เรื่องเด่น ครั้งแรกกับการนอนโลงสะเดาะเคราะห์ เลยเจอดีเข้าจังๆ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย The eyes, 26 พฤศจิกายน 2016.

  1. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    เรื่องจริง ที่เกิดขึ้นจริงโดยตรงสดๆร้อนๆเมื่อตอนต้นเดือนที่ผ่านมา

    เราเป็นคนที่โตมากับความเชื่อในเรื่องลี้ลับ เนื่องจากคุณตาเป็นตำรวจเก่าประจำชายแดนเขมร ทางภาคอิสาน ไปรบที่เขมรอยู่บ่อยครั้ง (ที่มีเรื่องกระทบกระทั่งเรื่องเขตแดน) มีสาวเขมรติดพันธ์อยู่ คนสองคนเหมือนกัน (อันนี้นอกเรื่อง) จึงมีวิชาของขลังอยู่บ้าง หลายแขนง (เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังทั้งที่เจอมากับตา ทั้งลุงป้าน้าอา คนในหมู่บ้านเล่าให้ฟัง) ก็เลยพอจะเชื่อว่ามีอยู่จริง เคารพศัทธาเรื่องการสักน้ำมัน แต่ไม่เคยงมงาย หรือเคร่งอะไรมาก (เราจบ ป. โท ด้านวิทยาศาสตร์ แต่ก็ยังเชื่อค่ะ)
    เมื่อปลายเดือนที่แล้วเรารู้สึกจิตตก รู้สึกไม่ดีมีลางสังหรณ์แปลกๆ รู้สึกนึกถึงแต่พระ นึกถึงวัดเหมือนอะไรมาดลใจ อยากไปนั่งสงบจิตใจในโบสถ์ ก็เลยชวนคุณแฟนไป เราตกลงไปที่วัดแถวบางปู นั่งสมาธิสักพักใหญ่ๆ ทำบุญแผ่เมตตา ก็รู้สึกดีขึ้น จึงพากันกลับคอนโด ตอนก่อนนอนก็สวดมนต์ยาว ทั้งพุทธคุณ ทั้งพาหุง แผ่เมตตา ตอนนั้นก็ยังไม่มีอะไร วันต่อๆมาก็รู้สึกจิตตก ใจหายอีกแล้ว เลยตัดสินใจหาดูในเน็ตเรื่องการสะเดาะเคราะห์ จึงมาจบที่การนอนโลง ไม่รอช้าค่ะ พรุ่งนี้วันอังคารเลยชวนคุณแฟนไปเลย แฟนเห็นเราไม่สบายใจเขาก็พาไป ว่าง่าย

    ตอนนั้นไปวัดแถวนนทบุรีค่ะ พอไปถึงวัดก็จัดแจงไหว้พระ ทำบุญบริจาคโลงศพ เพื่อรอเวลา พิธีนอนโลงตอนเที่ยงครึ่ง พอใกล้เวลาก็จะทำบุญถวายสังฆทานกันก่อน จากนั้นก็เข้าไปทำพิธีข้างในศาลา และนอนโลง ตอนทำพิธีก็ไม่ได้กลัวอะไรค่ะ จิตใจรำรึกถึงแต่พระ ครูบาอาจารย์ที่เคารพนับถือ และอุทิศส่วนกุศล บอกคุณแฟนถ่ายรูปมาด้วยนะ นางก็ไม่ถ่ายค่ะนางกลัว เสร็จพิธีก็กลับคอนโดเลย มาถึงก็อาบน้ำเลยค่ะ แล้วเปิดประตูห้องระบายอากาศ สักพัก ชั้น 6 (เราอยู่ชั้น 7) มีเสียงเคาะประตูแรงมาก และเคาะโหดมาก ดังขึ้นมาถึงชั้นที่เราอยู่ เคาะอยู่เกือบครึ่ง ชม. จนคนอื่นๆในชั้นเราเปิดประตูออกมาดูหลายห้อง ห้องเราติดบันไดได้ยินชัดเจน จนแฟนเราออกมาดู และพูดว่าถ้าจะเคาะขนาดนี้พังประตูเข้าไปเหอะ จะอะไรขนาดนั้น (เราก็คิดว่าอาจเป็นผัวเมียทะเลาะกันก็ไม่ได้สงสัยอะไร ) ก็ปกติไม่มีอะไร จนแฟนกลับ เราอยู่คนเดียว ก็เปิดทีวี เล่นเน็ตไปเรื่อยๆ สักเที่ยงคืนค่ะ ปัญหาเกิด

    ระหว่างที่เรานอนดูสารคดี ในมือถือ (ไม่เกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ) ก็ได้ยินเสียง ตึก ตึก เราก็มองไปที่ต้นเสียงค่ะ ยังไม่ใส่ใจอะไรมาก ก็เดาไปว่า เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้มันคงลั่น ไปเอง (มโนปลอบใจตัวเอง) ก็ดูสารคดีต่อ สักพักเกิดเสียงขึ้นอีกค่ะ ครื้นนนนนนนน ด้านบน เราก็ตกใจนิดหน่อยมองขึ้นไป ใจก็ยังคิดว่าชั้นข้างบนทำอะไรตกมั้ง (มโนเองอีก) ดูสารคดีต่อ ประมาณ10 นาที เอาอีก ครื้นนนนนนน ครื้นๆๆๆ เราเลยลุกจากที่นอนด้วยความหงุดหงิด ประมาณว่าเขาทำอะไรตก หรือลากอะไรตอนดึกหรือ เปิดประตูระเบียงซึงเป็นประตูกระจก ชะโงกหน้าออกไปดูข้างบน ปรากฏว่าห้องมืดค่ะ ไฟปิดสนิท ไม่มีเสียงแอร์ เหมือนไม่มีใครอยู่ห้อง เราก็เอิ่มมมมม โอเคไม่มีใครอยู่ ตอนนั้นรู้สึกตะหงิดในใจละแต่ยังไม่กลัวค่ะ เดินเข้าห้องปิดประตูระเบียงและล๊อค! ซึ่งปกติไม่เคยล๊อคประตูระเบียงเลย เนื่องจากอยู่ชั้น 7 และระเบียงไม่ติดห้องใคร มันไม่สามารถปีนหากันได้ ปิดผ้าม่านมิดชิด กลับมานั่งดูสารคดีต่อ จนเกือบๆจะตี 1 ครึ่ง ประตูระเบียงดังตึ้ง! ตึ้ง!

    คราวนี้เราสะดุ้งเลยค่ะ เลยพูดกับตัวเองว่า ลมปะว๊า จะพัดอะไรแรงขนาดนั้น พูดดังกว่าที่ควรจะเป็น ทั้งๆที่อยู่คนเดียว (เราจะไม่รู้สึกอะไรเลย ถ้าเราเปิดประตูหน้าห้อง และเปิดประตูระเบียง ลมมันจะผ่านเข้าห้องเย็นสบาย นี่ประตูหน้าห้องก็ไม่เปิด ลมมาจากไหน ซึ่งก่อนหน้าที่ออกไปนอกระเบียงก็พอรู้ว่าวันนี้มันไม่มีลม อากาศนิ่งมากๆ) นั่งมองไปที่ประตูระเบียงรู้สึกเหมือนผ้าม่านจะไหว ซึ่งเราเปิดแอร์ พัดลมต่ำ และแอร์ไม่ตกโดนผ้าม่านแน่ๆ เราเลยรีบมองไปทางทีวี แล้วพูดเสียงค่อนข้างดังอีกว่า โอ๊ยหิว ไปหาไรกินดีกว่า เลยหยิบเสื้อคลุม กระเป๋าตัง โทรศัพย์ กุญแจห้องออกมา กะว่าจะโทรหาเพื่อน หรือโทรหาแฟน หรือใครสักคน เปิดประตูห้องเดินมาที่ลิฟท์กดชั้น 1

    พอประตูลิฟท์ปิดก็รู้สึกโล่งใจค่ะ ถอนหายใจยาวๆ แล้วมาหยุดที่ชั้น4 เราก็มองขึ้นป้ายชั้นด้านบน ประตูก็ไม่เปิด เราก็กดๆไปที่ชั้น 1 พอไฟปุ่มกดติดเลข 1 ไฟเลข4 ก็ติดอีกเหมือนมีคนกด เราก็นิ่ง ถอยห่างออกจากที่กด คราวนี้เหงื่อแตกละค่ะ ขนลุกเลย แล้วจึงพูดว่าอย่ามาเสียตอนนี้นะ หิวข้าววว ก็กลั่นใจกดชั้นหนึ่งอีก ไฟที่ชั้น 1 ก็ติด แล้วลิฟท์ก็ไม่ลง เรานึกในใจ กุโดนละ ใช่เลย ก็ได้ๆ เลยบอกว่าไม่กินก็ได้วะเดี๋ยวอ้วน กดลิฟท์ขึ้นชั้น7 ปรากฏลิฟท์ขึ้นคร่าาาาาาา ประตูเปิดที่ชั้น 7 เราออกจากลิฟท์ ยืนมองไฟที่ลิฟท์ ก็ยังเห็นมันเลื่อนลงที่ชั้น 1ปกติ คิดในใจว่า แล้วเมื่อกี๊ไม่ให้กุไปล่าาาาาาา เดินกลับห้องมาปิดประตู เปิดไฟทุกดวง เปิดทีวี นอนไม่หลับเลย ประมาณตี2 กว่าๆ เกิดเสียงครื้นนนนนนนนบนเพดานอีก โอ๊ยตายยยยจะประสาทเอา สักพักประตูห้องเลยคร่าาาาาาาดังเหมือนมีคนเคาะ



