ห่าก้อม (โคตรปอบ)

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย yanjai_makmy, 31 กรกฎาคม 2017.

  1. yanjai_makmy

    yanjai_makmy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +400
    ว่าจะเล่าเรื่อง ช้างน้ำ ไม่เล่าดีกว่าผิดห้องด้วยเพราะไม่ใช่เรื่องผีแต่เป็นเรื่องของเทพกับเมืองหิมพาน วันนี้ขอเปลี่ยนเรื่องเป็น ห่าก้อม แล้วกัน หลายคนคงสงสัยว่ามันคืออะไรมันเป็นชื่อเรียกของผีที่ต้องบอกว่าโคตรโหดเลยทีเดียวส่วนใหญ่ถ้าพูดถึงผีทางภาคอีสานหรือภาคเหนือก็คงจะไม่พ้นผี ปอบ ผี กะ นี่ก็ว่าโหดแล้วแต่คุณรู้กันไหมว่าภาคอีสานมีผี่ที่โหดยิ่งกว่าคือ ห่าก้อม จะเรียกได้ว่าเป็นเวอชั่นอัพเกรดจาก ปอบ ก็คงไม่ผิดอะไรนะครับเพราะคนที่เป็น ห่าก้อม ก็คือคนที่เป็นปอบมาก่อนแต่ด้วยวิชาตะบะที่แก่กล้ามากเลยทำให้มีอำนาจเหนือปอบทั่วๆไป ส่วนหนึ่งจากที่ยายเล่าให้ฟังสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ห่าก้อม คือโคตรปอบ เพราะว่าปอบยังแค่เข้าคน กินเลือด เนื้อดิบๆ แต่ส่วนมากแล้วคือสิ่งที่ตายแล้วที่มันกิน ถ้าปอบที่แก่มากหน่อยก็จะถึงขั้นหักคอคนเป็นๆได้ โดยที่เป็นวิญญาณไม่ได้มาเป็นตัวเป็นตน มีฤิทธิมากตอนกลางคืน แต่สิ่งที่ ห่าก้อม มันเจ๋งกว่าปอบก็ตรงที่มันกินเป็นๆและมันมีฤิทธิมากทั้งกลางวันและกลางคืนและไม่ต้องมาแบบวิญญาณแต่มาเป็นคนเป็นๆเลย ยายเล่าให้ฟังว่าถ้าใครที่จิตอ่อนหรือมีเคราะห์ดวงใกล้ถึงคาดมันอยากกินแค่มันเดินผ่านคนๆนั้นจะลมลงตายทันที เห็นไหมละว่าโหดขนาดไหน แถวบ้านสมัยก่อนไฟฟ้าไม่มี(อันนี้ยังทันอยู่) หมู่บ้านข้างๆมีคนป่วยแถวบ้านนอกใครป่วยเขาก็จะไปเยี่ยมกันทั้งหมู่บ้านกันเลยทีเดียวไม่เหมือนสมัยนี้ และด้วยที่เป็นหมู่บ้านสามัคคีเราเลยไม่มีทางรู้เลยว่าคนที่มาหลายๆคนนั้นจะมี ปอบ หรือ ห่าก้อม แฝงมาด้วยไหม โชคร้ายของลุงคนนั้นที่ป่วย เพราะหลังจากที่ชาวบ้านคนอื่นๆเขากลับกันหมดแล้วก็มีคนเห็นว่ามีชายแก่คนนึงขึ้นไปเยี่ยมคนป่วยแต่แปลกที่แกเอาพริกเอาหอมไปด้วยพอหยิบมือสิ่งที่ไม่คาดฝันก็คือตอนแกลงมาจากบ้านก็ลงมาตัวปล่าวคนที่เห็น(เป็นญาติกัน)เอะใจเลยเดินขึ้นไปดูคนป่วยก็ปรากฏว่านอนตายไปแล้ว