เรื่องเด่น ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!!! สืบจากพยานบุคคล อายุหลวงปู่สรวงมากกว่ามนุษย์ธรรมดา จากคำสัมภาษณ์หลวงพ่อสร้อย วัดเลียบฯ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 23 มกราคม 2017.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,209
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,711
    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!!! สืบจากพยานบุคคล อายุหลวงปู่สรวงมากกว่ามนุษย์ธรรมดา จากคำสัมภาษณ์หลวงพ่อสร้อย วัดเลียบฯ

    tnews_1471498423_6932.jpg

    หลวงปู่สรวง คือเรื่องราวของผู้วิเศษท่านหนึ่ง ที่กล่าวขานกันว่าท่านคือผู้วิเศษแห่งภูตะแบง บ้างก็ว่าท่านคืออริยะเจ้าแห่งทุ่งละลม หากกล่าวถึงหลวงปู่สรวงท่านแล้วคงกล่าวได้ว่า ไม่มีใครที่มีความลึกลับเท่าท่านอีกแล้ว เพราะไม่มีใครเคยรู้ว่าแท้จริงแล้วท่านคือใครมาจากไหน อายุเท่าไหร่
    04_jpg.jpg

    (หลวงปู่สรวง)

    แม้กระทั่งท่านเป็นพระหรือฤๅษีก็ไม่ทราบ ไม่มีใครบอกได้ แต่สำหรับในใจของใครต่อใครหลายคนต่างทราบดีว่าหลวงปู่คือพระแท้ พระทอง เป็นเพชรเม็ดงามแห่งที่ราบสูงโคราช เป็นที่พึ่งแก่ชาวสุรินทร์ ศรีษะเกษ ตราบถึงชาวเขมรทั่วไป
    เรื่องราวของหลวงปู่สรวงเป็นความลี้ลับแห่งทุ่งละลมที่ยาวนานมาหลายชั่วอายุคน เป็นเรื่องที่ประจักษ์ด้วยสายตาของชาวบ้านทุกคนทั้งใกล้และไกลถึงอิทธิปาฏิหาริย์ที่ท่านแสดง แม้วันนี้หลวงปู่สรวงจะละสังขารไปแล้วก็ตามแต่เรื่องราวของท่านก็ยังเป็นที่สนใจ และที่สำคัญอย่างยิ่งคือยังมีปรากฏการณ์ปาฏิหาริย์ภายหลังจากที่ท่านละสังขารไปแล้วเสมอๆ
    ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่สรวงและความลี้ลับของท่านยังดำเนินอยู่ต่อไปแม้เวลาจะล่วงเลยมานานนับร้อยๆปี และจะยังคงดำเนินต่อไปเหนือกาลเวลา


    หลวงพ่อสร้อย ท่านเป็นพระเขมร เล่าว่าท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่สรวงเทพเจ้าเดินดินของชาวเขมรและชาวศรีษะเกษ
    ผู้เขียนเองได้ยินได้ฟังมาด้วยตนเองเกี่ยวกับหลวงพ่อสร้อยและหลวงปู่สรวงดังนี้ว่า

    get_auc1_img(1).jpg

    (หลวงปู่สรวง กับหลวงพ่อสร้อย)

    "หลวงพ่อสร้อยท่านเกิดเมื่อตอนที่สงครามกลางเมืองของเขมรกำลังระอุ
    ชาวบ้านต้องอพยบย้ายถิ่นฐานมาตามแนวตะเข็บชายแดน ซึ่งเต็มไปด้วยอันตรายจะกระสุนปืน ลูกระเบิดกำดับระเบิด
    หลวงพ่อสร้อยหรือเด็กชายสร้อยในขณะนั้นรวมทั้งชาวบ้านจำนวนมากก็ได้พึ่งพาอาศัยพระภิกษุชรารูปหนึ่งคือหลวงปู่สรวง
    หลวงปู่สรวงท่านนี้เป็นพระลึกลับไม่มีใครรู้ว่าท่านคือใครมาจากไหนมีความเป็นมาอย่างไร
    ทราบแต่ว่าผู้เฒ่าผู้แก่หลายคนบอกว่าเกิดมาก็เห็นหลวงปู่สรวงท่านเป็นแบบนี้แหละไม่เห็นแก่จนตัวเองแก่เข้าไปเจ็ดสิบแปดสิบท่านก็ยังเหมือนเดิม
    มีคนเห็นท่านหลายรุ่นผ่านมาจนคำนวณได้ว่าอายุท่านต่ำๆก็ต้องไม่น้อยกว่า ๒๕๐ ปีเป็นแน่แท้"

