อยากฝึกสมถะให้เกิดฌาน๔ แต่จิตมักวนเข้าเป็นวิปัสสนาตลอด

เอาให้เข้าใจง่ายๆ นะ โยม นะ..

พองยุบ เป็นเส้นทางไปทาง "ฌาน" ไล่ลำดับฌานแต่ละขั้น..

ส่วนลมที่ปลายจมูก เขาฝึกปล่อยวางลมหายใจ นะ โยม นะ

หรือจะเรียกว่า "ฝึกตายก่อนตายจริง" ก็ได้ นะ โยม นะ..

 

มัวแอ่นเดอะมั่วเจ้าคร่ะ .....นิมนต์จำวัด
พอดีย์วันนี้รมณ์ดี เป็นไท 55

 

ก็โยมไม่เคยฝึก โยมจะไปรู้ได้ไงล่ะโยม..

ส่วนผู้ที่เคยฝึก ย่อมสิ้นสงสัย ในคำกล่าวของอาตมา นะ โยม นะ..

คนเดินเส้นทาง "สมถะ" เท่านั้นที่เข้าใจ..

 

เจ้าคร่ะท่าน 55

 

เราจำได้ว่าตอนที่เราไปยุวพุทธฯตอนนั้น เราเคยมีอาการท้องยุบแบบยุบๆพองๆพองๆยุบๆ แบบรุนแรงตอนนั่งสมาธิแหละค่ะ คือมันรู้สึกยุบพองจนเหมือนท้องหน้าไปติดข้างหลัง แต่ตอนนั้นก็ไม่ตกใจอะไรค่ะ เพราะเขาเปิดวีดีทัศน์ที่คุณแม่สิริบอกอาการให้ดู ว่าจะมีอาการๆแบบนี้นะ เลยไม่ได้กลัวเท่าไรค่ะ แต่อาการแบบนั้นเราเป็นแค่ตอนที่ยุวพุทธแหละค่ะ แล้วก็ไม่เคยเป็นอีกเลย จนทุกวันนี้ ตอนที่ไปยุวพุทธเจอเยอะมากค่ะ กลับบ้านมากลัวเวรกลัวกรรมสุดขีดเลยค่ะ จุดเปลี่ยนชีวิตเลยตอนนั้น

 

ลมเส้นเดียวกัน แต่ ลมเข้า ดับ ตอนไหน ตรงไหน ล่ะ โยม..

ลมเส้นเดียวกัน แต่ ลมออก ดับ ตอนไหน ตรงไหน ล่ะ โยม..

ลมเข้า ลมออก ดับเหมือนกัน แต่ อาการและสภาวะ ต่างกัน นะ โยม นะ..

 

พองยุบท่านฝึกมามั้ย ท่านฝึกพุทโธ ท่านฝึกธรรมกาย
ท่านฝึกกะยูทูปเอง อะไรแบบเนี้ยะเรื่องเก่า เคยคุยกะท่านเมื่อปีก่อน คาบลมเข้าออกแต่ละครั้ง คนละอารมณ์จิต ฉวีก้อเป็นคนพูดบอก...นิมนต์จำวัดเจ้าคร่ะ

 

ต้น กลาง ปลาย ของคาบลมหายใจเข้าออกอยุ๋ตรงไหนท่านยังไม่รู้ ...ก็ควรเอาเวลาไปฝึกให้มากๆ นะเจ้าคร๊ะ จะได้รุ้....ไปแระคร่ะ

 

อาการแบบนี้เรียกง่ายๆว่า "จิตตื่น" หรือ ผู้ตื่น นั่นแหละโยม..

ถ้าเกิดขึ้นอีกไม่ต้องตกใจ ให้จับตรงจุดกลางระหว่างพองกับยุบ โดยไม่ให้เคลื่อน ไม่ให้ส่ายไปไหนได้..

มันคือทางสายกลาง นะ โยม นะ..

 

ถ้าจะให้พูดตามตำรา ไล่เรียงตามตำรา อาตมาไม่รู้หรอกโยม..

แต่ถ้าให้ไล่เลียงตามการปฏิบัติ อาตมาก็พอตัวแหละโยม..

อาตมาสายพิสูจน์รู้ด้วยการลงมือปฏิบัติ นะ โยม นะ..

 

ไม่รุ้ก้อบอกไม่รุ้ดีกว่านะเจ้าคะ 55 ..ว่ามะ

 

คงพอได้แนวทางนะท่านทั้งหลาย..

ท่านผู้มีความเพียรทั้งหลาย..

อาตมา ไปล่ะ..

 

พอ ละ โยม..

เอาพอหอมปากหอมคอ..

"หลอนอย่างอาตมานี้แลที่โลกรอคอย" นะ โยม นะ..

นะ นะ นะ..

