เรื่องเด่น อยากทราบอารมณ์การดูพทธคุณพระเครื่องครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย ณัฏฐชัย สีม่วง, 11 กุมภาพันธ์ 2017.

  1. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,884
    ตอบแบบผู้ปฏิบัติธรรมนะ "นะโมพุทธายะ ขอชมบารมีท่าน"

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์นั่นมีความสามารถอะไรท่านก็บอกเอง ทำแบบนี้มา 10 ปีละ


    .
     
  2. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,380
    ค่าพลัง:
    +13,255
    ท่านบอกยังไงครับ
     
  3. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,884
    ตอบคุณ kiati_sak

    พุทธคุณที่เหล่าผู้สร้างขออาราธนาสถิตย์ลงวัตถุเหมือนกัน

    แต่ผู้ปลุกเสกสำเร็จวิชาต่างกัน ทำให้วิชาที่ท่านสำเร็จปลุกเสกลงเด่นสุดแตกต่างกันไป

    เช่น เคยมีคนนำขอให้จับพลังเหรียญ สัมผัสแรกที่จับได้คือ คุ้มครอง รองมาเสน่ห์ และมีนำโชคอยู่เบาบาง

    ส่วนอีกเหรียญนึงนั้น ที่เด่นชัดมาก่อนเลยคือ นำโชคเรียกเงินทอง รองมาปกครองคน และมีเสน่ห์จางๆ

    ส่วนที่องค์พระท่านบอกมักจะเป็นวัตถุของพระสงฆ์เป็นผู้ปลุกเสก เช่นพอถามไป ท่านตอบมาในจิตว่า

    ท่านทำได้หมดแต่ที่เด่นสุด คือ คุ้มครอง แก้คุณไสย เรื่องเสน่ห์ท่านไม่ช่วย เป็นต้น
     
  4. วันหนึ่ง_ปีหนึ่ง

    วันหนึ่ง_ปีหนึ่ง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +4
     
  5. วันหนึ่ง_ปีหนึ่ง

    วันหนึ่ง_ปีหนึ่ง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +4
    เป็นอีกคำตอบในเรื่องที่สงสัยค่ะ มาอ่สนของอ.นพทีไรได้คำตอบตรงจุดทุกครั้ง ครั้งแรกที่สัมผัสได้น่าจะเป็นพระสมเด็จพิมพ์ไกเซอร์(ของคนอื่น) จับองค์ท่านขึ้นอธิษฐานขอให้เจอครูอาจารย์ที่เคยเป็นครูอาจารย์มาแต่อดีต รุ้สึกผมทุกเส้นบนหัวตั้ง นั่งร้องไห้อยู่พักหนึ่ง อีกไม่กี่วันต่อมาก็ได้พบค่ะ อีกองค์คือ พระร่วงหลังลายผ้า ตอนยื่นมือไปรับนี่หัวใจบีบมาก และแผ่ออกไปอย่างที่อ.นพอธิบายไว้ค่ะ ส่วนปัจจุบันปีไก่ได้รับพระของหลวงพ่อปานมา รู้สึกว่าคล้องแล้วไม่ว่าสวดมนต์นั่งสมาธิจิตรวมลงเร็วค่ะ ส่วนของสายดำ(ต่อให้ลักษณะของไม่ใช่ แต่ไปทำพิธีมา) อย่างที่อ.นพอธิบายจิงๆค่ะ บางอย่างแรง แค่เห็นก็จะอาเจียน ไม่กล้าเข้าใกล้
    ขอบคุณคำถามของจขกท. และคำตอบของอ.นพอีกครั้งค่ะ
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,045
    คุณวันหนึ่ง ค่อยๆพัฒนาไปขอเชื่อมในวัตถุเอาต่อไปนะครับ
    และขอเชื่อมกับต้นกระแส และไปเปรียบกับวัตถุเอานะครับ
    ถ้ามาสังเกตุในร่างกายเราแล้ว ลักษณะพลังงานที่วัตถุ
    ไม่เหมือนต้นพลังก็แสดงว่า ไม่ใช่ท่านนั้นเป็นผู้ปลุกเสกไว้
    ส่วนอยากทราบว่า วัตถุแต่ละอย่างเป็นอย่างไร ก็ให้สังเกตุเอา..
    เช่น หมุนที่ท้อง ที่หน้าอก ที่แขน ที่ขา ฯลฯ บอกอะไรได้บ้างประมาณนี้
    และอย่าไปถูกไปโดนวัตถุจะดีครับ เพราะว่า มันจะไปถูกธาตุดิน
    ไม่ว่าที่ตัวเรากับวัตถุ ซึ่งมันจะยังไม่พ้นการปรุงแต่งได้ครับ.
    และที่สำคัญก็คือ ให้รู้แล้วก็แล้วไป จะรู้หรือไม่รู้ก็ช่างมัน
    แล้วๆไปอย่างเดียวครับ...จบสำหรับคุณวันหนึ่ง