    ปล.ขอบคุณเจ้าของเรื่อง : anrm
    ที่มา :http://m.pantip.com/topic/35839700?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 พฤศจิกายน 2016
  2. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    0พอได้ยินเสียงคนเคาะ เราก็คิดว่าแฟนมาหรือเปล่า หรือลมพัดมาที่ประตู เลยเดินไปดูที่ช่องตาแมว ก็ไม่เห็นมีใคร มองอยู่พักนึง เลยตัดสินใจเปิดประตูดู สงสัยว่าจะเป็นลมหรือเปล่า โดยยังคล้องโซ่ประตูไว้ เปิดอยู่พักนึงก็ไม่มีลมพัด เลยปลดโซ่ออก ออกมายืนหน้าประตูมองซ้ายขวา ก็ไม่มีลมสักนิด ก็คิดงงๆ หรือจะหูฝาด เลยปิดประตู ด้วยความที่คิดว่าอาจเป็นคุณแฟนเลยลืมความกลัวทั้งหมด ปิดประตูล๊อคทุกอย่าง แล้วเสียงโทรศัพย์ดัง! พ่อเจ้าประคุณเอ๊ยเกือบไม่ได้แก่ตาย อิเจ้าแฟนโทรเข้า (ยังกะหนังผีตุงแช่ ดีที่เสียงเพลงของคุณแฟนเราตั้งเสียงแตกต่าง) ถอนหายใจเหือกใหญ่ เดินมารับโทรศัพย์
    เรา: อิห่าโทรมาทำไมเวลานี้ ตกใจหมด ไมไม่หลับไม่นอน นี่แอบหนีเที่ยวอีกรึไงห๊ะ (แอบบหงุดหงิด ที่เขาทำให้ตกใจ)
    แฟน: นู๋ล่ะทำไมยังไม่นอน นอนไม่หลับหรอ
    เรา: ดูสารคดีอยู่เพลินๆน่ะ แล้วทำไมยังไม่หลับไม่นอน
    แฟน: นู๋........
    เรา:....
    เริ่มใจไม่ดี.....เงียบพักนึง
    แฟน: พี่คิดถึงเลยนอนไม่หลับ นู๋อาบน้ำยัง
    เรา: คิดถึงตอนตี2เนี่ยนะ แปลกแฮะ มีไรเปล่า มีไรกล่าวค่ะกล่าว
    แฟน:.......(เงียบ) อาบน้ำแล้วสวดมนต์ก่อนนอนด้วยนะ จะได้นอนหลับสนิท พรุ่งนี้จะได้สดชื่น
    เรา:........อย่ามาๆ มีอะไรพูดตรงๆเลย เจออะไรมาใช่ไหม
    แฟน: ........เปล่าหรอกแค่คิดถึงเฉยๆ นอนไม่หลับอ่ะ หนูอยู่คนเดียวกลัวมั้ย ให้ไปอยู่เป็นเพื่อนปะ
    เรา: ยังไม่ได้บอกว่ากลัวเลย ต้องกลัวอะไรหรอ พี่มีอะไรบอกหนูมาเถอะ หนูไม่กลัว จะได้รู้อย่ามาอ้ำๆอึ้งๆ
    แฟน: ...ไม่มี นอนได้ละ พรุ่งนี้พี่ไปหาแต่เช้านะ อยากไปตักบาตร เราไม่ได้ตักบาตรด้วยกันนานละ ฝันดีนะคะ
    เรา: เครๆ ได้ๆ เดี๋ยวอาบน้ำรอ ฝันดีค่ะ

    เราก็วางโทรศัพย์ในใจก็พอจะคิดได้ว่าอิเจ้าแฟนคงเจออะไรมาแน่ๆ เลยวางโทรศัพย์ไว้ที่เตียง แล้วกำลังจะไปอาบน้ำ เดินไปที่ห้องน้ำกำลังจะเปิดประตู เสียงก็มาอีก ตึงๆๆๆ ตึงๆๆ เราเดินไปที่ประตูมองที่ตาแมว (คราวนี้แน่ใจละค่ะ ว่าเสียงคนเคาะแน่ๆ) ก็ยังไม่เห็นมีใคร เลยบอกว่าจะเอาอะไรไม่เปิดให้ ไม่ให้เข้าไปเล่นที่อื่นเลยไป เลยเดินไปอาบน้ำ พออาบเสร็จออกมา คราวนี้เสียงมาอีก ตึงๆๆ ตึงๆๆ เราเริ่มหงุดหงิดมากๆ อะไรวะเคาะอยู่นั่นกำลังจะจับลูกบิดประตู ยังเอื้อมไม่ถึงลูกบิดเลยค่ะ ลูกบิดหมุน แก็กๆ บอกตามตรงว่าช๊อกมากค่ะ เลยเอื้อมมือไปจับลูกบิด ให้นิ่งแล้วค่อยๆมองที่ตาแมว (ไม่ได้เปิดประตู) พอมองออกไปเท่านั้นแหละ นึกภาพตามนะคะ ภาพในตาแมวเราจะเห็นเป็นภาพโค้งๆนูนๆ เราเห็นเงารูปร่างคนชัดเจนสีดำ นั่งกอดเข่าอยู่ที่กำแพงตรงข้ามประตูห้องเรา(จะว่าเป็นเงาก็ชัดมากๆแต่ไม่ถึงกับรูปร่างเป็นคนอย่างชัดเจน เราไม่รู้จะเรียกว่าอะไร) ความรู้สึกเราเหมือนวิญญาณจะออกจากร่างเลยค่ะ น้ำตาไหลเลยกลัวมาก ขาขยับไม่ได้ อย่าพูดถึงบดสวด หรืออะไรเลย นึกอะไรไม่ออก หายใจไม่ได้ มันคือความรู้สึกตอนนั้นเลยค่ะ แล้วสักพักเหมือนเขาจะเงยหน้าขึ้นมาหาเรา เรานี้หลับตาเลยค่ะ ไม่กล้ามองแต่ขายังก้าวไม่ได้ สักพักเราเลยลองพยายามพูด ซึ่งกว่าจะออกมาแต่ละคำยากเย็นมากว่า โอเค จะเอาอะไร อยากได้บุญใช่ไหมก็ได้ งั้นที่ทำมาวันนี้เอาไปหมดเลย ยกให้ แต่อย่ามาให้เห็นอีก แบบนี้ไม่เอา พยายามสุดชีวิตก้าวขามาที่เตียงน้ำตานองหน้า ในใจนึกถึงแต่แม่ แม่ช่วยหนูด้วย ช่วยด้วยแม่ ช่วยที บทสวดนึกไม่ออกเลยค่ะบอกตามตรง

    ขอบคุณท่านเจ้าเรื่อง: anrm
    ที่มา :http://m.pantip.com/topic/35839700?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 พฤศจิกายน 2016
  3. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    เมื่อลากสังขารมาที่เตียงได้เรานอนห่มผ้าทั้งชุดคลุมอาบน้ำเลยอ่ะ กลัวมากแต่ก็หลับไปตอนไหนไม่รู้ พอเช้าประมาณตี5 ครึ่งเกือบๆ 6 โมง คุณแฟนโผล่มาเลย อิบ้านั่นน้ำท่าไม่อาบ บอกอยากมาอาบที่นี่ (ที่บ้านเขาช่วงนั้นไม่มีคนอยู่ คุณพ่อคุณแม่ไปทำบุญ ตจว กันหมด กฐินมั้งนะถ้าจำไม่ผิด) รอนางวิ่งผ่านน้ำแปปนึงก็ไปทำบุญที่วัดชื่อดังสายปฏิบัติแถวลาดกระบัง ก็เอากับข้าว ดอกไม้ ข้าวของถวายภัตตาหารเช้าไป พอเสร็จแล้ว คุณแฟนก็ชวนอยู่ต่อที่วัดก่อน บอกอากาศดียังไม่อยากไปไหน เราก็สงสัยละ ปกตินางไม่ใช่สายบุญ คือชวนไปได้แต่นางจะทำแบบพอเสร็จๆไปคือเหมือนคนรีบอ่ะ ประมาณนั้น คือไม่พิถีพิถัน ไม่ค่อยใส่ใจหรือสนใจทำ กราบพระเสร็จหยอดตู้แล้วก็ชวนกลับประมาณนั้น แต่พอวันนี้ชวนอยู่เว้ยเห้ย ก็เลยถามไปตรงๆว่า พี่เล่ามาเหอะ เมื่อคืนหนูก็เจอ
    แฟน: อ่าวจริงดิ! เจอตอนไหน ตอนพี่โทรหาหนูอ่ะ พี่จะฉี่ราดอยู่ละ ตอนแรกเหมือนจะหลับแต่สะดุ้งตื่นเหมือนโดนปลุก หมาในซอยก็เห่า มันเห่านะไม่ได้หอน เลยลุกไปกินน้ำข้างล่าง เสร็จเลยเทใส่แก้วถือขึ้นข้างบนด้วย พอจะวางแก้วไว้ที่โต๊ะข้างเตียงเท่านั้นแหละ เห็นคน 3-4 คน ยืนก้มหน้าอยู่หน้าบ้าน พี่ก็มองว่าใครวะมายืนๆกันอยู่ มองไปที่ประตูเพื่อความมั่นใจก็โอเคล๊อคแม่กุญแจแล้ว ก็เลยแง้มผ้าม่านออกเพื่อจะมองดูชัดๆ คราวนี้ชัดเลย หนึ่งในคนที่ก้มหน้าอยู่ๆก็เงยหน้าขึ้นมามองตาสบตาเลยหนู ยิ่งกว่าตอนพี่สบตาหนูอีก (ยังมีอารมณ์เสี่ยว)

