((พระดีที่สะสม-รวมเกจิทุกสายทั่วไทย-ราคาเบา))

รายการที่ 680 พระผง"รุ่นแรก-รุ่นเดียว"หลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส วัดป่าพระสถิตย์ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ใช้แบบพิมพ์เหรียญรุ่นแรก ปั้นกดมือเองที่กุฏิท่าน พุทธาภิเษกพร้อมกับเหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่ และพิธีเดียวกันกับเหรียญรุ่น 2 ของหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ปี 2522 หายากครับ สร้างหลักร้อย สุดยอดมวลสารของหลวงปู่ที่เก็บไว้ น่าเก็บมากครับ เพราะหลวงปู่ไม่ชอบที่จะสร้างมงคลที่ระลึกเท่าไรนัก จึงจัดเป็นพระและวัตถุมงคลรุ่นแรกและรุ่นเดียวจริงๆทั้งเหรียญ และพระผง สภาพสวยสมบูรณ์ รับประกันแท้ตลอดชีพ ขอที่ 450.-ฟรี ส่ง EMS


ประวัติหลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส วัดป่าพระสถิตย์
"คนเราควรใช้สติปัญญา ใช้ปัญญาเป็นกล้องส่องใจ จะได้รู้ว่าสภาพที่แท้จริงของจิตเป็นอย่างไร" คำกล่าวบรรยายธรรมของ "หลวงปู่บัวพา" หรือท่านพระครูปัญญาวิสุทธิ์ แห่งวัดป่าพระสถิตย์ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย พระวิปัสสนาจารย์สายอีสาน ที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากสาธุชนเป็นอย่างมาก
อัตโนประวัติ พระครูปัญญาวิสุทธิ์ มีนามเดิมว่า บัวพา แสงศรี เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2454 ณ บ้านบึงแก อ.มหาชนะชัย จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันเป็นจังหวัดยโสธร) โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายหยาด และนางทองสา แสงศรี ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา
ต่อมา โยมบิดามารดาของท่านได้อพยพไปตั้งหลักแหล่งใหม่ที่บ้านกุดกุง ต.สงเปลือย อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร อุปนิสัยเป็นคนพูดน้อย มีความเคารพนอบน้อมเชื่อฟังผู้ใหญ่ เป็นคนว่าง่ายสอนง่าย ไม่ชอบทำบาป มีจิตใจใฝ่บุญกุศลตั้งแต่เป็นเด็กตลอดมา
ครั้นพออายุครบบวช บิดามารดามีความปรารถนาอยากจะให้ท่านบวชก่อนจะมีครอบครัว บังเอิญในปีนั้น นายเทพ ลูกชายของน้องสาวโยมพ่อ (โยมแตงอ่อน) ได้ถึงแก่กรรม ลุงได้ขอร้องให้ท่าน ช่วยบวชอุทิศส่วนกุศลให้แก่นายเทพ ซึ่งเป็นลูกชายของโยมแตงอ่อน
พ่อคำมี แสงศรี จึงเป็นเจ้าภาพจัดกองบวชให้ และท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อปี พ.ศ.2475 ณ สีมาน้ำ วัดบ้านกุดกุง อ.คำเขื่อนแก้ว จ.อุบลราชธานี มีพระอาจารย์มอน เป็นพระอุปัชฌาย์ สังกัดมหานิกาย
ในพรรษาแรกอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านกุดกุง วัดบ้านกุดกุงนั้นเป็นวัดอยู่นอกบ้าน ห่างบ้านพอประมาณ ท่านฉันมื้อเดียว และฝึกหัดภาวนาอยู่ตามลำพังแต่องค์เดียวมิได้ขาดเพราะเป็นวัดบ้าน การทำสมาธิภาวนาไม่ค่อยมีใครเขาทำกัน ท่านก็คิดทำของท่านเอง
มีอยู่วันหนึ่ง ท่านระลึกถึงเมื่อสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้อยู่ที่ใต้ต้นศรีมหา โพธิ์ พอดีภายในวัดบ้านกุดกุง มีต้นโพธิ์อยู่ต้นหนึ่ง ท่านจึงไปนั่งสมาธิที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์ ในคืนวันนั้น ท่านรอให้เสียงผู้คนเงียบสงัดเสียก่อน จึงค่อยไปนั่งสมาธิอยู่ใต้ต้นโพธิ์โดยไม่มีใครรู้ พอไปถึงท่านกราบลง 3 ครั้ง แล้วนั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก บริกรรม "พุทโธ" อยู่องค์เดียว ใช้เวลาภาวนาอยู่ไม่นานนัก จิตก็รวมสงบลงอย่างแน่วแน่ ท่านได้พบความสุขอยู่อย่างสุดซึ้งที่ใต้ต้นโพธิ์นั้นเอง นั่งสมาธิอยู่เกือบสว่าง พอได้ยินเสียงผู้คนออกไปตักน้ำที่กุดกุงตอนใกล้รุ่ง ท่านจึงเข้ามาทำวัตรต่อที่กุฏิของท่าน
ครั้งหนึ่ง ท่านไปเมืองสกลนคร ได้เข้ากราบหลวงปู่เสาร์ ที่วัดป่าสุทธาวาส มอบกายถวายชีวิตต่อหลวงปู่เสาร์ ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของท่าน ท่านก็เมตตารับไว้ แต่ตอนนั้นหลวงปู่บัวพา ยังเป็นพระมหานิกายอยู่ จึงไปญัตติใหม่ เป็นพระสายธรรมยุต เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2478 ณ พัทธสีมา วัดศรีเทพประดิษฐาราม อ.เมือง จ.นครพนม โดยมีพระครูสารภาณมุนี (หลวงปู่จันทร์ เขมิโย) เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระมหาพรหมา โชติโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์
หลังจากได้ญัตติกรรมเป็นพระธรรมยุตแล้ว ได้เดินทางกลับมาวัดป่าสุทธาวาส อยู่กับหลวงปู่เสาร์ ได้รับใช้ครูบาอาจารย์ และได้ช่วยหมู่คณะอย่างเต็มที่ หลวงปู่บัวพา เป็นพระเถระผู้มีอุปนิสัยพูดน้อย มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ได้บำเพ็ญสมณธรรม ปฏิบัติศาสนกิจ อบรมสั่งสอนสานุศิษย์ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ให้ยึดมั่น ในพระรัตนตรัย และสำเหนียกในไตรสิกขา อันเป็นแนวทางแห่งอริยมรรค จนในที่สุด ย่างเข้าสู่วัยชรา สุขภาพร่างกายของท่านไม่แข็งแรงดังเดิม เป็นไปตามกฎแห่งไตรลักษณ์ หลวงปู่บัวพา ได้มรณภาพลงด้วยโรคชรา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2535 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ท่านได้ละสังขารอันเป็นภาระหนักและทรมานที่อาพาธมานานไปโดยอาการอันสงบ เมื่อเวลา 20.45 น. สิริอายุได้ 81 ปี 11 เดือน 11 วัน พรรษา 61
คณะสงฆ์และคณะศิษยานุศิษย์ ได้จัดงานฌาปนกิจศพ โดยขอพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่บัวพา ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2536 ณ เมรุวัดป่าพระสถิตย์ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


นำเสนอภาพเก่าๆ

 

ปิดรายการที่ 681 เหรียญหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แจกในงานบุญประทายข้าวเปลือกปี 2554 ตอกโค๊ต"บัว"เนื้อทองเหลือง รับประกันแท้ตลอดชีพ ขอที่ 200.-(พี่นอกเว็ป)ฟรี ส่ง EMS

