เสียงธรรม หนึ่งเพชรล้านนา ล้านนาบารมี

ในห้อง 'บทสวดมนต์' ตั้งกระทู้โดย ทางสายธาตุ, 25 สิงหาคม 2010.

  1. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    พระราชหัตถเลขา (ต่อ)


    (สำเนาพระราชหัตเลขา)
    วันที่ ๕ กรกฎาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๘

    ดารา

    ตามโทรเลขซึ่งว่าไม่คาดว่าหญิงเล็กจะตายก่อนองค์อัจฉรนั้น ถูกอยู่ตามเวลาเจ็บ แต่การรักษาผิดกันมากมันเป็นเคราะห์ดีเคราะห์ร้ายอยู่บ้าง องค์อัจฉรแกรักษาตัวเรียกว่าอย่างเคราะห์ดี คือมีที่คลาดแคล้ว แต่หญิงเล็กนี้ไม่มีที่คลาดแคล้วเลย มีแต่ไม่พอ ที่จะหนักก็หนัก มันเป็นทั้งความคิดและน้ำใจร่างกายคนดีคนไข้ประกอบกัน ยังไงๆ เรื่องละครนั้นเป็นหย่ากันคนทั้งวังเห็นจะมีความเสียใจในการที่ตายไปครั้งนี้ยิ่งกว่าทุกครั้งทุกคราว จนถึงเด็กลือกันว่ากลับฟื้นจะได้ดูละคร


    ได้ส่งรูปเรือนอันถ่ายยากเสียจริง เพราะมันมีแต่กระชั้นไปเสียทั้งนั้น แผนที่หมายเลข ๑ ด้วยดินสอแดงถ่ายข้ามปากคลอง จึงเห็นด้านตรงหน้า แผนที่หมายเลข ๒ ถ่ายริมคลองเยื้องคูเรือนข้างตะวันออกเฉียงใต้ ที่หมายเลข ๓ ถ่ายในรั้วแลไปข้างตะวันออก หมายเลข ๔ ด้านตะวันออกซึ่งเป็นห้องนอนรากที่แลเห็นอยู่นั้นเป็นรากศาลานั่งเล่นที่ในสวน รูปที่ ๕ ถ่ายบนถนนแลไปข้างตะวันออก เรือนกายเป็นล่อมป้อมเช่นนี้ เพราะแลเห็นแต่มุขที่ต่อกับตัวเรือน ที่ถ่ายนี้ชั่วแต่ด้านหนึ่งซึ่งไม่มีเฉลียงโถง เฉลียงได้เอาไว้ด้านเหนือเป็นทางสำหรับบ่าวเดิน
    การซึ่งพระยาวรพงศ์ฯ ทำผิดนั้น คือผิดกลับหน้าเรือนอย่างนี้ไปไว้ข้างหลัง เอาข้างหลังมาเป็นข้างหน้าจึงได้เกิดความใหญ่ต้องรื้อกลับใหม่ แต่เมื่องานร่วมถึงเพียงนี้แล้วเชื่อว่าจะแล้วทันเวลากลับ หมู่นี้ฝนชุกอยู่สักหน่อย ไว้แล้วไปเร่งกวดเอาเอาให้สำเร็จจงได้

    ได้ส่งรูป ๕๐ รูปขึ้นมากับหนังสือนี้.

    (พระบรมนามาภิธัย) จุฬาลงกรณ์ ป.ร.

    .........................................................................

    .(สำเนาพระราชหัตเลขา)

    วันที่ ๒๐ กรกฎาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๘

    ดารา

    ด้วยความรู้สึกเมื่อครั้งไปยุโรปขาดกะปิ น้ำปลา เดือดร้อนประการใด จึงทำให้นึกถึง ได้จัดบรรจุขวดเป็นส่วนเล็กน้อยส่งขึ้นมา เพื่อจะให้ได้รับเร็วแต่ปิดไม่ให้ใครรู้บางทีเขาจะหมายว่าหีบเครื่องเงินเครื่องทอง

    หมู่นี้ฝนชุกหาเวลาเที่ยวนาก แต่เรือโมเตอร์ซึ่งบัญญัติใหม่ให้เรียกว่าเรือยนต์ ลำใหญ่พึ่งมาถึง ตั้งชื่อสุพรรณหงส์ จะได้ตั้งชื่อในวันที่ ๒๕ วันที่ ๓๑ จึงขึ้นไปลองไปถึงบางปะอิน แล้วเลยไปเยี่ยมองค์บุรฉัตร ซึ่งขึ้นไปเป็นผู้บัญชาการทหารอยู่กรุงเก่า ในเดือนสิงหาคมคิดจะไปกาญจนบุรี ราชบุรี และเพ็ชรบุรี สอนกินปลาทูเสียใหม่อีกสักที เพราะเหตุที่หมู่นี้กินไม่ได้ เหม็นคาว

    ชาววังเวลานี้กำลังพลุ่งพล่านบ่นปากฉีกปากแหกด้วยเรื่องอยากดูละคร แต่งยังไม่สมปรารถนา ต้องการจะหนีออกไปดูที่ปรีดาลัยด้วยส่งไป ได้ผัดวันไว้ว่าครบสี่วิกแล้วเมื่อใดจะพิจารณาคำขอนั้น

    ได้ฝากหนังสือให้พระยาอนุชิตฉบับหนึ่ง ให้ท้าวโสภานิเวศน์ฉบับหนึ่ง ขอให้ส่งให้ด้วย.

    (พระบรมนามาภิธัย) จุฬาลงกรณ์ ป.ร.

    ..........................................................................

    (สำเนาพระราชหัตเลขา)
    วันที่ ๒๖ กรกฎาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๘

    เจ้าดารารัศมี เชียงใหม่

    ลูกเลาแก้ว(๑)ที่ขอชื่อนั้น ชื่อประกายแก้ว(๒) ประกายแปลว่าดาว ขออำนวยพรให้มีอายุยืนนาน และมีความเจริญทุกประการ ข่าวน้ำเชียงใหม่เติมความวิตกกลัวน้ำมากขึ้นอีก น้ำต้นมือเข้าทุ่งจนไถนาไม่ได้มากกล้าลอย เวลานี้น้ำกำลังลดลง กลัวว่าจะกระแทกใหญ่มาอีก

    วันเสาร์หน้าจะขึ้นไปบางปะอิน ลงเรือใหม่ ค้าง ๒ คืน ได้สั่งให้ทำเหรียญรูปดาว หน้าหนึ่งเป็นอักษรไขว้ หน้าหนึ่งบอกงานฉลองกู่ เป็นเครื่องห้อยนาฬิการูปอัพภันตร คล้ายตราจุลจอมเกล้าฯ กำหนดให้ทำ ๑,๐๐๐ ดวง ได้สั่งให้ทำทอง ๕๐ กาไหล่ ๒๕๐ นอกนั้นเป็นเงิน ช่างว่า ๑๕ วันจะแล้ว จะได้รีบส่งขึ้นไปให้ทันงาน

    อยากให้ดูว่าอย่างทองและกาไหล่เท่าที่กำหนดจะพอหรือไม่พอ จะต้องการอย่างใดเท่าใดให้บอก.