    เรา: ไมไม่บอกรักเขาไปล่ะ (หมั่นไส้)
    แฟน : จะบ้าหรอ ถ้าเขามีหน้าครบพี่ก็อยากพิจารณานะ แต่นี่หน้าส่วนล่างมันหายไปอ่ะ หนูตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยเจอ ตอนบวชยังไม่เจอเลย ปิดม่านแทบไม่ทัน ถ้ามองนานกว่านั้นกลัวเขาจะเข้ามาหา เลยหยิบโทรศัพย์โทรหาหนูแหละ ไง๋ในหนังตอนผีจะออกมันจะหอนไม่ใช่หรอ นี่มันเห่ากระโชก ก็นึกว่ามันเห่าคน ถ้าไม่คิดว่าคนอะไรจะมีหน้าแค่ครึ่งเดียว ถ้าเงยหน้าพร้อมกันหมดล่ะ คงได้ไปอยู่กับพวกเขาแหละพี่ว่า คงไม่ได้มาทำบงทำบุญให้หรอก
    เรา: แล้วทำไมไม่พูดตั้งแต่เมื่อคืน
    แฟน: พี่กลัวหนูกลัว เห็นน้ำเสียงยังปกติอยู่เลยคิดว่าไม่น่าจะเจออะไร
    เรา: แล้วพวกเขาอยู่นานไหม พี่ทำไง
    แฟน: ก็พอวางโทรศัพย์จากหนู พี่ก็พูดออกไปว่า คือมาแบบนี้กลัว แล้วถ้ากลัวคือไม่ให้นะครับบุญอ่ะ ไม่พอแช่งด้วยนะครับ ถ้าได้ยินแล้วก็ไปซะ จะทำบุญไปให้ ถ้ายังไม่ไปหรือมาให้เห็นอีกผมแช่งเสียหายนะครับบอกเลย
    เรา: แล้วเปิดม่านดูอีกไหม
    แฟน: หนู....ดูหนังเยอะไปป่าว ชีวิตจริงใครมันจะไปเปิดหน้าต่างดูอีกรอบวะ ก็พูดทั้งๆที่นอนอยู่บนเตียงและหลับตานแน่นนั่นแหละ ไม่หัวใจวายตรงนั่นนี่ก็บุญแค่ไหนแล้ว แต่หมาในซอยก็เห่าน้อยลงและก็หยุดนะ พี่กะหลับแปปนึง ก็ออกมาหาหนูอ่ะ

    จากนั้นเราก็เลยเล่าเรื่องให้คุณแฟนฟัง

    แฟน: เหยดดดดด เจอหนักกว่าพี่อีกว่ะ นี่หนูตัวจริงปะเนี่ย (ทำมาจับๆดู) กลัวมั้ยคะ
    เรา : ตอนนั้นก็กลัวแต่ตอนนี้ไม่อ่ะ ไปหาหลวงพ่อกันไหม
    ก็ชวนไปนั่งคุยกับพระ พอเจอพระท่านก็ยิ้มให้เลยนะ แล้วบอกเรากับแฟนว่า ตกใจกลัวกันมาล่ะซิ
    เราขนลุกเลยค่ะ หลวงพ่อก็พูดว่า ไม่เป็นไรหรอกโยม เรากับเขาอยู่คนละภพ อยู่คนละที่ ก้าวล่วงกันมาไม่ได้ อิแฟนปากดี "ไม่มาบีบคอเหมือนในหนังใช่ไหมครับ" หลวงพ่อก็ยิ้มแบบเมตตามากๆ "ทำไม่ได้หรอกโยม ทำได้ก็แค่มาให้เห็น จะสัมผัสเราได้อย่างไร เขาไม่มีกายหยาบแล้ว เขาคงอยากให้ช่วย อยากได้บุญ หรือแค่มาลา มาอโหสิก็ได้ เราก็ทำบุญแผ่เมตตาไปให้เขา เขาก็ไปแล้วโยม วิญญาณพวกนี้เขายังมีห่วง ยังติดบ่วงในกรรม หลุดพ้นไปเขาก็ไปในภพใหม่ ผีทำอะไรเราไม่ได้ มีแต่คนนี่แหละที่ทำร้ายกัน ทำลายตัวเอง" แล้วหลวงพ่อก็พรมน้ำมนต์ให้ คุณแฟนยังเกรียนต่อ " หลวงพ่อมีของดีให้บูชากันไว้ปะครับ พระสักองค์ก็ได้ครับ จะได้อุ่นใจ" หลวงพ่อ "ไม่จำเป็นหรอกโยม โยมระลึกถึงองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ระลึกถึงพระธรรมคำสอน ระลึกถึงพระสงฆ์สาววกของท่าน นั่นก็ดียิ่งกว่าห้อยพระอีก ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจโยม ไม่ใช่วัตถุสิ่งของ" บอกตามตรงเราโคตรศัทธาเลย กราบลาหลวงพ่อ และพากันกละบ ในใจจึงคิดถึงพวกเขาแล้วบอกว่าเราจะไปปฏิบัติธรรม อุทิศส่วนกุศลให้นะ



    ขอบคุณเจ้าของเรื่องเล่า:anrm
    ที่มา :http://m.pantip.com/topic/35839700?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 พฤศจิกายน 2016
  4. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    หลังจากนั้น เราก็แยกย้ายไปทำงานตามปกติ พอตอนเย็นกลับมาถึงคอนโด ก็เห็นรถอิคุณแฟนจอดอยู่ เราก็นึกแปลกใจว่ามาทำไม ไม่เห็นโทรบอกก่อน พอเราเข้าไปในห้องก็เจอเขายืนมองดูระเบียง เราเลยทักว่า จะเข้ามาไม่เห็นโทรมาบอกก่อนเลย หิวไหมคะ กินไรกันดี แฟนเราก็เงียบเราก็แปลกใจ เลยเดินเข้าไปกอดทางด้านหลัง แล้วถามว่ามีอะไร บอกหนูได้นะ พี่รู้ใช่มั้ย แฟนก็หันมาหาเรา ตอนนั้นสีหน้าเค้ากังวลใจมากๆ เราก็เลยพูดติดตลกไป "มะ ..หนูพร้อมละ จัดมา เต็มๆ"พร้อมทำท่าทางจริงจัง (เรากับแฟนอยู่กันแบบกวน teen สุดๆ ไม่มีหรอกจะมุ้งมิ้ง) แฟนก็ขำหน่อยๆ ก็เลยเล่าให้ฟังว่า
    แฟน : วันนี้แม่โทรมาเล่าที่แกไปทำบุญให้ฟัง
    เรา : เออเป็นไงบ้าง งานใหญ่ไหม
    แฟน : อืมใหญ่นะเห็นว่า ว่าแต่หนู ถ้าพี่เล่าอะไรไปอย่าโกรธนะ
    เรา : แม่ดูดวงมาบอกเราไม่ใช่คู่กัน หืมมมแบบนี้ต้องฉลอง ( เรายังกวนต่อ)
    แฟน :.....
    เรา : .....โอเค สาระก็ได้ ว่ามา
    แฟน :..... พี่เคยทำ ผญ ท้อง สมัยเรียนมหาลัย
    เรา : ...... อึ้งมากๆ
    แฟน: ตอนนั้นยังเด็ก ไม่มีความคิด กลัวอะไรหลายๆอย่าง ไหนจะเรียน ไหนจะพ่อแม่เรา พ่อแม่ ผญ ไหนจะคิดว่าจะเลี้ยงยังไง ผญ ก็เอาแต่ร้องไห้ แล้วเขาก็บอกว่า อยากเอาออก พี่ก็ถามเขาว่าแน่ใจแล้วหรอ จะเอาออกยังไง ผญ ก็บอกว่าเคยได้ยินเพื่อนพูดถึงยากินยาเหน็บ พี่ยอมรับนะว่าพอได้ยินตอนนั้นรู้สึกโล่งใจเหมือนกันที่ปัญหาจบ เลยบอก ผญ ว่า ถ้าตัดสินใจดีแล้วก็ได้แล้วแต่เธอ หลังจากนั้น ผญ ก็มาหาทุกวัน มาทุกวันก็ร้องไห้ พักหลังๆพี่ก็เริ่มหงุดหงิดที่เขาเอาแต่ร้องไห้เรียกร้องไห้พี่สนใจ ให้เอาใจ โดยอ้างเรื่องที่เขาท้อง ที่เขาต้องเอาออก จนเขาได้ยามา ก็มาใช้ตอนอยู่ที่ห้องพี่ก็ไม่รู้ว่าเขาใช้ยังไงหรอกนะ แต่หลังจากใช้ยานั่น วันรุ่งขึ้นเขาก็มีเลือดออกเหมือนประจำเดือน พี่ก็ถามว่าออกเยอะไหม เขาก็บอกว่าไม่ แล้วเขาก็บอกจะกลับบ้าน เราก็ไม่ได้เจอกันอีก
    เรา : ........
    แฟน: แม่โทรมาเมื่อตอนกลางวัน บอกว่าพระท่านทักว่า พี่กำลังมีเจ้ากรรมนายเวรที่เคยทำกรรมหนักร่วมกันตาม มาพร้อมกับพวกสัมพเวสี เขาก็คงอยากจะอโหสิกรรมแล้วมั้ง เลยมาขอบุญเป็นครั้งสุดท้าย แต่การที่จะให้บุญได้ถูกต้อง ต้องนึกให้ได้ว่าเป็นใคร ต้องรีบก่อนจะเป็นผีร้าย หรือก่อนที่ดวงแฟนจะตก พี่ก็คิดอยู่นานแหละว่าใคร จู่ๆก็นึกขึ้นได้ เลยไล่หาดู facebook ไปเจอเพื่อนของ ผญ คนนั้น พี่เลยทัก อยากได้เบอร์ติดต่อ เพื่อน ผญ บอกกับพี่ว่า ผญ คนนั้นตายไปหลายปีแล้ว นี่ไม่รู้เลยหรอ พี่เลยคิดว่าคงเป็นเขาอ่ะ

