เรื่องเด่น พระพุทธพยากรณ์ที่ภูกระดึง : หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 30 มกราคม 2017.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    16406432_167846710372343_7317217952448472315_n.jpg


    1f52f.png พระพุทธพยากรณ์ที่ภูกระดึง 1f52f.png
    วันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๒๓

    1f6a9.png หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า เราเกิดบนภูกระดึงแห่งนี้มา ๓ วาระแล้ว ในสมัยสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่า "พระโกนาคม" เราเกิดบนภูกระดึงแห่งนี้ มีเนื้อที่ ๔ หมื่นไร่เศษ มีสภาพเป็นเกาะกลางทะเล ท่านปู่ และท่านย่าอินทิรา เป็นกษัตริย์ปกครองดินแดนนี้ มีลูกชายต่อมาได้เป็นพระราชาแทนพระราชบิดา สำหรับพระราชาองค์นี้ปรารถนาพระโพธิญาณอยู่ มีน้องชายเป็นพระเจ้าอนุราช มีนามว่า พระเจ้าวชิระราชา ชื่อเล่นว่า เจ้าชายตุ่ม(พลตรีศรีพันธ์ แดง วิชชุพันธ์) เพราะตอนเด็กอ้วน โตแล้วไม่อ้วน

    1f331.png ในสมัยนี้เอง สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโกนาคม เสด็จมาโปรดบนภูกระดึง มาประทับที่พระราชวังซึ่งทำด้วยไม้ธรรมดาๆ ไม่ใหญ่โตนัก เป็นสถานที่รับรองสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า เวลานั้นประชาชนมีศีล ๕ กันเป็นส่วนมาก องค์สมเด็จพระจอมไตรทรงเทศน์โปรดให้ฟัง...ถึงตอนไหน ภาพก็ปรากฎแก่ผู้ฟังด้วยอำนาจพุทธานุภาพ

    ⛤⛤พระองค์ตรัสว่า "...ตอนพวกเราเป็นเทวดามีรูปร่างอย่างไร มีวิมาน ทิพยสมบัติเป็นประการใด ก็มีภาพในตอนที่เราเป็นทวดาปรากฏทันที เราเคยเกิดเป็นพรหมแล้วกี่ชาติ แต่ละชาติมีรูปร่างอย่างไร มีวิมาน มีความสุขอย่างไร ภาพตอนนั้นเป็นพรหมก็ปรากฏทันที ทุกคนเห็นภาพตัวเองตอนเป็นเทวดา เป็นพรหม มีความสุขด้วยอำนาจของความดี ทั้งนี้ด้วยอำนาจพุทธานุภาพ และพระองค์ทรงชี้ให้เห็นว่า แล้วเราต้องกลับมาเป็นคนอีก การเกิดทีไรมันก็มีแต่ความทุกข์ เกิดมาทีไรมันก็แก่ แล้วเกิดมาทีไรมันก็ตาย

    1f334.png พระองค์ทรงเน้นเรื่องการตาย การเกิดเป็นเทวดาเป็นสุขกว่าเกิดเป็นคน แต่ก็พักทุกข์ชั่วคราว การเกิดเป็นพรหมมีความสุขกว่าการเกิดเป็นเทวดา แต่แล้วก็กลับมาเกิดเป็นคนอีก ความสุขตอนเป็นเทวดาสู้ความสุขตอนเป็นพรหมไม่ได้ แล้วพระองค์ก็จบลงด้วยความสุขบนพระนิพพาน เป็นสุขที่สุด พระพุทธองค์ทรงรับรอง จบพระธรรมเทศนา หลายคนเป็นพระอริยเจ้า เพราะศีล ๕ เขาบริสุทธิอยู่แล้วเป็นปกติก็เป็นของไม่ยาก โดยเฉพาะท่านปู่ ท่านย่า เวลาสิ้นชีพตักษัยเป็นพระอริยเจ้าขั้นพระอนาคามี แต่เวลานี้ท่านไปพระนิพพานแล้ว

    1f33f.png ประชาชนส่วนใหญ่เป็นพระอริยเจ้า แต่หัวหน้าคือพระราชาผู้ครองประเทศได้ไตรสรณาคมน์ เพราะปรารถนาพระโพธิญาณ และมีบุคคลใกล้ชิดอีกพวกหนึ่งขอติดตามหัวหน้าไปด้วย เลยไม่มีโอกาส ท่านที่เป็นพระอริยเจ้ากราบทูลขอบวชเป็นพระภิกษุ และภิกษุณี พระพุทธองค์ทรงบวชให้ด้วย "เอหิภิกขุ อุปสัมปทา เจ้าจงมาเป็นภิกษุมาเถิด" จีวรที่สำเร็จด้วยฤทธิ์ก็มาสวมกาย ศีรษะก็โล้นเป็นภิกษุ นี่ด้วยอำนาจพุทธานุภาพ และบุคคลผู้บวชเคยถวายผ้าไตรจีวรไว้ในพระพุทธศาสนามาก่อน