    (พระบรมนามาภิธัย) สยามินทร์
    ....................................................................................................................................................
    ๑) เจ้าราชวงศ์เชียงใหม่เดี๋ยวนี้
    (๒) บุตรีเจ้าราชวงศ์

    ..........................................................................


    (สำเนาพระราชหัตเลขา)

    วันที่ ๑๑ สิงหาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๘

    ดารา


    บัดนี้เป็นเวลาที่เหรียญแจกในงานฉลองกู่แล้วสำเร็จตามกำหนด ได้สั่งทำหีบบรรจุคงจะได้ส่งในวันสองวันนี้เหตุที่ทำให้เขียนหนังสือฉบับนี้ล่วงหน้าเสียก่อน เพราะวันนี้เป็นวันหนังสือน้อยกว่าทุกวัน รอไปบางทีเวลาจะไม่เหมาะ

    มื่อแลดูรูปพระเจดีย์ดอยสุเทพเห็นที่กะว่าจะติดดาวนึกน่าเสียดายเต็มที่ที่ไม่มีใครจะอ่านหนังสือได้ถึงแล้ว แต่นึกไปอีกทีหนึ่งติดสูงๆเช่นนั้นก็ดีติดต่ำอาจจะหายได้เพราะทำด้วยเงินจริงๆ มันก็มากอยู่

    เหรียญนี้แลเห็นรอยพิมพ์เป็นรอยตีพิมพ์ไม่สู้เรียบร้อยหน่อยหนึ่ง เพราะเหตุที่มันก็ตีพิมพ์จริงๆ จะทำอย่างอื่นก็ไม่ทัน แต่ถ้าตัวอย่างเดิมได้ลดวงในให้เล็กลงไปเสียอีกหน่อยหนึ่ง รัศมีกว้างออกจะงามกว่า แต่พึ่งนึกเดี๋ยวนี้ การที่ไม่ได้นึกแต่แรกไปมัวอี๋กรมหลวงนริศฯ ว่าตาดีเขียนเล็กๆ ก็ยังเห็น มัวพูดเปื่อยไปทางนั้น ที่ตั้งวงในโตนั้นมาตามรอยของดาวติดพระเจดีย์ เร่งรัดมากด้วยกลัวจะไม่ทัน แต่บัดนี้เห็นว่าน่าจะเกินทัน

    หมู่นี้กำลังวุ่นด้วยเรื่องชายอุรุพงศ์ฯ เจ็บ เรื่องจะเป็นไส้ตัน เห็นหนองอย่างลูกโต วันแรกและวันที่สองตกใจมาก คะเนว่าจะต้องถึงตัดถึงผ่า ถ้าไม่ได้เห็นตัวอย่างผู้ที่รอดมาเป็นหลายคน คงจะไม่เตรียมตัวที่จะยอม นี่ทำให้เตรียมตัวยอมได้ทันที มีข้อวิตกอยู่แต่หัวใจอ่อน พอตั้งต้นเป็นขึ้นก็รวนจะหอบเสียแล้ว แก้ไขกันด้วยเอาน้ำเย็นปะ ยาที่กินนั้นก็ไม่มีอะไร นอกจากถ่านที่ให้ไล่ลมกับยาแก้ปวดก็เทือกเมาๆ ไม่หลับได้เลย และกินอะไรไม่ได้เลยสองวันสองคืน จึงได้กินยานอน คราวนี้หลับด้วยยานอนทอดหนึ่ง ต่อมาดูเหมือนพิษเสื่อมซาไปหมด ปล่อยให้นอนหลับได้จึงมีกำลังขึ้น เขากำหนดว่าวันที่ ๔ คือวันนี้เป็นวันที่จะตั้งหนองฤๅไม่ตั้งหนอง และเป็นวันที่จะผ่านั้นวันพรุ่งนี้ มีความยินดีที่จะกล่าวว่าเห็นจะไม่ต้องผ่าแน่ สังเกตดูพิษถอย วันแรกปรอทขึ้นถึง ๑๐๔ ขาเหยียดไม่ได้ทั้งสองขา นอนตะแคงก็ไม่ได้ ปวดจนเหงื่อแตก หายใจหอบเหนื่อยเสมอ วันที่สองตั้งแต่บ่ายมาปรอท ๑๐๓ ออกจะเชื่อมแต่ขาพอเหยียดออกได้บ้าง ใจจวนรุ่งวันที่ ๒ นี้ได้หลับ วันที่ ๓ ปรอทลดลงอยู่ ๑๐๐ ถ้วน ๑๐๐ เศษ ๒ ค่อยคลายปวด รู้สึกหิว พอกินน้ำซุบได้เล็กน้อย ขาเหยียดคล่องขึ้น แต่ท้องแข็งคงอยู่ วันนี้ปรอท ๙๙ ยังค่ำไม่ใคร่รู้สึกปวด เป็นแต่รู้สึกเต็มอยู่ในท้อง นอนตะแคงขวาพอลงได้ ข้างซ้ายไม่ได้เลย เห็นว่าอาการพิษถอยลงทุกวัน แต่เพราะไส้ที่บวมนั้นยังแข็งอยู่ หมอว่าที่จะกล่าวว่าพ้นอันตรายยังไม่ได้ ต่อ ๘ วันเป็นอย่างน้อยล่วงไปแล้วจึงจะไว้ใจได้ ที่หมอว่าเช่นนี้ก็เป็นความจริง เมื่อลำไส้ยังแข็งอยู่เช่นนั้น ก็อาจจะกลัดเป็นหนองได้จึงต้องระวัง

    การที่ลูกเจ็บคราวนี้ได้ความเดือดร้อนเต็มที เพราะยังเหลืออยู่ด้วยคนเดียวเท่านั้น นอกนั้นก็ต่างคนต่างแยกกันไปแล้ว เวลากำลังไม่ไม่สบายนึกอะไรไม่ค่อยออก จนนึกกลัวว่าถ้าเป็นอย่างไรจะเลยหลงเสียดอกกระมัง


    ได้ส่งหนังสือเรื่องละครกรมนราฯ ซึ่งออกใหม่อีก ๕ เรื่อง เวลานี้แกอยู่ข้างจะเฟื่องมาก เพราะชินในการตกแต่งและเชิงที่เล่น ทำให้เห็นท่าทางง่าย และละครของแกก็เห็นจะซ้อมง่าย เพราะมันรู้ทีเสียหมดทั้งนั้น สังเกตดูคนเห็นจะชอบเรื่องใหม่ๆ แปลกๆ มากกว่าเรื่องพงศาวดาร เพราะไม่รู้ไม่เคยอ่าน ไม่ชอบอย่างเก่า เพราะกลัวจะเป็นเร่อร่า อยากให้เก๋เกี่ยวเป็นฝรั่งมังค่าบ้าง ถ้าเป็นเรื่องใหม่ๆ แล้วดูเข้าใจถ้าเรื่องเก่าๆดูมันห่างนมห่างเนยและไม่เห็นพระฤกษ์ที่จะได้ดูละครกรมนราฯ อีก เรื่องที่ชอบชมว่าดีแกยังไม่เล่น รอไว้ถวายตัวก่อน

