เสียงธรรม เพลง ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร (ไทย)

ในห้อง 'บทสวดมนต์' ตั้งกระทู้โดย paang, 4 กรกฎาคม 2006.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,328
    เพลง ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร ( ไทย)

    [font=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ข้าพเจ้าได้สดับมาดังนี้
    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ ณ เขาคิชคูฏ [font=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ใกล้กรุงราชคฤห์ [/font]
    พร้อมด้วยภิกษุหมู่ใหญ่ และพระโพธิสัตว์หมู่ใหญ่
    สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาค ทรงฝึกสมาธิชื่อว่าคัมภีร์ราวสังโฆแท้
    และสมัยนั้น พระอริยอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์
    ทรงประพฤติจริยาในปรัชญาปารมิตาอันลึกซึ้ง
    พิจารณาอยู่อย่างนี้ คือพิจารณาขันธ์ ๕ และความสูญโดยสภาพ
    ลำดับนั้น ท่านสารีบุตร ได้กล่าวต่อ พระอริยะอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ด้วยพุทธานุภาพว่า
    กุลบุตร หรือ กุลธิดาใดๆ ใคร่จะประพฤติจริยาในปรัชญาปาระมิตาอันลึกซึ้งนั้น[font=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]จะพึงศึกษาอย่างไร[/font]
    พระอริยอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์อันท่านพระสารีบุตรกล่าวอย่างนี้แล้วได้กล่าวตอบท่านสารีบุตรว่า
    ท่านสารีบุตร กุลบุตรหรือกุลธิดาใดๆ ใคร่จะประพฤติจริยาในปรัชญาปาระมิตาอันลึกซึ้ง
    เขาพึงพิจารณาอย่างนี้ คือพิจารณาขันธ์ ๕ และความสูญโดยสภาพ
    รูปคือความสูญ ความสูญนั่นแหละคือรูป ความสูญไม่อื่นไปจากรูป
    รูปไม่อื่นไปจากความสูญ รูปอันใดความสูญก็อันนั้น ความสูญอันใด รูปก็อันนั้น
    อนึ่ง เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็คือความสูญอย่างเดียวกัน
    ท่านสารีบุตร ธรรมทั้งปวง มีความสูญเป็นลักษณะ
    ไม่เกิด ไม่ดับ ไม่มัวหมอง ไม่ผ่องแผ้ว ไม่หย่อน ไม่เต็ม อย่างนี้
    เพราะฉะนั้นแหละ ท่านสารีบุตร ในความสูญจึงไม่มี รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
    ไม่มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่มีรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรม
    ไม่มีจักษุธาตุ จนถึงมโนธาตุ ธรรมชาตินั้น วิญญาณธาตุ
    ไม่มีวิชชา ไม่มีอวิชชา ไม่มีความสิ้นไปแห่งวิชชา และอวิชชา
    จนถึงไม่มี ความแก่ ความตาย ไม่มีความสิ้นไปแห่ง ความแก่ ความตาย
    ไม่มีทุกข์ สมุห์ทัย นิโรธ มรรค ไม่มีญาณ ไม่มีการบรรลุ ไม่มีการไม่บรรลุ
    [/font]

    [font=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ท่านสารีบุตร เพราะฉะนั้น ผู้ดำเนินตามปรัชญาปาระมิตา ของพระโพธิสัตว์ทั้งหลายแล้ว
    แต่ยังมีกิเลสห่อหุ้มจิตอยู่ ก็เพราะยังมิได้บรรลุ คืนนั้นจึงไม่สะดุ้งกลัว
    ก้าวล่วงความขัดข้องสำเร็จพระนิพพานได้ ก็เพราะความไม่มีกิเลสห่อหุ้มจิต
    พระพุทธเจ้าทั้งปวง ผู้ตั้งอยู่ในกาลทั้งสามทรงดำเนินตามปรัชญาปาระมิตา
    ได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เพราะฉะนั้น จึงทูลทราบมหามนต์
    ในปรัชญาปาระมิตา อันเป็นมหาวิทยามนต์ อนุตตะระมนต์ อะสัมมะสมมนต์
    สัพพะทุกข์ กับสมณมนต์ นี้เป็นสัจจะ เพราะไม่ผิดพลาด
    มนต์ที่ท่านกล่าวไว้ ในปรัชญาปาระมิตา คือดูก่อน ความรู้ ไป ไป ไปสู่ฝั่ง ไปให้ถึงฝั่งสวาหา
    [/font]

