วิริยาธิกะพิเศษบันทึก

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย pco-, 7 มิถุนายน 2010.

  1. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814




    :cool:({) สวัสดีครับ อาซือเจ๊ ขอบคุณครับ ที่เป็นห่วง และให้กำลังใจ เป็นอย่างดีครับ มันหาค่ามิได้ เกินกว่าคำบรรยาย ใดๆ ครับ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแบบ ท่านพ่อว่ามานั่นแหละครับ ผ่านมาก็ผ่านไป :cool:
     
  2. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
     
  3. Armarmy

    Armarmy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +1,659
    ก็ยังว่าอยู่นะครับ คุณบุญทรง ผมนึกถึงที่ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้คล้ายๆ กันอยู่เรื่องคือ

    เรื่องทำบุญแบบท่ายาก มาแต่เดิม พอถึงเวลาเราจะเอาหรือทำอะไรนี่ก็ให้ผลแบบได้กินยากๆ

    "อะไรๆ ก็ยากไปหมดทุกอย่าง" โอ้ย!..ยากไปหมด...

    นี่คงได้รับผลมาจากทำบุญมาด้วยท่ายากกันนะครับ พี่ๆ น้องๆ ฮ่าๆๆๆๆ

    แบบว่ายน้ำเข้าหาฝั่งน่ะ บางท่านตีกรรเชียงเรื่อยๆ ไม่เน้นท่ายาก ให้ถึงฝั่งเป็นพอ ก็ไปเรื่อยๆ ได้

    แต่บางท่านว่ายเข้าหาฝั่ง ต้องใช้ท่าผีเสื้อ ท่าอะไรที่มันยากๆ นั่นแหล่ะครับถึงจะยอมว่ายได้... ฮ่าๆๆๆๆ

    เอ้อ ผมเคยถามเอากับพระอริยเจ้าเหมือนกันเรื่องพวกนี้ ท่านว่ามันมาจากชอบบุญยากๆ นี่แหล่ะ

    ท่านก็เลยแนะให้ไปกวาดวัดง่ายๆ ทำอะไรให้มันง่ายๆ แต่ได้บุญเหมือนกัน ให้ผมลองทดสอบดูได้

    หลังจากนั้นได้รับคำอธิบายมาว่า "ที่ยากเพราะอยาก ถ้าไม่อยากก็ไม่ยาก"

    ก็จริงของท่านนะครับ แต่จริงของใครของมันต้องเห็นกันเอง

    เจริญในธรรมครับ
     
  4. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814





    :cool:({) สัวสดีครับคุณ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน ที่คุณพูดมาผมเข้าใจ ผมว่ามันเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นครับ สำหรับ ผู้ปราถนา สาวกน่ะใช่ แต่ไม่ใช่ สำหรับ ผู้ปราถนา พระปัจเจกะพุทธะ และข้อสำคัญ ผู้ปราถนา ที่จะไปเป็นพระพุทธเจ้า จะไปเป็นครูเขา มันต้องลองทุกๆอย่าง ไม่ว่า จะเป็น ปัญญาธิกะ ศรัทธาธิกะ วิริยาธิกะ ผมรู้ศึกจะอุปมาอุปมัย ไว้หลายกระทู้ ที่ผ่านๆมานะครับ ที่เหลือคงที่ยาวนาน ก็กระทู้พี่ พีซีโอนี่แหละครับ ที่เข้าใจ รู้ใจกัน พอจะพูดกันรู้เรื่องหน่อย ผมก็พูดบ่อยๆเสีย ด้วย ว่า แม้พุทธภูมิด้วยกัน ยังไม่เข้าใจกันเลย เสียส่วนใหญ่ ถ้ากำลังใจ ไม่ใกล้เคียงกัน


    ผมเคย คิดจะหยุดมานาน แต่มีท่าน ผู้ใหญ่ ผู้รู้ ท่านบอกว่า อย่า นึกว่า ตัวเอง ทำเองแค่นี้พอแล้ว นะ มันไม่ใช่ มันยังห่างไกล เกินไป นัก มันต้องทำอยู่บ่อยๆ ทำเนืองๆ ทำทุกอย่าง เมื่อก่อน เข้าใจเท่านั้น อายุยังไม่ถึง ๒๐ ตอนนั้นนะ แต่ ๓๐ ปีมานี่ มันเข้าใจ หลายๆเรื่อง หลายๆอย่าง เมื่อก่อน เคยมีความรู้สึกว่า เรียนมาน้อย แต่ นานๆวันเข้า กลับ ภูมิใจว่า ประสบการณ์ ชีวิต มันหาค่าไม่ได้จริงๆ และหาซื้อ หาเรียนที่ไหน ไม่ได้จริงๆครับ ส่วนใหญ่ มันไม่มีตำราเรียน นี่ซิ มันเรียนตรงจาก ประสบการณ์ ตรงล้วนๆ ฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


    และมีหลายๆเรื่อง มันก็ไปโดน ตรงกับ การเรียนการสอน ในตำรา เขาเรียกว่า ขี้ตรงล่องครับ บ่อยๆครั้ง ไอ้ขี้ตรงล่องนี่ แม้โครงการ เศรษกิจพอเพียง ก็ทำมาก่อน ประมาณ ๒ ปี ไปขี้ตรงล่อง กับโครงการพ่อหลวง เดี๋ยวนี้เลิกหมดแล้วครับ เหลืองานไม่หนักนัก แต่หนักใจครับ แต่พอใจพอเพียง ในสิ่งที่ตนมีอยู่ครับ ไม่กระเสือกกระสน เหมือนเมื่อก่อน ความอยากรวยมากๆ ก็ลดน้อนถอยลง ไปมากทีเดียวครับ และอีกอย่าง เมื่อวานก่อนมืด ก็มีเรื่องมาเล่า อีกตามเคย ปัจจุบันทันด่วนครับ ไอ้ผมนี่ มัน เป็นตัวเหี้ยๆ เสมอๆ สำหรับ คนอื่นๆ ทำอะไร นี่ มันผิดไปหมดเลยน้อ:cool:
     
  5. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สวัสดีครับ พี่ พีซีโอ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน การตัดใจนี้ ที่มันยากที่สุด ก็คือ คนใกล้ตัว ใกล้ชิด สนิท ไม่ว่า จะเป็นนักบวช หรือฆราวาส ผู้หญิง ผู้ชายก็ตาม คนในครอบครัวเดียวกัน ในกรณี หลายๆอย่างหลายประการ เมื่อวาน ก่อนมืด และมืด ทุ่มเศษๆ ยังจับใจความไมได้นัก ว่าใคร ไปยุแหย่ คงไม่เกินพรุ่งนี้คงรู้ว่า ใครไปยุแหย่ ไอ้คนโดน ยุโดนแหย่ ก็ไม่ได้ ฟัง อีล้า ค้าอีลมเลย ใส่เป็นชุดๆเลย มิหนำ ซ้ำ คนใกล้ตัว นี่ซิ ที่เคารพ กันพอสมควร และเป็นครู ในโรงเรียน พระสุธรรมเสียด้วย เขาบอกเขาเข้าใจเรา เขาอยู่ตรงกลาง ตั้งแต่สร้าง พระ และศาลาเอนกประสงค์มา เขาไม่เคยมา แต่ให้ผัว มา และออกค่าน้ำ ค่า อาหารข้าวหม้อแกงหม้อ