แถมครับ...แทนคำขอบคุณ..พระผงไพรีพินาศ สมเด็จพระสังฆราชฯ 100 ปี...สภาพสวยๆ

 

ปิดรายการที่ 682 เหรียญเม็ดแตงใหญ่หลวงปู่พรหม จิรปุญโญ ที่ระลึกยกฉัตร วัดประสิทธิธรรม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี รุ่นแรก ปี 06 ราคาแตะไม่ได้ไปไกลเหลือเกิน รับประกันแท้ตลอดชีพ ขอที่ 200.-(พี่นอกเว็ป)ฟรี ส่ง EMS

ประวัติหลวงปู่พรหม จิรปุญโญ
วัดประสิทธิธรรม บ้านดงเย็น ตำบลดงเย็น อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี
หลวงปู่ พรหม จิรปุญโญเกิดเมื่อวันอังคาร ปี พ.ศ. 2431 ปีขาล ณ. บ้านตาล ตำบล โคกสี อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร บิดาชื่อ นายจันทร์ สุภาพงษ์ และมารดาชื่อ นางวันดี สุภาพงษ์ บิดา – มารดา ของหลวงปู่ท่านเป็นชาวนาชาวไร่มาตั้งแต่ดั้งเดิมสมัยแต่บรรพบุรุษตระกูลนั้น นับถือ ศาสนาพุทธเป็นชีวิตจิตใจมาหลายชั่วอายุคนแล้วหลวงปู่พรหมท่านเป็นบุตรหัวปี ท่านมีน้อง ๆ ที่สืบสายใยสายเลือดอีก 3 คน
1.หลวงปู่พรหม จิรปุญโญ
2.นายพิมพา สุภาพงษ์ (ตลอดมาได้ออกบวชเป็นบรรพชิตจนตลอดชีวิต)
3.นางคำแสน สุภาพงษ์
4.นางตื้อ สุภาพงษ์ (ต่อมาได้อุทิศชีวิตบวชเป็นชีได้เจริญอยู่ในธรรมตลอดชีวิตเช่นเดียวกัน)