    ขอบคุณท่านเจ้าของเรื่อง:anrm
    ที่มา :http://m.pantip.com/topic/35839700?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 พฤศจิกายน 2016
  5. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    เราได้ยินที่แฟนพูดก็ตกใจนะ คือเขาดูเป็น ผช แมนสุภาพบุรุษมาก ทำไมถึงเคยทำแบบนั้น เราไม่พูดอะไรกันเลย ก็ทำอาหารเย็นกินกัน นั่งดูทีวี เราก็เล่นเน็ตไปเรื่อย ดึกๆห้องข้างบนเสียงดังอีก ครืนนนนนนน ครืนนนนนน เหมือนคนลากของหนักๆ หรือลากเก้าอี้ เรากับแฟนก็มองหน้ากันแบบรู้เลย
    เรา : ไปดูที่ระเบียงหน่อยดิ ว่าห้องข้างบนมีคนอยู่ปะ
    แฟน : ไง๋เป็นพี่อ่าาาาา (ทำหน้าอ้อนวอน)
    เรา : หรือต้องเป็นหนูหรอ (ทำหน้าจริงจัง)
    แฟน : มันก็จริง (ทำหน้าเศร้า) ก็ต้องเป็นพี่ซินะ
    แล้วแฟนก็เดินออกไปดู....ปรากฏว่าไฟไม่เปิด แอร์ไม่เปิดเหมือนเดิม
    แฟน: ไม่มีคนอยู่มั้ง ไฟปิดหมด ไปบ้านพี่ไหมคะ
    เรา: โอ๊ย.... พี่คิดว่าถ้าใช่จริงๆเค้าจะตามไม่ถูกหรอพี่ อยู่ไหนก็เจอถ้าจะเจอ
    เราตัดสินใจ เอาธูป 5 ดอก จุดให้เราและแฟนคนละชุด ไหว้บูชาครู (คาถามีทั่วไป ในเน็ตก็มีนะคะ เป็นคาถาเดียวกันกับที่เราจำมา ช่วยได้เยอะค่ะ) แล้วปักที่นอกระเบียงตรงกระถางต้นไม้ อธิฐานให้ครูบาอาจารย์ปกปักรักษา อย่าให้อะไรมาทำร้าย ถามว่ายังมีกวนต่อไหม ยังมีค่ะ แต่มั่นใจว่าเขาจะไม่เข้าห้องเรา มั่นใจว่าเข้ามาไม่ได้
    นี่ขนาดแฟนห้อยหลวงพอเกษมนะ นางยังกลัว

    สักพักก็ ทีวีปิดเองค่ะ เป็นทีวีซัมซุง ซึ่งถ้าคนมีจะเข้าใจว่าเวลาปิดจากรีโมทมันจะมีเสียง ทั้งๆที่รีโมทอยู่ตรงโต๊ะกลาง แฟนเราเหงื่อแตกเลย ทั้งๆที่เปิดแอร์( เราก็เข้าใจว่าเค้ากลัว คือซ่าแต่กับคน)
    แล้วได้ยินเสียงหวีด เหมือนลมพัดผ่านช่องแคบค่ะ หวี๊ดดดดดดดด หวี๊ดดดดดดดด แฟนเราก้มลงมองตรงข้างล่างประตูเหมือนมีเงาคนยืน หันมากระซิบบอกเรา เราเลยตัดสินใจดูที่ตาแมวก็ไม่เห็นมีใคร แฟนเราเลยเร่งเสียงทีวีดังขึ้น สักพักประตูสั่นเลยค่ะ เหมือนมีคนมาดึงๆ เขย่าประตู แฟนเราดึงเราออกมาให้ห่างประตู เขาหยิบโทรศัพย์มาโทร จะโทรหาใครก็ขึ้นเครือข่ายไม่ว่างตลอด โทรศัพย์เราก็เป็น แล้วเสียงหวีดก็ดังขึ้น ประตูเขย่าแรงขึ้น ตรงโซ่นี่สั่นกริ๊กๆเลย เราเหมือนหมาจนตรอกอ่ะ คือแบบเอาวะ คือจะดูให้รู้ไปเลย ตายเป็นตาย สะบัดแขนออกจากแฟนเดินไปดูที่ตาแมว
    ชัด!

    เห็นประมาณ 3-4 คนยืนก้มหน้าหน้าประตูห้องค่ะ ประตูยังเขย่าแรงขึ้น ระหว่างนั้นค่ะ มีคนที่ตึกเดียวกันเดินผ่านหน้าห้อง คือพี่เขาเดินผ่านไปเลยอ่ะ เหมือนไม่มีคนยืนอยู่ตรงนั้น เหมือนไม่ได้ยินเสียงเขย่าประตู เราตาค้างตัวแข็งเลย คือแบบเจ้ากรรมนายเวรนี่ ของใครของมันจริงๆ พี่เขาไม่รู้เรื่องเลย แล้วแฟนเราก็ดึงเราออกมาจากประตู แฟนมองหน้าเราก็คงเข้าใจได้ว่าเจอแน่ เจอแน่ๆ
    แฟน : หนูไปจากที่นี่กันไหม
    เรา : จะเปิดประตูไปยังไง ข้างหน้าเพียบเลยพี่
    แฟน : ยิ้ม คนเดียวกุก็แย่แล้ว นี่เมิงมีพวกอีกหรอวะ
    เราคิดไม่ออกเลยว่าจะทำไง ได้แต่ยืนอยู่ตรงกลางห้อง แล้วทีวีก็เปิด ปิด เปิด ปิด แฟนเราดึงปลั๊กไฟออกเลย (แต่ไฟไม่ดับเหมือนในหนังนะ) แล้วเสียงโทรศัพย์เราดัง เรากับแฟนสะดุ้งเลยค่ะ เป็นแม่เราค่ะ แม่เราโทรมากลางดึกของวันนั้นเลย
    เรา : แม่.....ช่วยด้วยแม่ ช่วยด้วย ผีหลอกแม่
    แม่ : ใจเย็นแม่รู้แล้ว มีคนมาบอก (ซึ่งตอนนั้นไม่คิดหรอกค่ะว่าใครบอกแม่ ในใจคิดแค่ ขอความช่วยเหลือ)
    เรา : แม่ ทำไงดีแม่ ไม่ไปซะที มีเพียบเลยหน้าห้อง เขย่าประตูอยู่
    แม่ : เก็บเข็มเชี่ยนหมากตาไว้มั้ย ยังอยู่ไหม ( เคยเห็นกันไหมคะ เป็นเข็มเหมือนเข็มก้นทองใหญ่กว่าเข็มเย็บผ้า คุณตาแกเคยเอาเข้าไปเคี้ยวกับหมากพลูที่แกเคี้ยว แล้วแจกลูกหลาน แม่เราเอาไปทำเป็นตะกรุด ให้เรากับพี่ชายได้คนละอัน)
    เรา : อยู่แม่ เอามาทำไง
    แม่ : เอามาห้อยที่ประตู
    เรากับแฟนไปรื้อชั้นบนวางของบนเตียงเลยค่ะ ของเวลาจะหามักจะเจอยาก สุดท้ายก็เจอ แฟนเราเลยเอาไปคล้องที่ลูกบิดประตู
    แม่ : นึกถึงปู่ย่าตายาย พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ คุณพระคุณเจ้า ที่เคารพนับถือ
    ประตูหยุดสั่น จากนั้นเราเลยไปดูที่ตาแมว
    แม่จ้าววววว ยังเหลือ1 ตน เงาเดิมเลย อยู่ติดกำแพงฝั่งตรงข้ามคราวนี้เขายืนค่ะ แล้วก็เงยหน้าขึ้นมามองเรา เราหลับตาปี๋ บอกแม่ผ่านโทรศัพย์ว่า ยังเหลืออีก 1 ยังไม่ไป
    แม่ : ไม่ต้องเปิดประตูนะ เพราะถ้าเปิดนั่นคืออนุญาตให้เขาเข้า คราวนี้จะแก้ลำบาก ไหนคุยกับ aa(แฟนเรา) หน่อย
    เราก็ยื่นโทรศัพย์ให้แฟนเรา ก็ได้ยินแต่แฟนเราพูดว่า ครับ ครับ ได้ครับ ครับแม่ ครับ ผมทราบครับ แล้วก็วางไป


    ขอบคุณท่านเจ้าของเรื่อง:anrm
    ที่มา :http://m.pantip.com/topic/35839700?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 พฤศจิกายน 2016
  6. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    เล่าเรื่องคอนโด นิดนึง คือที่ชั้น 4 ของตึกเราเมื่อ 2 ปีที่แล้ว มีคนฆ่ากันตายค่ะ เหมือน ผช. เช่าห้องนั้นให้เมียน้อยอยู่ เมียหลวงจับได้ เลยตามมารอที่ห้อง พอเมียน้อยเลิกงานกลับมาเจอกันเข้า ก็ทะเลาะกันใหญ่โต สุดท้ายเมียหลวงแทงเมียน้อยไม่ยั้งสภาพศพดูไม่ได้ค่ะ น่าสงสารมาก เป็นเมียน้อยไม่รู้ตัว พอฆ่าเสร็จเมียหลวงยืนรอมอบตัวค่ะ ตอนนี้ห้องนั้นก็มีผู้เช่ารายใหม่มาอยู่นะคะ แต่เราๆที่อยู่กันไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้เลย เจ้าของคอนโดก็ปิดข่าว

    ขอบคุณท่านเจ้าของเรื่อง :anrm

    ปล.เรื่องยังไม่จบ ท่านเจ้าของเรื่องอยู่ระหว่างหาวันบวชให้แฟนอยู่ เรื่องเล่าจึงเงียบหายไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 พฤศจิกายน 2016
  7. chollada

    chollada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +484
    ตื่นเต้นมากกกก
     
  8. แก้วจุฬามณี

    แก้วจุฬามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +246
    ปูเสื่อรอ สงสัยนิดนึง ที่เห็นหนะ เป็นเจ้ากรรมของแฟนปะ แล้วน้องเห็นได้ไง
     
  9. รพินทร์นาถ

    รพินทร์นาถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +844
    รอ อ่านต่อ
     
  10. SMING

    SMING เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2008
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +430
    ......เรื่องที่เล่ามาทั้งหมดสนุกดีครับ ชวนติดตามเป็นอย่างยิ่ง เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
    พูดเรื่องตัวคุณก่อนครับ ความรู้สึกทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับคุณ คือ อาการของคนดวงตกนะครับ
    และคุณสามารถรู้ได้ด้วยตัวเอง (จากความรู้สึก).....
    ......ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากไปทำบุญหรือนอนโลงสะเดาะเคราะห์กลับมานั้น...เกิดจาก
    เจ้ากรรมนายเวรนั่นแระครับที่มารบกวน (จากอาการดวงตก นั่นเอง)
    ......แนะนำ ช่วงนี้ต้องทำบุญสร้างบารมีให้มาก ๆ หน่อย นะครับ บางที่เรื่องอะไรที่มันจะ
    เกิดกับเรา อาจผ่อนหนักให้เป็นเบา เบาเป็นหายได้ ด้วยกุศลที่เราทำนั่นเอง...
    ....สาธุ สาธุ สาธุ...
     
