ปกิณณกะธรรม

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย กระร่อน, 22 กรกฎาคม 2020.

  1. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2021
  2. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
  3. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    #บุคคลเปรียบเหมือนอสรพิษ๔จำพวก
    *---------------------------------*

    อสรพิษมีพิษแล่นเร็ว แต่ไม่ร้าย..โกรธเนืองๆ แต่ความโกรธ ไม่นอนเนื่องยาว นาน บุคคลนี้ชื่อว่า ผู้มีพิษ แล่นเร็วแต่ไม่ร้าย (โกรธง่าย แต่หายเร็ว)

    อสรพิษมีพิษร้าย แต่ไม่แล่นเร็ว... ไม่โกรธเนืองๆ แต่ความโกรธ นอนเนื่องยาว นาน บุคคลนี้ชื่อว่า ผู้มีพิษ ร้ายแล่นแต่พิษไม่แล่น (โกรธยาก แต่โกรธนาน)

    อสรพิษมีพิษแล่นเร็วด้วย มีพิษร้ายด้วย...โกรธเนืองๆ และความโกรธนอนยาว นาน บุคคลนี้ชื่อว่า มีพิษ แล่นเร็วด้วย มีพิษร้ายด้วย (โกรธบ่อย โกรธนาน)

    อสรพิษมีพิษไม่แล่นเร็วด้วย มีพิษไม่ร้ายด้วย ...ไม่โกรธเนืองๆ ทั้งความโกรธ ไม่นอนเนื่องยาวนาน บุคคนี้ชื่อว่า มีพิษไม่แล่นเร็วด้วย มีพิษไม่ร้ายด้วย (โกรธไม่บ่อย และโกรธไม่นาน)

    อาสีวิสสูตร
    [๓๐๙] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี
    ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า
    "ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหมือนอย่างว่า มีอสรพิษ ๔ จำพวก ซึ่งมีฤทธิ์เดชแรงกล้า
    ถ้ามีบุรุษรักชีวิต ผู้ไม่อยากตาย รักสุข เกลียดทุกข์
    ชนทั้งหลาย พึงกล่าวกะเขาอย่างนี้ว่า
    'ดูกรท่าน อสรพิษ ๔ จำพวกนี้ มีฤทธิ์เดชแรงกล้า ท่านพึงปลุกให้ลุกตามเวลา ให้อาบน้ำตามเวลา ให้กินอาหารตามเวลา ให้เข้าสู่ที่อยู่ตามเวลา
    เวลาใด อสรพิษทั้ง ๔ จำพวกนี้ ตัวใดตัวหนึ่งโกรธขึ้น เวลานั้น ท่านก็จะพึงถึงความตาย หรือถึงทุกข์แทบปางตาย กิจใดที่ท่านควรทำ ก็จงทำกิจนั้นเสีย' ฯ

    [๓๑๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้น บุรุษนั้น กลัวอสรพิษทั้ง ๔ จำพวกนั้น จึงหนีไปในที่อื่น
    ชนทั้งหลาย พึงกล่าวกะเขาอย่างนี้ว่า
    'ดูกรท่าน มีเพชฌฆาตผู้เป็นฆ่าศึกอยู่ ๕ คน ได้ติดตามมาข้างหลังท่าน พบท่านในที่ใด ก็จะฆ่าท่านเสียในที่นั้น กิจใดที่ท่านควรทำ ก็จงทำกิจนั้นเสีย' ฯ

    [๓๑๑] ครั้งนั้นแล บุรุษนั้น กลัวอสรพิษทั้ง ๔ จำพวก และกลัวเพชฌฆาตผู้เป็นฆ่าศึกทั้ง ๕ คนนั้น จึงหนีไปในที่อื่น
    ชนทั้งหลาย พึงกล่าวกะเขาอย่างนี้ว่า
    'ดูกรท่าน มีเพชฌฆาตคนที่ ๖ ซึ่งเที่ยวไปในอากาศ เงื้อดาบติดตามมาข้างหลังท่าน พบท่านในที่ใด ก็จะตัดศีรษะของท่านเสียในที่นั้น กิจใดที่ท่านควรทำ ก็จงทำกิจนั้นเสีย' ฯ