    บางกอกเวลานี้ฝนตกชุกเกือบจะไม่เว้นวัน เรื่องสนุกของชาววังนั้น คือ กำลังคลั่งทำนา ตั้งแต่แม่เล็กเป็นต้นลงดำนาเอง เลี้ยงดูกันเป็นหลายวัน ข้อที่เกลียดโคลนเลนนั้นหายหมด ทำได้คล่องแคล่ว ที่โรงนาเป็นที่สบาย องค์อัจฉรถึงเดินได้ไกลๆ เจ้านายที่เจ็บไข้ออดแอดอยู่ต่างคนต่างสบายขึ้น เห็นจะเป็นด้วยได้เดินได้ยืนมากนั้นเอง


    ได้ให้จัดเสบียงส่งอีกครั้งหนึ่ง ด้วยหวังว่าจะไปถึงก่อนเรือขึ้นไป จะได้แก้ความขัดสนไปจนถึงเวลานั้น
    ในหนังสือมีว่าพวกพ้องลืมเสียไม่ได้รับรับหนังสือจากใครนั้น ได้บอกนางเอิบ ๆ ว่าเจ้าเองลืม ไม่มีหนังสือถึงเลย มีขึ้นไปเป็นหลายฉบับ

    น้ำเชียงใหม่เวลานี้ลั่นลงมาถึงนครสวรรค์แล้ว น่าจะลงมาถึงกรุงเทพฯ แต่หวังว่าจะลดเร็ว ไม่ค้างเติ่งอย่างปีกลายนี้การที่จะได้กลับดูไม่ช้าเท่าไรแล้ว ได้เขียนใบตั้งชื่อประกายแก้วส่งขึ้นมาในหนังสือนี้ด้วย

    (พระบรมนามาภิธัย) จุฬาลงกรณ์ ป.ร.
    ..........................................................................

    (สำเนาพระราชโทรเลข)
    ที่ ๑๐
    จากปากน้ำโพ
    วันที่ ๖ พฤศจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๘

    เจ้าดารารัศมี เชียงใหม่


    ได้รับโทรเลขวันที่ ๕ แล้ว ที่จริงอยากจะให้ลงมาก่อนขึ้นเรือน จะได้มีเวลาตกแต่งอะไรสะดวก ขัอข้องอย่างที่จะให้พัก เพราะถ้าจะอยู่เรือนใหม่ทีเดียว การขึ้นเรือนกำลังคิดหาอยู่ พักเรือนต้นเอาหรือไม่ บ่าวผู้หญิงไปอยู่เรือนได้ทีเดียว บ่าวผู้ชายสั่งให้พระยาวรพงศ์ฯ จัดโรงใหญ่ที่ท่าซางฮี้ไว้สำหรับจะได้อาศัย และเอาข้าวของขึ้น ถ้าจะเอาเช่นนั้นให้ถึงวันที่ ๒๓ ก็ดี จะได้สวดมนต์รดน้ำกันเสียก่อนที่หนึ่ง เงียบๆ ขึ้นเรือนจึงสวดอีก อยากรู้อีกอย่างหนึ่งว่า การครัวสำหรับจะเลี้ยงพระและผู้คน จะให้ใครทำดี ถ้าหากว่าเห็นใครควรจะวานได้ จะรับบอกเองและจัดการให้ตลอด ถ้าเช่นนี้มีเวลาแต่งเรือน ๒ วัน สิ้นสนุกเต็มทีเสียแล้ว

    กำลังชายเพ็ญ(๑)จะตายอีกคนหนึ่ง ศพชายอุรุพงศ์จะเผาเดือน ๔ ถ้าหากจะช่วยอื่นๆ มีครบหมดแล้ว เป็นคนโทดิน โอครอบ เห็นจะดี เพราะพระใช้เจ้าอธิการหัวเมืองทั้งนั้น สังเค็ด ๗๐

    (พระบรมนามาภิธัย) สยามมินทร์
    .......................................................................................................................................
    (๑) พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพิชัยมหินทโรดม
    ..........................................................................

    (สำเนาพระราชโทรเลข)
    ที่ ๑๒
    จากปากน้ำโพ
    วันที่ ๗ พฤศจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๘

    เจ้าดารารัศมี เชียงใหม่

    ได้รับโทรเลขแล้วเสียดายที่มีเหตุขัดข้องไม่มีวันก่อนขึ้นเรือนที่จะได้ตกแต่งห้อง จะล่องได้เมื่อใดขอให้โทรเลขให้ทราบ มีความยินดีที่ครูบาให้พระพุทธรูป อยากทราบว่าหน้าตักหรือขนาดฐานกว้างเท่าใด จะได้จัดที่ตั้งไว้รับที่เรือน พระนี้เป็นศิริสำหรับตัว จะมาทางเรือหรือทางบก ขอให้พามาถึงพร้อมกับตัว จะได้ทันแต่งในการขึ้นเรือน จะได้บอกแม่เล็ก(๑)ให้ตระเตรียมในการที่จะเลี้ยงดู ฝนกรุงเทพฯ เวลานี้ชุกนัก น่ากลัวน้ำจะมากอย่างปีกลาย แต่อย่าวิตก ที่เรือนน้ำไม่ท่วม

    (พระบรมนามาภิธัย) สยามมินทร์
    .......................................................................................................................................
    (๑) สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พระพันปีหลวง
    ..................................................
     
  2. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    ความลี้ลับในหีบกาไหล่ทองพระราชทาน
    พระราชชายา เจ้าดารารัศมี


    ความลับอันมืดมน ที่ทำให้ทุกคนกังขากันไปชั่วระยะหนึ่ง ในบรรดาเจ้านายในราชวงศ์ฝ่ายเหนือ นับตั้งแต่พลตรีเจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ผู้เป็นเชษฐา และบรรดาเจ้านายชั้นรอง ๆ ลงไป ตลอดจนเจ้านายบุตรหลานของเสด็จพระราชชายาที่ไปเฝ้าอาการพระประชวร
    ของเสด็จพระองค์ท่าน ณ คุ้มรินแก้ว แจ่งหัวลิน ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2476


    ก่อนที่เสด็จพระราชชายาเจ้าดารารัศมี จะได้ทราบว่าพระองค์ท่าน คงจะสิ้นพระชนม์ชีพในกาลครั้งนี้ แล้วพระองค์ได้ทรงรับสั่งกับพลตรีเจ้าแก้วนวรัฐ ซึ่งได้ประทับคอยเอาใจใส่ ไต่ถามพระอาการประชวรของพระองค์อยู่ตลอด ท่ามกลางพระประยูรญาติและเจ้านายบุตรหลาน เสด็จพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ได้ทรงมีรับสั่งเกี่ยวกับคำขอร้องเป็นครั้งสุดท้ายว่า