    ทำบุญก็แค่ไม่กี่พัน บาท ไอ้คนหูเบานี่ ฟังอะไรมานี่ แล้วเชื่อ พิจรณาเลยนี่ มันอันตรายมากๆจริงๆ ฝ่ายตรงข้าม มันไปเจาะ ได้ใจจริงๆ ไม่รู้ ไปยุอีกันอีท่าไหน ถึงได้ เป็นฟืนเป็นไฟ ขนาดนั้น เขาโทรมาหาผม จะปิดโทรศัพ หนีก็ พรึ่งครั้งแรก สำหรับคนๆนี้นะ ทำไม่ไม่สร้างให้เสร็จ ศาลาน่ะ จะให้เราฟังเขาข้างเดียว เขาบอก เขาเข้าใจเรา เขาว่า ถ้าไม่รู้จักผมมาก่อน ก็คง ไปตามเขาหมด นี่ขนาด รู้จักเนี่ยนะพี่ ใส่เป็นชุดไม่เลี้ยงเลย ไอ้ผมก็เก็บมาคิด เป็นระยะๆ เขาอ้างเหตุผล สารพัด แบบ พวก ราชการเปะเลย พูดรอยเดียวกันเลย




    ในที่ประชุม เหมือนเอาคำพูด นั้นมา หลอม เป็นอันเดียวกัน ส้รางไม่เสร็จ ก็โดน สร้างเสร็จก็โดน ทั้งขึ้นทั้งล่อง นี่คงจะหาเหตุ มาตีผมอีกเยอะน่ะเนี่ย เพราะตอนนี้ ผมเอาไม้ไผ่ มาทำนั่งร้าน ไม่ถึง ๑๐ ลำ เตรียม จะต่อ เพิงกันสาด เพราะบ้าน มันรั่ว น้ำซึม เข้าในห้อง เวลาฝนตก เลยมาทำบ้านตัวเองดีกว่า กะว่า ทำเสร็จ เอาไม้ไผ่ ไปคืนไว้ ที่ศาลา จริงๆ ก็เงินผมนั่นแหละ เสียส่วนใหญ่ เกินกว่าคนทำบุญมา และข้อสำคัญ คนในหมูบ้านจริงๆ ทำบุญหล่อพระไม่เท่าไหร่ เงิน มาจากข้างนอกทั้งนั้น จริงๆ เขาพูดว่าผมเยอะมาก จนบอกไปหลายเที่ยว ให้เลิกพูดเถอะครับ มันหยุด ผมเลิกทุกๆอย่างแล้ว ผมเลย ออกตัว ผมปวดหัว ไม่อยากฟัง ต่อไป คงไม่เกรงใจแล้วครับ จะให้แค่ครั้งนี้เท่านั้น ต่างคน ต่างอ้าง เป็นลูก ศิษย์ หลวงพ่อ และเขา เข้าวัดท่าซุงมา ตั้งแต่ยังเล็กๆโน่น เอาคำพูดมาพูดว่า ลูกศิษย์ หลวงพ่อ มีทั้งเสือสิงห์ กระทิงแรด ผมบอก คำพูดนี้ มันของผม พูดมานานแล้ว ๑๐ กว่าปี เมื่อก่อน ยังไม่มีใครพูด แม้คำพูด สมบัติ ผัสกันชม นี่ก็ของผม พูดบ่อยๆ จนเซียนพระนำไปพูดกันติดปาก


    และคำพูด ดีวิชั่น ๑ กับดีวิชั่น ๒ นี่ก็เป็นคำพูด ผมกับหลวงพี่ สมพงษ์ ในวงการพระเครื่อง หลวงพ่อ คำพูดของผม เขาเอามาใช้กับผมหมด ทุกๆเรื่อง ที่ผมไม่ค่อยเอ่ย ชื่อครู บาอาจารย์ เพราะ มันแสลงใจครับพี่ ไม่จำเป็นจะไม่เอ่ย เพราะ โดนมาหลายๆอย่าง นี่ก็พึ่ง คุยกับพี่ไปไม่นาน สงสัยว่า งานนี้ คงไม่หยุดกันง่ายๆ แน่นอนครับ ผมบอก ใครอยาก จะลงนรก ขึ้นสวรรค์ ก็ช่าง ผมไม่สน ผมหยุดทำแล้วนะ เหลือเก็บดิน ที่หล่นชายทาง หิน ทรายผมก็ขนกับช่างแล้ว อากาศร้อนๆ ถ้าใคร มา ขวาง ไม่แน่ ตอนนั้นนะ อาจจะฟัน ให้คอขาดไปเลย อากาศมันร้อนอบอ้าวครับ ทำแป๊บเดียว ไม่ ๑๐ นาที ก็วิ่งโล่ เข้าร่มแล้ว ขนาด ๕ โมงเย็น ยังร้อน แสบตัวเหนียวตัว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2015
  6. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    เรื่องลักษณะนี้มันก็คุ้นๆมากเหมือนกันนะพี่ หากสมมุติว่าผมเป็นขุนทหารของพ่อ ผมก็ชอบที่จะอาสา ไปอยู่ประจำการหัวเมืองชายแดน ไม่ค่อยชอบประจำวังหลวง มันรำคารอย่างที่พี่รำคารนี่แหละ หากเป็นสมัยใช้ดาบแทนการหนังสติ๊กอย่างสมัยนี้ อาการแบบนี้หัวขาดเอาง่ายๆ หรือไม่ก็ฟันที่ปากบ้าง สับหน้าให้เป็นแผลเป็นไว้ให้จดจำบ้าง ไอ้ลักษณะนี้พอโดนเคาะกระโหลกแล้วเป็นวิ่งอ้าวๆไปฟ้องพ่อ แต่พอสอบสวนทีไรแหมโดนพ่อดุเอาทุกที ว่าทำไมฟันมันแค่แผลเดียว ฟันมันแค่นั้นมันจะไปจำอะไร ผมน่ะเคยแต่โดนพ่อดุเอาแบบนี้ ที่เป็นแบบนี้เราก็ต้องถูกต้องจริงๆขาวสะอาดของเราจริงๆ มันถูกต้องมาตั้งแต่มีการวางศิลาฤกษ เพราะแถมอีตอนวางศิลาฤกษเนี่ย พ่อนั่นแหละท่านวางให้ นั่นมันเป็นแบบนั้น แล้วจะไม่เคาะด้วยสันดาบสั่งสอนคนที่ เวลาเขาทำกันนี่ไม่ค่อยเห็นหัว เสนอหน้ามาอีตอนล้อมวงกินข้าวตอนเย็นเท่านั้น

    อีตอนเช้ามืดไม่เสือกตื่นขึ้นมาพร้อมพ่อพร้อมแม่ช่วยงานการ ตอนเที่ยงแดดเปรี้ยงๆหาหัวไม่พบ อีตอนบ่ายรถไอ้ติมมาเคาะกระดิ่งกิ๊งๆวิ่งมาล้อมรถไอ้ติมเห็นหัวแค่ครึ่งซีก อีตอนเย็นตอนกินข้าวนี่ ค่อยเห็นหัวครบหน่อย ยิ่งอีตอนจะไปเที่ยวงานวัด ไอ้พี่ๆน้องๆที่ระยำๆประเภทนี้จะเกาะแขนเกาะขาพ่อแม่ขอเสื้อผ้าใหม่ ขอสตางค์ไปเที่ยวงานวัด

