ติดตามสถานะการณ์

วัดเก่าเชียงใหม่บูรณะประตูวิหารลายรดน้ำสร้างถวายสมัยรัชกาลที่๖ อายุกว่าร้อยปีด้วยการทาสีทับเฉย ปู้ยี่ปู้ยำมรดกชาติ อ้างคัดลอกลายแล้วเตรียมเขียนใหม่ แทนที่จะเก็บรักษาประตูเก่าแล้วเปลี่ยนบานใหม่พร้อมลอกลายไปเขียน

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000076662
………………………………

 

ชมภาพ นาทีเจ้าหน้าที่สหรัฐ และพนักงานบังคับดคี บุกเคลียร์ สถานกงสุลจีน ที่เมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส ในเที่ยงวันศุกร์ หลังพ้นเส้นตาย 72 ชั่วโมง ขณะที่ฝั่งจีน สั่งเจ้าหน้าที่ “ปลดป้าย” สถานกงสุลสหรัฐ ณ เมืองเฉิงตู ลงแล้ว หลังความสัมพันธ์ 2 ชาติ เดินเข้าสู่ภาวะ สงครามเย็น อีกรอบ

 

ยุคเสื่อม

อดีตผบช. น. ทนไม่ได้
โพสต์แฉเบื้องหลัง คดีบอส กระทิงแดง

พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ฉายา “น. 1 บึ่งทุกที่” โพสต์ข้อความเมื่อ 26ก.ค.2563 ถึงคดีนายวรยุทธ์ อยู่วิทยา ขับรถชนดาบตำรวจ เสียชีวิต ล่าสุดอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง ว่า คดีนายบอสฯกลับมาเป็นข่าวครึกโครมอีกครั้ง ต้องยอมรับว่ามันมีผลกระทบต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชนค่อนข้างมาก คดีนี้เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย.2555 ท้องที่สน.ทองหล่อ

ต่อมาประมาณต้นปี2559 มีข่าวนายบอสฯผู้ต้องหาซึ่งหนีคดีไปปรากฎตัวที่อังกฤษ จึงมีการเรียกร้องให้ติดตามตัวนายบอสฯกลับมาดำเนินคดีในไทย เมื่อตน(ขณะเป็นผบช. น. ) ทราบเรื่องจึงได้เดินทางไปที่ สน.ทองหล่อ เรียก ผู้กำกับการสน. และพนักงานสอบสวนมาพบเพื่อขอทราบข้อเท็จจริง ต่อมาจึงทราบในเบื้องต้นว่าพงส.ได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปให้อัยการแล้ว โดยมีความเห็นสั่งฟ้องนายบอสฯหลายข้อหา

เช่น “ขับรถโดยประมาทเฉี่ยวชนผู้อื่นจนถึงแก่ความตายฯ” แต่ไม่มีข้อหา”เมาแล้วขับ”ผมจึงขอดูร่างสำนวน ปรากฎว่ามีข้อเท็จจริงบางเรื่องเป็นที่น่าสงสัย เช่น มีการเปลี่ยนคนขับ การตั้งข้อหาตำรวจผู้ตายขับรถเร็วฯ เมาแล้วขับฯลฯ

โดยเฉพาะ “เมาแล้วขับ “ พงส.ไปเชื่อนายบอสฯว่าขณะชนไม่เมา แต่หลังชนแล้วจึงไปดื่มจนเมาซึ่งมันเป็นเรื่องแปลก ผมเกิดมาไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ ผมจึงได้ตำหนิพงส.ไป

“หลังจากนั้นสื่อมาขอสัมภาษณ์ ผมได้ให้ความเห็นไปว่าเรื่องนี้ พงส.บกพร่อง ส่วนหน่วยงานอื่นผมมิอาจก้าวล่วง ในส่วนของพงส.นั้น ต่อมามีการส่งเรื่องให้ปปชชี้มูลความผิดทางวินัย ไปแล้ว ส่วนเรื่อง”เมาหลังขับ” ผมแกล้งพูดเพื่อสื่อให้เห็นว่าข้อหา”เมาหลังขับ” มันไม่มีหรอก มีแต่ข้อหา”เมาแล้วขับ” แต่ข้อเท็จจริงกลับไปเปลี่ยนเป็น เมาหลังขับ พงส.จึงสั่งไม่ฟ้องเพราะหลังขับรถจะดื่มเมาขนาดไหน ย่อมทำได้ไม่มีความผิด”อดีตผบช. น. กล่าว

ที่เล่ามานี้เป็นเพียงข้อเท็จจริงส่วนหนึ่งที่อยากจะบอกว่า ส่วนตัวผมรู้สึกช้ำใจและเสียใจกับเรื่องนี้เป็นร้อยเท่าทวีคูณ และ ยังนึกเสียดายด้วยว่าคดีนี้ถ้าขณะเกิดเหตุอยู่ในยุคตนมันไม่มีทางรอดอย่างแน่นอนครับ

ที่สุดนี้ อยากจะบอกกับทุกท่านทุกคนว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของบุคคลบางคนไม่เกี่ยวกับองค์กร อย่าพึ่งสิ้นหวังกับกระบวนการยุติธรรมของเรา ส่วนตัวตนยังเชื่อว่ายังมีคนดีๆที่พร้อมจะทำหน้าที่นี้ ขอเพียง”ให้โอกาสเขาเท่านั้น”มาช่วยกันส่งเสริมคนดีกันเถิด “ทำดี ทำได้ ทำทันที” ครับ

 

พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลสูงธนบุรี มีคำสั่งยื่นอุทธรณ์คดี“เสี่ยเบนซ์” เมาแล้วขับชน “รอง ผกก.ตี๋” เสียชีวิต ขอให้ศาลไม่รอการลงโทษตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษา แม้ได้ชดใช้ครอบครัว-ดูแลบุตรผู้ตายแล้ว 45 ล้าน

อ่านต่อ > https://news1live.com/detail/9630000076609
...........................................

