ติดตามสถานะการณ์

สื่อต่างประเทศรายงานสถานการณ์ล่าสุด จากวงประชุมผู้นำ 27 ชาติของสหภาพยุโรป หรือ EU โดยระบุว่า EU ได้บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโรแล้ว เพื่อช่วยเยียวยาเศรษฐกิจอียู จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เรียบร้อยแล้ว
.
ซึ่งการประชุมผู้นำ EU ครั้งนี้เริ่มต้นตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา จนกระทั่งทุกฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในช่วงเช้าวันนี้ โดยที่ประชุมมีมติอนุมัติเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจ EU ในวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร ผ่านการระดมทุนด้วยการออกตราสารหนี้ เพื่อรับมือกับเศรษฐกิจที่ทรุดตัวลงหนักสุดนับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ หรือ Great Depression อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
.
นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป Ec ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU เป็นผู้ประกาศความสำเร็จในการบรรลุข้อตกลงดังกล่าว โดยเขาได้ทวีตข้อความสั้นๆ ว่า " Deal! "
.
ขณะที่นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน กรรมาธิการ Ec ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU ได้ทวีตข้อความเป็นเชิงส่งสัญญาณในช่วงเช้าวันนี้ว่า "หลังจากที่การเจรจาอันเข้มข้นผ่านพ้นไปเป็นเวลาหลายวัน ก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการประนีประนอมกันอย่างสร้างสรรค์ พลเมืองยุโรปกำลังรอคอยแผนฟื้นฟูฉบับนี้ และทั่วโลกกำลังจับตา"

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.telegraph.co.uk/news/20...750-billion-coronavirus-rescue-fund-marathon/

https://financialpost.com/pmn/busin...t-2/wcm/96057532-9762-4102-b6b6-6c94c8585b68/

https://www.smh.com.au/world/europe...ry-after-marathon-summit-20200721-p55e27.html

https://www.thansettakij.com/conten...m_medium=internal_referral&utm_campaign=world
-------------------------------

 

Elon Musk อัปเดตโปรเจ็กต์ ‘Neuralink’ ฝังขั้วไฟฟ้า ส่งดนตรีถึงสมองไม่ผ่านหู และอาจแก้ปัญหาซึมเศร้า
.
Elon Musk ซีอีโอแห่ง Tesla ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักธุรกิจไฮเทค เจ้าของฉายา ‘ไอรอนแมน Iron Man’ ในโลกความเป็นจริง เพราะเขาคิดนวัตกรรมใหม่ๆอยู่เสมอ และแน่นอนว่าส่วนใหญ่ธุรกิจที่เขาทำก็ล้วนเกี่ยวข้องกับนวัตกรรมและสิ่งไฮเทค อย่าง Neuralink เชื่อมต่อสมองมนุษย์กับคอมพิวเตอร์โดยตรงผ่านการเลเซอร์เจาะรูเล็กๆ บนกะโหลกศีรษะ จากนั้นฝังขั้วไฟฟ้าในสมอง ทำหน้าที่รับสัญญาณจากเซลล์ประสาท เพื่อส่งไปยังคอมพิวเตอร์โดยตรง โดยเขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งโปรเจกต์
.
Neuralink ถือเป็นโปรเจกต์สุดล้ำ หากทำได้จริง เราคงได้เห็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือ AI ปัญญาประดิษฐ์มีความสามารถเทียบเท่ากับมนุษย์จริงๆ เพราะผ่านการประมวลผลจากสมองมนุษย์โดยตรง แต่ในตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดมากนักเกี่ยวกับโครงการ คงต้องรอให้ถึง 28 สิงหาคม ตามที่ Elon Musk เพิ่งประกาศออกมาว่า จะเปิดเผยรายละเอียดความคืบหน้าเกี่ยวกับ Neuralink ในวันนั้น
.
ดูเหมือนว่า Musk ได้เผยบางอย่างผ่าน Twitter เมื่อ Austin Howard นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ทวีตถามเขาว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่วันหนึ่ง เราสามารถฟังเพลงโดยไม่ต้องใส่หูฟัง หรือแม้แต่ผ่านหูของเราด้วยซ้ำ แต่เพลงเข้าสู่สมองโดยตรงผ่านอุปกรณ์ในลักษณะเดียวกับ Neuralink โดยตอบสั้นๆ ว่า ‘ได้’ แม้ยังไม่มีรายละเอียดใดๆออกมาก็ตาม

นอกจากนี้เมื่อมีผู้ใช้ Twitter อีกรายหนึ่งตั้งคำถาม ‘Neuralink สามารถช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเคมีในร่างกาย หรือไม่? เช่น ฮอร์โมนออกซิโทซิน - ฮอร์โมนแห่งความรัก มีมากในเพศหญิง และ สารสื่อประสาทเซโรโทนิน เกี่ยวข้องกับโรคซึมเศร้า ถ้าเซโรโทนินในร่างกายไม่สมดุล ตามหลักฐานที่ชี้จากงานวิจัยหลายชิ้น’ ซึ่ง Musk ก็ตอบว่า ‘ได้’ เช่นกัน
.
ทั้งนี้การปลูกถ่ายสมอง หรือการฝังอุปกรณ์กระตุ้นไฟฟ้าในสมองของมนุษย์ เคยมีใช้มาก่อนหน้านี้ แต่ใช้ในจุดประสงค์รักษาผู้ป่วยด้านสมองและพาร์กินสัน เนื่องจากเซลล์ประสาทเสียหายหรือเสื่อม
.
อ้างอิงจาก:

https://futurism.com/the-byte/elon-musk-neuralink-stream-music-brians
https://futurism.com/elon-musk-neuralink-human-brain-implant
https://futurism.com/the-byte/elon-musk-teases-major-neuralink-reveal
https://futurism.com/the-byte/elon-musk-neuralink-use-lasers-drill-holes-skull

#OnUFO #ElonMusk #Neuralink #BrainImplant

 

จีนโดนรุม! UK ชาติล่าสุด
ระงับสนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกง
ตอบโต้ปักกิ่งออก กม.ความมั่นคง
.
สหราชอาณาจักรในวันจันทร์ (20 ก.ค.) จะระงับสนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกง ในข้อพิพาทที่ลุกลามบานปลายระหว่างพวกเขากับจีน ต่อกรณีที่ปักกิ่งบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงในอดีตอาณานิคมของสหราชอาณาจักร
.
โดมินิก ราบ รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักรบอกกับรัฐสภา ว่า สนธิสัญญาจะถูกระงับในทันที และมาตรการปิดล้อมด้านอาวุธ(arms embargo) จะขยายครอบคลุมฮ่องกงด้วย
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000074517
#จีนโดนรุม #สหราชอาณาจักร #ระงับสนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกง

 

