หำยนต์ หากเป็นผู้มีวิชาอาคมต่าง ๆ ก็จะเสื่อมถอยลง คนล้านนาโบราณจึงถือว่าหำยนต์เป็นสิ่งที่สามารถคุ้มครองป้องกันสิ่งไม่ดีที่จะเข้ามากล้ำกลายเจ้าของบ้านได้
    ขณะเดียวกัน อาจารย์อุดม รุ่งเรืองศรี ปราชญ์พื้นบ้านชาวล้านนาอีกท่านหนึ่งได้ให้ความหมายของหำยนต์ในอีกทัศนะหนึ่งว่า หำยนต์ น่าจะเรียกว่า หัมยนต์ มากกว่า สันนิษฐานว่ามาจากคำว่า หมมิย+อนต อ่านว่า หัมมิยะอันตะ คำว่า “หัมมิยะ” แปลว่า ปราสาทโล้น หมายถึงเพิงบังแดดชั่วคราว ส่วนคำว่า “อันตะ” แปลว่า ยอด ดังนั้น “หัมมิยะอันตะ” แปลว่า ปราสาทที่ไม่มียอด จึงอาจเป็นส่วนที่ตกแต่งในส่วนยอดของปะรำที่ห้อยลงด้านล่าง ท่านยังแสดงความคิดเห็นว่า หำยนต์ เป็นองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เป็นคาถาอาคม เป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านต้องการให้เกิดความสวยงามแก่ตัวบ้านเท่านั้นเอง
    DSC_5990-2-800x531.jpg
    ในงานนิทรรศการเรื่องเกี่ยวกับ หำยนต์ ซึ่งอาจารย์วิถี พานิชพันธ์ จากคณะวิจิตรศิลป์จัดขึ้นที่โรงแรมอิมพีเรียลควีนสปาร์ค เมื่อ ปี พ.ศ. 2537 ท่านได้อธิบายเรื่อง หำยนต์ในสถาปัตยกรรมการสร้างเรือนแบบล้านนาว่า อาจจะมาจากส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรมของชาวลัวะ ซึ่งเป็นชนชาติพื้นเมืองเดิมของล้านนา เป็นรูปแบบลายไม้แกะสลักเหนือประตูทางเข้าห้องนอนของเรือนรุ่นเก่าของชาวลัวะด้วยและต่อเนื่องมาถึงเรือนกาแลของล้านนา แต่เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับทับหลังปราสาทหินของขอมซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกัน ก็อาจเป็นข้อสันนิษฐานอย่างหนึ่งว่า อาจจะมีที่มาจากแหล่งต้นกำเนิดใกล้เคียงกันก็เป็นได้
    ขณะที่ความสำคัญของหำยนต์แต่เดิมนั้น เป็นตัวบอกว่านี่คือประตูห้องนอนของเรือนหลังนั้น ซึ่งประตูห้องนอนนั้นมีความสำคัญมาก เพราะได้แบ่งพื้นที่ห้องนอนกับพื้นที่เติน คือห้องรับแขก เป็นการจัดแบ่งพื้นที่เฉพาะส่วนตัวของครอบครัวซึ่งนับถือผีเดียวกันของตระกูล เพราะตามปกติคนล้านนาก็จะไม่อนุญาติให้คนต่างผีหรือแขกผู้มาเยือนล่วงล้ำเข้าไปในเขตของตน หำยนต์จึงเป็นกำหนดจัดแบ่งพื้นที่เฉพาะ
    ดังนั้นเมื่อเราขึ้นไปเยี่ยมบ้านคนอื่นถ้าเห็นหำยนต์ติดไว้เหนือประตู แสดงว่าพื้นที่นั้นห้ามิให้คนภายนอกล่วงล้ำเข้าไป ถ้าเข้าไปก็จะเป็นการผิดผี จะต้องทำพิธีขอสูมาลาโทษนานาทัศนะของเรื่อง หำยนต์ จากผู้รู้หลายท่านก็ว่ากันไป ซึ่งความเชื่อดังกล่าวจะถูกผิดอย่างไรก็เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนเสี้ยวจากผู้ที่ศึกษาเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตามจะพบว่าปัจจุบันหำยนต์ ถูกหลงลืมไปในหมู่คนรุ่นใหม่ หลายคนอาจไม่รู้จักและไม่เคยเห็นด้วยซ้ำว่า หำยนต์หน้าตาเป็นอย่างไร
    หำยนต์จะเป็นเพียงงานสถาปัตยกรรมล้านนาที่ประดับตามบ้านเรือนทั่วไป หรืออาจเป็นความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ที่ป้องกันภยันตรายต่าง ๆ ไม่ให้เข้ามาในบ้าน ก็ยังไม่มีการค้นหาศึกษาอย่างจริงจัง คงมีเพียงข้อสันนิษฐานว่ากันไปต่าง ๆ นานา กระนั้นบทความชิ้นนี้น่าจะมีส่วนสะท้อนให้คนหันมาเห็นคุณค่าและค้นหาความหมายของหำยนต์กันมากขึ้น ซึ่งบางทีเราอาจไม่ได้เห็นหำยนต์เป็นเพียงไม้แกะสลักโบราณที่วางขายกันตามร้านค้าของเก่าเพียงเท่านั้น
    บทความโดย
    จักรพงษ์ คำบุญเรือง

    https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/823714/
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    # ญี่ปุ่น #แผ่นดินไหว # ขนาด 7.0 วันที่ 02/13/2021

    เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7 เบื้องต้นในวันอาทิตย์นี้ใกล้ชายฝั่งฟุกุชิมะโดยไม่มีการประกาศเตือนภัยสึนามิตามการสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา (USGS)

    แผ่นดินไหวซึ่งอยู่ห่างจากเมืองนามิเอะ 90 กิโลเมตร โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ความลึก 54 กิโลเมตร ได้รับการรับรู้ในกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ ซึ่งอาคารบางหลังสั่นสะเทือนแม้ว่าในขณะนี้จะไม่มีการบันทึกเหยื่อหรือ ความเสียหายของวัสดุ

    เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ฟุกุชิมะ เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเมื่อไม่นานมานี้เมื่อเกิดแผ่นดินไหวขนาด 9 และสึนามิตามมาทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 15,000 คนและก่อให้เกิดวิกฤตกัมมันตภาพรังสีที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #News1feed : ก.พลังงานชะลอกำหนด E20 เป็นน้ำมันพื้นฐานกลุ่มเบนซินไม่มีกำหนดจนกว่าระดับราคาเอทานอลจะอยู่ในระดับเหมาะสม ชี้ราคา27-30 บาทต่อลิตรแพงไปเป็นภาระกองทุนน้ำมันฯต้องอุดหนุนเพิ่ม เล็งเคลียร์ให้ชัดผู้ผลิตเอทานอล ขณะที่ B 20 ยกเลิกเพื่อลดภาระกองทุนฯหรือไม่ต้องรอดูราคา B100 เช่นกัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9640000014743
    .......................................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แปลกดี รื้อกระถางต้นไม้รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
    พร้อมนำผ้าแดงคลุม อนุสาวรีย์
    ประกาศชัยชนะทวงคืนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยสำเร็จ และไปต่อศาลหลักเมืองประกอบพิธีกรรมไสยศาสตร์ ประกาศชัยชนะหน้าศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร เมื่อคืนวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา

    #News1feed : “ไมค์” นำม็อบราษฎรรื้อกระถางต้นไม้รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อ้างนำมาวางขวางเหยียบย่ำสิทธิเสรีภาพประชาชน พร้อมนำผ้าแดงคลุมอนุสาวรีย์ ประกาศชัยชนะทวงคืนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยสำเร็จ ก่อนออกเดินไปศาลหลักเมือง ทวงคืนจิตวิญญาณเมืองเป็นของราษฎร

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9640000014532
    .......................................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #News1feed : กองปราบปรามเร่งสอบโครงการเดอะแคปปิทอล หมู่บ้านหรูในระยองของ “หลงจู๊สมชาย” ร่วมหุ้นกับ “เสี่ยโป้” มูลค่ากว่า 100 ล้าน ล่าสุดประสาน ปปง.เตรียมยึดทรัพย์แล้ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9640000014687
    .......................................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #News1feed : กรมควบคุมโรค พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกา รายแรก กลับมาจากแทนซาเนีย ระหว่างกักตัวในสถานกักกันของรัฐ ยืนยันยังไม่มีการระบาดสู่ชุมชน พร้อมเปิดเผยไทม์ไลน์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9640000014735
    .......................................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เรื่องที่ม๊อบทำ ดูคล้ายๆ กับเรื่อง สงสัยดูละครมากเกินไป

    leak.jpg
    ฤกษ์สังหาร
    ฤกษ์สังหาร

    กำกับการแสดงโดย : สันต์ ศรีแก้วหล่อ
    ออกอากาศทุกวันจันทร์ – อังคาร เวลา 21:20 น. ทางช่องวัน31

    เรื่องย่อละคร ฤกษ์สังหาร

    ฤกษ์สังหาร เป็นเรื่องราวของกลุ่มนักการเมืองกลุ่มหนึ่ง ที่ต้องการเปลี่ยนดวงเมือง เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง จึงจ้างให้ อุทธิ(ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) หมอดูที่มีความทะเยอทะยานมาเป็นผู้ทำพิธี ให้ งานนี้มีเพียง กระทิง(ฌอห์ณ จินดาโชติ) หมอดูที่รู้ความลับเกี่ยวกับการแก้ดวงเมืองเพียงคนเดียวที่หยุดมันได้ อยากรู้ว่าเรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร?

    https://gossipstar.com/tv/one31/3968
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    1 > The Manta เป็นเรือยอช์ทที่ไม่ธรรมดา เพราะมันมีเป้าหมายในการเก็บขยะในทะเลให้ได้ 5 ถึง 10,000 ตันต่อปี และเก็บขยะที่เล็กถึง 10 มิลิลเมตรด้วยวิธีการที่เราคาดไม่ถึง

    2 > มันคือเรือเก็บขยะลำแรกและลำเดียว (ในตอนนี้) ที่ไม่เหมือนใคร ออกแบบมาเพื่อรวบรวม บำบัด และนำขยะพลาสติกจำนวนมากที่ลอยอยู่ในน้ำที่มีมลพิษสูงตามชายฝั่ง ปากแม่น้ำขนาดเล็ก และปากแม่น้ำขนาดใหญ่ เป็นปฏิบัติการที่ริเริ่มโดยกลุ่ม The SeaCleaners ในฝรั่งเศส

    3 > มันได้ชื่อว่า The Manta เพราะมีหน้าตาเหมือนปลากระเบนแมนตาที่มีปากกว้าง เรือลำนี้มีปากเรือที่กว้างเหมือนกระเบนเอาไว้คอยช้อนขยะที่ลอยไปลอยมา เท่านั้นยังไม่พอที่ท้ายเรือยังมีหางหรือที่จริงก็คืออวน 3 ปากที่เอาไว้ตามเก็บขยะที่ลอยต่ำกว่าผิวน้ำลงไป 3 ฟุตระยะ 46 เมตร

    4 > ถ้ายังไม่พออีกมันจะปล่อยเรือเล็ก 2 ลำไปเก็บขยะในน้ำตื้นได้อีก 2 ลำ สามารถรวบรวมขยะได้ระหว่าง 1 ถึง 3 ตันต่อชั่วโมง สามารถทำงานได้ถึง 20 ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์ ขยะที่ได้มาจะมีแรงคนช่วยแยกประเภทบนเรือ

    5 > นี่เป็นคุณสมบัติหลักของเรือกระเบนเก็บขยะ มันยังเป็นเรือที่ใช้พลังงานหมุนเวียนให้มากที่สุดเพื่อลดร่องรอยคาร์บอนที่ทิ้งไว้ในสิ่งแวดล้อม มีเทอร์ไบน์พลังงานลมที่ให้กระแสไฟฟ้า 100 kW บวกกับพลังงานแสงอาทิตย์อีก 100 kWp เรือยังได้ไฟฟ้าแปรรูปที่ได้จากการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าโดยใบพัดเรือให้พลังงานอีก 100 kW

    6 > ไฮไลท์ของเรือนี้คือกระบวนการแปรรูปขยะที่เก็บได้ด้วยความร้อนสูงให้เป็น "ซินแก๊ส" (Syngas) จากนั้นหมุนเทอร์ไบน์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าอีก 100 kW แต่เรือก็ยังใช้พลังดีเซลเล็กน้อยตามที่กฎหมายบังคับเรื่องความปลอดภัย

