มีผู้กล่าวว่า ถ้าจิต เกิดความคิดอะไรขึ้นมา เกิดความรู้อะไรขึ้นมา ให้พิจารณา สิ่งนั้น

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ปราบเทวดา, 20 ธันวาคม 2020.

  1. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    แถแบบ ปลาไหลแถไม่เจ็บครับ แถแล้วปล่อยอย่าไปยึด อิอิ
     
  2. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    คับ จารย์
     
  3. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ต้อง ตรึกด้วยอาการ ไม่ตำหนิ จิต นะ

    "ยึดติด...." มันก็เป็น สภาวะธรรม ที่เกิดตาม ปัจจัยการ
    ไม่ใช่เกิดจาก สภาพ สัตว์ ตัวตน บุคคล เรา เขา เข้าไป
    ผลักดันก็หาไม่

    เวทนา เกิดขึ้นกับ จิต ทุกดวง ทันที เหมือน ไม้กระดาน
    สองแผ่นตั้งอิงกันเพื่อ ตั้งขึ้น

    หากตรึก ด้วยอาการ ตำหนิ จิต มันจะ พินาธรรม เอาเข้าตัว

    จะเกิดการเคลื่อน หมายๆ จน เหมือนๆ วนๆไปทันที

    พอ ตรึกถูก กาว้องร้อง โอ้ย!!

    ภาวนาถูกอีก กาว้องร้อง โอ้ย!!

    กาว้องจะเดินเอง มีปีกแท้ๆ แต่จะเอา ร้องเท้า
    ( ภาพปลากรอบ อยู่ กระทู้ กาว้อง )
     
  4. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    ควรกำหนด แปลว่า ไม่กำหนดก็ได้ครับ
    ถ้าไม่กำหนดรู้ทุกข์พ้นทุกข์ได้มั๊ยครับ

     
  5. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    ปัญหามันอยู่ที่การต้องประจักษ์
    เดินสวยๆค้าเดินสวยๆ
    ใครจะไปเข้าใจ
     
  6. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,258
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ไม่เคยรู้จักนิโรธไง

    เลยไม่รู้ ว่าทุกข์มีเพียงกำหนดรู้
    ไม่ได้กำหนดยึดหรือกำหนดละ


    คนที่รู้จักนิโรธ ก็เหมือนกับคนที่รู้ว่า
    ถึงฝั่งแล้ว ไม่แบกเรือข้าม
     
  7. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    แม้นแต่ นิพพาน เวลา รู้ พระศาสดา ก็ตรัสว่า ควรกำหนดรู้

    เพราะ สาวก จะหลง นิพพาน เกิด สัญญาขยับ
    พอสัญญาขยับ ก็เรียบร้อย เกิด อุปาธิ ไม่นิพพานหลอก
    ( แต่ถ้า อาสวะ ชำระล้างได้ ยังไงก็ พึงหวังได้ แต่
    เมื่อไหร่หละ ....โอยยยยยยยยยยยยย นะ แต่หวังได้ )

    ดังนั้น

    ควรกำหนดรู้ ไม่ได้แปลว่า ไม่กำหนดรู้ก็ได้

    แต่หมายเอา ภาวนาจบ ก็ อย่าละ การกำหนดรู้

    สาวกจึงละความยินดีใน นิพพาน ด้วย เพราะ กำหนดรู้"อยู่"


    กาว้อง เอาพระสูตร มาแปะ จิ
    มูลปริยาย อะ
     
  8. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626

    ถึงเกิดคำถามไงฮับว่า ทุกข์ คุงปราบแสดงอันนี้สุดรึยัง

    คุงปราบ>>สภาพทุกข์ แปรปวน เกิดดับ

    ผงก้บอกยุ่ว่า>>ถ้าเหนอริยสัจ ก้จะเหน การเข้าไปยึด>>สภาพแปรปวน เปนของลอยลม นั้นนั่นล่ะตัวทุกข์จริง ย่อสั้น อุปทานขันธ์นั่นแหละทุกข์

    วันนี้คุงปราบก้เข้าใจตามนี้แล้ว ก้ยินดีฮับ

    ของที่ปวนแปร เปลี่ยนแปลง ไม่คงที่ ลอยลม มันเป็นสภาพทุกข์
    ของทุกอย่างมีสภาพนี้เหมือนกันหมด
    พระพุทธเจ้า ให้เราตามเหนระลึกเหนสิ่งนี้
    เพื่อจะเข้าใจธรรมชาติ (สภาพทุกข์)
    ที่ถูกปิดบังไว้ ด้วยความไม่รู้ (อวิชชา)
    เหมือนอย่างคุงปราบทำกันล่ะฮับ

    จนกว่าจะเหนแจ้ง
    เมื่อเหนแจ้ง จะเข้าใจ ว่าทุกๆสรรพสิ่งมีสภาพทุกข์ แปรปวน ไม่คงที่ เปนของลอยลม เปนของมีแล้วหาย
    พอจิตมันแจ้งตรงนี้ หายโง่ไปแปบ แต่จิตยังไม่สลัดคืน ตรงนี้ที่พระพุทธตรัสเรียก ผู้เหนแจ้งตรงนี้ว่า โสดาบัน