    [font=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ท่านสารีบุตร สัตว์ผู้จะตรัสรู้ พึงศึกษาจริยาในปรัชญาปาระมิตาอย่างนี้
    ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาค ทรงออกจากสมาธินั้นแล้ว
    ได้ประทานสาธุการ แก่พระอริยอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ว่า
    ถูกแล้ว ถูกแล้ว กุลบุตร ข้อนั้นเป็นอย่างนั้น กุลบุตร จริยาในปรัชญาปาระมิตา อันลึกซึ้งนั้น
    อันบุคคลพึงประพฤติอย่างนี้ พระตถาคตอรหันต์เจ้าทั้งหลาย
    ย่อมทรงอนุโมทนาอย่างที่ท่านยกขึ้นแสดงแล้ว
    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสคำนี้จบลงแล้ว ท่านพระสารีบุตร พระอริยะอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์บริษัท
    อันมีประชุมชนทุกเหล่าและสัตว์โลกพร้อมทั้งเทวา มนุษย์ อสูร คนธรรพ์ ก็มีใจเบิกบาน
    ชื่นชมภาษิต ของพระผู้มีพระภาค ด้วยประการฉะนี้
    [/font]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • heartsutra.mp3
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      14,277
  2. chanthawat_k

    chanthawat_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +413
    อนุโมทนาสาธุ
     
  3. mook_me

    mook_me เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +241
    สาธุ..
     
  4. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    เนื้อเพลงฉบับตรวจสอบแก้ไขคำผิดแล้ว

    ขอโมทนาบุญกับความตั้งใจของผู้ที่ถอดเพลงออกมาเป็นข้อความ
    ขอร่วมบุญด้วยการช่วยแก้ไขเนื้อเพลงเพื่อให้ถูกต้องสมบูรณ์ยิ่งขึ้น



    เพลง ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร (ไทย) ฉบับตรวจสอบแก้ไขคำผิดแล้ว
    <O:p</O:p


    <O:p</O:p


    ข้าพเจ้าได้สดับมาดังนี้

    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ ณ เขาคิชกูฏ ใกล้กรุงราชคฤห์


    พร้อมด้วยภิกษุหมู่ใหญ่ และพระโพธิสัตว์หมู่ใหญ่


    สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาค ทรงเข้าสมาธิชื่อว่า คัมภีร์ราวสัมโพธะ


    และสมัยนั้น พระอริยะอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์


    ทรงประพฤติจริยาในปรัชญาปารมิตาอันลึกซึ้ง


    พิจารณาอยู่อย่างนี้ คือพิจารณาขันธ์ ๕ และความสูญโดยสภาพ


    ลำดับนั้น ท่านสารีบุตร ได้กล่าวต่อ พระอริยะอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ด้วยพุทธานุภาพว่า


    กุลบุตร หรือ กุลธิดาใดๆ ใคร่จะประพฤติจริยาในปรัชญาปารมิตาอันลึกซึ้งนั้นจะพึงศึกษาอย่างไร


    พระอริยะอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ อันท่านพระสารีบุตรกล่าวอย่างนี้แล้ว ได้กล่าวตอบท่านสารีบุตรว่า


    ท่านสารีบุตร กุลบุตรหรือกุลธิดาใดๆ ใคร่จะประพฤติจริยาในปรัชญาปารมิตาอันลึกซึ้ง


    เขาพึงพิจารณาอย่างนี้ คือพิจารณาขันธ์ ๕ และความสูญโดยสภาพ


    รูปคือความสูญ ความสูญนั่นแหละคือรูป ความสูญไม่อื่นไปจากรูป


    รูปไม่อื่นไปจากความสูญ รูปอันใดความสูญก็อันนั้น ความสูญอันใด รูปก็อันนั้น


    อนึ่ง เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็คือความสูญอย่างเดียวกัน