  11. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    มาแล้วววววววววว ขอโทษที่ทำให้รอค่ะ เราพิมพ์แล้วโพสต์ไม่ได้ คืองง เลยต้องมานั่งพิมพ์ใหม่
    ถามว่าห้อยพระยังโดนหรอ ตอบได้เลยค่ะ ว่าเจอค่ะ จะเห็น แต่อาจจะเข้าใกล้ไม่ได้ เรื่องพวกนี้อยู่ที่ดวง จิตใจ และกรรมจร้าาาา


    พอแฟนเราวางโทรศัพย์ นางก็เอาเข็มเชี่ยนหมากของคุณตา ไปคล้องที่กลอนประตู แล้วอธิฐานถึงคุณตา บรรพชน มาคุ้มครองอย่าให้อะไรมาทำร้ายได้ ทุกประตูเลย แล้วก็สวดมนต์พุทธคุณ เกินอายุไป 1 จบ แล้วก็เผลอหลับไปทั้งสองคน จนเช้าของอีกวัน
    ก๊อกๆๆๆ ก๊อกๆๆ! ประตูมีคนเคาะอีกครั้ง
    เรากับแฟนสะดุ้งตืนขึ้นมา มองหน้ากันด้วยความหลอน
    เรา: โห....กลางวันก็ได้เหรอ
    แฟน: เจ้ากรรมนายเวรนะไม่ใช่เชื้อโรค และนี่ก็ผีไทยไม่ใช่แวมไพ จะได้กลัวแดด
    เรา : พูดจาดีมีเหตุผล งั้นไม่ดูเอง ปากดีนัก
    แฟน : รักดอกจึงหยอกเล่น ที่หลังผมไม่จะไม่ทำอีกแล้วคราบบบบบ
    เราเดินมาดูที่ประตู ใจเต้นตึกๆ ตึกๆ คือวัดใจมากถ้าเจอแบบจังๆแย่ๆ หัวใจพร้อมหยุดเต้นแน่ๆเลย ค่อยๆมองที่ตาแมว.......
    ปัดโธ่....น้ายามที่ตึกนี่เอง โอยยยยยเกือบไม่ได้แก่ตายแล้วเราก็เลยเปิดประตูห้อง
    เรา: คร่าาาน้าช่วย
    น้ายาม : พอดีพี่ผิน (แม่บ้านตึก) บอกว่า ตรงนี้มีกลิ่น ทำความสะอาดยังไงก็ไม่หาย ผมเลยมาแจ้งคุณๆก่อนว่าเขาจะมาทำความสะอาดให้ใหม่ครับ บอกกลิ่นสาบๆ เหมือนของเน่าเสีย
    เรา: หนูไม่ได้กลิ่นเลยค่ะ อาจมีใครเอาขยะมาทิ้งแล้วน้ำขยะมันหกหรือเปล่า แต่ก็แล้วแต่ค่ะ ว่าไงว่าตามกันค่ะ ขอบคุณค่ะ (ปิดประตู)
    แฟน: ในหนังบอกจะมีกลิ่นธูปไม่ใช่หรอ
    เรา: ปากดีนักนะ
    แฟน : ผลล้อเล่นคราบบบบบ ผมไม่กล้าแล้วคราบบบบ ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวออกไปข้างนอก
    เรา: ไปไหน?
    แฟน : สักเรื่องได้ปะ
    เรา: เออดีงั้นไม่ไป
    แฟน: โว๊ะ....เรียนเชิญอาบน้ำเถอะครับคุณผู้หญิง ว่าง่ายๆครับ ไม่งั้นจะอาบให้นะคราบบบบ
    จากนั้นเรากับแฟนก็มาที่รถขับออกมาเจอน้ายาม เราก็เห็นแกมองมาที่ท้ายรถ ปกติแกจะทักทายยิ้มให้ยิ้มแย้มแต่วันนี้แกไม่ทัก เราไม่ได้บอกแฟน ไม่อยากให้เขาคิดมาก จุดหมายมาที่ร้านกาแฟน่ารักๆ แถวๆสีลม เราก็สั่งน้ำกับเค้กมากิน คุยกันสักพัก ก็มีผู้หญิงคนนึงเดินมาทักแฟนเรา แล้วก็นั่งลงระหว่างเรากับแฟน ด้านอีกฝั่งนึงของโต๊ะ แฟนเราเค้าก็แนะนำให้รู้จัก เขาเป็นเพื่อนของแฟนเก่าแฟนเรา พวกเขาพูดคุยกัน ประมาณว่า ผญ คนนั้นโดนรถชนหลังจากที่เขาสอดยาไม่กี่วัน

    ขอบคุณท่านเจ้าของเรื่อง Anrm
    ที่มา :m.pantip.com/topic
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 ธันวาคม 2016
  12. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    เรื่องเค้าท้อง ที่บ้านไม่ทราบ เพราะทางโรงพยาบาลก็แจ้งแค่ว่าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุแต่ไม่ได้ตรวจอย่างอื่น เพราะฉะนั้นก็มีแต่ แฟนเรา ผญ คนนั้นกับเพื่อนคนนี้ที่รู้เรื่อง รวมเป็นสามคน หลังจากเสียชีวิตชาวบ้านก็เจอบ่อยๆ เป็นเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันในหมู่บ้านเลย เราฟังไปขนลุกไป มองออกไไปที่กระจก ตรงรถแฟนที่จอดอยู่ เราเห็นเด็กผู้หญิงยืนตรงข้างรถ ค่อนไปทางด้านหลัง เขาเงยหน้าดู แล้วก็ยืนจ้องอยู่อย่างนั้น คราวนี้เราสะกิดแฟนเลยค่ะ ด้วยความมั่นใจว่าเด็กเขาเห็นแน่ๆ แฟนเราก็มองไปที่ตรงจุดนั้นด้วยความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น จนแม่เด็กมาเรียกเด็กก็ยังไม่ไปค่ะ เด็กเขาชีมือขึ้นไปตรงท้ายรถแฟนเรา แม่เด็กไม่ได้รับรู้หรือสนใจอะไร เดินมาจูงมือเด็กออกไป ระหว่างเดินเด็กก็ยังมองมาที่จุดเดิม แฟนเราเห็นกลับมาคุยกับผู้หญิงคนนั้นแบบเข้าเรื่อง
    แฟน: พี่ว่าตอนนี้พี่เจอโบกี้ เขาตามพี่กับแฟน ถึงจะเห็นหน้าไม่ชัด แต่ค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นโบกี้
    เพื่อน : อ่าวเจอเหมือนกันหรอ แต่นิดเจอในฝัน นี่ก็ว่าแปลกนะทำไมถึงฝันเห็น วันก่อนไอ้ต้องก็มาบอกว่าฝันเห็นโบกี้มัน มันบอกว่ามันเจ็บ มันปวด ที่เดิมทุกครั้ง อยากไปจากตรงนี้อยากไปแล้วแต่ไปไม่ได้ นิดยังคิดอยู่เลยว่าสงสัยหลอนฟังไอ้ต้องแล้วเก็บมาฝัน งั้นคงเป็นจริง โบกี้ไม่ได้เผานะพี่ ที่บ้านเขาเชื่อว่าคนตายโหงไม่ให้เผาทันที ต้องฝังปูน (บ้านเราเรียกดอยศพ) ไว้ก่อน กำหนดเผาปีหน้ามั้ง ถ้านิดจำไม่ผิด
    หลังจากคุยกันจนแน่ชัดแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน เราจิตใจไม่ปกติเลย ระแวงที่หลังรถตลอด

    ขอบคุณท่านเจ้าของเรื่อง : Anrm
    ที่มา :m.pantip.com/topic
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 ธันวาคม 2016
  13. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    ระหว่างทางแม่เราก็โทรมาอีก....ถามความคืบหน้าเหตุการณ์ว่าเป็นยังไง เราก็เล่าให้ฟัง แต่ไม่ไดบอกเรื่องแฟนเก่าแฟนเราท้อง บอกแค่แฟนเก่าเสียชีวิตแล้ว อาจเป็นคนนั้น เล่าเรื่องกลิ่น เรื่องมาคุยกับเพื่อนแฟนเก่า แม่ก็บอกว่าน่าจะใช่ กลิ่นผีตายโหงจะเหม็นเน่าเหม็นสาบ วิญญาณที่ยังห่วง อาฆาต ยังยึดติดอยู่ เหมือนพวกเล่นมนต์ดำ พวกนี้ก็จะมีกลิ่นเน่า เหมือนกัน
    แม่แกเล่าว่า ตอนเป็นเด็ก เคยตามตาไปไล่ปอบเข้าคนในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นปอบจากการเล่นของ แล้วดูแลไม่ดี ถือไม่ได้ หรือไม่ได้ใช้ เป็นพวกสายดำ ตาแกจะไปพร้อมย่าม 1 ใบ กับไม้เรียวหนึ่งอัน เป็นไม้หวายยาวเท่าแขน ก็เห็นชาวบ้านเขาจับมัดไว้ คนมุ่งดูกันเพียบ เกือบๆทั้งหมู่บ้านเลย ตาแกก็ถามว่า เมิงมาจากไหน ของใคร มนต์อะไร คนที่อ้างว่าโดนปอบเข้าเขาก็ไม่ตอบ ตาแกก็เอาไม้ไปแตะ ย้ำนะคะว่าแตะ แตะเบาๆเลย ไม่ได้ฟาดไม่ได้ตีเหมือนในหนัง คนนั้นก็ร้องโวยวาย เหมือนเจ็บแทบขาดใจ แล้วก็บอกว่าเป็นของคนตำบลใกล้เคียง มนต์มหาเสน่ห์ (ชื่อหยาบคายค่ะ ขอละไว้) ตาแกก็ไล่ไป ไม่ได้จับลงหม้อหรืออะไรเหมือนในหนังนะคะ ตอนกลางคืนแกชอบตืนมาถัก มาสานแห วันหนึ่งระหว่างที่แกนั่งสานแหอยู่นั้น แกเจอผีโพง ( เป็นผี ที่มีดวงไฟกลมๆส่งแสงตลอดเวลา ไม่มีไส้ไม่มีหัวเหมือนกระสือ กินของเน่าเหม็นเหมือนกระสือ) ลอยไปทางเล้าหมูของบ้านญาติฝั่งตรงข้าม แกปลุกแม่เรา และลุง ป้า น้า ทั้ง 9 คนตื่นมาดูให้เห็นกับตา แกบอกว่าผีแบบนี้ถ้ามันลอยชนใคร คนโดนชนมักตาย แต่ถ้าเราเจอหน้าคนในดวงไฟนั้นแล้วเรียกชื่อผีจะหายไปแล้วพบว่าเจ้าของจะตาย คือเป็นของ ของคนเล่นของเขาปล่อยออกจากตัวน่ะค่ะ ไหนจะเรื่องยาผีบอกซึ่งมีจริงๆค่ะ ยายเรากินเอง เดี๋ยวท้ายๆจะมาเล่าเป็นภาคผนวก

