แมวเหมียวมงคลฟีล์ม ภูมิใจเสนอ!"เทพผู้พิทักษ์ทั้งสี่"น.64

แมวเหมียว ที่แห่งนั้นสงบร่มเย็น
เหมาะกับการปฏิบัติ ได้ยินเสียงลม เสียงคลื่น
เราชอบมากๆ เป็นที่พักกาย พักใจ อิ่มเอม
แต่เรามีวาสนาได้นั่งสมาธิที่นั่นแค่ 10 นาที
ด้วยไปกับคนหมู่มาก พระอาจารย์ไม่ให้หลับตานั่งสมาธิ
ท่านกล่าวว่าอาจเห็นภาพแล้วตกใจ แต่เราก็หลับตา
เพราะอยากพักสายตา ด้วยเหน็ดเหนื่อยจากภารกิจแข่งทำอาหารถวายเพล - -" เราหลับตาด้วยความกังวลว่าจะดำดิ่งแบบเดิม
แล้วพอลืมตาก็ต้องใช้เวลาสักครู่ ไม่งั้นจะรู้สึกเหนื่อย
ครั้งนี้รู้สึกไม่อยากลืมตาเลย ลืมตาแล้วก็เหนื่อยแบบเดิม
แมวเหมียว มีอีกอย่างนึง เราสงสัยมานานแล้วว่า พญานาคอยู่ในทะเลได้มั๊ย?

 

ปลาก็ยังมีได้ทั้งน้ำจืดน้ำเค็มเลยนิ! ตระกลูใหญ่อยู่ในทะเลเพราะผืนทะเลกินอาณาบริเวณกว้าง ยิ่งอยู่ลึกยิ่งตัวใหญ่เมืองใหญ่ แต่ฤทธานุภาพน้อยกว่าตระกูลที่บำเพ็ญอยู่บนบกตามถ้ำและในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะเขามีหน้าที่เฉพาะโดยตรง...พญานาคสายทะเลนั้นบางทีก็ถูกจับกินเป็นอาหารของผู้ที่เข้มแข็งกว่า ออกนอกเขตเป็นไม่ได้ต้องกลับไปพึ่งของวิเศษในแดนตน ส่วนมากเป็นตระกูลสีเขียวกับสีทอง สีพิเศษก็มีแต่ไม่เข้ากลุ่มใครมักดำรงชีวิตแต่เพียงลำพัง...คนที่จุติเดิมมาจากพญานาคสายที่อยู่ในทะเลนั้นส่วนมากไม่ค่อยสนใจใฝ่ธรรมเท่าที่ควร เพราะจิตสำนึกเดิมชอบติดในความสุขสบายไม่สู้ความยากลำบากจึงไม่เห็นความจริง

แปลกมั้ย?ที่งูทะเลกลับมีพิษร้ายแรงกว่า! แต่ความดุร้ายกลับสู้งูบนบกไม่ได้ นั้นเพราะเขาอาสัยอยู่ในเขตพื้นที่เฉพาะของตนซึ่งสามารถเก็บสะสมบ่มพิษร้ายทางสายพันธุกรรมไว้ได้และชำนาญการใช้แต่เฉพาะทาง แต่พอออกนอกเขตก็กลัวตายเป็นอย่างมากจนลืมแม้แต่จะอ้าปากก็ยังยากเต็มทีเพราะสำคัญเสมอว่าตนใช้พิษแต่เฉพาะยามหิวเท่านั้น...ปลาทะเลเกือบทุกชนิดจับขึ้นบกไม่ถึงชั่วโมงก็ตายเรียบ แต่ปลาหมอปลาช้อนเรามีพลังชีวิตสูงมากฤทธิ์เยอะทนความยากลำบากได้ทุกรูปแบบ

ก็น่ากลัวอยู่เหมือนกันบุคคลบางจำพวกได้กินดีอยู่ดีเสมอ แต่พอขาดแคลนโมโหหิวขึ้นมาก็ทำให้ผู้คนทั้งหลายแตกตื่นตกใจได้อย่างน่าฉงน ^_^

 

