เปิดจอง พระพุทธเศรษฐีทวีโชค รุ่น ดวงเศรษฐี หลวงปู่ดำ วัดหนองแฝก น.3

อัปเดท พระพุทธเศรษฐี รุ่นดวงเศรษฐี รุ่น ดวงเศรษฐี ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว เปิดจองแล้วนะคะ

 

เปิดจอง พระพุทธเศรษฐีทวีโชค (พระกำแพงสามขา)
รุ่น ดวงเศรษฐี หลวงปู่ดำ วัดหนองแฝก อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลกโลก ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว พิเศษสุดสำหรับผู้ที่สั่งจองเท่านั้น จะได้นำชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิด มาผูกบนแผ่นดวงเศรษฐี ล้อมด้วยคาถาหัวใจเศรษฐี แล้วบรรจุเข้าในองค์พระเพื่อเข้าพุทธาภิเษกและสวดคาถาเศรษฐี โดยมุ่งหมายให้ผู้ที่สั่งจองบูชาได้เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี!!! หากมีติดบ้านบูชาแล้วจะบังเกิดความเจริญรุ่งเรือง ร่มเย็นเป็นสุข เจริญเพิ่มพูน ด้วยโภคทรัพย์ และมั่งมีศรีสุข...

 

หลวงปู่ดำท่านได้นำชนวนจากพระพุทธเศรษฐีทวีโชครุ่นก่อนมาหลอมรวมกับแผ่นยันต์และมวลสาร เพื่อนำมาหล่อเป็นพระพุทธเศรษฐีทวีโชค รุ่นนี้ องค์พระเนื้อทองเหลือง สีผิวสนิมเขียว บอกเลยว่าสวยงามมากจริงๆ จากประสบการณ์รุ่นที่แล้วมีออกมาปรากฏแก่ผู้บูชามากยๆ จึงไม่ควรพลาดรุ่นนี้นะคะ...

 

เปิดจององค์ละ 2000 บาท ค่าส่ง 200 บาท มีโค๊ดเลข
#ติดต่อสั่งจอง ทางข้อความหรือจะกดแอ็ดไลน์อัตโนมัติก็ได้จ้า กด==>>https://line.me/R/ti/p/@r-peardlok
หรือโทร 0924241099

รับพระต้นเดือนธันวาคม

 

เปิดจอง พระพุทธเศรษฐีทวีโชค (พระกำแพงสามขา)
รุ่น ดวงเศรษฐี หลวงปู่ดำ วัดหนองแฝก อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลกโลก ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว พิเศษสุดสำหรับผู้ที่สั่งจองเท่านั้น จะได้นำชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิด มาผูกบนแผ่นดวงเศรษฐี ล้อมด้วยคาถาหัวใจเศรษฐี แล้วบรรจุเข้าในองค์พระเพื่อเข้าพุทธาภิเษกและสวดคาถาเศรษฐี โดยมุ่งหมายให้ผู้ที่สั่งจองบูชาได้เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี!!! หากมีติดบ้านบูชาแล้วจะบังเกิดความเจริญรุ่งเรือง ร่มเย็นเป็นสุข เจริญเพิ่มพูน ด้วยโภคทรัพย์ และมั่งมีศรีสุข...
หลวงปู่ดำท่านได้นำชนวนจากพระพุทธเศรษฐีทวีโชครุ่นก่อนมาหลอมรวมกับแผ่นยันต์และมวลสาร เพื่อนำมาหล่อเป็นพระพุทธเศรษฐีทวีโชค รุ่นนี้ องค์พระเนื้อทองเหลือง สีผิวสนิมเขียว บอกเลยว่าสวยงามมากจริงๆ จากประสบการณ์รุ่นที่แล้วมีออกมาปรากฏแก่ผู้บูชามากยๆ จึงไม่ควรพลาดรุ่นนี้นะคะ...

