ใครได้ฌาน4แล้วมั่ง ขอคำแนะนำหน่อย

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย nanhor, 12 เมษายน 2008.

  1. nanhor

    nanhor Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2007
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +51
    ควรฝึกอย่างไรถึงได้
     
  2. GROLY

    GROLY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    2,019
    ค่าพลัง:
    +8,001
    ยังไม่ได้ แต่ให้ทำไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ถึงเอง
     
  3. wiwat911

    wiwat911 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +2
    ได้แค่3วะ แต่ตอนเป็นพระได้4 ตอนนี้เป็นฆารวาสได้แค่3 จะเข้า4แม่งหลุดทุกที สงสัยกุต้องไปบวชใหม่ละวะ
     
  4. Fenix49

    Fenix49 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +6
    ควรตั้งใจรักษาศีลก่อนค่ะ หากศีลดีขึ้นแล้ว สมาธิจะดีตาม ศีลกับสมาธิจะส่งเสริมซึ่งกันและกัน

    หรือจะลองใช้วิธีแผ่เมตตาเมื่อเริ่มนั่งสมาธิก็ได้ค่ะ จะทำให้จิตสงบได้เร็ว

    หรือใช้วิธีดูจิตขณะปัจจุบันตลอดไม่ว่าจะทำอะไร ให้จิตอยู่กับกาย พยายามให้จิตคงที่ ไม่ขึ้นไม่ลงตามอารมณ์ หรือสิ่งที่มากระทบ (ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ สังเกตุ) เมื่อจะนั่งสมาธิจะทำให้จิตเข้าสู่ฌานได้เร็วค่ะ
     
  5. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    ลองฝึกในแนวมโนมยิทธิของวัดท่าซุงซิครับ โดยใช้คำสมาทานพระกรรมฐานของวัดท่าซุงแล้วฝึกภาวนา นะมะ เมื่อหายใจเข้า พะธะ เมื่อหายใจออก เพื่อให้จิตเป็นทิพย์ในระดับอุปจารสมาธิก่อน พอกำลังอุปจารสมาธิเริ่มทรงตัว ก็พิจารณาธรรมตัดขันธ์5 แล้วขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าให้เราได้เห็นภาพพระองค์ปรากฏสว่างตรงหน้าเรา

    ต่อไปก็น้อมใจกราบพระองค์ด้วยจิตนอมน้อม ด้วยระลึกถึงพระคุณของพระองค์ก็ตามหรือกราบขอขมาในสิ่งที่เราเคยล่วงเกินท่านไว้ก็ตาม จิตจะสะอาดขึ้น ก็จะเห็นภาพพระสว่างขึ้น แสดงว่าจิตก็เข้าสู่ฌานลึกขึ้นตามลำดับ จนในที่สุดเมื่อตัดสินใจตัดขันธ์5 ขอบารมีพระท่านให้พาจิตเราไปกับท่านที่แดนทิพย์ โดยไม่กังวลสนใจในร่างกาย จิตก็จะเคลื่อนตัวไปด้วยกำลังฌาน4เอง เรียกว่าฌาน4 ใช้งาน

    สำหรับการฝึกครั้งแรก ควรต้องมีครูฝึกแนะนำ ถ้าสะดวกไปที่อุทัยธานีให้ไปฝึกที่วัดท่าซุงได้ทุกวัน หรือที่กรุงเทพก็มีครูมาฝึกให้ที่บ้านสายลมช่วงต้นเดือนครับ

    จากประสบการณ์ส่วนตัว การฝึกมโนมยิทธิช่วยให้เข้าฌาน4 ได้เร็วเพราะบารมีพระท่านช่วยเสริม ด้วยเป็นวิธีที่ให้จิตสนใจในภาพพระและมีวิปัสนาญาณควบกับอธิษฐานบารมี ทำให้จิตละจากนิวรณ์และความสนใจในอาการของร่างกายไปโดยปริยาย ซึ่งเท่ากับทำลายอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้จิตเข้าสู่ฌาน4 ไม่ได้
     
  6. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ผมเอาอารมณ์ของฌาน1-4 ในพระสูตรของพระไตรปิฎกมาลงให้นะครับ ลองอ่านแล้วก็เทียบเคียงกับอารมณ์กรรมฐานที่ปฏิบัติได้ดูครับ