    "หากเมื่อใดที่พระองค์ได้สิ้นพระชนม์ชีพ ก็ขอให้บรรดาพระญาติวงศ์นับตั้งแต่เจ้าแก้วนวรัฐลงไป ผู้มีชีวิตอยู่เบื้องหลัง ได้โปรดนำสิ่งของต่างๆที่บรรจุในหีบกาไหล่ทองซึ่งเก็บสิ่งของไว้ในหีบเหล็ก
    ใบใหญ่อีกชั้นหนึ่ง ตั้งอยู่เหนือแท่นบรรทมของพระองค์ท่าน ขอให้นำสิ่งของที่เก็บรักษาไว้ในหีบกาไหล่ทองนั้น นำไปบรรจุในกู่ร่วมกับพระอัฐิของพระองค์ท่านด้วย"


    ทุกๆ ท่านในบรรดาเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ในราชวงศ์ของเจ้านายฝ่ายเหนือ ต่างก็แปลกใจระคนกันว่าภายในหีบกาไหล่ทองนั้นมีอะไรอยู่ในนั้นหรือ
    ที่พระองค์ทรงหวงแหนนัก และเก็บไว้บนเหนือพระเศียรที่แท่นบรรทมของพระองค์

    ภายหลังจากที่เสด็จพระราชชายาเจ้าดารารัศมี สิ้นพระชนม์เมื่อเวลา 15.14 น. ของวันที่ 9 ธันวาคมพ.ศ.247
    ด้วยพระอาการสงบท่ามกลางความโศกาอาดูรของบรรดาพระญาติวงศ์ทั้งหลาย ข่าวการสิ้นพระชนมายุของเสด็จพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ซึ่งชาวบ้านชาวเมือง
    ทั่ว ๆ ไป ขนานนามพระองค์ว่า “ เสด็จเจ้าในวัง ได้กระจายออกมาจากคุ้มหลวงรินแก้ว แจ่งหัวลิน อำเภอเมือง เชียงใหม่

    ทำให้ประชาชนชาวเมืองเชียงใหม่ที่ได้ทราบข่าวว่า เสด็จเจ้าในวังพระราชชายาเจ้าดารารัศมี สิ้นพระชนม์ชีพพากันเศร้าซึมทั่วบ้านทั่วเมือง พากันอาลัยอาวรณ์ในพระเกียรติคุณของพระองค์มากที่สุด นี่คือเหตุการณ์ที่ปรากฏแก่ความรู้สึกของมหาชนในสมัยนั้น

    และจากนั้นไม่กี่วัน โดยพลตรีเข้าแก้วนวรัฐ เชษฐาของเสด็จพระองค์ท่าน ผู้ทรงเป็นประมุขของเจ้านายในสกุล “ ณ เชียงใหม่ “ แห่งราชวงศ์ “ ทิพย์จักราธิวงศ์ “ ในภาคเหนือได้เป็นองค์ประธาน พร้อมด้วยเจ้านายญาติพี่น้องและบุตรหลานได้นั่งเป็นสักขีพยานในการเปิด
    หีบเหล็กใบใหญ่ออกและพร้อมกันนั้น ก็ได้พบหีบกาไหล่ทองสีดำขนาด
    กว้าง 12 นิ้ว โดยมีความยาวเท่า ๆ กันทุก ๆ ด้าน

    บนฝาหีบนั้นมีเครื่องหมาย ตราสกุล “ เจ้าเชียงใหม่ “ แห่งราชวงศ์ “ ทิพย์จักราธิวงศ์ “ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

    พระปิยมหาราชเจ้า ได้ทรงสร้างขึ้นพระราชทานแด่เสด็จพระราชชายา
    เจ้าดารารัศมีอันเป็นสุดที่รักของพระองค์และทรงสร้างขึ้นให้มีความหมายเป็น
    ตราของสกุลวงศ์ “ เจ้าเชียงใหม่ “ โดยเฉพาะเป็นตราพระอินทร์ขาว นั่งประทับอยู่ในปราสาท

    และหีบกาไหล่ทองใบนี้ มีทับทิมเม็ดใหญ่ และมีเพชรล้อมรอบมีมูลค่ามหาศาล


    ตามประวัติของหีบกาไหล่ทองใบดังกล่าวนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมราชสวามี ได้ทรงมีรับสั่งให้นายช่างโรงงานชาวฝรั่งเศสสร้างขึ้นในคราวเสด็จประเทศยุโรป เพื่อทรงพระราชทานแด่เสด็จพระราชชายาเจ้าดารารัศมี อันเป็นสุดที่รักยิ่งของพระองค์ โดยเฉพาะเสด็จพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ได้เคยตรัสเรื่องประวัติของหีบกาไหล่ทองให้บรรดาผู้ใกล้ชิดฟังเสมอ ๆ ว่าในขณะที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานหีบกาไหล่ทองนี้ พระองค์ได้ทรงมีพระราชดำรัสว่า


    เครื่องหมายพระอินทร์ขาวประทับอยู่ในปราสาทนี้ เป็นเครื่องหมายสำหรับสกุล
    “เจ้าเชียงใหม่ “ ที่ประทานให้เจ้าน้อยในฐานะที่เป็นพระธิดาของพระเจ้านครเชียงใหม่ และเป็นเจ้าจอมมารดาของลูกฉัน ด้วยความรักเป็นที่สุด “
     
  3. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    พบจดหมายรักของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีถึงพระราชชายาเจ้าดารารัศมี

    และเมื่อพ่อเจ้าแก้วนวรัฐ พ่อเจ้าเหนือหัว ได้เปิดหีบกาไหล่ทองออก ก็ได้พบเอกสารอันมีค่าทางประวัติศาสตร์เป็น “ จดหมายอันประทับใจ “ ระหว่างพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับเสด็จพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ที่พระองค์ได้ทรงพระอักษรด้วยลายพระหัตถ์ของพระองค์เองรวมกันหลายฉบับพับ
    อย่างเรียบร้อย ห่อผ้าเช็ดหน้าพรมน้ำหอมติดผ้าเช็ดหน้ายังไม่จางหาย

    พบอัฐิปลายนิ้วก้อยของเจ้าชีวิตอินทวิไชยยานนท์
    เมื่อรายการที่หนึ่งได้ผ่านพ้นไปแล้ว


    รายการที่สองก็ได้ถูกค้นต่อไปว่ามีอะไรบ้าง ที่เสด็จพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ทรงหวงแหนเป็นอย่างยิ่งและเทิดทูนไว้บนเหนือพระเศียรโดยใส่ไว้ในหีบใหญ่ใน
    ขณะทรงบรรทม ก็ได้ผ้าเช็ดหน้าสีขาวบริสุทธิ์พรมด้วยน้ำหอม ไม่หายจืดจางไปเลย
    และมีอักษรภาษาไทย ด้วยกระดาษอย่างดีกำกับกลัดติดเข็มกลัดไว้ บรรยายไว้ว่า

    อัฐิส่วนนิ้วพระหัตถ์ก้อยของพระเจ้าชีวิต อินทวิไชยยานนท์ พระเจ้าเหนือหัว
    ปรากฏว่าเมื่อคลี่ออกมา มีกระดูกก้อนเล็กอยู่ 2 ก้อน สีขาวมัว ๆ

    รายการที่ 3 ก็มีสภาพเช่นเดียวกับอันที่ 2 ก็คือมีอักษรไทยบรรยายไว้ว่า อัฐิพระนิ้วก้อยของพระเจ้าลูกเธอพระองค์หญิงวิมลนาคนพีสี พระราชธิดาของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อันประสูติจากพระราชชายาเจ้าดารารัศมี พระธิดาของพระเจ้าอินทวิไชยยานนท์ พระเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่

