เตรียมตัวให้พร้อม!มันกำลังมา แจ้งข่าวสารการชำระโลก

การล้างกรรมหรือระเบิดคุณสมบัติของพลังงานกรรม ที่เป็นอณูหยาบ ๆ แม้ต้องอาศัยพลังอำนาจจิตใต้สำนึกก็จริงอยู่ แต่ต้องเป็นไปตามกระบวนการที่ถูกจัดวางไว้เท่านั้น

 

กระบวนการที่ถูกจัดวางไว้ก็คือ มนุษย์ทุกคนต้องชดใช้กรรมของตนทุกเรื่องราว ด้วยการฝ่าฟันมันไป ผ่านการอดทน อดกลั้น ให้อภัย และการตัดสินใจที่ถูกต้องในเรื่องที่เผชิญนั้นให้ได้ ซึ่งหมายถึง การใช้พลังอำนาจแห่งความรักบริสุทธิ์ กับการกระทำทางจิตสำนึกด้านบวกเท่านั้น จิตใต้สำนึกจึงจะรับคำสั่งให้ระเบิดกลุ่มคุณสมบัติของพลังงานกรรมนั้น ๆ ให้มันแตกสลายกลายเป็นกลางได้ตามต้องการ

รู้เลยค่ะ ว่ามันไม่ง่าย เพราะส่วนใหญ่มักตกเป็นทาสทางอารมณ์กรรม และแพ้ความคิดของตนเอง แม้บางครั้งจะเห็นถึงความถูกและผิด แต่ยังไม่สามารถปฏิบัติได้เพราะไม่มีพลังอำนาจในตนเองเพียงพอค่ะ หากเรามีวาสนาดีอยู่บ้างก็อาจมีเพื่อนมนุษย์คนอื่นเข้ามาช่วยเหลือให้เราสอบผ่านไปได้ โลกนี้จึงคือ พลังงานแห่งความรัก ที่มนุษย์ทุกคนต่างมีบุญคุณต่อกัน เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ช่วยกันฉุดรั้งให้หลุดพ้นไปจากวงจรของทุกข์ได้นะค่ะ

 

มนุษย์จะต้องรู้ว่า.....

การปฏิบัติสมาธิเพียงแค่ทำจิตให้สงบ ด้วยการหลับตาภาวนา ก็ไม่มีวันลบบ้างวิบากกรรม ระเบิดกรรม ซึ่งเป็นคุณสมบัติของจิตวิญญาณที่นำติดตัวมาจากภพอดีตชาติได้

เพราะพลังอำนาจทางจิตจากการปฏิบัติสมาธิเบื้องต้น ไม่มีวันเข้าถึงสิ่งที่ต้องการได้แน่นอน ถึงแม้จะเข้าถึงพลังอำนาจจิตสุงสุดได้ ด้วยการสั่งจิตใต้สำนึกที่ทำหน้าที่เก็บรหัสบุรพกรรมไว้ให้มันระเบิดกรรมหรือสลัดกรรมทั้งหมดของตนทิ้งไป มนุษย์จะไม่มีวันกระทำสำเร็จได้อย่างที่คิด

 

สวัสดีท่านเจ้าของกระทู้...เงียบหายไปไหนนานเลย...สบายดีหรือเปล่า

 

สบายดีค่ะท่านสงบ ประสบกับสุขบ้าง ทุกข์บ้างปะปนคละเคล้ากันไป ตอนนี้กำลังเรียนรู้ฝึกรู้ ฝึกดูภายในจิตใจกับเรื่องราวที่พบเจอในสถานการณ์ต่าง ๆ ค่ะ

และมีความสงสัย!! เหตุอันใดเราจึงต้องมีอุปสรรคในชีวิต และอุปสรรคนั้น

ทำไม? เราจึงต้องคิดและตอกย้ำในเรื่องแบบเดิม ๆ สุดท้ายเราก็ตัดสินใจคงเดิม และเหตุการณ์ไปวนเวียนไปสู่สถานการณ์เดิมค่ะ

ก็เลยได้คำตอบค่ะ จากที่เราต้องเผชิญเหตุการณ์และตัดสินใจซ้ำ ๆ เหมือนเป็นวงเวียนกรรมนะคะ

และตอนนี้ไปให้เรื่องราวเหล่านี้ใน facebook ของตัวเองไว้ด้วยค่ะ เลยอยากนำมาแชร์ประสบการณ์ค่ะ

อย่าจำฝังใจ!!

ถ้าใครพบเจอเรื่องร้าย ๆ !!

อย่าจำฝังใจ!!

ให้มองเหตุการณ์ และสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ที่มันมีผลต่ออารมณ์และความรู้สึก ไม่ว่าจะหนัก หรือ ร้ายแรงแค่ไหน!!