แมวเหมียว ชาตินี้คุณแม่เราเป็นคนชอบทำบุญ ทำทาน มากๆ
บางครั้งเรานี้เป็นคนบาปที่ขัดขวางการให้ทาน
เพราะเห็นว่าทำทานให้เขาแล้ว ยังตกเป็นเบี้ยล่างเขา
เดิมเข้าใจว่าพญานาคคงมีแต่ในแม่น้ำ
พอฟังแมวเหมียวเล่า เลยเข้าใจมากขึ้น
เพราะเขามาให้เราเห็นในฝันทั้งบนภูเขา แผ่แม่เบี้ยมีหลายหัว ในแม่น้ำโขงและในทะเล
น่าตื่นเต้นเหลือเกิน กลัวด้วย

 

ไม่จริง!!!!เจ้าค่ะ ในทะเลลึกรักสงบ พื้นที่กว้าง ห้ามขึ้นบก ไม่ค่อยมีใคร(คน)ลงไป เลยห่างไกล ดูลึบลับ หาคนมีความรู้ยาก แต่ที่เป็นใหญ่ ก็มีการฟังธรรม ขึ้นสวรรค์ อยู่เหมือนกัน ^_^ (แก้ตัวให้พญานาคทะเลไปงั้นๆ ความจริงไม่รู้อะไรเลย )
ปล. ก็ขนาดในประวัติ ท่านยังว่า นาคทะเลเวลาจะคลอดบุตร ยังต้องขึ้นมาตามสายน้ำไปถึงภูเขาในหิมพานต์เลย
ปล.1 เมื่อไหร่จะมาเล่าต่อค่ะ อยากฟังเรื่องครุฑบ้าง 1ใน4 ท้าวจตุโลกบาล เคยมีประสบการณ์นี้บ้างไหมเอ่ย??? (ท้าทาย อิอิ)

 

ง่ะ..น่าสนใจนิ

 

งะ !!! มัวแต่สนใจพระพุทธรูปจากกรุเก่า จนลืมมาเล่านิทานที่กระทู้นี้เลยรึคะ ??? เสียใจนะเนี่ย :'''(

 

เมื่อตะกี้เห็นแว๊บๆ ว่าไปป้วนเปี้ยนที่ทู้อื่นอยู่จร้า..ตาวิเศษเห็นน๊ะ :boo:

 

อ้าย!!! ตัวเองตาไวจริงๆอะ แป๊ปเดียวเองนะนั่น อูย!!! ^_^

 

แสดงว่ามีเหตุ เดี๋ยวไว้เล่นตอบปัญหาชิงราวัลพระพุทธรูปทองคำองค์น้อยดีกว่า!!

อย่าพลาดของบูชาล้ำค่าจากกระทู้แมวเหมียวในนิทานเรื่องต่อไป เร็วๆนี้!!

 

อ้าย!!! อยากได้ม้ากมาก ถ้านำมาลง คนเล่นคงเยอะน่าดู บอกล่วงหน้าก่อนเล่นด้วยนะคะ จิได้มาอ่านคำถามทันเวลา ทันถ่วงที อิอิ
ปล.คุณมิ้ง แม่สิริเทวี งานนี้ใครดีใครได้นะเออ

 

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว สมัยต้นภัทรกัลป์เขาชื่อสิเนปุระ หรือสิเนรุราชิกะจอมคีรี เป็นประธานแห่งเขาทั้งปวงและเป็นมหานครใหญ่ที่อาสัยอยู่ของเหล่าทวยเทพชั้นจาตุมหาราช มนุษย์นิกรล้วนมีอายุยืนยาวร่างกายกำยำสูงใหญ่ เมล็ดข้าวหนึ่งเมล็ดมีขนาดเท่ากะผลมะพร้าวหนึ่งลูกของยุคสมัยปัจจุบัน! มีถิ่นที่อยู่อาสัยเดิมบนพื้นที่ราบต่ำรายล้อมรอบเขาสิเนรุราชนั้น เมื่อจิตวิญาณมาปฎิสนธิมากขึ้นพื้นดินบนโลกจึงขยายตัวเพื่อรองรับสัตว์สภาวะผู้มาอุบัติมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นทวีปและประเทศน้อยใหญ่ตามมาโดยลำดับ