    1f340.png 1f33a.png ตอนหนึ่งของพระธรรมเทศนา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโกนาคมตรัสว่า "ตอนที่เราเกิดเป็นพรหมน่ะไม่ใช่หลับตาปี๋ เพราะเรามีสังคหวัตถุ ๔ และมีพรหมวิหาร ๔ เราทรงแบบนี้ได้เป็นปกติแบบสบายๆ (นี่แหละอารมณ์เป็นฌานไม่ใช่นั่งหลับตาปี๋จึงจะเป็นฌาน) พวกเราทำหนักมาในด้าน "ทาน" ใจก็คิดเสมอในการให้ทาน ก็เป็นฌานในจาคานุสติกรรมฐาน จิตทรงอารมณ์แบบนี้จนชินก็เป็นอารมณ์ฌาน (ฌาน ก็คือ อาการชิน ทำจนชิน) ตายแล้วก็ไปเป็นพรหมได้"

    ✡⛤ ตอนนี้หลวงพ่อเน้นว่า "พวกเราเดินตามปฏิปทาเดิมของเราคือ "ทางสายกลาง" อย่าเปลี่ยนทางเดิน "การเครียด" ไม่ใช่ทางของพวกเรา จะทำให้ช้าลง เพราะเป็นอัตตกิลมถานุโยค แทนที่จะก้าวไปหน้ากลับไปไม่ถึง" ขณะนั้นองค์สมเด็จพระทรงธรรม เสด็จมาโปรดอีกว่า "ชาตินี้พวกเราควรจะพอกันเสียที เกิดทุกชาติ ก็ตายทุกชาติ เคยเป็นใหญ่ เคยเป็นกษัตริย์นี่ทรัพย์สินมากมาย เอาติดมาไม่ได้เลย"

    2734.png2734.png ✴แล้วพระพุทธองค์ก็ทรงเน้นสรุปว่า
    ✔๑. ให้นึกถึงมรณานุสติกรรมฐานไว้ เพราะเป็นสมถะ และตัดสักกายทิฏฐิไปด้วย เพราะคิดถึงความเสื่อมคือความตายเป็นปกติ
    ✔๒. มีอนุสติครบ เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์
    ✔๓. ทรงศีลบริสุทธิ์
    ✔๔. นึกถึงพระนิพพานเป็นอารมณ์

    2734.png ✴✡ 2734.png ✴ พระพุทธองค์ตรัสว่า "พวกเราทำ ๔ ข้อนี้ให้ได้ ไปนิพพานหมด ไม่ต้องทำอะไรมากมายไปกว่านี้ เพราะเราทำทุกอย่างมาเต็มหมดแล้ว" 2734.png ✴✡ 2734.png

    2693.png ⚓ในคราวนั้นเมื่อองค์สมเด็จพระทรงธรรม์พระพุทธโกนาคมทรงเทศน์จบ หัวหน้าคือกษัตริย์ท่านปรารถนาพระโพธิญาณ เข้าขอรับคำพยากรณ์จากพระพุทธองค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสพยากรณ์ว่า จะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า ✡"สมเด็จพระอุตตรสมณโคดม"✡ แต่ในสมัยสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่า สมเด็จพระสมณโคดม ก็จะลาจากพุทธภูมิเสียก่อน เพราะจะช่วยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะเวลานั้นมีคนกลุ่มหนึ่งติดตามหัวหน้าคือกษัตริย์ คนกลุ่มนั้นจึงยังไม่ไปนิพพาน" 1f331.png1f33c.png

    2734.png ✴✡ หลวงพ่อพระราชพรหมยานมหาเถระ วัดท่าซุง อุทัยธานี
    ✒✏ จากหนังสือ "อนุสรณ์ครบรอบ ๑๐๐ ปีเกิด หลวงพ่อพระราชพรหมยาน"(ปกแข็ง สีทอง) หน้าที่ ๓๓ - ๓๕

    2734.png2734.png ✴ พิมพ์โดยพระภิกษุ Thamma Sukkho อนุเคราะห์ถวายหนังสือมาโดยอุบาสิกาทัศนีย์ อาจบุตร (ชีแต๋ว)ครูฝึกกรรมฐาน วิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร วัดท่าซุง
    ถวายอุปกรณ์เครื่องแทบเลตเพื่อสะดวกในการพิมพ์โดยคุณยุพยง พัฒนเจริญ

    2734.png ✴อาตมาขอโมทนาในผลบุญที่ท่านทั้งหลายได้บำเพ็ญในมหากุศลธรรมทานนี้ รวมท่านทั้งหลายที่ศึกษาและนำไปปฏิบัติ ขอจงได้รับผลานิสงส์ในส่วนธรรมทานนี้จนถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ทุกคนทุกท่าน เทอญฯ

     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,044
    มีความเป็นไปได้สูงถ้า
    พระพุทธท่านนั้นคือองค์ที่ ๓
    ในกัปล์นี้ครับ
     
  3. nanbatakeshi

    nanbatakeshi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2011
    โพสต์:
    19,658
    ค่าพลัง:
    +20,885
    โมทนาบุญสาธุครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...