    7 > โดยรวมแล้ว The Manta สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลระหว่าง 50% ถึง 75% ทำให้มันเป็นเรือทำงานลำแรกที่บรรลุเป้าหมายการใช้พลังงานในระดับสูงอย่างพอเพียง

    8 > เนื่องจากมีความเป็นอิสระด้านพลังงานสูง เรือลำนี้จึงมีช่วงการปฏิบัติการและการเดินทางที่ไม่จำกัด ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว มันเป็นเรือสำหรับการออกทะเลกว้าง แต่ทำงานจริงๆ ในแถบชายฝั่ง เพื่อตามไปทำความสะอาดปากแม่น้ำและชายฝั่งที่สำคัญของโลกที่กำลังตกอยู่ในอันตราย

    10 > เป้าหมายแรกๆ ของ The Manta คือการมาปฏิบัติภารกิจกวาดขยะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พวกเขาจะเดินทางมาที่แม่น้ำของประเทศไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม รวมถึงเกาะชวาของอินโดนีเซีย คาดว่าจะเริ่มปฏิบัติงานได้ในปี 2024

    11 > The Manta ยังจะเป็นเรือที่นำนักวิจัยไปทำภารกิจทางวิทยาศาสตร์ เมื่อจอดที่ท่าเรือมันจะทำหน้าที่ศูนย์การศึกษาและการเรียนรู้สำหรับประชาชนทั่วไป จะจัดแสดงทางออกที่เป็นนวัตกรรมสำหรับการจัดการขยะและการนำกลับมาใช้ใหม่

    12 > รวมทั้งจะเป็นต้นแบบการเรียนรู้เทคโนโลยีการขนส่งที่สะอาด โดยเฉพาะสำหรับการส่งเสริม "เรือสีเขียว" และ "เรืออัจฉริยะ" จะทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการเร่งการปรับใช้เศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่การดำเนินงาน

    อ้างอิง
    "The Manta, a giant of the seas against pollution". The SeaCleaners.
    ภาพ : https://www.fccsingapore.com

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผมเองก็บ้าละคร ไม่แพ้ม๊อบน่ะครับ
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โควิด-19 วัคซีน
    .
    ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากวัคซีนแยกจากกันกับภูมิต้านทานที่เกิดจากการติดเชื้อ วัคซีนที่ผลิตจาก mRNA และไวรัส Vector เช่นวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca จะกระตุ้นสร้างภูมิต้านทานตอนนั้นแหลม Spike เท่านั้น ถ้ามีการติดเชื้อจะตรวจพบภูมิต้านทานต่อเปลือกผิวไวรัส Nucleocapsid
    .
    ที่ศูนย์ ได้มีโอกาสตรวจคนไทย 2 คนที่กลับจากอเมริกา โดยที่ทั้งสองคนได้รับการฉีดวัคซีนของ Pfizer มาแล้ว 2 เข็มและมีคนหนึ่งติดเชื้อมาก่อนฉีดวัคซีน เมื่อตรวจวัดภูมิต้านทานต้องยอมรับว่าปริมาณที่ตรวจวัดได้จากการกระตุ้นภูมิต้านทานของวัคซีน Pfizer มี Anti-spike ขึ้นสูงมากจริงๆ
    .
    ในขณะเดียวกันคนที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน ตรวจไม่พบภูมิต้านทานต่อ Nucleocapsid ในคนที่ติดเชื้อมาแล้ว จะตรวจพบภูมิต่อเปลือกนอกของไวรัส (Anti-nuclocapsid) ดังแสดงในรูปทั้งสอง
    .
    ขณะนี้ที่ศูนย์ที่ทำวิจัยอยู่สามารถตรวจภูมิต้านทานและวัดเชิงปริมาณได้เป็นอย่างดี และจะใช้ในการประเมินผลของวัคซีนได้ด้วยว่าสามารถกระตุ้นสร้างภูมิต้านทานได้มากน้อยแค่ไหน สิ่งที่อยากรู้ขณะนี้วัคซีนเชื้อตายของจีนใช้ไวรัสทั้งตัว วัคซีนของจีนจึงน่าจะตรวจพบภูมิต้านทานต่อเปลือกนอกของไวรัสด้วย (Anti-nucleocapsid)
    .
    ขณะนี้กำลังรอผู้ที่ได้รับวัคซีนของจีน ไม่ว่าจะมาจากตะวันออกกลางหรือประเทศจีนหรือจะมีการฉีดในประเทศไทย เพื่อทำการตรวจเลือดดูระดับภูมิต้านทานทั้ง 2 ชนิด

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ..."บิลล์ เกตส์กับไฟเซอร์ บริษัทยายักษ์ใหญ่: สัมพันธ์ที่ยาวนานและวัคซีนคุมกำเนิด"

    ... TED Talk ของเกตส์ในปี 2015 ในหัวข้อ“ การระบาดใหญ่ครั้งต่อไป? เรายังไม่พร้อม” ถูกแชร์อย่างกว้างขวางทางออนไลน์ในช่วงไม่กี่สัปดาห์หลังเกิดโควิดใหม่ๆ ที่ได้รับผลกระทบของ COVID-19 ทั่วโลกในปีที่ผ่านมา

    ... "หากมีสิ่งใดคร่าชีวิตผู้คนกว่า 10 ล้านคนในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้าอาจเป็นไวรัสที่ติดเชื้อได้ง่ายมากกว่าการทำสงคราม” เกตส์กล่าวระหว่าง Ted Talk “ไม่ใช่ขีปนาวุธ แต่เป็นจุลินทรีย์"

    ... ถ้าฟังแบบไม่ไตร่ตรอง เราอาจจะชื่นชมในความเป็นพ่อพระและหวังดีกับสังคมโลกของเขา แต่ก็มีหลายคนสงสัยว่า มันมีวาระแอบแฝงหรือไม่?

    ... เพราะองค์การอนามัยโลก WHO เคยบอกหลังการปะทุขึ้นของโควิดเองว่า โรคระบาดเช่นโควิด19 เป็นไปไม่ได้ที่จะทำนายคาดการณ์ความเป็นไปในการควบคุมโรคในอนาคต ( เรื่องโรคระบาดเป็นสิ่งคาดการณ์ได้ยาก )

    ... แล้วทำไมเกตส์จึงทำนายตั้งแต่ปี 2015 ได้แม่นยำขนาดนั้น?