    ไอ้เรามัวแต่จะเอาควายเข้าคอก สุมควันไฟให้ควายไล่ยุงก่อน เลยไม่ค่อยทันพวกนี้

    พวกที่ว่านี่ผมเห็นแต่ที่อื่นๆนะพี่ ที่ชั่วชาติบัดซบสำหรับความรู้สึกของเราแต่เพียงผู้เดียว (ผู้อื่นห้ามลอกเลียนแบบความรู้สึก) ส่วนในหมู่คณะวัดท่าซุงคงไม่น่าจะมีใครยังมีความรู้สึกนึกคิดที่นอกคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ หากยังมีอยู่พี่ก็ต้องสงสารคนพวกนั้นให้มากนะพี่ เพราะต่อแต่นี้ไปพวกนั้นไม่มีพ่อมีแม่ท่านอยู่คอยสั่งคอยสอนอีกแล้ว

    เอ พี่บุญทรง หรือว่าพี่กะผมเนี่ยมันเพี้ยนคำสอนพ่อแม่ซะเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 พฤษภาคม 2015
  7. Armarmy

    Armarmy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +1,659
    ครับ คุณบุญทรง ประสบการณ์ของผมเองก็มาแบบนี้แหล่ะ

    จนสงสัยตัวเองเหมือนกัน บางทีนะครับ

    ยกตัวอย่าง แค่ผมจะกินน้ำขวดเดียวนี่ยังยาก ทั้งๆ ที่มันไม่น่าจะต้องยากอะไร

    คือ มันจะต้องมีอะไรมาทำให้กินสบายๆ ไม่ได้ทุกทีต้องลงมือจัดการอุปสรรคก่อนถึงได้กิน

    ผมเลยสาบานกับตัวเองไว้ว่า ต่อไปจะไม่ทำบุญด้วยท่ายากแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆ

    แต่เดี๋ยวนี้เบาไปเยอะแล้ว ได้กินง่ายๆ กับเขาบ้างแล้ว


    ช่างเขาเถอะครับ คุณบุญทรง ช่างเขา ใครเขาจะว่าอะไรก็ช่างเขาเถอะ เราจะถอยก็ถอยแบบสงบ

    เรื่องเป็นตัวเหี้ยตลอดกาลนี่ ผมเองก็เป็น อีแบบนี้ล่ะ ทำดีเสมอตัว ทำเฉยๆ ยังเลว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

    แหมอย่างกับว่าเราไปฆ่าล้างโคตรเหง้ากันมาเลยนะ ได้ช่องเป็นไม่ได้เอาทันที

    ถ้าเรายอมให้เขาว่าตัวได้ ก็สบายดี ด่าไปซี ตำหนิไปซี ไม่ต้องไปสนมันจะได้รับกรรมอะไร นั่นมัน มานะของเรา

    คิดว่าเขาจะได้รับผลไม่ดี เพราะเรามันยังถือว่าตัวดีอยู่ เลยถือว่าเขาต้องได้รับผลไม่ดีแน่ๆ

    เข้าทำนอง อย่าทำอะไรกูนะ เดี๋ยวมึงจะบาปมึงจะซวย... จริงๆ เขามาช่วยบริการเอาออกให้เราแล้ว

    ผมถือเป็นการฝึกสอน ผมเจอบ่อย มาถึงก็มาด่าๆๆ จนผมเฉยน่ะ ด่าไปซิ เราก็ว่าตามเหตุผลเท่านั้น จบ

    นอกเหนือจากนั้น ฉันไม่ว่าด้วยหรอกจ้ะ ยอม จะทำอะไรทำไปเถอะ วางกำลังใจได้แบบนี้เจอไปก็เบา

    คือ เขาทำอะไรเราไม่ได้แล้วเดี๋ยวเขาก็เลิกไปเอง ถ้าเรายิ่งตอบโต้ก็ยิ่งไม่หยุด มันเป็นเพราะอะไร? กรรมหรือ?

    หรือเป็นเพราะ เรายังยอมไม่ได้จริงๆ หว่า? เลยมักจะเจอหมอยาจับฉีดยารักษาโรคแบบที่เจ้าตัวไม่เต็มใจให้ฉีด


    พุทธภูมิ ไม่ต้องศึกษาวิธีการปฏิบัติเพื่อ อริยมรรค อริยผล หรือครับ? ผมว่าต้องศึกษาหมด ก็แบบที่คุณว่านั่นแหล่ะ

    แต่รู้เฉยๆ ไม่ได้ ต้องลงมือทำให้ได้จริง ต้องผ่านอารมณ์พระอริยเจ้าจนถึงขั้นทรงตัวได้ ยากก็ตอน รักษาอารมณ์ให้ทรงตัวนี่แหล่ะ

    ถ้าต่อยมวย ผมเห็นว่าชิงเข็มขัดน่ะง่าย ยากตอนรักษาเข็มขัด

    ถ้าพุทธภูมิ ที่ยังไม่มีกำลังใจปฏิบัติเพื่อมรรคผลนิพพาน จัดว่า กำลังใจต่ำ อาจจะบารมีต้นๆ คือ ยังไม่อะไรๆ เท่าไหร่

    เราจะไปโยนว่าเป็นเฉพาะสาวก อย่างเดียวไม่ได้ พุทธภูมิไม่มีสิทธิพิเศษอะไร นอกเหนือไปจากที่ พระพุทธเจ้า ท่านตรัสไว้

    นอกนั้นก็เรียนเหมือนกันหมด แถมต้องเรียนให้ได้เกรดสูงๆ เสียด้วยซี

    เพราะ ครูท่านสั่งมาว่าถ้าอยากเป็นครูอย่างครูที่สอนอยู่นี่ เราต้องตั้งใจมากๆ นะ อีตอนเราอยากเป็นเราก็รับปากส่งเดช จ้ะๆๆ ครับๆ ค่ะๆ

    พอเราแน่ใจบอกครูไปว่าต้องการเป็นครู ครูก็เลยเอ็นดูมากด้วยเห็นว่าเป็นเด็กที่มุ่งดีหวังทำประโยชน์ให้คนอื่นด้วย ครูก็ปลื้มใจได้ศิษย์แบบนี้

    ท่านก็เลยเอาใจใส่เรามาก ด้วยการติวเข้มโขกสับให้บ่อยๆ นี่ลูกศิษย์ที่เขาไม่ได้อยากเป็นครูนี่ ระวังเขาอิจฉานะครับ

    เพราะครูท่านมีความเอาใจใส่กับเรามากเป็นพิเศษ จะอยู่สบายๆ ก็ไม่ได้ ครูเห็นว่าว่างเกินไปเดี๋ยวจะโง่ เป็นครูสอนใครไม่ได้

    ท่านก็สั่งสอนด้วยตัวเองก็มี หรือ ฝากให้ผู้ใดสอนแทนให้ก็มี ในกรณีที่ครูไม่ค่อยว่างมาแทน หรือเรามัวแต่หัวหมุนอยู่เลยมองไม่เห็นหน้าครู

    นี่ท่านเอาใจใส่เราถึงเพียงนี้ เรายังจะบ่นอีกหรือครับ หรือครูรักเราไม่พอแก่ความต้องการจะต้องให้ท่านรักมากกว่านี้มั้ยครับ