Jul 21 , 2020 KTB ประเมินโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" ช่วยดันเม็ดเงินท่องเที่ยว 3.55-6.17 หมื่นล้านบาท แต่เทียบกับรายได้ท่องเที่ยวกว่า 9.5 แสนล้านบาท ที่จะหายไปช่วงครึ่งปีหลังไม่ได้ พร้อมคาดว่าปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติจะหดตัวถึง 80%
.
ศูนย์วิจัยกรุงไทย คอมพาส(Krungthai COMPASS) ธนาคารกรุงไทย หรือ KTB เปิดเผยผ่านเอกสารเผยแพร่ว่า โครงการ"เราเที่ยวด้วยกัน"จะช่วยหนุนเม็ดเงินท่องเที่ยว 3.55-6.17 หมื่นล้านบาท ผ่านการสนับสนุนงบประมาณโดยภาครัฐกว่า 22,400 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่มีมูลค่าเป็นสัดส่วนกว่า 89% ของแพ็คเกจกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งหมด
.
ทั้งนี้ Krungthai COMPASS ได้ประเมินเม็ดเงินท่องเที่ยวจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายใต้โครงการดังกล่าว เป็น 2 กรณี ดังนี้
.
1. Base Case คนใช้จ่ายค่าที่พักตามปกติ : ประเมินว่า หากไม่รวมค่าใช้จ่ายของการเดินทางด้วยเครื่องบิน ผลของมาตรการ “เราเที่ยวด้วยกัน” จะก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดไปยังธุรกิจบริการท่องเที่ยวมูลค่าประมาณ 3.55 หมื่นล้านบาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายด้านที่พักที่มูลค่า 1.13 หมื่นล้านบาท
.
2 Best Case คนจ่ายค่าที่พักแพงสุดเท่าที่จะได้รับส่วนลดจากมาตรการ (ต้องจ่ายค่าห้องพัก 7,500 ต่อคืน จึงจะได้ส่วนลดเต็มอัตราที่ 3,000 บาทต่อคืน) ในกรณีนี้ประเมินว่า หากไม่รวมค่าใช้จ่ายของการเดินทางด้วยเครื่องบิน จะก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดไปยังธุรกิจบริการท่องเที่ยวมูลค่าประมาณ 6.17 หมื่นล้านบาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายด้านที่พักที่มูลค่า 3.75 หมื่นล้านบาท
.
โดยภาพรวมจะชดเชยรายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไปได้เพียง 3.7-6.4% แม้เราประเมินว่ามาตรการอุดหนุนการท่องเที่ยวในประเทศของภาครัฐจะทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 3.6-6.2 หมื่นล้านบาท แต่หากเทียบกับรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะหายไปกว่า 9.5 แสนล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลัง ถือว่าเป็นตัวเลขที่ห่างกันมากพอสมควร อีกทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวครึ่งปีหลัง อาจหดตัวมากกว่า 94% จากปีก่อน หรือมีไม่ถึง 1.2 ล้านคน
.
ซึ่งรายได้จากการท่องเที่ยวถือเป็นรายได้หลักของเศรษฐกิจไทย โดยในปี 2562 มีสัดส่วนถึง 16% ของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ GDP โดยเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 10% ของ GDP หรือ คิดเป็น 61% จากรายได้ท่องเที่ยวทั้งหมด
.
ส่วนในปี 2563 นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่สามารถมาเที่ยวไทยได้ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จึงประเมินว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะหดตัวถึง 80% หรือมีจำนวน 8.1 ล้านคน ซึ่งลดลงจากปี 2562 ที่มีจำนวน 39.8 ล้านคน
.
#KTB #กรุงไทย #Misterban #ท่องเที่ยว #ไวรัสโควิด19

 

Apple ประกาศแผนการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวทางสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนในทุกภาคส่วน โดยมีเป้าหมายว่าภายในปี 2030 ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของ Apple จะต้องส่งผลกระทบเป็นศูนย์ต่อสภาพอากาศ (Zero Emission) พร้อมสนับสนุนชุมชนพลังงานแสงอาทิตย์ในไทย และฟิลิปปินส์

ทิม คุก ซีอีโอ แอปเปิล ระบุว่า การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจมีโอกาสร่วมกันสร้างอนาคตที่มีความยั่งยืน และให้ความใส่ใจในโลกที่อาศัยอยู่ร่วมกัน

"นวัตกรรมที่อยู่เบื้องหลังเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม ไม่เพียงสร้างประโยชน์ให้โลกเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ประหยัดพลังงานในการผลิต และมอบแหล่งพลังงานสะอาดไปทั่วโลก โดยทางแอปเปิลหวังว่า ด้วยความมุ่งมั่นด้านความเป็นกลางทางคาร์บอนนี้จะช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้"

เบื้องต้น แอปเปิล ได้ออกรายงานความก้าวหน้าด้านสิ่งแวดล้อมปี 2020 เกี่ยวกับแนวทางรักษาความเป็นกลางทางคาร์บอนพร้อมกับแผนการณ์ดำเนินงานของบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีรายละเอียดที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลง 75% ภายในปี 2030 เพื่อกับพัฒนานวัตกรรมลดคาร์บอนฟุตพรินท์โดยรวมที่เหลืออีก 25%

***เน้นวัสดุรีไซเคิล-พลังงานหมุนเวียน

สำหรับโร้ดแมปที่จะมุ่งหน้าสู่การเป็นบริษัทที่ส่งผลกระทบเป็นศูนย์ต่อสภาพอากาศภายในปี 2030 นั้น ได้เริ่มดำเนินการมาสักพักแล้ว อย่างการออกแบบผลิตภัณฑ์ซึ่งใช้วัสดุที่ปล่อยคาร์บอนน้อยลง และสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ทั้งหมด

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล ไม่ว่าจะเป็น iPhone iPad Mac และ Apple Watch ที่วางจำหน่ายในปีที่ผ่านมานั้นถูกผลิตขึ้นจากวัสดุรีไซเคิลได้ รวมถึงแร่ธาตุโลหะหายากที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ด้วย

ทำให้ในปี 2019 ที่ผ่านมา แอปเปิล สามารถลดการสร้างคาร์บอนได้ 4.3 ล้านเมตริกตัน และจากการปรับปรุงการออกแบบ และนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้งานทำให้ในช่วง 11 ปีที่ผ่านมาลดการใช้พลังงานเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ลงได้ถึง 73%

นอกจากนี้ แอปเปิล ยังได้มีการนำหุ่นยนต์มาใช้ในด้านการรีไซเคิล อย่างหุ่นยนต์ เดฟ ที่สามารถแยกชิ้นส่วน Taptic Engine ใน iPhone เพื่อนำแม่เหล็ก และทังเตนที่เป็นโลหะหายากกลับมาใช้ใหม่ และหุ่นยนต์รุ่นใหม่ เดซี่ ที่จะสามารถแยกชิ้นส่วน iPhone ได้ทั้งเครื่อง

ถัดมาคือด้านพลังงาน ด้วยการหาแนวทางในการลดการใช้พลังงานในอาคาร โดยในปีที่ผ่านมาแอปเปิล ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านพลังงานให้กับอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ในพื้นที่ 6.4 ล้านตารางฟุต สามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 1 ใน 5 ช่วยประหยัดเงินให้แก่แอปเปิลถึง 27 ล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ยังเข้าไปจับมือเป็นพันธมิตร US-China Green Fund เพื่อให้เงินสนับสนุน 100 ล้านดอลลาร์ แก่โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านพลังงานแบบเร่งด่วนให้ซัพพลายเออร์ของแอปเปิล ซึ่งมีอาคารกว่า 92 แห่งในปี 2019 ที่เข้าร่วม และลดการปล่อยคาร์บอนลงไปกว่า 779,000 เมตริกตันต่อปี

***ขยายโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในไทย

อีกหนึ่งเป้าหมายที่ แอปเปิล วางไว้คือการรักษาระดับการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% พร้อมทำงานร่วมกับซัพพลายเชนทั้งหมดในการเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาดแทน โดยปัจจุบันมีซัพพลายเออร์กว่า 70 รายที่เข้าร่วมในโครงการนี้ เทียบเท่ากับพลังงานเกือบ 8 กิกะวัตต์ที่ใช้ในกระบวนการผลิต ซึ่งหากเสร็จสมบูรณ์ จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 14.3 ล้านเมตริกตันต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการนำรถยนต์ออกจากท้องถนน 3 ล้านคันในแต่ละปี

โดยที่ปัจจุบัน แอปเปิล มีแหล่งพลังงานหมุนเวียนในแอริโซนา ออริกอน และอิลลินอยส์ ที่ป้อนให้แก่การใช้งานของบริษัทกว่า 1 กิกะวัตต์ เทียบเท่าพลังงานที่จ่ายให้แก่บ้านเรือน 150,000 หลังในแต่ละปี

นอกจากนี้ ยังเตรียมที่จะเปิดใช้งานแผงโซลาร์เซลล์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสแกนดิเนเวีย รวมทั้งสองโครงการใหม่ที่ให้พลังงานแก่ชุมชนที่ขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าในฟิลิปปินส์ และไทย

สำหรับโครงการในประเทศไทยนั้น ทางแอปเปิล จะเข้าไปสนับสนุนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ และการเก็บรักษาการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่ชุมชนชาวประมงบนเกาะจิก จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นชุมชนขนาด 100 ครัวเรือน มีประชากรอยู่อาศัย 400 คน

พร้อมกันนี้ แอปเปิล ได้เริ่มลงทุนในเรื่องการปลูกป่า และเข้าไปให้เงินสนับสนุนกองทุนเพื่อการแก้ปัญหาคาร์บอน เพื่อให้นำไปใช้ในการฟื้นฟู และพิทักษ์ป่า และระบบนิเวศทางธรรมชาติทั่วโลก

-------------------------------
แหล่งข่าว
- https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9630000074878
-------------------------------

 

วันนี้มีรายงานจากสื่อต่างประเทศระบุว่า สหภาพครูรัฐฟลอริดาได้ยื่นฟ้องผู้ว่าการรัฐ และหน่วยงานอื่นๆ ให้ยกเลิกแผนเปิดโรงเรียนในเดือนสิงหาคม เนื่องจากขณะนี้รัฐฟลอริดากำลังเป็นศูนย์กลางการระบาดของสหรัฐ
.
โดย คำฟ้องดังกล่าวได้ขอให้ผู้ว่าการรัฐ คณะกรรมการการศึกษาของรัฐ และนายกเทศมนตรีของไมอามี หยุดการบังคับให้นักเรียน และพนักงานของโรงเรียนรัฐบาลจำนวนนับล้านคน ที่ต้องเผชิญความไม่ปลอดภัยโดยไม่จำเป็น ทางสมาคมการศึกษาของฟลอริดา ซึ่งเป็นตัวแทนครู 140,000 คน ระบุว่า ธรรมนูญของรัฐฟลอริดา กำหนดให้โรงเรียนต้องจัดให้มีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย แต่การกลับมาระบาดอีกครั้งของโรคโควิด-19 ในขณะนี้ชัดเจนว่าไม่สามารถควบคุมได้
.
นับจนถึงวันจันทร์ ที่รัฐฟลอริดามีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ ถึง 10,347 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 90 คน ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 5,072 คน ขณะที่มีผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล มากกว่า 9,500 คน โดยมีเตียงผู้ป่วยหนักว่างอยู่เพียง 18 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
.
ซึ่งทางด้าน ศูนย์ควบคุม และป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ ได้มีการเผยแพร่งานวิจัยล่าสุด ผ่านวารสารโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ (Emerging Infectious Diseases) ได้ระบุว่า เด็กอายุระหว่าง 10-19 ปี สามารถแพร่กระจายโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ภายในครัวเรือนได้มากเท่าผู้ใหญ่
.
ส่วนทางด้านคณะนักวิจัยจากศูนย์ควบคุม และป้องกันโรคแห่งเกาหลีใต้ (KCDC) ได้วิเคราะห์รายงานผู้มีประวัติติดต่อใกล้ชิด 59,073 ราย ของผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 5,706 ราย ในเกาหลีใต้ระหว่างวันที่ 20 ม.ค.-27 มี.ค. และพบว่าร้อยละ 11.8 ของผู้มีประวัติติดต่อใกล้ชิดภายในครัวเรือน 10,592 ราย ป่วยด้วยโรคโควิด-19 โดยอัตราการติดเชื้อของผู้มีประวัติติดต่อใกล้ชิดกับเด็ก สูงกว่าผู้ใหญ่ ขณะร้อยละ 1.9 ของผู้มีประวัติติดต่อใกล้ชิดนอกครัวเรือน 48,481 ราย ป่วยโรคโควิด-19
.
อีกทั้ง คณะนักวิจัยยังพบอัตราการป่วยโรคโควิด-19 สูงสุดที่ร้อยละ 18.6 ในกลุ่มผู้มีประวัติติดต่อใกล้ชิดภายในครัวเรือนของเด็กวัยเรียน และอัตราการป่วยต่ำสุดที่ร้อยละ 5.3 ในกลุ่มผู้มีประวัติติดต่อใกล้ชิดภายในครัวเรือนของเด็กอายุ 0-9 ปี ในช่วงปิดภาคเรียน “อัตราการป่วยของผู้มีประวัติติดต่อใกล้ชิดกับเด็กนั้น สูงกว่าผู้ใหญ่ ความเสี่ยงเหล่านี้สะท้อนให้เห็น ถึงการแพร่ระบาดในระยะลดผลกระทบ (mitigation) และอาจอธิบายลักษณะการเปลี่ยนแปลงของการระบาดในช่วงปิดภาคเรียนได้”

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://timesofindia.indiatimes.com...nings-as-virus-rages/articleshow/77077889.cms

https://www.politico.com/states/flo...istances-himself-from-school-openings-1302355

https://www.wdrb.com/news/national/...cle_a626192e-cae9-11ea-ac75-2732861ec223.html

https://www.japantimes.co.jp/news/2020/07/19/asia-pacific/coronavirus-teens-tweens-south-korea/

https://www.mcot.net/viewtna/5f169a4be3f8e40af846ca5b

https://www.thansettakij.com/conten...m_medium=internal_referral&utm_campaign=world
-------------------------------

 