    อย่างที่คุงปราบและหลายๆคนเหน คือ การตามระลึก ความโกรธบ้าง ความขัดเคืองบ้าง เหนว่ามันเปนของเกิดดับ คงที่อยู่ไม่ได้ เป็นสภาพของทุกข์ ตรงนี้คือการเหน เฉพาะเพียงสิ่งนั้น ตกอยู่ภายใต้ไตรลักษณ์
    แต่ในโสดาบันที่เหนแจ้ง จะ เกิดญาน เหน ทุกสรรพสิ่ง ไม่ใช่แค่ สิ่งที่ตามระลึกเพียงแค่นั้น อันนี้เปนความแตกต่าง


    เมื่อโสดาบันเหนแจ้งแล้ว จะเหนทุกข์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่สภาพทุกข์ เพราะ อยุ่ใต้กฎไตรลักษณ์ แต่จะเหน เพราะมีตัวเข้าไปยึดกับสภาพนั้น จึงเกิดทุกข์ขึ้น เรียกว่าทุกข์เพราะอุปทานเข้าไปยึดขันธ์ จึงเกิดทุกข์
    ผู้เหนแจ้ง จะเหนอุปทานตัวนี้ไม่ใช่ จากการอ่านหรือท่องมา แต่จากการมีญานเหนว่าไม่มีตัวตนจริงๆอยุ่ในกระบวนการนั้น หรือไหนๆ ตั้งแต่ตอนที่เกิดการเหนแจ้งธรรม ว่าเปนแค่ปัจจัยหนึ่งผลักดันให้เกิดปัจจัยหนึ่ง การมีอะไรบางอย่างเข้าไปยึดกับสิ่งนั้น มันจึงก่อทุกข์

    จึงตอบโจทย์ว่าทำไมผู้ที่เหนแจ้ง (โสดาบัน) จึงไม่ต้องถามวิธีปฎิบัติจากผู้ใดอีก เพราะได้เหนต้นตอทุกข์ (จากการเหนด้วยตนเอง ไม่ใช่การอ่านหรือการคิด) ทำให้มั่นใจและเดินต่อเพื่อจัดการกับต้นตอทุกข์

    คุงปราบก้ทำกันปายฮับ วันนึงเด่วร้อง อ๋อ!! เอง

    ปล.อย่าปายคิกว่าผมดริฟธรรมมาล่ะฮับ ด้นสดเบยฮับ อิอิ
     
  9. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
     
  10. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    คับ ไม่รู้จักนิโรธ ชมต่อดีกว่า
     
  11. ลุงจอห์น

    ลุงจอห์น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2020
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +89
    ศาสนิกชนเกิดมาใต้บวรพุทธศาสนา ฟังธรรมพิจารณาทุกข์ตามกฏไตรลักษณ์บ้างทำกิจความเพียรควรแก่ฐานะ
    เหตุไฉนบางส่วนยังไม่ลุแก่พระนิพพานครับ ขอความเมตตาท่านชี้แนะแลสนทนาให้เหตุขอบคุณครับ
     
  12. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    มันสำคัญตรงไหนกับการเป็นโสดาบันหรือไม่ ในเมื่อทุกคนก็เพียงเพียรทำเหตุให้ถูกต้องเพื่อให้ถึงปลายทาง ถึงไหนแล้วจะสนใจทำไมกัน ไม่ใช่ปฏิบัติสักจะเอาแค่โสดาบันเอาตำแหน่งซะที่ไหน และโสดาบันเองก็ทิ้งการตามเห็นการเกิดดับยังไม่ได้ มันยังต้องใช้การระลึกรู้ไปจนถึงปลายทางไม่ควรประมาทและไม่ชะล่าใจแม้แต่น้อย
     
  13. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    เท่าที่ผมอ่านมา เพื่อนๆ ในนี้ไม่มีใครเคยกล่าว อยากเป็นโสดาบันกันตรงๆ สักคนนะครับ
    ส่วนก็คุยนิพพานวิบวับ
     
  14. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    กั๊กๆ เห็น แจ้ง แล้ว ยังต้องเคลื่อนอีก เขาเรียกว่า เห็น แจ้งกะโหลกะลา

    ไม่แปลกเลย ที่ หมิงปู้ เข้าใจว่า แทงตลอดอริยสัจจ
    แล้วต้อง วกกลับไป พยักหน้า ปฏิจสมุปบาท

    ที่ พยายาเอา ปฏิจสมุปบาท มาเป็น ตัว Check List การเห็น ศาสดา
    ก็เพราะว่า ใน พระสูตร มี บรรยายเอาไว้ แต่ ลืมสอบสวนด้วย พระสูตร
    อื่น ด้วยหลัก มหาสาธารณรัฐ4

    พระสูตรอื่น มี ตรงๆ ตบหน้า โสดาบันคว่ำ เลย ตอนที่ พระอานนท์
    พยักหน้า แทงอริยสัจจแล้ว ปฏิจสมุปบาทเป็นอัน เห็นด้วย