    แต่ผมเกรงว่าถ้ารักมากกว่านี้ ลูกศิษย์อาจตายห่าไปเลย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ (เป็นผมก็ขอเป็นเด็กที่พยายามเรียนเรียบร้อยๆ ไว้ก่อน เกรงไม้เรียว)

    ถ้าไม่ติวแบบนี้ก็ไม่ได้อีกในฐานะที่ ครู ท่านเป็นครูมาก่อน ท่านย่อมทราบว่าครูต้องทำอะไรบ้างต้องมีความสามารถระดับไหนจึงทำหน้าที่ครูได้

    เอ.. ไปไงมาไงไปถึงเรื่อง ครูสั่งสอนได้หว่า ช่างเถอะครับ ผมก็พิมพ์ๆ ไปตามความเลวของใจผมเองนั่นแหล่ะ

    เจริญในธรรมครับ


    เอ้อ ติดเรื่องนิทานก่อนนอนไว้กับ ซือเจ๊ ไว้นี่หว่า ผมจะหาเวลาพิมพ์ทิ้งไว้แล้วจะเอามาให้อ่านจ้ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2015
  8. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    :cool:({) สวัสดีครับพี่ พีซีโอ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน แหม พูดถึงอีตอนเป็นเด็ก แบบพี่ว่ามาเลยทีเดียว มันผ่านมานาน จำไม่ค่อยได้ พอพี่พูดมา มันได้ ความรู้สึกเก่าๆ ตอนสุมไฟ ให้ วัว ควาย เป็ดไก่ หมู บางทีก็ พัด ฟันไฟ เข้าไปในเล้า ในคอก วัวควาย ไล่ยุง ไม่ให้กัด พวกเขา การจุดไฟ ก็เคยได้ยิน หลวงพ่อ ท่านพูด เสมอๆว่า ถ้าจุดไฟ ไล่ ยุงแบบโบราณนี่ เป็นฆ่า เชื้อโรคต่างๆ ในอากาศ ได้ด้วย เดี๋ยวนี้ ที่จะได้เห็นบรรยากาศเก่าแบบแต่ก่อน คงหาไม่เจอแล้วแหละครับ พี่ แม้แต่ คำว่า กระปิ้ง ปิดปิ แม้แต่ ได้ยิน คงหาฟัง ที่ไหน ไม่ได้อีกแล้ว ฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ นอกจาก คณะของเรา ใช่ไหม หรือที่อื่น ยังมีอีกครับนี่




    เอ่พี่ ผมเอง ก็คิดว่า ผมเอง คงมันลูกนอกคอก ไม่เอาไหน จะถาม พ่อแม่ ครูอาจารย์ ก็ยังติดต่อไม่ได้ จะไปถามใครเขาหรือ ก็หาคนปรึกษายาก จะถามพี่ก็ อยู่โน่น สงขลา แต่ก็ยังมีพี่ บอกว่า เรา สองคน มัน ลูกนอกคอก ครู หรือเปล่า ผมก็ยังถาม ตัวเองเหมือนกัน นะบางที ตัวเรา ลูกพ่อเดียวกัน ก็จะไม่มีใครเขาคบอยู่แล้ว เราก็ว่าเราทำดีแล้ว แต่เหตุไฉน ยังมีคนไม่ชอบอีก เขายุกันให้ชาวบ้านแตกกัน เขาก็ว่าเรา คน ทำให้ ชาวบ้านแตกแยก ก็ดีเหมือนกันนะพี่ จะได้รู้แล้ว รู้รอดไป ไอ้เรามันลูกเมียน้อย ไม่ใช่ลูกเมียหลวง ขนาดหนี ไปอยู่ชายแดน มันก็ยังหนี ไม่พ้น



    พอว่าจะมาอยู่ ในเมืองหลวง ก็เบื่อ มันแย่ง ชิงดีชิงเด่นกัน มิหนำซ้ำ ยังโดนกระทืบบ่อยๆ คำพังเพยนะพี่ มันคล้ายๆทำนองนั้น สารพัด จะโดน ขอบคุณนะครับ พี่ ที่เหตุการณ์ มันคล้ายคลึงกัน แต่มันเกิด แค่คนละสถานที่ เท่านั้นเอง
     
  9. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    :cool:({) สวัสดีครับ คุณ แหม มีทั้ง ยาขม มีทั้ง ยาหวาน ปนกัน มันมั่ว ไปหมด แต่ได้ อัธรส ใจความ มีทั้งกระแทก แดกดัน มีจนครบครัน ไอ้ผมเอง มันติดต่อ ครูไม่ได้เสียด้วย ได้แต่นึกถึง คุณของครู ไม่รู้แม้กระทั่ง ว่าใครเป็นใคร แม้กระทั่ง ชื่อ ทั้งภายในและภายนอก ทั้งรูปธรรม นามธรรม อารมย์ต่างๆ ผมพอเข้าใจ แต่ยังไม่รู้จริง ยังทำไม่ได้ ไร้กลี่น ไร้เสียง ไร้รูป ไร้รส ไร้ สัมผัส แต่รู้ ว่ามีกลิ่นหอมเหม็น รู้ว่า ติดเสียงไพเราะ ไม่ยินดี เสียง ที่ไม่ชอบ รู้ว่า ชอบรูปสวยๆของงามๆชอบ ของไม่สวยไม่งามไม่ชอบ รู้ว่า ชอบ รสอร่อยๆ ทุกอย่าง ที่ผ่านลิ้น และไมชอบ กับของไม่อร่อย รสไม่ดีไม่ชอบ



    รู้ว่าชอบสัมผัส เนื้อนิ่มๆ ละมุนละไม เอ๊าะๆแบบเนี้ย ยิ่งชอบใหญ่เลยแหละครับ มันไม่ชอบ ก็ตอนที่ไม่ต้องการ นะครับ ขอบคุณนะครับ มีทั้งหยิกแกมหยอก มีทั้ง บุ๋น บู๊ ในตัว เสร็จ มีหลายรส หลากหลาย คมคาย แต่ก็ว่าครับ ผมยังเป็นผู้ศึกษาอยู่ ยังเอาตัวไม่รอด ยังเป็นเด็ก ผู้ต่ำต้อย ครับคุณ :cool:
     
  10. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    วันนี้มาต่อภาพชุด สุดท้าย ที่ทำไว้ว่า ทำเสร็จแค่นี้ครับ คงไม่ทำต่อ แต่ก็คงมีปัญหาต่อไปครับ คือ มีคนเขามาเรื่องอีก มีคนยุแหย่บุคลใกล้ชิด ๆก็หูเบาอีกแหละ เชื่อ คนมายุ มาใส่ เต็มๆ สารพัด จะว่า ทั้งๆเขาไม่ได้ มาประชุม มาในงาน ทุกครั้ง ที่จัด เพียง ผัวมาแทนเท่านั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำไป ว่า เหตุการณ์ มันเกิดขึ้นแบบไหน จากเหตุอะไร เขาสรุป ง่ายๆคือว่า เขาเข้าใจ ทั้ง ๒ ฝ่ายหมด คนโมเมแบบนี้ก็มีด้วย ไร้เหตุผล สิ้นดี ทั้งๆมีความรู้สูง หนำซ้ำ บอกอยู่วัดมาตั้งแต่เด็กๆ


    เพียงเป็นครู สอนเด็ก แล้วความรู้ จากการ ก่อสร้าง เหตุผล ต่างๆรอบข้าง ทั้งผู้คน มาหาเรื่องต่างๆ โครงการเป็นแบบไร ก็ไม่รู้ ใครไปใครมาก็ไม่รู้ แค่ผ่านมาก็ผ่านไป ไม่เคยมาถาม หรือดู แล้วมาบอก เขาทำงาน มีระบบทุกๆเรื่อง เข้าใจหมด สร้างไม่เสร็จ เป็นเพราะผม ทำความแตกแยก ก็ผม หาว่า ชอบทำแบบ วัดท่าซุง มันคนละเรื่องเลย ผมเอง ดู ส่วนรวมทั้งประเทศ แยกแยะได้ ว่า ควรทำอย่างไร ผมก็โดนอีก ผมเป็นคนไม่มีเหตุผล เอา ใจตัวเอง เป็นสำคัญ ไม่ฟังคนอื่น ทำอะไร ไม่เป็นขั้นตอน ตัดสินใจ ทำคนเดียว พวกนี้ คงจะให้ ตั้งเสาร์ ศาลาโด่ไว้ สัก ๕ ปี แล้วค่อยมาทำใหม่ คงเป็นลักษณะนั้น

    ผมเอง ในชีวิตนี้ ทำงานมา ๑๐๐ กว่าชนิด พอรู้ว่าอะไรผิดถูก แยกแยะได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN3319.jpg
      DSCN3319.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69.4 KB
      เปิดดู:
      29
    • DSCN3320.jpg
      DSCN3320.jpg
      ขนาดไฟล์:
      99.9 KB
      เปิดดู:
      29
    • DSCN3321.jpg
      DSCN3321.jpg
      ขนาดไฟล์:
      89.4 KB
      เปิดดู:
      28
    • DSCN3322.jpg
      DSCN3322.jpg
      ขนาดไฟล์:
      90.5 KB
      เปิดดู:
      31
    • DSCN3323.jpg
      DSCN3323.jpg
      ขนาดไฟล์:
      109.4 KB
      เปิดดู:
      37
    • DSCN3324.jpg
      DSCN3324.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.4 KB
      เปิดดู:
      37
  11. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สวัสดีครับพี่ พีซีโอ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน วันนี้มาต่อภาพชุด สุดท้าย ที่ทำไว้ว่า ทำเสร็จแค่นี้ครับ คงไม่ทำต่อ แต่ก็คงมีปัญหาต่อไปครับ คือ มีคนเขามาเรื่องอีก มีคนยุแหย่บุคลใกล้ชิด ๆก็หูเบาอีกแหละ เชื่อ คนมายุ มาใส่ เต็มๆ สารพัด จะว่า ทั้งๆเขาไม่ได้ มาประชุม มาในงาน ทุกครั้ง ที่จัด เพียง ผัวมาแทนเท่านั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำไป ว่า เหตุการณ์ มันเกิดขึ้นแบบไหน จากเหตุอะไร เขาสรุป ง่ายๆคือว่า เขาเข้าใจ ทั้ง ๒ ฝ่ายหมด คนโมเมแบบนี้ก็มีด้วย ไร้เหตุผล สิ้นดี ทั้งๆมีความรู้สูง หนำซ้ำ บอกอยู่วัดมาตั้งแต่เด็กๆ

    เพียงเป็นครู สอนเด็ก แล้วความรู้ จากการ ก่อสร้าง เหตุผล ต่างๆรอบข้าง ทั้งผู้คน มาหาเรื่องต่างๆ โครงการเป็นแบบไร ก็ไม่รู้ ใครไปใครมาก็ไม่รู้ แค่ผ่านมาก็ผ่านไป ไม่เคยมาถาม หรือดู แล้วมาบอก เขาทำงาน มีระบบทุกๆเรื่อง เข้าใจหมด สร้างไม่เสร็จ เป็นเพราะผม ทำความแตกแยก ก็ผม หาว่า ชอบทำแบบ วัดท่าซุง มันคนละเรื่องเลย ผมเอง ดู ส่วนรวมทั้งประเทศ แยกแยะได้ ว่า ควรทำอย่างไร ผมก็โดนอีก ผมเป็นคนไม่มีเหตุผล เอา ใจตัวเอง เป็นสำคัญ ไม่ฟังคนอื่น ทำอะไร ไม่เป็นขั้นตอน ตัดสินใจ ทำคนเดียว พวกนี้ คงจะให้ ตั้งเสาร์ ศาลาโด่ไว้ สัก ๕ ปี แล้วค่อยมาทำใหม่ คงเป็นลักษณะนั้น


    ผมเอง ในชีวิตนี้ ทำงานมา ๑๐๐ กว่าชนิด พอรู้ว่าอะไรผิดถูก แยกแยะได้ อ่อ มีอีกนิดแถมครับ ที่มันน่า เจ็บใจที่สุด พม่า เป็นพ่อแม่ ของพวกมัน หรือไงมิทราบ เข้าข้างกันเป็นปี่เป็นขุ่ย หาว่า เขามาอยู่เป็นระบบ มีกฎมีเกฎ มีระเบียบ ทั้งมันเคยมายิงนก ต้นทางหมู่บ้าน ยันท้าย ซอยหมู่บ้านเนี่ย นะเขาอ้างว่า คนไทย ข้างนอก อาจมาหลุบมุม ยาบ้ายาม้า มันคิดได้ไง ไม่รู้เหมือนกัน ทั้งทุกวันนี้ คนข้างนอกทั้งนั้น เข้ามา หมามันก็เบือ กันตาย เกินกว่า ๑๐ ตัว ครั้งเดียว มีการลักโขมยเนี่ยนะ พี่ น้องฟังแล้วเป็นไงครับ บางคน ผมเห็นมี เหมือนคนบ้า อาการเสพ ยาบ้าเนี่ยนะ ที่นี่ อยู่อย่างสงบ ขอให้เป็นจริงดังว่า การพนัน ก็มี เยอะแยะ พูด ออกมาได้ ไม่อาย ฟ้าดินบ้างเลยน้อ