    ... ย้อนไปดูความสัมพันธ์ระหว่างเกตส์กับไฟเซอร์ หนึ่งในบิ้กฟามาร์ ผู้ผลิตยารายใหญ่ที่กำลังร่ำรวยจากการขายยาต้านโควิด ที่ก่อนโควิดเกิด ทรัมป์เคยบอกว่า จะดึงเอาผลประโยชน์จากอุตสาหกรรมยากลับมาที่อเมริกาอีกครั้ง

    ... ย้อนกลับไปในเดือนพฤศภาคม 2014 , มีข่าวความสัมพันธ์ระหว่างเกตส์กับไฟเซอร์ ในโครงการสำคัญเรื่องหนึ่งคือ

    ... "บริษัทยายักษ์ใหญ่ได้ประกาศความร่วมมือกับมูลนิธิบิลล์และเมลานี และมูลนิธิกองทุนเพื่อการลงทุนสำหรับเด็กในสหราชอาณาจักรในโครงการ "เพื่อขยายการเข้าถึงยาคุมกำเนิดแบบฉีด" ในหกสิบเก้าประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก

    *** ... พวกเขาต้องการ "ควบคุมประชากรโลก" โดยเฉพาะในประเทศที่ยากจน ที่ตามห่วงโซ่ปิรามิดแห่งอำนาจคือ พวกฐานปิรามิด

    (... ที่สอดคล้องกับแนวคิด Depopulation ที่บอกว่าคนบนยอดปิรามิดต้องการลดประชากรโลกที่ไร้คุณภาพในสายเขาใต้ฐานปิรามิดลงในหลายๆทาง )

    ... นอกเหนือจากการช่วยเหลือด้านการจัดซื้อแล้วสมาคมจะสนับสนุนการนำระบบยาและการจัดส่งยาไปใช้กับสถานบริการสุขภาพและเครือข่ายการกระจายยาในชุมชนให้กว้างขึ้นและ "จะทำงานร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่น" เพื่อรวมวิธีการคุมกำเนิดแบบฉีดไว้ในแผนและงบประมาณด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ประสานงาน การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและสร้างความตระหนักถึงความพร้อมของยาคุมกำเนิด

    ... โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มผู้บริจาคและองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนรวมถึง PATH, "แผนกสหราชอาณาจักรสำหรับการพัฒนานาชาติ" (United Kingdom Department for International Development ), "กองทุนด้านประชากรของสหประชาชาติ" ( United Nations Population Fund )และ United States Agency for International Development

    ...........................

    ...หลังการปะทุในปี 2019 และแพร่ระบาดมากตั้งแต่ต้นปี 2020 ยาวตลอด เกตส์ให้ข่าวเอียงข้างไฟเซอร์เห็นได้ชัด

    ..."ในเดือนกันยายน 2020, เกตส์ ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีรายใหญ่บอกกับ CNBC ว่าเขาเชื่อว่าไม่มีวัคซีนใดที่กำลังพัฒนาจะพร้อมในเดือนตุลาคม 2020 แต่เขาเน้นว่าไฟเซอร์ใกล้เคียงที่สุดแล้ว" ( แต่ปรากฏว่าในปลายปี 2020 หลังเริ่มฉีดในหลายประเทศ เกิดมีผู้เสียชีวิตมากมาย )

    ... คำกล่าวของ Gates ทำให้ผู้คนสงสัยว่าผู้ก่อตั้ง Microsoft มีความผูกพันกับ Pfizer Inc. หรือไม่?

    ... ในเดือนมีนาคม 2020 มูลนิธิเกตส์เปิดเผยว่าพวกเขากำลังร่วมมือกับ บริษัทยาหลายแห่งเพื่อเร่งการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด -19 และไฟเซอร์อิงค์ถูกคาดเดาว่าเป็นหนึ่งในชื่อเหล่านั้น

    ... "บิลล์ เกตส์ เป็นเจ้าของเองไฟเซอร์ หรือไม่?"

    ***... "มูลนิธิเกตส์และเมลานี" มีการลงทุนในบริษัทยายักษ์ไฟเซอร์ผู้ผลิตวัคซีนโควิด19 อย่างแน่นอน" ตามข่าวปี 2021, จากมูลนิธิเอง

    ... แต่ไม่มีการแจ้งจำนวนการถือหุ้นจริงๆ, บางข่าวออกมายืนยันว่าเกตส์ ไม่ได้เป็นเจ้าของไฟเซอร์ แต่อย่างไรก็ตามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามูลนิธิเกตส์ ได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหลายล้านดอลลาร์ให้กับไฟเซอร์เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิจัยและเกตส์ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของหุ้นในบริษัทด้วย

    (... การถือครองหุ้น การซุกหุ้น การไขว่หุ้นเป็นเรื่องซับซ้อน สามารถทำได้ )

    ... ในปี 2009, ย้อนไปในปีนั้น

    ... "มูลนิธิเกตส์" ได้ขายหุ้นผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและเวชภัณฑ์ส่วนใหญ่ทิ้งไป

    ... ในช่วงไตรมาสที่สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2009 "มูลนิธิเกตส์และเมลินดา" ได้ขายการลงทุนด้านเภสัชกรรมเทคโนโลยีชีวภาพและการดูแลสุขภาพเกือบทั้งหมด ตามรายงานของ Wall Street Journal

    ... ตามการยื่นเรื่องกฎระเบียบที่เผยแพร่เมื่อราวต้นเดือนสิงหาคม มูลนิธิเกตส์ได้ขายหุ้นทั้งหมด 2.5 ล้านหุ้นใน "จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน" ในช่วงไตรมาสนั้น, 14.9 ล้านหุ้นใน "เชริง - พลาวว์" , เกือบหนึ่งล้านหุ้นใน "อีไลลิลลี่แอนด์โค" และ 3.7 ล้านหุ้น ใน "ไวเอท" ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตเพียงแห่งเดียวที่มูลนิธิยังคงรักษาหุ้นไว้คือการถือหุ้นสามล้านหุ้นใน Seattle Genetics, Inc.