    พระศาสดา ตรัสเลย สงบเถิด (สันติ !! ) แล้ว ทรง จรนัย

    คนไม่เข้าใจ ก็อ่านไป แล้วคงคิดว่า หาก อรหันตสาวก
    มาสดับที่ทรงจรนัย ก็คง เข้าใจ ปฏิจสมุปบาท .... สันติ !!
    อีก นั้นแหละเพราะ พระสูตรอื่นมี มากมาย สาวกเหาะไป
    ภพนั้น ภพนี้เที่ยวถามว่า

    " เธว์อๆ ทำสัญญาอะไรหรอ ถึงมา ภพนี้ "

    คือ นอกจากจะไม่สามารถใน ปฏิจสมุปบาทแล้ว ยัง ต้องถาม
    คนอื่นอีกที ไปโน้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
     
  15. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    เห็น แจ้ง ปฏิจสมุปบาท เท่ากับ เห็น ตถาคต

    สาวก พยักหน้า เอาไปเป็น เช็คลิสต์ นี่ ฮากระจองงอ


    สันณิฐานว่า อาจารย์โกศาจาน ของการ้อง พยายามแปล
    แต่ แปลผิด

    จริงๆ ต้องหมายเอา

    ผู้ใดเห็น ปฏิจสมุปบาท ผู้นั้น ย่อมเห็น การเป็นสัพพัญญู
     
  16. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    เดียวเพี้ยนหมุนธรรมจักร์เล่นอีก55
     
  17. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,258
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ไม่หรอก

    หมูไหม้ มีอริสัจ ที่เหนือชั้นกว่า มีอริยสัจจริงๆ
    ซ้อนจริงมาอีกด้วย เลยได้ถามไถ่กันปาย


    อริยสัจ ก้เริ่มตั้งแต่ กำหนดรู้ทุกข์ เริ่มตั้งแต่สติปัฏฐานแล้ว
    ยังจะมามี แจ้งแล้วจึงเห้นอริยสัจอีก กะลากลุ้ม



    สัจจญาน
    ก็คือ ความรู้ของความจริง ความจริงคืออะไร คือรู้ว่า

    นี่ไงทุกข์ ที่มีอยู่จริง ความเกิดเป็นทุกข์ ความตายเป็นทุกข์
    ความโศกเศร้า ไม่ได้อย่างใจก็เป็นทุกข์ ความชราเป็นทุกข์
    นี่เป็นรอบที่ 1

    กิจญาน
    ก็คือ ความรู้ของสิ่งที่ควรทำ เรียกว่า หน้าที่
    ที่ควรทำของการที่จะบรรลุธรรม มีกิจเดียว
    คือ ควรกำหนดรู้ทุกข์
    ทีนี้ ก็มาดูว่า อะไรคือ ทุกข์ ที่ควรกำหนดรู้ มันอยู่ที่ไหน
    ก้ไม่พ้น อยู่ที่ กายใจนั่นแล นี่เป็นรอบที่ 2


    กตญาณ
    ก็คือ ความรู้ ที่ได้กำหนดรู้ทุกข์แล้ว ได้ทำแล้ว นี่เป็นรอบที่ 3


    อริยสัจ4
    หรือ ความจริงทั้งสี่ประการ มันวนรอบกันในตัว ทุกรอบ
    จึงเรียกว่าเป็นอาการ 12

    พระสาวกเดินตามก้เพียงแต่ ครับ ครับ ครับ ใช่เลยครับ
    ใช่แล้วครับ ตามนั้นครับ เพราะทำตามพระศาสดา
    จึงรู้เห็นตาม
    มีความบริสุทธิ์ตาม สอนคนอื่นตามได้ด้วย

    อริยสัจ 4 ไม่ใช่ อะไรที่พิสดาร
    ก็คือ ความจริง ที่มีอยู่ จริง 4ประการ

    ไม่ใช่พอพูดถึง อริยสัจ เอ้ย เอ้ย โอ้ โห เท่ห์ เจ๋ง แจ๋ว
    ลึกล้ำ ซ่อนเงื่อน พิสดาร
     
  18. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ผู้ใดเห็น ปฏิจสมุปบาท ผู้นั้น ย่อมเห็น การเป็นสัพพัญญู

    กาว้อง พึง สังเกะ นะ

    มันจะ สลด นะ

    กาว้อง เท่านั้น สลด ไม่ สลิ่ม ไม่ 3" เป็น คนอื่น มะมี ปูนตรานกอินทรีย์
     
  19. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    เหตุยังไม่ถึงพร้อมมั้งครับ
    สติปัฏฐานกับความเพียร4ควรมีตลอดเวลา
     
  20. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    กาว้อง เว้ย

    นับวัน จะมีแต่ พวก คมๆ หวะ

    เมื่อวาน เผลอ quote เลย

    เคาะ เคาะ เคาะ

    ปัด ปัด ปัด

    ไป กาย กาย​
    300px-Logo_Fanta_2016.png
     

แชร์หน้านี้

Loading...