 

มโนมยิทธิ คือ ฤทธิ์ ทางใจ

กรรมฐาน ที่ทำให้ได้ฤทธิ์ ทางใจ มีได้หลายอย่างเช่น
กรณี ที่ 1 เมื่อ บรรลุธรรม จะได้ อภิญญาเป็นลาภี มีตัวอย่าง พระจุฬปันถกเป็นต้นผู้เป็นเลิศด้านมโนมยิทธิ องค์อื่นๆที่บรรลุ ก็ทำมโนมยิทธิได้เพียงแต่ ไม่เลิศเท่าพระจุฬปันถก

กรณี ที่ 2 กรรมฐาน ที่ ใช้ การนึกภาพ มาพิจารณา เช่น
อสุภะกรรมฐาน
กายคตาสติพิจารณาอาการ32 พิจารณาธาตุ4 พิจารณาอาหาเรปฏิกูลสัญญา
กสิณ 10

และ การเจริญสติปัฏฐาน
เท่า ที่ จขกท. ฝึก เจริญ สติปัฏฐาน นี่ก็ สุดยอดแระครับ วัดผลที่ตัวเอง

ถ้าไม่หนีโลก อยู่กะโลกได้อย่างเบิกบาน แสดงว่า การเจริญสติปัฏฐาน มันก้าวหน้า

 

เอาจริงไหมพระ เขาสงสัยหมดแหละ พระยังไม่มีคำไหนให้สิ้นสงสัย แต่ว่าพระจะมาทำให้คนสงสัยเป็นบาปเป็นกรรมทำไม เมตตาหนะมีไหม ถ้าไม่มีควรทำให้มีให้สมกับสารรูป

 

เป็นพระแล้วอย่าหลอน มันน่าจะเลิกหลอนได้แล้ว เป็นพระแล้ว ฉายาอะไรนะ มีธรรมเป็นที่ตั้ง หรือ ตั้งไว้ที่ธรรม หรือ ธรรมเป็นบาทฐาน เอา เลือกมาสักอัน จะได้เลิกหลอนเห็นแก่.... เอาเองนะ คนนี้ไม่เคยกลัวนรกเลยแม้สักนิดเดียว ถ้ามันเป็นกรรม แต่กรรมของอะไรก็พิจารณาอยู่ สัตว์โลกทั้งหลายตั้งแต่ขยาดเท่าอณูเราก็ไม่ได้มีเวรต่อกัน สัตว์โลกตั้งแต่ตามองเห็นขึ้นไปเราก็ไม่ได้มีเวรต่อกัน แต่อาจจะนะ เราอาจมีเวรต่อปฏิปักษ์แห่งศาสนาก็ได้นะ ถามคนที่ลองแล้วสิว่า เวรกรรมบันดาลเป็นอย่างไร ดีแต่พูด สุดท้ายก็เหลวเป้ว ทนทานต่อกิเลสบ้าง เป็นโซดาบันบ้าง สุดท้ายก็จิ้มกันจนเสร็จ พระอย่าเป็นแบบนั้นเลย มีโอกาสแล้ว ทำให้ดี

 

จะสิ้นสงสัยได้ต้องปฏิบัติ สมถะ วิปัสนา นะ โยม นะ..

อาตมาก็พูดตามการปฏิบัติที่ได้เห็นได้รู้ ที่ได้ผ่านมาแล้ว นั้นละโยม..

 

เส้นสายลมเดียวหายใจ
จับตรงไหนก็ได้คับที่เราชอบ
จับแล้วเห็นชัด คือปลายจมูก
ต่อมาก็ตรงหน้าอก
ตรงจุดท้องเบากว่าสองจุด
หรือจะดูทั้งสามจุดก็ได้คับ

 

ใช้สติให้มากๆครับพระ ศีลเป็นข้อวัตรใช้เพื่อปฏิบัติขัดเกลาจิตเป็นองค์ประกอบในการสร้างสติเนืองๆ เพื่อที่กิริยาอาการทั้งหลายที่มิใช่สิ่งที่ สมณ พึงมีจะปรากฏแก่สาธารณชน ในนี้มีโอกาสน้อยกว่าพระครับ พระอย่าทิ้งโอกาสที่มีตรงหน้าให้หลุดลอยไป ไปคว้าเอาสิ่งโสโครกมาเคลือบลงที่จิตใจครับ ก่อนเป็นสมณเป็นอย่างไร เป็นสมณแล้วเป็นอย่างไร การกำจัดกิเลสและการวางตัว ที่จริงเป็นเรื่องเดียวกัน และนั่นคือคำตอบของเรื่อง สิ้นสงสัย ครับพระ

 

มันอยู่ที่คุณว่าทำกรรมฐานไปเพื่อจุดประสงค์อันใด?
1. เพื่อให้พ้นทุกข์ทั้งปวงเท่านั้น
2. 1. + เอาญาณพิเศษด้วย
ถามตัวคุณเอง หาคำตอบให้ชัดเจน แล้วค่อยลงมือปฏิบัติเด้อน้อง...