เปิดจององค์ละ 2000 บาท ค่าส่ง 200 บาท มีโค๊ดเลข
#ติดต่อสั่งจอง ทางข้อความหรือจะกดแอ็ดไลน์อัตโนมัติก็ได้จ้า กด==>>https://line.me/R/ti/p/@r-peardlok
หรือโทร 0924241099

รับพระต้นเดือนธันวาคม

#ฝากกดไลค์ #กดแชร์ #กดติดตามเพื่ออัปเดทข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ

 

มีเคล็ดเล็กๆมาบอกด้วยนะคะ หากเราอยู่ไกลจาบพ่อแม่ เราสามารถนำดวงของท่านมาลงในผ่นดวงแล้วบรรจุในองค์พระเพื่อบูชาแทนท่านก็ได้นะคะ ได้บูชาทั้งพระ บูชาทั้งพ่อและแม่

 

บอกเลยไม่มีหลวงปู่องค์ไหนที่สร้างพระ บรรจุดวง เศรษฐีเหมือนหลวงปู่ดำมาก่อน ใครไม่จองนี่พลาดจริงๆนะคะ และพระรุ่นนี้สร้างตามจองเท่านั้นคะ

 

พระพุทธเศรษฐีทวีโชค (พระกำแพงสามขา) รุ่นที่แล้วของหมดไปอย่างรวดเร็ว ขนาดหน้าตัก ๙ นิ้ว รุ่นนี้ถือว่าพิเศษสุดๆ แล้วจ้า

 

จองเลยจ้ 2000+200 บาท

 

ประวัติหลวงปู่ดำ วัดหนองแฝก

หลวงปู่ดำ กตนาโถ ปัจจุบันอายุ ๘๓ ปี เป็นชาวจังหวัดสุโขทัย เกิดวันที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ปีชวด ที่ เดิมชื่อจำนง ลิ้มรส เป็นบุตรโยมพ่อ สว่าง ลิ้มรส และโยมแม่ ทองมี ลิ้มรส มีพี่น้องทั้งหมด ๖ คน เมื่ออายุประมาณ .....ปี โยมพ่อและโยมแม่ได้พาไปยกตัวให้เป็นลูกบุญธรรมของหลวงปู่เกตุ ขณะที่หลวงปู่เกตุท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดเกตุวนาราม ต.กกแรด อ.กงไกรลาส จ.สุโขทัย เมื่อหลวงปู่เกตุรับท่านเป็นบุตรบุญธรรมแล้ว ก็ดูแลอบรมสั่งสอนตั้งแต่หัดเรียนเขียนอ่านภาษาไทยภาษาขอม และเรียนรู้วิชาต่างๆ ดังพ่อสอนลูกทุกประการ และไม่ว่าหลวงปู่เกตุ ท่านจะไปยังแห่งหนตำบลใด ท่านก็ต้องนำเด็กชายดำเป็นผู้สะพายย่ามติดตัวท่านไปด้วยตลอด ทำให้เด็กชายดำได้รู้ได้เห็น ได้ยินได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธาคมมากมาย อาทิ มีอยู่ครั้งหนึ่งก่อนที่หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์จะมรณภาพ หลวงปู่เกตุท่านจะไปต่อวิชาบางอย่างกับหลวงพ่อเดิม ก็ได้พาเด็กชายดำไปด้วย โดยหลวงปู่เกตุถามกับเด็กชายดำว่าจะพาไปดูช้างห้างด้วนเอาไหม? เด็กชายดำฟังแล้วก็อยากเห็น เลยตอบหลวงปู่ว่าไป “อยากไปครับ” หลวงปู่เกตุท่านก็เลยพาเด็กชายดำไปวัดหนองโพธิ์ จังหวัดนครสวรรค์เพื่อดูช้างหางด้วนและตัวท่านเองก็ไปร่ำเรียนวิชาเพิ่มเติมกับหลวงพ่อเดิม และมีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่เด็กชายดำได้ติดตามหลวงปู่เกตุไปจนได้พบกับหลวงพ่อมาก วัดบางแก้ว จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงพ่อทัพ อินทโชติ หรือพระครูเทพสิทธิเทพาธิบดี วัดทอง (วัดสุวรรณาราม) ธนบุรี เจ้าของพระปิดตาอันโด่งดัง หลวงพ่อมากท่านเกิดเอ็นดูเด็กชายดำจึงหยอกล้อโดยการนำมีดโกนหนวดเหน็บรักแร้ แล้วกระชากออกมาแรงๆให้เด็กชายดำดูหลายครั้ง แต่ปรากฏว่าคมมีดไม่สามารถบาดรักแร้สักนิด เหตุการณ์นี้ทำเอาเด็กชายดำเกิดความสนใจในวิชาคาถาอาคมขึ้นมาทันที เลยแอบลักจำมนต์ต่างๆจากหลวงปู่เกตุเรื่อยมา

 