    ท่านสารีบุตร ธรรมทั้งปวง มีความสูญเป็นลักษณะ


    ไม่เกิด ไม่ดับ ไม่มัวหมอง ไม่ผ่องแผ้ว ไม่หย่อน ไม่เต็ม อย่างนี้


    เพราะฉะนั้นแหละ ท่านสารีบุตร ในความสูญจึงไม่มี รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ


    ไม่มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่มีรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรม


    ไม่มีจักษุธาตุ จนถึงมโนธาตุ ธรรมชาติ มโนวิญญาณธาตุ


    ไม่มีวิชชา ไม่มีอวิชชา ไม่มีความสิ้นไปแห่งวิชชา และอวิชชา


    จนถึงไม่มี ความแก่ ความตาย ไม่มีความสิ้นไปแห่งความแก่ ความตาย


    ไม่มีทุกข์ สมุหทัย นิโรธ มรรค ไม่มีญาณ ไม่มีการบรรลุ ไม่มีการไม่บรรลุ



    ท่านสารีบุตร เพราะฉะนั้น ผู้ดำเนินตามปรัชญาปารมิตา ของพระโพธิสัตว์ทั้งหลายแล้ว


    แต่ยังมีกิเลสหุ้มห่อจิตอยู่ ก็เพราะมิได้บรรลุ


    ผู้นั้นจะไม่สะดุ้งกลัวก้าวล่วงความขัดข้องสำเร็จพระนิพพานได้ก็เพราะความไม่มีกิเลสห่อหุ้มจิต


    พระพุทธเจ้าทั้งปวง ผู้ตั้งอยู่ในกาลทั้งสาม ทรงดำเนินตามปรัชญาปารมิตา


    ได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เพราะฉะนั้น จึงควรทราบมหามนต์


    ในปรัชญาปารมิตา อันเป็นมหาวิทยามนต์ อนุตตรมนต์ อสมสมมนต์ (อ่านว่า อะสะมะสมมนต์ )


    สัพพะทุกข์ กับสมณมนต์ นี้เป็นสัจจะ เพราะไม่ผิดพลาด


    มนต์ที่ท่านกล่าวไว้ ในปรัชญาปารมิตา คือดูก่อน ความรู้ ไป ไป ไปสู่ฝั่ง ไปให้ถึงฝั่ง สวาหา <O:p</O:p

    (ในภาษาสันสกฤต สวดว่า คเต คเต ปารคเต ปารสํคเต โพธิ สฺวาหา”)</O:p




    ท่านสารีบุตร สัตว์ผู้จะตรัสรู้ พึงศึกษาจริยาในปรัชญาปารมิตาอย่างนี้

    ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาค ทรงออกจากสมาธินั้นแล้ว

    ได้ประทานสาธุการ แก่พระอริยะอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ว่า

    ถูกแล้ว ถูกแล้ว กุลบุตร ข้อนั้นเป็นอย่างนั้น กุลบุตร จริยาในปรัชญาปารมิตาอันลึกซึ้งนั้น

    อันบุคคลพึงประพฤติอย่างนี้ พระตถาคตอรหันต์เจ้าทั้งหลาย


    ย่อมทรงอนุโมทนาอย่างที่ท่านยกขึ้นแสดงแล้ว


    พระผู้มีพระภาคตรัสคำนี้จบลงแล้ว ท่านพระสารีบุตร พระอริยะอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์

    บริษัทอันมีประชุมชนทุกเหล่าและสัตว์โลกพร้อมทั้งเทวา มนุษย์ อสูร คนธรรพ์ ก็มีใจเบิกบาน

    ชื่นชมภาษิตของพระผู้มีพระภาค ด้วยประการฉะนี้<O:p</O:p












    อ้างอิงการตรวจสอบจากแหล่งที่มาดังนี้ เพื่อการศึกษาและความเข้าใจ

    ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร (The Heart Sutra ) แบ่งกันฟัง

    http://www.watsanamnai.org/index.ph...Category=watsanamnaiorg&thispage=1&No=1387507

    http://www.luangpee.net/forum/?topic=3577.0;wap2

    http://www.astroneemo.net/index.php...-57-00&catid=35:2010-01-13-07-51-35&Itemid=64

    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=dingtech&month=14-07-2010&group=11&gblog=1
     