    ส่วนนี้ขอพูดตรงๆนะครับ...กรณีที่ชอบอ้างจังว่าปฏิบัติมา
    เอ๊ะอะก็อ้างถามพระฯ ถามโน้นนี่นั้น...

    บอกว่า พระโน้นนี่นั้นบอก ถามจริงๆบากบอกว่าปฏิบัติมา
    แล้วจะต้องไปถามเพื่อ ?????

    พูดกันแบบซื้อๆเลยครับ ระดับครูบาร์อาจารย์อย่างนั้นจะมายุ่ง
    เกี่ยวกับเรื่องแบบนี้อีกหรือครับ พวกวัตถุมันเป็นทางโลก
    มันยังไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ เป็นเพียงเครื่องให้จิตเราระลึกถึง
    คุณงามความดี และปฏิบัติตามแนวคำสอนของท่าน...

    พระพุทธฯ ครูบาร์ฯ ทั้งหลาย ท่านคงไม่มาตอบมายุ่ง
    หรอกว่า วัตถุนี้ดีไม่ดี หรือของท่านใดเป็นอย่างไร
    นี่มันเรื่องทางโลกๆ ที่ไม่ได้ทำให้พ้นทุกข์
    ชอบๆอ้างๆ มันเป็นมุขของพวก ร่างทรง
    หรือพวกที่โดนแทรก ที่ชอบเอามาพูดเสริม
    ให้ตัวเองดูหล่อเหลาเอาการ
    พวกนี้ สังเกตุได้ ให้ไปอธิบายเรื่องการปฏิบัติ
    จะบอกไม่ได้หรอก แต่เวลาพูดยกตัวเอง
    เนี่ยเก่งป่านระดับทีมชาติ...



    ส่วนการที่อฐิษฐานจิตแล้วถามๆนะ ระวังนะครับ
    เราต้องสังเกตุนะครับว่า คำตอบที่ได้มัน
    พ้นกายเราไปแล้วหรือยัง พ้นจิตไปแล้วหรือยัง

    ถ้ายังไม่พ้นกายพ้นจิต แล้วได้คำตอบเราก็ไม่ต่าง
    อะไรกับร่างทรงนะครับ เพราะเรายังถูกภายนอกควบคุมอยู่
    การควบคุมนี้ อาจรวมความสามารถต่างๆที่เราทำได้
    แต่ไม่ใช่มาจากตัวจิตของเราเอง แล้วเราจะมีจะทำไปเพื่อ????

    ให้ระวังๆดีๆนะครับ
    ทุกๆคำตอบ ถ้ามันไม่ได้มาจากจิตเราที่มันคลายตัว
    หรือเป็นไปตามธรรมชาติของจิตเรา...
    แสดงว่า จิตเราถูกควบคุมจากภายนอกอยู่นะครับ...
    ไม่อยากบอกว่า ไม่ต่างอะไรกับร่างทรงทำเท่ห์หลอกครับ

    รู้อะไร ต้องรู้ด้วยจิตเราเอง ที่มันคลายตัวเองได้
    หรือรู้โดยธรรมชาติที่ได้มาจากการฝึกจิตเราเอง...
    ไม่ใช่ไปมัวแต่พึ่งพาภายนอกตลอดเวลา
    ซึ่งมันไม่ใช่ทางพุทธศาสนา
    ที่กล่าวไว้ว่า ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน...