    รายการที่ 4 เป็นเอกสารที่บรรจงห่อด้วยกระดาษสองสามชั้นพับไว้อย่างดี เมื่อแก้ออกมาก็ทราบว่าเป็นลายมือและตัวอักษรเป็นภาษาพื้นเมือง แต่เขียนด้วยหมึกสีดำ เมื่อคลี่อออกอ่านดูแล้ว พ่อเจ้าแก้วนวรัฐ ก็อุทานออก
    มาว่า

    “ ลายมือตัวหนังสือของพ่อเจ้าชีวิตพระเจ้าอินทวิไชยยานนท์ “

    และแล้วพ่อเจ้าแก้วนวรัฐก็ได้เรียกพวกขุนนางพื้นเมืองชั้นท้าวตนหนึ่งให้เข้ามา
    อ่านข้อความนั้นให้พระองค์ท่านฟังก็ทราบว่า พ่อเจ้าชีวิตพระเจ้าอินทวิไชยยานนท์ เขียนไปตามความรู้ของ “ พ่อ “ ที่มีไปถึง “ ลูก “ ที่ประสบการสูญเสีย “ หลาน “ ในอกเนื่องในคราวที่พระเจ้าลูกเธอพระองค์หญิงวิมลนาคนพีสีพระราชธิดาของ
    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับพระราชชายาเจ้าดารารัศมี สิ้นพระชนม์

    ดังเป็นที่ทราบกันอยู่ในสมัยนั้นว่าเป็นพ.ศ.2435ในขณะที่พระเจ้าลูกเธอพระองค
    ์หญิงมีพระชนมายุได้เพียง4 ชันษา( ประสูติวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2432 สิ้นพระชนมายุ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2435 )

    ศุภอักษรจดหมายฉบับนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทอดพระเนตรด้วยตนเอง ภายหลังที่เสด็จพระราชชายาเจ้าดารารัศมีได้ทรงอ่านถวายให้พระองค์ได้ทราบทุก
    ข้อความ ถึงการแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ของพระเจ้าอินทวิไชยยานนท์ ทำให้พระองค์ทรงซึ้งเป็นอย่างที่สุดและในโอกาสนี้ได้ทรงตั้งเจ้าจอมมารดา
    เจ้าดารารัศมีเป็นพระสนมเอกในเวลาต่อมา

    เรื่องราวโดยละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ปรากฏในเรื่องนี้ เจ้าชายอินทนนท์ ณ เชียงใหม่ ราชบุตรของพลตรีเจ้าแก้วนวรัฐท่านได้อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบ จึงได้ทราบโดยละเอียดพร้อมกับ ท่านชายอินทนนท์ ได้ประทานกรุณาเล่าให้ฟังเหตุการณ์ในครั้งนั้น เมื่อ พ.ศ. 2476
     
  4. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    ศุภอักษรของพระเจ้าเชียงใหม่ อินทวิไชยยานนท์

    ท่านเจ้าชายอินทนนท์ ราชบุตรองค์เล็กของพลตรีเจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ท่านได้ประทานกรุณา เล่าเรื่องถ้อยคำในศุภอักษร
    ฉบับนี้ ซึ่งได้ทราบว่ามีผู้คัดลอกเอาไว้ก่อนที่จะนำเอกสารฉบับนี้ ไปเก็บรักษาไว้ในที่ฝังพระอัฐิของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ที่วัดสวนดอก ณ ที่กู่บรรจุอัฐิของเจ้านายฝ่ายเหนือ....


    คุ้มเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่

    ถึงเจ้าน้อยลูกรักของพ่อ

    พ่อได้ทราบข่าวว่าพระองค์หญิงวิมลนาคนพีสี พระเจ้าลูกเธอของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับเจ้าน้อย ได้ถึงแก่กาลกิริยาสิ้นพระชนม์เมื่อเดือนก่อน

    พ่อมีความเสียใจเป็นอย่างมากที่สุด เพราะว่าพระองค์เจ้าหญิงองค์นี้ เป็นหลานสุดที่รักของพ่อซึ่งพ่อรักเจ้าน้อยเพียงใดพ่อก็ย่อมรักพระองค์เจ้าหลาน
    มากเท่านั้น

    บรรดาพระญาติเจ้านายพี่น้อง ทางบ้านเมืองของเรา ทางเมืองเชียงใหม่ ได้ทราบข่าวเรื่องนี้ ต่างมีความเสียอกเสียใจกันเป็นที่สุด ตัวของพ่อจิตใจของพ่อมีความห่วงใยในตัวของเจ้าน้อยมากที่สุด เพราะเจ้าน้อยอยู่ห่างไกลพ่อมากที่สุด

    และได้บังเกิดการสิ้นพระชนม์ของพระองค์เจ้าหญิง ลูกในอกเลือดเนื้อสายเลือดของเจ้าน้อยกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างกะทันหันอย่างไม่คาดคิด คงจะทำให้เจ้าน้อยเศร้าโศกเสียใจเป็นอันมาก เพราะในชีวิตไม่เคยผ่านมาเลยในการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของเลือดในอก
    ของตนเอง

    พ่อจึงขอร้องมาให้เจ้าน้อยลูกของพ่อจงหักห้ามใจ ระงับความเศร้าโศกลงไปเสียเถิด เดี๋ยวเจ้าน้อยจะเกิดเจ็บไข้ได้ป่วยลงไกลหูไกลตาพ่อซึ่งไม่มีโอกาสไปดูแลอาการเจ็บไข้
    ของลูก

    พ่อขอให้เจ้าน้อยลูกรักของพ่อ จงหักห้ามความเศร้าโศกลงไปเสียเถิด เพราะว่าความเจ็บไข้ได้ป่วย ความแก่ชรา ตามตาย เป็นของธรรมดาที่เกิดมากับโลก ตามตำพระพุทธศาสนาของเราที่พระท่านสอนเอาไว้

    จงทำตามคำขอร้องของพ่อเถิดนะ เจ้าน้อยลูกรักของพ่อ
    ตุ๊เจ้าโสภโณโสภา วัดฝายหิน ได้ทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระองค์เจ้าหญิง ราชธิดาของเจ้าน้อย ได้มาหาพ่อพร้อมกับบอกกับพ่อว่า ให้บอกกับเจ้าน้อยด้วยว่า ท่านมีความเศร้าสลดใจมากในการจากไปของพระองค์เจ้าหญิงขอให้วิญญาณของ
    พระองค์ท่าน ไปสู่สรวงสวรรค์ชั้นฟ้าดาวดึงส์

    และขออำนาจของคุณพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากล
    โลกนี้ จงดลบันดาลให้เจ้าน้อยดารารัศมีกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จงมีแต่ความสุขความเจริญ อายุ วรรณะ สุขะ พละเทอญ