    เรื่องนี้ยืนยันได้จากปากชาวบ้าน ตอนที่หลวงพ่อสร้อยมรณภาพใหม่ๆ
    ผู้เขียนได้ไปกราบศพได้พบน้องชายของท่านจึงได้สนทนาเรื่องหลวงปู่สรวง นองชายของหลวงพ่อสร้อยมีอายุร่วม ๗๐ ปีเข้าไปแล้ว
    ก็เล่าในทำนองเดียวกันว่าปู่ของท่านก็เคยเห็นหลวงปู่สรวงมาแต่เล็ก
    พ่อของท่านก็เคยเห็นหลวงปู่สรวงมาแต่เด็ก รวมทั้งตัวท่านเองก็เห็นหลวงปู่สรวงมาแต่อายุยังน้อย จึงเชื่อแน่ๆว่าท่านต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า ๒๕๐ เป็นแน่

    978-974-258-549-5.jpg

    (หนังสือขายดี จาก สนพ.กรีนปัญญาญาณ)

    ทิพยจักร : เรื่อง
    จากหนังสือ : หลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน

    -----------------------------------
    ที่มา
    http://panyayan.tnews.co.th/contents/200507/
     
  2. เร่งธรรม

    เร่งธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +60
    ผมเองไม่มีประสบการณ์ตรงนะครับ แต่จะขอเพิ่มเติมให้ในมุมของ ครอบครัวผมครับ ผมได้คเยถามยายผมตอนยายผมยังไม่ตายยายก็บอกคล้ายๆคนอื่นว่า ยายเองก็เห็นหลวงปู่มาตั้งแต่ยังเด็กๆแล้ว หลวงปู่ก็แก่รุ่นๆตาของยายนั้นแหละลูก(ยายคุยกับผม)ยายผมตายมาได้5ปีแล้วครับ มาเรื่องแม่ผมบ้างครับ ตอนก่อนผมเกิดนิดหน่อย(ผม 34ปีครับ)ตามความเชื่อคนแถวบ้านผมนะครับ ก็คือแม่ผมเป็นบ้าสติไม่ค่อยดีครับ เชื่อว่าโดนของตอนนั้นหลวงปู่สรวงไม่ทราบว่าเดินทางมาจากใหนก็ไม่ทราบตรงเข้ามาที่บ้านครับนุ่งขาวห่มขาวแบบสกปรกมอมแมมมาก เข้ามาถึงก็พูดกับยายผมว่าเอาไอ้นี่ฝากไว้ให้ไอ้หนูหน่อย(ขอไม่บอกว่าเป็นอะไร)ยายก็รับไว้แบบงงๆ และก็คิดว่าคนคนนี้คือใคร หน้าตาคุ้นๆแต่นึกไม่ออก และไอ้นี่จะรับไว้ดีมั้ย ก็สรุปว่ารับไว้แบบงงๆ พอตกตอนเย็นแม่ผมกลับมาเห็นของสิ่งนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าหลวงปู่มาช่วยแล้วซักไซร้ไล่เรียงการแต่งเนื้อแต่งตัวจนแน่ใจว่าไช่หลวงปู่จึงได้นำสิ่งนั้นมาปรุงเป็นยารักษา อาการก็ดีวันดีคืนครับปัจจุบันแม่ผมหายดีมาได้ 15 ปีแล้วครับ มาว่าเรื่องของพ่อผมบ้างครับ สมัยนั้นประเทศเขมรมีสงครามหลายฝ่าย ประเทศไทยแลนแดนสยามของเราก็ไม่พ้นเดือดร้อน ด้วยนโยบายรัฐกันชน พ่อผมจึงได้มีส่วนเกี่ยวข้องในดินแดนประเทศเขมร(พ่อผมเป็นทหารรับจ้างครับ)ตอนนั้นเพื่อนๆของพ่อต่างก็เจ็บบ้างตายบ้างจนแทบไม่มีเว้นแต่ละวัน(พ่อเล่า)พ่อก็พกเครื่องรางหลายอย่างครับ แต่วันนึงพ่อโชคดีตอนที่ไปหาน้ำอาบได้พบหลวงปู่โดยบังเอิญก็เลยขอความเมตตาจากท่าน