    [๓๑๒] ครั้งนั้น บุรุษนั้น กลัวอสรพิษทั้ง ๔ จำพวก ซึ่งมีฤทธิ์เดชแรงกล้า กลัวเพชฌฆาตผู้เป็นฆ่าศึกทั้ง ๕ และกลัวเพชฌฆาตคนที่ ๖ ซึ่งเที่ยวไปในอากาศ เงื้อดาบอยู่ จึงหนีไปในที่อื่น
    เขาพบบ้านร้างเข้า จึงเข้าไปสู่เรือนร้างว่างเปล่าหลังหนึ่ง ลูบคลำภาชนะว่างเปล่าชนิดหนึ่ง
    ชนทั้งหลาย พึงกล่าวกะเขาอย่างนี้ว่า
    'ดูกรท่าน มีโจรทั้งหลายคอยฆ่าชาวบ้าน เข้ามาสู่บ้านร้างนี้เสมอ กิจใดที่ท่านควรทำ ก็จงทำกิจนั้นเสีย' ฯ

    [๓๑๓] ครั้งนั้น บุรุษนั้น กลัวอสรพิษทั้ง ๔ กลัวเพชฌฆาตทั้ง ๕ กลัวเพชฌฆาตคนที่ ๖ และกลัวโจรผู้คอยฆ่าชาวบ้าน จึงหนีไปในที่อื่น
    เขาไปพบห้วงน้ำใหญ่แห่งหนึ่ง ฝั่งข้างนี้น่ารังเกียจ เต็มไปด้วยภัยอันตราย ฝั่งข้างโน้นเป็นที่เกษมปลอดภัย เรือแพ หรือสะพาน ที่จะข้ามไปฝั่งโน้น ไม่มี' ฯ

    [๓๑๔] ครั้งนั้น บุรุษนั้น มีความคิดอย่างนี้ว่า
    'ห้วงน้ำนี้ใหญ่นัก ฝั่งข้างนี้เป็นที่น่ารังเกียจ เต็มไปด้วยภัยอันตราย ฝั่งข้างโน้นเป็นที่เกษมปลอดภัย เรือแพ หรือสะพาน ที่จะข้ามไปฝั่งโน้น ก็ไม่มี
    ผิฉะนั้น เราควรจะมัดหญ้า กิ่งไม้ และใบไม้ ผูกเป็นแพ เกาะแพนั้น พยายามไปด้วยมือและด้วยเท้า ก็พึงถึงฝั่งโน้นได้โดยความสวัสดี'
    ครั้นแล้ว บุรุษนั้นทำตามความคิดของตน ก็ว่ายข้ามฟากถึงฝั่งข้างโน้นแล้ว เป็นพราหมณ์ขึ้นบกไป ฯ

    [๓๑๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้ออุปมานี้ เราสมมติขึ้นเพื่อจะให้รู้เนื้อความโดยง่าย ในข้อนั้น มีเนื้อความดังนี้

    คำว่า อสรพิษ ที่มีฤทธิ์แรงกล้าทั้ง ๔ จำพวกนั้น เป็นชื่อแห่งมหาภูตรูป ๔ คือ
    ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม

    คำว่า เพชฌฆาตทั้ง ๕ คน ที่เป็นข้าศึกนั้น เป็นชื่อแห่งอุปาทานขันธ์ ๕ คือ
    รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์

    คำว่า เพชฌฆาตคนที่ ๖ ซึ่งเที่ยวไปในอากาศ เงื้อดาบอยู่นั้น เป็นชื่อแห่งนันทิราคะ

    คำว่า บ้านร้าง นั้นเป็นชื่อแห่งอายตนะภายใน ๖ ฯ

    [๓๑๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าแม้บัณฑิตผู้ฉลาด มีปัญญาใคร่ครวญ อายตนะภายใน ๖ นั้น ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก็จะปรากฏว่า เป็นของว่างเปล่า สูญทั้งนั้น ฯ