    -----------------------------------------------------------------------
    [๓๐๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอีก ภิกษุสงัดจากกาม สงัด
    จากอกุศลธรรม เข้าปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่ เธอ
    ยังกายนี้แล ให้คลุก เคล้า บริบูรณ์ ซาบซ่านด้วยปีติและสุขเกิดแต่วิเวก ไม่มี
    เอกเทศไรๆ แห่งกายทุกส่วนของเธอที่ปีติและสุขเกิดแต่วิเวกจะไม่ถูกต้อง ดูกร
    ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนพนักงานสรงสนาน หรือลูกมือของพนักงานสรง-
    *สนานผู้ฉลาด โรยจุณสำหรับสรงสนานลงในภาชนะสำริดแล้ว เคล้าด้วยน้ำให้
    เป็นก้อนๆ ก้อนจุณสำหรับสรงสนานนั้น มียางซึม เคลือบ จึงจับกันทั้งข้างใน
    ข้างนอก และกลายเป็นผลึกด้วยยาง ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือน
    กันแล ภิกษุย่อมยังกายนี้แล ให้คลุก เคล้า บริบูรณ์ ซาบซ่านด้วยปีติและสุข
    เกิดแต่วิเวก ไม่มีเอกเทศไรๆ แห่งกายทุกส่วนของเธอที่ปีติและสุขเกิดแต่วิเวก
    จะไม่ถูกต้อง เมื่อภิกษุนั้นไม่ประมาท มีความเพียร ส่งตนไปในธรรมอยู่อย่างนี้
    ย่อมละความดำริพล่านที่อาศัยเรือนเสียได้ เพราะละความดำริพล่านนั้นได้ จิตอัน
    เป็นไปภายในเท่านั้น ย่อมคงที่ แน่นิ่ง เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่น ดูกรภิกษุ
    ทั้งหลาย แม้อย่างนี้ ภิกษุก็ชื่อว่าเจริญกายคตาสติ ฯ

    [๓๐๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอีก ภิกษุเข้าทุติยฌาน มี
    ความผ่องใสแห่งใจภายใน มีความเป็นธรรมเอกผุดขึ้น เพราะสงบวิตกและวิจาร
    ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอยู่ เธอยังกายนี้แล ให้คลุก
    เคล้า บริบูรณ์ ซาบซ่านด้วยปีติและสุขเกิดแต่สมาธิ ไม่มีเอกเทศไรๆ แห่ง
    กายทุกส่วนของเธอที่ปีติและสุขเกิดแต่สมาธิจะไม่ถูกต้อง ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    เปรียบเหมือนห้วงน้ำพุ ไม่มีทางระบายน้ำทั้งในทิศตะวันออก ทั้งในทิศตะวันตก
    ทั้งในทิศเหนือ ทั้งในทิศใต้เลย และฝนก็ยังไม่หลั่งสายน้ำโดยชอบตามฤดูกาล
    ขณะนั้นแล ธารน้ำเย็นจะพุขึ้นจากห้วงน้ำนั้น แล้วทำห้วงน้ำนั้นเอง ให้คลุก
    เคล้า บริบูรณ์ ซาบซ่านด้วยน้ำเย็น ไม่มีเอกเทศไรๆ แห่งห้วงน้ำทุกส่วนนั้นที่
    น้ำเย็นจะไม่ถูกต้อง ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุย่อม
    ยังกายนี้แล ให้คลุก เคล้า บริบูรณ์ ซาบซ่านด้วยปีติและสุขเกิดแต่สมาธิ
    ไม่มีเอกเทศไรๆ แห่งกายทุกส่วนของเธอที่ปีติและสุขเกิดแต่สมาธิจะไม่ถูกต้อง
    เมื่อภิกษุนั้นไม่ประมาท มีความเพียร ส่งตนไปในธรรมอยู่อย่างนี้ ย่อมละความ
    ดำริพล่านที่อาศัยเรือนเสียได้ เพราะละความดำริพล่านนั้นได้ จิตอันเป็นไปภาย
    ในเท่านั้น ย่อมคงที่ แน่นิ่ง เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่น ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    แม้อย่างนี้ ภิกษุก็ชื่อว่าเจริญกายคตาสติ ฯ