กระทั่งตอนที่หลวงปู่เกตุได้รับการอาราธนาไปเป็นเจ้าอาวาสวัดเกาะแก้วหลังจากที่หลวงพ่อแจงมรณภาพแล้วนั้น หลวงปู่เกตุก็ได้นำลูกศิษย์ติดตัวไปอยู่ด้วยเพียงคนเดียว นั่นคือเด็กชายดำ ระหว่างนั้นเองที่หลวงปู่เกตุจึงได้สอนมนต์คาถาต่างๆและกัมมัฏฐานให้เด็กชายดำอย่างเป็นทางการ เพื่อจะได้มาเป็นลูกมือช่วยในการทำวัตถุมงคล โดยอาศัยหลักคิดที่ว่าเด็กๆยังมีจิตใจบริสุทธิ์สะอาด ไม่มีเรื่องกิเลสตัณหามากอย่างผู้ใหญ่ จึงทำให้จดจำและเข้าถึงสมาธิได้อย่างรวดเร็ว ท่านจึงให้เด็กชายดำยกครูและให้เด็กชายดำเตรียมใบมะตูมมา ๗ ใบห่อเกลือ ๗ เม็ด จากนั้นหลวงปู่เกตุจึงเสกด้วยคาถา “ นะอุปุทะลุปัญญา สัพพะพุทธา.......” เมื่อเสกเสร็จแล้วก็ให้หลวงปู่ดำกินเข้าไป แล้วท่านก็ว่า “ กินแล้วมึงจะได้จำคาถาอาคมได้มากกว่าใคร ” ซึ่งต่อมาก็ดูจะเป็นจริงตามคำของหลวงปู่เกตุ เพราะหลวงปู่ดำสามารถจดจำพุทธาคมและเข้าถึงกัมมัฏฐานที่หลวงปู่เกตุสอนให้ได้อย่างรวดเร็วเกินเด็กทั่วไป และยังไม่มีศิษย์ของหลวงปู่เกตุผู้ใดได้กินใบมะตูมเสกแบบนี้สักคน จึงนับว่าหลวงปู่ดำท่านเป็นศิษย์ที่พิเศษสุดเพียงคนเดียวเท่านั้น

 

หลังจากนั้นหลายปี หลวงปู่เกตุเกิดมีปัญหากับกรรมการวัดเกาะแก้ว ท่านจึงพาหลวงปู่ดำย้ายกลับมาอยู่ที่วัดเกตุวนารามตามเดิม แล้วก็ทำการบรรพชาให้เด็กชายดำเป็นสามเณรดำ และให้อยู่ศึกษาต่อกับท่านสักระยะหนึ่ง จนเห็นว่าถึงเวลาที่จะต้องส่งสามเณรดำไปเรียนนักธรรมและบาลีแล้ว ท่านจึงนำสามเณรดำไปฝากไว้ที่วัดสระแก้วปทุมทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ระหว่างนั้นสามเณรดำก็ต้องเดินทางไปๆมาๆเพราะต้องคอยกลับมาช่วยหลวงปู่เกตุในการทำวัตถุมงคลตลอดเวลาโดยเฉพาะการทำปลัดขิกและตะกรุดมหากระดอน อีกทั้งเวลาที่หลวงปู่เกตุจะเดินทางไปต่อวิชาจากครูบาอาจารย์ต่างๆท่านก็จะตามสามเณรดำไปอุปัฏฐากท่านด้วยตลอด ทำให้สามเณรดำได้ยินได้ฟังวิชาไปพร้อมๆกับหลวงปู่เสมอ ต่อมาสามเณรดำได้อุปสมบทที่วัดสระแก้วประทุมทอง โดยมี พระครูศีลสารสัมบัน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์บุญเรือง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดบัว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อบวชเป็นพระแล้วพระอาจารย์ดำก็ยังไปๆมาๆดูแลและช่วยทำวัตถุมงคลให้หลวงปู่เกตุอยู่เช่นเดิมกระทั่งภายหลังพระอาจารย์ดำได้มาเรียนอภิธรรมและวิปัสสนาชั้นสูงต่อที่วัดมหาธาตุฯ กรุงเทพฯ หลวงปู่เกตุจึงได้ฝึกศิษย์รุ่นใหม่ช่วยทำแทน ด้วยเหตุนี้จึงกล่าวกันว่าวัตถุมงคลของหลวงปู่เกตุปลุกเสกแทบทั้งหมดในช่วงเวลานั้นล้วนมาจากการลงของพระอาจารย์ดำซึ่งต่อมาก็คือหลวงปู่ดำ กตนาโถ ซึ่งเป็นทั้งศิษย์เอกและบุตรบุญธรรมที่เลี้ยงมากับมือของหลวงปู่เกตุ หลวงปู่เกตุท่านจึงไว้ใจ ถ่ายทอดวิชาให้แบบจัดเต็มครบถ้วนโดยไม่ปิดบังบางส่วนเอาไว้เหมือนตอนถ่ายทอดให้ศิษย์อื่นๆ และนอกจากหลวงปู่ดำสำเร็จวิชามหากระดอนแบบเต็มๆแล้ว ท่านยังเป็นลูกรักที่สามารถเชิญหลวงปู่เกตุลงประสิทธิวัตถุมงคลได้ทุกครั้ง ทำให้วัตถุมงคลของท่านเข้มขลังดุจเดียวกับวัตถุมงคลที่หลวงปู่เกตุเสกเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งไม่มีใครทำอย่างหลวงปู่ดำได้