    แม่ก็สรรหาเรื่องมาเล่าระหว่างทางกลับคอนโด คือรู้ว่าแกแค่ไม่อยากให้เรารู้สึกอยู่คนเดียว แต่เรื่องที่เล่ามันเข้ากับสถานการณ์ไปหน่อย อินหนักเลยคราวนี้ เราก็บอกแม่ว่าเราระแวงหลังรถมากตอนนี้ แม่เราบอกว่าถ้าเห็นก็ทำเหมือนไม่เห็น ทำเหมือนว่าไม่รู้สึก อย่าไปคิดถึง เพราะยิ่งคิด ยิ่งเป็นการสื่อสาร ( แม่.....พูดเหมือนง่าย สิ่งที่เราจะแน่ใจว่าเราจะคิดแน่ๆ คือคนอื่นมาบอกว่าอย่าคิดนี่แหละ)
    กลับมายังเจอน้ายามแกก็ยิ้มทักทายเหมือนเดิม แต่พอแกมองไปท้ายรถ รอยยิ้มหายไปทันที เราก็ขึ้นห้องไปพร้อมแฟน แล้วโทรหาแม่ใหม่ (สายหลุดตอนอยู่ในลิฟท์ )
    แม่: หนูจำตอนอาแดงตายได้ไหมลูก
    เรา: อืม ทำไมคะ ( เรายังเด็ก ประมาณ ป 4)
    แม่ : วันนั้นแม่ไปกับแก ที่จะไปดูที่ที่อำเภอใกล้เคียง ขากลับมันมืดประมาณสัก2-3 ทุ่ม นั่งรถมาประมาณ 20นาที แม่เห็นผีเต็มหลังกระบะเลย ผีทุกตัวมองมาที่อาแดงหมด แม่กลัวมากตอนนั้นแต่ไม่กล้าบอกอาแดงตรงๆ เลยถามอาแดงว่า ของหลังรถจะปลิวหรือเปล่า ซึ่งจริงหลังกระบะไม่มีของ อาแดงมองผ่านกระจกหลัง ก็บอกว่าไม่มีนิ ไม่ได้เอาอะไรใส่หลังรถ แม่ก็แน่ใจแล้วว่าอาแดงไม่เห็น ผีเต็มหลังรถเลย อีกสองหมู่บ้านจะมีคนที่แม่รู้จักอยู่จึงบอกอาแดงว่าจะขอลงตรงนั้น จะไปเอาของซะหน่อย พอถึงอาแดงก็จอดให้ลง แม่ก็ถามว่าไม่ลงมากินน้ำกินท่าก่อน อาบอกว่าไม่ล่ะจะรีบกลับ พออาแดงขับรถออกไป แม่ก็โทรหาพ่อให้มารับและเราเรื่องให้ฟัง พอพ่อเรามาถึง ก็นั่งคุยกันที่บ้านนั้นก่อน พอพ่อกับแม่กำลังจะกลับ อาหญิงก็โทรมาบอกว่าอาแดงรถคว่ำ เขากำลังเอาศพมา รพ. แม่อยากให้หนูกับแฟนกลับมาบ้านนอกมาสะเดาะเคราะห์ใหญ่หน่อยลูก เพื่อความสบายใจ อยากให้มาวันอังคาร แม่ไปคุยกับหลวงพ่อวัด.... (วัดป่าแถวชายแดน มีพระธุดง ที่ชาวบ้านเคารพนับถือมาก จำวัดอยู่)
    พอแม่รบเร้ามากๆ เราก็ตกลงไป ซึ่งแฟนเรานี่พร้อมมาก นางกลัวจัด

    ขอบคุณท่านเจ้าของเรื่อง : anrm
    ที่มา :m.pantip.com/topic
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 ธันวาคม 2016
  14. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    เรื่องที่เล่า มันเกิดขึ้นกับเรา แฟนและครอบครัวอ่ะเน๊อะ ถ้าใครไม่เชื่อขอให้อ่านเพื่อความบันเทิงนะคะ ส่วนท่านที่เชื่อก็จะได้ข้อคิดการดำรงชีวิตแบบไม่ประมาท มีสติ และทำความดี จิตใจเข้มแข็งค่ะ นานาจิตตัง.........^^
    คืนนั้นเรานอนหลับ อาจเพราะความเหนื่อยที่ไม่ค่อยได้นอนเต็มอิ่ม เราฝันว่าเจอเด็กคนเมื่อตอนกลางวัน เราก็ถามเด็กว่าหนูเจอคนนั่งบนนั้นหรอ อย่าดู อย่าไปพูดกับเขานะคะ ทำเป็นไม่เห็น ผู้หญิงคนนั้นหันมาหาเรา ตอนแรกกลัวว่าหันมาแล้วจะหน้ากลัว เปล่าเลยหน้าตาสวยเชียว บอกเราว่าปะพาไปเดินดูสวน เราก็เดินตาม แล้วเด็กก็ดึงๆมือเรา แล้วก็กระชาก เราสะดุ้งตื่น เห็นแฟนเรากระชากแขนปลุกเรา เราก็ตกใจ ถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอกว่าตอนแรกเราเหมือนคนนอนกรน ทั้งที่ปกติไม่เคยกรนเลย (กัดฟันว่าไปอย่าง^^) แล้วเราหยุดหายใจ แฟนเราเอะใจก็เลยปลุก รอไม่ไหวค่ะ ตื่นเช้ามาวันอาทิตย์ บินตรงกลับบ้านนอกไปหาแม่เลยค่ะ ร่างกายค่อยไปเช็คที่นู้นว่าเป็นอะไร
    พอเจอแม่นี่น้ำตาไหลเลยค่ะ แม่ก็ให้ไหว้ศาลพระภูมิก่อน พร้อมอาหารคาวหวาน แล้วก็ไปวัดป่ากัน หลังจากไหว้พระท่านแล้วเราก็ออกมาเดินเล่นข้างนอก มีแม่กับแฟนเรานั่งคุยอยู่ พักใหญ่ๆ แฟนเราเดินมาตาม บอกว่าจะให้แฟนเรานอนนุ่งขาวนอนที่วัดสัก 2 คืนส่วนเราจะมาในตอนกลางวันก็ได้ เราก็ถามแฟนว่าแน่ใจนะว่าอยู่ได้ เขาก็บอกแน่ใจ เรากลับแม่ก็เลยกลับ

    *เดี๋ยวคืนนี้มาเล่าต่อจนจบเรื่องนะคะ*

    ขอบคุณท่นเจ้าของเรื่อง : Anrm
    ที่มา :m.pantip.com/topic
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 ธันวาคม 2016
  15. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    หลังจากกลับจากวัด เราก็ล้างเท้าพ่อกับแม่ เอาเท้าท่านทั้งสองมาวางที่หัว ตกเย็นก็ไปสวดมนต์กับแม่ที่ห้องพระ แล้วคืนนั้นก็นอนกับพ่อแม่เลย อุ่นใจมากๆ อยากจะโทรหาคุณแฟนเหมือนกัน แต่อดทนเอาหน่อย พรุ่งนี้ค่อยไปหาที่วัด ตื่นเช้ามาตักบาตร เรียบร้อยก็ไปจัดแจง หาต้นกล้วย ใบตอง ใบพลู หมาก ยาเส้น ของเซ่นไหว้ ตัดเล็บ ตัดผม ฯลฯ มาทำเป็น กระทงสะเดาะเคราะห์ 2 อัน (กระทง 4 เหลียมค่อนข้างใหญ่ แบ่งเป็นช่องๆ ใส่ของตามความเชื่อ ปักธง) เตรียมไว้ จากนั้นเราก็ไปวัดกับพ่อแม่ เห็นคุณแฟนทำหน้าที่เด็กวัดก็ทำให้เอ็นดู ถวายอาหารเช้าเสร็จ ก็กินข้าวกันที่วัด รู้สึกสบายใจมากๆ จากนั้นก็คุยกับแฟน