    พ่อขอพูดกับเจ้าน้อย ผู้ซึ่งจากอกและจากพ่อมาตั้งแต่อายุ 14 ปีกว่า เข้ามาอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ตัวของลูกจากมาก็จริง แต่ใจของพ่อจดจ่ออยู่กับลูกอยู่เสมอ พ่อคิดถึงลูกอยู่ทุกลมหายใจ สำหรับความจงรักภักดีในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทของเจ้าน้อยที่มีต่อ
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้อย่าให้ได้เสื่อมคลายแม้แต่น้อย ขอให้พยายามเพิ่มพูนยิ่งเป็นพันเท่า ยิ่งโยชน์โกฎิหมื่นแสนเทอญ

    ขอให้ลูกจงเคารพบูชากราบไหว้ในพระองค์เหมือนกับเป็น “ พ่อ “
    และเป็น “ พรพุทธเจ้าหลวง ในหอหลวงในคุ้มหลวงของเรา ที่พ่อเคยนำเจ้าน้อยไปกราบไหว้ทุกเช้าทุกค่ำก่อนเข้านอนเจ้าน้อยจงเคารพ
    บูชากราบไหว้ในพระองค์ขอพึ่งบุญบารมีล้นเกล้าล้นกระหม่อมปกเกล้าปกกระหม่อม
    ของเจ้าน้อยลูกพ่อ

    ขอให้เจ้าน้อยจงอย่าทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด อันเป็นที่ไม่ถูกอกถูกใจ และขัดพระราชหฤทัยของพระองค์ท่านเป็นอันขาด นะลูกนะ

    ตามความเป็นจริงที่ได้บังเกิดขึ้น นับตั้งแต่เจ้าเมาะ เจ้าหม่อน เจ้าอุ๊ย เจ้าปู่
    เจ้าย่า ตา ยาย ในสกุลวงศ์ของเรา ซึ่งเป็นเจ้านายฝ่ายเหนือ มาตราบถึงตัวพ่อและตัวเจ้าน้อย มาตราบเท่าทุกวันนี้ ล้วนแต่ได้รับหน้าที่เป็น
    ผู้รักษา พระราชอาณาจักร หัวเมืองฝ่ายเหนือมานับร้อย ๆ ปี ด้วยความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาทุก ๆ รัชกาล

    และพร้อมกันนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ประทานพระมหากรุณาธิคุณ
    มาทุกๆรัชกาลชุบเลี้ยงแต่งตั้งให้มีอำนาจเป็นเจ้าชีวิตทรงแต่งตั้งเลื่อนยศฐานันดรศักดิ์ ให้สูงส่งเหนือคนทั้งหลายในแผ่นดินสยามมาตลอดกรุณาชุบเลี้ยงเจ้านายทั้งหลาย
    ในพระญาติวงศ์มาตลอด

    พวกเราเจ้านายฝ่ายเหนือก็ได้อาสาฝากชีวิตไว้เป็นข้าราชการและเป็นทหารของ
    แผ่นดินถวายชีวิต เป็นราชาพลีถวายความจงรักภักดีต่อพระบรมวงศานุวงศ์จักรี
    ตลอดมา

    พ่อขอให้เจ้าน้อยจงทำจิตใจให้สบายอกสบายใจ มอบกายถวายชีวิตไว้ แทบพระยุคลบาท เป็นราชพลีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจนชีวิตจะหาไม่

    บัดนี้พ่อก็แก่เฒ่าชราลงไปมาก ปีนี้อายได้ 75 ปีแล้วมีความห่วงใยเจ้าน้อยมาก
    ยิ่งขึ้น พ่อขอให้เจ้าน้อยจงได้ปฏิบัติตามข้อความทุก ๆ อย่างที่พ่อเล่ามาในหนังสือนี้ พ่อจะมีความสุขที่สุดจะตายไปจากโลกนี้ จะได้นอนตาหลับ

    ขอความสุขจงมีแต่เจ้าน้อยลูกรักของพ่อเถิด ด้วยความรักและคิดถึงจากพ่อ

    อินทวิไชยยานนท์

    --------------------------------------
     
  5. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    พระราชสาสน์ลับส่วนพระองคของพระเจ้าอินทวิชยานนท์ทรงมีถึงพระราชธิดา เล่าเรื่องที่อังกฤษจะขอรวมเอาล้านนาเข้ากับพม่า

    ในช่วงเวลาเดียวกับที่เกิดเรื่องราวเศร้าๆ กับพระองค์ ในปีพ.ศ. ๒๔๓๒ โดยเจ้าดารารัศมีทรงให้กำเนิดพระราชธิดาองค์หนึ่ง ซึ่งรัชกาลที่ ๕ ทรงพระราชทานนามว่า พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าหญิงวิมลนาคนพีสี หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่า เสด็จเจ้าน้อย สร้างความปีติยินดีให้กับพระนางมาก
    และ ช่วงนั้นก็ได้รับการเลื่อนขึ้นเป็นเจ้าจอมมารดา แต่ให้หลังเพียง ๓ ปีเท่านั้น พระธิดาองค์น้อยก็เสด็จสวรรคตด้วยพระชนมายุเพียง ๓ พรรษา

    พระราชชายาทรงฉีกรูปภาพที่ฉายกับพระธิดาไม่ว่าจะเป็นรูป สามพ่อแม่ลูก หรือ ภาพแม่ลูก เพราะว่า พระองค์ท่านเสียพระทัยมากพระธิดายังเด็กนัก

    ตอนเช้าของวันที่สิ้นไม่มีอาการอะไรเลย ยังอยากเสวยปลาทูทอดอยู่ ตอนสายก้อสิ้น พระนามพระธิดาให้อ่านว่า วิ-มล- นาค- นะ -พี-สี)

    และช่วงเวลานั้นเอง พระเจ้าอินทวิชยานนท์ทรงมีพระราชสาสน์ลับส่วนพระองค์ถึงพระราชธิดา เล่าเรื่องที่อังกฤษจะขอรวมเอาล้านนาเข้ากับพม่า

    เจ้าดารารัศมีจึงทรงถวายพระราชสาสน์ดังกล่าวกับสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ซึ่งก็ทรงพระราชทานต่อไปยังพระเจ้าน้องยาเธอกรมหลวงพิชิตปรีชากร
    เพื่อทรงปรึกษาหารือ ....

    ก่อนที่สาสน์ฉบับนั้นจะได้รับการตอบไปยังพระราชบิดาด้วยลายพระหัตถ์ของ
    พระนางว่า............