    [๓๐๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอีก ภิกษุเป็นผู้วางเฉยเพราะ
    หน่ายปีติ มีสติสัมปชัญญะอยู่ และเสวยสุขด้วยนามกาย ย่อมเข้าตติยฌานที่
    พระอริยะเรียกเธอได้ว่า ผู้วางเฉย มีสติ อยู่เป็นสุขอยู่ เธอยังกายนี้แล ให้
    คลุก เคล้า บริบูรณ์ ซาบซ่านด้วยสุขปราศจากปีติ ไม่มีเอกเทศไรๆ แห่งกาย
    ทุกส่วนของเธอที่สุขปราศจากปีติจะไม่ถูกต้อง ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือน
    ดอกบัวขาบ หรือดอกบัวหลวง หรือดอกบัวขาว แต่ละชนิด ในกอบัวขาบ
    หรือในกอบัวหลวง หรือในกอบัวขาว เกิดแล้วในน้ำ เนื่องอยู่ในน้ำ ขึ้นตามน้ำ
    จมอยู่ในน้ำ อันน้ำเลี้ยงไว้ คลุก เคล้า บริบูรณ์ ซึมซาบด้วยน้ำเย็นจนถึงยอด
    และเง่า ไม่มีเอกเทศไรๆ แห่งดอกบัวขาบ หรือดอกบัวหลวง หรือดอกบัวขาว
    ทุกส่วนที่น้ำเย็นจะไม่ถูกต้อง ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล
    ภิกษุย่อมยังกายนี้แล ให้คลุก เคล้า บริบูรณ์ ซาบซ่านด้วยสุขปราศจากปีติ
    ไม่มีเอกเทศไรๆ แห่งกายทุกส่วนของเธอที่สุขปราศจากปีติจะไม่ถูกต้อง เมื่อ
    ภิกษุนั้นไม่ประมาท มีความเพียร ส่งตนไปในธรรมอยู่อย่างนี้ ย่อมละความดำริ
    พล่านที่อาศัยเรือนเสียได้ เพราะละความดำริพล่านนั้นได้ จิตอันเป็นไปภายใน
    เท่านั้น ย่อมคงที่ แน่นิ่ง เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่น ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้
    อย่างนี้ ภิกษุก็ชื่อว่าเจริญกายคตาสติ ฯ

    [๓๐๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอีก ภิกษุเข้าจตุตถฌาน
    อันไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้
    มีสติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขาอยู่ เธอย่อมเป็นผู้นั่งเอาใจอันบริสุทธิ์ผุดผ่องแผ่ไปทั่ว
    กายนี้แล ไม่มีเอกเทศไรๆ แห่งกายทุกส่วนของเธอที่ใจอันบริสุทธิ์ผุดผ่องจะไม่
    ถูกต้อง ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษนั่งเอาผ้าขาวคลุมตลอดทั้งศีรษะ
    ไม่มีเอกเทศไรๆ แห่งกายทุกส่วนของบุรุษนั้นที่ผ้าขาวจะไม่ถูกต้อง ฉันใด ดูกร
    ภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุย่อมเป็นผู้นั่งเอาใจอันบริสุทธิ์ผุดผ่อง
    แผ่ไปทั่วกายนี้แล ไม่มีเอกเทศไรๆ แห่งกายทุกส่วนของเธอที่ใจอันบริสุทธิ์
    ผุดผ่องจะไม่ถูกต้อง เมื่อภิกษุนั้นไม่ประมาท มีความเพียร ส่งตนไปในธรรมอยู่
    อย่างนี้ ย่อมละความดำริพล่านที่อาศัยเรือนเสียได้ เพราะละความดำริพล่านนั้น
    ได้ จิตอันเป็นไปภายในเท่านั้น ย่อมคงที่ แน่นิ่ง เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งมั่น
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้อย่างนี้ ภิกษุก็ชื่อว่าเจริญกายคตาสติ ฯ

    [๓๐๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไรๆ ก็ตาม เจริญกายคตาสติแล้ว
    ทำให้มากแล้ว ชื่อว่าเจริญและทำให้มากซึ่งกุศลธรรมส่วนวิชชาอย่างใดอย่างหนึ่ง
    อันรวมอยู่ในภายในด้วย ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุคคลไรๆ ก็ตาม
    นึกถึงมหาสมุทรด้วยใจแล้ว ชื่อว่านึกถึงแม่น้ำน้อยที่ไหลมาสู่สมุทรสายใดสาย
    หนึ่งอันรวมอยู่ในภายในด้วย ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล
    ภิกษุไรๆ ก็ตาม เจริญกายคตาสติแล้ว ทำให้มากแล้ว ชื่อว่าเจริญและทำให้
    มาก ซึ่งกุศลธรรมส่วนวิชชาอย่างใดอย่างหนึ่งอันรวมอยู่ในภายในด้วย ฯ
     