  5. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ไฟล์ MP3 คุณภาพเสียงเพลงชัดเจนขึ้นมาอีกนิด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    มีคนมาถามว่า ข้อความในพระปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร ที่ว่า รูปคือความว่าง ความว่างคือรูป หมายความว่าอย่างไร

    คำตอบที่ได้บอกอาจารย์ท่านนั้นไปก็คือว่า องค์ดาไลลามะเคยให้คำตอบไว้ในหนังสือเล่มหนึ่งของท่านว่า ที่บอกว่า รูปคือความว่าง หรือ Form is Emptiness นั้น ได้แก่การที่ รูป ซึ่งเป็นศัพท์เทคนิคหมายความถึงสิ่งต่างๆที่เป็นวัตถุ จริงๆแล้วมิได้มีความเป็นอยู่ในตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอยู่อย่างที่เป็นได้เพราะสัมพันธ์กับสิ่งอื่นๆทั้งสิ้น ในขณะที่ตอบคำถามนี้ กำลังกินข้าวเย็นกันอยู่ แล้วบนโต๊ะก็มีแก้วหลายใบ ได้ตอบไปว่า แก้วนั้นก็เป็นรูปอย่างหนึ่ง ซึ่งก็มิได้มีความเป็นอยู่ในตัวเอง การที่สสารก้อนหนึ่งเป็นแก้วได้ก็เพราะว่า มีรูปร่างเป็นแบบแก้ว ดังนั้น สสารก้อนหนึ่งจึงขึ้นอยู่กับรูปร่างแบบเป็นแก้ว จึงทำให้เป็นแก้ว เรื่องนี้เป็นจริงกับแก้วทุกใบ แต่ในขณะที่ตอบนี้ก็ได้เอามือจับแก้วใบหนึ่งไว้ คำถามต่อไปก็คือ แล้วอะไรทำให้แก้วใบนี้เป็นแก้วใบนี้ ไม่ใช่แก้วทั่วไป และก็ไม่ใช่แก้วใบอื่น คำตอบก็คือว่า ในขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น มือกำลังจับแก้วใบนั้นไว้ ดังนั้น การเป็นแก้ว ใบนี้ เลยอยู่ที่การที่มือกำลังจับอยู่นั้นเอง นอกจากนี้แก้วใบนี้ก็ยังมีความสัมพันธ์กับแก้วใบอื่นๆ เช่นอยู่ทางขวาของบางใบ อยู่ทางซ้ายของบางใบ อยู่บนโต๊ะ ห่างจากขอบโต๊ะเท่านั้นเท่านี้ หากปราศจากเงื่อนไขเหล่านี้แล้ว สสารก้อนนี้ก็ไม่มีทางเป็นแก้วใบนี้ไปได้เลย

    ที่บอกว่า รูปคือความว่าง ก็คือตรงนี้นี่เอง รูปทั้งหมด ซึ่งก็คือสสารวัตถุทั้งหมด เป็นสิ่งอย่างที่มันเป็น เช่น เป็นแก้ว ก้อนหิน ก้อนกรวด ภูเขา น้ำ ทะเล ฯลฯ ก็เพราะว่าเรามีคำไปเรียกบางส่วนของมันให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ในตัวของมันเองแล้วไ่ม่มีลักษณะอะไรเลย ดังนั้นจึงไม่เป็นอะไรเลย ที่บอกว่า ว่าง นั้นก็คือ ว่างจากความเป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ ซึ่งมีอยู่ในสิ่งนั้นเอง ซึ่งลักษณะแบบนี้ไม่มีอยู่จริง แต่เราคิดไปว่าเป็นจริงเพราะมันตรงกับสามัญสำนึกของเรา และเราก็ไม่หยุดคิดว่าจริงๆแล้วมีสิ่งที่ว่านี้หรือไม่ เราคิดถึงแก้ว เรามองเห็นแก้ว เรากินน้ำจากแก้ว โดยทั่วไปเราไม่คิดว่า แก้วนั้นเป็นแก้วได้เพียงเพราะเราไปกำหนดเรียก หรือไป บัญญัติ เรียกมันเข้าเท่านั้น นั่นคือ เราไปกำหนดขอบเขตหรือขอบนอกของสิ่งนี้ ว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ นอกจากนี้ไม่ใช่ รูปร่างแบบนี้จึงเรียกว่า แก้ว ทั้งๆที่จริงๆแล้ว มันเป็นสสารธาตุ หรือเป็นของๆมันเองอยู่อย่างนั้นเอง การเป็นเช่นนี้ก็คือ แก้วเป็นความว่าง ก็คือรูปคือความว่างนั่นเอง…