บลูมเบิร์กห่วงไทยเปลี่ยนขุนพลศก.ช่วงวิกฤติ

สื่อนอกรายงาน ไทยกำลัง เปลี่ยน 2 ขุนพลเศรษฐกิจในช่วงที่เกิดวิกฤติครั้งรุนแรงสุด ทำให้นโยบายมีความเสี่ยงไม่แน่นอนยิ่งขึ้น

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานวานนี้ (20 ก.ค.) ว่า นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลาออกเมื่อ วันที่ 16 ก.ค. ก่อนการปรับคณะรัฐมนตรี ขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็กำลังหาคนมาเป็นผู้ว่าการคนใหม่ต่อจากนายวิรไท สันติประภพ ที่ไม่รับตำแหน่งต่ออีกวาระ การคัดเลือกอยู่ในขั้นสุดท้ายแต่การปรับ ครม.อาจทำให้กระบวนการล่าช้าออกไป

บลูมเบิร์กระบุ การเปลี่ยนแปลงนี้ เกิดขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจโลกผันผวน กว่าเดิม เศรษฐกิจไทยที่พึ่งพาการส่งออกและท่องเที่ยวดิ่งหนักมากที่สุดประเทศหนึ่ง ในเอเชีย ทั้ง รมว.คลังและผู้ว่าฯ ธปท. ช่วยกำหนดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อช่วยลดความเสียหายทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 ระบาด และ นักลงทุนก็อยากให้งบประมาณเหล่านี้ นำไปใช้เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ

"เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญเปลี่ยนผ่านจากการล็อกดาวน์กลับมาทำธุรกิจ อีกครั้ง ดังนั้นการมีนโยบายที่ต่อเนื่องจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่งในการพยุงเศรษฐกิจที่เสียหายหนักจากการระบาด เพราะฉะนั้นยิ่งหาคนมารับหน้าที่ใหม่ได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี" นายวศิน วณิชย์วรนันต์ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด กล่าวกับบลูมเบิร์ก

บลูมเบิร์กรายงานด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไม่ควรเกิดขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี ธปท.คาดการณ์ว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะหดตัว 8.1% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ทางการของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทุกประเทศ ส่วน ธปท.เอง ก็ต้องรับมือกับค่าเงินผันผวนกระทบ การส่งออก และกำลังหาวิธีการใหม่ๆ มาหนุนเศรษฐกิจเนื่องจากขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินแบบที่เคยทำมาใช้ไปหมดแล้ว

นางสาวรธิกา รา นักเศรษฐศาสตร์จาก ดีบีเอส กรุ๊ป โฮลดิงส์ในสิงคโปร์ เผยว่า ตลาดกำลังมองหาคนที่เหมาะสมมารับตำแหน่ง

"ด้วยกรอบมาตรการกระตุ้นทาง การคลังเพื่อรับมือโรคระบาด รมว.คลังคนใหม่ มีแนวโน้มว่า จะให้ความสำคัญกับการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก ผ่านการสนับสนุนจากรัฐบาลมากขึ้นและอุปสงค์ที่สูงขึ้น เนื่องจากภาคต่างประเทศจะเดินหน้าได้จำเป็นต้องรอให้เศรษฐกิจโลก ฟื้นตัวและเปิดพรมแดนระหว่างประเทศส่วนตำแหน่งผู้ว่า ธปท.แม้นักลงทุนจะมีความหวังจากข้อเท็จจริงที่ว่า ผู้ว่าฯ คนใหม่ จะเป็นคนมีชื่อเสียงมีคุณสมบัติพร้อม แต่เชื่อว่าความยากลำบากรออยู่ข้างหน้า

นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด กล่าวว่า การที่เงินบาทออกค่าแสดงว่าตลาดกังวลเรื่องโรคระบาดและการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ที่ส่งผลต่อตลาดเงิน ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ

ด้านนายวิน พรหมแพทย์ ประธาน เจ้าหน้าที่การลงทุนบริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุน พรินซิเพิล สิ่งที่ รมว.และผู้ว่าฯ คนใหม่จำเป็นต้องรับมือถือเป็น งานหิน "ธปท.มีขีดความสามารถในการดำเนิน นโยบายการเงินจำกัด และจำเป็นต้องจัดการกับหนี้เสียที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคตข้างหน้า ขณะเดียวกัน ภารกิจของรัฐมนตรีคลังที่จำเป็นต้องส่งเสริมเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ก็ยากมากเช่นกัน"

Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

เพิ่มเติม
- Thailand Seeks New Economic Chiefs During Worst Crisis
https://www.bloomberg.com/news/arti...ng-top-economic-officials-during-worst-crisis

 

จีนเลือก ‘อียิปต์’ เป็นศูนย์กลางการผลิตวัคซีนโควิด-19 สำหรับทวีปแอฟริกา
.
1/ กระทรวงสาธารณสุขของอียิปต์แถลงล่าสุดว่า จีนเลือกอียิปต์เป็นศูนย์กลางการผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 สำหรับทวีปแอฟริกาทันทีที่จีนพัฒนาวัคซีนสำเร็จ
.
2/ เรื่องนี้มีการหารือกันอย่างเป็นทางการมาก่อนแล้วระหว่าง ดร. ฮาลา ซาเยด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของอียิปต์ กับนายเลี่ยว ลี่เฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำอียิปต์
.
3/ การหารือนั้น พูดถึงความร่วมมือระหว่างศูนย์วัคซีนแห่งชาติ ของกระทรวงสาธารณสุขอียิปต์ และบริษัทผู้ผลิต ทดลอง และพัฒนาวัคซีนของจีน เพื่อปูทาง เตรียมความพร้อมการผลิตวัคซีนในอียิปต์ทันทีที่วัคซีนของจีนผ่านการทดสอบ ผ่านการพิสูจน์แล้วว่า ประสบความสำเร็จในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
4/ ทั้งนี้ ความสามารถในการผลิตและคุณภาพของวัคซีนภายใต้การดำเนินงานของรัฐบาลอียิปต์จะถูกประเมินอย่างละเอียดจากทางการจีน ก่อนที่อียิปต์จะเป็นศูนย์กลางของทวีปแอฟริกาในการผลิตวัคซีนอย่างเป็นทางการ
.
ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก...China Xinhua News และ www.egypttoday.com/Article/1/89881/Egypt-to-become-Africa%E2%80%99s-hub-for-manufacturing-China%E2%80%99s-COVID-19
.