  7. โจงครึ่ม

    โจงครึ่ม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +6
    ฌาน 4

    หาความสงบก่อน คือ ละ โลภ โกรธ หลง คือความสงบภายในอย่างแท้จริง ควรจะอ่านเรื่องเกี่ยวกับ สามัญลักษณะ ฌานที่มาจาก กำลังของปัญญา ควรมองใน2 ด้าน คือ เรื่อง ศีลชำระปัญญาและปัญญาชำระศีลถ้ามีเรื่องศีลก้อแปลว่าปัญญาก้อต้องมาเป็น คู่ กัน
     
  8. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +2,122
    ถ้าหลับในสมาธิ หรือตกฌานเนี่ย หมูมาก - -
     
  9. joezaaaa

    joezaaaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    330
    ค่าพลัง:
    +1,124
    ผมก้อเหมือนกันครบ ทำเป็นอาจิณ - -*
     
  10. ยายทองประสา

    ยายทองประสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +3,069
    ตามนี้เลย

    http://blog.palungjit.org/bababobo/4156/

    แถมว่าอย่าปล่อยอารมณ์ให้ว่างจากการภาวนา ว่างปุ๊บภาวนาปับ
    จับวิปัสนาได้จะดี คือฟังพระเทศน์ให้สงบใจ แล้วค่อยนั่ง หรือนั่งไปฟังไป เพื่อฟังจบก็อย่าเพิ่งลุก ภาวนาต่อไปสบายๆ
    แล้วจะอัพเดทบทความเรื่อยๆ ตามแต่เวลาและโอกาสครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 เมษายน 2008
  11. กั๊กรังสิต

    กั๊กรังสิต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +33
    ขยันๆ ๆๆอย่าขี้เกียจๆๆ ตั้งจิตมั่น
    ภาวนา อย่าเล่นคอมมาก อิงตำราได้
    แต่อย่าเป็นหนอนตำรา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2008
  12. choosake

    choosake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +647
    เออ อย่า ยึดติดว่าอยากได้ ญาณ 4 ครับ มันจะมั่วแต่ นั่ง วิเคราะห์ว่า ได้ระดับไหนแล้ว ทำให้เป็นกังวล ครับ เพราะมันเป็น กิเลศ อยาก ละเอียด คือว่า "อยาก" ครับ
     
  13. innovex

    innovex เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2005
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +2,679
    การนั่งสมาธิก็เป็นการถือศึลแล้วครับ ศืลที่เราอาราธนากันเป็นศีลนอกมรรค แต่่การนั่งสมาธิศีลก็จะเกิดเราเรียกว่าเป็นศีลในมรรค
    ถ้าเรานั่งแล้วสมาธิตั้งอยู่ไม่ได้นานกเปลี่ยนมาเป็นเดินจงกรมดูครับ เพราะการเดินจงกรมจะทำให้สมาธิตั้งอยู่ได้นาน
     
  14. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    เขาหาคนที่ได้ฌาน 4 ก็แนะนำให้เขาได้หลายคน
    น่าปลื้มใจ ที่มีคนได้ แล้วเมตตาให้แนวทาง ..
     
  15. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เคยได้ 4 แต่ตอนนี้หลุดมา 2 เพราภาระหน้าที่เยอะ เจออะไรหนักๆเยอะ แต่จิตยังติดทิพย์จากตอนได้4ทำให้เวลาเจออะไรพีค จะมีแสงสีม่วงปรากฏให้เห็น อย่างตอนแฟนดิฉันเสีย เวลานึกถึงเขาและร้องไห้ จะมีแสงสีม่วงผ่านเข้ามาบ่อยๆ และเวลาเจอสถานการณ์สำคัญๆ แสงสีม่วงเป็นดวงจะเข้ามาเรื่อยๆ และมีอาการวิญญาณออกจากร่างบ่อยๆเวลาง่วงนอน, ทุกวันนี้ก็คิดซะว่าแฟนเราเขามาตายเพื่อให้ดิฉันบรรลุฌาณ เพราะถ้าเขาไม่ตาย ช่วงหนึ่งดิฉันจะหลงเรื่อง กายสังขารมาก ไม่นั่งสมาธิเลย เอาแต่เที่ยว ไปนั่นไปนี้กับเขา, พอเขาตาย มันเหมือนเตือนว่า มันไม่เที่ยงนะ หยุดพอได้แล้ว มาปฏิบัติกรรมฐานต่อจะได้หลุดพ้นจากความทุกข์เร็วๆ และขอให้เขาได้บุญด้วยถ้าดิฉันบรรลุธรรมเพราะคิดได้จากการตายของเขา