หลวงปู่พรหมครองเรือนคราวแรกเมื่ออายุได้ 20 ปี ศรีภรรยาคนแรกชื่อ พิมพา เป็นชาวบ้านดงเย็น หลวงปู่ท่านได้ย้ายภูมิลำเนาจากบ้านตาลไปอยู่ที่บ้านดงเย็นกับศรีภรรยา ตั้งหลักฐานอยู่ที่บ้านดงเย็นตลอดมาอยู่กินด้วยกันมามีบุตรได้ 1 คน พอคลอดออกมาภรรยาและลูกก็เสียชีวิตด้วยกัน ความสุขนั้นเป็นอันล้มละลายหายสูญไป ตรงกันข้ามเป็นการเพิ่มทุกข์ทวีคูณให้มีแก่ตนเสียอีก ครั้นกาลเวลาผ่านไป ความคิดที่ว่าความสุขอยู่ที่มีครอบครัวก็เกิดขึ้นอีกหลวงปู่ท่านจึงได้มี ครอบครัวกับนางกองแพง อีกเป็นครั้งที่ 2 ได้ร่วมสุขและทุกข์กันมาเป็นเวลา 5 ปี แต่ไม่มีลูก ต่อมาทางชาวบ้านและทางราชการเห็นดีเห็นชอบจึงได้แต่งตั้งให้เป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 บ้านดงเย็น เพราะหลักฐานด้านความประพฤติและทรัพย์สมบัติพอเป็นที่พึ่งและตัวอย่างของชาว บ้านได้เป็นอย่างดี ซื่อสัตย์ยุติธรรมเป็นที่เคารพรักของชาวบ้านทั่วไปที่ได้พบเห็น หลวงปู่ท่านเป็นหัวหน้านำหมู่พ่อค้าโคกระบือ ไปจำหน่ายทางภาคกลาง และจังหวัดนครราชสีมาทั้งของป่าและหนังสัตว์จนปรากฏชื่อเสียงจากชาวบ้านต่าง ขนานนามว่า นายฮ้อยพรหม เป็นเกียรติอันสูงส่ง ท่านพระอาจารย์สารได้ธุดงค์เดินทางมาเผยแผ่พระธรรมคำสอนแก่ชาวบ้านมาเรื่อย ๆ ผ่านเข้ามาถึงหมู่บ้านดงเย็นชาวบ้านต่างออกมาต้อนรับท่านพระอาจารย์สาร ท่านเคยเป็นลูกศิษย์ท่านพระอาจารย์ มั่น
ภูริทัตตเถระ ท่านพระอาจารย์สารได้ให้โอวาท เผยแผ่พระธรรมที่ถูกต้องและจับขั้วหัวใจของอุบาสกและอุบาสิกาในกลุ่มชาวบ้าน และอุบาสกก็มีท่านหลวงปู่ท่านรวมอยู่ด้วยจึงปลงใจเข้าสู่เพศบรรพชิตและท่าน ได้สละทรัพย์สมบัติทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านจึงอำลาวงศาคณาญาติ มิตรสหายลูกบ้านออกบรรพชาอุปสมบทในพระพุทธศาสนาเมื่ออายุ 37 ปี พ.ศ. 2469 ปี เถาะที่วัดโพธิ์สมภรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรราชธานี โดยมีท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พนธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านพระครูประสาทคุณานุกิจเป็นพระกรรมวาจาจารย์ได้รับฉายาว่า “ จิรปุญโญ”
หลวงปู่พรหม จิรปูญโญ มรณภาพเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2512 เวลา 17.00 น. ด้วยโรคชรารวมสิริอายุได้ 81 ปี พรรษา 44 ณ. วัดประสิทธิธรรม บ้านดงเย็น อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี งานถวายเพลิงศพได้เริ่มขึ้นวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2514 เวลา 22.00 น. (สี่ทุ่ม) ณ. เมรุวัดประสิทธิธรรม บ้านดงเย็น อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี
หมายเหตุ อัฐิและผงอังคารของหลวงปู่ พรหม จิรปุญโญ ได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นพระธาตุ 7 สี
แถมครับ....แทนคำขอบคุณ...พระผงหลวงปู่คูณ สุเมโธ วัดป่าภูทองทายาทธรรมสายกรรมฐาน พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต สภาพสวย สุดคุ้มครับ

 

ปิดรายการที่ 683 เหรียญที่ระลึกกฐินสามัคคี วัดสุวรรณไชยศรี จ.กาฬสินธุ์ ในโอกาสสร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ปี 2519 หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ปลุกเสก จัดเป็นเหรียญหายาก สร้างจำนวนไม่มาก และพื้นที่เล่นหากันแรงเหมือนกัน เหรียญนี้รอยปั้มตัดเขยื้อนไปครับ รับประกันแท้ตลอดชีพ ขอที่ 300.-(พี่นอกเว็ป)ฟรี ส่ง EMS


แถมครับ....แทนคำขอบคุณ...พระสมเด็จ เนื้อผง พระครูถาวร ธรรมโกศล(หลวงตาด้วง)ศิษย์หลวงตามหาบัว แห่งวัดโยธานิมิตร(วัดที่ ลต.มหาบัว บวชบรรพชาอุปสมบท)ทายาทธรรมสายกรรมฐาน พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต สภาพสวย สุดคุ้มครับ

 

จององค์นี้ครับ

 

จองครับ

 

รับทราบการจอง....ปิดรายการให้แล้ว...ขอบพระคุณมากครับ

 