    ... การตัดสินใจของมูลนิธิใน "การลดการถือครองหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ" อย่างมาก แล้วเปลี่ยนไปเป็นมีบทบาทในการให้เงินสนับสนุนโครงการด้านสาธารณสุขทั่วโลก, และเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ "ผู้ผลิตยาและ บริษัทประกันภัย" วิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการยกเครื่องที่เสนอของอเมริการะบบการดูแลสุขภาพ ( ปีสุดท้ายของทรัมป์ ประกาศชัดว่าจะนำผลประโยชน์ของ "อุตสาหกรรมยา" กลับมายิ่งใหญ่ที่อเมริกา ) ตอนนี้บริษัทยาและประกันภัยรวย หุ้นแรง หลังโควิด )

    *** ... และในปี 2009 นั้น "มูลนิธิเกตส์และ ไฟเซอร์" ได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทแรก ๆ ที่เข้าร่วม Advance Market Commitment (AMC) ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้บุกเบิกระหว่าง "Gavi" , Vaccine Alliance, และรัฐบาลหลายประเทศได้บริจาคเพื่อให้วัคซีนสำหรับทารกและเด็กในประเทศที่ยังไม่พัฒนา

    ... นอกจากนี้ไฟเซอร์ยังร่วมมือกับ Gavi และ UNICEF เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่รวันดาและแกมเบีย

    ***... ในช่วงต้นปี 2007 มูลนิธิเกตส์ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำงานไม่หนักเพียงพอในการกดดันบริษัทยาที่เขาลงทุนเพื่อให้แน่ใจว่าจะมียาส่งไปถึงสถานที่ต่างๆที่ความต้องการอย่างเพียงพอทั่วถึง" ( กดดันสร้างความต้องการ 'ยา' จากทั่วโลกมากขึ้นใช่หรือไม่?)

    ... และหลังจากนั้นในปี 2015 เขาก็พูดในเทดทอร์คว่าอนาคตโลกเราพร้อมจะเกิดโรคระบาดใหญ่ได้ ที่เราไม่สามารถตั้งรับได้ดีพอ

    ... 2019 , เกิดโควิด19 ขึ้นในโลก

    .

    ... https://www.hitc.com/en-gb/2020/11/09/does-bill-gates-own-pfizer/
    https://philanthropynewsdigest.org/...n-ciff-partner-to-expand-birth-control-access
    ... https://philanthropynewsdigest.org/...ost-of-its-healthcare-pharmaceutical-holdings

    ... https://www.geekwire.com/2020/bill-gates-warned-us-covid-19-like-pandemic-watch-ted-talk-2015/

    ... https://www.pfizer.com/science/vaccines/global-impact/our-impact-on-innovation

    ... https://wap.business-standard.com/a...ic-will-be-controlled-who-120051400179_1.html
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "生命 多么简单"
    ชีวิตช่างเรียบง่าย
    "多一岁 我就陪你走一岁"
    อีกขวบปีที่เพิ่มขึ้น ฉันก็จะอยู่เคียงข้างเธอไปอีกปี
    .
    สกัดหิน เป็นบันไดรัก 6,000 ขั้น อยู่ร่วมกันชั่วนิรันดร์
    ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤
    .
    ในโอกาสวันแห่งความรัก ขอนำเรื่องราวคู่ชีวิตที่สร้างความประทับใจ "บันไดหิน 6,000 ขั้น" ของ สีว์ กับหลิว ที่เป็นบทเรียนคติชีวิตคู่ อันหาได้ยากแล้ว กลับมาถ่ายทอดอีกครั้ง
    .
    เรื่องราวนี้เริ่มต้นในพิธีศพของนาง สีว์ เฉาชิง หญิงชราอายุ 87 ปี ซึ่งทางการท้องถิ่นฉงชิง ได้จัดขึ้นที่บริเวณที่เรียกว่า "บันไดรักของหลิว กับสีว์" ในหมู่บ้านฉังเล่อ เทศบาลนครฉงชิ่ง โดยมีครอบครัว มิตรสหาย สื่อมวลชน และผู้ชื่นชม ต่างมาร่วมพิธีเพื่อไว้อาลัยแด่เธอ เมื่อปลายปี 2555
    .
    รายงานข่าวได้เผยชีวิตและความรักของแม่เฒ่าสีว์ กับบันไดหิน 6,000 ขั้น ตลอดทางชันเขาสูง 1,500 เมตร ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 55 ปีก่อน (ราวปีพ.ศ. 2505) ขณะ สีว์ มีอายุ 30 ปี เป็นแม่หม้าย และได้ตกหลุมรักกับ "หลิว กั๋วเจียง" ชายหนุ่มที่อายุอ่อนกว่าเธอถึง 10 ปี ซึ่งแน่นอนว่าในสมัยนั้น มันเป็นความรักที่เป็นไปไม่ได้ ด้วยสถานะ และวัยที่ต่างกัน เพราะกฎเกณฑ์สังคมไม่ยอมรับหญิงหม้ายสมรสซ้ำสอง อันจะนำอัปมงคลสู่ครอบครัวสามี เช่นเดียวกับที่คนในหมู่บ้านฯ ก็ไม่ยอมรับที่คนหนุ่มจะอยู่กินกับสตรีที่อาวุโสกว่า
    .
    สีว์ และ หลิว ถูกต่อต้านครหาจากสังคมรอบข้าง ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจเร้นหนีจากหมู่บ้าน กฎเกณฑ์สังคม สู่อิสรภาพของการใช้ชีวิตคู่ สุขสันโดษบนภูเขาจนตราบชั่วชีวิต
    .
    ความทุรกันดารและอันตรายของสภาพภูเขา ทำให้น้อยครั้งที่ สีว์ จะออกจากบ้านบนภูเขาลงมาที่ราบเพื่อเยี่ยมครอบครัว ดังนั้น เพื่อให้สีว์ ไม่ลำบาก หลิว ซึ่งในเวลานั้นอายุเพียง 20 ต้นๆ ได้เริ่มสกัดก้อนหินตามเนินสูง เป็นขั้นบันได 6,000 ขั้น ให้คนรักของตนใช้ก้าวลงและไต่กลับขึ้นมาอย่างปลอดภัย
    .
    หลิว กั๋วเจียง ยังคงสกัด และซ่อมแซมขั้นบันไดสำหรับภรรยาของตน แม้จะล่วงสู่วัยชรา จนวันสุดท้ายของชีวิตตน
    .
    เรื่องราวของบันไดหินนี้ เพิ่งจะถูกเปิดเผยเมื่อราวปี พ.ศ. 2544 หลังจากที่สื่อจีน และนักท่องเที่ยวได้พบเห็นบันไดปริศนา 6,000 ขั้นนี้ และได้บอกเล่ากัน จนกลายเป็นนิยามแห่งความรักและการอุทิศของคู่ชีวิต นอกจากนั้น ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับเพลงฮิต "Love Stairs" ของวงบอยแบนด์ C AllStar (พ.ศ. 2553) และภาพยนตร์เรื่อง Noble Love (2554)
    .
    "หลิว" เสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ. 2550 ในวัย 72 ปี และแม่เฒ่าสีว์ต้องลงจากภูเขาครั้งแรกเพื่อมาอยู่กับบุตรชายและหลานๆ ของเธอ จนที่สุดอีก 5 ปีต่อมา นางสีว์ ก็ได้เสียชีวิตตามไปในวัย 87 ปี
    .
    ฉงชิ่ง อีฟนิง นิวส์ ได้รายงานว่าพิธีศพของเธอได้รับการจัดขึ้นอย่างพิเศษ และมีวัยรุ่นนิรนามคนหนึ่ง จัดดอกกุหลาบขาว 10,000 ดอกเพื่อตกแต่งตลอดบันไดทั้ง 6,000 ขั้นนั้น
    .
    การจากไปของสีว์ ไม่เพียงเป็นข่าวสร้างความสนใจประเดี๋ยวประด๋าว แต่ยังเป็นประเด็นวิพากษ์ความรักของคนจีนยุคใหม่ ที่อาจจะกำลังหมกมุ่นถึงความร่ำรวย และวัตถุนิยม ปราศจากการอุทิศตน
    .
    ความรักของทั้งสองยังทำให้ชาวเน็ตฯ หลายคนหวนระลึกถึงความรักคงมั่นสะท้านภพ เอี้ยก้วย กับเซียวเหล่งนึ่ง คู่รักตัวละครเอกในนิยาย "เอี้ยก้วยเจ้าอินทรี" (มังกรหยก 神雕侠侣) ของ จา เลี้ยงย้ง หรือกิมย้ง ที่แต่งขึ้ันในช่วงเวลาเดียวกันกับความรักของหลิว และสีว์ เมื่อปี พ.ศ. 2502 อีกด้วย
    .
    บทความใน เป่ยจิง นิวส์ ได้ให้ความสำคัญและยกเรื่องราวความรักของสองตายาย หลิวและสีว์ ว่าบรรดาชายหนุ่มพึงใคร่ครวญถามตนเองว่า เขาจะยอมใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตเพื่อก่อขั้นบันไดหินให้คนรักได้ขนาด "หลิว" หรือไม่? และจะยืนหยัดสละทิ้งทุกสิ่งเพื่ออยู่กับเธอได้นานเพียงใด? เช่นเดียวกับที่ให้สติกับหญิงสาวได้หวนคิดว่า อะไรกันแน่คือ 'มงคลชีวิต' ที่พึงแสวงหาจากความรัก
    .
    ความรักของหลิวและสีว์ ได้ผ่านการพิสูจน์ เปลี่ยนจากความแปลกแยก สังคมไม่ยอมรับ มาเป็นสิ่งที่สังคมเรียกร้องใฝ่หา
    ......................................
    **หมายเหตุ - ภาพถ่าย หลิวและสีว์ กับบันได 6,000 ขั้น ที่สื่อจีนเปิดเผยเมื่อราวปี พ.ศ. 2544 เป็นแรงบันดาลใจให้กับเพลงฮิต "Love Stairs" (เทียนที:บันไดรัก) ของวงบอยแบนด์ C AllStar (พ.ศ. 2553) และภาพยนตร์เรื่อง Noble Love (2554)
    .
    บทเพลง LOVE Stairs (天梯) "เทียนที:บันไดรัก" ของ C AllStar ที่อุทิศให้กับความรักของสองตายาย หลิวและสีว์ มีเนื้อเพลง ขึ้นต้น และ ลงท้าย ประโยคสุดท้ายว่า
    "生命 多么简单"
    ชีวิต...ง่ายดายนัก
    "多一岁 我就陪你走一岁"
    อีกขวบปีที่เพิ่มขึ้น ฉันก็จะเคียงข้างเธอไปอีกปี