    ทุกวันนี้ถ้าเคลียร์เรื่องอะไรต่างเสร็จอยากจะไปบวชอยู่เหมือนกัน คิดว่าอยากไปบวชภิกษุณีที่ ศรีลังกา แต่ตอนนี้ขอตอบแทนพระคุณพ่อแม่โดยทำงานหาเงินใช้ท่านเสียก่อน

    ปกติฌาณ เนี้ย ถ้าอยากมันจะไม่มาคะ ฌาณจะมาเองถ้านิสัยกับจิตใจเรามันไปตรงกับำให้ฌาณเกิด และจากประสบการณ์ตอนได้ ฌาณ สี่ในคราวนั้นคือ เป็นคนเฉยๆ มีความสุข ไม่มีภาระหรือทุกข์ ไม่มีกิเลส ไม่มีแฟน ม่มีห่วง ไม่โลภโกรธ หลง อารมย์กลางๆ จะทำให้เวลานั่งสมาธิ จิตจะเข้าสู่ภาวะว่างเร็ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2012
  16. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    อ่านเยอะ สัญญาแยะกลับไม่ได้ ตอนที่ไม่รู้อะไรเลย กลับดีเสียกว่า

    เวลาไปวัดถามพระ (ถามด้วยความไม่รู้จริงๆ) กลับถึงบ้าน ปรากฎว่า มีแต่ถอยลงๆ จำได้ว่า พาเพื่อนไปหาพระครั้งสุดท้าย ประมาณเดือน 2 ตอนนี้ยังนั่งไม่ได้เหมือนเดิมเลย (ตอนนั้นไม่รู้ ว่าเรียก ฌาณ4) ไม่รู้เรียกอะไร

    ไม่รู้อะไรจากภายนอกเลยดีกว่า รู้ตัวเองดีที่สุด
     
  17. DR-NOTH

    DR-NOTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    581
    ค่าพลัง:
    +1,276
    การประพฤติปฏิบัติธรรมนั้น จุดมุ่งหมายแท้จริงเพื่อความสงบและสุขอันแท้จริง ห่างไกลจาก กิเลส ตัณหา อุปาทานอันเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ทั้งหลาย
    เมื่อรู้อารมณ์ของใจว่าอยู่ในอารมใด สุข หรือ ทุกข์ ลักษณะใด แล้วปล่อยวาง
    อารมณ์ต่างๆนั้นได้ น้อมจิตพิจารณาให้เข้าถึงไตรลักษ์ เมื่อหลุดจากสมมุติบัญญัติไ้ด้
    กระแสแห่งนิพพานจะเกิดขึ้นเอง จิตจะเกษมสานต์ บริสุทธิ์ผุดผ่อง อันคือสุขแท้จริง....​

     
  18. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2012
  19. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    ต้องมีศีลบริบูรณ์ ศีลคือความปกติของใจ ใจสงบก็เป็นสมาธิเองตามธรรมชาติ
    จิตจะสงบละเอียดลงเรื่อยๆเอง

    อีกวิธีคือ ต้องไม่มีอยากซึ่งปุถุชนอยากได้โน้นนี่อยู่แล้ว ทิพย์ๆต่างๆ

    การจะดับอยากต้องดับที่มั่นของความอยากคือ อัตตา ก็คือ วิปัสสนาพิจารณากาย ไม่เที่ยง

    จิตจะสงบเป็นฌานเอง

    นั่งสมาธิรู้เฉพาะลม
    อุปมาเหมือนสะสมเงินอะสะสมได้ก็มีกำลังซื้อได้ มาเมื่อทำเหตุจนสมควรได้ผล
    เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ล้มเหลวไม่มีมีแต่ล้มเลิก
     
  20. ทิวลิปขาว

    ทิวลิปขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +1,555
    เจ้าของกระทู้อยากได้ฌาณสี่ไปทำไมค่ะ

    เพื่ออิทธิฤทธิ์
    หรือเพื่อการหลุดพ้น นิพพานค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...