    มันต้องแบบพี่ว่า มานั่น น่าจะสาสมใจ ฟันปาก แล้ว ค่อย มาว่ากันว่าเรื่อง อะไร แบบคนในสมัยก่อน เขาฝากรักกันด้วย สันมีดบ้าง คนมีดบ้าง ไม้ตะพดบ้าง คมแฝกบ้าง ที่พี่ พูด มันสะใจ แต่ผมไม่ได้ทำหรอกครับ แต่เหตุเกิดแบบนี้ มันลักษณะ แบบที่พี่พูด มัน่าใช้ กับคนแบบนี้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN3325.jpg
      DSCN3325.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76.9 KB
      เปิดดู:
      35
    • DSCN3326.jpg
      DSCN3326.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.6 KB
      เปิดดู:
      54
    • DSCN3327.jpg
      DSCN3327.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67 KB
      เปิดดู:
      30
    • DSCN3328.jpg
      DSCN3328.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71 KB
      เปิดดู:
      31
    • DSCN3329.jpg
      DSCN3329.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69 KB
      เปิดดู:
      29
    • DSCN3302.jpg
      DSCN3302.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62.2 KB
      เปิดดู:
      32
  12. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สวัสดีครับ พี่ พีซีโอ พี่ๆน้องๆ มีภาพแถมท้ายครับผม ภาพ ใช้พั่ว ตักหิน ทราย ชายทางเข้าสู่ในพื้นที่ๆสร้างศาลา ทำให้เรียบร้อย ผมกับช่างทำกัน ๒ คน กลางแดดเปี้ยง ไม่ถึง ๑๐ นาทีต้องวิ่งแจ้น เข้าศาลา มันร้อนจริงๆครับ ยังเหลือแต่ ต้นลีลาวดี อีก ๑ ต้น ยังไม่ขนขึ้น จากทาง กองดิน อีก ยัง ไม่มีเวลา ขนครับ คิด ว่าอีกพักใหญ่ๆ คงเสร็จ และกันครหา ว่า มันทำอะไร กองทิ้ง เรี่ยราด ผมก็เลย เก็บให้มันสอาดหน่อยน่ะครับ ตอนนี้ ต้นไม้เริ่มตาย หลายต้นแล้ว ช่างแม่มัน เราได้ อานิสงฆ์ แล้วใช่ไหมครับพี่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN3331.jpg
      DSCN3331.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.9 KB
      เปิดดู:
      30
    • DSCN3332.jpg
      DSCN3332.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76.5 KB
      เปิดดู:
      30
    • DSCN3333.jpg
      DSCN3333.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.7 KB
      เปิดดู:
      25
    • DSCN3334.jpg
      DSCN3334.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71.5 KB
      เปิดดู:
      37
    • DSCN3335.jpg
      DSCN3335.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.7 KB
      เปิดดู:
      36
  13. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ครับพี่บุญทรง เมื่องานเลิกก็เก็บของ เลิกงานกับจบงานไม่เหมือนกัน เราเลิกมันก่อน ทั้งที่งานยังไม่จบ ก็ค่อยว่ากันต่อไป ถือว่าเวลาของพี่เขาให้แค่นี้ พี่ก็เลิกแค่นี้ก่อน งานที่ยังเหลือคั่งค้างคือเก็บเศษสิ่งของเหลือใช้ หรือยังไม่ได้ใช้ เก็บเข้าที่เข้าทาง ก็ค่อยๆทำไปนะพี่เราไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องเสร็จเมื่อไร ทำกลางวันมันร้อนก็เอาแค่ตอนเช้า ตอนเย็น หรือตอนกลางคืนหากว่าไม่มีอันตราย ค่อยเก็บค่อยกวาดไปนะพี่ เราก็ต้องขอบคุณทุกอย่างที่ให้โอกาสเรา โอกาสในการเรียนรู้ รู้กันขั้นอุกฤษ ขั้นตัดขั้นละ ขั้นเลิกกันเลย ทางกายน่ะเขาให้พี่เลิกทำที่แล้ว เหลือแต่ใจเท่านั้นพี่จะเลิกหรือปล่าว หากเป็นผม ผมก็เลิกแค่นี้ หากคิดในแง่สูญเสีย พี่ก็เสียไปแค่นั้น แต่หากเดินหน้าต่อไป คิดในทางโลกมันก็เสียมากว่าที่เสียไปแล้ว เสียทั้งความรู้สึกดีๆคิดแล้วมันเสียไปหลายอย่าง ความรู้สึกทางใจเราทำหวังในบุญทานกองการกุศล หวังในความผ่องใสของจิต

    แต่ยิ่งทำอารมณ์ยิ่งเศร้าหมอง หากตายตอนนั้น มันคือการลงทุนซื้อนรก ไม่ใช่ลงทุนไปสวรรค ไปพรหม ไปพระนิพพาน คนอื่นๆเขาแค่โมทนา เป็นปัตตานุโมทนามัยตายแล้วเขาไปนั่งเท้าแขนหน้าฉะแล่มแช่มช้อยจั่วไพ่ตอง เป็นเทวดาบ้าง นางสาวฟ้าบ้าง เปฺิดเพลงแก้วรอพี่ฟังกันที่เทวโลก พี่บุญทรงแบกหามเข็นดันขุด ฉุดกระชากลากจูง สารพัดจะสร้างงาน สร้างบุญกองการกุศลในขอบเขตพระพุทธศาสนา แต่เพราะอารมณเศร้าหมองตายไป หากไปอบายภูมินี่มันอายคนที่ขาไม่ได้ทำอะไรเลย โมทนาอย่างเดียวเขาไปสวรรค อันนี้พี่ต้องคิดนะพี่ เราทำมาขนาดนี้มันต้องซิ่งเฟอรารี่ปุเรงๆไปเยี่ยมคนนั้นคนนี้ตามวิมาณต่างๆ แล้วไปในฐานะหัวหน้าเขามันถึงจะถูก

    ส่วนต้นไม้ก็ต้องปล่อยไปตามยถากรรมของต้นไม้ที่มันจะต้องแห้งเหี่ยวตายไปในที่สุดหากขาดคนดูแล ก็ต้องทำใจว่าช่างมัน ปู่ย่าตายาย เรารักยิ่งกว่านี้ ก็ยังตายจากเราไป ขนาดตายแล้วเราไปรดน้ำศพยังจะนอนเฉยไม่ยอมฟื้น เราก็ยังต้องปล่อยให้ตายไป นับประสาอะไรกะต้นไม้เราจะปล่อยให้ตายเล่นโก้ๆไม่ได้ นี่คนไม่รวยจริงอย่างพี่บุญทรงไม่กล้าทำ อุตส่าห์หาซื้อคัดแล้วคัดอีก เอามาปลูกดูแลเอาใจใส่ รดน้ำพรวนดิน ทะนุถนอม มันก็เจริญเติบโต แล้วก็ยืนดูมันค่อยๆแห้งตาย นี่หากคนใจไม่ถึงทำไม่ได้นะพี่ เป็นคนอื่นๆใครมาหักกิ่งไม้สักกิ่ง เด็ดดอกไม้สักดอกเป็นฟืนเป็นไฟ ส่วนพี่ทำใจเฉยๆนะพี่

    ใครมาบอกว่าต้นไม้ของพี่มันตายไปแล้ว พี่ก็บอกได้เลย พี่รู้แล้วว่ะ ว่ามันต้องตาย มันจะไม่ตายได้ไงไม่มีคนรดน้ำ วันหนึ่งข้างหน้าเดี๋ยวเราก็ตายตามต้นไม้ไป ดีแล้วที่มันตายก่อนมันจะได้ไปโผล่ที่ดาวดึงส์โตให้เต็มที่ก่อน แล้วเราค่อยย่องๆตายตามไปทีหลัง เวลาเราตายจะได้ไปอาศัยร่มมันได้ทันที นี่หากเราตายก่อนเราก็ต้องไปปลูกเองอีก เราก็คิดมั่วๆให้กำลังใจตัวเองแบบนี้แหละพี่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 พฤษภาคม 2015
  14. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814




    :cool:({) สวัสดีครับพี่ พีซีโอ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน ขอบคุณครับ ในคำชม และคำแนะนำ ผมก็ค่อยๆทำไป แบบพี่ว่ามานั่นแหละครับ ค่อยๆปล่อยมันไป คนรอบข้างเรา จะเป็นใครก็ช่าง มิอาจเอาของเราไปได้ หรือ เราก็มิอาจ เอาของเขาไปได้เช่นกัน นอกจาก มีจิตยินดี กับเขา ไม่ว่า ชั่วหรือดี ย่อมได้รับ จาก การยินดี มีจิตร่วมกัน จะได้รับผลนั้น ๒๐ เปอร์เซ็น ตามที่ครูบาอาจารย์ ท่านสอน :cool:
     
