ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เคล็ดลับความสําเร็จของ #Tesla ในวันนี้นั้น ส่วนนึงเริ่มมาจาก E-mail ของ Elon Musk ฉบับนึงที่เขียนถึงพนักงาน Tesla ทุกคนเมื่อปี 2016

    วันนี้ทางเพจจึงอยากมาแกะข้อความเหล่านี้คำต่อคำแชร์ให้ทุกท่านผ่าน #สาระเบาๆเสาร์อาทิตย์ ครับ

    เป็นที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าบริษัท Tesla ในวันนี้นั้นกำลังประสบความสําเร็จอย่างมหาศาล และผมไม่ได้หมายถึงราคาหุ้นที่กำลังพุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัวในปีนี้นะครับ แต่ผมหมายถึงความสำเร็จในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับโลกของเราในระยะเวลาอันรวดเร็ว ความสำเร็จในการรวบรวมวิศวกรรรุ่นใหม่ๆที่ฉลาดที่สุดในโลกมาร่วม #ทำงานเป็นทีม กัน ความสำเร็จที่สามารถสร้าง #วัฒนธรรมภายในองค์กร สำหรับกลุ่มคนที่มีเป้าหมายเดียวกัน

    Vision ของบริษัท Tesla นั้นคือ “To create the most compelling car company of the 21st century by driving the world's transition to electric vehicles.

    Mission ของ Tesla คือ "Tesla’s mission is to accelerate the world’s transition to sustainable energy."

    ถึงแม้เป้าหมายของ Tesla นั้นจะยิ่งใหญ่และดูลำบากขนาดไหน แต่ Elon Musk ก็สามารถรวมกลุ่มคนที่มี Inspiration มี Passion เดียวกับ Vision และ Mission ของบริษัทในการ #สร้างรถยนต์ที่น่าสนใจที่สุดแห่งศตวรรษและเร่งการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานของโลกให้เป็นพลังงานสะอาดที่ยั่งยืน ได้ดีเยี่ยมอย่างเหลือเชื่อ

    ลองมาอ่าน E-mail ฉบับนี้ของ Elon ที่เป็นส่วนนึงในการนำให้คนในบริษัทสามารถเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกันได้อย่างสำเร็จครับ


    #ข้อความถึงพนักงานทุกคน ใน Tesla #เรื่องการสื่อสารภายในองค์กร

    Subject: Communication Within Tesla

    There are two schools of thought about how information should flow within companies. By far the most common way is chain of command, which means that you always flow communication through your manager. The problem with this approach is that, while it serves to enhance the power of the manager, it fails to serve the company.

    การสื่อสารภายในองค์กรนั้นแบ่งออกได้เป็น 2 แบบใหญ่ๆ แต่วิธีการที่เป็นที่นิยมใช้บ่อยที่สุดคือ การสื่อสาร #ระบบสายบังคับบัญชา หรือการที่พนักงานจะสื่อสารผ่านผู้จัดการเสมอ ก่อนที่ผู้จัดการจะสื่อสารถึงนายของเขาอีกขั้นต่อๆไป

    Elon กล่าวว่าปัญหาของการสื่อสารด้วยระบบนี้คือ ถึงแม้ว่าผู้จัดการจะมีอำนาจในการบริหารมากขึ้นแต่วิธีนี้ก็ไม่สามารถทำให้บริษัทประสบความสําเร็จได้

    Instead of a problem getting solved quickly, where a person in one dept talks to a person in another dept and makes the right thing happen, people are forced to talk to their manager who talks to their manager who talks to the manager in the other dept who talks to someone on his team. Then the info has to flow back the other way again. This is incredibly dumb. Any manager who allows this to happen, let alone encourages it, will soon find themselves working at another company. No kidding.

    แทนที่ปัญหาจะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว โดยคนในแผนกนึงสามารถเข้าไปพูดคุยตรงๆกับคนในแผนกอื่นๆได้ทันที เพื่อที่จะได้จัดการแก้ไขปัญหาให้ถูกต้อง แต่คนเหล่านี้กำลังถูกบังคับให้พูดคุยกับผู้จัดการของพวกเขาก่อน และผู้จัดการของเขาก็ต้องคุยกับหัวหน้าของเขาก่อน ก่อนที่จะสามารถสื่อสารข้อความและปัญหาไปสู่แผนกนั้นๆได้ และกว่าจะได้รับคำตอบกลับมาก็ยังต้องมีการสื่อสารตามลำดับขั้นกลับซึ่งใช้เวลาอีกนาน

    #นี่เป็นระบบที่โง่มากอย่างไม่น่าเชื่อ ผู้จัดการคนไหนใน Tesla ที่กำลังใช้ระบบการทำงานแบบนี้อยู่ ในไม่ช้าพวกเขาจะพบว่ากำลังจะต้องย้ายไปทำงานที่บริษัทอื่น นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

    Anyone at Tesla can and should email/talk to anyone else according to what they think is the fastest way to solve a problem for the benefit of the whole company. You can talk to your manager's manager without his permission, you can talk directly to a VP in another dept, you can talk to me, you can talk to anyone without anyone else's permission. Moreover, you should consider yourself obligated to do so until the right thing happens. The point here is not random chitchat, but rather ensuring that we execute ultra-fast and well.

    ทุกคนที่ทำงานที่ Tesla ควรและสามารถส่งอีเมลพูดคุยกับคนอื่นๆในบริษัทได้ทุกคน ตามสิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็น #วิธีที่เร็วที่สุดในการแก้ปัญหาเพื่อประโยชน์ของบริษัท คุณสามารถคุยกับหัวหน้าของผู้จัดการคุณ คุณสามารถคุยกับผู้จัดการของแผนกอื่น รองประธานของแผนกอื่น โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากหัวหน้าคุณก่อนเลยก็ได้ หรือคุณสามารถพูดคุยกับผม (CEO ของบริษัท) ได้ทันทีโดยไม่ต้องขออนุญาตใครทั้งสิ้น

    จริงๆแล้วคุณควรมีความรับผิดชอบที่จะสื่อสารเช่นนี้จนกว่าสิ่งที่ถูกต้องจะเกิดขึ้น จนกว่าคุณจะแก้ไขปัญหาได้ เพื่อให้พวกเราสามาถดำเนินการและพัฒนาระบบเราได้รวดเร็วและดีที่สุด

    We obviously cannot compete with the big car companies in size, so we must do so with intelligence and agility.

    #เห็นได้ชัดว่าขนาดของบริษัทเราไม่สามารถแข่งขันกับบริษัทรถยนต์ขนาดใหญ่อื่นๆได้ #ดังนั้นเราจึงต้องทำงานอย่างชาญฉลาดและคล่องตัวให้มากที่สุด

    One final point is that managers should work hard to ensure that they are not creating silos within the company that create an us vs. them mentality or impede communication in any way. This is unfortunately a natural tendency and needs to be actively fought. How can it possibly help Tesla for depts to erect barriers between themselves or see their success as relative within the company instead of collective? We are all in the same boat. Always view yourself as working for the good of the company and never your dept.

    ประเด็นสุดท้ายข้อนึงที่ผมอยากฝากไว้คือ ผู้จัดการทุกคนควรทำงานอย่างหนักเพื่อให้มั่นใจว่าระบบการทำงานของพวกเรานั้นไม่ได้เป็นแบบไซโล (Silo) หรือการทำงานแบบแยกส่วน เพราะระบบแบบนี้จะทำให้การสื่อสารภายในองค์กรนั้นไม่ซึ่งตรง นี่เป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นในหลายๆองค์กรและพวกเราต้องต่อสู้มันอย่างเต็มที่ไม่ให้มันเกิดขึ้น

    พวกเราในบริษัท Tesla จะช่วยกันได้อย่างไรที่จะทำให้พวกเราทำลายกำแพงระหว่างแผนก และตัดสินใจทุกอย่างร่วมกัน #เพื่อประโยชน์ขององค์กรและไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของแผนก พวกเราทุกคนอยู่บนเรือลำเดียวกันแล้ว เราต้องช่วยกันขับไล่อุปสรรคระหว่างกันและมองเห็นความสำเร็จของบริษัทร่วมกัน ไม่ใช่แค่ #แผนกของคุณ

    Thanks,
    Elon

    ขอบคุณ
    อีลอน

    ⛔️ และนี่ก็คืออีเมลฉบับนึงที่สามารถทำให้ Tesla สามารถสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว และใช้จุดแข็งนี้เบียดขึ้นมานำบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่อีกมากมายจนขึ้นมาเป็นบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเราฝาก Like และ Share เป็นกำลังใจให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากๆครับ

    #ทันโลกกับTraderKP

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดในสหรัฐยังคงพุ่งขึ้นเรื่อยๆใกล้ระดับ 1 แสนคนต่อวันแล้ว แต่ทั่วโลกยังคงงงกันอยู่ว่า #ทำไมคนอเมริกันยังคงไม่ยอมใส่หน้ากาก แถมยังออกมาประท้วงกันด้วย !

    #อิสรภาพ หรือ #Freedom ที่ชาวสหรัฐหวงกันมากนั้น... กำลังทำลายพวกเขาหรือไม่ ?