ดังนั้นวิชามหากระดอนของหลวงปู่ดำจึงเป็นที่สุดแห่งวิชามหากระดอนแท้ๆหนึ่งเดียวในยุคปัจจุบัน

 

หลวงปู่ดำอยู่กับหลวงปู่เกตุมาตั้งแต่เป็นเด็ก มาอยู่เป็นเด็กวัดอยู่อุปัฏฐากอย่างใกล้ชิดกับหลวงปู่เกตุ และศึกษาเล่าเรียนหนังสืออยู่ที่วัดเกตุวนาราม ต.กกแรด อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย พออายุได้ ๑๐ จึงได้บวชเป็นเณร คอยเรียนวิชากับหลวงปู่เกตุเรื่อยมา วัตถุมงคลที่โด่งดังของหลวงปู่เกตุก็ได้แก่ตะกรุดมหากระดอนและปลัดขิก หลวงปู่เกตุท่านได้ไว้ใจให้หลวงพ่อดำเป็นคนช่วยเขียนและม้วนตะกรุดมหากระดอนให้ ซึ่งตอนนั้นหลวงพ่อดำก็ได้รับวิชาไปโดยปริยาย และนอกจากนี้หลวงพ่อดำยังได้ติดตามหลวงปู่เกตุไปเรียนวิชากับหลวงพ่อแจง วัดแกะแก้ว และหลวงพ่อฝ้าย รวมถึงหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ครั้งหนึ่งหลวงปู่เกตุได้พาหลวงพ่อดำติดตามไปที่วัดหนองโพ โดยให้หลวงพ่อดำเป็นคนสะพายย่ามให้ นั่นแสดงถึงความไว้วางใจ ด้วยความสงสัยหลวงพ่อดำจึงถามหลวงปู่เกตุว่าจะไปทำอะไร หลวงปู่เกตุตอบว่าจะพาไปดูช้างห้างด้วน และการไปดูช้างหางด้วนครั้งนี้นี่เองทำให้หลวงพ่อดำได้เรียนวิชาการทำมีดหมอของหลวงพ่อเดิมมาด้วย

หลวงปู่เกตุได้ให้คาถาบทหนึ่งแก่หลวงพ่อดำ หลวงปู่เกตุท่านสั่งให้หลวงพ่อดำไปเอาใบมะตูมมา ๗ ใบ เกลือ ๗ เม็ด จากนั้นท่านให้หลวงพ่อดำห่อเกลือห่อเกลือ แล้วท่องคาถาว่า

นะอุปุทะลุปัญญาสัพพพุทธา.......กินเข้าไปมึงจะได้มีปัญญาดี และเป็นคาถาที่หลวงพ่อดำใช้มาโดยตลอด

 