     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Feb 14, 2020 ด่วน! เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กลายพันธุ์จากแอฟริกาใต้มาถึงประเทศไทย

    กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า วันนี้ 14 กุมภาพันธ์ 2664 ตรวจพบผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 กลายพันธุ์เหมือนอย่างที่พบใน ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่วนับเป็นผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 กลายพันธุ์รายเเรกของประเทศไทย ผู้ป่วยคนดังกล่าวเป็นคนไทยซึ่งเดินทางมาจากประเทศเเทนซาเนีย มีอายุ 41 ปี ผู้ป่วยชายคนนี้เดินทางกลับมาจากประเทศแทนซาเนีย เมื่อ 29 มกราคม 2564 โดยมีโรคประจำตัว คือโรคหอบหืด ความดันโลหิตสูง และมีน้ำหนักตัวมากเกินไปจากการตรวจสอบเชิงลึก พบว่าผู้ป่วยชายคนไทยวัย 41 ปี คนดังกล่าวเดินทางไปรับซื้อพลอยที่ประเทศแทนซาเนีย เป็นเวลานาน 2 เดือน ระหว่างที่อยู่ในประเทศแทนซาเนีย ผู้ป่วยรายนี้ได้เข้าร่วมงานเลี้ยง โดยผู้เข้าร่วมงานเลี้ยงไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย เนื่องจากว่าไม่มีเคสผู้ป่วยในประเทศแทนซาเนีย

    สำหรับไทม์ไลน์ของผู้ป่วยมีดังนี้

    29 มกราคม: ผู้ป่วยคนไทยรายนี้เดินทางจากประเทศแทนซาเนีย โดยมาต่อเครื่องบินที่ประเทศเอธิโอเปีย จากนั้นเดินทางถึงเมืองไทย ทำการคัดกรองอาการป่วย ณ ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ สนามบินสุวรรณภูมิ พบว่าไม่มีไข้และอาการป่วย จึงเดินทางไปกักตัวใน State Quarantine

    3 กุมภาพันธ์: ทำการเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครั้งที่ 1 พบผลเลือดเป็นบวก

    4 กุมภาพันธ์: ถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่ รพ.ของรัฐ โดยผู้ป่วยให้ประวัติว่ามีไข้ต่ำๆ ไอ รับไว้รักษาในห้องแยก

    5 กุมภาพันธ์: ทีมสอบสวนโรคส่งตัวอย่างผลตรวจ โดยระบุสายพันธุ์ของโควิด-19 เนื่องจากผู้เดินทางมาจากทวีปแอฟริกา เพื่อเฝ้าระวังสายพันธุ์ใหม่ ณ ศูนย์วิทยศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ สภากาชาดไทย (EID-TRC)