    คำว่า โจรผู้ฆ่าชาวบ้าน นั้น เป็นชื่อแห่งอายตนะภายนอก ๖
    ตา ย่อมเดือดร้อนเพราะรูป เป็นที่พอใจ และไม่พอใจ
    หู ย่อมเดือดร้อนเพราะเสียง เป็นที่พอใจ และไม่พอใจ
    จมูก ย่อมเดือดร้อนเพราะกลิ่น เป็นที่พอใจ และไม่พอใจ
    ลิ้น ย่อมเดือดร้อนเพราะรส เป็นที่พอใจ และไม่พอใจ
    กาย ย่อมเดือดร้อนเพราะโผฏฐัพพะ เป็นที่พอใจ และไม่พอใจ
    ใจ ย่อมเดือดร้อนเพราะธรรมารมณ์ เป็นที่พอใจ และไม่พอใจ

    คำว่า ห้วงน้ำใหญ่นั้น เป็นชื่อแห่งโอฆะทั้ง ๔ คือ กาโมฆะ ภโวฆะ ทิฏโฐฆะ อวิชโชฆะ

    คำว่า ฝั่งข้างนี้อันเป็นที่น่ารังเกียจ เต็มไปด้วยภัยอันตรายนั้น เป็นชื่อแห่งร่างกายของตน

    คำว่า ฝั่งข้างโน้นเป็นที่เกษมปลอดภัยนั้น เป็นชื่อแห่งนิพพาน

    คำว่า แพนั้น เป็นชื่อแห่งอริยมรรคมีองค์ ๘ ประการ คือ สัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมา กัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ

    คำว่า พยายามข้ามไปด้วยมือและเท้า เป็นชื่อแห่งวิริยารัมภะ

    คำว่า ผู้เป็นพราหมณ์ว่ายข้ามฟากถึงฝั่งโน้น แล้วขึ้นบกไป เป็นชื่อแห่งพระอรหันต์ ฯ"

    จบสูตรที่ ๑

    พระไตรปิฎก ฉบับหลวง (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๘
    สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค หน้าที่ ๑๙๓-๑๙๕ ข้อที่ ๓๐๙-๓๑๖
     
  4. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    ปูทองผู้ฉลาด

    nt13.gif

    ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวัตถีทรงปรารภการเสียสละชีพของพระอานนทเถระเพี่อพระองค์ ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิ์สัตว์เกิดเป็นพราหมณ์ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีอาชีพกสิกรรม วันหนึ่งเขาไปนาพร้อมบริวารบอกลูกน้องให้ทำงาน แล้วตนเองก็ไปล้างหน้าที่หนองน้ำปลายนาในหนองน้ำนั้นมีปูตัวหนึ่งอาศัยอยู่ มีสีเหลืองเหมือนสีทอง พอถึงหนองน้ำเขาก็แปรงฟัน ก่อนค่อยลงไปล้างหน้า ขณะนั้นเองปูทองได้มาอยู่ใกล้ ๆ เขา เขาเห็นมันแล้วเกิดความเอ็นดูมันจึงจับมันขึ้นมาวางไว้ที่ผ้าห่มของเขา เมื่อจะกลับไปทำนาต่อก็ปล่อยมันลงน้ำไป