    คัดลอกและอ้างอิงจาก
    สู ต ร แ ห่ ง ใ จ (เพลงสวด ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร)
    http://soraj.wordpress.com/tag/sunyata
     
  7. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ในเนื้อเพลงใช้คำว่า "สูญ"
    เช่น รูปคือความสูญ ความสูญนั่นแหละคือรูป ความสูญไม่อื่นไปจากรูป

    คำว่า "สูญ" ในเพลงอาจหมายถึง "ความว่าง" หรือ "สูญญตา" นั่นเอง
     
  8. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    พระตถาคตทรงประทับนั่งขัดสมาธิโพธิบัลลังก์เข้าฌานสมาบัติชื่อว่า ‘คัมภีราวสัมโพธะ’ แต่ก็ยังสามารถแสดงบรรดาอิริยาบถให้ปรากฏได้ ณ ที่นั่น

    คัดลอกและอ้างอิงจาก
    ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร (The Heart Sutra ) แบ่งกันฟัง



    ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่ภูเขาคิชกูฏใกล้กรุงราชคฤห์ พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ พระโพธิสัตว์หมู่ใหญ่ สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงเข้าสมาธิชื่อว่า คัมภีราวสัมโพธะ
    คัดลอกและอ้างอิงจาก http://www.watsanamnai.org/index.ph...Category=watsanamnaiorg&thispage=1&No=1387507
     
  9. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ป รั ช ญ า ป า ร มิ ต า ห ฤ ทั ย สู ต ร
    (แปลโดย พระตรีปิฏกธรรมาจารย์ ถังซำจั๋ง)



    พระอวโลกิเตศวร...........โพธิสัตว์ทรงปรัชญา
    ปรัชญาปารมิตา.............กอปร์ปัญญาอันลึกซึ้ง
    ทรงเล็งเห็นได้ว่า............ขันธ์ทั้งห้า ว่าง เปล่าจึง-
    เหตุให้ล่วงก้าวซึ่ง...........พ้นจากทุกขะทั้งปวง

    สารีบุตร

    รูป นั้น ไม่ต่าง ว่าง.........ว่าง ไม่ต่างจาก รูป ลวง
    รูป คือ ว่าง สรุปล่วง.......ว่าง คือ รูป มิผิดผัน
    เวทนา และ สัญญา........อีก สังขาร วิญญาณ นั้น
    ก็เป็นนัยเดียวกัน............คือความ ว่าง มิต่างเลย

    สารีบุตร

    ธรรมะสรรพธรรม............ล้วนมีธรรมเป็น ว่าง เหวย
    มิ เกิด มิ ดับ เฉย...........มิ สะอาด มิ สกปรก
    มิ เพิ่ม และ มิ ลด...........มิปรากฏปัจจัยยก-
    สู่ ชรา แก่เงิ่นงก.............และอีกทั้ง มรณา

    ใน ว่าง จึงไร้ รูป.............ไร้ เวทนา ไร้ สัญญา
    ไร้ สังขาร วิญญาณ หนา...(สรุป ไร้ เบญจขันธ์)

    ไร้ ตา และ ไร้ หู............ไร้ จมูก ไร้ ลิ้น ฉัน
    ไร้ กาย ไร้ จิต อัน..........(สรุป ไร้ อายตนะใน)

    ไร้ รูป และ ไร้ เสียง........ไร้ กลิ่น รส ก็ ไร้
    ไร้ สัมผัส อารมณ์ ไซร้.....(สรุป ไร้ อายตนะนอก)
    จึง ไร้ อวิชชา.................(ความ)ดับอวิชชา ก็ ไร้ ดอก
    มิ เพิ่ม มิ ลด หรอก..........(ความ)ดับ แก่ ตาย ไร้ เช่นกัน