กล่าวถึงกำเนิดจอมเทพมหาราชผู้พิทักษ์ทั้งสี่แต่เดิมก็อยู่ร่วมกันภายในเขาสิเนปุระมหานครนั้น ยังมิได้มีอำนาจหน้าที่ใดเป็นสำคัญ (นาค,ยักษ์,ครุฑ,คนธรรพ์) สรรพสิ่งทุกชีวิตล้วนสื่อสารพูดคุยเข้าใจกันได้ในภาษาเดียวเหมือนกันหมด แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปจิตใจของสรรพสัตว์ก็เริ่มหยาบขึ้นเริ่มแบ่งแยกชนชั้นวรรณะชาติตระกูล และแบ่งแยกพวกพ้องกัน ไม่เว้นแม้แต่เหล่าทวยเทพชั้นจาตุมหาราช เมื่อรัศมีกายหยาบบางส่วนปรากฎจึงเพ่งโทษซึ่งกันและกัน หวังที่จะได้เป็นใหญ่ครอบครองเขาสถานแดนเทพแห่งนี้แต่เพียงผู้เดียว...


ทนธร จอมเทพผู้เรืองเดช
ถนัดเวทย์วิทยาโสตผสาน
จำเริญธาตุปฐวีมโนวิญญาน
ทิพยสถานเหนือยอดไม้จอมคีรี


กำธรภุมเดช ฤทธิ์เตโชธาตุ
กำปะนาทแผดเผาเพ่งจิตสังหาร
วิมานใหญ่ถ้ำลึกสุดโอฬาร
ถิ่นสถานกลางเทือกเขาจอมคีรี


ศศิธร เดชฤทธิ์วาโยธาตุ
พระพายฟาดพัดโบกแหลกสลาย
วิมานติดเมฆาหลีกเร้นกาย
ยอดคีรีหมายสถิตพักย่อนอินทรีย์


นาคธร เดชฤทธิ์อาโปธาตุ
ชำนาญม่านวารีพิษบังหวน
พิมานใต้ปฐพีสถานทั้งปวง
ทั่วแดนดวงคาบสมุทรสุดสาคร


เมื่อทวยเทพทั้งสี่เหล่าต่างตกลงกันมิได้ว่าใครจะได้ขึ้นเป็นใหญ่ ปกครองเขาสิเนรุ จึงตัดสินใจประลองเดชกันด้วยฤทธานุภาพของตน!!~~~
ทั้นใดนั้นเอง! ท้องฟ้าเหนือยอดเขาจอมคีรีก็บังเกิดมหาเมฆาใหญ่หมุนพัดวนเป็นสีดำปกคลุมทั่วอานาบริเวณ เสียงสายฟ้าอสุนีบาตคำรามสั่นสะท้านสะเทือนไปทั่วพื้นปฐพี ประหนึ่งจักบดขยี้ถล่มทลายภูเขาให้พังพินาศย่อยยับในบัดดล! (และก็เป็นเหมือนเช่นเคยทุกยุคสมัยเมื่อถึงวาระ ทั้งสี่เหล่าต่างสู้รบกันแต่ละครั้งทำให้เขาสิเนรุพังทลายลง ยอดเขาที่เคยตระหง่านสูงเสียดฟ้าก็มีอันต่ำเตี้ยลงไปเรื่อย)


"แดง เหลือง น้ำเงิน เขียว สีแสงแสดงบอก
กระจายออกสู่โลกบรรเจิดสรรค
ทั้งสี่เหล่าบรรเลงฤทธิ์อัศจรรย์
เกิดกระแสผกผันในอัตตา"

ยักษ์พญากำธรเด่นแดงสด
หวังจักบดบังโลกนี้ให้แดงฉาน
แผ่รัศมีพลังทั่วอลังการ
ฟ้าสีครามกลายเป็นสีแดงเลือดในบัดดล

พญาครุฑศศิธรเห็นประจักษ์
เข้าขจัดสีแดงให้จางหาย
ด้วยพลังสีเหลืองทองพรรณราย
ท้องฟ้ากลายสลับแสงแดงเหลืองทอง

ทนธรคนธรรพ์น้ำเงินโบก
วิปโยคสาดซัดแผ่รังสี
หวังกลืนกินสีทั้งปวงทั่วธานี
บังเกิดสีที่สามบนนภา

ฝ่ายพญานาคราช นาคธรเดช
พลังเอกสีเขียวแสงแสดงสรรค
บัดนั้นโลกปรากฎสีทั้งสี่ผูกพัน
ตามพลังธาตุนั้นๆสืบมา

เมื่อสงครามพลังสีสี่เหล่าทัพมาปะทะกัน ก็ไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะกลืนกินกันลงได้ ร้อนถึงมหาเทพอินทรชิตผู้มีรัศมีกายผ่องใส เสด็จมาห้ามทัพมิให้โลกบังเกิดเภทภัยมากไปกว่านี้...