    วันต่อมา พอเขามาถึงนาก็จะแวะไปที่หนองน้ำจับปูขึ้นมานอนที่ผ้าห่มก่อนแล้วไปทำนาทั้งวัน ตกเย็นไปปล่อยปูลงน้ำแล้วค่อยกลับบ้านไปเป็นลักษณะเช่นนี้ประจำ เขากับปูทองจึงเกิดความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ดวงตาของพราหมณ์มีลักษณะแปลกอยู่อย่างหนึ่งคือจะเป็นวงกลม ๓ ชั้นใสแจ๋ว ที่ปลายนานั้นมีกาผัวเมียคู่หนึ่งอาศัยอยู่ที่ต้นตาลต้นหนึ่ง นางกาเกิดแพ้ท้องอยากกินดวงตาของพราหมณ์เจ้าของนา
    "ถ้าไม่ได้กินฉันคงตายแน่ ๆ เลยล่ะ"
    สามีเอ่ยปากตอบด้วยความเกียจคร้านว่า "น้องจะบ้าเหรอ ใครจะไปบังอาจเอาดวงตาของคนมาได้ อย่าหวังเลยน้อง"
    นางกาจึงเสนออุบายอย่างหนึ่งว่า "พี่ใต้ต้นตาลนี้มีงูเห่าตัวหนึ่งอาศัยอยู่ถ้าเราใช้ให้งูเห่ากัดเขาตายแล้วค่อยเจาะดวงตาของเขา ความหวังฉันก็เป็นจริงนะสิ"
    กาสามีเห็นดีด้วย นับแต่วันนันกาทั้งสองเริ่มปรนนิบัติงูเห่าด้วยการนำอาหารมาให้เป็นประจำ

    พอข้าวในนาเริ่มตั้งท้อง ปูทองก็เติบโตเต็มที่วันหนึ่งเวลาเช้าตรู่ พราหมณ์ก็ออกมาดูนาตามปกติ เขาแวะไปที่หนองน้ำจับปูมาวางไว้ที่ผ้าห่มแล้ว กำลังจะเดินขึ้นคันนาเลาะดูข้าวเท่านั้น ก็ถูกงูเห่ากัดเข้าที่น่องล้มลงตรงนั้น งูเห่ากัดเข้าก็เลื้อยเข้าจอมปลวกไป พอเขาล้มลงปูทองได้กระโดดขึ้นไปเกาะอยู่บนยอดอกของเขา กาตัวผู้ก็บินมาจับบนร่างของเขาเช่นกัน ขณะที่กากำลังจะจิกดวงตาของเขานั่นเอง ปูทองก็ใช้ก้ามปูหนีบคอกาเอาไว้แน่น แล้วขู่ว่า
    "เจ้ากาชั่ว เจ้าเรียกงูมาเดี๋ยวนี้นะ มิเช่นนั้น เจ้าคอขาดแน่ ๆ"
    กากลัวตายจึงร้องเรียกงูว่า "เฮ้ย..งูเห่าเพื่อนรักกลับมาก่อน ข้าถูกปูตาโปนหนึบคอแล้ว กลับมาช่วยกันก่อน"
    งูเห่าพอได้ยินเสียงเรียกก็เลื้อกลับมาแผ่บังพานหันจะฉกปู ปูจึงใช้กามปูอีกข้างหนึ่งหนีบคองูเอาไว้อีก
    งูเห่าดิ้นไม่หลุดจึงร้องถามปูทองว่า "เจ้าปูตาโปน ปล่อยพวกข้าเดี๋ยวนี้นะ เจ้าหนีบคอพวกข้าทั้งสองไว้ทำไม"
    ปูทองตอบว่า "เจ้างูชั่ว ชายคนนี้เป็นที่พึ่งของข้า ถ้าเขาตายไปข้าก็ต้องตายด้วย เพราะไม่มีผู้คุ้มครอง เจ้ามาทำให้เขาตายเสียแล้ว พวกเจ้าต้องตาย"
    งูฟังแล้วคิดจะล่อลวงปูจึงพูดว่า "เจ้าปูตาโปน ถ้าเช่นนั้น ข้าจะดูดพิษกลับคืนให้เขาฟื้นคืนชีพมา เจ้าปล่อยพวกข้าก่อนสิ ก่อนที่พิษร้ายแรงจะทำให้เขาตาย"
    ปูรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของงูจึงพูดว่า "เจ้างูชั่ว ข้าจะปล่อยเจ้า ต่อเมื่อเห็นชายคนนี้ลุกขึ้นได้ก่อนแล้ว ข้าถึงจะปล่อยกาไป" ว่าแล้วก็คลายก้ามให้งูเลื้อยไปดูดพิษคืน เมื่อพราหมณ์ได้ลุกขึ้นยืนเป็นปกติแล้ว ปูคิดว่าถ้าขืนปล่อยให้สัตว์ทั้งสองนี้ไป ก็จะกลับมาทำร้ายพราหมณ์เจ้าของนาอีกจนได้ จึงใช้ก้ามปูหนีบคอสัตว์ทั้งสองเสียชีวิตทันที ฝ่ายนางกาที่จับอยู่บนต้นตาลเห็นเหตุการณ์กลับตาลบัตรเช่นนั้น ก็รีบบินหนีไปอยู่ที่อื่น