และอีกเคสก็คือข้างๆบ้านผมเองอันนี้ผมเห็นเลยว่าพ่อผมนั่งคุยอยู่กับลุงข้างบ้านแต่จู่ๆเหมือนมีเงาดำวิ่งผ่านตรงแคร่ที่ลุงข้างบ้านนั่งอยู่อย่างรวดเร็วหลังจากนั้นลุงคนนั้นก็หงายหลังลงพื้นตัวแข็งพ่อผมพาแกส่งโรงพยาบาลหมอสรุปว่าหัวใจล้มเหลว แต่บ้านหลังนี้ก็มีคนตายเพราะปอบอีกเมื่อปลายปี(2016)ที่แล้วนี่เองเป็นแม่ยายของลุงคนนั้นแกป่วยมานานแล้วช่วงแกป่วยจะมีหมามาหอนตรงบ้านแกทุกวันตอนเย็นๆพ่อผมจะสวดมนต์ทุกวันแต่อยู่ตรงข้ามฝั่งรั้วบ้านคนป่วยมีอยู่วันหนึ่งที่พ่อผมไม่ได้สวดมนต์เพราะไปต่างจังหวัดและวันนั้นก็คือวันสุดท้ายของยายข้างบ้าน สมัยเป็นเด็กผมเห็นคนในหมู่บ้านหรือต่างถิ่นเขาพาคนมารักษาเรื่องพวกนี้ที่บ้านบ่อยมาก ทั้งผีเข้า เป่าหัวเด็ก(เวลาผีไปกวนเด็กจะร้องไห้ไม่หยุด)เป่าเพื่อไล่ผีไม่ให้มากวน ตาและยายผมช่วยรักษาคนที่โดนทั้งผีทั้งปอบโรคต่างๆ จนวาระสุดท้ายของชีวิตแต่ไม่มีใครได้สืบทอดต่อ ตำราต่างๆก็หายไปไหนก็ไม่รู้ไม่มีใครได้สนใจ แต่จะเล่าวาระสุดท้ายตอนที่ตาและยายจะเสียให้ฟังเพราะหลังจากที่ทำตัวเป็นอริกับของพวกนี้มานานแล้ว เริ่มจากตาก่อน ช่วงที่ตาป่วยก่อนจะเสียเวลานอนผมก็ไม่เข้าใจนะตอนนั้นยังเด็กอยู่ว่าทำไมต้องเอาแหทอดปลามาคลุมเวลานอนด้วย แล้วที่ผมสงสัยก็ได้เจอกับตาจะๆเลยทีเดียวช่วงเย็นๆชาวบ้านเขาก็จะมาเยี่ยมไข้ตาประมาณ 3 ทุ่มทุกคนกลับหมดแล้ว แต่ผมยังไม่หลับประตูบนบ้านไม่ได้ปิดตอนนั้นไม่น่าจะมีประตูตรงบันไดด้วยผมนอนฝั่งที่มองเห็นทางบันไดขึ้นบ้านพอดีสมัยก่อนบ้านนอกชอบเอาตู้มากันเป็นห้อง(ตู้เสื้อผ้า)ผมมองลอดตู้เห็นยายแก่ผมขาวเดินขึ้นบ้านมาเดินไปตรงที่ตานอนอยู่ตอนนั้นตายังนอนในมุ้งยังไม่ได้เข้าไปนอนในแห ผมได้ยินเสียงคนสู้กันน่าปะหลาดที่ยายแก่นั่นขึ้นมาบ้านแต่ไม่รู้ว่าลงไปตอนไหนเพราะจากที่เอะอะโวยวายกันก็มีคนตื่นจึงได้ถามไถ่กัน สรุปยายแก่นั่นคือปอบมันจะมากินคนป่วย(คือตาผมเอง) มันยื่นมือเข้ามาในมุ้งดึงขาตาและตาก็เรียกยายที่นอนข้างๆกันแต่ยายนอนไม่ยอมตื่นตาป่วยก็จริงอยู่แต่ยังมีคาถาอาคมอยู่สู้กันอยู่พักนึงก็ถีบมันออกไปแต่แปลกใจตรงที่ปอบขึ้นบ้านทางบันไดแต่ลงไปทางไหนเพราะผมไม่เป็นตอนมันกลับ หลังจากวันนั้นตาก็ได้นอนในแหจนวาระสุดท้าย ตอนเอาใส่โลงเขาเอาหวายใส่ไปในโลงด้วย สรุปคือ นอนในแหก็เพื่อกันปอบ เอาหวายใส่โลงก็กันปอบมากินศพ ทีนี้ก็ถึงคิวของยายแล้ววาระสุดท้ายของยายมาถึงตอนไปรักษาคนโดนผีเข้าที่ต่างหมู่บ้าน(โดนปอบเข้า) ตอนขึ้นบ้านไปยังไม่ได้ทำอะไรเลยปอบมันออกก่อนพอยายจะกลับกำลังจะเดินลงบันไดปอบมันถีบยายตกบันได(อันนี้ยายเล่าให้ฟังเอง)หลังจากตกบันไดก็เป็นเบาหวานยายรู้เวลาตายของตัวเองเลยแจ้งลูกหลานมาพร้อมหน้าและจากไปอย่างสงบ อยากจะบอกว่าเก่งขนาดไหนมีของรักษาดีขนาดไหนก็หนีเวรกรรมไม่พ้นหรอกครับ ตาผมรักษาคนเป็นโรคมะเร็งโรคอื่นๆมากมายแต่รักษาตัวเองไม่ได้ ยายผมช่วยคนเยอะแยะจากผีที่นิสัยไม่ดีแต่ก็ตายเพราะผี สมัยก่อนของพวกนี้มันเยอะมากไฟฟ้าก็ไม่มีถนนยังเป็นทางเกวียนอยู่เลย 5 โมงเย็นนี่ขึ้นบ้านนอนกันแล้ว ตอนเป็นเด็กชอบถามชอบฟังเวลายายเล่าเรื่องสู้กับของพวกนี้หลายคนคงสงสัยว่าทำไมยายผมสู้กับผีได้ ยายผมเป็นหมอธรรม ยายเขาเรียกว่า ครูบาธรรม(ภาษาอีสาน) คนภาคกลางก็อาจจะบอกว่าหมอผี จริงๆก็ไม่ใช่หรอกครับเป็นร่างทรงก็ไม่ใช่เพราะผมไม่เคยเห็นยายถูกเข้าสะทีแต่เขาจะคุยกับครูบาธรรมแบบสดๆเลย อยากฟังเรื่องผีอะไรก็ลองถามมาดูนะครับ ผีกระสือ กระหัง อันนี้ผมไม่รู้จักและไม่เคยเห็น เท่าที่เคยรู้ของที่พอจะกันของพวกนี้ได้ก็จะมี ว่านไพร(อันนี้ผมว่าไม่ชัว)เพราะที่บ้านก็ปลูกรอบบ้านแต่ปอบก็ยังเข้าบ้านได้แต่เอาไว้กับตัวอาจจะกันได้ ต้นหวาย ใบหนาด แหทอดปลา สวดมนต์ สิ่งเหล่านี้ป้องกันปอบได้ครับ ฝากอีกอย่างจะบอกว่าของพวกนี้จะรู้ว่าใครมีเคราะห์หรือถึงคาดหรือดวงตก และรู้ว่าใครมีของ คน 2 ประเภทนี้มักจะโดน
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    มันคือมาทรงโหดร้ายแท้.....
    ปกติหักคอได้ ถ้าทางเหนือ
    จะเป็นกรณีที่สืบเชื้อกันมาเท่านั้น
    ยังไม่เคยได้ยินว่า
    แค่เดินผ่านแล้วทำอันตรายได้มาก่อน
    แต่อย่างว่าเนาะ สมัยก่อน
    อะไรก็เป็นไปได้...
     