อย่าจำฝังใจ....♨♨

พยายามมองให้เห็นความจริง ทุกชีวิตล้วนต้องเจอเรื่องราวต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคและปัญหา อย่ายึดมั่นถือมั่น มากมายจนเกินไป

รู้...เข้าใจและปล่อยวาง พร้อมจะทำความเข้าใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยปัญญา เข้าใจ..เรียนรู้ ทุกบทเรียน คือ ครู ให้เราได้เข้าใจชีวิต

หากว่า...เราจำฝังใจ

ยึดมั่นถือมั่นอย่างมาก และ...ตอกย้ำในอารมณ์และความรู้สึกที่ทุกข์บีบคั้น ให้มันจดจำและฝังใจเอาไว้ ผลลัพธ์ที่ตามมา คือ....มันจะหยั่งลึกลงไปเก็บไว้ที่ "จิตใต้สำนึก" ทันที


จิตใต้สำนึก...มันมีระบบทำงานที่คิดเอง เห็นเอง ไม่ได้ มันพร้อมที่จะทำตามจิตสำนึกที่ตนต้องการเสมอ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะดี หรือ ร้าย เราต้องการ หรือ ไม่ต้องการ มันจะเก็บเอาไว้ คอยย้ำเตือน คอยบงการ มีอำนาจเหนือคอยบงการจิตใจ เพราะเราตกเป็นทาสอารมณ์ต่อความรู้สึกที่จำฝังใจไว้ด้วยความยึดมั่นที่ผ่านมาแล้วในอดีต

นี้คือ ...อุปสรรค....

อุปสรรคสำคัญของชีวิตที่ทำให้เราล้มเหลว หรือไม่ประสบผลสำเร็จ หรือ มีอุปสรรคในการดำเนินชีวิต

หากวันใดวันหนึ่งไม่ว่าจะกี่ภพกี่ชาติ
มันจะดึงสถานการณ์ที่เราจำฝังใจเอาไว้มาให้ได้พบเจอ
มันจะทวนอารมณ์และความรู้สึกที่จำฝังใจขึ้นมาให้เราระลึกได้เสมอ

เมื่อเราพบเจอ และเราก็ไม่รู้ว่า....เราต้องการอย่างนี้หรือไม่!!

ทั้ง ๆ ที่มันอาจเป็นอดีต ที่เราไปจำฝังใจมันเอาไว้จาก..อดีต..แค่นั้น

ถ้าเราขาดสติ ขาดปัญญา เราจะไม่สามารถแก้ไขปัญหา และตกเป็นทาสอารมณ์และความรู้สึก..ที่มันจำฝังใจ เอาไว้

นี้คือ....อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ ของชีวิต

มันเป็นนิสัยที่เราไม่ได้ต้องการมันอย่างแท้จริง
มันเป็นอุปสรรคที่ทำให้เราตัดสินใจต่อชีวิตที่ไม่ถูกต้อง
ทั้ง ๆ ที่เรารู้ว่ามันไม่ดี

แต่...เราก็ยังตัดสินใจเหมือนเดิม

มันคือ วงเวียนกรรม ที่ใคร ๆ หลายคย ประสบพบเจอแล้วยังอยู่กับความทุกข์เดิม ๆ ไม่อาจก้าวข้ามไปสู่สิ่งที่ดีงามกว่าเดิมได้ต้องตกเป็นทาสทางความคิดและอารมณ์ที่ไม่ต้องการ เมื่อประสบพบเจอเหตุการณ์ โดยที่ไม่รู้ว่าตนเองกำลังตกอยู่ภายใต้

"กฎแห่งกรรม" เข้าให้แล้วนั่นเองค่ะ

 

ดีแล้ว..เอาประสบการณ์ชีวิตของตัวเองมาเป็นคติให้กับคนอื่นๆต่อไป...ขออนุโมทนา

 

ก็อย่าให้เรื่องมันยาวมากนักนะ...คนไทยขี้เกียจอ่านบทความยาวๆน่ะ

 

หวัดดีทุกท่าน

ยกแรกจบไป...เรียบร้อย

ขึ้นยกสอง..เตียมตัวทุกท่าน..

 

เมื่อกี่เห็นรถเจ้าหน้าที่โรงบาลนึง มาตามหาคนไข้

 

เมื่อไหร่จะขึ้นยกสี่ยกห้าน้อ...รอนานเริ่มเบื่อๆแล้วสิท่าน

 

เท่าที่ทราบ มีสองยก..
กรรมวนมาใหม่.

 

โลกสวย ด้วยฝีมือคนบ้า..

ใครไม่บ้าหลีกไป

บ้ากาม
บ้าอำนาจ
บ้าเงิน
บ้าธรรม
บ้าโพธิญาณ
บ้า..