 

พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดอีก 4 ราย เป็นคนไทยกลับจากสหรัฐอเมริกา 3 ราย และไต้หวัน 1 ราย ยอดติดเชื้อสะสมรวม 3,295 ราย ขยับลงอยู่อันดับ 106 ของโลก ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกป่วยแล้ว 16.4 ล้านราย ย้ำไม่คาดหวังเป็น 0 ตลอด แต่ต้องช่วยกันรับสถานการณ์

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000076764
………………………………

 

เริ่มพุธนี้! ห้ามรวมกลุ่มเกิน 2 คน, ห้ามทานอาหารในร้าน และบังคับใส่หน้ากากอนามัยสถานที่กลางแจ้งด้วย

ฮ่องกงได้ออกมาตรการควบคุม social-distancing เพิ่มขึ้นอีก หลังจากที่ยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 100 เคสเป็นเวลา 5 วันติดต่อกันแล้ว

ผู้ว่าการฯ เกาะฮ่องกง Carrie Lam ได้แถลงมาตรการเพิ่มเติมใหม่เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงห้ามรวมกลุ่มเกิน 2 คน, การห้ามรับประทานอาหารในร้านอาหาร, และขยายพื้นที่บังคับการใส่หน้ากากอนามัยให้รวมถึงสถานที่กลางแจ้งด้วย โดยเริ่มวันแรกพุธนี้และมีผลบังคับใช้อย่างน้อย 1 สัปดาห์

ทั้งนี้จะยกเว้นให้กับ “ผู้ที่มีเหตุผลที่จำเป็น” เท่านั้น เช่น ทารกอายุต่ำกว่า 2 ปี, ผู้ป่วย, ส่วนการออกกำลังกายกลางแจ้งนั้นไม่ได้รับการยกเว้น ผู้ฝ่าฝืนอาจได้รับโทษปรับสูงสุด 5,000 เหรียญฮ่องกง

และสั่งปิดสถานกีฬาต่างๆ รวมถึงสระว่ายน้ำด้วย

***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***


Source : https://www.scmp.com/news/hong-kong...g-kong-third-wave-social-distancing-measures?

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 128 รายวานนี้ในฮ่องกง รวมทั้งพนักงานจากโรงฆ่าสัตว์ 3 ราย

เมื่อวานนี้ (26 ก.ค. 20) ได้มีรายงานมีผู้ติดเชื้อเพิ่มทั้งหมด 128 ราย โดยมี 103 ราย ซึ่งเป็นเคสติดเพิ่มจากในฮ่องกง รวมยอดสะสมทั้งหมด 2,634 ราย

ในจำนวนเคสติดเชื้อในฮ่องกง มี 68 รายที่เกี่ยวเนื่องกับเคสก่อนหน้านี้ ส่วนอีก 35 รายตามแหล่งต้นตอไม่ได้ และมีอีกราว 100 รายที่ตรวจพบว่ามีเชื้อบวก ซึ่งต้องรอการยืนยันและแถลงอีกครั้งในวันต่อไป

ทางด้านผู้ที่ติดเชื้อที่ทำงานที่โรงฆ่าสัตว์นั้น 2 รายทำหน้าที่ส่งหมูไปชำแหละ และอีก 1 รายทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อเนื้อสัตว์ ไม่มีผู้ใดทำงานที่โรงชำแหละ ทั้งนี้ 1 ในจำนวนนี้เกี่ยวเนื่องกับเคสติดเชื้อก่อนหน้านี้ เนื่องจากอาศัยที่ตึกเดียวกัน

ทั้งนี้จากการศึกษาและข้อมูลจาก WHO เผยว่าความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 ผ่านทางอาหารนั้นมีน้อย แต่ประชาชนควรแน่ใจว่าเนื้อสัตว์ที่ทำอาหารนั้นจะต้องปรุงให้สุดเท่านั้นก่อนรับประทาน

เคสอื่นๆ นั้นมาจาก บ้านพักคนชรา Cornwall Elderly's Home (Golden Branch) ย่าน Tuen Mun , บ้านพักคนชรา King Fuk Home for the Aged ย่าน Sham Shui Po, ศูนย์ดูแลผู้พิการ SAHK Jockey Clun Bradbury Wah Sum Care Centre ย่าน Fan Ling

***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***


Source :https://www.thestandard.com.hk/brea...infected-with-128-new-Covid-19-patients-today

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

ญาติโพสต์ถามทำเกินกว่าเหตุไหม
ตร.แจงถูกแย่งปืนทำให้ลั่นใส่หน้าอกเสียชีวิต
.
นายลำเพย จำปา อายุ 48 ปี ชาวบ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม คลุ้มคลั่งหลังพี่สาวไม่ให้เงินซื้อยาบ้า
.
จากนั้นใช้อาวุธมีดฟันศีรษะและต้นแขน ร.ต.ท.วิจิตร บางปลา รอง สว.(สอบสวน) สภ.โพนสวรรค์ ซึ่งเดินทางมาระงับเหตุจนบาดเจ็บสาหัส
.
ร.ต.ท.วิจิตร ใช้อาวุธปืนยิงที่ขานายลำเพย และอ้างว่านายลำเพย พยายามแย่งปืนก่อนลั่นใส่หน้าอกเสียชีวิต
.
ที่มา Facebook: อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Travel
.
#mgronline #คลุ้มคลั่ง #ยาบ้า #ตำรวจยิงผู้ต้องหาเสียชีวิต