ปิดรายการที่ 684 เหรียญหลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร วัดป่าสุนทราราม จ.ยโสธร"รุ่นเจดีย์ศรีสุนทร"เนื้อทองแดง ตอกโค๊ต"นะ"ปีี 2556 ทายาทธรรมสายกรรมฐาน สภาพสวยไม่ผ่านใช้ แบ่งเบาๆ ขอที่ 250.-(พี่นอกเว็ป)ฟรีส่ง EMS



แถมครับ....แทนคำขอบคุณ...พระผงหลวงปู่คูณ สุเมโธ วัดป่าภูทองทายาทธรรมสายกรรมฐาน พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต สภาพสวย สุดคุ้มครับ


ถ่ายที่วัดป่านาคำน้อย..จ.อุดรธานี...ร่วมกับพระสงฆสายพระอาจารย์มั่น

 

ปิดรายการที่ 685 เหรียญหลวงปู่จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย จ.พิจิตร "อายุวรรณะมงคล 90" ปี 2555 ตอกโค๊ต"ถ"เนื้อทองแดงรมดำ ท่านเป็นศิษย์เอกหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล จัดเป็นเหรียญยุคสุดท้ายของท่าน สร้างน้อยด้วยครับรุ่นนี้ รับประกันแท้ตลอดชีพ ขอที่ 350.-ฟรีส่ง EMS

ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่จันทา ถาวโร
วัดป่าเขาน้อย ต.วังทรายพูน อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร
ก. ชีวิตฆราวาส
๑. ชาติภูมิ
หลวง ปู่จันทา ถาวโร เป็นบุตรของ นายสังข์ ไชยนิตย์ และนางเลี่ยม ชมภูวิเศษ ท่านถือกำเนิดในวันเสาร์ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๓ ปีจอ ตรงกับวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๕ ณ หมู่บ้านแดง ต.เหนือ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด หลวงปู่มีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๖ คน ดังนี้
๑) นายนู ไชยนิตย์ (ถึงแก่กรรม)
๒) นางต่วน ชมภูวิเศษ
๓) นายแก้ว ไชยนิตย์ (ถึงแก่กรรม)
๔) หลวงปู่จันทา ถาวโร
๕) นายบุญ ไชยนิตย์
๖) นายน้อย ไชยนิตย์ (ถึงแก่กรรม)
๒. ลูกกำพร้า
หลวง ปู่เล่าเรื่องชีวิตในวัยเด็กไว้ว่า “อย่างข้าพเจ้านี้มันก็แสนทุกข์ยากลำบากเกิดมาชีวิตนี้ คิดแล้วน้ำตาไหล พออายุได้ ๗ ปี ได้น้อง ๒ คน แม่ก็ตาย เพราะกินผิด คือ แม่เอาอาหารไปถวายพระตอนเพล แล้วไปกินป่นปลากับผักผีพวย นั่นแหละก็เลยผิดกรรมเสีย เมื่อผิดกรรมแล้วทำอย่างไร สมัยนั้นหมอยาก็มีแต่ยารากไม้ รักษาไม่ได้ ผลสุดท้ายก็เลยตาย”
ก่อนตาย แม่ก็สั่งว่า “ลูกคนเล็กๆ ๓ คนนี้ให้แม่ป้าพ่อลุงเอาไปเลี้ยง เพราะเขาเป็นเชื้อผู้ใหญ่ และมีเรือนอยู่ติดกัน ส่วนลูกคนโต ๆ นั้น ให้อยู่กับน้าบ่าวน้าสาว”
พอแม่ตาย พ่อก็เลยไปเอาเมียใหม่มาเลี้ยง ให้เมียใหม่มาช่วยเลี้ยงลูก แม่ใหม่กับลูกสาวก็เหมือนหมากับแมวนะ ลูกสาวก็ด่าเอาว่า “มึงไม่ใช่แม่กู อย่ามาทำสำออยเจ้าน้อย ให้กูตักน้ำมาให้อาบ ไม่ดอก” นั่นแหละ ผลสุดท้ายก็เลยแตกกัน เหมือนนกแตกรังเหมือนควายแตกคอก พ่อก็เลยไปอยู่กับแม่ใหม่เสีย แหม...ทีนี้ ก็เร่ร่อนสัญจรไปไหนมาไหนก็แสนทุกข์ยากลำบาก ทำงานหากินเลี้ยงชีพ
๓. ลูกชาวนา....ไร้การศึกษา
เรา เกิดมาชาตินี้ แสนทุกข์ยากลำบาก เกิดขึ้นท่ามกลางไร่นา อายุ ๗ ปี แม่ตาย ๑๐ปี พ่อตาย เราก็เป็นลูกกำพร้า อยู่กับพี่น้องเขาก็พาให้เลี้ยงวัวเลี้ยงควาย ไม่ได้เข้าศึกษาเล่าเรียนอะไร ทำนาตั้งแต่อายุ ๗ ปี นะ เริ่มทำจากนั้นมาถึง ๒๕ ปี แหมมันแสนทุกข์ยากลำบาก ๕ โมงเช้าถึงจะได้กินข้าว นั่นแหละปวดหลัง ปวดเอว บ่นเพ้อละเมอใจว่า เมื่อไหร่หนอเราจะพ้นจากการทำนา มันทุกข์ยากลำบาก