    "หากเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่จะทรงยอมให้เชียงใหม่ไปรวมอยู่ในเมืองขึ้นของ
    อังกฤษแล้วไซร้ก็ขอให้เตรียมพระองค์มารับศพของเจ้าจอมดารารัศมีที่กรุงเทพฯเถิด"

    ทำเอาเจ้าหลวงเชียงใหม่ต้องระงับสิ่งที่คิดจะทำลงไปทั้งหมดเพื่อ เจ้าน้อย ของพระองค์

    จดหมายฉบับนั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นจดหมายทองคำสามารถช่วยรักษาอาณาเขต
    ของสยามที่เหลืออยู่น้อยนิด ไม่ให้ถูกเฉือนออกไปมากกว่านี้ และยังเป็นผลการดำเนินนโยบายต่างประเทศอันยอดเยี่ยมของสมเด็จพระพุทธ
    เจ้าหลวงอีกด้วย

    เจ้าดารารัศมี ทรงได้รับการเฉลิมพระยศเป็น พระราชชายา ในตอนเสด็จกลับเชียงใหม่ครั้งแรกในปีพ.ศ. ๒๔๕๑ ซึ่งถือเป็นตำแหน่งพิเศษนอกเหนือจากพระมเหสีสี่องค์ ตามกฎมนเทียรบาล
    ที่รัชกาลที่ ๕ ทรงแต่งตั้งพระราชทานเป็นพิเศษ

    พระราชชายาเจ้าดารารัศมี จึงกลายเป็นพระราชชายาพระองค์แรกและ
    องค์สุดท้ายของสยามมาจนปัจจุบันเพราะไม่ปรากฏว่ามีการพระราชทาน
    ตำแหน่งนี้แก่ผู้ใดอีก
     
  6. Fort_GORDON

    Fort_GORDON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +488

    ฟอร์ทขออนุโมทนาและขอบคุณพี่ดอกไม้เมืองบนมากที่กรุณาให้ความรู้เรื่องดอกไม้บนสวรรค์ สังเกตว่าพี่ดอกไม้เมืองบนต้องมีความรู้ความสามารถทางด้านโคลงฉันท์กาพย์กลอนไม่ธรรมดา ขนาดยกพระราชนิพนธ์ ของ"ทูลกระหม่อมอาจารย์" (ขอเรียกตามเพื่อนๆที่จบจากรร.นายร้อย ขอรับ) ต้องเป็นผู้ที่สนใจจริงๆ ขนาดเคยแต่งส่งไปให้จ้าวไทใหญ่อีกด้วย สมัยที่ฟอร์ทเข้ามาในเว็บนี้ใหม่ๆเมื่อครั้งยังเป็นละอ่อน พี่ๆในกระทู้หนึ่งก็มีการหัดเขียนโคลงกลอนกันก็ดูดีนะขอรับ พี่ๆทุกคนดูมีเมตตา เอื้ออารี อันที่จริงฟอร์ทก็ชอบเรื่องโคลงกลอนนะขอรับ ดูเป็นไทยๆที่มีความอ่อนหวานอยู่ในตัวคล้ายๆนิสัยใจคอเดิมๆของคนไทย หรือว่าคนไทยที่ชอบเรื่องบทเรื่องกลอนจะเป็นคนที่มีนิสัยเรียบร้อยอ่อนหวาน ถ้าเป็นชายก็ต้องใช้ว่าอ่อนโยนใช่ไหมขอรับ
     
  7. Fort_GORDON

    Fort_GORDON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +488
    ฟอร์ทได้อาศัยอ่านด้วย ได้รับความรู้มากเลยขอรับ พี่ดอกไม้เมืองบน สิ่งที่ไม่เคยรู้ก็ได้รู้ ขอบพระคุณมากขอรับ คนรุ่นหลังๆอาจจะเข้าไม่ถึงกับความรู้สึกในพระทัยของทั้งสองพระองค์ เพราะกรุงเทพ-เชียงใหม่เดี๋ยวนี้ไปมาสะดวกแถมมีมือถือให้ใช้โทร.ได้อีก
    จะมีใครรู้และจำกันได้บ้างไหมว่าถ้าไม่มีพระราชชายาในเวลานั้นแล้วไซร้ เชียงใหม่ก็คงจะต้องตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษไปแล้ว และภายหลังที่อังกฤษมอบอิสรภาพให้กับพม่า เชียงใหม่ก็ต้องเป็นของพม่า เหมือนกับที่ไทยเราต้องเสียดินแดนให้กับอังกฤษและฝรั่งเศสใช่ไหมขอรับพี่ดอกไม้เมืองบน
     
  8. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +3,210
    ขอบพระคุณคุณพี่ดอกไม้เมืองบนมากเลยค่ะ
    ที่นำจดหมาย ที่พระพุทธเจ้าหลวงทรงเขียนต่อพระราชชายา
    มาแบ่งปัน เพื่อเป็นศิริมงคแก่กระทู้่

    ความรักของทั้งสองพระองค์ ช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน


    น้องฟอร์ท จ๊ะ

    พี่โมเย ก็แปลกใจ ในน้ำเสียงตัวเอง ว่า ทำไม ปนเศร้าแบบนี้


    เพลงพระนางจามเทวี จะจุดธุปอธิฐาน ขอ บารมี และขออนุญาติพระนางจามเทวี

    เพื่อแต่งเพลง
    จะได้มีปัญญาญาณ แต่งได้ไพเราะ งดงามสมพระเกียรติ ค่ะ




    ลาแล้ว โอ้ล้านนา จากเวียงฟ้า ศรัทธารักสู่สยาม
    ใต้ร่มปิยะเศวตงาม ผูกพันธ์สยาม สานสอง สื่อใย
     
  9. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    หนึ่งเพชรล้านนา

    ใช่แล้ว พระองค์สมกับพระราชสมัญญานาม ปิยะมหาราชที่สุด แม้จะทรงมีพระมเหสี พระฃายา เจ้าจอม หม่อมห้ามและพระโอรสพระธิดามากมาย
    ที่น่าชื่นชมคือ ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา ความรัก ความอบอุ่นให้ทุกพระองค์ ทุกคน โดยเฉพาะพระโอรสพระธิดาเสมอภาคกัน ดูความห่วงใยที่ทรงมีต่อพระราชชายาตามจดหมายสิคุณโมเย
    เหมือนไม่ใช่กษัตริย เจ้าชีวิต เหมือนเป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งที่มอบความรักห่วงใย ที่สำคัญเอาใจคนรัก

    ทรงคิดโน่น ทำนี่ให้พระราชชายาทุกเรื่อง ชอบที่สุด ตรงที่รับสั่งทำนองว่า

    "อย่าคิดว่าเป็นเจ้าต้องมาทำให้ไพร่ เพราะฉันจะมาเองด้วย

    คงจะหมายความถึงการที่ต้องมาเตรียมพิธีสมโภชให้พระราชชายาซึ่งถือว่ามิใช่เจ้าเท่าเทียม
    เจ้าภาคกลางอื่น ๆ โดยนำพระองค์เองมาเป็นกันชน

    โอ๊ย..ทรงน่ารักมาก ทรงหวานมาก !!!
     