 

สธ.เห็นชอบ รพ.สต.มีแพทย์แผนไทย ใช้ตำรับยากัญชา
.
สธ.เห็นชอบใช้ตำรับยากัญชา ใน รพ.สต.ที่มีแพทย์แผนไทย พร้อมให้ รพ.สต. 152 แห่งร่วมวิสาหกิจชุมชนปลูกกัญชา รองรับผู้รับบริการ 1.5 หมื่นคน นำร่อง 4 แห่ง
.
เมื่อวันที่ (26 ก.ค.) นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้มีประชาชนที่สนใจเข้ารับการรักษาในคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทยในสถานบริการสาธารณสุขของรัฐทั้ง 291 แห่งทั่วประเทศ กว่า 60,000 ครั้ง ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงจึงได้ให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ที่มีแพทย์แผนไทยปฏิบัติงานประจำใช้ตำรับยาที่มีกัญชาปรุงผสมอยู่ 16 ตำรับ โดยคัดเลือกตำรับที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/qol/detail/9630000076587
#กระทรวงสาธารณสุข #เห็นชอบ #ใช้ตำรับยากัญชา #โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล

 

“ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง” เบตง งามอลังการ
เตรียมเปิดสกายวอล์คยาวที่สุดในอาเซียนปลายปี 63
.
“สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง” สถานที่ท่องเที่ยวและแลนด์มาร์คใหม่ใน อ.เบตง จ. ยะลา วันนี้มีความคืบหน้าในการก่อสร้างไปมาก สร้างแล้วเสร็จไปราว 80% คาดสามารถเปิดให้ท่องเที่ยวได้ตามแผนในช่วงปลายปี 63
.
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนราธิวาส (พื้นที่รับผิดชอบ นราธิวาส ปัตตานี และยะลา) พาสื่อมวลชนสำรวจความคืบหน้าการก่อสร้าง “สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง” สถานที่ท่องเที่ยวและแลนด์มาร์คใหม่ใน ซึ่งล่าสุด มีความคืบหน้าไปราว 80% คาดสามารถเปิดให้ท่องเที่ยวได้ตามแผนในช่วงปลายปี 63
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/travel/detail/9630000076617
#ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง #สกายวอล์คยาวที่สุดในอาเซียน #สถานที่ท่องเที่ยว #แลนด์มาร์คใหม่ #เบตง #ยะลา #เปิดปลายปี63

 

“หมอมนูญ” เผยข้อมูลใหม่
ใส่หน้ากากอนามัยแม้กันโควิดไม่ได้ 100%
แต่อาการป่วยจะไม่รุนแรง
.
“หมอมนูญ” เผยข้อมูลใหม่ ความรุนแรงของโรคโควิด-19 ขึ้นกับปริมาณเชื้อไวรัสที่หายใจเข้าไป ชี้ ใส่หน้ากากอนามัยแม้ช่วยป้องกัน ไม่ได้ 100% แต่ช่วยลดปริมาณเชื้อโรค หากป่วยอาการก็จะไม่รุนแรง
.
วันที่ 27 ก.ค. 63 เพจ “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” หรือ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้เผยแพร่ข้อมูลว่า ...
.
ข้อมูลใหม่ ความรุนแรงของโรคไวรัสโควิด-19 ขึ้นกับปริมาณของอนุภาคเชื้อไวรัสที่หายใจเข้าไป การใส่หน้ากากอนามัยช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ถึงจะไม่ 100% ก็ยังช่วยลดปริมาณของเชื้อโรค ทำให้ความรุนแรงของโรคลดลง
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000076695
#ใส่หน้ากากอนามัย #ป้องกันโควิดไม่ได้100% #แต่ช่วยลดปริมาณเชื้อโรค #อาการป่วยไม่รุนแรง

 

โลกที่คนเราไม่เท่ากัน

ผลตรวจ รพ.รามาฯ ยันพบสารโคเคนในร่างกาย "บอส อยู่วิทยา"
.
เอกสารสำคัญทางการแพทย์ ยืนยัน พบสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 4 และสารที่เกิดขึ้นหลังการเสพโคเคนใน "ทายาทกระทิงแดง" หลังขับรถยนต์ "ซูเปอร์คาร์" ชนตำรวจจราจร สน.ทองหล่อเสียชีวิต
.
จากกรณีสำนักอัยการสูงสุด มีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหาในคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายฯ หลังขับรถหรูชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสิรฐ ผบ.หมู่งาน ป.สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 ต่อมานายวรยุทธ ได้หลบหนีคดี 8 ปี กระทั่งปรากฏเอกสารจากสน.ทองหล่อว่าคดีนี้จบลงเนื่องจากอัยการไม่ส่งฟ้องผู้ใด ทำให้นายวรยุทธ อยู่วิทยา สามารถกลับประเทศไทยได้
.
อ่านเพิ่มเติม: https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000076632
.
#mgronline #โคเคน #บอส_อยู่วิทยา

 

ปอมเปโอ - ผู้ฆ่ามังกร! เรียกสีจิ้นผิง 'เลขาธิการ' ไม่ใช่ 'ประธานาธิบดี'

นายไมค์ ปอมเปโอ อดีตนายทหารบกสหรัฐฯ และผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลาง (CIA) นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คือผู้ที่ได้รับการคาดหวังผงาดหมายมุ่งปราบมังกรทุกครั้งที่ทำได้ แทงจุดอ่อนไหวเปราะบางที่มีหลายจุดของจีน ตั้งแต่อธิปไตยไต้หวัน, นโยบายฮ่องกง และสิทธิมนุษยชนชาวมุสลิมอุยกูร์ รวมถึงพื้นที่พิพาทชายแดนอินเดีย จนแทบจะได้รับฉายาจากสื่อว่าเป็นอัศวิน "ผู้ปราบมังกร"