  15. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ขอต่อแถมท้าย อีกสักหน่อยครับ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน การเข้า ใจกับ การตัดนี่ มันคนละเรื่องกันเลย และเรื่องต่างๆ อีกมากมายนัก ที่ผมไม่เข้าใจ ที่หลายๆท่าน พูดมาบ้างก็มีเหตุผล และไม่มีเหตุผล แต่ก็ต้องลงท้ายว่า ทุกๆคนมีเหตุผล เฉพาะตนๆของๆตนเท่านั้น และเข้าใจในของๆตน บางครั้ง หรือหลายๆครั้ง ไม่เข้าใจก็มี


    ผมขอฝากไว้ แด่ทุกๆท่านครับ ลองเก็บไปคิดกันดูครับ แต่เรื่อง ที่ผมจะบอก ผมเข้าใจ แต่ยังไม่ลึกซึ้งพอ นะครับ ทำไม สมเด็จพระศรีอริยเมตตรัย ถึงไปบวชตอนในสมัยพระพุทธเจ้า เป็นภิกษุ ตอนพระนาง พระมหาปชาบดี ถวายจีวร พระพุทธเจ้าไม่ยอมรับ ถวายต่อๆไป จนถึง พระอรหันต์ ขีนาสบไม่มีใครรับ องค์สุดท้ายคือ พระอชิตะ ภิกขุ ซึ่งเป็นพระบวชใหม่ ไม่มีแม้แต่ฌาณ สมาบัติใดๆ ตอนนั้นบวชใหม่ๆ ผมน่ะเข้าใจแต่ไม่อธิบาย ผมคิดว่าอีกหลายท่านเข้าใจ และอีกหลายท่านยังไม่เข้าใจ เพราะท่านเป็นพระโพธิสัตว์ จะมาตรัสรู้ หลังจาก นี้ไป อีกไม่นาน สักหมื่นวันดาวดึง หรือไม่ถึง ไม่รู้นะ


    แล้วทำไม ชาติสุดท้าย พระเวสสันดร ซึ่งบำเพ็ญบารมีเต็มเป็นชาติสุดท้าย ของพระองค์ท่าน ตอนชูชก ไปขอ กัณหา ชาลี ไปเป็นคนใช้ เมื่อก่อนออกเดินทาง ชูชก ตี ท่านทั้ง สองพระองค์ พระเวสสันดร โกรธ ถึงกับ ชักพระขรรข์ ที่ชูชกขอ ลูกไป ดันมาตีต่อหน้า พระองค์ เมื่อท่านคิดถึง พระสร้อยสรรเพชร บริจาคลูก เพื่อพระโพธิญาณ ท่านจึง สงบอารมย์
    แล้วทำไม พระพุทธเจ้า เสด็จไปโปรด ช้างป่าเลไลย (ปาริไลยกะ) และช้างนาราคิรี ซึ่ง ทั้ง ๒ องค์นี้ จะมาตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า ในอนาคต อันใกล้นี้ ทั้งๆ บารมีท่านเต็มแล้ว รอคิวแล้ว แล้วช้างจะมี ฌาณ สมาบัติ เหมือนคนไหม แล้วทำไม ท่านจึงเสวยพระชาติ เป็นสัตว์ ผมเข้าใจนะ


    แล้วทำไม ท่านสิงห์ดอก หมาหลวงพ่อ เกิดอีก ๓ ชาติ บารมีเต็ม ทำไมจึงไปเกิด เป็นหมาล่ะ แล้วท่านจะมี ฌาณสมาบัติ แบบคนได้ไง แต่ว่า ท่านจะฉลาด กับกว่าคนบางคน แต่พูดไม่ได้ และฉลาดกว่า สัตว์ธรรมดามาก นัก แล้วทำไม ไม่รู้หละ ว่า เวลาใครไปใกล้ หลวงพ่อ จะกัดเอาน่ะครับ ผมพอจะเข้าใจ แต่ยังไม่ลึกซึ้ง รู้แต่ว่า มันคือหน้าที่ ๆจะต้องทำ ต่อเลยนะครับ ทำไม พระพุทธเจ้า โปรด คนได้ไม่หมด และยังมี อีกมากมาย ที่จะมี พระโพธิสัตว์ มาตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า แล้วทำไม ใกล้ๆชาติสุดท้าย ทำไม พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย มีลูกเมีย ทั้งๆได้ฌาณสมาบัติ มานับชาติไม่ถ้วน แต่ตอน ต้นๆอายุยังน้อย ยังไม่ค่อยรู้ รู้แค่ อะไรไม่มาก ตอนอายุ ปลายมือ ออกบำเพ็ญภาวนา


    และขอทิ้งท้าย ทำไม พระพุทธเจ้า ถึงได้ไล่ ภิกษุ ที่ไม่เอาดี ออกขจากสำนัก ทำไม ไม่เมตตาถึงที่สุด คนไม่ดี ทำไม พระพุทธเจ้าไม่ทรงโปรด ก็ในเมื่อพระองค์ท่าน เป็นถึงพระพุทธเจ้า เป็นสัพญูรู้แจ้งโลก และข้อสำคัญต่อไปนี้ ทำไม หลวงพ่อท่าน บอก คนที่มัน อยากจะลงนรก ทำอย่างไร ไม่สามารถ ช่วยได้ และเขาก็ไม่ต้องการ ให้ช่วยด้วย ท่านบอก พวกนี้ เขาอยากไปเอง ก็ส่งเสริญมัน ให้ลงลึกๆหน่อย ทำไมในเมื่อท่านมีเมตตาต่อสัตว์โลก ถึงเพียงนั้น ทำไม ถึงพูดแบบนั้น แล้วทำไม เรื่องบางอย่าง พระพุทธเจ้าไม่จัดการเอง จะรอให้ ผู้นั้นผู้นี้ มาจัดการ หรือมาปราบ ขอฝากไว้เท่านี้แหละครับ ยังมีอีกเยอะที่จะพูด ครับขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2015
  16. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 พฤษภาคม 2015
  17. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
     
  18. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 พฤษภาคม 2015
  19. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
     
  20. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    เรื่องราวของคุณพี่สิงดอก

    ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท มีคนเอาหมามาปล่อยเสมอๆ จนปรากฏเป็นฝูงใหญ่หมาฝูงนี้มีหัวหน้าอยู่ตัวหนึ่ง ตัวเป็นดอกๆ เลยเรียกกันว่า "เจ้าสิงห์ดอก"หมาตัวนี้รู้สึกว่าจะมีความเฉลียวฉลาดผิดหมาทั่วไปรู้จักฟังธรรมและบังคับบัญชาลูกน้อง เวลาจะมีคนมาขโมยของวัดเจ้าสิงห์ดอกจะจัดวางกำลังกองทัพหมาไว้ป้องกันเป็นอย่างดี

    วันหนึ่งไม่รู้ว่าเจ้าสิงห์ดอกเขานึกอย่างไร เขาจัดการวางกำลังจัดกำลังไว้บนกุฏิ ๔ ตัว ที่วัดมีช่องทางเข้าวัด ๓ ทางมันก็วางกำลังจุกไว้หมดทุกทาง แล้วก็มีอีกชุดหนึ่งนอนรวมกันอยู่เป็นกลุ่มสักประเดี๋ยวมันก็กระโดดไปทางฝั่งกุฏิของพระครูวิชาญ เดี๋ยวเดียวมีเสียงเป๋งไอ้ตัวนั้นคงหลับ ทุกคืนไม่เคยมีอย่างนี้ ก็เลยสั่งพระสั่งเณรว่าคืนนี้พร้อมไว้เราเป็นทหารของพระพุทธเจ้า ถ้าใครมาเอาของสงฆ์ละเอาชีวิตแลกเลย