  10. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    หนึ่งเพชรล้านนา

    อนุโมทนาเลยน้อง พี่เห็นด้วยที่น้องปรารภมา เพราะเรื่องการเขียนร้อยกรองนั้น ถือเป็นศิลปเอกลักษณ์ที่งดงามและสูงส่งแบบหนึ่งของชาติไทยเราที่ควรหัดและรักษาไว้ แต่ก่อนเคยนึกว่า คงหาคนชอบ หรือแต่งเป็นยาก แต่พอเข้าไปในพันทิป นอกจากห้องราชดำเนินแล้วมีห้อง กวีการเมือง โอ้โฮน้องฟอร์ทรู้มั๊ยจ้ะ ในนั้นเขาแสดงความคิดเห็นกันเป็นโคลง กลอน อารมณ์ขัดแย้งกันแรงหน่อย ยัง เถียง (ด่า)กันเป็นกลอน เท่ห์มากเลย แถมการ ด่าหรือโต้กันทางการเมืองที่เห็นต่าง ส่วนใหญ่มักจะรุนแรง พอมาใช้กลอนใส่กัน แทนเขียนธรรมดา ความแรงจะอ่อนลงทันที

    จะไม่อ่อนได้ยังงัยก็มันมีฉันทลักษณ์บังคับใครมัวไปใส่ตามอารมณ์ไม่ดูแบบแผนข้อบังคับ ได้อายเขาตายเลย และแต่ละท่านในนั้นแต่งเก่งคมคายไพเราะมาก ผู้ชายเกือบทั้งนั้นที่เขียนเก่ง ผิดกับห้องราชดำเนินลิบลับ ที่นั่น ถ้าชกกันผ่านคอมได้คงเจ็บกันระนาว

    เอ..น้องฟอร์ท พี่ว่าถ้าเราจับพวกเด็กๆ โข่งที่แบ่งทีมเล่นกีฬาสีแข่งกันอย่างเอาเป็นเอาตายในประเทศไทยทุกวันนี้ให้มาอัดกันเป็นกลอน ปราศรัยเป็นกลอน ในสภาก็ให้ด่าเป็นกลอน น่าจะดีเนอะ เพราะกว่าจะผสมคำ ตรวจครุ ลหุ สัมผัสเสร็จค่อยปล่อยออกมา จากปาก ก็พอดีอารมณ์เย็น หรือหมดแรงก่อน เพราะเหนื่อยตอนหาคำสัมผัสนี่แหละ..

    ท่านประธานสภาที่เคารพ............วาระนี้เกี่ยวเรื่องงบ..พวกกระผม
    เพื่อเกิดความปรองดองของสังคม...พวกกระผมขออยู่ไซร้ไปอีกปี
    จะขอรับใช้ชาติกวาดเงินกู้...........เพื่อประชาชนอยู่อย่างสุขี
    พรก. ต้องดำรง..มั่นคงดี.............ยอมเหนื่อยยากทุกวันนี้...ยี้..ทำไม
    เศรษฐกิจขาขึ้น ชื่นมื่นแท้............ประชาชนที่ว่าแย่..แกล้งใช่ไหม
    ควรสงสารพวกสส.จนจะตาย.........กัดฟัน..ขึ้นเงินเดือน.ไป..ทั้งน้ำตา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2010
  11. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    หนึ่งเพชรล้านนา

    พี่คิดว่า แม้แรกเริ่มของทั้ง 2 พระองค์จะมาจากการเมือง แต่ด้วยความที่พระพุทธเจ้าหลวงน่าจะทรงเป็นผู้ชายที่มีคุณธรรม มีพระอุปนิสัยที่อ่อนโยน อ่อนหวาน และที่สำคัญทรงมีพระเมตตาสูง สิ่งเหล่านี้ คงช่วยไม่ให้พระราชชายาเหงา ว้าเหว่ ที่จากบ้านเมืองมาแต่เยาว์(แม้จะถูกพวกนางอิจฉาในวังรุมแกล้งตลอดเวลา) และจากความงดงามแห่งพระอุปนิสัยของทั้ง 2 พระองค์ การเมืองเลยกลายเป็นความรักที่แท้จริงภายหลังโดยไม่ยาก สมคำที่ใครไม่รู้(จำไม่ได้)นำมาใช้ขึ้นเป็นคำโปรยหัวว่า สานรักสองแผ่นดิน
     
  12. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    หนึ่งเพชรล้านนา

    ถ้าล้านนาก้าวพลาดในเวลานั้น ป่านนี้ก็ต้องตกอยู่กับพม่าแบบที่น้องว่า และก็คงกลายเป็นชนกลุ่มน้อย โดนพม่ากดขี่ รังแกแบบไร้มนุษยธรรมแบบที่ ไทใหญ่(ซึ่งเป็นรัฐที่เคยยิ่งใหญ่มานับพันปี )ต้องกลายเป็นคนไร้แผ่นดิน ต้องจับอาวุธสู้เพื่อทวงเอกราชคืน เหมือนอีกหลายเผ่าพันธ์ู์ุในพม่าทุกวันนี้
    แต่ตัวแสบที่สุดคือพวกตาน้ำข้าวที่อยู่ดีดีก็มาแย่ง รุกรานยึดบ้านเมืองเขา
    แถมทิ้งระเบิดเวลาไว้ให้อีกด้วย

    ตรงนี้ อนุโมทนา สาธุให้ไม่ไหวจริง ๆ
     
  13. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +3,210
    ความรัก ของพระราชชายาที่มีต่อ พระพุทธเจ้าหลวง
    แม้กระทั้งพระพุทธเจ้าหลวงสวรรคตไปแล้ว

    พระราชชายา ก็จะบรรจง เก็บดอกกุหลาบ
    ที่ปลุกไว้รอบๆ พระตำหนักดาราภิรมย์ นามว่า กุหลาบ จุฬาลงกรณ์

    จัดช่อเรียงถวายสักการะ ดวงพระวิญญาณ ของพระสวามี อยู่เสมอ มิเคยขาด

    นี่คือ ส่วนหนึ่งในความรัก และภักดี ของพระองค์ ต่อพระพุทธเจ้าหลวง ค่ะ

    และอีกมากมายที่จะเรียกได้ว่า

    ศรัทธารัก สานแผ่นดิน



    โมเย ได้ร้อยเรียงความรัก ของทั้งสองพระองค์ ไว้ ในผลงานครั้งต่อไป
    ในชื่อ ว่า ศรัทธารักสานแผ่นดิน



    แ้ล้วจะนำมาฝาก กัน นะคะ
     
  14. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +3,210

    คุณพี่ดอกไม้ เมืองบน เก่งจังเลยค่ะ

    ^_^ กลอน นักการเมือง
     
  15. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +3,580
    งามทั้งเสียง งามทั้งรูป งามทั้งนําใจ เป็นกําลังใจให้ครับ
     
  16. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +3,210

    อนุโมทนา

    ขอบคุณมากค่ะ ที่ร่วมให้กำลังใจ ^_ู^
     
  17. darapimuk

    darapimuk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +651
    อ่านแล้วอิ่มอกอิ่มใจ สาธุ
     
  18. LAAONNARAK

    LAAONNARAK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +74
    เพลงของพี่โมเย ม่วนขนาด โดยเฉพาะเพลงคาถา
    ผมฟังตลอดทุกเช้า โพชฌงค์ประริตร เพราะมาก พึ่งรู้ว่าเป็นเพลงของพี่
    พี่ทำออกมาเยอะๆนะคับ ผมจะติดตามผลงานของพี่ ^^ ชอบมากๆเลยหนา
    ละอ่อนลำปางคับ
     
  19. Florence125

    Florence125 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +6
    ไหว้สาวันทาเจ้า
     
  20. fonzaza

    fonzaza สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    อยากได้ เพลงหนึ่งเพชรล้านนา เปงไฟล์ MP3 อะค๊า
    ใครมี โพสทีค๊า อยากได้มาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...