    ปล.เข้าใจที่สื่อนะครับ.....

    เป็นร่างทรง อย่าทำมาพูดว่าตัวเองปฏิบัติมา
    มันดูกันออก...แห๋มๆ
    พูดยังกลับคนอื่นๆเค้าอ่านตำรามาตอบ.. ...ายยย.
    งง เด้ งง เด้
     
  7. koonsri

    koonsri สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ตอบแบบตรงไปตรงมา อย่างเช่นพระธาตุ จริง ปลอม เช่น นั้น เราเคารพศรัทธากราบไหว้ ก็เกิดประโยชน์กับเราเอง เช่นการไหว้กราบ เท่ากับเราไหว้กราบตนเอง เช่น นี้ เมื่อ เป็นเช่นนี้แล้ว ไม่ ต้องพะวงอะไร ส่วนตนเองก็ระวังรักษาจิตของตนโดยให้มีสติอยู่เสมอ ไม่ว่าเค้าจะเข้านอกออกใน ไปที่พระเครื่องรึอะไรที่เรานึกคิดก็แล้วแต่ เพียงให้จิตมีสิ่งรู้สติมีสิ่งระลึก ผ่านไปๆจิตเค้าก็จะมีความรู้ความเห็นเอง นี่ สำคัญ เมื่อมีความรู้ความเห็นอะไร ความคิดอะไรเนี่ย คือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หมายเอาได้ว่า "สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา"..
     
  8. รัศมีสุริยา

    รัศมีสุริยา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2018
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +53
    ตั้งจิตเชื่อมน้อมพลังกั้นไว้ที่แขนก้อพอครับแล้วใช้ความรู้สึกจิตดูส่วนใหญ่พระเครื่องจะไม่มีพลังมากจะมีอ่อนๆ จะมาแรงช่วยตอนเรามีเรื่องมีอุบัติเหตุช่วยบังช่วยปัด แต่พวกเครื่องรางจะแรงอย่างปลัดหลวงปู่ทิมนี่จะมีด้านเมตตาแรงพลังจะดันๆเข้าเหมือนคลื่นทะยอยเข้าฝั่งไม่หยุด พระกรุเก่าบางทียังมีแรงดันแค่สามทีก้อหยุด พวกปรอทกรอพลังจะโยกซ้ายขวาตลอด พระกริ่งนี่ส่วนใหญ่จะดีแรงมาก มีอีกวิธีดูโดยใช้กล้องส่องพระอันนี้เวลาขอน้อมบุญครูอาจารย์ช่วยดูจะเห็นรัศมีรอบองค์พระเป็นฉับพรรณรังษีทุกทิศทางอย่างพระกริ่งหลวงตามหาบัวนี่รัศมีสีรุ้งทุกทิศทางสาดกระพริบไม่หยุด แม้แต่ปฐวีธาตุเป็นหินผิวขรุขระหรือผิวมันก้อยังมีรัศมีรอบเหมือนพระ ต่างจากพวกก้อนหินธรรมดาพระธาตุปลอมจากหินที่นำมาจากน้ำตกหินปูนหรือซิลิก้าเจลไม่มีรัศมีครับ ส่วนทนสิทธิ์ธรรมชาติมีเทพเทวารักษารัศมีจะเป็นเส้นตรงแต่มีหลายสีเช่นกัน ส่วนพระปลอมนี่แม้จะเป็นเนื้อโลหะก้อไม่มีรัศมีเลยมีแต่ความวาวเท่านั้นครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2018
  9. แนน จันทบุรี