    ในขณะที่หลายๆประเทศในโลกพยายามควบคุมการระบาดของไวรัสกันอย่างเต็มที่ เกือบทุกประเทศในยุโรปก็เริ่มควบคุมตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่กันได้แล้วหรือสามารถ #FlattenTheCurve กันได้สำเร็จแล้วนั้นเอง แม้แต่ทางบราซิลหรือรัสเซียที่หลายฝ่ายกังวลตัวเลขก็เริ่มดูดีขึ้นแล้ว... แต่ทาง Curve ของสหรัฐนั้นไม่เพียงแต่ไม่ Flat ขึ้นแต่กำลังกลับ Steep หรือชันขึ้นอีกต่างหาก !

    ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันในสหรัฐที่รายงานออกมาล่าสุดนั้นดีดขึ้นไปเกิน 7 หมื่นรายต่อวันแล้ว และทางนักวิเคราะห์มีความเชื่อว่าตัวเลขอาจดีดแตะ 1 แสนคนได้ในเร็วๆนี้ ! สหรัฐกำลังเป็นประเทศที่น่าเป็นห่วงที่สุดและสถิติที่แสดงให้เห็นง่ายๆก็คือ ทุกๆผู้ติดเชื้อใหม่ 10 รายในโลกเรานั้น 3 คนในนั้นจะมาจากทางสหรัฐ

    #ทำไมสถานการณ์ในสหรัฐถึงแย่ขนาดนี้ ?

    ในช่วงแรกๆเราอาจได้ยินว่าประเทศเมืองหนาวนั้นไวรัสจะระบาดได้เร็วกว่าเมืองร้อน แต่นั้นคงไม่ใช่สาเหตุของการระบาดไม่หยุดในสหรัฐอีกต่อไปแล้ว เพราะเหล่าประเทศเมืองหนาวอื่นๆนั้นก็เริ่มควบคุมการระบาดได้กันหลายที่แล้ว

    แต่เหตุผลหลักๆที่การระบาดในสหรัฐยังแย่ลงเรื่อยๆคงมาจาก อิสรภาพของพวกเขานั้นเอง

    จริงๆแล้วในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐกำลังดีขึ้นเรื่อยๆอย่างเห็นได้ชัด โดยตัวเลขนั้นลดลงมาจากหลัก 2 หมื่นรายต่อวันลงมาเกือบจะหลุดหลัก 1 หมื่นรายต่อวันได้อยู่แล้ว

    แต่... หลังจากวันที่ 25 พฤษภาคมที่เกิดเหตุการณ์เสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ (George Floyd) ในขณะที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมอย่างโหดเหี้ยมขึ้น #คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ที่หลังจากเกิดการประท้วงเรื่องเหยียดสีผิวกันอย่างรุนแรงทั่วประเทศสหรัฐขึ้นมา แล้ว 2 อาทิตย์ต่อมาหลังจากนั้นตัวเลขผู้ติดเชื้อของสหรัฐก็ได้ดีดขึ้นมาทะลุระดับ 2 หมื่นรายต่อวันอีกครั้งในช่วงกลางเดือนมิถุนายน... และก็ไม่เคยลดลงไปต่ำกว่านั้นเลยเป็นเวลามาเกือบเดือนแล้ว

    ทำให้สาเหตุของการระบาดใหม่อีกครั้ง (ไม่ว่าจะเรียกว่า Wave 2 หรือไม่) จึงน่าจะเกิดขึ้นมาจาก #อิสรภาพของชาวสหรัฐ ที่เริ่มออกมาประท้วงอย่างไม่ระวังนั้นเอง

    และด้วยความอิสรภาพเหล่านี้การระบาดจึงได้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่ใช่แค่เพียงการออกมาประท้วงนั้นจะทำให้เกิดการระบาดละลอกใหม่ขึ้น #แต่ด้วยอิสรภาพของเขาผู้ประท้วงหลายกลุ่มจึงเลือกที่จะไม่ใส่หน้ากากด้วย ทำให้อิสรภาพของชาวสหรัฐกำลังกลายเป็นต้นเหตุของการระบาดในหลายมุมเลยทีเดียว

    ปัญหาเหล่านี้กำลังจะขยายตัวต่อไปเรื่อยๆเพราะอิสรภาพนี่แหละ

    ผู้เชี่ยวชาญทางสาธารณสุขของสหรัฐได้ออกมากล่าวว่า #หากชาวสหรัฐทั้งหมดใส่หน้ากากเพียง 3 อาทิตย์ไวรัสระบาดก็อาจจะหายไปจากจากประเทศได้โดยทันที ! เพียงแค่ 3 อาทิตย์เท่านั้น ! ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยากเลยใช่ไหมครับหากว่าชาวสหรัฐจะสามัคคีกันสู้เรื่องนี้ ?

    แต่ถึงแม้ทางผู้เชี่ยวชาญจะออกมาเตือนอย่างไร #สถิติในการใส่หน้ากากของสหรัฐนั้นก็ไม่ดีขึ้นเลย ! ข้อมูลจาก Bloomberg ที่เราแนบไว้ให้ในคอมเม้นท์นั้นจะเห็นได้ว่าจนถึงทุกวันนี้มีชาวอเมริกันเพียง 50% เท่านั้นที่ใส่หน้ากากตลอดเวลา และมีประชาชนสูงถึง 15% ที่ไม่ใส่หน้ากากเลย !

    จะโทษแต่ประชาชนก็คงไม่ได้ #เพราะทุกวันนี้เหล่าผู้นำของสหรัฐก็ยังคงถกเถียงกันอยู่ในประเด็นนี้ และวันนี้ทางรัฐบาลสหรัฐยังไม่มีข้อบังคับออกให้ใส่หน้ากากอนามัยกันทั่วประเทศ แม้บางรัฐจะพยายามออกกฏออกมาให้ใส่หน้ากากกันแล้ว แต่ตราบใดที่ผู้นำของประเทศยังไม่เห็นด้วยแล้วทำไมประชาชนยังจะต้องทำตาม !

    #ทรัมป์มีมุมมองอย่างไรบ้างต่อการใส่หน้ากาก ?

    ถึงแม้ในที่สุดทางทรัมป์จะเพิ่งออกมาใส่หน้ากากเป็นครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่นั้นก็เป็นเพราะเขาไปเยี่ยมโรงพยาบาลและหลังจากนั้นมาเราก็ยังไม่เห็นทางทรัมป์ใส่หน้ากากใหม่อีกครั้งเลย

    เมื่อวานนี้ทางประธานาธิบดีทรัมป์ได้ไปให้สัมภาษณ์กับช่อง Fox News อีกครั้งและเมื่อมีคำถามว่า ทำไมทางท่านผู้นำถึงไม่ออกคำสั่งให้มีกฏบังคับในการสวมหน้ากากซักที ? เพราะสถานการณ์นั้นกำลังแย่ลงเรื่อยๆ แต่ทางทรัมป์นั้นกลับตอบว่า

    "No, I want people to have a certain freedom and I don't believe in that. No, and I don't agree with the statement that if everybody wear a mask, everything; suddenly, it all disappears."

    "ผมต้องการให้ชาวอเมริกันมีอิสรภาพอย่างที่เคยมีมาตลอด แล้วผมไม่เชื่อว่าหากทุกคนใส่หน้ากากแล้วปัญหาทุกอย่างจะหายไปโดยทันที มันคงไม่ใช่เรื่องจริง"

    #ที่ทางทรัมป์พูดก็ถูกครับ ปัญหามันคงไม่หายไปโดยทันทีหรอกครับท่าน... แต่มันคงจะค่อยๆหายไปและเลขผู้ติดเชื้อก็คงจะลดลงเรื่อยๆ ทางผู้เชี่ยวชาญทางสาธารณสุขของประเทศก็ออกมาบอกแล้วว่าขอเวลาเพียง 3 อาทิตย์หากทุกคนใส่หน้ากาก ปัญหาทุกๆอย่างก็อาจจะหายไปจริงๆ !

    รัฐไหนมีการออกกฏบังคับให้ใส่หน้ากากแล้วบ้าง ?

    ตอนนี้รัฐที่ออกกฏข้อบังคับให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากนั้นมีเพียง 20 รัฐเท่านั้น จากทั้งหมด 50 รัฐ ทำให้มีข้อบังคับเพียง 40% ของรัฐเท่านั้น (รายละเอียดของรัฐที่มีข้อบังคับและ % ว่ารัฐไหนมีคนใส่หน้ากากเท่าไหร่อยู่ในคอมเม้นท์ครับ)

    แต่รัฐไหนที่ออกมาออกกฏบังคับนั้นก็อาจจะเหมือนจะเป็นดาบสองคม เพราะ #อิสรภาพของชาวสหรัฐ ทำให้มีผู้คนอีกมากมายออกมาประท้วงต่อกฏบังคับเหล่านี้ !

    ถึงแม้จะฟังดูเหลือเชื่อเพราะว่าการระบาดในสหรัฐนั้นสูงถึงเกือบแสนรายต่อวันแล้ว และรายงานของ CDC ยังบอกว่าผู้ติดเชื้อโควิดในสหรัฐแต่ยังไม่ได้รับการตรวจนั้นอาจมีสูงถึง 20% ของประชากรทั่วประเทศ ! แต่ทำไมทางสหรัฐถึงยังออกมาประท้วงในเรื่องการใส่หน้ากากอีก ???

    #อิสรภาพมีความสำคัญมากกว่าชีวิตหรือ ?

    อันนี้ทางเราไม่แน่ใจและคงไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้นได้ แต่จากภาพจะเห็นได้ว่ามีกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมากกำลังคิดว่าการโดนบังคับให้ใส่หน้ากากนั้นกำลังเป็นการ #ปล้นอิสรภาพ ไปจากพวกเขาจริงๆ

    การประท้วงเรื่องหน้ากากนี้กำลังจะทำให้ตัวเลขดีดสูงขึ้นทวีไปอีกในอนาคต

    นอกจากจะออกมาชุมนุมอย่างใกล้ชิดกันโดยไม่ใส่หน้ากากแล้ว หลายๆผู้ประท้วงกำลังท้าทายไวรัสอย่างบ้าบิ่น โดยเราได้รับรายงานว่ามีร้านอาหารหลายร้านถึงกับจะไม่รับลูกค้าที่ใส่หน้ากากเข้ามาเพื่อเป็นการประท้วง หรือบางร้านถึงกับแจกโปรโมชั่นฟรีเพื่อเชิญชวนให้คนไม่ใส่หน้ากากเข้ามาทานที่ร้าน....

    ⛔️ ทางเราคงไม่มีทางเข้าใจอิสรภาพในระดับที่ชาวอเมริกันมีได้ แต่ดีใจที่ในประเทศเราถึงแม้เราจะมีอิสรภาพแล้วเราก็ยังเลือกที่จะใส่หน้ากากกัน ไม่ว่าสถานการณ์ในประเทศเราจะเป็นอย่างไร จะดีหรือแย่ลงเพราะฝ่ายไหนก็ตามหวังว่าเราจะร่วมกันสามัคคีบนอิสรภาพของเรากันต่อไปนะครับ

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเราฝาก Like และ Share เป็นกำลังใจให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากๆครับ

    #ทันโลกกับTraderKP

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันที่ 17 กรกฎาคม 2020 รายการข่าว 'Rising' ของสำนักข่าว THE HILL รายงานว่า พรรคเดโมแครตในสหรัฐฯ หาทางขัดขวางผู้สมัคร สว. ที่เป็นแนวร่วมฝ่าย 'หัวก้าวหน้า' ของพรรคตนเองไม่ให้ได้รับชัยชนะ
    .
    โดยพรรคเดโมแครตใช้เงินมากถึง 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (4.7 ร้อยล้านบาท) เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หาเสียง เพื่อดันผู้สมัคร สว. ที่พรรคเดโมแครตสนับสนุน ให้มีความได้เปรียบเหนือผู้สมัคร 'หัวก้าวหน้า' ในศึกการเลือกตั้งไพรมารี (Primary) ในรัฐโคโลราโด รัฐไอโอวา รัฐนอร์ทแคโรไลนา รัฐเคนทักกี รัฐเมน และอีกหลายรัฐ
    .
    นายเดวิด สิโรตา (David Sirota) บรรณาธิการใหญ่ของ JACOBIN Magazine ให้สัมภาษณ์ในรายการ 'Rising' กรณีที่พรรคเดโมแครต ใช้เงินหลายร้อยล้านบาท ทำแคมเปญหนุนผู้สมัครของพรรคตนเอง ในการเลือกตั้งไพรมารี สว. ทำให้ผู้สมัคร 'หัวก้าวหน้า' ที่เป็นแนวร่วมฝ่ายซ้าย แทบจะไม่มีโอกาสเอาชนะในศึกการเลือกตั้งไพรมารี สว. โดยนายเดวิด สิโรตา ระบุว่า ผู้สมัครเลือกตั้งไพรมารี สว. ที่พรรคเดโมแครตสนับสนุนนั้น ล้วนแล้วเป็นนักการเมืองที่ใกล้ชิดกับบริษัทนายทุนยักษ์ใหญ่ จึงไม่แปลกที่กลุ่มนักการเมืองที่ใกล้ชิดกับนายทุน จะได้เงินสนับสนุนแคมเปญจำนวนมาก ในขณะที่กลุ่มผู้สมัคร 'หัวก้าวหน้า' แทบไม่ได้เงินสนับสนุนแคมเปญเลือกตั้งไพรมารีเลยแม้แต่น้อย
    .
    โดยบก.ใหญ่ของ JACOBIN Magazine ชี้ว่า เพื่อให้ได้ตัวแทนผู้สมัคร สว. ไปสู้กับผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันนั้น กรรมการบริหารพรรคเดโมแครตจึงแทรกแซงการเลือกตั้งไพรมารี ด้วยการจ่ายเงินหนุนแคมเปญกลุ่มนักการเมืองที่เป็นคนของนายทุน
    .
    บก.ใหญ่ของ JACOBIN Magazine ยังระบุอีกด้วยว่า การกระทำเช่นนี้ของกรรมการบริหารพรรคเดโมแครต ถือเป็นความพยายามเลือกผู้สมัคร สว. ด้วยตนเอง แทนที่จะปล่อยให้มีการโหวตเลือกโดยสมาชิกพรรค แม้ว่าทางพรรคเดโมแครตจะประกาศไปก่อนหน้านี้ว่า ทางพรรคฯ วางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้งไพรมารี ซึ่งนายชัค ชูเมอร์ (Chuck Schumer) ผู้นำ สว. เสียงข้างน้อย คือผู้ที่มีส่วนสำคัญในการสั่งจ่ายเงินหลายสิบล้านดอลลาร์ เพื่อหนุนแคมเปญของผู้สมัคร สว. ที่เป็นกลุ่มนายทุน
    ...

    ทั้งนี้ เว็บไซต์ JACOBIN Magazine ของนายเดวิด สิโรตา รายงานอีกด้วยว่า เงินทุน 15 ล้านดอลลาร์ที่พรรคเดโมแครต ใช้หนุนแคมเปญผู้สมัครสว.กลุ่มนายทุน ถือเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเงินทุน 118 ล้านดอลลาร์ (3.7 พันล้านบาท) ของกองทุน Senate Majority PAC (SMP) ซึ่งเป็นกองทุนสำหรับทำแคมเปญหาเสียงสว.ของพรรคเดโมแครต ผ่านการระดมทุนจากกลุ่มนายทุนทั่วสหรัฐฯ
    .
    โดยกลุ่มองค์กรนายทุนที่มอบเงินให้ SMP มากที่สุด ก็คือ 'Democracy PAC' และ 'The Fund for Policy Reform' ซึ่งองค์กรระดมทุนทั้ง 2 กลุ่มนี้ เป็นของนายจอร์จ โซรอส (George Soros) พ่อมดการเงินผู้เคยโจมตีค่าเงินปอนด์เมื่อปี 1992 และเคยโจมตีค่าเงินบาทเมื่อปี 1997 โดยที่องค์กร 'Democracy PAC' ของนายโซรอส ให้การสนับสนุน SMP เป็นจำนวนเงิน 8.5 ล้านดอลลาร์ (2.6 ร้อยล้านบาท) ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินที่ SMP ของพรรคเดโมแครตได้รับมากที่สุด เมื่อเทียบกับองค์กรทุนกลุ่มอื่นที่สนับสนุนเงินให้พรรคเดโมแครต

    -------------------------------
    แหล่งข่าว



    https://www.jacobinmag.com/2020/07/senate-democrats-majority-pac-dscc

    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ❗️ #โควิทฮ่องกงวันนี้ (20 กค)
    ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด +73, ติดในฮ่องกง +66
    .
    ดีใจ วันนี้ยอดลด เหลือ 66 เอ๊งงงงง
    .
    อ่ะ! ไฮไลท์
    - Cluster เก่าๆ ยังมีคนติดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น แก๊งตีปิงปองที่ San Po Kong, ศูนย์จักษุ รพ Tuen Mun, ร้าน Bun Kee (Choi Hung) ฯลฯ
    - Cluster ใหม่ร้านอาหาร คือ ร้าน Fulum (Tuen Mun) เคยจัดงานปาร์ตี้วันเกิด คนมาประมาณ 200 คน!! วันนี้ติดอีก 3 ยอดรวมไม่มีข้อมูล
    - พีคสุด คือ มีคุณหมอติดเชื้อ 1 คน ชื่อ Dr. Chan ทำคลีนิคเอกชนอยู่แถว Causeway Bay อันนี้อาจจะติดจากคนไข้ที่เคยมารักษาตอนที่ยังไม่รู้ว่า ตัวเองติดเชื้อไปแล้ว
    .
    #eatlike852 #covid19hongkong

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    19 ก.ค. 63 นายโจชัว หว่อง แกนนำกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยชาวฮ่องกง ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นข้อความประกาศสนับสนุนการชุมนุมประท้วง ของกลุ่ม ‘เยาวชนปลดแอก - FREE YOUTH’ ที่เรียกร้องให้รัฐบาลไทยยุบสภา แก้รัฐธรรมนูญ และหยุดคุกคามประชาชน ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในกรุงเทพมหานคร โดยข้อความที่นายโจชัว หว่อง โพสต์ในทวิตเตอร์ มีเนื้อหาดังนี้
    .
    “[สนับสนุนเพื่อนชาวไทยของเรา ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย]
    .
    1. #ชาวฮ่องกง ไม่มีวันลืมเพื่อนชาวไทยของเราที่ร่วมยืนหยัดกับเรา ต่อสู้กับพวกเกรียนชาตินิยม (ผู้ใช้ทวิตเตอร์) ของจีน ในช่วงเหตุการณ์ #nnevvy และยังเปร่งเสียงสนับสนุนเราท่ามกลางการกดขี่โดยอำนาจเผด็จการ #ปักกิ่ง ใน #ฮ่องกง #พันธมิตรชานม (#MilkTeaAlliance)
    .
    2. ตอนนี้ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องช่วยสนับสนุนพวกเขาบ้าง เพราะพวกเราทั้งสอง ต่างก็ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เพื่ออิสรภาพ และเพื่ออนาคตที่สดใสปราศจากความกลัว เสียงของประชาชนควรได้รับความเคารพและควรได้รับการรับฟัง ไม่ควรถูกกดขี่และถูกปิดปาก
    .
    3. นั่นคือชะตากรรมที่เยาวชนทั่วโลกอย่างเรามีร่วมกัน ท่ามกลางการโต้กลับโดยฝ่ายประชาธิปไตย - เราต้องการประชาธิปไตยกลับคืนมา เราต้องการอนาคตของเรากลับคืนมา”

    อย่างไรก็ตาม วันที่ 6 ต.ค. 62 นายโจชัว หว่อง ‘黃之鋒 Joshua Wong’ ได้โพสต์รูปภาพในเฟซบุ๊กเพจ ซึ่งเป็นรูปภาพที่ตนเองถ่ายคู่กับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในงานการเสวนาการเมือง ‘Open Future Forum’ ที่จัดขึ้นโดยนิตยสาร The Economist ในฮ่องกง เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 62

    -------------------------------
    แหล่งข่าว





    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เอเอฟพี - แม้อันดับเสรีภาพสื่อของประเทศจะอยู่กลุ่มท้ายๆ และมีชื่อเสียงที่ไม่ดีนักจากการจำคุกนักข่าวที่ไม่เดินตามแนวทางของรัฐบาล แต่เวียดนามได้เปิดตัวพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ของประเทศที่อุทิศพื้นที่ให้แก่สื่อมวลชน
    .
    ตั้งแต่รูปถ่ายรางวัลพูลิตเซอร์จากสงครามเวียดนาม ไปจนถึงเรื่องราวการต่อสู้เพื่อเสรีภาพสื่อในช่วงยุคอาณานิคมฝรั่งเศส นิทรรศการที่จัดขึ้นอย่างพิถีพิถันนำเสนอประวัติศาสตร์การสื่อสารมวลชนที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างดีในประเทศคอมมิวนิสต์แห่งนี้
    .
    พิพิธภัณฑ์สื่อแห่งนี้เปิดตัวเมื่อเดือนก่อน ไม่นานหลังทางการจับกุมนักข่าว 2 คนที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลในข้อหาต่อต้านรัฐ ข้อหาที่มีโทษจำคุกหนัก
    .
    องค์กรนักข่าวไร้พรมแดนที่จัดอันดับเสรีภาพสื่อของเวียดนามอยู่ที่ 175 จาก 180 ประเทศ กล่าวว่า การจับกุมนักข่าวเป็นการส่งสัญญาณไปยังสื่อต่างๆ ก่อนการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือน ม.ค.
    .
    นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ทั้งหมดในประเทศถูกควบคุมโดยรัฐ
    .
    แต่อย่างไรก็ตาม เจิ่น ถิ กิม ฮวา ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ กล่าวว่า พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นตัวอย่างที่น่าภาคภูมิใจของเสรีภาพที่สื่อมวลชนของประเทศได้รับ
    .
    “ด้วยกฎหมายเสรีภาพสื่อที่ฝรั่งเศสนำมาสู่เวียดนาม เราตระหนักอยู่เสมอว่าเสรีภาพสื่อของสื่อคืออะไร ความจริงที่ว่าเราสามารถสร้างพิพิธภัณฑ์นี้ได้ นั่นแสดงให้เห็นว่าเรามีเสรีภาพสื่อ” ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ กล่าวกับเอเอฟพี อ้างถึงกฎหมายปี 1881 ที่ใช้กับฝรั่งเศสและดินแดนอาณานิคมของฝรั่งเศส
    ..
    แม้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล แต่กลับไม่มีส่วนใดของพิพิธภัณฑ์ที่กล่าวถึงว่ารัฐบาลได้สั่งห้ามสื่ออิสระในประเทศ
    .
    การรายงานข่าวรายวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นสังคม มีความหลากหลายตั้งแต่การติดตามเรื่องสารปรอทรั่วไหลจากโรงงานไปจนถึงการปนเปื้อนในระบบประปาของกรุงฮานอย แต่การวิพากษ์วิจารณ์ผู้มีอำนาจระดับสูงของประเทศนั้นไม่สามารถยอมรับได้
    .
    พิพิธภัณฑ์ที่มีมูลค่าการก่อสร้างราว 1 ล้านดอลลาร์ หลีกเลี่ยงที่จะแสดงถึงการมีส่วนร่วมของนักข่าวในการแก้ไขปัญหาของประเทศ แต่กลับมุ่งเน้นไปที่การจัดแสดงเครื่องมือของนักข่าวและงานบางชิ้น ไม่ว่าจะเป็นกล้องเก่า เครื่องพิมพ์ดีด กาน้ำชาและแก้วน้ำของนักข่าว และบทความเก่า
    .
    ลำโพงที่จำลองจากแบบที่เคยใช้สำหรับการเผยแพร่ข้อความโฆษณาชวนเชื่อระหว่างสงครามเวียดนาม ก็ถูกนำมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
    .
    หนึ่งในผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ ที่เป็นนักข่าวทีวีและวิทยุท้องถิ่น กล่าวว่า เธอรู้สึกประทับใจกับนิทรรศการที่เก็บจิตวิญญาณของนักข่าวในเวียดนาม.
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    - https://mgronline.com/indochina/detail/9630000073555
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #คุยกับแอด เนื่องจากมีหลายท่าน ถามแอดมาเยอะเกี่ยวกับเรื่องกลิ่นแก๊สที่จ. คานางาวะ ว่าเกี่ยวกับแผ่นดินไหวใหญ่จะเกิดไหม ❓

    แอดตั้งใจว่า ถ้ามีคนหลังไมค์มาครบ 10 ท่าน แอดจะเขียนข้อสังเกตให้ฟังค่ะ ว่าทำไมแอดยังไม่เอาข่าวนี้มาลง?

    เอาความจริงเรื่องหนึ่งก่อนก็คือ เหตุการณ์แนวนี้เคยเกิดขึ้นแล้ว เมื่อประมาณเดือนที่แล้วในบริเวณไม่ไกลกันมากในจ. คานางาวะ และกลิ่นค่อย ๆ กระจายเป็นวงกว้าง จนมีประชาชนแจ้งความกันใหญ่

    ครั้งนี้ก็เพิ่งเกิดขึ้นไปสด ๆ ร้อน ๆ แต่ในข่าวตอนนี้มีเพิ่มเติมด้วยว่า สมัยที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งก่อน เคยมีคนได้กลิ่นแก๊สเหมือนกัน และอาจจะเป็นการรั่วไหลของแก๊สธรรมชาติตามชั้นหินจากทะเลที่เกิดขึ้นก่อนแผ่นดินไหว

    แน่นอน ถ้าเป็นแบบนั้นน่าจะเป็นข่าวใหญ่มาก เกือบทุกที่แต่ทำไมข่าวหลาย ๆ สื่อยังเงียบเรื่องนี้อยู่ แอดเลยนิ่งไว้ก่อน เพราะกลัวคนแพนิกและขอหาข้อมูลก่อน

    สิ่งที่แอดรู้แน่ ๆ อย่างนิ่งก็คือ แก๊สธรรมชาติ มัน "ไม่มี" กลิ่นค่ะ
    ถ้าเป็นกลิ่นแก๊ส แปลว่า เป็นแก๊สที่เราใส่ สารเมอร์แคปแทน (Mercaptan) ลงไป เพื่อให้รู้ว่ามีการรั่วไหลของแก๊สออกมา

    ดังนั้น สมมุติฐานที่ว่า ได้กลิ่นแก๊สแล้ว แปลว่า เป็นการรั่วไหลของแก๊สธรรมชาติจากชั้นหิน... แอดว่าอาจจะไม่ตรงเท่าใดนัก....

    ในขณะเดียวกันก็มีผู้ตั้งสมมุติฐานว่า อาจจะเกิดจากการปล่อยแก๊สของเรือบางลำ และลมพัดมาเข้าเมืองพอดีหรือเปล่า?

    ยังเป็นสิ่งที่ต้องหาคำตอบกันต่อไ่ปค่ะ

    อย่างไรก็ดี การเตรียมตัวสำหรับแผ่นดินไหวใหญ่นั้น ควรเตรียมตัวใน "ทุก ๆ วัน" เพราะมันคงมาแหละค่ะ แต่ปัญหาคือเมื่อไหร่?

    ❢ มันอาจจะมาวันนี้ พรุ่งนี้ เดือนหน้า ปีหน้า สิบปีถัดไป หรืออีกสามสิบปีก็ไม่มีใครทราบค่ะ #การเตรียมพร้อม เป็นสิ่งที่ดี แต่การ #ตื่นตูม ไม่ใช่สิ่งที่ดีค่ะ

    ด้วยรักจาก แอด

    #กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #แผ่นดินไหวใหญ่

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พม่าระอุ สถานทูตจีน-สหรัฐฯ ในย่างกุ้งออกคำแถลงโต้กันไปมากรณีทะเลจีนใต้
    .
    รอยเตอร์.20 ก.ค. - สถานทูตจีนในพม่ากล่าวหาสหรัฐฯ “ใส่ร้ายป้ายสีอย่างรุนแรง” และยุแยงให้จีนกับประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แตกกันเกี่ยวกับประเด็นทะเลจีนใต้และฮ่องกง ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสองประเทศมหาอำนาจที่เพิ่มสูงขึ้น
    .
    ในการตอบโต้สหรัฐฯ ที่ออกมากล่าวหาว่าปักกิ่งกำลังบ่อนทำลายอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน สถานทูตจีนกล่าวว่า หน่วยงานของสหรัฐฯ ในต่างประเทศกำลังทำสิ่งที่น่ารังเกียจเพื่อควบคุมจีน และยังแสดงให้เห็นถึง “ความเห็นแก่ตัว เสแสร้งหลอกหลวง และน่าเกลียด”
    .
    เมื่อสัปดาห์ก่อน สหรัฐฯ ได้แสดงจุดยืนของตนอย่างชัดเจนต่อกรณีทะเลจีนใต้ ด้วยการกล่าวว่า สหรัฐฯ จะสนับสนุนประเทศในภูมิภาคนี้ที่ท้าทายการอ้างกรรมสิทธิ์ของปักกิ่งเหนือน่านน้ำ 90% ของทะเลจีนใต้
    .
    ในคำแถลงที่ออกเมื่อวันเสาร์ (18) สถานทูตสหรัฐฯ ในย่างกุ้งเรียกการกระทำของจีนในทะเลจีนใต้และฮ่องกงว่า เป็นส่วนหนึ่งของ “รูปแบบที่ใหญ่มากขึ้นในการบ่อนทำลายอำนาจอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน”
    .
    คำแถลงของสหรัฐฯ ยังเปรียบเทียบการกระทำของจีนในทะเลจีนใต้และฮ่องกงกับโครงการการลงทุนขนาดใหญ่ของจีนในพม่า ที่สหรัฐฯ เตือนว่าอาจกลายเป็นกับดักหนี้ รวมถึงปัญหาค้าหญิงจากพม่าไปเป็นเจ้าสาวในจีน และยาเสพติดจากจีนที่ไหลเข้ามาในพม่า
    .
    “นี่คือวิธีที่อธิปไตยสมัยใหม่สูญหายไป ไม่ใช่ผ่านการกระทำที่โจ่งแจ้ง แต่เป็นเหมือนสายน้ำขนาดเล็กที่กัดเซาะอย่างช้าๆ เมื่อเวลาผ่านไป” สถานทูตสหรัฐฯ ระบุ
    .
    ในคำแถลงโต้ตอบ จีนกล่าวว่า คำแถลงของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงทัศนติ “องุ่นเปรี้ยว” ของสหรัฐฯ ที่มีต่อ “ความสัมพันธ์ที่เฟื่องฟูระหว่างจีน-พม่า” และเป็น “เรื่องตลกอีกเรื่องระหว่างการเดินทางทั่วโลกของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เพื่อเปลี่ยนความสนใจจากปัญหาภายในประเทศ และแสวงหาประโยชน์ทางการเมืองอย่างเห็นแก่ตัว”
    .
    “สหรัฐฯ ควรหันไปมองกระจกดูก่อนว่ายังเหมือนประเทศที่สำคัญในตอนนี้หรือไม่” คำแถลง ระบุ
    .
    อย่างไรก็ตาม สถานทูตจีนในย่างกุ้งไม่ได้ตอบรับโทรศัพท์ที่รอยเตอร์ติดต่อเพื่อขอความเห็นเพิ่มเติม เช่นเดียวกับสถานทูตสหรัฐฯ
    .
    พม่ากลายเป็นสมรภูมิแย่งชิงอิทธิพลระหว่างสองประเทศมากขึ้นนับตั้งแต่รัฐบาลภายใต้การนำของนางอองซานซูจี และตะวันตกเริ่มตึงเครียดจากการปฏิบัติของพม่าต่อชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญา
    .
    ถั่น มี้น อู นักเขียนและนักประวัติศาสตร์กล่าวกับรอยเตอร์ผ่านทางอีเมลว่า แม้พม่าจะมีคุณค่าทางเศรษฐกิจเพียงเล็กน้อยต่อสองประเทศ แต่ความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในฐานะสะพานเชื่อมระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่และอ่าวเบงกอลเป็นสิ่งที่ยากจะเพิกเฉยได้
    .
    “สัญชาตญาณของพม่านับตั้งแต่ได้เอกราชในปี 2491 คือพยายามที่จะเป็นมิตรกับทุกคน แต่ไม่ชัดเจนว่ายังเป็นแบบนั้นอยู่หรือไม่ในช่วงเวลาที่การแข่งขันระหว่างสองมหาอำนาจรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ” ถั่น มี้น อู กล่าว.

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #พูดทั้งโลก
    อิหร่านโบกมือลาอินเดียหันหน้าซบจีน ส่งผลภูมิรัฐศาสตร์ตะวันออกกลาง
    .
    เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านการเมืองและการพัฒนาในภูมิอ่าวอาหรับค่อนข้างระอุ เมื่อรัฐบาลอิหร่านออกมาประกาศว่าจะยุติความร่วมการพัฒนาเส้นทางรถไฟเชื่อมท่าเรือจาบาหากับเมืองซาเหดันซึ่งอยู่ติดชายแดนอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาร่วมกันระหว่างอิหร่านและอินเดียก่อนหน้านี้
    .
    โดยในการตกลงร่วมกันระหว่าง 3 ชาติ อินเดีย-อิหร่าน-อัฟกานิสถานในปี 2016 เส้นทางรถไฟสายนี้อยู่ภายใต้โครงการพัฒนาร่วมที่สนับสนุนเงินลงทุนโดยรัฐวิสาหกิจการรถไฟของอินเดียคิดมูลค่าถึง 1.6 พันล้านดอลลาร์
    .
    อย่างไรก็ตามโครงการนี้ไม่สามารถเริ่มดำเนินการได้เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกาที่มีต่ออิหร่าน ส่งผลให้อินเดียเลือกที่จะปฏิบัติตามมาตรการของสหรัฐ และทำให้โครงการนี้ล่าช้าออกไป
    .
    ทั้งนี้ข้อมูลของทางฝั่งอินเดียระบุว่าอิหร่านตัดสินใจยกเลิกสัญญาที่ตกลงไว้กับอินเดียและเลือกที่จะลงทุนในโครงการพัฒนาดังกล่าวด้วยตัวเอง โดยให้เหตุผลว่าอินเดียละเมิดสัญญาและมีความล่าช้าในการสนับสนุนงบประมาณเพื่อการพัฒนาเส้นทางรถไฟสายนี้
    .
    แต่ขอมูลทางฝั่งอิหร่านระบุว่าข้อมูลของทางการอินเดียนั้นค่อนข้างผิดในหลายมิติเพราะเอาเข้าจริงแล้วโครงการนี้ไม่เคยมีการตกลงกับทางอินเดียเลยตั้งแต่ต้นเพราะเกิดปัญหาในการกำหนดเส้นทางการพัฒนา และอิหร่านลงนามร่วมกับอินเดียในการพัฒนาเพียงเรื่องท่าเรือเท่านั้น
    .
    ฉะนั้นประเด็นเรื่องโครงการพัฒนาทางรถไฟที่ทางอินเดียมีการเสนอข่าวว่าอิหร่านผิดสัญญาและปลดอินเดียออกจากโครงการพัฒนานั้นผิดอย่างยิ่งเพราะอิหร่านและอินเดียไม่เคยตกลงกันในเรื่องนี้เลย
    .
    แน่นอนว่านักวิเคราะห์บางส่วนมุ่งความสนใจไปที่เงินงบประมาณจำนวนมหาศาลที่อิหร่านจะใช้ในโครงการพัฒนานี้มาจากไหน และมันก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่านักลงทุนรายใหญ่ดังกล่าวก็คือ "จีน" นั่นเอง
    .
    เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเปิดเผยว่าอิหร่านและจีนมีการลงนามในข้อตกลงร่วมกันในการพัฒนาอิหร่านซึ่งจะกินระยะเวลายาวนานถึง 25 ปี ซึ่งกินขอบเขตทั้งเรื่องเศรษฐกิจและความมั่นคง โดยมีการประมาณกันว่าเม็ดเงินในการลงทุนนั้นสูงถึง 400,000 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
    .
    โดยความร่วมมือนี้ครอบคลุมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศอิหร่าน การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองระหว่างกัน การสร้างความแน่นแฟ้นระหว่างจีน-อิหร่านในเรื่องทางการทหาร
    .
    ข้อตกลงนี้จะทำให้จีนกลายเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ของอิหร่านหลังจากถูกสหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตรคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจหลังเกิดวิกฤตเมื่อช่วงก่อนหน้านี้
    .
    ในขณะเดียวกันข้อตกลงนี้จะส่งผลให้บทบาทของจีนในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเพิ่มมากยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าภูมิรัฐศาสตร์ของภูมิภาคนี้ก็ยากจะเหมือนเดิม หลังก่อนหน้านี้ตัวแสดงสำคัญในภูมิภาคคือขั้วอิหร่าน ซาอุดิอาราเบีย และตุรกี
    .
    ความร่วมมือปักกิ่ง-เตหะรานรอบนี้เรียกได้ว่าสั่นสะเทือนสหรัฐอเมริกาภายในภูมิภาคเอเชียกลางและตะวันตกอย่างยิ่ง เพราะถือว่าอเมริกาเล่นบทบาทนำในภูมิภาคดังกล่าวมาโดยตลอด และมีอิหร่านเป็นศัตรูตลอดกาล
    .
    ฉะนั้นการที่อิหร่านได้พันธมิตรใหม่อย่างจีนย่อมทำให้อิหร่านเปรียบเสมือเสือติดปีกหลังต้องนอนซมพิษเศรษฐกิจที่ถูกโลกตะวันตกคว่ำบาตรมาเป็นเวลานานจนส่งผลให้เสถียรภาพภายในประเทศมีปัญหา
    .
    ต่อจากนี้สถานการณ์ของภูมิศาสตร์โลกจะเข้มข้นมากยิ่งขึ้น และเผลอ ๆ จะดุเดือดกว่าที่เราเคยเห็นผ่านมาอย่างแน่นอน
    .
    #กระแสเอเชียใต้ #อินเดีย #อิหร่าน #จีน #ความมั่นคง #ตะวันออกกลาง

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “เราใช้คำว่า โควิดภิวัฒน์ เพราะจะต้องมีการอภิวัฒน์คือการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นร้ายแรงมาก จึงเป็นช่วงที่ต้องมีการปฏิรูปและปรับตัวอย่างจริงจัง ...ต้องประสานกันและต้องร่วมมือกัน อันนี้เป็นวาระการปฏิรูปประเทศวาระใหญ่ ทำยังไงที่จะทำให้ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคครัวเรือน ภาคประชาสังคม ภาคธุรกิจสามารถเข้ามาช่วยกัน และช่วยกันเปลี่ยนโครงสร้างของเศรษฐกิจสังคมไทยได้”
    .
    ดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
    20 ก.ค. 2563

    #แบงก์ชาติ #BOTSymposium #สัมมนาวิชาการ2563 #สำนักงานภาค #BIZpromptINFO

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พม่าจัดพิธีรำลึก 73 ปี ‘วันวีรชน’ ซูจี-มินอองหล่ายร่วมงานแบบนิวนอร์มอล
    .
    เอพี.20 ก.ค. - พม่าจัดพิธีรำลึกครบรอบ 73 ปี วันวีรชน ที่นครย่างกุ้งในวานนี้ (19) ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 เพื่อเป็นเกียรติแก่วีรบุรุษของชาติที่สละชีวิตในปี 2490 เพื่อให้ได้มาซึ่งเอกราชของประเทศ
    .
    นายพลอองซาน รวมทั้งผู้คุ้มกัน 1 คน และสมาชิกสภา 7 คน ถูกลอบสังหารที่อาคารสำนักงานเลขาธิการ เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2490 ซึ่งหลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน ประเทศก็ได้รับเอกราชในวันที่ 4 ม.ค.2491
    .
    ในพิธีที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีนี้ นางอองซานซูจี บุตรสาวของนายพลอองซาน พร้อมด้วย พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ประธานาธิบดีวิน มี้น รองประธานาธิบดีมี้น ส่วย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานสภาเชื้อชาติ อัยการสูงสุดสหภาพพม่า และเจ้าหน้าที่ในภาคส่วนต่างๆ ได้เข้าทำความเคารพและวางพวงมาลายังสุสานวีรชน
    .
    บรรดาผู้นำที่เข้าร่วมงานล้วนสวมหน้ากากอนามัย ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในพิธีระดับรัฐงานแรกที่จัดขึ้นในช่วงการระบาด
    .
    หลังเสร็จสิ้นพิธี สุสานวีรชนเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าแสดงความเคารพ และที่พิพิธภัณฑ์นายพลอองซานยังจัดนิทรรศการออนไลน์เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19
    .
    พม่าเพิ่งผ่านพ้นจากการปกครองของรัฐบาลเผด็จการทหารเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังการเลือกตั้งในปี 2558 ที่ทำให้ประเทศกลับเข้าสู่เส้นทางประชาธิปไตย แต่ทหารยังคงกุมอำนาจสำคัญในประเทศผ่านบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ที่ทหารเป็นผู้ร่างขึ้น
    .
    รัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังคงเป็นที่มาสำคัญของความตึงเครียดระหว่างทหารและรัฐบาลพลเรือน ซึ่งการเลือกตั้งทั่วไปจะมีขึ้นในปลายปีนี้ในเดือน พ.ย.
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หลุมยุบเกิดที่ประเทศอินเดีย

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เกิดหลุมยุบลึก 4 เมตร ที่ เซียงตัน,หูหนาน,ประเทศจีน เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมฆหมวกสีรุ้ง เกิดที่ประเทศบราซิล

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ว่า จรวดเอชทูเอขององค์การการสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (จาซา) ทะยานขึ้นจากฐานปล่อยจรวดหมายเลข 42 ภายในศูนย์อวกาศทาเนกาชิมะ ในจังหวัดคาโงชิมะ บนเกาะคิวชู ทางตอนใต้ของประเทศ เมื่อเวลา 06.58 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันจันทร์ (04.58 น. ตามเวลาในประเทศไทย) เพื่อส่งยานสำรวจโฮป หรือ "อามาล" ซึ่งเป็นภาษาอาหรับหมายถึง "ความหวัง" ขององค์การอวกาศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อปฏิบัติภารกิจสำรวจดาวอังคารครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลกอาหรับ โดยจะใช้เวลาประมาณ 7 เดือน หรือภายในเดือนก.พ. 2564

    กำหนดการออกเดินทางครั้งนี้ล่าช้ากว่าเดิมนานถึง 5 วัน เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ขณะที่บริษัทมิตซูบิช เฮฟวี อินดัสทรีส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตจรวดเอชทูเอ รายงานเพิ่มเติมว่าภารกิจเป็นไปอย่างราบรื่น ยานสำรวจแยกตัวออกจากจรวดหลังออกเดินทางไปได้ประมาณ 56 นาที

    โดยการออกเดินทางของยานอามาลในครั้งนี้ ได้รับการถ่ายทอดสดกลับไปยังยูเออี ภายในศูนย์อวกาศโมฮัมเหม็ด บิน ราชิด เมืองดูไบ ซึ่งเต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่และประชาชนจำนวนมากที่มารวมตัวชมช่วงเวลาประวัติศาสตร์ ที่ยูเออีเป็นประเทศแรกในภูมิภาคตะวันออกกลางและโลกอาหรับ ซึ่งสามารถพัฒนายานสำรวจระหว่างดาวนพเคราะห์ และส่งออกไปนอกโลกได้สำเร็จ หลังเคยส่งดาวเทียมสำรวจโลกมาแล้ว 3 ดวง แต่ดาวเทียมเหล่านี้ยังคงเคลื่อนที่อยู่ภายในวงโคจรโลก

    ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงวิทยาศาสตร์ชั้นสูงของยูเออี ระบุว่า ภารกิจสำรวจดาวอังคารโดยยานอามาล ใช้งบประมาณราว 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,350.7 ล้านบาท) ครอบคลุมระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี มีปฏิบัติการหลักที่รวมถึงการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศบนดาวเคราะห์แห่งนี้

    ที่มา https://www.dailynews.co.th/foreign/785697

    #roundtablethailand
    Roundtablethailand.com

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หลังจากสร้างเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐ และบราซิล ที่มีผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19 มากกว่า 1 ล้านคน วันนี้ (20 ก.ค.) เว็บไซต์อินเดียทูเดย์ รายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ว่ากระทรวงสาธารณสุขของอินเดียรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยืนยันการพบผู้ป่วย 40,425 คน เป็นสถิติรายวันครั้งใหม่ และเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศเป็นอย่างน้อย 1,118,043 คน มากที่สุดในทวีปเอเชีย

    ขณะที่ในวันเดียวกันมีการยืนยันผู้เสียชีวิตอีก 681 คน เพิ่มสถิติผู้เสียชีวิตสะสมเป็นอย่างน้อย 27,497 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 2.49% ทั้งนี้ อินเดียยืนยันการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่คนแรกในประเทศ เมื่อวันที่ 30 ม.ค. และมีผู้เสียชีวิตคนแรกเมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่่ผ่านมา โดยจนถึงตอนนี้รัฐมหาราษฏระที่อยู่ริมชายฝั่งทางตะวันตก มีผู้ป่วยสะสมมากที่สุด คืออย่างน้อย 310,455 คน และเสียชีวิตแล้ว 11,854 คน มากที่สุดในประเทศเช่นกัน

    แม้ว่าอินเดียจะมีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และอัตราการฟื้นตัวของผู้ป่วยดีขึ้นด้วยก็ตาม แต่ผู้เชี่ยวชาญกลับกลัวว่าจำนวนผู้ติดเชื้ออาจเพิ่มสูงขึ้นในระยะยาวได้ หากประชาชนไม่ปฏิบัติตามบรรทัดฐานใหม่ในการเว้นระยะห่างทางสังคมที่เข้มงวด โดยจุดสูงสุดของอินเดียน่าจะอยู่ในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ แต่ทุกฝ่ายต่างเฝ้าระวังสถานการณ์ในกรุงนิวเดลี ที่อัตราการติดเชื้อเพิ่มอย่างรวดเร็ว

    https://www.indiatoday.in/india/sto...very-rate-single-day-spike-1702383-2020-07-20

    #RoundtableThailand
    roundtablethailand.com

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    20 กรกฎาคม 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์คุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ กระทรวงศึกษาธิการ (ศคพ.) พร้อมมอบนโยบายขับเคลื่อนการคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงปราบปราม ดำเนินการขั้นเด็ดขาด กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดที่กระทำความผิด พร้อมสะสางปัญหาเก่าและยุติปัญหาใหม่ด้วยความรวดเร็ว รอบคอบ เด็ดขาด อย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ

    จากนั้นได้มีการประชุมมอบนโยบายขับเคลื่อนการคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ เพื่อสร้างความเข้าใจในการดำเนินนโยบายให้ไปในทิศทางเดียวกัน โดยมี 5 ผู้แทนองค์กรภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ได้แก่ องค์กรยูนิเซฟแห่งประเทศไทย มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก มูลนิธิศานติวัฒนธรรม และองค์กรทำดี ได้มอบข้อเสนอเพื่อขับเคลื่อนนโยบายการคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ ต่อ รมว.ศึกษาธิการ

    รมว.ศึกษาธิการ กล่าวตอนหนึ่งว่า โรงเรียนเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของนักเรียน ศธ.ต้องให้ความมั่นใจกับผู้ปกครองในเรื่องของความปลอดภัยให้ได้ ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ามีขั้นตอนหลายอย่างที่ทำให้เรื่องการล่วงละเมิดทางเพศไม่สามารถบริหารจัดการได้

    วันนี้จึงได้ตั้ง ศคพ.ขึ้นมาเพื่อทำให้การแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียนมีประสิทธิภาพมากที่สุด ดำเนินการด้วยความรวดเร็ว รอบคอบ และเด็ดขาด ถึงแม้ว่าจะมีครูส่วนน้อยที่มีปัญหา แต่ก็ไม่ควรจะวนเวียนอยู่ใน ศธ.ไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม รวมถึงวางมาตรการให้บุคคลเหล่านี้โดนถอดใบประกอบวิชาชีพทั้งกรณีชั่วคราวและตลอดไป ตลอดจนการให้ออกจากราชการไว้ก่อนจนกระทั่งกระบวนการยุติธรรมมีการสอบสวนอย่างครบถ้วนถูกต้องตามกฎหมาย

    ศูนย์คุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ กระทรวงศึกษาธิการ (ศคพ.) จัดตั้งขึ้นเพื่อให้เป็นหน่วยงานกลางของ ศธ. ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาในสังกัดหรือในกำกับของ ศธ. ที่ได้รับผลกระทบทั้งด้านร่างกายและจิตใจ จากการถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา รวมถึงนักเรียนนักศึกษา และบุคคลซึ่งปฏิบัติงานอื่นในสังกัดหรือในกำกับ ศธ. โดยมุ่งที่จะปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศด้วยความรวดเร็ว รอบคอบ เด็ดขาด ภายใต้มาตรการใหญ่ 3 ด้าน คือ
    1. มาตรการด้านการป้องกัน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กับนักเรียนนักศึกษา โดยนั้นให้สถานศึกษาดูแลนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษาในรับผิดชอบ ตลอดจนสภาพแวดล้อมในโรงเรียนให้ไม่เอื้อต่อการล่วงละเมิดทางเพศและการกระทำผิดอื่น ๆ
    2. มาตรการด้านการปราบปราม เพื่อแก้ไขปัญหา สะสางปัญหาเก่า ยุติปัญหาใหม่ โดยหากสถานศึกษาหรือหน่วยงานทางการศึกษาพบว่ามีข้อร้องเรียนเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ หรือมีการเผยแพร่ผ่านสื่อสาธารณะในวงกว้าง ผู้มีอำนาจคือเขตพื้นที่ต้องสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาย้ายไปประจำเป็นการชั่วคราว จากนั้นจึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงทันที และหากผลการตรวจสอบพบว่าข้อร้องเรียนนั้นมีมูลความจริง ให้ผู้มีอำนาจสั่งตั้งกรรมการวินัยร้ายแรงและให้ผู้กระทำผิดออกจากราชการไว้ก่อน ขั้นตอนทั้งหมดมีเป้าหมายให้เสร็จภายใน 24 ชั่วโมง แล้วรายงานหน่วยงานตันสังกัดส่วนกลางและแจ้งข้อมูลมายัง ศคพ. เมื่อ ศคพ. ได้รับเรื่องแล้วจะรีบเสนอไปยังสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาเพื่อขอให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของผู้กระทำผิดเป็นการชั่วคราว โดย ศคพ. จะเร่งรัดให้มีการดำเนินการทางวินัยควบคู่กับการดำเนินการด้านคดีอาญาด้วย
    3. มาตรการด้านการคุ้มครองและช่วยเหลือ เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยานักเรียนนักศึกษาอย่างเป็นธรรม โดยกำหนดให้สถานศึกษาต้องประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดูแลเยี่ยวยานักเรียนนักศึกษาผู้ถูกล่วงละเมิดอย่างรวดเร็ว ทันท่วงที นอกจากนี้ยังต้องคุ้มครองผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศทุกคนให้ได้รับการบำบัดฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ ไม่ละทิ้งให้เขาต้องอยู่ในสภาพยากลำบากโดยลำพัง และต้องประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกองทุนคุ้มครองเด็ก กองทุนยุติธรรม เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือเยียวยานักเรียนนักศึกษาที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศอย่างรวดเร็ว

    สำหรับนักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศจากข้าราชการครูและบุคลากรในสังกัดหรือในกำกับ ศธ. หรือผู้พบปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียน สามารถติดต่อร้องเรียนและร้องทุกข์ได้ทาง โทร. 02-007-0001 หรือสายด่วนการศึกษา 1579 email : skp200200@gmail.com และเฟซบุ๊กเพจ : ศคพ.กระทรวงศึกษาธิการ หรือติดต่อได้ด้วยตัวเองที่ศูนย์ ศคพ. อาคารรัชมังคลาภิเษก 2 ชั้น 1 กระทรวงศึกษาธิการ

    https://moe360.blog/2020/07/20/รมว-ศธ-เปิดศูนย์คุ้มครอง/

    #RoundtableThailand
    roundtablethailand.com

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วารสาร Mitochondrial DNA Part B : Resources ซึ่งตีพิมพ์เมื่อ 12 กรกฎาคม 2563 ระบุโครงการทรัพยากรชีวภาพปลากัดแห่งชาติ (National Betta Bioresource Project) ของไทย สร้างความสำเร็จระดับโลก สามารถถอดรหัสพันธุกรรมของจีโนมไมโทคอนเดรียที่สมบูรณ์ ของปลากัดป่ามหาชัย (Betta mahachaiensis) ได้เป็นครั้งแรกของโลก

    จากความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สมาคมปลากัด และ บริษัท วิชูโอ ไบโอเมดิคอล (ไทยแลนด์) จำกัด เพื่อศึกษาข้อมูลจีโนมปลากัดป่ามหาชัย ที่พบในประเทศไทยเท่านั้น และกำลังเสี่ยงสูญพันธุ์จากความเจริญทั้งในภาคอุตสาหกรรม คมนาคม ที่อยู่อาศัย ที่ขยายตัวจนคุกคามที่อยู่ตามธรรมชาติของปลากัดป่ามหาชัย ซึ่งอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำกร่อยบริเวณป่าจากแถบ จ.สมุทรสาคร สมุทรปราการ สมุทรสงคราม และบางส่วนของพื้นที่กรุงเทพฯ

    โดยพบข้อมูลสำคัญบนจีโนม เพื่อใช้สนับสนุนจัดทำฐานข้อมูลด้านความหลากหลายทางชีวภาพ อนุกรมวิธาน เอกลักษณ์ทางพันธุกรรม และการแพร่กระจายของปลากัดป่า ซึ่งอาศัยอยู่ในแหล่งธรรมชาติของประเทศไทย

    การถอดรหัสพันธุกรรมครั้งนี้นับเป็นจีโนมที่ 5 ของปลากัดป่า ต่อจากปลากัดอมไข่ภาคใต้ (B. simplex), ปลากัดภูเขาภาคใต้ (B. apollon), ปลากัดอมไข่น้ำแดงหรือป่าพรุ (B. pi) และปลากัดป่าภาคกลาง (B. splendens) ซึ่งได้รับการถอดรหัสพันธุกรรม โดยคณะผู้วิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

    ทั้งนี้ ข้อมูลจีโนมดังกล่าวจะเป็นฐานข้อมูลสำคัญ เพื่อต่อยอดการพัฒนาวิธีการพิสูจน์เอกลักษณ์ และเข้าใจกลไกวิวัฒนาการ จุดกำเนิดของปลากัดป่ามหาชัย และอนุรักษ์ปลากัดป่ามหาชัย เพื่อพัฒนาให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจ โดยไม่ต้องจับจากธรรมชาติ

    ที่มา https://www.thairath.co.th/news/local/1892741

    #roundtablethailand
    Roundtablethailand.com

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Good night
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    UPDATE: กลุ่มแบงก์ตั้งการ์ดสูง ฉุดกำไรไตรมาส 2/63 ทรุดมากกว่าคาด
    .
    กลุ่มแบงก์ทยอยประกาศงบไตรมาส 2/63 กำไรออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด เหตุตั้งสำรองสูง รองรับเอ็นพีแอลส่อแววพุ่ง KBANK หนักสุดกำไรต่ำคาด 66% ตามด้วย TISCO 14% และ TMB แม้กำไรโตแต่ยังต่ำกว่าคาด 6% ด้าน ‘เอเซียพลัส’ เตือนโค้ง 2 จับตาหนี้เน่า และลูกหนี้ที่ขอพักชำระหนี้
    .
    - กสิกรไทย กำไรไตรมาส 2/63 ลดลง 78% YoY

    ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/63 ที่ 2,175 ล้านบาท ลดลง 78% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9,928 ล้านบาท ส่งผลงวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 9,550 ล้านบาท ลดลง 52.18% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่ 19,973 ล้านบาท เหตุตั้งสำรองเพิ่มขึ้นรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในอนาคต พร้อมติดตามคุณภาพหนี้ใกล้ชิด
    .
    ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KBANK เปิดเผยผ่านเอกสารเผยแพร่
ว่า งวดครึ่งปีแรกธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงาน ก่อนหักผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น และภาษีเงินได้จำนวน 45,950 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 6.50%
    .
    แต่ธนาคารใช้หลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่องในการพิจารณาสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss) เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 16,937 ล้านบาท หรือ 111.97% ทำให้กำไรสุทธิสำหรับงวดครึ่งปีแรกปี 2563 ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 10,423 ล้านบาท หรือ 52.18% แม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 4,142 ล้านบาท หรือ 8.12% ส่วนใหญ่เกิดจากการเติบโตของสินเชื่อ 
ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2/63 มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น และภาษีเงินได้จำนวน 25,378 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนจำนวน 4,806 ล้านบาท หรือ 23.37% แต่สำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มจำนวน 8,320 ล้านบาท หรือ 70.08% จากไตรมาสก่อน ทำให้กำไรสุทธิอยู่ที่จำนวน 2,175 ล้านบาท
    .
    NPL งวดครึ่งปีอยู่ที่ 3.92% จากสิ้นปี 2562 ที่ 3.65%

    ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 3,585,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 จำนวน 291,911 ล้านบาท หรือ 8.86% ส่วนใหญ่เป็นการเติบโตของสินเชื่อ และการเพิ่มขึ้นของรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงินสุทธิ สำหรับเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (% NPL Gross) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 อยู่ที่ระดับ 3.92% จากสิ้นปี 2562 อยู่ที่ระดับ 3.65% โดยธนาคารได้มีการติด
ตาม ให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งควบคุมดูแลคุณภาพสินเชื่อของลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างใกล้ชิด
    .
    อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 อยู่ที่ระดับ 155.68% โดยสิ้นปี 2562 อยู่ที่ระดับ 148.60% สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารอยู่ที่ 18.09% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 15.38%

    ทหารไทย กำไรไตรมาส 2/63 เพิ่มขึ้น 61%

    ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 มีกำไรสุทธิ 3,095 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,917 ล้านบาท ส่งผลงวด 6 เดือนแรก มีกำไรสุทธิ 7,258.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 107.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,496 ล้านบาท
    .
    ไตรมาสนี้รายได้รวมลดลง 8.9% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) จากการชะลอตัวของกิจกรรมทางธุรกิจจากวิกฤตโควิด-19 และตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) เพิ่มเติม 4,972 ล้านบาท จากแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ในปัจจุบัน และสภาพเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน ส่งผลให้รอบ 6 เดือน ECL อยู่ที่ 9,732 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
    .
    ไตรมาสนี้มีการตั้งสำรองสูงขึ้น เนื่องจากการตั้ง ECL เพิ่มเติม 1.6 พันล้านบาท สำหรับเงินลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ โดยมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมด 3.15 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 2% ของพอร์ตเงินลงทุนทั้งหมดของธนาคาร
    .
    ไตรมาส 2/63 ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 13,045 ล้านบาท ลดลง 6.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) แต่เพิ่มขึ้น 105.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (NIM) อยู่ที่ 2.88% ลดลง 24 bps จากไตรมาส 1/63 จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำ และการปรับลดการคำนวณดอกเบี้ยแท้จริง (EIR) ภายใต้โปรแกรมความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19
    .
    ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 3,523 ล้านบาทในไตรมาส 2/63 เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนรอบ 6 เดือน 2563 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 7,705 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.6% จาก 4,828 ล้านบาทช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า ปัจจัยหลักมาจากการขยายตัวของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจากการรวมงบการเงินของธนาคารธนชาต
    .
    ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 สินทรัพย์รวมของธนาคารและบริษัทย่อยมีจำนวนทั้งสิ้น 1,893,152 ล้านบาท ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า มีเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับสุทธิลดลง 1.2% จากไตรมาสก่อนหน้า และทรงตัวจากสิ้นเดือนธันวาคม 2562
    .
    อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL Ratio) ตามงบการเงินรวมอยู่ที่ 2.34% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 ลดลงจากสิ้นเดือนมีนาคม 2563 และร้อยละ 2.35 ณ สิ้นปี 2562 ขณะเดียวกันอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพตามงบการเงินเฉพาะอยู่ที่ 2.21%

    TISCO กำไรไตรมาส 2/63 ลดลง 25.84%

    บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO เปิดเผยผลประกอบการงวดไตรมาส 2/63 มีกำไร 1,333.38 ล้านบาท หรือ 1.67 บาทต่อหุ้น ลดลง 25.84% เทียบ YoY ที่มีกำไร 1,798.15 ล้านบาท หรือ 2.25 บาทต่อหุ้น
    .
    ส่วนงวด 6 เดือนปี 2563 มีกำไร 2,819.44 ล้านบาท หรือ 3.52 บาทต่อหุ้น ลดลงจากงวดครึ่งปีแรกปี 2562 ที่มีกำไร 3,527.75 ล้านบาท หรือ 4.41 บาทต่อหุ้น
    .
    ทั้งนี้ หากแยกกำไรสุทธิจากการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 จะมีกำไร 988.93 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากรายได้เงินปันผล และรายได้ค่าธรรมเนียมบริการ ส่วนกำไรที่ลดลงมาจากผลกระทบจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากการระบาดของโควิด-19


    ไตรมาส 2/63 มีรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.7% จากไตรมาสเดียวกันปี 2562 แต่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 19.9% ด้านสินเชื่อ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 มีจำนวน 2.28 แสนล้านบาท ลดลง 9.7 พันล้านบาท หรือ 4.1% จากไตรมาส 1/63 จากการหดตัวของสินเชื่อรายย่อยและธุรกิจขนาดกลางที่ชะลอตัวตามเศรษฐกิจ
    .
    ไตรมาส 2/63 บริษัทมีสินเชื่อด้อยค่าด้านเครดิต (NPLs) ทั้งหมด 7.48 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 1.39 พันล้านบาทหรือ 23% เมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้า ส่วน NPL อยู่ที่ 3.28% เพิ่มขึ้นจาก 2.56% ในไตรมาส 1/63 เพิ่มขึ้นจากลูกหนี้ในกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อ-สินเชื่อจำนำทะเบียน

    กำไรกลุ่มแบงก์ต่ำกว่าที่โบรกฯ คาดไว้มาก กำไรที่ธนาคารประกาศออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก โดยเฉพาะ KBANK กำไรต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ 66% ตามด้วย TISCO 14% และ TMB ต่ำกว่าที่คาด 6%
    .
    บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี กล่าวว่า KBANK รายงานกำไรต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ 66% โดย Bloomberg Consensus ให้ราคาเป้าหมาย 109.22 บาท เช่นเดียวกับ TMB กำไรต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ 6% โดย Bloomberg Consensus ให้ราคาเป้าหมาย 1.12 บาท 

    .
    บล.ทรีนี้ตี้ คาดกำไร KBANK 6,787 ล้านบาท ดีขึ้น 3% QoQ, ลดลง 32% YoY 

    .
    บล.ฟิลลิป คาดกำไร KBANK 8,600 ล้านบาท ดีขึ้น 30.2% QoQ, ลดลง 13.7% YoY 


    บล.กรุงศรี กล่าวว่า กำไร KBANK แย่กว่าที่ Consensus คาดไว้ 59% (5.3 พันล้านบาท) ส่วน TMB ต่ำกว่าที่ Consensus คาด 9.8% .
    บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส กล่าวว่า กำไรไตรมาส 2 ของ TISCO ต่ำกว่าที่ดีบีเอสฯ และตลาดคาดไว้
ที่ 1.7 พันล้านบาท และ 1.5 พันล้านบาท ตามลำดับ แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 87 บาท

    .
    บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า กำไร TISCO ต่ำกว่าที่โนมูระฯ และตลาดคาด 14% กดดันจากค่าใช้จ่ายสำรองมากกว่าคาด และสินเชื่อหดตัวกว่าคาด โดย TISCO จัดชั้นลูกหนี้เข้มงวดกว่ามาตรการผ่อนผันของ ธปท. เป็นผลให้ Gross NPLs ในไตรมาส 2/63 เพิ่มขึ้น 23% QoQ NPL Ratio เพิ่มเป็น 3.3% และ Credit Cost เป็น 149bps 

    .
    เอเซียพลัส เตือนไตรมาส 2 ต้องจับตาตัวเลข NPL

    บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ประเด็นที่ต้องให้น้ำหนักและติดตามสำหรับงบการเงินกลุ่มแบงก์ในงวดไตรมาส 2/63 ประกอบด้วย ตัวเลข NPL และสินเชื่อที่ถูกจัดชั้นเป็น Stage 2 ของแต่ละธนาคาร ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ของแต่ละธนาคาร ตามด้วยมูลหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ (Loan Payment Holiday) ของแต่ละธนาคาร หากคิดเป็นสัดส่วนสูงเมื่อเทียบกับพอร์ตสินเชื่อ และยังไม่ได้จัดชั้นตาม TFRS 9 อาจทำให้งบการเงินยังไม่สะท้อนความจริง เป้าหมายทางการเงินปี 2563 ของแต่ละธนาคาร รวมถึงผลกระทบต่ออัตราส่วนเงินกองทุน (CAR) และการจ่ายเงินปันผลในปี 2563 

    .
    ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่: www.efinancethai.com
    .
    อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
    #THESTANDARDxefinance #News #TheStandardCo

     

แชร์หน้านี้

Loading...