 

ความคิดทางการทูตของ ‘สี จิ้นผิง’ คือ ส่วนสำคัญต่อการทูตยุคใหม่ของจีน
.
一 / 1 / วานนี้ (จันทร์ที่ 20 ก.ค.) มีพิธีเปิด ‘ศูนย์วิจัยความคิดทางการทูตของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง’ ที่กรุงปักกิ่ง
.
二 / 2 / นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนเป็นผู้เปิดป้ายศูนย์วิจัยฯ และกล่าวสุนทรพจน์ในพิธี
.
三 / 3 / ศูนย์วิจัยความคิดทางการทูตของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จะเป็นแหล่งรวบรวมผลการศึกษา งานวิจัย ที่มาจากความคิดทางการทูตของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ตั้งแต่ต้นกำเนิด จนกลายมาเป็นทฤษฎี เป็นนโยบาย จนกระทั่งถูกนำมาปฏิบัติ
.
四 / 4 / ผลการศึกษาและงานวิจัยนั้น จะถูกนำไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ความรู้ เป็นแนวทาง ส่งเสริมการคิดแบบสร้างสรรค์ ส่งเสริมการคิดแบบการทูต
.
五 / 5 / ความคิดทางการทูตของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง นั้น ได้รับการยอมรับว่า เป็นการทูตที่มีเอกลักษณ์ของจีนยุคใหม่ และเป็นส่วนสำคัญยิ่งต่อการทูตยุคใหม่ของจีน
.
六 / 6 / นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน กล่าวในพิธีเปิดศูนย์ฯว่า เป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความคิดทางการทูตของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ตั้งแต่ต้นกำเนิด จนมาถึงการถูกนำมาปฏิบัติจริง ยังความสำเร็จของประเทศ นำประเทศก้าวเข้าสู่การทูตยุคใหม่ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของจีน
.
ที่มา: www.xinhuanet.com/english/2020-07/20/c_139227032.htm
.

 

Jul 21 , 2020 กบร.แก้ไขกฎหมายเปิดทางกองทุนรวม-กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ลงทุนสายการบินได้ หวังช่วยแก้วิกฤติให้สายการบิน พร้อมตั้งเป้าประกาศใช้ในอีก 3 เดือนข้างหน้า
.
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน หรือ กบร. ที่มีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน มีมติให้ กพท.ออกกฏกระทรวง เพื่ออนุญาตให้กองทุนรวมต่าง ๆ และหรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามารถเข้ามาลงทุนในสายการบินในประเทศได้ ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือสายการบินในช่วงเกิดวิกฤตได้
.
คาดว่าจะใช้กระบวนการแก้ไขกฎหมายและออกกฎกระทรวง ก่อนจะประกาศให้มีผลบังคับใช้ภายใน 3 เดือน โดยสาเหตุที่มีการแก้ไขกฎหมาย เพื่อเปิดให้กองทุนต่าง ๆ สามารถเข้ามาลงทุนในหุ้นสายการบินได้ เนื่องจากทางสายการบินได้แจ้งมายัง กพท. เพื่อขอปลดล็อกประเด็นนี้ เพราะที่ผ่านมาการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ของหลายหน่วยงานจะระดมทุนผ่านกองทุนรวมจำนวนมาก และเลือกเข้ามาลงทุนในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในขณะที่สายการบินไม่สามารถดำเนินการได้
.
โดยเชื่อว่าการดำเนินการในครั้งนี้จะเป็นทางเลือกในการลงทุน และจะช่วยสถานการณ์ของสายการบินได้เมื่อเกิดวิกฤติ โดยกำหนดเงื่อนไขให้เฉพาะกองทุนในประเทศเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้ามาลงทุนในสายการบินในประเทศ
.
นอกจากนี้ ที่ประชุม กบร.ยังพิจารณาทบทวน (ร่าง) แผนแม่บทห้วงอากาศและการเดินอากาศแห่งชาติ ซึ่งจากเดิมจะเป็นการบริหารแผนแม่บทระยะเวลา 10 ปี เป็นการทบทวนและวางแผนเพื่อรองรับในระยะ 3 ปีข้างหน้า เพื่อให้การบริหารจัดการห้วงอากาศและความมั่นคงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพื่อใช้ประโยชน์จากน่านฟ้าต่อไปในอนาคต
.
โดย กพท.ได้มอบหมายให้บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย ไปบริหารจัดการและประสานงานกับกองทัพอากาศ ที่จะนำห้วงอากาศในกิจการทหารและความมั่นคง ในช่วงที่ไม่ใช้มาบริหารจัดการในพลเรือนได้แบบยืดหยุ่น โดยคาดการณ์ว่าใน 3 ปีจากนี้ หากบริหารจัดจราจรทางอากาศได้ จะสามารถรองรับปริมาณจราจรทางอากาศได้กว่าปีละ 1.2 ล้านเที่ยวบินจากปัจจุบันรองรับได้ 1 ล้านเที่ยวบินต่อปี
.
#กบร #ลงทุน #กองทุนรวม #สายการบิน #วิกฤติ #misterban

 

วันนี้ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ชี้แจงภายหลังเป็นประธานการประชุมรัฐมนตรี โดยระบุว่า ตนจะรีบปรับครม.ให้เร็วที่สุด ซึ่งตอนนี้ก็ใกล้จะเสร็จแล้วกำลังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติ เพื่อเสนอชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ไปถึงขั้นตอนถวายสัตย์ฯ จึงจะต้องทำให้เร็วที่สุด นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่า การปรับครม.ครั้งนี้ ไม่มีความขัดแย้งกับใคร และได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีแล้ว โควตานี้ไม่ใช่ของใคร พร้อมขอบคุณพลังประชารัฐ ทุกคนมีสิทธิพูดมีสิทธิเสนอแต่ตนตัดสินใจอีกที
.
ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาว่า พลังประชารัฐเสนอชื่อ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ให้ดำรงตำแหน่ง รมว.พลังงาน เท่านั้น ตรงนี้นายกรัฐมนตรีระบว่า ไม่รู้ใครอยากได้ ก็พูดกันมา แต่นายกฯ ตัดสินใจอีกที ไม่ใช่หรือ ได้ไม่ได้เดี๋ยวตัดสินใจอีกที ส่วนสำหรับตำแหน่ง ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ยังจะทำหน้าที่ต่อหรือไม่ นายกฯระบุว่า ก็ยังทำหน้าที่ปกติ ยังไม่รู้ รอประกาศอีกที
.
ส่วนในเรื่องของ การต่อพรก.ฉุกเฉินออกไปอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ศบค.ชุดใหญ่จะประชุมพิจารณาในวันพรุ่งนี้ ว่ามีความจำเป็นหรือไม่อย่างไร พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เอากฎหมายฉบับนี้ไปยุ่งกับการชุมนุม เพราะมีพ.ร.บ.การชุมนุมอยู่แล้ว ขอให้ระมัดระวัง ตนเห็นใจนิสิต นักศึกษา ห่วงผู้ปกครอง ระวังการก้าวล่วง ประชาชนคงไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก ไม่สมควรจะเกิดสำหรับประเทศไทยของเรา ตนจะไม่พูดมากในเรื่องเหล่านี้ ไม่ต้องการให้เป็นประเด็น
.
ทั้งนี้ 3 ข้อเสนอตามที่กลุ่มเยาวชนปลดแอกเรียกร้อง ได้แก่ ยุบสภา ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และหยุดคุกคามประชาชนนั้น ให้ไปเสนอสภา

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.thansettakij.com/conten...edium=internal_referral&utm_campaign=politics

https://www.thansettakij.com/conten...edium=internal_referral&utm_campaign=politics
-------------------------------

 