    12 กุมภาพันธ์: ผลการตรวจสายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 (Whole Genome Sequencing)โดยศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ สภากาชาดไทย (EID-TRC) พบเป็นโรคระบาดโควิด-19 กลายพันธุ์ของแอฟริกาใต้ South African Variant (98.64% coverage)

    13 กุมภาพันธ์: ทีมสอบสวนโรคในพื้นที่และกรมควบคุมโรค ลงประเมินการสัมผัสผู้ป่วยของเจ้าหน้าที่ ณ State Quarantine และ โรงพยาบาล พบว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินกิจกรรมอย่างรัดกุม ได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจ PCR ในเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมทั้งเจ้าหน้าที่ใน State Quarantine รวม 41 ราย (โรงพยาบาล 31 ราย State Quarantine 10 ราย) ให้ผลเป็นลบทั้งหมด

    โรคระบาดโควิด-19 กลายพันธุ์จากประเทศแอฟริกาใต้ ได้หลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจจากทั่วโลก โดยเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประเทศแอฟริกาใต้ นาย Zweli Mkhize เปิดเผยว่า มีคำสั่งยุติโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ด้วยวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัทแอสตร้าเซเนก้าและมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ดในประเทศแอฟริกาใต้ (วัคซีนดังกล่าวนั้น ประเทศไทยสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวน 2 ล้านโดสเพื่อฉีดให้กับประชาชนด้วย) สาเหตุจากผลการฉีดวัคซีนดังกล่าวให้กับอาสาสมัครที่รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กลายพันธ์ุของแอฟริกาใต้ในกลุ่มที่แสดงอาการป่วยของโรคปานกลาง

    รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข แอฟริกาใต้ กล่าวต่อไปว่ารัฐบาลจะรอคำแนะนำจากนักวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อตัดสินใจที่จะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยโรคระบาดโควิด-19 กลายพันธุ์ที่มีรหัสพันธุกรรม 501Y.V2 ซึ่งเป็นเชื้อกลายพันธุ์ที่พบในแอฟริกาใต้ และถูกพบในต่างประเทศมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

    จากการวิเคราะห์ผลการทดสอบฉีดวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัทแอสตร้าเซเนก้าและมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด เทียบกับการฉีดวัคซีนหลอกในกลุ่มอาสาสมัครรับการทดลองในแอฟริกาใต้ พบว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของที่ผลิตโดยบริษัทแอสตร้าเซเนก้าและมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด มีผลป้องกันเหลือเพียง 22% ในกลุ่มที่มีอาการป่วยปานกลางหรือป่วยเบาบาง ซึ่งถือได้ว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกัน และลดการแพร่กระจายเชื้อต่ำมาก เมื่อเทียบกับเกณฑ์การพิจารณาว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ต้องมีประสิทธิภาพตั้งแต่ 50% ขึ้นไป อย่างไรก็ตาม วัคซีนดังกล่าวไม่ได้ถูกประเมินถึงความสามารถในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง เนื่องจากการทดสอบอยู่ในกลุ่มวัยรุ่นซึ่งไม่ได้พิจารณาว่าเป็นกลุ่มที่มีอาการป่วยรุนแรง

    ทั้งนี้ รัฐบาลแอฟริกาใต้ ประกาศว่ามีความจำเป็นต้องขายวัคซีนของแอสตร้าเซเนก้าไปให้ประเทศอื่นๆที่สนใจอยากนำไปฉีดให้กับประชาชน หากประเทศใดสนใจที่จะรับวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 แอสตร้าเซเนก้า จำนวน 1 ล้านโดส สามารถติดต่อกับรัฐบาลแอฟริกาใต้ได้ทันที

    #ไทย #แอฟริกาใต้ #ไวรัสกลายพันธุ์ #โควิด19กลายพันธุ์ #วัคซีน #แอสตร้าเซเนก้า #โควิด19 #covid19 #BTimes

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พม่าประท้วงรัฐประหารวันที่ 9 ชาวเมืองจับกลุ่มลาดตระเวน หลังทหารปล่อยตัวนักโทษ คาดจงใจสร้างความรุนแรง
    .
    .
    .
    รอยเตอร์ - ผู้ชุมนุมประท้วงชาวพม่าหลายหมื่นคนตบเท้าลงถนนตามเมืองใหญ่ของประเทศเป็นวันที่ 9 เพื่อต่อต้านการรัฐประหารในวันนี้ (14) หลังค่ำคืนที่น่าหวาดกลัวที่ผู้อยู่อาศัยต้องรวมกลุ่มออกลาดตระเวน และกองทัพได้ยกเลิกกฎหมายที่คุ้มครองเสรีภาพ
    .
    นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ร่วมเดินขบวนในเมืองย่างกุ้งถือป้ายเรียกร้องการปล่อยตัวอองซานซูจี ที่ถูกควบคุมตัวนับตั้งแต่ทหารโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของเธอเมื่อวันที่ 1 ก.พ.
    .
    ส่วนหนึ่งของการชุมนุมประท้วงบนท้องถนนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ ยังมีขบวนรถโดยสารเคลื่อนตัวช้าๆ ไปพร้อมกับผู้ชุมนุม และบีบแตรรถเพื่อแสดงการประท้วง
    .
    ที่กรุงเนปีดอ มีทั้งขบวนรถจักรยานยนต์และรถยนต์ร่วมการประท้วง ส่วนที่เมืองทวาย เมืองชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ วงดนตรีรวมทีมตีกลองส่งเสียงขณะผู้ชุมนุมประท้วงเดินขบวนภายใต้แสงแดดร้อนระอุ และที่เมืองวายหม่อ ทางเหนือสุดของรัฐกะฉิ่น บริเวณริมฝั่งแม่น้ำอิรวดี ฝูงชนถือธงเดินขบวนและร้องเพลงปฏิวัติ
    .
    ผู้ชุมนุมประท้วงทั่วประเทศต่างชูภาพใบหน้าของอองซานซูจี โดยการควบคุมตัวซูจีจากข้อหานำเข้าวิทยุสื่อสารผิดกฎหมาย มีกำหนดสิ้นสุดลงในวันจันทร์นี้ (15)
    .
    ด้านสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองระบุว่า นับตั้งแต่เกิดรัฐประหารมีคนถูกจับกุมตัวมากกว่า 384 คน โดยส่วนใหญ่เป็นการจับกุมในเวลากลางคืน
    .
    “ขณะที่ประชาคมโลกกำลังประณามรัฐประหาร แต่มิน อ่อง หล่าย กำลังใช้เครื่องมือทุกอย่างที่มีสร้างความหวาดกลัวและการไร้ซึ่งเสถียรภาพ” นักเคลื่อนไหวจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน Burma Campaign กล่าวทางทวิตเตอร์ ถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพพม่า
    .
    ผู้ชุมนุมประท้วงจำนวนมากในนครย่างกุ้งถือป้ายเรียกร้องให้ทางการหยุดลักพาตัวผู้คนในเวลากลางคืน
    .
    ชาวเมืองได้รวมตัวกันในช่วงดึกของวันเสาร์ (13) ออกลาดตระเวนตามถนนสายต่างๆ ในนครย่างกุ้ง และเมืองมัณฑะเลย์ ด้วยหวาดกลัวว่าจะมีการบุกจับกุมตัว รวมถึงเหตุอาชญากรรม หลังรัฐบาลทหารสั่งปล่อยตัวผู้ต้องขังนับหมื่น
    .
    ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมเพิ่มสูงขึ้นนับตั้งแต่วันศุกร์ (12) เมื่อรัฐบาลทหารประกาศว่าจะปล่อยตัวผู้ต้องขังมากกว่า 23,000 คน โดยระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสอดคล้องกับการสร้างรัฐประชาธิปไตยใหม่ที่มีสันติภาพ การพัฒนา และระเบียบวินัย