๔. นายพรานใหญ่
หลวง ปู่เล่าต่อไปอีกว่า ผมเป็นนายพรานใหญ่นะ บ้านอยู่ฝั่งแม่น้ำชี จ.ร้อยเอ็ด สมัยผมเกิดนะไปหาปลาหาบตะกร้าไป บ้านนั้นมี ๑๐ หลังคาเรือนคุ้มนี้นะ ๒ คนนี่หาบตะกร้าไปเลย ลงไปหนองน้ำ ปลานี่ชุกชุมยุบยับ.....ๆ.....ๆ ไปถึงก็กำเอาๆ จนเต็ม ๒ หาบตะกร้า เอามาตั้งไว้กลางบ้าน แล้วก็ร้องบอกชาวบ้าน “มาเด๊อ !.....ไผอยากได้ก็มาเอา”
ตั้งไว้แล้วก็ไป ชาวบ้านก็ถือตะกร้าลงมา อยากได้ตัวไหนก็เอาไป พอเขากลับกันหมดแล้ว ปลาที่เหลือจึงไปเอามากินนะ ข้อยไปก็อย่างนั้น เจ้าไปก็อย่างนั้น แต่ก่อนไม่ได้ซื้อไม่ได้ขาย จะเอาไปทำอะไร สัตว์นั้นมันหลาย นั่นแหละ ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมามากแล้วชีวิตนี้
๕. ได้เมียแม่หม้าย
พอเติบใหญ่ อายุได้ ๒๓ ปี เขาก็บังคับให้มีครอบครัว แต่แล้วครอบครัวนั้นเป็นอย่างไร ได้แม่ร้างแม่หม้าย ลูก ๓ ผัวเขาตาย เหลือแต่ของไม่ดีนั่นแหละ ของดีเขาเอาไปกินหมดแล้วสมขี้หน้าไหมเล่า แต่แล้วเราก็เหมือนกับแมว หญิงหม้ายนั้นเหมือนกับสุนัขตัวใหญ่ มันก็คั้นคอเอาอย่างนั้นทุกวัน นั่นแหละเพราะบุญพาวาสนาส่งไม่ดี ผลสุดท้ายก็เลยแยกทางกัน
เหตุที่แยกกับ ภรรยานั้น หลวงปู่เคยพูดว่า “วันหนึ่งสะพายข้องและแหไปหาปลา หว่านแหดำน้ำหาปลาตั้งแต่เช้ายันค่ำ ไม่ได้ปลาสักตัว ดำน้ำจนตาแดงกล่ำ เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ตอนเย็นเดินคอตกกลับบ้านไม่ได้อะไร พอเห็นหน้าภรรยาสุดที่รัก ก็พูดบอกให้ฟัง แทนที่จะเห็นใจ กลับขู่ตะคอกต่อว่า หาว่า ไป มัวเถลไถลเที่ยวเล่น จนมืดค่ำ แล้วภรรยาก็เอาเครื่องมือหาปลามีข้องและแห เป็นต้น ถลกผ้าถุงปัสสาวะใส่ต่อหน้าต่อตา เห็นแล้วก็เกิดความสลดสังเวชอย่างใหญ่หลวง คิดว่า โอ๋....เมียเราทำไมทำได้ขนาดนี้ ทำถึงขนาดนี้แล้ว อยู่ด้วยกันไปก็ไม่เป็นมงคลอะไรจึงตัดสินใจแยกทางกับเมีย อย่างเข็ดหลาบ”
ที นี้จะทำอย่างไรเล่า ทำอะไรก็ไม่ทันสมัยกับเขา เลี้ยงแต่ควาย ทำแต่นา ทำอะไรก็ไม่ดีกับเขาสักอย่าง สร้างโลก (มีครอบครัว) ก็สร้างแล้ว มีแต่จมกับจม สิ่งใดก็ไม่ดีทั้งหมดผลสุดท้ายก็มาคิดว่าทำอย่างไรมันจึงจะดี
ข. ออกบวช
๑. เหตุแห่งการบวช