    ไร้ ทุกข์ ไร้ นิโรธ............ไร้ สมุทัย ไร้ มรรค นั่น
    ไร้ แจ้งประจักษ์ พลัน.......ไร้ บรรลุ จงคำนึง

    แท้จริงล้วน ว่างไร้............ไม่มีอะไร ต้อง ลุ ถึง
    โพธิสัตว์พระผู้ซึ่ง.............ทรงปรัชญาปารมิตา
    มีจิต อิสสระ...................ปราศอุป-สรรค นานา
    เป็นจิต อิสสระ................ปราศอุป-สรรค นานา (ย้ำ)
    มิกลัว ธ จึงสา-................มารถก้าวพ้นมายามวล
    ทรงลุพระนิพพาน.............พระพุทธผ่านสามโลกล้วน
    ทรงลุอนุตตระ ควร...........ทรงสัมมาสัมโพธิ
    ทรงปรัชญาปารมิตา..........จงรู้ว่า ปัญญา สิ
    เป็นมนตรา มหาฤทธิ.........เป็นมนตรา แห่งความรู้
    เป็นมนตรา หาไหนทัน.......มนตร์ไหนนั่นฤาควรคู่
    ตัดทุกข์ทั้งปวง-สู่.............สัจจะแจ้ง ไร้เท็จเฉ

    จงหมั่นสวดท่องมนตรา......ปรัชญาปารมิตา(อย่าลังเล)

    (ว่า คเต คเต ปารคเต.............ปารสังคเต โพธิ สวาหา ฯ
    (ไป ไป ไปยังฟากฝั่งโน้น...ไปให้พ้นอย่างสิ้นเชิง ตรัสรู้ เบิกบาน)


    หมายเหตุ :

    ที่ใส่วงเล็บนั้นเป็นข้อความที่ผู้แปลเติม
    เพื่อความชัดเจน เข้าใจง่าย และต้องฉันทลักษณ์
    กลอนธรรมะบทนี้เขียนไว้ตั้งแต่ 10 พค. 2538
    เพื่อให้ตนเองจำได้ง่าย

    คัดลอกจาก http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=dingtech&month=14-07-2010&group=11&gblog=1
     
  10. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
  11. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ปรัชญาปารามิตาหฤทัยสูตร (พระสูตรว่าด้วย แก่นแท้แห่งมหาปัญญาสู่ความรู้แจ้ง)
    แปลโดย Astro Neemo
    หมายเหตุผู้แปล เนื่องจากพระสูตรนี้นับเป็นหัวใจและแก่แท้ของปรมัตถ์ธรรมขั้นสูงยิ่ง เป็นปัญญาญาณขั้นปรัมัตถ์เข้ากันได้ทั้งฝ่ายมหายานและเถรวาท และมีหลายๆสำนวนแปลที่เคยแปลมาก่อนหน้านี้ แต่สำนวนของผมเป็นสำนวนแปลตามความเข้าใจและความรู้สึกของผมเอง โดยเน้นแปลที่อรรถะตามความหมายที่เข้าใจ และบางครั้งไม่แปลตามพยัญชนะ ตัวอักษรทั้งหมด ดังนั้นมิควรนำสำนวนแปลนี้ไปเปรียบเทียบกับท่านอื่นๆที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ ที่แปลได้ดีกว่า อย่างไรก็ตามสามารถนำไปเผยแพร่ได้ตามความเหมาะสมและไม่สงวนสิทธิ์ใดใด ขอแต่เพียงแจ้งว่า สำนวนที่แปลนี้ เป็นการแปลตามความเข้าใจและความต้องการอยากแปลให้เข้าใจง่ายเท่านั้น ทั้งนี้ย่อมมีข้อผิดพลาดมากอยู่