สื่อต่างประเทศรายงาน ล่าสุด นายไมค์ ปอมเปโอ ได้เปลี่ยนแปลงคำเรียกตำแหน่งทางการของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิงโดยเจตนา ด้วยการไม่เรียกตำแหน่งของสี จิ้นผิง ว่า "ประธานาธิบดีจีน" อีกต่อไป

ต่อไปนี้จะเรียกแค่ "เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน (CCP)"

ท่าทีต่อต้านสีจิ้นผิงนี้ ไม่ใช่มีเพียง นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แต่ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชั้นนำคนอื่น ๆ ของสหรัฐฯ ต่างได้มีการกล่าวโจมตีประณามแบบประสานเสียงต่อต้านจีน สอดคล้องเวียนรับกันในทุกด้าน ตั้งแต่ผู้อำนวยการฝ่ายเอฟบีไอ นายคริสโตเฟอร์ เฟรย์, อัยการสูงสุดสหรัฐฯ วิลเลียม บารร์ และ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ นายโรเบิรต โอไบรอัน

การเรียกแบบนี้ ก็จะสอดคล้องกับฝ่ายบริหารทรัมป์ ที่กล่าวโจมตีปักกิ่งในเรื่องต่าง ๆ ตั้งแต่ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ไปจนถึงหัวเว่ยและทะเลจีนใต้ โดยมีนัยยะลดให้เป็นเพียงผู้นำตัวแทนในระดับท้องถิ่น มากกว่าที่จะพูดคุยกันระดับผู้แทนรัฐ

ทั้งนี้ สี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งสูงสุด 3 ตำแหน่งในระบอบการบริหารประเทศของจีน คือ : ประมุขแห่งรัฐ (国家主席), ประธานคณะกรรมาธิการทหารกลางและเลขาธิการใหญ่แห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งไม่มีคำไหนแปลตรงตัวกับคำว่า "ประธานาธิบดี" ในระบอบการบริหารของโลกตะวันตก ขณะที่ในการสื่อสารกับโลกภายนอก จึงเพียงใช้คำ "ประธานาธิบดี"

นายอลีสัน สวาลวินสกี้ รองประธานฝ่ายวิจัยของสำนักวิจัยเอเชียแห่งชาติ และผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับนโยบายของสหรัฐฯ ที่มีต่อจีน กล่าวว่าการเปลี่ยนไปใช้ “เลขาธิการฯ” ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะสหรัฐฯ กำลังย้ำความแตกต่างในความสัมพันธ์กัน ระหว่างผู้นำของรัฐบาลที่เป็นระบบตัวแทน ซึ่งไม่เหมือนผู้นำของรัฐบาลที่มีอำนาจเด็ดขาดและเผด็จการ”
...............

ข่าว - US officials switch to calling China's Xi Jinping 'general secretary' instead of 'president'
https://finance.yahoo.com/news/us-officials-switch-calling-chinas-093000931.html

 

กรุงเทพมหานคร เตรียมเปิดตัวศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทางโฉมใหม่ทันสมัยกว่าเดิม ที่บริเวณแยกพระราม 9 ฝั่งเซ็นทรัลพระราม 9 ในวันที่ 30 ก.ค.นี้ ซึ่งภายในศาลาที่พักผู้โดยสาร ไม่ใช่มีเพียงแค่ที่นั่งรอรถโดยสารประจำทาง แต่เป็น “ป้ายรถโฉมใหม่” มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายสำหรับคนกรุงอย่างครบครัน เพื่อรองรับการใช้ชีวิตแบบวิถีชีวิตใหม่ ไม่ต้องมายืนรอพร้อมกับสูดดมกลิ่นควันรถริมถนนอีกต่อไป รวมทั้งเช็กระยะเวลารถโดยสารประจำทางจะเข้าป้ายเมื่อไหร่ ผ่านทางแอปพลิเคชันบนมือถือที่ทันสมัย

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม. จัดเก็บข้อมูลความเดือดร้อนของประชาชน พบว่าไม่ได้รับความสะดวกจากการใช้ป้ายรถโดยสารประจำทางแบบเก่า ทั้งเป็นห่วงในเรื่องของความไม่ปลอดภัย รองลงมาคือมีที่นั่งไม่เพียงพอ ไม่มีที่บังแดด บังฝน ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางสายรถเมล์หรือจุดเชื่อมรถโดยสาร ที่สำคัญยืนรอโดยไม่ทราบระยะเวลารถจะมาเข้าป้าย ทำให้เกิดแนวคิดจัดทำ “โครงการศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทาง”

โดย สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. เป็นผู้ดำเนินการเลือกศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทางแบบมีโครงหลังคาและอยู่ในความรับผิดชอบของ กทม.ทั้งหมด 350 หลัง จากทั้งหมด 3,000 หลัง โดยเฉพาะในย่านเศรษฐกิจ พื้นที่ชุมชน สถานที่ทำงานออฟฟิศ สถานศึกษา และจุดเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน หรือเรือโดยสาร