 

เข้าใจแล้ว...มีคนเคยบอกมาว่าถ้าเกิดขึ้นแบบนี้อีกให้เตรียมตัว...อีกไม่นานแน่นอน

 

มีคนนึงกล่าวไว้ค่ะ ปี 2020 เข้าสู่ยุคพลังงานใหม่แน่นอนคะ

โลกจะต้องถูกชำระด้วยภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ เพื่อให้โลกสะอาดขึ้นทั้งทางด้านพลังงาน และด้านกายภาพ เพื่อรักษาความสมดุลของโลกและจักรวาลทั้งระบบเอาไว้

ส่วนภัยธรรมชาติจะรุนแรงแค่ไหน ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ เพียงแต่รู้ว่า ยุคพลังงานใหม่ มนุษย์จะมีสติปัญญาสูงขึ้น อายุยืนยาว และศาสตร์และความรู้ต่าง ๆ ที่ลึกลับจะถูกเปิดเผย และมนุษย์สามารถเข้าถึงความจริงสัจธรรม และความจริงอันเป็นเบื้องหลังแก่นแท้ ของจักรวาลได้มากกว่าเดิม เพราะ ฟ้าสูง ~ แผ่นดินต่ำ ถูกยกระดับให้ใกล้กันกว่าเดิมค่ะ

ส่วนเรื่องภัยพิบัตินั้น เหมือนจิตยิ้มก็จะรอคอยว่าจะเกิดเมื่อไหร่ เหมือนกันค่ะ หรือเราไม่ต้องรอคอยแล้วว่าจะเกิดหรือไม่? ถึงแม้ว่าจะมีอะไรคอยย้ำเตือนไม่ให้ประมาทเสมอ โดยเฉพาะปีนี้ ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้นก็ไม่ควรจะรอคอยเรื่องภัยพิบัติแล้วค่ะ แต่..ควรจะทำอย่างไรถึงจะอยู่กับโลก และรักษ์โลก ช่วยเหลือโลก ตามพันธสัญญา 6 ที่เป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกคนถือมาติดตัวก่อนลงมาเกิดกันทุกคน

จิตยิ้มขอเรียกนะคะว่า มรรคแปด คือ หน้าที่ของมนุษย์ ในการอยู่ร่วมกับโลก และคำว่า "ทางที่ต้องเลือกเดินในจักรวาลแห่งความรัก" มีความหมายเป็นนัยยะสำคัญ เป็นมรรคแปด เป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกคนค่ะ

ที่โลกเป็นเช่นนี้ เพราะมนุษย์ขาดคำว่า "ความรัก" บริสุทธิ์ ที่มีให้กัน นั่นเองค่ะ ถ้ามนุษย์ใช้ "ความรัก" เป็นหน้าที่ในการดำเนินชีวิต โลกนี้จะไม่มีภัยธรรมชาติใดมาทำลายได้เลย นอกจาก การเกิด ดับ ไปตามกระบวนการของธรรมชาติแค่นั้นค่ะ

 

สิ่งนี้ค่ะ "ความรักบริสุทธิ์" ที่เขามีให้แก่กันและกัน
เป็นพลังงานที่ช่วยเหลือโลก ช่วยให้โลกพ้นภัย...

เป็นหน้าที่ของพระโพธิสัตว์ที่ต้องลงมาทำในยุคนี้ค่ะ
เป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกคน ....ที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน

ถ้าโลกมนุษย์มอบ"พลังงานความรัก" ให้แก่กันอย่างนี้
โลกจะไม่เกิดภัยธรรมชาติ และเป็นพลังงานที่โลกต้องการในขณะนี้ค่ะ

 

พระพุทธองค์บอกไว้
โลกพร่องเป็นนิด
ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ
ตกอยู่ในกฏไตรลักษณ์

มีสองด้านเสมอ..

 

ใช่ค่ะ สังเกตุได้เลย ใจที่มันทุกข์ เพราะมันดิ้นรนทะยานอยากด้วยตัณหา มันบีดรัดบีบเค้นหัวใจ ทำให้เราหยุดนิ่งไม่ได้ ทั้ง ๆ ถ้าเพียงแค่ใจเราสงบและรู้ลึกเข้าไปในจิตใจ มันจะมีคำตอบที่ถูกต้องไว้ให้.....แต่...ใจมันไม่ยอม จะดิ้นรนไปตามความอยากเสมอ

ถึงเข้าใจคำว่า สติ.....ที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ และ คำว่า มหาสติ ที่ศาสตร์จักรวาลกล่าวเรื่องนี้ไว้ว่าอย่างไร เราท่านไม้ขีดไฟ มาสนทนาเรื่องนี้กันดีกว่าค่ะ

ลองมาเรีบนรู้ คำว่า "มหาสติ" ของศาสตร์..จักรวาล...กล่าวไว้ว่าอย่างไร?

จักรวาลกล่าวไว้ว่า...ยุคพลังงานใหม่นี้ ความรู้ใหม่เพื่อมาเติมเต็มทุกศาสนา และทุกศาสตร์ลึกลับ ในโลกนี้ที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน ดีไหม!

พิสูจน์พระยาธรรมมิกราชกันดีไหม!

 

เขียนไปแหละครับ
ค่อยเข้ามาอ่าน..

ก็อยากรู้เหมือนกัน

 

ไม่ว่าศาสตร์ไหนๆก็ล้วนแตกแขนงมาจากพุทธศาสตร์ทั้งนั้น...ส่วนเรื่องศาสตร์จักรวาลเป็นอย่างไรก็เขียนเล่าไว้จะได้ตามอ่าน...