    อริยาวโลกิเตศวาโร โพธิสัตตโว คัมภีรํ ปรัชญาปารมิตา จารยํ จารมโน วยาวโลกยาติ สมา ปัญจะ สกันธัส (ขันธะ) ตัมส จะ สว ภว ศุนยํ
    观自在菩萨行深般若波罗蜜多时, 照见五蕴皆空度一切苦厄ในสมัยหนึ่งพระพุทธองค์ประทานเทศนาแด่พระสารีบุตร กล่าวถึงการบำเพ็ญธรรมของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ดังนี้ว่า
    “ พระอวโลติเกศวรโพธิสัตว์(กวนอิม) ขณะบำเพ็ญวิปัสนาญาณแล้วบังเกิดปัญญาญาณอันยิ่ง เพ่งพิจารณาในขันธ์ ๕ ทั้งปวงแล้วรู้ชัดด้วยปัญญาญาณว่า ขันธ์ ๕ ทั้งหลายล้วนคือความว่าง คืออนัตตา คือความเป็นศูนย์ หากสรรพสัตว์ทั้งหลายมีปัญญาเห็นตามดังนี้ ย่อมข้ามพ้นซึ่งทุกข์ทั้งปวง”
    ปัศยาติ สมา อิหา ศารีปุตระ รูปํ ศุนยตา วะ รูปํ รูปํ นะ ปฤถักศุนยตา ศุนยตายะ นะ ปฤทัก รูปํ ยัท รูปํ สะ ศุนยตา ยะ ศูนยตายะ สะ รูปํเอวัม เอวะ เวทนท สังชญา (สัญญา) สังสการา (สังขาร) วิชญานัม (วิญญาณ)舍利子,色不异空空不异色,色即是空空即是色,受想行识亦复如是ดูกร! สารีบุตร รูปไม่ต่างจากความว่าง ความว่างไม่ต่างจากรูป รูปคือความว่าง ความว่างคือรูป แม้ที่สุด เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณก็ล้วนว่างเปล่า
    อิหา ศารีปุตระ สารวะ ธารมะ ศุนยตา ลักษณะ อนุตปัณณะ อนิรุทธะ อวิมาละ อนูนะ อปาฤปูฤณะ ตัสมา ศารีปุตร ศุนยตายํ
    舍利子,是诸法空相不生不灭,不垢不净不增不减,
    ดูกร สารีบุตร ธรรมทั้งปวงล้วนว่างเปล่า ไม่เกิด ไม่ดับ ไม่มัวหมอง ไม่ผ่องแผ้ว ไม่มีเพิ่ม ไม่มีลด
    นะ รูปํ นะ เวทานา นะ สังชญา นะ สังสการ นะ วิญญาณนะ จักษุ โสรตัม นะ ฆราน ชิว กาย มนนะ รูป ศัพท คันธ รส ศปิสตาวยา ธารมานะ จักษุ ธาตุ ยะ วัน นะ มโน วิชญาณัม ธาตุ
    是故空中无色无受想行识,无眼耳鼻舌身意,无色声香味触法无眼界乃至无意识界ดังนั้นด้วยเหตุนี้ ในความว่างย่อมไม่มีรูป ไม่มีเวทนา ไม่มีสัญญา ไม่มีสังขาร ไม่มีวิญญาณ และย่อมไม่มีการสัมผัสรับรู้ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จึงไม่มีรูป ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น ไม่มีเสียง ไม่มีการรับรู้ทางสัมผัสและธรรมารมณ์ ย่อมไม่เกิดจักษุวิญญาณ ฯลฯ จนกระทั่งที่สุดย่อมไม่มีมโนวิญญาณ (เกิดขึ้น)
    นะ วิทยา นะ วิทยา กศโยยะ วัน ชรามรณัม นะ ชรามรณัม กศโยนะ ทุกข สมุทย นิโรธ มฤคาชณ นะ ชญานัม นะ ปราปติ นะ ภิศมายะ ตัสมา นะ ปราปติ无无明亦无无明尽乃至无老死亦无老死尽无苦集灭道无智亦无得以无所得故
    ไร้ซึ่งอวิชชา และไร้ซึ่งที่สุดแห่งอวิชชา (วิชชา) ไร้แม้กระทั่ง ชาติ ชรา มรณะ และที่สุดแห่งชาติ ชรา มรณะ ไร้ความทุกข์ (ทุกข์) ไร้เหตุแห่งทุกข์(สมุทัย) ไร้การดับทุกข์(นิโรธะ) ไร้หนทางที่ดำเนินไปสู่ทางดับทุกข์ (มรรค) ไร้ปัญญา ไร้การบรรลุ เพราะไม่มีอะไร(จะ)ให้บรรลุ