"ช้าก่อนท่านทั้งสี่ จะราวีกันด้วยเหตุใด อันว่าความเป็นใหญ่แท้จริงนั้น หาได้มาด้วยฤทธิ์อำนาจไม่ หากอยู่ที่คุณธรรมภายในต่างหาก ผู้ใดมีคุณธรรมมากผู้นั้นก็ถึงซึ่งความเป็นใหญ่มาก เราจักแสดงให้ท่านเห็นประจักษ์ซึ่งรัศมีแสงแห่งคุณธรรม"

บัดนั้นอินทรชิตมหาเทพบนสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ถึงกาลสมัยที่จักได้บริวารผู้ช่วยเหลือกิจในโลกมนุษย์ ได้แสดงฤทธิ์จากการบำเพ็ญคุณธรรมให้ปรากฎ กาลบัดนั้นกระแสพลังเย็นได้เข้าปกคลุมทั่วโลกธาตุ ครอบงำสีทั้งสี่ดุจแสงอาทิตย์ตรงเข้าขจัดความมืดทั้งหลายให้อันตรธานสลายไป ท้องฟ้าที่มีมหาเมฆแปรปรวนก็พลันสงบลง กลับคืนสู่สภาวะปกติ...

 

<a href="http://www.mx7.com/view2/z91zDwXS7Qkg9xjL" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/b7b/ek184x.jpg" /></a> <a href="http://www.mx7.com/view2/z7JREJ8aDoFw10Ir" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/1ef/2w5JsN.jpg" /></a> <a href="http://www.mx7.com/view2/z91BfQWSn7aXiq2y" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/de7/Ffj7s5.jpg" /></a>

คำถามมีอยู่ว่า รัศมีแสงแห่งคุณธรรมของอินทราชิตที่แสดงออกมานั้นมีสีอะไร?

ก.สีสว่างไสวเจิดจ้าดุจดาวประกายพรึก
ข.ผลที่เกิดจากการผสมสี แดง,เหลือง,น้ำเงิน,เขียว กลายเป็นสีชนิดพิเศษ!
ค.ไม่มีสีอะไรเลยเพียงใช้ฤทธิ์เข้าสลายสีทั้งปวง
ง.สีขาว
จ.สีทองคำ
ฉ.อื่นๆ...พร้อมเหตุผล?

ตอบถูกท่านแรกรับไปเลยครับ ^_^

 

ตอบไรดีน๊ะ..เอาแบบลูกมั่วเลยนะ..ขอตอบว่า..

ค.ไม่มีสีอะไรเลยเพียงใช้ฤทธิ์เข้าสลายสีทั้งปวง

 

พอดีไปสถานที่หนึ่งมา ในว่าเป็นเขตแดนที่ภพทั้ง3บรรจบ เอามาช่วยมโน จะได้เห็นภาพชัดเจน ^_^

 

ตอบข้อ ก. แล้วกันค่ะ (เหมือนในภาพปราสาท แสงสาดส่งทะลุเมฆลงมา

 

คำตอบเฉลยพร้อมเหตุผลอยู่ในนิทานตอนต่อไป ช่วงนี้พอมีเวลาเพื่อนสมาชิกเว็ปท่านใดอยากร่วมสนุกก็เชิญนะครับ

 

แวะเข้ามาเล่นเกมส์กับแมวเหมียวค่ะ

ขอเดาว่า...
ข้อ ข. ผลที่เกิดจากการผสมสี แดง,เหลือง,น้ำเงิน,เขียว กลายเป็นสีชนิดพิเศษ!

ผิดถูกอย่างไร รออ่านคำตอบตอนเฉลยอยู่นะคะ

 

ขอตอบข้อ ข. เพราะมีเครื่องหมาย !
5555

 

ค.ไม่มีสีอะไรเลยเพียงใช้ฤทธิ์เข้าสลายสีทั้งปวง

 

ขอตอบมั่งครับ ท่านอื่นเหมาตอบไปเกือบหมดแล้ว ผมขอตอบข้อ จ.สีทองคำแล้วกันครับ ^_^ เพราะพระยังมีสีทองเลย