ก็ มาคิดปรารภถึงแม่ผู้บังเกิดเกล้านั่นแหละ คิดถึงแม่เวลาใด น้ำตาไหลนะ ถามนักปราชญ์ทั้งหลายว่า ทำอย่างไรจึงจะตอบแทนบุญคุณแม่ได้ นักปราชญ์ท่านก็ว่า จะทำนาค้าขายตอบแทนก็ไม่ได้ดอก มีแต่ออกบวชเท่านั้นแหละ บวชแล้วบำเพ็ญบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้
ทีนี้ก็เลยตั้งใจใฝ่ฝันว่าจะบวช บำเพ็ญบุญให้แม่สัก ๒ - ๓ พรรษา แล้วก็จะสึก จากนั้นก็เข้าวัดฝึกหัดขานนาค เพราะไม่ได้เรียนหนังสือ เขียนไม่เป็น อ่านไม่ออก นั่นแหละ มันปึก (โง่) จึงท่องไม่ได้ ท่องแล้วท่องเล่า จนจะถอยหลังนะ เอ้าตั้งใจใหม่ โอ๋.....คนอื่นเขายังได้เว้ย ! เอาวันละคำนะ “เอสาหัง ภันเตฯ.....” อยู่นั่นแหละ มักน้อยเอาวันละคำก็เลยได้ เข้าวัดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พอขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๖ (พฤษภาคม) จึงได้บวช ในปี พ.ศ. ๒๔๙๐ โดยมี หลวงปู่หนู ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ อยู่ที่วัดบ้านปลาฝา ซึ่งเป็นวัดฝ่ายมหานิกายมาบวชให้ แล้วจำพรรษาอยู่วัดบ้านขมิ้น ๑ พรรษา จากนั้นจึงมาจำพรรษาที่วัดศรีจันทร์ ซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้านแดงมีหลวงปู่นัน ตาปโส เป็นเจ้าอาวาส
๒. อุทิศบุญให้แม่
หลวง ปู่เล่าว่า พอบวชแล้วออกจากโบสถ์มาก็อุทิศส่วนบุญให้แม่เลย “บุญ ที่ข้าพเจ้าบวชในวันนี้ ขอฝากแต่แม่เจ้าธรณีเทพเจ้าเหล่าเทวา นำบุญนี้ไปให้แม่ข้าพเจ้า มีนามว่า นางเลี่ยม ชมภูวิเศษ ดวงจิตของเขานั้น ไปอยู่สถานที่ใด ไปตกนรกก็ดี หรือไปมนุษย์ก็ดี หรือไปเป็นเปรต เป็นผี ก็ดี ขอให้ได้รับส่วนบุญนั้น ขอให้พ้นทุกข์ ให้กลับมาเกิดในตระกูลเดิม จะได้เห็นอำนาจในการบำเพ็ญบุญ ส่วนผู้นำข่าวบุญไปนั้น ก็ขอแบ่งส่วนบุญให้”
จาก นั้นก็ตั้งใจบำเพ็ญบุญ ไหว้พระ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ยืนภาวนา เดินจงกรม วันยังค่ำ บางกาลสมัย ๕ ปีนะ ไม่นอนตลอดไตรมาส ๓ เดือน เดิน ยืน นั่ง เท่านั้นแหละ ๔ - ๕ วัน ฉันครั้ง เพราะวิตกวิจารณ์ใจ กลัวว่าจะได้บุญน้อย จะไม่ไปช่วยเหลือแม่ นั่นแหละ ก็ทำอยู่อย่างนั้นเป็นนิจ
แถมครับ....แทนคำขอบคุณ...พระผงรูปเหมือน ลพ.เกษม เขมโก"ครบรอบ 60 พรรษาอุปสมบท"สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปางพ.ศ.2536 ยังสวย สุดคุ้มครับ