นอกจากหลวงปู่ดำ จะเป็นทายาทพุทธาคมของหลวงปู่เกตุ วัดศรีเมืองแล้ว ท่านยังเชี่ยวชาญในกรรมฐานอีกด้วย ทุกวันนี้ถ้าใครจะไปกราบท่านที่วัดหนองแฝก ไม่ต้องขึ้นไปหาท่านที่กุฏิหรอกครับ ไม่พบตัวท่านแน่ เพราะท่านจะนั่งภาวนาอยู่ในป่าช้าข้างเมรุตลอดทั้งวัน คณะลูกศิษย์ที่นับถือหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ซึ่งเคยมากราบหลวงปู่ดำเล่าว่า จิตของหลวงปู่ดำนั้นใสเป็นประกายรัศมีแบบแก้วจักรพรรดิคล้ายจิตของหลวงปู่ดู่ทีเดียว และมีโยมคนหนึ่งในคณะนั้นได้ถามหลวงปู่ดำว่า ทำไมหลวงปู่จึงสร้างปลัดขิก? ไม่กลัวโยมคิดทางอกุศลหรือ? หลวงปู่ดำจึงเล่าให้ฟังว่า พระเกจิอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญกรรมฐานทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก ต่างก็เคยสร้างปลักขิกเป็นเครื่องมงคลทั้งนั้น เพราะปลัดขิกเป็นสัญลักษณ์ของพระอริยะบุคคลผู้หมดกาม (เปรียบเหมือนตัดองคชาติที่ไม่จำเป็นต้องใช้ออกแล้ว) และพระอาจารย์ซึ่งเป็นพ่อบุญธรรมของท่านคือ หลวงปู่เกตุ แห่งวัดศรีเมือง ก็ได้สร้างปลัดขิกเอาไว้ไม่ใช่น้อย


เปิดจององค์ละ 2000 บาท ค่าส่ง 200 บาท มีโค๊ดเลข
#ติดต่อสั่งจอง ทางข้อความหรือจะกดแอ็ดไลน์อัตโนมัติก็ได้จ้า กด==>>https://line.me/R/ti/p/@r-peardlok
หรือโทร 0924241099

รับพระต้นเดือนธันวาคม

 

ลูกศิษย์ลูกหาที่ได้รับปลัดขิกจากหลวงปู่เกตุไปบูชา ต่างก็ได้รับความเจริญก้าวหน้ากันทุกคน คนที่ค้าขายก็จะเห็นได้ว่าค้าขายดี คนที่เดินทางก็จะเห็นได้ว่าแคล้วคลาดปลอดภัยดี คนที่ทำอะไรไม่ค่อยสำเร็จก็จะเห็นได้ว่าเริ่มประสบความสำเร็จดี เมื่อมาถึงยุคของตัวท่านซึ่งบำเพ็ญกรรมฐานมาจนถึงจุดหนึ่ง ประกอบกับลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลายๆคนเพียรมาขอวัตถุมงคลกับท่านอยู่บ่อยๆแต่ท่านไม่มีอะไรจะให้ ในที่สุดหลวงปู่ดำจึงได้สร้างปลัดขิกขึ้นตามวิชาของหลวงปู่เกตุผู้เป็นทั้งพระอาจารย์และบิดาบุญธรรมของท่าน โดยท่านได้ให้ลูกศิษย์ไปหากิ่งของต้นกันเกราตายพราย มาแกะเป็นปลัดขิก เพราะกันเกราเป็นไม้มงคล ๑ ใน ๙ ชนิด ที่คนไทยนิยมนำมาใช้ในพิธีกรรม เนื่องจากชื่อ มีคำว่า “กัน” อยู่ด้วย จึงใช้เป็นเคล็ดในทางป้องกันอัปมงคล หรือ สิ่งชั่วร้ายทั้งหลายไม่ให้มากล้ำกลายทำอันตรายใดๆแก่ผู้ครอบครองได้

 

อรุนสวัสดิ์วันเสาร์จ้า

 

เมื่อได้ปลัดขิกไม้กันเกราแล้ว ตอนแรกหลวงปู่ท่านก็จะนำปลัดขิกดังกล่าวมาลงอักขระหัวใจตามตำรับวิชาปลัดขิก แต่ขณะเดียวกันก็มีลูกศิษย์อีกหลายคนอยากให้หลวงปู่ลงวิชามหากระดอนเพิ่มเข้าไปด้วย หลวงปู่จึงลงยันต์หัวใจมหากระดอนในตะกรุดดอกจิ๋วบรรจุเข้าไปในหัวปลัดขิกก่อน แล้วก็นำปลอกลูกปืนมาเสกด้วยวิชามหาอุดไปปิดปากรูบรรจุตะกรุดไว้ จากนั้นจึงนำปลัดขิกดังกล่าวมาลงหัวใจ เสร็จแล้วจึงนำปลัดขิกทั้งหมดมาปลุกเสกจนเกิดอาการอย่างถ้วนทั่ว จึงเป็นอันว่าสำเร็จตามวิชาปลัดขิกที่หลวงปู่เกตุได้ถ่ายทอดให้