    ภาพถ่ายที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ยิ่งทำให้เกิดกระแสข่าวลือหนักขึ้นไปอีกว่าอาชญากรกำลังพยายามก่อความไม่สงบด้วยการวางเพลิงหรือวางยาพิษในน้ำ
    .
    ติน มี้น ผู้อยู่อาศัยในย่านซานชวงของนครย่างกุ้ง เป็นหนึ่งในฝูงชนที่เข้าควบคุมตัวกลุ่มคน 4 คนที่ต้องสงสัยว่าก่อเหตุโจมตีในละแวกใกล้เคียง
    .
    “เราคิดว่าทหารจงใจก่อความรุนแรง โดยให้อาชญากรเหล่านี้แทรกตัวเข้าไปในการชุมนุมประท้วงอย่างสันติ” ติน มี้น กล่าว
    .
    ติน มี้น อ้างถึงการชุมนุมประท้วงสนับสนุนประชาธิปไตยในปี 2531 ที่ทหารถูกกล่าวหาอย่างกว้างขวางว่าปล่อยตัวอาชญากรเข้ามาในหมู่ประชาชนเพื่อก่อเหตุโจมตี และอ้างเรื่องความไม่สงบในเวลาต่อมา เพื่อสร้างความชอบธรรมในการขยายอำนาจของตน
    .
    นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่ามีคนเห็นโดรนลอยอยู่เหนือกลุ่มคน โดยหนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า โดรนบินขึ้นๆ ลงๆ และถ่ายภาพฝูงชนที่กำลังไล่จับโจร
    .
    ทั้งนี้ รอยเตอร์ไม่สามารถติดต่อรัฐบาลหรือกองทัพเพื่อขอความคิดเห็นได้
    .
    ในคืนวันเสาร์ (13) กองทัพได้ฟื้นกฎหมายที่กำหนดให้ประชาชนต้องรายงานผู้ที่มาเยี่ยมบ้านในตอนกลางคืน และอนุญาตให้กองกำลังความมั่นคงเข้าควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยและค้นทรัพย์สินส่วนตัวได้โดยไม่ต้องได้รับอนุมัติจากศาล และสั่งให้จับกุมตัวผู้สนับสนุนการชุมนุมประท้วง
    .
    การรัฐประหารที่เกิดขึ้นเรียกเสียงประณามจากชาติตะวันตก โดยสหรัฐฯ ได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรบางส่วนกับนายพลที่ปกครองประเทศ ขณะที่ประเทศต่างๆ กำลังพิจารณามาตรการอยู่เช่นกัน.
    .
    .
    https://mgronline.com/indochina/detail/9640000014670
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันที่เกิดสึนามิ เป็นวันที่ผมพาแม่ไปสแกนมะเร็งทรวงอก ที่พบรอบ 2 ที่ รพ.รามาธิบดี และที่ห้องรอเปิดโทรศัพท์ ข่าวเรื่องนี้ที่กำลังเกิดขึ้นพอดี กับแผ่นดินไหว เมื่อสิบปีก่อน

    ยอดผู้บาดเจ็บตามพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 150 คน

    ชาวเมืองโคริยามะในจังหวัดฟูกูชิมะคนหนึ่งกล่าวว่า “แย่จริง ๆ ข้าวของกระจายเกลื่อนไปหมด ดูสิ จานชามในครัวก็แตกจนไม่มีเหลือ”

    ชาวจังหวัดมิยางิคนหนึ่งกล่าวว่า “หวนนึกถึงแผ่นดินไหวเมื่อสิบปีก่อน น่ากลัวจริง ๆ หวาดวิตกไปหมด”

    คณะกรรมการกำกับดูแลข้อกำหนดด้านนิวเคลียร์ของญี่ปุ่นระบุว่า มีรายงานว่าไม่ได้เกิดความผิดปกติที่ใหญ่โตใด ๆ ขึ้นตามโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์แห่งต่าง ๆ ริมมหาสมุทรแปซิฟิกในเวลานี้

    ครัวเรือนราว 850,000 หลังในภูมิภาคโทโฮกุและคันโตไม่มีไฟฟ้าใช้เป็นช่วงเวลาหนึ่ง แต่ว่าตอนนี้กำลังทยอยกันกลับมามีไฟฟ้าใช้อีกครั้งหนึ่ง

    เจ้าหน้าที่เผยว่า บางเขตในจังหวัดมิยางิและฟูกูชิมะไม่มีน้ำประปาใช้เนื่องจากท่อส่งน้ำแตก

    ที่นี่วัดแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งนี้ได้ในระดับ 5+ ตามมาตรวัดญี่ปุ่นซึ่งเริ่มตั้งแต่ 0-7

    ติดตามรายละเอียดของข่าวอื่น ๆ ได้ที่นี่
    https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/

     

แชร์หน้านี้

Loading...