ขอของดี ท่านว่าไม่มี ขอคาถาท่านว่าไม่ให้ แต่พ่อผมก็ตื้อจนท่านบอกว่ามีกระดาษและปากกาไหม พ่อผมมีติดมาพอดีครับ ท่านก็เขียนบางอย่างให้ จากนั้นท่านก็เดินจากไป ถึงตรงนี้ผมก็ได้ถามพ่อว่าตอนนั้นท่านเหมือนคนอายุเท่าไหร่ พ่อก็ว่า คล้ายๆคน60-65ได้ ครั้งนึงตอนออกลาดตระเวนคนที่เดินนำหน้าเอามือไปปัดโดนกับระเบิด(ระเบิดราว)คนนำหน้าตายเละไม่มีชิ้นดี พ่อผมเดินตามเป็นคนที่สองรอด พ่อโดนอันตรายหลายครั้ง เล่าไม่หมด เอาแค่ที่น่าจะตายแต่ไม่ตายคือ เสื้อที่ไส่ เป้ที่สะพายมีรอยสะเก็ดระเบิดนับรูไม่ได้ว่ากี่รู คือต้องทิ้ง พ่อถึงกับสลบไปเลย แต่ก็ไม่มีแผลฉกรรให้ได้บาดเจ็บมากมาย แค่ถลอกๆ พ่อก็ไม่ได้สรุปว่ารอดเพราะอะไรครับ พอมาถึงผมบ้างครับได้คุยกับหลวงปู่ก็ผ่านร่างทรงเวลาที่มีทุกข์ก็ขอให้ท่านช่วยท่านก็จะเมตตามาช่วยสงเคราะห์ครับ ท่านที่ได้อ่านอาจจะสงสัยไช่มั้ยครับว่าจะเชื่อได้อย่างไรว่าไช่หลวงปู่สรวงลงประทับทรง ประการแรกนะครับ หลวงปู่ได้บอกให้ครอบครัวผมไปเอาเส้นผมของท่านที่มีคนเก็บไว้บูชาตอนที่ท่านยังไม่ละสังขาร โดยที่ผู้นั่งทรง และผู้ที่เก็บรักษาไว้ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนครับ บ้านผม และผู้ทรงอยู่ อ.กันทรลักษ์ ผู้เก็บเส้นผมหลวงปู่ไว้ อยู่ทุ่งละลม อ.ภูสิง ประการที่สอง พอได้เส้นผมมาแล้วหลวงปู่ก็บอกให้พ่อเอาเส้นผมและสิ่งที่หลวงปู่เคยให้ เอามาแบ่งให้ลูกๆ ผมถึงได้พึ่งรู้เดี๋ยวนั้นเองว่าพ่อผมเคยได้เจอหลวงปู่มาก่อนแล้วและเคยได้ของดีมา ผมเลยรีบขอแบ่งโดยด่วนครับ ก็เป็นหลวงปู่ ผ่านร่างทรงนั่นแหละครับที่จัดแจงแบ่ง โดยการฉีกกระดาษแผ่นเล็กๆนั่นมาวางแล้วเอาเส้นผมมาทับแล้วก็ห่อด้วยหางว่าวของหลวงปู่พร้อมกับสั่งว่า ห้ามแกะ คนอื่นๆล่ะครับ หลวงปู่ให้ของดีแล้วสั่งห้ามแกะเหมือนผมหรือเปล่า มีอีกเยอะครับ วันนี้เอาแค่นี้ก่อน เล่าให้ฟังเพื่อเพิ่มเติมจากท่านอื่นครับ สำหรับผมรัก เคารพหลวงปู่สุดหัวใจ
     
  3. Suttipong[61]

    Suttipong[61] จะดีจะชั่วเลวอย่างไรจิตตัวเองต้องมีสติอยู่เสมอ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +273
    การจะศรัทธาใครสักคนจะต้องศรัทธาจริงๆถึงจะมีผล...ฉะนั้นพระภิกษุบางรูปท่านอาจจะไม่เหมือนพระภิกษุในเมืองที่เจริญแล้วแต่การปฏิบัติในทางวินัยแทบจะไม่มีเอาเสียเลย....แต่ภิกษุที่ท่านได้ปฏิบัติถึงพร้อมในไตรสิกขาลักษณ์หรือเรียกว่าจบเจนในไตรลักษณ์ย่อมเป็นพระอเสขะบุคคลหมายถึงพระอรหันต์นั้นเองเจริญธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...