    เรา: เป็นไงบ้าง อยู่ได้?
    แฟน : หนักเอาการ นอนที่ศาลานี่แหละ หลวงพ่อแกสวดมนต์ดึก แล้วก็นั่งสมาธิตอนนั่งก็เห็นแหละ แต่ตะโกนไม่ได้ กลัวแต่ไปไหนไม่ได้หลวงพี่(พระอีกรูป) ท่านบอกว่าให้นิ่ง อย่าสนใจและปล่อยวาง เดี๋ยวก็ไป จะให้พี่วิ่งหรอ โอยก้าวขาไม่ไหว
    แม่: ไม่เป็นไรหรอกลูก เดี๋ยวก็ดี พอตอนดวงตกก็เป็นแบบนี้แหละ อะไรที่เคยติดหนี้เขาไว้เขาก็มาให้ใช้ ต่อให้ไม่ให้ทั้งหมด บางส่วนก็ยังดี เข้มแข็ง บารมีหลวงพ่อท่านช่วยผ่อนหนักให้
    แฟน : ครับแม่ ก็มีสติกว่าที่ตอนอยู่ กทม. ครับ
    เรา: มายังไง
    แฟน : เห็นเหมือนที่หนูเห็น เงาดำๆ ยืนอยู่นอกศาลา เยอะแยะไปหมด บ้างนั่ง บ้างยืน แต่ละเงาล้วนนิ่ง ไม่ไหวติง เหมือนมารอรับบุญ มารอฟังสวด อะไรประมาณนั้น หลวงพ่อท่านสวดเสร็จก็หายไป เหลือไม่กี่เงา ที่พอเห็นในหางตาบ้าง ไม่กล้ามองตรง
    เรา : อดทนนะคะ
    แฟน อืมมมม
    แล้วเราก็เข้าไปในตัวเมือง เพื่อไปซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมมี เสื่อ หมอน อะไรอย่างอื่นอีกนิดหน่อยแล้วก็กลับบ้าน
    เช้าวันรุ่งขึ้น เรา พ่อ แม่ ก็ไปที่วัดกัน หลังจากถวายอาหารเช้าเสร็จ ประมาณ 10 โมงหลวงพ่อก็ทำพิธีโดย เรากับแฟนนุ่งห่มขาว ประเคนพานไหว้ครู และท่องบทสวดอะไรสักอย่าง เท่ากับอายุตัวเอง (ท่องผิดถูกไม่รู้ คือตอนหลวงพ่อพูดเราไม่ค่อยได้ยิน แอบหวั่นว่าถ้าพูดผิดล่ะ คำบางคำไม่เคยได้ยินก็ได้ยินไม่ชัด หลวงพ่อท่านก็พูดเบาเสียเหลือเกิน) จากนั้นนั่งเหยียดขาเอากระทงสี่เหลี่ยมมาวางที่ปลายเท้าหันหน้าทางทิศตะวันออก พนมมือ หลวงพอท่านก็สวดคาถา พร้อมโปรยข้าวสารเป็นระยะๆ จากนั้นท่านเทน้ำมนต์เป็นถังๆลงบนหัวเรากับแฟน เป็นการรดน้ำมนต์ที่ชุ่มฉ่ำมาก ห้ามคนอื่นไปยืนรับน้ำมนต์ที่ไหลไปด้วยนะ ท่านบอกว่าให้ดินมันแห้งก่อนถึงผ่านได้ เดี๋ยวจะโดนสิ่งไม่ดีเอา จากนั้นก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเข้าไปหาหลวงพ่อ
    หลวงพ่อ : หมั่นนั่งสมาธินะโยม หลังนั่งเสร็จก็ระลึกถึงเจ้ากรรมนายเวรว่าให้เขาอโหสิ เราก็อโหสิ ระลึกว่าอยากให้เขาพ้นทุกข์ ไปอยู่ในที่ดีๆ ที่มีแสงแห่งธรรม
    แฟน : เมื่อคืนนี่....ใช่ไหมครับหลวงพ่อ เป็นเรื่องจริงใช่ไหมครับ( เราก็งง)
    หลวงพ่อ : จริงหรือเปล่าไม่สำคัญโยม จิตใจปล่อยวางสำคัญกว่า อย่ายึดติด อย่าถือมั่น นั่นแหละดี
    สงบที่ใจเราง่ายที่สุด แต่ก็ยากที่สุดที่ใจเราเหมือนกัน เหมือนแฟนโยม (เราสะดุ้งแบบเอ๋อๆ) เมื่อจิตใจเข้มแข็ง มีสติ ก็ปล่อยวางความกลัวได้ ( ไม่ใช่แล้วหลวงพ่อ หนูกลัวจะแย่แต่ไม่มีทางเลือก)(หลวงพ่อหันมายิ้มให้เราเหมือนได้ยินที่เราคิด)
    เรา: หลวงพ่อคะ ทำไมอยู่ดีๆถึงเจอ ทั้งที่ไม่เคยเจอ เป็นเพราะหนูไปนอนโลงมาหรือเปล่า แต่แฟนไม่ได้นอน ทำไมถึงเจอ แล้วเขาเป็นใครคะ ต้องการอะไร
    หลวงพ่อ : การนอนโลง จริงๆที่คือทำให้เรามีสติ ว่าสุดท้ายชีวิตก็มีแค่นั้น เกิดแก่เจ็ยตาย ความจริงคือสอนให้ปลง สอนให้ละ โลงแคบๆเอาอะไรไปไม่ได้ ถ้าคิดได้ ปลงได้ ก็จะมีสติที่ดีขึ้นในการใช้ชีวิต เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เห็นผีหรือเปล่าไม่ได้เกี่ยวกับการนอนโลง บางคนคือพรสวรรค์ เกิดมาเพื่อเห็น โยมมีนะ บางคนเห็นหรือรู้สึกเมื่อถึงเวลาต้องเห็นหรือรู้สึก บางคนไม่เห็นแต่อาจรู้สึก และบางคนไม่เลยสักอย่าง ทุกอย่างมีเหตุผล มีกรรมที่ลิขิตไว้ ผีบางตัวผูกจิตตัวเองไว้กับบางสิ่งบางอย่าง เขาก็จะอยู่ตรงนั้นแบบนั้น ส่วนใหญ่ที่ตายโหง ก็จะอยู่ตรงนั้น เพราะจิตสุดท้ายที่รู้สึกมันอยู่ตรงนั้น เจ้ากรรมนายเวร รวมไปถึงสัมพเวสี เขาก็อยากหลุดพ้นทุกข์ เหมือนเวลาโยมเกลียดใคร หรือไม่ชอบอะไร แบบนั้นแหละคือทุกข์ ทุกข์ที่ต้องเกลียด ทรมานหนักหนา เขามาเพื่อไม่อยากเกลียด
    เรา: เขาไม่ได้มาขอบุญหรือคะ
    หลวงพ่อ : ทำความดี ก็คือบุญ การไม่เบียดเบียนก็คือบุญ การมีสติ ไม่ประมาทก็คือบุญ เวลาทำบุญแล้วมีความสุขไหม สงบขึ้นไหม จิตใจดีขึ้นใช่ไหม การไม่เกลียดแล้ว ก็จิตใจดีขึ้นเหมือนกัน มันจึงเป็นเหตุให้มาขอบุญ ผลของบุญสุดท้ายคือความสงบ
    .....
    เมื่อหลวงพ่อสนทนาธรรมกับญาติโยมที่ไป จำนวนหนึ่ง พวกเราก็กราบลาหลวงพ่อกลับ ด้วยความสงสัยบางประโยคของหลวงพ่อก็ถามแม่
    เรา: แม่ หลวงพ่อบอกหนูเห็นผี หนูไม่เคยเห็นเลยนะ พึ่งจะเห็นเนี่ย
    แม่: เห็น แต่หนูไม่ได้สนใจ และไม่แยกแยะออกจากคน บางทีหาเหตุผลปฏิเสธที่จะเชื่อว่ามี
    เรา: แล้วตกลงที่เจอนี่เจ้ากรรมนายเวรพี่aa ไม่ใช่หรอ ทำไมหนูเจอ
    แม่ : ก็ด้วยๆกันนั่นแหละ
    เรา: เห้ยแม่ ไม่ใช่นะ นั่นมันของพี่aa เขา
    แฟน: ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่อย่างที่คิดไว้กันหรอก ไม่ใช่โบกี้ แต่พี่ก็อยากทำบุญให้โบกี้ด้วยนะ อยากให้เขาไปอยู่ในที่ดีๆ แล้วก็สำนึกผิดกับอะไรที่ผิดพลาดไปแล้ว พี่อยากขอโทษ
    เรา: อ่าว ผิดหมดเลยหรอ แล้วหนูไปทำอะไรให้ใครนักหนาถึงมาเจอกันขนาดนี้
    แม่: มันก็มีที่เราล่วงเกินเขา ทั้งตั้งใจ และไม่ตั้งใจ แหละลูก สัมพเวสีพวกนี้เขาก็ไม่มีที่ไป ใครช่วยเขาได้เขาก็ขอให้ช่วยหมดแหละ แต่วิญญาณเขาไม่ได้มีสติแยกแยะขั้นตอนเหมือนเรานะ เขาไม่รู้หรอกว่าจะต้องสื่อสารยังไงคนถึงจะพอใจ เข้าใจ หรือไม่กลัว บางที่เลยมาแบบโต้งๆกันเลย
    วันรุ่งขึ้น เรากับแฟนก็บินกลับกทม แฟนก็ดูเข้มแข็งขึ้น แต่ดูเหมือนจะเป็นการตกลงโดยไม่พูดกันว่าเราจะไม่พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอีก เราจึงไม่เคยถามว่ายังเจอไหม แล้วแฟนก็อยากบวชอีกครั้งเพื่ออุทิศกุศลให้กับความผิดพลาดทั้งหลายที่เกิดขึ้น ส่วนเราก็จะมีเห็นแว๊ปๆ บ้างบางครั้ง จนถึงทุกวันนี้ค่ะ
    พรุ่งนี้มาต่อภาคผนวกกันเน๊อะ