21 ก.ค.63 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 5 ราย ในสถานที่กักตัวของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,255 ราย หายป่วยสะสม 3,105 ราย ผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 92 ราย ผู้เสียชีวิตคงที่ 58 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ รายที่1 ชายไทยกลับจากญี่ปุ่น อายุ 26 ปี เป็นนักศึกษา เดินทางถึงไทยวันที่ 7 ก.ค. ผ่านการคัดกรองพบว่ามีอาการไข้ เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลใน จ.สมุทรปราการ ตรวจครั้งแรกไม่พบเชื้อ จากนั้นวันที่18 ก.ค.ตรวจเพิ่มเติมอีกครั้ง ผลพบเชื้อ และมีอาการจมูกไม่ได้รับกลิ่น
.
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนรายที่ 2-4 เป็นนักศึกษาชายไทยกลับจากอียิปต์ อายุ 20,25และ28ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 8 ก.ค. เป็นผู้ที่เดินทางมาเทียวบินเดียวกับ 8 รายที่ได้รายงานไปก่อนหน้านี้ เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ จ.ชลบุรี ตรวจหาเชื้อวันที่ 19 ก.ค.ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการทั้งหมด และรายที่ 5 ชายไทยกลับจากซูดาน อายุ35ปี เดินทางถึงไทย 18 ก.ค.เป็นเที่ยวบินเดียวกับที่รายงานไปก่อนหน้านี้1ราย ผ่านระบบคัดกรองด่านควบคุมโรค แต่ชายรายดังกล่าวมีอาการปวดจากโรคไส้เลื่อนจึงนำส่งโรงพยาบาลก่อน และตรวจหาเชื้อโควิด-19ในวันเดียวกันผลพบเชื้อ สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 210,881 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อรวม 14,852,700 ราย รักษาหายแล้ว 8,906,690ราย เสียชีวิต 613,213 ราย ส่วนการเดินทางเข้าประเทศในวันเดียวกันนี้มี 5 เที่ยวบิน 513 ราย
.
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า จากกรณีผู้ติดเชื้อจากอียิปต์และซูดาน เดินทางไปยังพื้นที่จ.ระยองและกทม.ทำให้ขณะนี้มีการตรวจตัวอย่างสอบสวนโรคไปแล้วทั้งสิ้น 7,144 รายไม่พบเชื้อ และขณะนี้โรงเรียนต่างๆในจ.ระยอง 234 โรงเรียนเปิดการเรียนการสอนแล้ว ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เราได้เรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งศบค.ชุดเล็กได้หารือถึงการตัดสินใจเปิดหรือปิดพื้นที่ต่างๆไม่ควรรีบดำเนินการ แต่ละจังหวัดมีคณะกรรมการโรคติดต่อ ที่ผู้ว่าฯเป็นประธานอยู่ การจะเปิดหรือปิดอะไรควรปรึกษาหารือก่อนจะดีหรือไม่ และหลังจากนี้กระทรวงสาธารณสุขอาจไปออกแบบวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับระบบการเปิด -ปิดให้เป็นข้อปฏิบัติให้จังหวัดต่างๆนำไปเป็นแนวทาง
.
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สถานการณ์ในประเทศญี่ปุ่นที่ช่วงแรกเราจะจับคู่การเดินทางระหว่างประเทศที่มีความปลอดภัยจากโควิด-19 (ทราเวล บับเบิล) ตอนนี้ประเทศญี่ปุ่นมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก โดยจากการศึกษาการแพร่ระบาดระลอกแรก เขาจำกัดการเดินทาง ปิดโรงเรียน แต่พอการระบาดระลอกสองแม้จะประกาศภาวะฉุกเฉินก็ยังไม่มีการล็อกดาวน์ เราจึงมาพิจารณาแนวทางการปิดเมืองแบบจำกัดวง โดยต้องชี้เป้าให้ชัดว่าจะปิดตรงไหน จะทำให้เราควบคุมได้ แทนวิธีการล็อกดาวน์ ซึ่งตรงนี้ต้องยอมรับว่าอาจมีการติดโรคกันบ้าง แต่จะระบาดหรือไม่คงต้องดูกันอีกที
.
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีความคิดเห็นของประชาชนออกเป็น 2 กลุ่ม คือ เปิดประเทศให้มีการค้าขายขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งมีคำถามว่าเปิดศบค.จะ รับมือความเสี่ยงติดเชื้อโควิดได้หรือไม่ และมีอีกกลุ่มหนึ่งต้องการให้ปิดประเทศไปเลย นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า คำถามที่ว่าปิดประเทศเป็นไปไม่ได้ โลกเราต้องทำการค้าซึ่งกันและกัน ประเทศก็เหมือนบ้านจะไม่ไปมาหาสู่กันเลยไม่มีทาง เราไม่สามารถปิดได้ แต่จะปิดเฉพาะพื้นที่ที่สำคัญ เราต้องรู้ให้เร็วว่ามีการติดเชื้อแล้วขีดวงก่อนที่จะมีการระบาด หากรู้เร็วเราจะจำกัดขอบเขตได้ เพื่อเข้าไปจัดการ แต่หากมีการระบาดขึ้นมาเรากำลังมีการพิจารณาว่าหากมีการติดเชื้อได้วันละเท่าไหร่จึงจะรับมือได้ ช่วงที่เราระบาดหนักที่สุด ระบาดไปถึง 188 คนต่อวัน ตัวเลขตรงนั้นก็ถือว่ามากไป
.
"ในเบื้องต้นคิดว่า ตัวเลขที่เราจะรับมือได้คือ 30-50 คน ซึ่งคณะกรรมการฯกำลังพิจารณากันอยู่ว่าจากเตียงและบุคลากรการทางแพทย์ที่เรามีหากมีตัวเลขอยู่ที่หลักสิบสะสมกันไป ยังพอไหวกับการบริหารจัดการ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจต้องไปได้ การควบคุมโรคต้องไปได้ สองอย่างนี้ต้องสมดุลกัน เราต้องขอบคุณประชาชนทุกคนที่ช่วยกันเรียนรู้ดูแลสุขภาพ โรคนี้ต้องอยู่กับเราอีกนาน จึงต้องขอให้ประชาชน อึด ฮึด สู้"
-------------------------------
แหล่งข่าว
- https://www.thaipost.net/main/detail/72088
-------------------------------

 