 

ในทัศนะของผู้เขียนคิดว่าปลัดขิกมหากระดอนนี้ เป็นปลัดขิกที่ครบเครื่องจริงๆเพราะบรรจุวิชาและเคล็ดต่างๆไว้อย่างมากมาย เป็นลำดับดังนี้

๑.ส่วนหัวปิดด้วยปลอกลูกปืนที่เสกด้านมหาอุด อาศัยเคล็ดที่ว่าหัวลูกปืนไม่เคยพุ่งกลับเข้าหาปลอก มีความหมายคือ ลูกปืนจะไม่วิ่งมาทางผู้ที่มีปลัดขิกนี้

๒.ตัวปลัดขิกทำจากไม้กันเกรา และ ยังลงอักขระหัวใจโจร กันหะ เนหะ เท่ากับมีคำว่า “กัน” ถึงสองกัน (มหากัน กัน) เป็นเคล็ดที่เชื่อว่าสามารถป้องกันอันตราย คุณไสย์ ภูตผี ปีศาจ เพทภัยและอัปมงคลต่างๆได้

๓.ถ้ามีเหตุอันสุดวิสัยเกินกว่าอานุภาพของวิชาตามเคล็ดข้อ ๑.และ ๒.จะรับไหวแล้ว ตะกรุดมหากระดอนที่อยู่ภายในตัวปลัดขิกก็จะแสดงอานุภาพในทางสะท้อนกลับไปสู่ผู้ที่คิดร้ายกับเรา


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นใช่ว่าอานุภาพของปลัดขิกมหากระดอนจะเป็นไปตามแต่เคล็ดต่างๆที่กล่าวมาข้างต้นเท่านั้น เพราะหลวงปู่ดำท่านต้องปลุกเสกตัวปลัดตามวิชาการทำปลัดขิกที่มีมนต์คาถาซึ่งมีอานุภาพสารพัดทางตามใบฝอยที่ท่านให้มากับปลัดขิกดังนี้

 

คาถาปลุกปลัดขิกมหากระดอนตำรับหลวงปู่เกตุ ของหลวงปู่ดำ วัดหนองแฝก

คงกระพัน คุ้มครองป้องกันภัย

อุกขิตตะขัคฯ เฑาะนะอุปิยะ ฯ

แคล้วคลาด

อมแม่น้ำมันสามจอก รดถอกไม่หนาว ขี้เป่าน้ำมะเหนียก ขี้เปียกน้ำมะนาว แหกๆ แยกๆ ผลุบๆ ผลัวะๆ

ค้าขาย

หญิง : โอมละลวย มหาละลวย ค_ยร้อยค_ยล้อมห(สระอี) ขายดิบขายดี แหกห(สระอี)กลับบ้าน

ชาย : โอมละลวย มหาละลวย ห(สระอี)ร้อยห(สระอี)ล้อมค_ย ค้าขายร่ำรวย ถอกค_ยกลับบ้าน

มหาเสน่ห์

อิติปิโส ภะคะวา ห(สระอี)มึงเป็นเนื้อ ค_ยกูเป็นเอ็น เอาออกมาเย(สระเอ็ด)ดกันเล่น ปฏิเสวามิ มุตตนัง ปะริตตัม ตัม มา หา


ดังนั้น รวมๆทั้งหมดแล้ว ผู้เขียนจึงกล่าวได้ว่า ปลัดขิกมหากระดอนจึงเป็นปลัดขิกที่เก่งครบเครื่องจริงๆ แถมหลวงปู่ดำผู้ปลุกเสกยังมีพลังอำนาจจิตสูง หากจะถามว่าสูงขนาดไหน? คงต้องตอบว่า สูงถึงกับหลวงปู่ดา วัดอุทุมพร จังหวัดสุรินทร์ ผู้ปลุกปลัดขิกจนว่ายน้ำ ได้จับปลัดขิกมหากระดอนของหลวงปู่ดำแล้ว ยังร้องอุทานว่า “ของเราวิ่งในน้ำ แต่ของเขาเหาะบนฟ้า”... คำอุทานนี้ทำเอาหลานชายของหลวงปู่ดาที่นั่งฟังอยู่ ต้องรีบขอปลัดขิกมหากระดอนไปใช้คู่กับปลัดขิกวาวกะมอลของหลวงปู่ดาทันที