โครงการนี้มีบริษัทเอกชนรับผิดชอบปรับปรุงและสร้าง “ป้ายรถเมล์อัจฉริยะ” ซึ่งจะได้สิทธิสัมปทานโฆษณาบริเวณป้ายรถโดยสารประจำทางเป็นระยะเวลา 10 ปีเต็ม ก่อนที่หลังจากนั้นจะเป็นสิทธิของ กทม.ทั้งหมด ขณะนี้เอกชนได้กำหนดส่งมอบศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทางครบทั้งหมด 350 หลัง ภายในเดือน เม.ย. ปี 64 ส่วนการติดตั้งจะไม่มีการรื้อถอนฐานหรือเจาะเปิดพื้นฟุตปาธเด็ดขาด แต่จะนำตัวโครงศาลาไปติดตั้งแล้วประกอบ ซึ่งเรื่องการดูแลรักษาทรัพย์สิน รวมถึงซ่อมบำรุง หากอุปกรณ์ภายในชำรุด ทางบริษัทเอกชนจะเป็นผู้ดำเนินการแก้ไขทั้งหมด นอกจากนี้ กทม. ยังมีแผนจะพัฒนาศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทางอีก 2,650 หลังที่เหลือด้วย

สำหรับป้ายรถประจำทางวิถีใหม่ แบ่งเป็น 2 แบบ คือ แบบ Full Function จำนวน 100 หลัง และแบบ Light Function จำนวน 250 หลัง โดยแบบ Full Function ประกอบไปด้วยจอแสดงผลขนาด 55 นิ้ว บอกข้อมูลข่าวสาร กทม. รวมทั้งข้อมูลเส้นทางเดินรถ จุดเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนอื่น ๆ และใช้เวลากี่นาทีกว่าที่รถจะมาถึง ณ จุดที่ยืนรอ ผ่านศูนย์ควบคุมระบบ Smart Bus Shelter เชื่อมต่อระบบเข้ากับระบบ GPS ที่ติดตั้งอยู่ในรถประจำทางของ ขสมก. จากนั้นส่งสัญญาณมายังศาลาที่พักผู้โดยสาร เพื่อแสดงผลไปยังจอภาพ และเมื่อรถมาถึงจะมีระบบไวไฟ (Wifi Router) เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต มีระบบกล้องซีซีทีวี (CCTV) แสงไฟส่องสว่าง และที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ (USB Charger) ส่วนแบบ Light Function จะมีอุปกรณ์เหมือนแบบ Full Function ยกเว้นไม่มีตัวจอ แสดงผลขนาด 55 นิ้วและระบบไวไฟ (Wifi Router) ไว้คอยให้บริการ

ทั้งนี้ บริษัทเอกชนได้พัฒนาแอปพลิเคชันชื่อว่า “Citygo” ไว้คอยบอกระยะเวลาการมาถึงของรถโดยสารประจำทาง ผ่านอุปกรณ์มือถือเคลื่อนที่ (Mobile Application) โดยวันที่ 30 ก.ค.นี้ จะพบป้ายรถประจำทางโฉมใหม่ที่ทันสมัยมากกว่าเดิม ถือว่า กทม.ได้ปฏิรูปป้ายรถประจำทางแบบใหม่หรือจะเรียกว่าเป็นป้ายรถเมล์อัจฉริยะ สามารถเช็ก ชาร์จ แชร์ได้ฟรีทุกป้าย ทันสมัยเหมือนกับในต่างประเทศ โดยป้ายแรกจะติดตั้งเสร็จพร้อมใช้งานบริเวณหน้าเซ็นทรัลพระราม 9 มีฟังก์ชันตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เน้นความปลอดภัยของคนทุกเพศทุกวัยเป็นหลัก

ส่วนแผนการสร้างศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทางแบบ Full Function และแบบ Light Function ที่บริษัทเอกชนจะดำเนินการติดตั้งในระยะเวลา 90 วัน ได้แก่ จุดก่อสร้างแบบ Full Function จำนวน 10 หลัง บริเวณถนนรัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง 5 จุด ประกอบด้วย ป้ายหน้าอาคารเมืองไทยภัทรคอมเพล็กซ์, ป้ายตรงข้ามรัชดาภิเษกซอย 3 (ตรงข้ามอาคารสินมั่นคงเคหะการเลยซอย 4), ป้ายหน้าโรงแรมสวิสโฮเต็ลเลอคองคอร์ดก่อนถึงรัชดาฯซอย 12, ป้ายหน้าโรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ(รัชดาภิเษกซอย 10) และป้ายตรงข้ามจัสโก้รัชดา/บริเวณถนนพระราม9 เขตห้วยขวาง 4 จุด ประกอบด้วย ป้ายจูเลียน่า, ป้ายตรงข้ามปากทางเข้าซอยศูนย์วิจัย 4, ป้ายหน้าเจอร์นาลิสท์ และป้ายพระราม 9 ซอย 5 /บริเวณถนนพระราม9 เขตบางกะปิ 1 จุดคือป้ายซอยพระราม9 ซอย4

ขณะที่การก่อสร้างศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทางแบบ Light Function จำนวน 20 หลัง ได้แก่ บริเวณถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง ประกอบด้วย ป้ายหน้าศึกษาภัณฑ์ และป้ายหน้าโรงพยาบาลลาดพร้าว/บริเวณถนนรามคำแหง เขตบางกะปิ ประกอบด้วย ป้ายหน้าร้านอาหารวังบัว, ป้ายก่อนถึงวัดศรีบุญเรือง, ป้ายตรงข้ามวัดศรีบุญเรือง, ป้ายก่อนถึงซอยรามคำแหง 117, ป้ายเลยซอยรามคำแหง 78, ป้ายเลยซอยรามคำแหง 111 ป้ายหน้าสวนอาหารใกล้บ้าน, ป้ายปากซอยรามคำแหง 76,ป้ายบริเวณอาคารเลขที่ 306/12 (เยื้องห้างคาร์ฟูรามคำแหง) และป้ายใกล้ซอยรามคำแหง 42