นักวิชาการสาธารณสุข เผยราคาเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์แต่ละชนิด ที่มีราคาถึงหลักแสน หลังกรณีกลุ่มวัยรุ่นพระประแดงเข้าทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่และแพทย์ ภายในห้องฉุกเฉิน ชาวเน็ตจี้ควรออกมาแสดงความรับผิดต่อสิ่งที่กระทำ
.
จากกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลใน อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เกิดเหตุวัยรุ่นหลายสิบคนเข้าไปทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่และแพทย์ พยาบาล จนอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ โต๊ะ เก้าอี้ กระจัดกระจาย กระจกหน้าต่างและประตูห้องแตก ส่วนหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาล และหน้าลิฟต์ ก็มีคราบเลือดติดอยู่ ล่าสุด รวบผู้ต้องหาได้แล้ว 11 คน ผบ.ตร.กำชับ ผบช.ภ.1 เร่งล่าตัวที่เหลือ ให้ดำเนินคดีถึงที่สุด
.
ต่อมา เมื่อวันที่ 20 ก.ค. มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Narathip Chomphoobut” ซึ่งเป็นนักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ ที่โรงพยาบาลอำนาจเจริญ ออกมาโพสต์เผยราคาของอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ หลังกลุ่มวัยรุ่นบุกเข้าทะเลาะวิวาทภายในโรงพยาบาล โดยเครื่องช่วยหายใจชนิดควบคุมด้วยปริมาตร มีราคาสูงถึง 850,000 บาท และเครื่องกระตุกหัวใจ 350,000 บาท ผู้โพสต์ระบุว่า “จะตีกันในโรงพยาบาล ก็เลือกเครื่องมือที่โยนใส่กันให้ถูกด้วยนะ ว่าอันไหนราคาเท่าไหร่บ้าง #ด้วยความห่วงใย”
.
ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่สู่โลกออนไลน์ มียอดแชร์กว่า 2,300 ครั้ง และมีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นแนะให้กลุ่มวัยรุ่นร่วมกันแสดงความรับผิดชอบกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ได้ทำเสียหาย
-------------------------------
แหล่งข่าว
- https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000074654
-------------------------------

 

July 22, 2020 โควิด-19 ติดทั่วโลกทะลุกว่า 15 ล้านคน ฟิลิปปินส์ติดพุ่งทะลุ 70,000 คน The Covid-19 infected globally toll surpassed 15 million

เวลา 6.20 น. รายงานสถานการณ์จำนวนผู้ติดโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก เพิ่มเป็น 15,078,449 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรกของโลก คือ สหรัฐอเมริกา 4,023,947 ราย บราซิล 2,166,532 ราย อินเดีย 1,194,085 ราย รัสเซีย 783,328 ราย แอฟริกาใต้ 381,798 ราย เปรู 362,087 ราย เม็กซิโก 349,396 ราย ชิลี 334,683 ราย สเปน 313,274 และสหราชอาณาจักร 295,817 ราย

สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มเป็น 618,380 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 144,888 ราย บราซิล 81,597 ราย สหราชอาณาจักร 45,422 ราย เม็กซิโก 39,485 ราย อิตาลี 35,073 ราย ฝรั่งเศส 30,165 ราย อินเดีย 28,771 ราย สเปน 28,424 ราย อิหร่าน 14,634 ราย และเปรู 13,579 ราย

ในส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อในอาเซียน และเสียชีวิต(ตัวเลขในวงเล็บ) พบว่า อินโดนีเซีย 89,869 ราย(4,320) ฟิลิปปินส์ 70,764 ราย(1,837) สิงคโปร์ 48,434 ราย(27) มาเลเซีย 8,815 ราย(123) ไทย 3,255 ราย(58) เวียดนาม 396 ราย เมียนมา 341 ราย(6) กัมพูชา 197 ราย บรูไน 141 ราย(3) และลาว 19 ราย

#ไวรัสโคโรนา #ไวรัสอู่ฮั่น #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 #โรคปอดอักเสบ #ไวรัสโควิด19 #covid19 #Misterban #coronavirus #pneumonia #btimes #money360

 

July 21, 2020 แพลทฟอร์มเครือข่ายมืออาชีพชื่อดังระดับโลกปลดคน ลิงกต์อินในเครือไมโครซอฟท์หั่น 960 คน
.
ลิงกต์อิน หรือ Linkedin ธุรกิจสื่อโซเชียลมีเดียด้านทรัพยากรบุคคลชื่อดังระดับโลก ซึ่งอยู่ในเครือบริษัทไมโครซอฟท์ ประกาศปลดพนักงาน 960 คน หรือราว 6% ของพนักงานทั้งหมดในปัจจุบัน โดยพนักงานฝ่ายขาย และฝ่ายการจ้างงาน จะเป็นกลุ่มพนักงานที่ถูกปลดออกมากที่สุด สำหรับการปลดพนักงานเกือบ 1,000 คนในครั้งนี้ บริษัทจ่ายเงินเยียวยาเป็นระยะเวลารวม 10 สัปดาห์ รวมถึงค่าใช้จ่ายประกันสุขภาพระยะเวลา 1 ปีให้กับพนักงานสัญชาติอเมริกันที่ต้องถูกปลดออกจากงาน
.
สาเหตุการปลดพนักงานเป็นจำนวนมากในครั้งนี้ เกิดจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้รัฐบาลและเอกชนต้องปิดภาคธุรกิจ และได้รับผลกระทบจากรายได้ที่ตกต่ำอย่างรุนแรง ส่งผลให้ธุรกิจจำนวนมากประกาศปลดพนักงานจำนวนมาก และประกาศนโยบายไม่รับพนักงานใหม่อย่างชัดเจน ส่งผลกระทบต่อบริการของ Linkedin ที่ถูกยกเลิกเป็นจำนวนมา
.
#ลิงกต์อิน #ปลดพนักงาน #ไวรัสโควิด19 #Misterban

 

Jul 21 , 2020 ครม.เห็นชอบร่างกรอบความร่วมมือพัฒนาตลาดทุนไทย-สหรัฐ เพื่อรองรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทยในอนาคต
.
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบร่างกรอบความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการระดมทุนและการสร้างตลาดทุนเพื่อโครงสร้างพื้นฐานไทย-สหรัฐ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อระบบเศรษฐกิจและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทย
.
ทั้งนี้กระทรวงการคลังสหรัฐฯได้ยกร่างกรอบความร่วมมือขึ้น เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับสหรัฐฯในการพัฒนาตลาดเงิน (Financial markets)สำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และเพื่อสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยคู่ภาคีจะร่วมมือเพื่อส่งเสริมการลงทุนและการทำงานร่วมกันในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
.
ได้แก่ 1.การพัฒนาและเพิ่มสภาพคล่องแก่ตลาดตราสารหนี้ // 2.การเสาะหาและคิดค้นเครื่องมือและโครงสร้างทางการเงินใหม่ ๆ เพื่อกระตุ้นการลงทุนจากภาคเอกชน // 3.การส่งเสริมนวัตกรรมและการพัฒนาที่ยั่งยืนจากการแบ่งปันองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดจากกรณีศึกษาของนานาชาติ และ 4.การพัฒนาขีดความสามารถด้านการเงินและด้านเทคนิคต่างๆ ร่วมกัน
.
สำหรับแนวทางในการดำเนินงาน คือ คู่ภาคีจะจัดตั้งคณะทำงานร่วม ประกอบด้วย ผู้แทนอาวุโสของแต่ละฝ่าย เพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการและศึกษาถึงโอกาสในการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของโครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน ผ่านรูปแบบกิจกรรมความร่วมมือที่เน้นการฝึกอบรม การสัมมนาและหลักสูตรต่าง ๆ รวมถึงการสร้างความแข็งแกร่งของภาคีเครือข่าย ส่งเสริมความร่วมมือ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญและภาคเอกชนทั้งสองฝ่าย
.
นอกจากนี้ ความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย จะมุ่งเน้นศึกษาและขจัดปัญหาและอุปสรรคในการเข้าถึงตลาดสำหรับการลงทุน ในโครงสร้างพื้นฐานของภาคเอกชน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทยและตามที่ได้ตกลงร่วมกัน
.
โดยการจัดทำร่างกรอบความร่วมมือฯในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของไทยที่ได้สร้างความร่วมมือในรูปแบบทวิภาคีกับต่างประเทศเพื่อส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน โครงสร้างพื้นฐานระหว่างกัน ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ไทยที่กำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่รองรับการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เนื่องจากสหรัฐฯเป็นประเทศที่มีตลาดทุนขนาดใหญ่และมีนักลงทุนภาคเอกชนที่มีศักยภาพเหมาะแก่การระดมทุนเพื่อมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทย โดยปัจจุบันได้มีประเทศในภูมิภาคเอเชียที่ลงนามในกรอบความร่วมมือฯ กับสหรัฐอเมริกาแล้ว 3 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ เกาหลี และเวียดนาม
.
#สหรัฐ #จีน #ตลาดทุน #พัฒนา #Misterban

 

Jul 21 , 2020 ที่ประชุมพลังประชารัฐเคาะ 4 รายชื่อเข้าปรับโผ ครม.ชุดใหม่ ให้นายกฯพิจารณา ส่ง “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ชิงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
.
ที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ถนนรัชดาฯ ได้มีการประชุม ส.ส.ประจำสัปดาห์โดยมี นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และรองหัวหน้าพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล นั่งหัวโต๊ะในที่ประชุม โดยในที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้ ส.ส.ได้แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.
.
พร้อมรายงานว่าที่ประชุมส.ส. มีมติเสนอชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาในการปรับ ครม. ได้แก่
.
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
.
นายอนุชา นาคาศัย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
.
นายสุชาติ ชมกลิ่น เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
.
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ
.
ส่วนตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการ การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม(อว.) ทางพรรคพลังประชารัฐ ไม่เสนอชื่อบุคคลใด แต่รายชื่อต่างๆ ยังต้องรอเข้าที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค พิจารณาต่อไป
.
#รัฐมนตรี #ฟลังประชารัฐ #Misterban

 

Jul 21 , 2020 ครม.อนุมัติเพิ่มวงเงินค่าอาหาร – เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เป็นวันละ 900 บาท จากเดิม 600 บาท แต่ต้องเที่ยววันธรรมดา
.
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ในวันนี้ว่า เห็นชอบให้ขยายวงเงินในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ในส่วนบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Voucher โดยเพิ่มวงเงินสำหรับไปใช้เป็นค่าอาหาร และค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว เป็นวันละ 900 บาทต่อห้อง จากเดิมวันละ 600 บาทต่อห้อง แต่มีเงื่อนไขคือใช้ได้เฉพาะการไปเที่ยวในวันธรรมดาเท่านั้นมีผลทันที
.
ส่วนค่าห้องที่เคยให้ วันละ 600 บาทต่อห้อง จะเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้สามารถใช้ซื้อสินค้าในร้านค้าตามโครงการโอท็อปได้ เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการโอท็อปมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น
.
ทั้งนี้ที่ประชุมครม.ยังได้รับทราบรายงานจากเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ถึงกรณีที่มีบางโรงแรมเพิ่มราคาค่าห้องพักในช่วงนี้ โดยจะไปตรวจสอบและหากพบว่าเป็นรายใดจะถูกตัดออกจากโครงการทันที
.
นอกจากนี้ยังขยายผู้ประกอบธุรกิจที่พักเข้าร่วมโครงการได้ ทั้งโรงแรมและโฮมสเตย์ที่ใบอนุญาตหมดอายุก่อนวันที่ 1 ม.ค.2563 และได้ยื่นขอต่อใบอนุญาตแล้ว รวมทั้งกลุ่มที่ยังไม่ยื่นขอต่อใบอนุญาต และให้กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจที่พักอื่นๆ ที่อยู่ในระบบฐานภาษีของกรมสรรพากร ให้เข้ามาร่วมโครงการได้ แต่ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด
.
#เราเที่ยวด้วยกัน #ค่าอาหาร #Misterban

 

Jul 21 , 2020 กระทรวงคมนาคมคาดส่งมอบพื้นที่โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินได้ตามแผน ก.พ.2564 พร้อมยังยึดช่วงเวลาเปิดบริการตามแผนเดิมปี 2569
.
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา วงเงินลงทุน 2.24 แสนล้านบาท ในส่วนของการส่งมอบพื้นที่และการรื้อย้ายสาธารณูปโภค เพื่อให้กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร เข้าพื้นที่ก่อสร้าง คาดว่าจะลงนามในสัญญา เวนคืนและจ่ายเงินให้กลุ่มชาวบ้านได้ในเดือน พ.ย.นี้ ส่วนแปลงที่ติดปัญหาฟ้องร้องคาดจะเจรจาแล้วเสร็จในส.ค.2564
.
สำหรับการบุกรุกพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการฟ้องขับไล่แล้ว 562 ราย ส่วนพื้นที่สัญญาเช่าเดิม ได้เร่งยกเลิกสัญญาเช่า 213 ราย คาดว่าจะยกเลิกสัญญาเช่าแล้วเสร็จทั้งหมดในช่วงต.ค.- ธ.ค.2563
.
ส่วนการรื้อย้ายสาธารณูปโภคมีความคืบหน้าไปมาก คาดว่าจะส่งมอบพื้นที่ก่อสร้าง ช่วง สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ให้กลุ่มซีพีได้ในเดือน ก.พ.2564 ตามแผน
.
ส่วนการโอนโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงก์ให้กลุ่มซีพี ขณะนี้ซีพีอยู่ระหว่างตรวจสอบสถานะทางเทคนิคของรถไฟฟ้า รวมถึงการตรวจสอบความพร้อมการเดินรถ และลงทุนปรับปรุงสถานี และสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม รองรับการเดินรถร่วมระหว่างรถไฟความเร็วสูงและรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์ คาดว่าจะแล้วเสร็จ ก.ย. 2564 และจะเปิดเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ในเดือน ต.ค.2564 มั่นใจจะสามารถเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ในเดือน ม.ค. 2569 ตามแผน
.
#รถไฟความเร็วสูง #3สนามบิน #ซีพี #Misterban

 

Jul 21 , 2020 ครม.ตอบรับคำสั่งนายกฯตั้งผู้รักษาราชการแทนตำแหน่งรองนายกฯ -รมต.ที่ยังว่างอยู่ โดย “วิษณุ เครืองาม”ทำงานแทน “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ควบรักษาการ รมว.พลังงาน
.
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ในวันนี้ว่า ที่ประชุมครม. รับทราบคำสั่งนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่ลาออก ประกอบด้วยดังนี้
.
1.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้ปฏิบัติราชการแทนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รวมถึงรักษาราชการแทนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแทนนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ด้วย
.
2.พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แทนนายเทวัญ ลิปตพัลลภ
.
3.นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
.
4.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
.
5.นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
.
#วิษณุ #สมคิด #รักษาการ #Misterban