    ขอบคุณท่านเจ้าของเรื่อง: Anrm
    ที่มา :m.pantip.com/topic
     
  16. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    กลับมาต่อละนะคะ
    -เราไม่มีเจตนาเล่ายืดเยื้อเวิ่นเว้อค่ะ อาจเป็นเพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่นานเลยจำได้ดี ด้วยอาชีพที่ต้องพูด พูด พูด จึ่งค่อยข้างเป็นอย่างที่เห็น คล้ายเพื่อนคนนึงบอกว่า เป็นคนไม่ค่อยพูดแต่ถ้าได้พูดจะหยุดไม่ค่อยได้ ซึ่งการเล่าเรื่องมันต้องลำดับเหตุการณ์ จริงๆมันก็อยากนะที่จะเขียนให้เข้าใจ
    - เรายังไม่ได้อ่านเรื่องที่มีเนื้อหาคล้ายกันเลย แต่มีแนะนำมาจะหาอ่านนะคะ มีเพื่อนเจอเหมือนกันก็อุ่นใจ แลกเปลี่ยนกัน
    - จขกท ไม่ได้มีเจตนาให้งมงาย สนับสนุนการศัทธาอย่างมีสติและเหตุผลค่ะ เสพสื่อด้วยการไม่เบียดเบียนผู้อื่นด้วยจร้า ^^ นั้นหมายถึง นอกเหนือจากความเชื่อ คือการเสพเพื่อความบันเทิงนะคะ อย่าจ้องจับผิดเลยคร่าาาา ^^
    -เหตุการณ์บางอย่าง บางสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็ยังไม่มีอะไรที่พิสูจน์ว่าสิ่งเหล่านั้นไม่มีจริง
    - ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องไม่จุดประเด็นเนอะ เดี๋ยวจะเกิดกระแส ^^

    เข้าเรื่อง
    หาข้อสรุปไม่ได้ค่ะว่า เจ้ากรรมนายเวรที่มานั้นเป็นใครแน่ เนื่องจากหน้าตาที่เราเห็นมันไม่ถึงขนาดระบุได้เหมือนในรูปภาพอะไรอย่างงี๊ เท่าจากที่สรุปมาจากการพูดคุยกันในครอบครัวญาติพี่น้อง เราคิดว่า คงเป็นกรรมเก่าของแฟน และสัมพเวสี ( ลมเพลมพัด มาด้วยกัน) เหมือนว่าพอเขารู้ว่าสื่อกับเราได้ก็เลยอยากมาสื่อบ้าง มาขอบ้าง อะไรประมาณนี้ค่ะ ส่วนเรื่องแฟนเก่า เราไม่กล้าถามถึงอีกและไม่อยากรับรู้ ให้เกิดความไม่สบายใจทั้งสองฝ่ายระหว่างเรากับแฟนค่ะ ชีวิตต้องเดินหน้า หากแม้ว่าตอนนี้ไม่ใช่ ผญ คนนั้น เราว่าสักวันก็คงถึงเวลา ในช่วงเวลานี้ก็ระลึกถึง แผ่เมตตา ให้เขาพ้นทุกข์ค่ะ เพราะเห็นคุณแฟนสำนึกผิดจริงๆ แต่บุญกับบาปก็ล้างกันไม่ได้ ถ้าถามว่าแฟนเสียหลังจากนั้นทำไมไม่รู้ เราคิดว่าตอนนั้นอาจเป็น ผช เห็นแก่ตัว ที่แบบเบื่อการงอแง และอยากให้เรื่องมันจบกลัวการรับผิดชอบ ก็คงประมาณว่า คุณหายไป ผมก็ไม่ติดต่อ จากวัน เป็นสัปดาห์ เป็นเดือน กลายเป็นปี เหมือนเลิกกันไปเฉยๆ( อันนี้ความคิดเรา มโนเอง เรื่องจริงไม่ทราบค่ะ และคิดว่าคงไม่ถาม เราให้ความสำคัญกับปัจจุบัน)

    เรื่องทำไมแม่เรารู้ว่าเราโดนผีหลอก ใครบอก?
    มีใครสักคนในที่นี้มีเชื้อสายเขมรบ้างไหมคะ อาจจะพอทราบพิธีกรรม ประเพณี เล่นแม่มด คือคล้ายๆเข้าทรง เทพประจำตัวของแต่ละคน หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพน่ะค่ะ บอกไม่ถูก เรามีเชื้อ 25% แต่ฟังไม่ออกพูดไม่ได้ แม่เราก็เช่นกัน มีครั้งหนึ่งที่ ตายาย ลุงป้า แม่ ไปร่วมพิธีกรรมนี้ที่ ต่างอำเภอ (อำเภอบ้านเกิดตา) เด็กๆก็ไปอยู่รวมกันที่บ้านคุณตาโดยที่มีน้าสาวคอยดูแล ลูกหลานเป็นสิบล่ะค่ะ แล้วเราก็ชวนกันออกมานอนกางมุ้งรวมกันอยู่ตรงโถงกลางบ้าน ไม่ได้เข้าไปนอนในห้อง ดึกๆมีลมพัดมุ้งเปิดขึ้นทั้ง 2 หลัง เราก็รู้สึกตัวนะ แต่ด้วยความเป็นเด็กจึงหลับไป มาตอนเช้า ผู้ใหญ่กลับมาถึง เขาก็ถามว่าทำไมออกมานอนข้างนอกกัน ทั้งๆที่ที่นอนหมอนมุ้งเก็บหมดแล้ว ไม่น่ารู้ น้าเลยถามว่ารู้ได้ยังไง ป้าเราบอกว่า "ก็เขาบอก ถามว่าเด็กๆอยู่ที่บ้านเป็นไง เขาก็บอกว่า โอ๊ยไม่ต้องห่วง มันพากันออกมานอนกางมุ้ง 2หลังใหญ่อยู่ข้างนอก ไปดูมาหลับกันหมดแล้ว"ร้องไห้เขา ในที่นี้คือ เทพเทวดาที่เข้าทรงน่ะค่ะ เข้าใครไม่รู้) น้าเราก็ไม่เชื่อ แม่เราเลยบอกว่า นอนใกล้เราไม่หนวกหูหรือ มันนอนกัดฟันทั้งคืน แล้วตัวเองไม ไม่นอนริม ให้หลานๆนอนกลาง อึ้งกันทั้งแถบคร่าาาา เพราะฉะนั้น ครอบครัวญาติพี่น้องเราจึงเคารพบูชาครูค่ะ แต่ไม่ใช่ว่าจะมีตาทิพย์หูทิพย์นะคะ มันจะเกิดเหมือนว่า เรานึกถึงแม่มากๆ ส่งใจไปหาเต็มกำลัง ส่วนทางแม่ก็จะรู้สึกเหมือนมีลางสังหรณ์มีอะไรมาดลใจ หรือชัดเจนก็คล้ายๆมีอะไรมากระซิบบอก หรือฝัน (พ่อ แม่ ลูก มีสายสัมพันธ์ลึกซึ้งแน่นแฟ้นค่ะ)

    ทำไมพระท่านบอกว่า เราเห็น มีสัมผัสพิเศษ
    ตอนเด็กๆ เราเกิดมาพร้อมปานแดงที่ข้อพับแขนข้างขวา ขนาดใหญ่ ที่แปลกคือ มันจะบวมแดง ร้อนพองออกเฉพาะวันศีล - วันพระ เราจะร้องเป็นโคลิค เลย ปานแดงหายไปได้เพราะคุณตาทำพิธีไสยศาสตร์ค่ะ ทุกวันนี้ยังเห็นลางๆ เวลาไม่สบายหมอชอบสันนิฐานว่าเราเป็นไข้เลือดออกหรือเปล่า คุณตาบอกว่าเราอาจมีสัมผัสอะไรที่เหนือกว่าคนอื่น แต่ไม่ให้ใครบอกเรา ให้เราใช้ชีวิตปกติที่สุด เพราะฉะนั้น แรกๆ เด็กๆ เราอาจจะเห็น แต่ด้วยความไร้เดียงสา ก๋ไม่สนใจ โตมาก็มัวแต่สนใจเรื่องอื่น จิตใจไม่สงบ มันก็หายไปเรื่อย เหมือนมีคนพูดว่าถ้าเจอเรื่องลี้ลับ อย่าทัก อย่าแสดงออก ให้มีสติและทำเป็นไม่สนใจค่ะ คลื่นพวกนี้จะค่อยๆหายไปเอง เพราะยิ่งแสดงออกนั่นหมายถึงเขาสื่อเราได้ เขาจะยิ่งสื่อมาค่ะ


    ในวันที่ไปนอนโลง ระหว่างอยู่ในรถ
    เรา: พี่aa จะนอนโลงด้วยกันปะ
    แฟน: เหยยยย ไม่เอาอ่ะ พี่รอหนูดีกว่า
    เรา:อืมเสร็จแล้วไป รพ กัน
    แฟน: ไปไมอ่ะ
    เรา: พาพี่ไปรักษาโรคปอดแหก
    แฟน: หนู ผีน่ะถ้ามาแบบเป็นร่างตันๆ หรือสิงใครมาพี่จะไม่กลัวเลย มาเจอกุต่อยครับ ไม่พอกระทืบซ้ำ ดูซิว่าถ้าร่างทรงไม่ไหว ผีที่สิงจะอยู่ได้ไง แต่ถ้ามาแบบโปร่งๆมา ต่อยแล้ววืด ต่อยแล้ววืด แถมบีบคอเราได้อีก กุยอมครับ ทำอะไรมันไม่ได้ จะวิ่งหนียิ้มลอยมาดักหน้ากุได้อีก แบบนั้นบายคราบบบบ โดนบีบคอจนตาย ตายไปค่อยไปสู้กับมัน แต่แหม ตายไปก็เป็นผีรุ่นน้องมันอีก วิชายังไม่แก่กล้า ต้องเข้าแก๊งไปฝึกวิชาเป็นลูกกระจ๊อกเขาอีก หมดทางสู้
    เรา หัวเราะจนน้ำตาไหล กลายเป็นเรื่องตลก เราคิดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรากับแฟนเจอหรือเปล่า เข้าข่ายลบหลู่ไหม


    ขอบคุณท่านเจ้าของเรื่อง :Anrm
    ที่มา:http://m.pantip.com/topic/35839700?
     
  17. ต๊กโกว

    ต๊กโกว นักดาบเดียวดาย

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2016
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +552
    เป็นเรื่องราวที่อ่านเพลินดีครับ มีธรรมะสอดแทรกให้ด้วย
    ผู้เขียนเรียบเรียงได้ดีที่เดียว ขออนุโมทนาครับ
     
  18. ลูกพ่อโต

    ลูกพ่อโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +304
    ขอบคุณครับ ได้ความรู้เยอะ ปานแดงผมมีนะที่นอ้วนางช้าย บางวันแดงจัด บางวันจาง บางวันปกติ คล้ายกันป่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...