บริเวณถนนศรีนครินทร์ ประกอบด้วย ป้ายบริเวณเยื้องซอยศรีนครินทร์ 25, ป้ายหน้าบริษัทกรีนสปอต, ป้ายใกล้ปั๊มเอสโซ่(ทางออกปั๊มเยื้องบริษัทกรีนสปอต) และป้ายก่อนทางเข้าถนนกรุงเทพกรีฑา / บริเวณถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เขตห้วยขวาง ประกอบด้วย ป้ายหน้าอาคารบางกอกทาวเวอร์ และป้ายหน้าอาคารอิตัลไทย

ที่มา https://www.dailynews.co.th/bangkok/786859

#roundtablethailand
Roundtablethailand.com

 

27 กรกฎาคม 2563 เพจเฟซบุ๊ก "เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ" ออกแถลงการณ์ เรื่อง ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนในการถ่ายภาพการชุมนุม โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า

"เนื่องด้วยเยาวชนมีความเสี่ยงจากหลายกลุ่มบุคคล ได้แก่

1. ผู้ปกครอง ซึ่งเยาวชนต้องพึ่งพาเพื่อปัจจัยในการดำเนินชีวิต เช่น เงิน อาหาร ที่อยู่อาศัย
2. สถานศึกษา ซึ่งเยาวชนในฐานะนักเรียนแทบไม่มีอำนาจต่อรอง
3. บุคคลภายนอก ซึ่งเยาวชนอาจถูกใส่ร้าย หรือถูกคุกคามทางเพศ

กลุ่ม #เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ จึงขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนให้

1. ถ่ายเพียงแบบ Extreme long shot, Long shot, Medium long shot และ Medium shot โดยสองแบบหลังให้เบลอหรือถมทับหน้าผู้ชุมนุม
2. ไม่ถ่ายแบบ Close up หรือ Extreme close up เด็ดขาด
3. หากถ่ายแบบเจาะจงบุคคล ให้ขออนุญาตและตกลงกับผู้ชุมนุมเกี่ยวกับเงื่อนไขในการถ่าย
4. รับฟังและปฏิบัติตามคำขอของผู้ชุมนุมที่ประสงค์ให้ลบภาพหรือวีดีโอของตนที่ได้เผยแพร่ไปแล้ว

ทางกลุ่มขออภัยในความไม่สะดวกภายในและหลังการชุมนุม # วันศุกร์ลุกมาต้านเผด็จการ ที่ผ่านมา และขอแสดงความขอบคุณต่อสื่อมวลชน รวมถึงเน้นย้ำว่ากลุ่มเล็งเห็นความสำคัญของสื่อเป็นอย่างดี"

ทั้งนี้ เพจเฟซบุ๊ก "เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ" ยังได้แจ้งกำหนดการด้วยว่า ในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ เวลา 14.30 น. จะมีการจัดกิจกรรม "แจวเรือ! ตามหาประชาธิปไตย #เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ" ณ ลาน 70 ปี โรงเรียน # เกียมอุดม อีกด้วย

ที่มา เพจ เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ

#roundtablethailand
Roundtablethailand.com

 

Y-cut แสดงการบิดของแม่เหล็กอย่างรุนแรงและการบีบอัดที่รุนแรง Planet X และ Earth ได้ทำการปรับแนวจากต้นทางถึงปลายทาง (end-to-end) เป็นการชั่วคราว

 

แรงงานไทยพบติดเชื้อจากไต้หวัน ทางกรมควบคุมโรคไม่ตัดความเป็นไปได้เรื่องติดในประเทศ

ล่าสุดวันนี้ทั้งทางไทยและไต้หวันเองประกาศว่ามีแรงงานไทยเพศชาย1 รายวัย30ปี เดินทางกลับจากไต้หวันเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ก่อนขึ้นเครื่องไม่พบว่ามีอาการติดเชื้อใดๆ อีกทั้งไม่มีอาการบ่งชี้ใดๆ

เมื่อถึงไทยได้มีการเข้าขั้นตอนคัดแยกกักกันโรค วันที่25ก.ค. ผลตรวจออกมาว่าพบติดเชื้อโควิด ทางการไทยได้แจ้งให้ไต้หวันและผู้เกี่ยวข้องทราบ

วันนี้ทางกรมcdc มีการแถลงสดเกี่ยวกับแรงงานไทยในกรณีนี้ว่า: “ตอนนี้ไม่มีการกักตัวผู้เกี่ยวข้องและผู้ใกล้ชิดทั้งหมด และได้ติดตามย้อนหลังว่าแรงงานไทยรายนี้ไปที่ใดบ้าง ตอนนี้ยังไม่ตัดความเป็นไปได้เรื่องมีการติดเชื้อในประเทศ”

ชาวไต้หวันแสดงความไม่พอใจและตั้งข้อสงสัยต่อการทำงานของกรมควบคุมโรค มีการแสดงความเห็นว่า “นี่ครั้งที่2แล้ว ทำไมชาติอื่นตรวจเจอ อยู่ในบ้านเราแท้ๆกลับไม่รู้เรื่อง”

และช่วงเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีแรงงานชาวเวียดนามกว่า30รายลักลอบเข้ามาผิดกฎหมายโดยทางเรือ ถูกตรวจพบก่อน โดยแรงวานพวกนี้เสียค่าหัวให้นายหน้าถึง10,000 ดอลล่าร์สหรัฐ แถมพวกนี้ไม่ผ่านการตรวจโรคอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาช่วงโควิดทางไต้หวันได้ตรวจเจ้มเกี่ยวกับแรงวานผิดกฎหมาย พบมากถึง7000กว่าราย ในการส่งตัวกลับ ตอนนี้ที่น้าเป็นห่วงคือแรงงานที่เข้ามาผิดกฎหมายพวกนี้ จะนำเชื้อโควิดมาด้วยหรือไม่ เพราะทางเวียดนามเองตอนนี้ก็พบว่ามีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเป็นรายแรกเช่นกัน

ถึงแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะต่ำมาก แต่เราไม่รู้เลยว่ามีใครติดหรือเป็นโรคโดยไม่มีอาการหรือไม่ ดังเช่นเคสนักเรียนชาวญี่ปุ่นที่เรียนที่เกาสงและเมื่อเดินทางกลับโตเกียวพบติดเชื้อ และล่าสุดแรงงานไทยคนนี้เช่นกัน ทั้งสองรายไม่มีอาการใดๆเลย อีกทั้งหลายเดือนที่ผ่านมาก็ใช้ชีวิตในไต้หวันปกติ

ถึงเวลาแล้วรึยังที่จะมีการตรวจระดับเขตหรือพื้นที่ เพราะจะมั่นใจได้อย่างไรว่าไม่มีใครในละเเวกบ้านเราติดโควิดแต่ไม่แสดงอาการ?? ระยะฟักตัว การแสดงอาการแต่ละคนไม่เท่ากัน

รอทางกรมควบคุมโรคประกาศอีกทีว่าผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมีติดไหม เพื่อนแรงงานที่พักด้วยกันติดไหม?? ถ้าไม่พบผู้ติดเชื้อคงต้องมาดูกันว่าผลตรวจครั้งนี้มีความผิดพลาดไหม และเป็นไปได้รึไม่ว่าอาจจะติดจากที่ถึงไทยแล้ว?? รอดูต่อไป

 

สื่อสหรัฐรายงานว่า เจ้าหน้าสหรัฐจำนวนหนึ่งได้เข้าไปในสถานกงสุลใหญ่จีนในฮิวสตัน หลังจากที่ถูกสหรัฐสั่งปิด

กระทรวงการต่างประเทศจีนประณามการกระทำนี้ของสหรัฐในแถลงการณ์ที่ออกเมื่อวันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม

เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยเมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 24 ว่า สถานกงสุลใหญ่จีนในฮิวสตัน เมืองทางใต้ของสหรัฐได้ถูกปิดไปแล้ว

สื่อรายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐได้งัดเปิดประตูหลังของอาคารสถานกงสุลใหญ่แล้วเข้าไปในนั้น หลังเลยกำหนดเส้นตายที่สหรัฐกำหนดไว้ ณ เวลา 16.00 น. ของวันศุกร์ที่ 24

แถลงการณ์โดยกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า ตามอนุสัญญาเวียนนาและข้อตกลงกงสุลทวิภาคี การเข้าไปเช่นนี้ไม่ได้รับอนุญาตไม่ว่าด้วยวิธีการเช่นใดก็ตาม และเสริมว่า จีนขอแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงและขอแสดงการคัดค้าน

อนุสัญญาเวียนนานั้นมีข้อกำหนดเรื่องการปกป้องสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุล

ก่อนหน้านี้ จีนได้สั่งให้สหรัฐปิดสถานกงสุลใหญ่ของสหรัฐในเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวนของจีน

สื่อจีนพากันรายงานว่า ปฏิบัติการนี้นั้นมองกันในวงกว้างว่า เป็นการเตรียมการสำหรับการปิดสถานกงสุลใหญ่สหรัฐในเมืองนี้ และรายงานว่า มีการส่งตำรวจเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ที่ถนนด้านหน้าสถานกงสุลใหญ่สหรัฐแห่งนี้ขณะเดียวกันก็มีรถบัสขนาดใหญ่และรถบรรทุกจำนวนหนึ่งวิ่งเข้าออกสถานที่แห่งนี้

ติดตามรายละเอียดของข่าวอื่น ๆ ได้ที่นี่
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/

 