    เวลาสักทุ่มเศษๆ เราดับไฟเงียบแล้วนอนกันอยู่ที่นั่น ห้ามพูดห้ามสูบบุหรี่ พอหกทุ่มกว่าๆ เสียงข้างล่างเจี๊ยวเลย คือที่ชายป่ามีเสียงเห่าเจ้าสิงห์ดอกก็เดินยามของเขาไม่ได้หยุดเลยพอมีเสียงเห่ามันก็ขับฝูงพิเศษพรวดออกไปตัวเขาก็กระโดดตาม
    ปรากฏว่าตอนเช้าได้ปืนกระบอกหนึ่ง ผ้าขาวม้า ๒ ผืนป่าราบไปเลย

    โดยปกติต้องเลี้ยงข้าวกะละมังขนาดพระหิ้ว ๒ องค์ มื้อละตั้ง ๓กะละมัง ชาวบ้านเขาเห็นเขากลัวหมาอด ทีนี้ก็เอาข้าวสารมาเลี้ยงหมาไม่ใช่เลี้ยงพระคราวหนึ่งต้องไปที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เดือนหนึ่ง ก็สั่งพระสั่งเณรไว้ให้สตางค์ไว้ ถ้าข้าวสารไม่มีกับข้าวไม่มี ก็ให้เอาปลามาต้มเค็มเพราะมันกินได้นานถ้ามันเริ่มจะไม่กินก็เปลี่ยนเป็นต้มยำบ้าง ต้มส้มก็ได้พอกลับมาปรากฏว่าสตางค์ไม่หมด เขาบอกว่าอาตมาไม่อยู่ชาวบ้านเขากลัวหมาอดก็เอาต้มเค็มบ้าง ต้มส้มบ้าง หม้อใหญ่ๆ เลย

    เณรที่มีหน้าที่อุ่นอาหารตอนนั้นชื่อ "เปีย"บอกอาตมาไม่อยู่ยิ่งรวยใหญ่
    คราวหนึ่งมีข่าวว่าผู้ร้ายจะมาเอาพระพุทธรูปเป็นพระสุโขทัยสำริดเงิน

    คำว่า "สำริด" มี ๓ อย่าง คือ มีทองคำ มีเงิน และก็ดีบุกเขาเรียกว่า "สามฤทธิ์" ไม่ใช่สำริด เราเรียกเสียงห้วนไป ตาชมช่างหล่อพระเขาบอกถ้าออกสีของแร่ไหนมากก็เรียกสำริดอย่างนั้นนอกจากพระสุโขทัยสำริดเงินแล้วยังมีพระเชียงแสนอีก ๒ องค์ของเก่าทั้งนั้นที่ขโมยมุ่งจะเอา มาวันหนึ่งยายแก่ไปหาหน่อไม้ไปเจอะมันกำลังนอนสูบใบพลูอยู่ใต้กอไผ่ ๕ คน แกก็เลยส่งข่าวมาบอกตอนนั้นหลังวัดยังเป็นป่าอยู่ แต่เวลานี้เขาถางหมดแล้ว พระครูวิชาญได้สร้างโรงเรียนเมื่อได้ข่าวก็ไปบอกผู้บังคับกองตำรวจชื่อ "จำลอง" เลยให้ตำรวจมา ๔ คน แกบอกว่า "หลวงพ่อทหารมาก ผมว่าตำรวจคนเดียวก็พอ"

    เอ..ดันไปเชื่อหมาเสียอีกพอดีทายกเขามาก็เลยบอกสองสามคืนให้มานอนด้วยกันหน่อย ยังไงๆมันต้องกดคอพระครูวิชาญแน่ ไอ้จะปล้นแบบตูมตามน่ะมันไม่ทำหรอก

    พอคืนที่สองเจ้าสิงห์ดอกจัดเวรอีกแล้วเลยบอกตำรวจสังเกตคืนนี้ขโมยต้องเข้า ให้เตรียมตะครุบให้ดีเถอะ ถึงเวลามันเข้ามามองเห็นคนร้ายไปชิดกุฏิพระครูวิชาญ เอาไม้พาดกำลังจะปีนขึ้นเท่านั้น ไม่มีเสียงเลยเจ้าสิงห์ดอกบุกเงียบ มันฟัดเสียแหลกเลย หน้าตาเละหมด ได้ครบ ๕คนโดยตำรวจไม่ต้องยิงเลย

    เจ้าสิงห์ดอกนี้มันเก่งจริงๆเวลาเจริญพระกรรมฐานเขาต้องมาอยู่หมดทั้งฝูง วันนั้นมันจะตายตอนคํ่าเจริญพระกรรมฐานเขามาอยู่ด้วย ตอนตี ๒ฉันออกไปเจริญพระกรรมฐานหน้ากุฏิคนเดียว ตามปกติมันนั่งอยู่หน้าลูกกรงแต่วันนั้นมันขอเข้าก็เลยให้เข้า มันเข้ามานอนเอาหัวพาดตัก พอตี ๔ พระลุกขึ้นทำวัตรมันก็ลุกบ้าง ปลัดบุญธรรมแกทักว่า "อ้อ..สิงห์ดอกรึมานี่ มาหาหลวงพี่ที่นี่"มันก็เข้าไปใกล้ไปนอนฟังจนจบจบแล้วก็กลับมาที่หน้าพระพุทธรูปที่เขาเจริญพระกรรมฐานแล้วตายตรงนั้น

    เวลาเขาตายเราก็ไม่รู้ พอใกล้สว่างเห็นเทวดาองค์หนึ่งสว่างจ้าเลยถามว่า "ใคร" เขาตอบว่า"ผมเทวดาสิงห์ดอกครับ"ถามชื่อจริงๆเขาก็บอกแต่จำไม่ได้แล้วทรงผ้าพื้นเขียว เสื้อพื้นขาวแต่เพชรพราวถามแกว่า "อยู่ชั้นไหน" ตอบว่า"ชั้นปรนิมมิตวสวัสดีครับ"ชั้นปรนิมมิตวสวัสดีนี่เขาต้องได้ฌาน ๔ นะ เขาบอกว่า "ผมก็ได้เหมือนกันนี่ครับ"เอ๊ะ ได้อย่างไร เขาอธิบายว่า"ที่หลวงพ่อไปทำพระกรรมฐานนั้น ผมก็ไปนั่งด้วยความเคารพจิตมันทรงตัว"

    จริงสิ เวลาเทศน์เป็นไม่ได้ เจ้าสิงห์ดอกเขามานั่งหรี่ตามองทำหางกระดุกกระดิกๆ ชอบใจจนกว่าจะจบ ไม่ว่าใครเทศน์มันก็ไปพอพระตีระฆังเท่านั้นไปแล้วอยู่ไม่ได้
    นี่เห็นไหม หมาไปเป็นเทวดาได้แต่คนถ้าตายแล้วไปเกิดเป็นหมาก็ซวยเต็มทีละ.
     

แชร์หน้านี้

Loading...