    พราหมณ์เจ้าของนาโยนร่างของกาและงูทิ้งเข้าป่าไป นับตั้งแต่วันนั้น เป็นต้นมาพราหมณ์และปูทองก็ยิ่งสนิทสนมคุ้นเคยกันมากยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน ต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกันจนตราบสิ้นชีวิต




    flower11.gif
    นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : อย่าคิดทำร้ายคนอื่น เพราะตนเองจะเดือดร้อนในภายหลัง คนและสัตว์ต่างต้องพึ่งพาอาศัยกัน อย่าได้คิดทำลายสัตว์และธรรมชาติเลย
     
  5. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ดูระเกะกะระกาว้องบระเจ้าขา
    กาว้องเป็นผู้มีบุงนัก
    กาว้องเป็นผู้ปลักเสิรช์

    เป็นผู้หาพระสูตรที่มีค่าหาได้ยากยิ่ง

    อัน โซดา กับ แม้เล็บฟ้า ต้องหงายท้องตึง
    ด้วยว่า อายตนะภายใน6 เป็น โมฆะ ของว่างเปล่า
    ซึ่ง รับรองกันไปโดยที่ ไม่เคยซับชัด ดับสนิท
     
  6. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    กะอย่างว่า
    ชวิตเริ่มต้นด้วยความปรารถนา
    ทรงตัวอยู่ด้วยความน่าละอาย
    จากไปด้วยเสียงคล่ำควญ
    จะหาใครที่เป็นที่พึ่งให้ตนได้
     
  7. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
  8. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    ผมรู้สาเหตุที่ผมอกหักละ
    คือผมไม่มีคนพิศษ
    มันเลยเป็นเรื่องเศร้าของคนที่คอยเกือกูลเรา
     
  9. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
  10. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,258
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    upload_2021-1-7_8-57-30.png

    เอาเว้ยเห้ย
     
  11. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    เซงติดทองเมือวานดิ่งเหวเลยราคาทอง
     
  12. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    tumblr_nhh35sQmVe1tiyj7vo1_500.gif

    รึว่า !? <--- กาว้อง อย่ารอช้าพิร่ำพิไร
     
  13. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    tenor.gif <---

    ยาวไป​
     
  14. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,258
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    upload_2021-1-7_10-26-43.png

    โอ้ววว กล้วยทอด
     
  15. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,258
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    เงินกระดาษ แถมโควิดนะเว้ย
     
  16. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
  17. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    upload_2021-1-7_13-8-53.png

    tenor.gif
     
  18. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    c0788b86jw1eo0vy6sqtwg207w05wb2b.gif

    ภาพ ปลากรอบ นักภาวนาอานปานสติ
    จิตตกจากสมาธิไปปีมะโว้ ไปคิด
    แล้ว ดึงกลับได้เป็น อนา คา

    พระป่า เรียก กรรมฐาน "ไก่หนีภัย"​
     
  19. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    qmekmC2I4jtEnhWpzE_QAu8pA_q5a9dGq2WLMF_kgJuW&_nc_ohc=VnLudFISN2wAX9SBcH5&_nc_ht=scontent.fbkk3-3.jpg

    โอกาซรวยไม่เกรงใจฮ่าน มาถึง แว้ว
    เพียงส่ง ถ่าน ไปแลก เอามาขายต่อ

    บาปก็ไม่ได้ทำ คลี่กุ้งก็ไม่ต้องมาแขวนคอ
     
  20. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    ชาวบ้านมาข้อซื้อฟืนละสงสัยเวทนาจัด
    อย่าเผาเลยเสียดายไม้55
     

แชร์หน้านี้

Loading...