  3. yanjai_makmy

    yanjai_makmy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +400
    เท่าที่ได้ยินครูบาอาจารย์ท่านเล่าให้ฟังปอบเชื้อก็ไม่แรงเท่าไหร่ครับ แต่ปอบที่เรียนมาโดยตรงนี่ของจริงประมาณว่าเรียนสายทำคุณไสยใส่คนน่ะครับข้อห้ามเยอะมากของพวกนี้และเป็นข้อที่ทำยากๆซะด้วยโอกาสจะผิดครูไม่ยากเลย จริงๆแล้วที่ผมไม่ได้บอกอีกอย่างกับ ห่าก้อม ก็คือมันแปลงเป็นอะไรก็ได้ในเวลากลางคืนมันฟังดูเวอร์ๆหน่อยเลยไม่ได้พิมพ์ไปด้วย สมัยนี้ก็หายากแล้วครับคนมีวิชาระดับนั้นอยากเรียนต่อก็ไม่ยากเลยตอนคนมีวิชาตายก็อมหัวนิ้วโป้งเท้าของทุกอย่างก็จะเข้าตัวเราหมด ไม่ต้องมาท่องให้เสียเวลาถ้าเขาเป็นปอบก็เป็นด้วยเลย เผื่อมีคนสนใจอยากเแปลงร่าง
     
  4. วงกรตน้ำ

    วงกรตน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2015
    โพสต์:
    810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    12
    ค่าพลัง:
    +2,432
    น่าจะมีแต่อาจเรียกคนละอย่าง อย่างที่ อ.ยอดเล่าให้ฟัง ที่ว่าเป็นปีศาจ ร่างเนื้อ คอยดูเลือดคนเดินทางและสัตว์ เห็นว่าเป็นคนมีวืชามาก่อน ที่ว่าอาศัยอยู่แถวป่าสกลนคร ก่อนถูกปราบ
     
  5. ubon2555

    ubon2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    3,583
    ค่าพลัง:
    +3,520
    สมัยก่อนเขาใช้นางพันตา หรือลูกแหเก่า กันได้ผู้เฒ่าผู้แก่ว่ามาค่ะ
     
  6. TheKunKeng

    TheKunKeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2015
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +919
    ปอบมีระดับขั้นด้วยหรอ...ปอบเลเวลสูงก็มีอะเหรอนี่:eek:
     
  7. yanjai_makmy

    yanjai_makmy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +400
    ทุกวันนี้ไม่มีคนพูดถึงหรอกครับรุ่นหลังๆนี่ไม่รู้จักเลยก็ว่าได้
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ส่วนตัวมองว่าเคยเป็นฆารวาสมีวิชา
    เข้าถึงพลังงาน แต่พลาดตรงเริ่มทำอะไร
    เพื่อตนเอง และออกนอกแนวที่ครูบาร์
    อาจารย์สอนสั่ง เพราะการได้มาบางอย่างต้องอาศัยจิตใจที่ดีขึ้น แต่พวกนี้โลภเพื่อตน
    เลยเจอวิบากแบบนี่
    พวกนี้ สวดมนต์กับใช้เครื่องลางไม่ได้ผล
    นะครับ เผลอๆเค้าจะขำเอา
    และแกล้งเราคืนครับ ต้องอาศัยพันธมิตร
    ทางภพภูมิ และอาวุธพิเศษบางอย่าง
    ที่ได้มาจากกรรมฐานบางอย่าง
    ซึ่งมีภพภูมิเฉพาะสนับสนุนครับ

    ปล เล่าให้ฟังเล่นๆ ส่วนตัวเข้าใจว่า
    ปัจจุบันหายากแระครับ
    คนนี่หละครับสมัยนี้น่ากลัวกว่าผีอีกครับ
     
  9. bonuszaa118

    bonuszaa118 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +44
    เหมือนกับผีกะ ใข่มั้ยค่ะ
     