    ตวัท โพธิสัตตวะ ปรัชญาปารมิตา อศฤตยา วิหาระ ตยา จิตตา วรโนนะ สิทธิตวัท อตรัสโต วิปา ฤยส ติ กรานโตนิ สถา นิรวานะ ตยา ธยา วยาว สถิตาสาระ พุทธา ปรัชญาปารมิตัม อศฤตยาอนุตตรํ สัมยักสัมโพธิง อภิสัมพุทธา
    菩提萨陲依般若波罗蜜多故,心无罣碍无罣碍故,无有恐怖,远离颠倒梦想究竟涅盘,三世诸佛依般若波罗蜜多故得阿耨多罗三藐三菩提
    พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ด้วยเหตุที่ได้ดำเนินตามมหาปัญญาอันเป็นปรมัตถ์นี้(ปรัชญาปารามิตา) จิตย่อมไม่วิตก(กังวล) เพราะจิตไม่วิตกกังวล(สับสนมืดมัว) จิตจึงมี(ความตั้งมั่น)ไม่หวาดหวั่น (ย่อมเป็นผู้)ห่างไกลจากมิจฉาทิฐิทั้งปวง มีพระนิพพานเป็นที่สุด
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายแม้ในอดีต ปัจจุบัน และจักมีในอนาคต ล้วนอาศัยเหตุของการดำเนินตามและพิจารณาด้วยปัญญาอันยิ่งนี้ (ปรัชญาปารามิตา) ด้วยความเห็นตรงเยี่ยงนี้ (สัมมาทิฐิ ) (ตามข้างต้นนี้แล้ว) จึงได้บรรลุสู่ญาณแห่งความรู้แจ้งอันสูงสุด ซึ่งไม่มีสิ่งใดยิ่งกว่า (อนุตรสัมมาสัมโพธิญาน)
    ตา สมา ชญตา วยัม ปรัชญาปารมิตา มหามันตรัม มหาวิทยามันตรัมอนุตตรมันตรัม อสมสมา มันตรัมสารว ทุกขา ปรสามานัม สัตยํ อมิตยัทวัทปรัชญาปารมิตายัม อุทโท มันตรา ตัทยาถา
    故知般若波罗蜜多 ,是大神咒是大明咒是无上咒 ,是无等等咒能除一切苦真实不虚, 故说般若波罗蜜多咒,即说咒曰 :
    (ด้วยเหตุนี้ๆ) จงทราบไว้ว่า “ปรัชญาปารามิตา”เป็นมหาศักดาธารณี(มนต์) เป็นมหาวิทยาธารณี(มนต์) เป็นอนุตรธารณี (มนต์)เป็นอสมธารณี(มนต์) สามารถดับสรรพทุกข์ทั้งหลายให้หมดสิ้นไปได้ ด้วยสัตยาทิษฐาน(สัจจะอันไม่เป็นเท็จ)นี้ ฉะนั้นจึงได้ประกาศ “ปรัชญาปารามิตามหาธารณีมนต์”ดังนี้
    คะเต คะเต ปาระคะเต ปาระสังคะเต โพธิ สวาหา
    揭谛揭谛波罗揭谛,波罗僧揭谛,菩提娑婆诃(ไป ไป ไปสู่ฝั่งโน้น ฝั่งแห่งพุทธะ ฝั่งพระนิพพาน สวาหา)
    ………………………จบปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร…………….๑๘ เมษา ๒๕๕๒ เวลา๑๐.๑๘ น. Astro Neemo

    คัดลอกจาก
    ปรัชญาปารามิตาหฤทัยสูตร
     
  12. oattza

    oattza สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +0
    อนุโมทนา
     
  13. lomnow

    lomnow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +352
    ห่างไปนานครับ
    ในที่สุด ก็ค้นพบ เพลงนี้

    ขอบคุณ นะครับ
     
  14. teww

    teww เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +1,534
    สาธุ ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ
     
  15. aonchaiya

    aonchaiya สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +0
    สวัสดีแม่นาง

    แม่นางช่างหามาได้เพราะมาก..ข้าพเจ้าขออนุโมทนาแด่แม่นางด้วย
     
  16. ปภัส

    ปภัส สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณครับผมใด้ความรู้จากบทเพลงนี้มากเลยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...