    แนน จันทบุรี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +82
     
  10. แนน จันทบุรี

    แนน จันทบุรี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +82
    ง่ายๆเลยถ้าเดินทางกรรมฐานอย่างง่ายๆเลย เพ่งที่องค์พระ เพ่งจับ ดู มีผู้รู้ดูเพ่งพระเครื่ององค์นั้นๆ ใช้ญาณ ใช้พลังสมาธิสูงสุด แล้ว....อนิจจัง อนิจจัง อนิจจัง ...นั่น มองดูว่าเห็นอะไรบ้าง ..หรือ...อีกทาง พุทธรัตนัง ธรรมรัตนัง สังฆะรัตนัง พุทธธัง ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ทำสมาธิ จิตนิ่ง สว่าง เห็นอะไร พบอะไร พอออกจากฝัน ออกจากสมาธิ ก็มาพิจารณา เป็นวิปัสสนากรรมฐาน จริงเท็จเช่นไร ทดสอบเอง....เพราะเมื่อเห็นอะไร รู้อะไร ก็ให้ดูเฉยอยู่ ..จะมีให้เห็นรึไม่นั้น ทดลองดู แล้ว พอออกมาก็เอา อนิจจัง จับไว้ อนิจจัง องค์นั้นอนิจจังมั้ย องค์นี้อนิจจังมั้ย มีของจริงอยู่มั้ย ควรลองศึกษาทำความเข้าใจด้วยตนเอง...อาจเห็นของจริง
     
  11. ธารเชฏฐ์

    ธารเชฏฐ์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2018
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +3
    การรับพุทธคุณพระเครื่อง จะมีพลังแตกต่างมาจากการอัญเชิญพลังปลุกเสกองค์พระตามบารมีของผู้อัญเชิญ ที่มีจิตและวัตถุอันบริสุทธิ์ พระที่มีพลังจะรับรู้ด้วยผัสสะเช่นขนลุกชี้ตั้งชัน เย็นแว
    การรับพลังหรือรู้ในพุทธคุณของพระเครื่องเช่นเมื่อจับจะเย็นวาบขนลุกตั้งชัน แน่นในอก หรือปวดกลางหน้าผากหน่วงๆ น้ำตาไหล บางท่านที่สมาธิละเอียดเวลาหลับตาจะรู้สึกถึงพลังที่ส่งผ่านมือไปถึงกลางหน้าผากมีพลังผ่านหรือเกิดภาพนิมิตบอกใช้มือกำองค์พระไว้จะรู้สึกถึงคุณสมบัติที่ผู้จัดพระทำอธิษฐานจิตไว้เช่นเมตตามหานิยม แคล้วคลาดป้องกันภัยโชคทรัพย์ พลังพุทธคุณจะอยู่ที่จิตเป็นสมาธิตั้งมั่นศรัทธาอันเปี่ยมล้นต่อพระพุทธพระธรรม พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์ พระเครื่องก็จะได้รับพลังพุทธคุณตามบุญบารมีและคำอธิษฐาน
     
  12. rattanasak

    rattanasak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    414
    ค่าพลัง:
    +617
    ส่วนตัวที่ลองทำดูนะครับ
    1. กำหนดจิตให้เป็นสมาธินะครับ
    2. แล้วกล่าวว่า พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง ลูกขอสัมผัสบารมีที่ครูบาอาจารย์ ได้ประจุพลังไว้ในพระองค์นี้
    3. แล้วก้อท่อง นะมะพะทะ ไปเรื่อยๆ อาจจะนานเป็นนาที สิบนาที นะครับแล้วแต่จิตเป็นสมาธิในช่วงไหน จะรู้ได้เองครับ
    4. หากมีบุญวาสนา จะได้สัมผัสพลังที่ประจุไว้นะครับ
    5. เมื่อรับรู้แล้วอย่าลืมขอคมาลาโทษครูบาอาจารย์ด้วยนะครับ

    ส่วนตัวผมลองกับพระสมเด็จบางขุนพรหม จะเป็นพลังเย็นวาบจากมือเข้ามาที่แขน แล้วปร๊าดเข้าหัวใจครับ แต่ก้อแล้วแต่ว่าท่านใดจะเจอแบบใดนะครับ อันนี้ประสพการณ์ส่วนตัวล้วนๆครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...