  10. yanjai_makmy

    yanjai_makmy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +400
    ปอบ ของภาคอีสาน กับ ผีกะ ของภาคเหนือคืออันเดียวกันครับ แต่ ห่าก้อม คืออีกระดับหนึงซึ่งจะแรงกว่าปอบมากหลายเท่า ปอบที่เคยเจอก็มี ปอบเชื้อ คือสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น และปอบที่เกิดจากเรียนวิชาทางไสยศาสตร์ คุณไสย ต่างๆ แล้วผิดครูก็เป็นปอบ และมีแบบโดนวิญญาณปอบเข้าสิง ส่วนห่าก้อมก็คือประเภทที่มาจากปอบที่เรียนวิชาแล้วผิดครูแต่เป็นพวกที่มีวิชาอาคมแก่กล้ามาก จริงๆคุณเรียนคาถาแค่บทเดียวไม่กี่คำก็เป็นปอบได้แล้วถ้าทำผิดครู เช่น วิชาสาริกาลิ้นทอง(แต่เป็นวิชาทางไสยดำ,สายขาวก็มี)แต่เป็นปอบเด็กน้อยไงไม่แก่มากเว้นแต่ได้กินคนมาหลายคนก็จะแก่เอง แต่ถ้าเป็น ห่าก้อม คือพวกมีวิชามากแก่วิชาอาคมแล้วผิดครูเหมือนกันแต่มันแรงกว่าเพราะด้วยตัวมนต์คาถาอาคมที่มีมากและถ้าผิดครูคาถา 1 บท คิดว่าบทที่เหลือจะยังถือได้อยู่อีกหรือไม่วิชาทางไสยดำไม่เหมือนสายขาวและอนุภาพมันแรงกว่ามาก
     
  11. 18 Orahans

    18 Orahans ...............

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2013
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +13
    สรุปห่าก้อมโดนทั้งสาปทั้งมีพลังเวทย์มนต์ต่างๆอยู่ในตัว เคยได้ยินอยู่เรื่องนึงที่ผีป่า มักกลัวพวกปอบเพราะเวลาออกลูก จะมีผีปอบแอบมาขโมยลูกผีป่าไปกิน นับว่าโลกภูติผีปีศาจเขาก็มีอันตรายรอบตัวเขาเหมือนกัน ผมเคยได้สัมผัสคนที่เล่นคาถาอาคมมากๆ พลังมันร้อนๆและไม่ใช่อะไร ถ้าไปใกล้ แม้แต่เขาไปสนทนากระทู้ที่เขามาเกี่ยวข้อง เราจะร้อน น่าจะเป็นพลังลบมากกว่าบวก อย่างนี้ไม่น่ามาทำกิจกรรมปะปนกับคนเลย เหมือนมาอ่านแล้วโดนถ่ายพลังมา ทำให้ความเป็นอยู่เดือดรัอนซะอย่างนั้น

    giphy.gif
     
  12. วงกรตน้ำ

    วงกรตน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2015
    โพสต์:
    810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    12
    ค่าพลัง:
    +2,432
    โห..พึ่งได้ความรู้ใหม่ว่า พวกผีป่า นี้มีครอบครัวและสามารถสืบวงศ์วานได้ด้วย ขอบคุณคุณ18orahans ด้วยค่ะ มาอธิบายเพิ่มเติมด่วน

    อืมจะว่าไป ในกรณีการปล่อย รับ พลังงานผ่านทางข้อความ ก็เห็นหลายคนเคยโพสผ่านตามาบ้างเหมือนกันค่ะ แต่ความเข้าใจส่วนตัว คืออาจเป็นไปได้หลายๆกรณี เลยไม่ได้ไปฟันธงว่า นั่นดีรึไม่ดี เพียงแต่คิดว่าถ้ารู้สึก จะปิดไม่อ่านข้อความนั้นรึข้ามไปอะค่ะ บางคนให้ใช้วิธีอารธนาคุณพระครอบตัวกันไว้

    ความเข้าใจส่วนตัวเข้าใจว่านั่นอาจเกิดจาก

    1.พลังงานของคนนั้นเผลอติดออกมา โดยเจ้าของอาจไม่ทราบ ซึ่งทำให้คนที่มีสัมผัสแต่ภูมิต้านทานต่ำกว่ารู้สึกได้
    2.ตั่งใจปล่อยออกมา เพื่อแสดงความเก่ง อวดดี ว่าตนเก่งกว่าใคร