ป้ายรถเมล์ในฝันของใครหลายๆคน คงจะเกิดขึ้นจริงได้ในไม่ช้า หลังมีข่าวว่า กทม.ได้เตรียมเปิดตัวศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทางโฉมใหม่สุดทันสมัย ที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ต้องมายืนรอรถเมล์อย่างไร้ความหวังอีกต่อไป เพราะสามารถเช็กระยะเวลารถมาได้ ผ่านทางแอปพลิเคชั่นในมือถือ
.
ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ที่มาของโครงการศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทาง เกิดจาก กทม. จัดเก็บข้อมูลความเดือดร้อนของประชาชน พบว่าไม่ได้รับความสะดวกจากการใช้ป้ายรถโดยสารประจำทางแบบเก่า ทั้งเป็นห่วงในเรื่องของความไม่ปลอดภัย รองลงมาไม่มีที่นั่งเพียงพอ ไม่มีที่บังแดด บังฝน ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางสายรถเมล์ หรือจุดเชื่อมรถโดยสาร โดยโครงการนี้จะมีบริษัทเอกชนเป็นผู้รับผิดชอบปรับปรุง และสร้างป้ายรถเมล์อัจฉริยะ ซึ่งจะได้สิทธิสัมปทานโฆษณาบริเวณป้ายรถโดยสารประจำทางเป็นระยะเวลา 10 ปีเต็ม
.
ขณะนี้เอกชนได้กำหนดส่งมอบศาลาที่พักผู้โดยารรถประจำทางครบทั้งหมด 350 หลัง ภายในเดือน เม.ย.ปี 64 โดยป้ายแรกจะติดตั้งเสร็จในวันที่ 30 ก.ค.นี้ ณ บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพระราม 9 นอกจากนี้กทม. ยังมีแผนที่จะพัฒนาศาลาที่พักผู้โดยสารต่อเนื่องอีก 2,650 ที่เหลืออีกด้วย
.
รายละเอียป้ายรถเมล์อัจฉริยะ จะแบ่งเป็น 2 แบบ คือ แบบ Full Function จำนวน 100 หลัง และแบบ Light Function จำนวน 250 หลัง โดยแบบ Full Function ประกอบไปด้วยจอแสดงผลขนาด 55 นิ้ว บอกข้อมูลข่าวสาร กทม. รวมทั้งข้อมูลเส้นทางเดินรถ จุดเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนอื่น ๆ และใช้เวลากี่นาทีกว่าที่รถจะมาถึง ณ จุดที่ยืนรอ ผ่านศูนย์ควบคุมระบบ Smart Bus Shelter เชื่อมต่อระบบเข้ากับระบบ GPS ที่ติดตั้งอยู่ในรถประจำทางของ ขสมก.
.
จากนั้นจะส่งสัญญาณมายังศาลาที่พักผู้โดยสาร เพื่อแสดงผลไปยังจอภาพ และเมื่อรถมาถึงจะมีระบบไวไฟ (Wifi Router) เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ท มีระบบกล้องซีซีทีวี(CCTV) แสงไฟส่องสว่าง และที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ(USB Charger) ส่วนแบบ Light Function จะมีอุปกรณ์เหมือนแบบ Full Function ยกเว้นไม่มีตัวจอ แสดงผลขนาด 55 นิ้วและระบบไวไฟ(Wifi Router) ไว้คอยให้บริการ นอกจากนี้บริษัทเอกชน ยังได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า Citygo ไว้คอยบอกระยะเวลาการมาถึงของรถโดยสารประจำทาง ผ่านโทรศัพท์มือถืออีกด้วย
.
สำหรับแผนก่อสร้างศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทางแบบ Full Fuction ระยะเวลาดำเนินงาน 90 วัน จะทั้งหมด 10 หลัง ได้แก่ บริเวณถนนรัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง 5 จุด ประกอบด้วย ป้ายหน้าอาคารเมืองไทยภัทรคอมเพล็กซ์ ,ป้ายตรงข้ามรัชดาภิเษกซอย 3 (ตรงข้ามอาคารสินมั่นคงเคหะการเลยซอย 4 ), ป้ายหน้าโรงแรมสวิสโฮเต็ลเลอคองคอร์ดก่อนถึงรัชดาฯซอย 12 ,ป้ายหน้าโรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ(รัชดาภิเษกซอย 10) และป้ายตรงข้ามจัสโก้รัชดา /บริเวณถนนพระราม9 เขตห้วยขวาง 4 จุด ประกอบด้วย ป้ายจูเลียน่า ,ป้ายตรงข้ามปากทางเข้าซอยศูนย์วิจัย 4, ป้ายหน้าเจอร์นาลิสท์ และป้ายพระราม 9 ซอย 5 /บริเวณถนนพระราม9 เขตบางกะปิ 1 จุดคือป้ายซอยพระราม9 ซอย4
.
ส่วนศาลาที่พักผู้โดยสารแบบ Light Function จะมีทั้งหมด 20 หลัง ได้แก่ บริเวณถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง ประกอบด้วย ป้ายหน้าศึกษาภัณฑ์ และป้ายหน้าโรงพยาบาลลาดพร้าว / บริเวณถนนรามคำแหง เขตบางกะปิ ประกอบด้วย ป้ายหน้าร้านอาหารวังบัว, ป้ายก่อนถึงวัดศรีบุญเรือง, ป้ายตรงข้ามวัดศรีบุญเรือง, ป้ายก่อนถึงซอยรามคำแหง 117 , ป้ายเลยซอยรามคำแหง 78 , ป้ายเลยซอยรามคำแหง 111 ป้ายหน้าสวนอาหารใกล้บ้าน, ป้ายปากซอยรามคำแหง 76 ,ป้ายบริเวณอาคารเลขที่ 306/12(เยื้องห้างคาร์ฟูรามคำแหง) และป้ายใกล้ซอยรามคำแหง 42 บริเวณถนนศรีนครินทร์ ประกอบด้วย ป้ายบริเวณเยื้องซอยศรีนครินทร์ 25 ,ป้ายหน้าบริษัทกรีนสปอต ,ป้ายใกล้ปั๊มเอสโซ่(ทางออกปั๊มเยื้องบริษัทกรีนสปอต) และป้ายก่อนทางเข้าถนนกรุงเทพกรีฑา / บริเวณถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เขตห้วยขวาง ประกอบด้วย ป้ายหน้าอาคารบางกอกทาวเวอร์ และป้ายหน้าอาคารอิตัลไทย

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.dailynews.co.th/bangkok/786859
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

คณาจารย์นิติศาสตร์ มธ. ออกแถลงการณ์เรียกร้อง “อสส.-สตช.” เปิดขั้นตอนการดำเนินการคดีอาญา “ทายาทกระทิงแดง” โดยละเอียด พร้อมอธิบายเหตุผล “คดีที่ขาดอายุความ-ใช้ดุลพินิจไม่ฟ้องคดีอาญา” พร้อมตรวจสอบ การใช้ดุลพินิจไม่ฟ้องฯ “ถูกต้องตามกฎหมาย สุจริตและโปร่งใสหรือไม่” จี้หากพบขั้นตอนใดไม่เป็นไปตามกฎหมาย ไม่สุจริต หรือไม่โปร่งใส ให้พิจารณาดำเนินการและใช้ดุลพินิจใหม่ให้ถูกต้อง

อ่านต่อ > https://news1live.com/detail/9630000076834
............................................
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO