ติดตามสถานะการณ์

เปิดประวัติ 'ผู้พันเจี๊ยบ' หลังโพสต์แซะม็อบเยาวชนปลดแอก ว่าเป็นม็อบมุ้งมิ้ง จนถูกทัวร์ลงต้องลบโพสต์ทิ้ง เธอเป็นใคร มาจากไหน?

 

จับแล้ว 11 วัยรุ่น ตีกันในโรงพยาบาล ทำร้ายร่างกายแพทย์-พยาบาล แจ้งข้อหาหนัก

 

ฉะ ! โจ๋บุก รพ. รู้จัก คิดก่อนทำ อย่ามาขอโทษทีหลัง

 

กมธ.ถกงบฯ 64 ล่มอีกรอบ ซีก รบ.รวมหัวฝ่ายค้านวอล์กเอาต์ เหตุไม่พอใจ พปชร.ไม่วางกรอบการทำงานชัดเจน แถมจ้องกินรวบอนุ กมธ. พท.ขยี้ถูกโดดเดี่ยว อัด “วราเทพ” รอคำสั่งคนนอก “ยุทธพงศ์” ชี้ เป็นผลปรับ ครม.เชื่อสัญญาณไม่ดี ส่อเค้ายุบสภา

อ่านต่อ >https://news1live.com/detail/9630000074413
............................................

 

ส.อ.ท. และกรมควบคุมโรค ประกาศความร่วมมือ "พัฒนาต้นแบบสถานประกอบการต้านโควิด-19 ในฐานวิถีชีวิตใหม่ ” เพื่อดูแลสุขภาพกลุ่มวัยทำงานในสถานประกอบการ เริ่มเฟสแรก ด้วยการคัดเลือกสถานประกอบการทุกขนาด เพื่อรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และจัดทำแนวปฏิบัติ ก่อนจะขยายผลจากสถานประกอบการต้นแบบ ไปยังสถานประกอบการอื่นๆทั่วประเทศ เพื่อให้พนักงานในสถานประกอบการ ทำงานได้อย่าง “ปลอดภัย & ไร้โควิด” รองรับวิถีชีวิต New Normal

 

ตร.ตามจับได้แล้ว 11 โจ๋เมืองปากน้ำ ยกพวกตีกันในโรงพยาบาลวิภารามชัยปราการ เพื่อนถูกแทงตายพาลหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ รุมชกต่อย อ่วมโดนข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ ชุลมุนต่อสู้จนเป็นเหตุให้มีคนตาย

อ่านต่อ >https://news1live.com/detail/9630000074364
............................................

 

ทบ.จัดซื้อเครื่องบินหรู “วีไอพี” รุ่นใหม่ 1,300 ล้านบาท แทนเครื่องเดิมที่ใช้งานกว่า 30 ปี
.
https://mgronline.com/politics/detail/9630000074202
.
#mgronline #กองทัพบก #จัดซื้อเครื่องบินหรู #วีไอพี #กรมการขนส่งทหารบก

 

ฝรั่งเศสเริ่มบังคับ ‘สวมหน้ากากภายในอาคาร’
ฝ่าฝืนปรับ 5 พัน
.
ฝรั่งเศสออกกฎบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากปิดปาก-จมูกภายในอาคารซึ่งเป็นที่สาธารณะ โดยกำหนดโทษปรับ 135 ยูโรหรือประมาณ 4,900 บาทเศษสำหรับผู้ฝ่าฝืน
.
นายกรัฐมนตรี ฌ็อง กัสเต็กซ์ ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (16) ว่าจะเริ่มบังคับสวมหน้ากากในที่สาธารณะแบบปิดตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กลับมาระบาดหนักในฝรั่งเศสเป็นครั้งที่ 2 หลังปรากฏสัญญาณเตือนการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000074177
#ฝรั่งเศส #บังคับประชาชน #สวมหน้ากากภายในอาคาร

 

ศบค.แจงเตรียมนำเข้าต่างชาติ 4 กลุ่ม กระตุ้นเศรษฐกิจ
ย้ำนักการทูตกักตัว 14 วัน ปลอดภัย กลับไปพักคอนโดได้
.
ศบค.แจงเตรียมนำต่างชาติเข้า 4 กลุ่ม มาจัดนิทรรศการ ถ่ายหนัง แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ และเข้ามารักษา ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนคนไทยรอกลับบ้าน จะพยายามจัดสรรให้สมดุล เต็มศักยภาพวันละ 600 คน ย้ำนักการทูตจะอยู่ในสเตทควอรันทีนจนครบ 14 วัน หากครบแล้วกลับไปพักคอนโดได้ มีความปลอดภัย วอนอย่ารังเกียจ
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/qol/detail/9630000074212
#นำเข้าต่างชาติ #กระตุ้นเศรษฐกิจ #นักการทูต #กักตัว14วัน

 

Jul 20 , 2020 ญี่ปุ่นหนุนเอกชนลดพึ่งพาโรงงานในจีน อัดงบหนุนย้ายฐานการผลิตกลับญี่ปุ่น - เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
.
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะเริ่มให้เงินอุดหนุนแก่บริษัทบางแห่งเพื่อลงทุนในโรงงานในญี่ปุ่นและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการลดการพึ่งพาการผลิตในประเทศจีน
.
กระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม (METI)ระบุว่า บริษัท 57 แห่งรวมถึงผู้ผลิตหน้ากากอนามัย เช่น Iris Ohyama Inc. และ Sharp Corp จะได้รับเงินอุดหนุนรวม 57,400 ล้านเยนจากรัฐบาลเพื่อลงทุนในการผลิตในญี่ปุ่น บริษัทอีก 30 แห่งจะได้รับเงินสำหรับการลงทุนในไทย, เวียดนาม, เมียนมา และประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนเงิน
.
แม้ว่าในแถลงการณ์ของ METI ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าการช่วยเหลือทางการเงินคือการช่วยย้ายการผลิตออกจากประเทศจีน แต่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะระบุในเดือนมีนาคมว่าญี่ปุ่นจำเป็นต้องนำภาคการผลิตกลับบ้านหรือกระจายไปยังประเทศอาเซียน แทนที่จะพึ่งพาประเทศเดียวเช่นจีน
.
หนังสือพิมพ์นิกเกอิรายงานว่า รัฐบาลจะจ่ายเงินรวม 70,000 ล้านเยนในรอบนี้ โดยงบประมาณส่วนนี้มาจากจากงบประมาณ 243,5000 ล้านเยนที่รัฐบาลจัดสรรในเดือนเมษายนเพื่อลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานของจีนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้บริษัทย้ายโรงงานกลับบ้านหรือไปยังประเทศอื่น ๆ
.
เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนเลวร้ายลงและสงครามการค้ายิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ในสหรัฐและประเทศอื่นๆ เริ่มพูดถึงการลดการพึ่งพาทางเศรษฐกิจและภาคธุรกิจกับจีน และการตัดสินใจของญี่ปุ่นคล้ายกับนโยบายของไต้หวันในปี 2562 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อนำการลงทุนย้ายจากจีนแผ่นดินใหญ่มายังไต้หวัน
.
#ญี่ปุ่น #ย้ายฐาน #หนุน #เอกชน #Misterban

 

Jul 20 , 2020 ไอซ์แลนด์แอร์ประกาศเลิกจ้างแอร์โฮสเตส-สจ๊วต หลังการเจรจาแก้ไขปัญหาล้มเหลว
.
สำนักข่าวรอยเตอร์ ได้รายว่าสายการบิน ไอซ์แลนด์แอร์ จะยุติการจ้างงานพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินทั้งหมด และยุติความสัมพันธ์ระหว่างคู่สัญญาในการจ้างงาน โดยจะให้นักบินที่ยังเหลืออยู่ดูแลรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยบนเครื่องบินชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.2563 หลังการเจรจาข้อตกลงร่วมระหว่างสายการบินและสมาคมแรงงานลูกเรือ เพื่อเเก้ปัญหาเรื่องค่าจ้างและเวลาหยุดงานได้ล้มเหลว
.
ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะมีพนักงานจำนวนกี่คนที่ได้รับผลกระทบ เเต่การบินโดยไม่มีพนักงานต้อนรับในห้องโดยสารที่คอยรับผิดชอบด้านความปลอดภัยบนเครื่องบินจะไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานการบินระหว่างประเทศได้ โดยไอซ์แลนด์แอร์ได้หาทางเลือกอื่น เกี่ยวกับความปลอดภัยและการบริการบนเครื่องบินที่ไม่มีพนักงานต้อนรับ ดังนั้นบริษัทจะสั่งนักบินให้รับผิดชอบในเรื่องความปลอดภัยบนเครื่องบิน แต่การบริการจะยังคงดำเนินต่อไปอย่างน้อยที่สุดจนกว่าจะเเก้ปัญหาเกี่ยวกับโควิด-19ได้
.
ซึ่งผู้บริหารของสายการบิน ได้เปิดเผยว่า พวกเขาได้ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อตอบสนองความต้องการของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินโดยอธิบายว่าการตัดสินใจครั้งนี้“ แม้จะหนัก แต่จำเป็น”เพราะต้องปลดเพื่อให้สายการบินอยู่ต่อไปได้
.
ทั้งนี้ ไอซ์แลนด์แอร์เป็นสายการบินที่มีตลาดที่ใหญ่ที่สุดอยู่ระหว่างยุโรปและอเมริกาเหนือ ซึ่งทางสายการบินได้เผชิญกับยอดผู้โดยสารที่ลดลงจากโควิด-19 โดยจำนวนผู้โดยสารในเดือนพ.ค.2563 ลดลงมาอยู่ที่ 3,100 คน จากเดือนพ.ค.ปี 2562 ที่สูงถึง 419,000 คน
.
#แอร์โฮสเตส #สจ๊วต #ไอซ์แลนด์แอร์ #Misterban

 

Jul 20 , 2020 ฮ่องกงประกาศเพิ่มมาตรการคุมเข้มโควิด หลังยอดผู้ติดเชื้อใหม่ทะลุ100ราย
.
สำนักข่าว channelnewsasia ได้รายงานว่า นางแคร์รี่ แลม ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ได้ยอมรับว่าสถานการณ์การเเพร่ระบาดโควิด-19 ในฮ่องกงขณะนี้ ได้อยู่นอกเหนือการควบคุม หลังพบว่ามีผู้ติดเชื้อใหม่มากถึง 108 ราย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
.
โดยผู้ว่าฯฮ่องกง ได้กล่าวว่าการระบาดในรอบที่ 2 ได้มีความรุนแรงมากกว่าในรอบแรกเนื่องจากเป็นการระบาดเเบบกลุ่มในหลายพื้นที่ และควบคุมสถานการณ์ได้ยาก จึงไม่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วเหมือนกับการระบาดในครั้งแรก ซึ่งรัฐบาลฮ่องกงยังไม่สามารถกำหนดว่าจะใช้มาตรการเข้มงวดในเวลาเดียวทั้งหมดได้ เนื่องจากรัฐบาลต้องการให้ประชาชนใช้ชีวิตแบบปกติเหมือนก่อนเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19
.
ซึ่งล่าสุดรัฐบาลฮ่องกงได้ประกาศเพิ่มมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยให้สวมหน้ากากในพื้นที่สาธารณะในร่ม รวมถึงขยายเวลากา่รห้ามนั่งทานในร้านอาหารตั้งแต่ 18.00 ถึง 04.59 น. ถึงวันที่ 28 ก.ค. เเละสถานบันเทิงจะถูกสั่งปิดเพิ่มไปจนถึงสัปดาห์หน้า และประกาศให้ข้าราชการของรัฐบาลทำงานที่บ้านอีกครั้ง เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์โดยจะมีผลบังคับตั้งแต่วันนี้
.
#ฮ่องกง #Misterban #ระบาด #ไวรัสโควิด19

 

Jul 20 , 2020 ผู้ว่าธปท.ยันไทยไม่ต้องพึ่งเงินกู้ IMF พร้อมห่วงภาคแรงงานกลับเข้าตลาดได้ยากขึ้นจากพิษโควิด 19
.
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงภาคเศรษฐกิจไทยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ว่าเศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นฟูแบบค่อยเป็นค่อยไป และกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ปลายปี 2564 แต่ยังไม่มีความจำเป็นต้องพึ่งเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF เหมือนที่ผ่านมา
.
เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจมหภาคของไทยยังแข็งแกร่งต่างจากตอนวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 และวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ โดยปัจจุบันไทยมีเกินดุลบัญชีเดินสะพัดค่อนข้างสูง มีการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศค่อนข้างต่ำ ขณะที่สถาบันการเงินไทย มีการกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ที่แข็งแกร่ง เงินกองทุนสูง และมีการตั้งสำรองค่อนข้างมาก รวมถึงมีมาตรฐานบัญชีที่ดี
.
ที่สำคัญวิกฤติรอบนี้ไม่มีนโยบายใด นโยบายหนึ่งที่จะแก้ไขได้ แต่ต้องประสานนโยบายและหยิบทุกเครื่องมือที่ภาครัฐมีมาใช้ ซึ่งในภาคการเงิน ธปท.ได้ประสานความร่วมมือกับสถาบันการเงิน ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการและลูกหนี้รายย่อย ทั้งการออกมาตรการยืดเวลาการชำระหนี้ การพักชำระหนี้ การลดอัตราดอกเบี้ย
.
สำหรับสิ่งที่กังวลมากที่สุด คือ เรื่องการจ้างงาน เนื่องจากสถานการณ์โควิด ส่งผลกระทบต่อภาคบริการ และภาคการผลิต ซึ่งมีการจ้างงานในระดับสูง หลายคนตกงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากมองในระยะยาว หากกลุ่มดังกล่าวไม่สามารถกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานในโลกใหม่ได้ จะทำให้เกิดผลกระทบระยะยาวในอนาคต
.
นอกจากนี้ภาคการท่องเที่ยวคงไม่ได้กลับมา 40 ล้านคนในช่วง 1-2 ปีนี้ อุตสาหกรรมอาจใช้หุ่นยนต์มากขึ้น กลุ่มนักศึกษาจบใหม่ จะเข้าตลาดแรงงานจะยากมากขึ้น ถือเป็นปัญหาใหญ่ ดังนั้นจะทำอย่างไรเกี่ยวกับการสร้างงานเพื่อรองรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
.
ส่วนความคืบหน้าของพ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือ ซอฟต์โลน ถือเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟู ซึ่งเบื้องต้น ธปท.เตรียมขยายระยะเวลาการให้เอสเอ็มอีกู้ได้ถึงสิ้นปี 2564 จากเดิมจะสิ้นสุดในปีนี้ นอกจากนี้ยังได้หารือกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. เพื่อเข้ามาช่วยค้ำประกันให้ยาวขึ้น เนื่องจากตามพ.ร.ก.ดังกล่าว รัฐชดเชยความเสียหายเพียง 2 ปีแรกเท่านั้น
.
#IMF #ธปท #ไวรัสโควิด19 #Misterban

 

Jul 20 ,2020 คลังวอนกลุ่มที่พักโครงการเราเที่ยวด้วยกัน อย่าแอบขึ้นราคา อาจได้ไม่คุ้มเสีย เสียทั้งชื่อเสียง – โอกาส
.
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ดำเนินโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ
.
โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าที่พักในสัดส่วนร้อยละ 40 ของค่าที่พัก สูงสุด 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน
.
สนับสนุนค่าอาหารและค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว 600 บาทต่อห้องต่อคืน และสนับสนุนค่าบัตรโดยสารสายการบินในสัดส่วนร้อยละ 40 ของค่าบัตรโดยสาร สูงสุด 1,000 บาทต่อที่นั่ง
.
ภาพรวมโครงการมีผลตอบรับตามเป้าหมาย ผู้ประกอบธุรกิจที่พักสนใจเข้าร่วมแล้ว 6,000 ราย โดยหลังจากเปิดให้ประชาชนจองที่พักภายใต้โครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมาพบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้ประชาชนสามารถวางแผนและเดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้ โดยมีค่าใช้จ่ายลดลง และผู้ประกอบการจะเริ่มมีรายได้เข้ามาหล่อเลี้ยงธุรกิจในช่วงที่ขาดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ก่อให้เกิดบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศที่มีสัญญาณบวกมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิด-19
.
แต่ขอความร่วมมือผู้ประกอบธุรกิจที่พัก เข้าร่วมโครงการฯ ส่วนน้อยบางราย ที่อาศัยโอกาสปรับราคาสูงขึ้นในช่วงนี้ ขอให้เว้นจากการดำเนินธุรกิจตามแนวทางดังกล่าว เนื่องจากผลประโยชน์ในระยะสั้น อาจได้ไม่คุ้มเสีย ทั้งชื่อเสียงและโอกาสธุรกิจในอนาคต เพราะผู้บริโภคในปัจจุบันมีการหาข้อมูลวางแผนการเดินทางและมีเทคโนโลยีช่วยในการเปรียบเทียบราคาและคุณภาพการบริการจากหลายแหล่ง โดยคลังจะติดตามต่อเนื่อง และจะพิจารณามาตรการที่เหมาะสมต่อไป
.
#คลัง #เราเที่ยวด้วยกัน #Misterban #แอบขึ้นราคา

 

Jul 20 , 2020 เกาหลีใต้เตรียมเดินหน้ามาตรการ Travel bubbles กระตุ้นภาคการท่องเที่ยว โดยมีไทยเป็นหนึ่งข่ายการพิจารณาทำโครงการด้วย
.
สำนักข่าว Pulse ในเกาหลีใต้รายงานว่า รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะทำ Travel bubbles กับเพื่อนบ้านในเอเชียเช่น ไต้หวัน เวียดนาม และไทยสามารถคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้แล้ว เพื่อช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ
.
โดยกระทรวงวัฒนธรรมการกีฬาและการท่องเที่ยวได้จัดประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ซบเซา ในระหว่างการประชุมได้มีการทบทวนแผน travel bubbles กับประเทศอื่นๆ ที่คัดสรรมาแล้ว
.
ประเทศที่อยู่ในข่ายการพิจารณาคือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เวียดนาม และไทย ประเทศเหล่านี้ได้ทำการทดสอบการทำ travel bubbles ในระดับหนึ่ง หรือเปิดประเทศรับการเข้ามาของคนต่างชาติจากประเทศที่เห็นว่าปลอดภัยแล้ว
.
ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวตามแผนการนี้จะต้องเป็นผู้ที่มีหนังสือเดินทางรับรองภูมิคุ้มกัน (immunity passport) ซึ่งจะได้รับการรับยกเว้นจากการกักกัน 14 วันเมื่อเข้าประเทศภายใต้ข้อตกลง
.
อย่างไรก็ตามไต้หวันจะเป็นประเทศแรกที่เกาหลีใต้ทำ travel bubbles ขณะที่เวียดนามและไทยจะเป็นตัวเลือกรองลงมา
.
#เกาหลีใต้ #ไทย #Travelbubbles #Misterban

 

July 20, 2020 พร้อมปลดพนักงานกว่า 1,000 คนในสัปดาห์นี้ หนึ่งในแบรนด์คนไทยยุคเจนเอ็กซ์ชอบจัด มาร์คแอนด์สเปนเซอร์
.
เอ็มแอนด์เอส หรือมาร์คแอนด์สเปนเซอร์ ยักษ์ธุรกิจขายปลีกเสื้อผ้า ของใช้ส่วนบุคคล และขนมขบเคี้ยว แบรนด์ดังจากอังกฤษ เปิดเผยว่า เตรียมปลดพนักงานจำนวนหลายพันคนซึ่งจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ สาเหตุจากธุรกิจขายปลีกของเอ็มแอนด์เอสได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในยุโรป และตลาดสำคัญในต่างประเทศ
.
สตีฟ โรวี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ มาร์คแอนด์สเปนเซอร์ เปิดเผยว่า แผนการลดต้นทุนในระยะแรกจะเริ่มดำเนินการในสัปดาห์นี้ ด้วยการเร่งลดจำนวนพนักงานให้เป็นไปตามแผนการปรับโครงสร้าง และรูปแบบธุรกิจใหม่ ท่ามกลางผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้ร้านมาร์คแอนด์สเปนเซอร์ ต้องปิดบริการในเดือนมีนาคมเรื่อยมา ในช่วงเดือนมีนาคมปีนี้ มาร์คแอนด์สเปนเซอร์ ประกาศให้พนักงานจำนวนมากถึง 27,000 คน หรือ 35% จากพนักงานทั้งหมด 78,000 คน เข้าโครงการพักงานสมัครใจในช่วงที่ต้องปิดสาขากับมาตรการปิดเมือง หรือล๊อคดาวน์
.
ทั้งนี้ เอ็มแอนด์เอส ซึ่งก่อตั้งขึ้น และเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1884 หรือมีอายุมาถึง 136 ปี ได้ประกาศแผนลดต้นทุนธุรกิจในปี 2018 ด้วยการทยอยปิด 110-120 สาขาในสหราชอาณาจักร ซึ่งล่าสุดมีจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของแผนปิดสาขาดังกล่าว ที่ได้ปิดตัวลงไปแล้ว ปัจจุบัน เอ็มแอนด์เอสมีสาขาน้อยกว่า 300 แห่งในสหราชอาณาจักร
.
#มาร์คแอนด์สเปนเซอร์ #ปลดพนักงาน #Misterban

 

Jul 20 , 2020 ฝรั่งเศสประกาศบังคับสวมหน้ากากอนามัยฝ่าฝืนปรับ 135 ยูโร
.
ฌอน คาสเท็กซ์ (Jean Castex) นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ได้กล่าวว่า ได้ประกาศใช้มาตราการ บังคับให้สวมใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะที่ปิด เช่น อาคาร ร้านค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดผักผลไม้สด ธนาคาร และสถานประกอบการอื่น ๆ ระบบขนส่งสาธารณะต่าง ๆ เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 ครั้งที่สอง โดยได้ออกมาตราการหลังเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นสัญญาณการระบาดอีกครั้งของไวรัสโควิด-19
.
โดยค่าปรับจะสูงถึง 135 ยูโรหรือประมาณ 4,900 บาท โดยคิดเป็นเกือบ 2 เท่าของราคาบัตรโดยสารรายเดือนของระบบขนส่งสาธารณะกรุงปารีส เเละสำหรับสำนักงานต่าง ๆ นายจ้างจะต้องพิจารณาความจำเป็นในการสวมหน้ากากอนามัยเป็นกรณี ๆ
.
ทั้งนี้สาธารณสุขฝรั่งเศสได้ตั้งข้อสังเกตว่าอัตราการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 นั้นอยู่ 1.2 ได้หมายความว่า ผู้ติดเชื้อ 1 ราย สามารถแพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่นได้โดยเฉลี่ย 1.2 ราย
.
#ฝรั่งเศส #สวมหน้ากากอนามัย #ไวรัสโควิด19 #Misterban

 

• น้ำท่วมภาคใต้ของญี่ปุ่นถือว่ารุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง สาเหตุเพราะโลกร้อนทำให้อากาศอุ่นขึ้นและชื้นมากขึ้น ที่จีนฝนตกหนักในภาคกลางและภาคตะวันออก ซึ่งสาเหตุก็มาจากภาวะโลกร้อนเหมือนกัน แต่เหตุผลที่แตกต่างกัน

• ณ วันที่ 13 ก.ค. 2563 น้ำท่วมในจีนส่งผลกระทบต่อประชาชน 37.89 ล้านคนใน 27 มณฑล/เขตปกครองตนเองและเทศบาล มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหาย 141 คน สูญเสียบ้านเรือน 28,000 หลัง กระทรวงทรัพยากรน้ำของจีน กล่าวว่ามีแม่น้ำทั้งหมด 443 แห่งทั่วประเทศที่เกิดน้ำท่วมโดยในจำนวนนี้มีแม่น้ำ 33 สาย มีระดับสูงสุดที่เคยบันทึกไว้

• น้ำท่วมจีนในปี 2563 จึงเป็นสถานการณ์น้ำท่วมที่เลวร้ายที่สุดของจีนตั้งแต่อย่างน้อยจากปี 2541 เบื้องต้นสาเหตุมาจากปรากฎการณ์เอลนินโญ่ที่ทำให้เกิดมวลความชื้นจากมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิกและกลายเป็นฝนตกหนักในจีน แต่ก็มีผู้กล่าวว่าสาเหตุที่แท้จริง (และจะเป็นสาเหตุในระยะยาวต่อสภาพอากาศในจีนต่อไป) คือภาวะโลกร้อนที่ทำให้ธารน้ำแข็งต้นแม่น้ำสายหลักของจีนละลาย

• แม่น้ำสายหลักของจีนที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ในตอนนี้คือแยงซีเกียง มีต้นน้ำจากทิเบต แต่ต้นแม่น้ำที่เป็นธารน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็วทำให้กระแสน้ำเริ่มมากกว่าปกติเมื่อบวกกับฝนตกหนักเพราะสภาพอากาศผิดปกติยิ่งทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงแบบที่ไม่เคยพบเห็นกันมาก่อนในรอบหลายสิบปีและพื้นที่ประสบภัยก็คือแอ่งบนและล่างของแม่น้ำแยงซีเกียงนั่นเอง

• นอกจากปัญหาโลกร้อน (ที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์) มนุษย์ยังเป็นตัวการทำให้น้ำท่วมในจีนรุนแรงขึ้น เนื่องจากพื้นที่ภาคกลางของจีนเคยมีทะเลสาบหลายพันแห่ง (ในทศวรรษที่ 1950 มีประมาณ 1,066 แห่ง) สามารถเป็นแก้มลิงธรรมชาติในการรองรับน้ำในฤดูมรสุม แต่ตอนนี้ทะเลสาบจำนวนมากถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่เกษตรจนเหลือเพียง 309 แห่ง ทำให้หมดสภาพการเป็นแก้มลิงและทำให้น้ำท่วมรุนแรงขึ้น

• การสร้างเขื่อนสามผา (Three Gorges Dam) ที่จีนยอมทำลายธรรมชาติครั้งใหญ่เพื่อหวังจะให้ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม ในครั้งนี้เขื่อนสามผาก็เอาไม่อยู่จนสื่อมวลชนจีนยังตั้งคำถามเรื่องประสิทธิภาพของเขื่อนที่จะรับมวลน้ำมหาศาล เพราะขาดการดูแลตามปกติในช่วงเกิดการระบาดของ COVID-19

• กรณีของเขื่อนสามผาทำให้เกิดความกังวลว่าจีนอาจจะล้มเหลวในการใช้ความก้าวหน้าทางวิศวกรรมในการจัดการน้ำท่วม ซึ่งเป็นสิ่งที่จีนลงทุนมหาศาลและภาคภูมิใจมาก แต่วิกฤตโลกร้อนจำเป็นต้องใช้วิธีการใหม่ๆ ที่มากกว่าการสร้างเขื่อน

• Liu Junyan แห่งองค์การ Greenpeace East Asia กล่าวว่าแม้รัฐบาลจีนจะประกาศว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นภัยคุกคามที่กำลังเกิดขึ้นและได้กำหนดแนวทางทั่วไปเกี่ยวกับวิธีการตอบสนอง แต่จีนยังไม่พร้อมรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแบบวันต่อวัน และรัฐบาลจำเป็นต้องหาวิธีการใหม่ๆ ในการรับมือวิกฤตในอนาคต เพราะตอนนี้น้ำท่วมถี่มากขึ้น แม้แต่ในเขตที่ปกติไม่มีน้ำเจิ่งนองก็กลับเกิดน้ำท่วม

ข้อมูลจาก
• Flood Control Strategy In China Has Evolved, But Destruction Persists (https://rb.gy/eygc32)
• China floods: Over 140 dead as Yangtze River bursts banks (https://rb.gy/ed9tgl)
• Wikipedia contributors. "2020 China floods." Wikipedia, The Free Encyclopedia. Wikipedia, The Free Encyclopedia, 18 Jul. 2020. Web. 18 Jul. 2020.
ภาพ: china xinhua news

 

นักวิจัยจากองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ค้นพบมด 5 ชนิดใหม่ของโลก โดย 2 ชนิดแรกพบที่ประเทศไทย ได้แก่ มดท้องคอดครูตู่ พบที่ จ.ตาก และมดท้องคอดลายร่างแห พบที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา
.
อีก 3 ชนิดพบที่เกาะบอร์เนียว ประเทศมาเลเซีย ได้แก่ มดปากห่างเอะซุโกะ มดปากห่างอกร่อง และมดปากห่างครูเกรียง โดยมดชนิดใหม่ทั้ง 5 ชนิดนี้ถูกค้นพบและตั้งชื่อโดยนายวียะวัฒน์ ใจตรง หัวหน้าทีมวิจัย อพวช. รศ.เดชา วิวัฒน์วิทยา คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ศ.เซกิ ยะมะเนะ
.
นอกจากนี้ น.ส.บังอร ช่างหลอม นักวิชาการ อพวช. ยังได้คนพบหอยทากจิ๋ว 2 ชนิดใหม่ของโลก ได้แก่ หอยทากจิ๋วผิวตาข่าย พบในถ้ำวัว จ.แม่ฮ่องสอน และหอยทากจิ๋วเมืองออน พบในถ้ำเมืองออน จ.เชียงใหม่ ในเดือน ม.ค. 2563
.
นายวียะวัฒน์ กล่าวว่า ทั่วโลกพบมดท้องคอดเพียง 5 ชนิด ในจำนวนนี้ 3 ชนิดพบในทวีปอเมริกา อีก 2 ชนิดพบในเอเชีย คือ อินเดีย ศรีลังกา และญี่ปุ่น สำหรับในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังไม่เคยมีรายงานมดสกุลนี้มาก่อน ดังนั้น การค้นพบนี้ถือเป็นการค้นพบมดสกุลท้องคอดครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
.
มดชนิดใหม่ที่ค้นพบในครั้งนี้ ได้แก่ มดท้องคอดครูตู่ (Syscia chaladthanyakiji Jaitrong, Wiwatwitaya et Yamane, 2020) มีลักษณะตัวเรียวยาวรูปทรงกระบอก ไม่มีตา หนวด 11 ปล้อง แตกต่างจากญาติใกล้ชิดที่พบในศรีลังกาตรงที่ เอวปล้องที่สองมีความยาวเท่ากับความสูง หัวสั้นกว่า และผิวลำตัวหยาบกว่า
.
มดชนิดนี้สร้างรังอยู่ในท่อนไม้ผุที่อยู่บนพื้นป่า พบได้ใน จ.ตาก และนครนายก มดชนิดนี้พบได้ในป่าดิบแล้ง และดิบเขาที่ค่อนข้างสมบูรณ์ มดท้องคอดลายร่างแห (Syscia reticularis Jaitrong, Wiwatwitaya et Yamane, 2020) มีลักษณะ ลำตัวค่อนข้างสั้นและป้อม แตกต่างจากชนิดอื่นในสกุลเดียวกันตรงที่ผิวของลำตัวเป็นเป็นหลุมลึกเชื่อมต่อกันเป็นลายร่างแห่ตามลักษณะชื่อของมด
.
สามารถพบชนิดนี้ได้ในท่อนไม้ผุที่อยู่บนพื้นป่าดิบชื้น กระจายอยู่ทางภาตใต้ของไทย (นครศรีธรรมราช) และมาเลเซียฝั่งตะวันตก
.
นายวียะวัฒน์ กล่าวว่า ส่วนมดชนิดใหม่ของโลกอีกสามชนิดที่เหลือเป็นมดที่อยู่ในสกุล มดปากห่าง (Genus Myopias) มดขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ โดย ศาสตราจารย์เซกิ ยะมะเนะ เป็นผู้เก็บตัวอย่างมดมาจากเกาะบอร์เนียว รัฐซาบาร์ ประเทศมาเลเซีย เก็บรักษาไว้ ณ มหาวิทยาลัยคาโงชิมะ ประเทศญี่ปุ่น
.
นายวียะวัฒน์ นำตัวอย่างดังกล่าวมาศึกษาอย่างละเอียดและพบว่าเป็นชนิดที่ไม่เหมือนกับชนิดอื่นใดที่เคยตั้งชื่อมาก่อน แสดงว่าเป็นมดที่ยังไม่มีชื่อวิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการมาก่อน จึงช่วยกันบรรยายลักษณะ ตั้งชื่อเป็นมดชนิดใหม่ของโลก
.
ได้แก่ มดปากห่างเอะซุโกะ (Myopias etsukoae Jaitrong, Wiwatwitaya et Yamane, 2020) มีลักษณะ เป็นมดขนาดกลาง สีนำตาลแดง ตาเล็ก ขอบหน้าของแผ่นริมฝีปากบนเว้าลึก ผิวลำตัวค่อนข้างเรียบ ยกเว้นด้านข้างลำตัวและเอวมีผิวหยาบ สามารถพบมดชนิดนี้ได้ในป่าดิบชื้นที่สมบูรณ์ สร้างรังอยู่ในไม้ผุ แพร่กระจายบนเกาะบอร์เนียว รัฐซาบาร์ ประเทศมาเลเซีย
.
สำหรับมดปากห่างอกร่อง (Myopias striaticeps Jaitrong, Wiwatwitaya et Yamane, 2020) มีลักษณะเป็นมดขนาดใหญ่ สีดำถึงน้ำตาลดำ ผิวด้านบนของหัว และอกมีลักษณะเป็นร่องขนาดเล็กจำนวนมากขนานกับความยาวลำตัว พบมดชนิดนี้ได้บนพื้นที่สูงกว่า 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล
.
และอาศัยอยู่ในป่าธรรมชาติที่สมบูรณ์ แพร่กระจายอยู่เฉพาะบนเกาะบอร์เนียว มดปากห่างครูเกรียง (Myopias suwannaphaki Jaitrong, Wiwatwitaya et Yamane, 2020) มีลักษณะเป็นมดขนาดเล็ก สีเหลือง ผิวลำตัวเรียบเป็นเงามัน แผ่นริมฝีปากบนแคบโดยมีขอบด้านหน้าเป็นเส้นตรง ตาเล็กมาก
.
มดชนิดนี้ถูกตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่นายเกรียงไกร สุวรรณภักดิ์ ผู้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนไทยให้รักธรรมชาติ พบบนเกาะบอร์เนียว ประเทศมาเลเซีย สร้างรังในไม้ผุที่วางอยู่บนพื้นดินในป่า
.
น.ส.บังอร ผู้ค้นพบหอยทากจิ๋ว 2 ชนิดใหม่ของโลก กล่าวว่า ตัวอย่างหอยทากจิ๋วถูกค้นพบครั้งแรกโดยนายธัญญา จั่นอาจ อดีตผู้อำนวยการกองวัสดุอุเทศธรรมชาติวิทยา อพวช. จากนั้น ตนเองได้นำตัวอย่างมาศึกษาและจำแนกชนิดร่วมกับอาจารย์จากมหาวิทยาลัยบูรพา จึงแน่ใจว่าเป็นหอยทากจิ๋วชนิดใหม่ของโลก
.
หลังจากช่วยกันบรรยายลักษณะตั้งชื่อเป็นหอยทากจิ๋วชนิดใหม่ของโลก ได้แก่ หอยทากจิ๋วผิวตาข่าย (Retilaculated Microsnail: Acinolaemus cryptidentatus) พบในถ้ำวัว จ.แม่ฮ่องสอน หอยทากจิ๋วชนิดนี้มีลักษณะเด่นที่ผิวเปลือกมีลวดลายคล้ายตาข่ายละเอียด และมีตำแหน่งของฟันในช่องเปิดเปลือก (Apertural Teeth)

แตกต่างจากหอยทากจิ๋วชนิดอื่นๆ อาศัยเกาะบนผนังถ้ำที่แห้งๆ และมีแสงส่องถึงเล็กน้อยเท่านั้น พบแพร่กระจายเฉพาะภาคเหนือของประเทศไทย หอยทากจิ๋วเมืองออน (Muengon Microsnail: Acinolaemus mueangonensis) พบในถ้ำเมืองออน จ.เชียงใหม่
.
หอยทากจิ๋วชนิดนี้มีตำแหน่งของฟันในช่องเปิดเปลือก (Apertural Teeth) แตกต่างจากหอยทากจิ๋วชนิดอื่นๆ ที่เคยมีรายงานมาก่อนหน้านี้ อาศัยเกาะบนผนังและหินงอกหินย้อย มีแสงส่องถึงเล็กน้อยและมีความชื้นสูง พบแพร่กระจายเฉพาะภาคเหนือของประเทศไทย
.
น.ส.บังอร กล่าวว่า หอยทากจิ๋วผิวตาข่ายและหอยทากจิ๋วเมืองออน นับว่ามีความสำคัญต่อระบบนิเวศเขาหินปูนเป็นอย่างมาก กล่าวคือ เป็นอาหารให้กับสัตว์ชนิดอื่นๆ ในห่วงโซ่อาหาร เช่น นก และสัตว์เลื้อยคลานชนิดต่างๆ ที่อาศัยอยู่ภายในถ้ำ
.
ปัจจุบันหอยทากจิ๋วมีความสุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ เนื่องจากเป็นสัตว์ที่มีถิ่นอาศัยจำเพาะต่อภูเขาหินปูนและมีการกระจายเป็นบริเวณแคบ ส่วนใหญ่มักพบกระจายอยู่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเท่านั้น
.
อีกทั้งยังถูกคุกคามจากการท่องเที่ยวที่ขาดความรับผิดชอบ การระเบิดทำลายภูเขาหินปูนเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมทำปูนซีเมนต์ การรุกล้ำพื้นที่ถ้ำเพื่อทำการเกษตรที่มีการใช้สารเคมี เป็นต้น
.
ผศ.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า อพวช. ได้จัดแสดงนิทรรศการ “Land Snail & Land Slug” แสดงถึงความหลากหลายทางชีวภาพของหอยทากบกและทากบกที่พบในประเทศไทย
.
พร้อมกับโชว์ตัวอย่างจริงของหอยทากจิ๋วลายตาข่าย และหอยทากจิ๋วเมืองออน ที่ถูกจัดแสดงไว้ในถ้ำจำลองที่มีลักษณะโครงสร้างเหมือนสถานที่พบจริง ณ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

 

ก๊าซเรือนกระจกทำพิษ วิจัยเผยมีเทนพุ่งทุบสถิติ! จ่อทำโลกร้อนขึ้น 4 องศา เพราะกิจกรรมมนุษย์อย่างปศุสัตว์เกษตร ขยะฝังกลบ เชื้อเพลิงฟอสซิลวอนเร่งลด ชี้ดักความร้อนดีกว่า Co2 28 เท่า

มีเทนเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่สามารถกักเก็บและดูดกลืนคลื่นความร้อนหรือรังสีอินฟราเรด ที่ส่งผ่านลงมายังพื้นผิวโลกจากดวงอาทิตย์ได้ดี ก่อนทำการปลดปล่อยพลังงานดังกล่าวออกมาในรูปของความร้อน ซึ่งทำให้โลกเกิด “ภาวะเรือนกระจก”
•
งานวิจัยล่าสุดเผย ก๊าซมีเทนจากปศุสัตว์และเชื้อเพลิงฟอสซิลมีเพิ่มมากขึ้นในชั้นบรรยากาศ ทำให้โลกต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นกว่า 3 - 4 องศาเซลเซียสเลย แค่ฟังก็รู้สึกร้อนแล้ว!
•
ถ้านับตั้งแต่ปี 2000 นักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกกล่าวว่า การปล่อยก๊าซที่ไร้กลิ่นและไม่มีสีนี้มีเพิ่มมากขึ้นกว่า 50 ล้านตันต่อปี เทียบเท่ากับก๊าซที่ปล่อยมาจากรถ 350 ล้านคัน! หรือถ้าเทียบสเกลให้ใหญ่ไปอีก มันมากกว่าจำนวนก๊าซที่เยอรมันหรือฝรั่งเศสปล่อยออกมาเสียอีก
•
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Earth System Science Data และ Environmental Research Letters เผยว่ามากกว่าครึ่งของก๊าซมีเทนในชั้นบรรยากาศมาจากมนุษย์ 2 ใน 3 มาจากฟาร์มปศุสัตว์ เกษตรกรรมและหลุมฝังกลบ และที่เหลือมาจากอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ประกอบไปด้วยน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหิน
•
ถ้ายังมองเห็นถึงความร้ายแรงของมันไม่ออก ให้ลองเทียบดูว่าก๊าซมีเทนถูกปล่อยออกมาน้อยกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่มันสามารถกักเก็บความร้อนได้ดีกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ 28 เท่า ในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการทำให้โลกร้อนขึ้น
•
Rob Jackson ศาสตราจารย์จาก Stanford University School of Earth, Energy & Environmental Sciences ใน California และประธานโครงการ Global Carbon Project ได้เขียนงานวิจัยของตัวเองขึ้นมา และในนั้นเขาระบุว่า ในปี 2017 (ปีล่าสุดที่มีข้อมูล) ชั้นบรรยากาศของโลกมีก๊าซมีเทนเกือบ 600 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 9% จากปีแรก ๆ ของศตวรรษที่ตอนนั้นความเข้มข้นของก๊าซยังคงที่อยู่
•
กิจกรรมของมนุษย์ตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมเพิ่มปริมาณก๊าซมีเทนในชั้นบรรยากาศ 2.6 เท่า ในขณะที่คาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น 1.7 เท่า
“ถึงแม้ว่าคาร์บอนไดออกไซด์จะเป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่เราต้องกำจัด มีเทนก็เป็นก๊าซอีกตัวที่สำคัญ การแก้ไขปัญหามีเทนอย่างเข้มข้นสามารถช่วยยื้อเวลาให้เราหาหนทางกำจัดคาร์บอนได้ และก็ช่วยหั่นอุณหภูมิโลกให้ลดลงถึงครึ่งนึง” Jackson กล่าว
•
Jackson เสริมว่า “ฉันรู้ว่าเรามีโอกาสในการค้นหาแหล่งปล่อยมีเทนได้ผ่านโดรนและดาวเทียม แต่มันยากที่จะตัดการปล่อยก๊าซที่ออกมาจากวัวและแกะพันล้านตัว ตรงนี้การเลือกบริโภคอาหารและการจัดการปุ๋ยจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น”
•
จากข้อมูลต่าง ๆ เมื่อแยกออกมาเป็นส่วน ๆ แหล่งเกษตรกรรมจะมีจำนวนมีเทนที่เพิ่มขึ้น 11% ส่วนแหล่งที่ผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลจะมีเพิ่มขึ้น 15%
•
ถ้าแบ่งเป็นภูมิภาค บริเวณที่มีการปล่อยมีเทนเยอะที่สุด 10 - 15 ล้านตันต่อปีคือในเอเชีย แอฟริกา โอเชียเนีย ส่วนใหญ่มาจากการทำฟาร์ม ต่างกับในสหรัฐอเมริกาที่มีเทน 4.5 ล้านตันมาจากการเจาะชั้นหิน การขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ การวางท่อ และการบริโภค
•
อย่างไรก็ตาม ยุโรปเป็นประเทศเดียวที่มีเทนลดลงเนื่องจากมีมาตรการที่เข้มงวดในเรื่องการปล่อยพิษจากฟาร์มและโรงงาน
•
จากทั้งหมดเราจะเห็นว่ามีเทนมาจากหลุมฝังกลบ เชื้อเพลิงฟอสซิล และหลัก ๆ ก็มาจากปศุสัตว์เป็นส่วนใหญ่ แต่ที่ผ่านมาก็เริ่มมีการศึกษาเพื่อลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากฟาร์ม มีการทดลองเปลี่ยนอาหารให้สัตว์ อย่างที่ Burger King ได้หันมาให้ความสนใจเรื่องก๊าซมีเทน เพิ่มตะไคร้ลงในอาหารของวัวเนื้อ เพื่อลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากระบบย่อยหารของสัตว์แล้ว
•
https://www.theguardian.com/environment/2020/jul/14/

https://www.nbcnews.com/science/env...-fossil-fuels-could-drive-4c-global-heat-rise

https://ngthai.com/science/25344/greenhouse-gases/
•
ณิชากร บัวทรัพย์
Environman