    ซึ่งพลังงานที่สัมผัสได้เหล่านี้ เบื้องหลังอาจเกิดจากภพภูมิต่างๆที่คอยสนับสนุนคนๆนั้นอยู่ก็ได้ ยกตัวอย่าง ครูบาร์อาจารย์ ภูตผีปีศาจ รึอาจมาจากความสามารถของตน เช่นกสิณไฟ ความบ้าทึกทักไปเองในมิจฉาทิฐิ จึงทำให้ผู้รับสัมผัสรู้สึกร้อน รู้สึกไม่ดี ต่างๆนาๆได้ ซึ่งในทุกๆกรณีหากขาดการไตร่ตรองจะทำให้ความเข้าใจคาดเคลื่อน แต่สำหรับผู้ที่มีสัมผัส และภูมิต้านทานสูงกว่า(ง่ายๆคือเก่งกว่า) ก็จะแยกแยะได้ รู้ว่าคืออะไรที่อยู่เบื้องหลังพลังงานเหล่านี้ รวมถึงไม่ถูกกระทบให้เกิดความรู้สึกใดๆ จนถึงขั้นกำจัดพลังงานในข้อความได้
    ทั้งนี้ทั้งนั้นบวกกับที่เคยได้ยินมาว่า พระอาจารย์มีชื่อบางท่าน ยังไม่ชอบเข้าใกล้พระเครื่องสายต่างๆ เพราะท่านมักจะบ่นปวดหัว (พลังตีกัน) รึ แม้แต่ การคล้องพระเครื่องในบางคน เกิดตัวร้อน จับไข้ เช่นคล้องพระสายคงกะพันแล้วเป็น แต่พอมาคล้องสายเมตตาร่างกายกับแจ่มใส ทั้งหมดนี้เลยเลยทำให้ดิฉันไม่เคยคิดตัดสินใครเพียงแค่การสัมผัสจากการอ่านค่ะ แต่ถ้ารู้สึกไม่ดีก็ไม่สนทนาด้วย555
    มันอาจคล้ายๆที่พระท่านบอกว่า เวลาดูจิตคนอื่น ถ้าเห็นเป็นสีดำ เป็นไปได้2อย่างคือ 1.ความสามารถเราอ่อนกว่าจึงมองไม่เห็นอีกฝ่ายรึ 2.คนๆนั้นเลวทรามมากๆ จนจิตมืดสนิทไม่มีสีใดมาผสม แต่จริงๆดิฉันคิดว่า คนเรามีทั้งด้านดีและไม่ดีผสมปนเปไป รึอาจเรียกว่าสีเทา คงจะหายากนะที่ใครจะมืดสนิทขนาดนั้น555 (ช่างยาวเกินไปแระ^_^ )

    ปล.ความเข้าใจนี้ดิฉันคิดเองนะคะ ไม่ได้มีสัมผัสอะไรหรอกนะ มาจากการอ่านล้วนๆ ^_^ อาจผิดรึถูกก็ได้แล้วแต่วิจารญาณ ..แค่ร่วมแสดงความเห็นเท่านั้น ค่ะ
     
  13. 18 Orahans

    18 Orahans ...............

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2013
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +13
    ขอบคุณ คุณวงกรตนำครับ ปกติผมเป็นคนชอบบริกรรมภาวนาทำสมาธิอยู่ เมื่อสิ่งเหล่านี้มาจึงสัมผัสได้ครับ เพราะผิดปกติวิสัยจากที่เป็นอยู่ โยงเรื่องดูโดยมีสติจะรู้เลยว่าโดนเล่นงาน แต่...ผมมากับพระครับ (พุทธเดช ) ...พระพุทธเจ้า มีพลังอันหาสิ้นสุดมิได้ เป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า..
     

แชร์หน้านี้

Loading...