 

จองเพิ่มครับ

 

วันนี้โอน 2250 บาทให้แล้วครับเวลา 13.09 บาท ส่งที่เดิมครับขอบคุณ

 

จอง.รายการที่ 672 .673 และ 669

 

รับทราบ...ขอบพระคุณมากครับ...ขอให้รวยๆๆๆๆ

 

รับทราบการจอง...ปิดรายการให้แล้ว....ขอบพระคุณมากครับผม

 

โอนให้แล้ว 2,650 บาท.เมื่อซักครู่ครับ
รายการ 663 , 666 , 671 รวม 3 องค์
ที่อยู่ที่จัดส่ง
นายภูวเดช ชุดาพรวรยศ ( 089-6966788 )
9/653 หมู่ 5 ถ.เทพารักษ์ ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10280[/SIZE]

 

ปิดรายการที่ 686 เหรียญหลวงปู่ฝั้น อาจาโร "รุ่น 99" วัดป่าอุดมสมพร สร้างปี 2519 เนื้อทองแดงรมน้ำตาล โดยนายโกเมน ตันติวิวัฒน์นขันธ์ สร้างถวาย สภาพสวยแชมป์ ไม่ผ่านใช้ รับประกันแท้ตลอดชีพครับขอที่ 650.-(พี่นอกเว็ป)

 

ปิดรายการที่ 687 เหรียญหลวงปู่ชอบ ฐานสโม"รุ่นอุดมพร" ที่ระลึกทอดกฐินปี 2537 วัดท่าแขก จ.เลย เนื้อทองแดงรมดำ ยังสวยครับ แบ่งเบาๆ ขอที่ 350.-(Hirose99)ฟรี ส่ง EMS

 

ปิดรายการที่ 688 เหรียญพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ"หลังลายเซ็นต์"วัดภูทอก อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย วัดประศาสธรรม สร้างถวาย เนื้อทองแดง ปี 2521 สภาพสวยมากๆครับไม่ผ่านใช้ ขอที่ 350.-(Hirose99)ฟรี ส่ง EMS

ไฟปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเมื่อพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ บ้วนปาก หลังจากท่านฉันภัตตาหารเสร็จ​

 

ปิดรายการที่ 689 พระผง"เจริญสุข"พิมพ์หนุมานแบกแท่น อีกหนึ่งที่หายากสุดๆ ของหลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร วัดประชาชุมพลพัฒนาราม (วชพ.)จ.อุดรธานี สร้างปี 2539 นำมาแบ่งครับขอที่ 350.-(กันตปัญโญ)ฟรี ส่ง EMS

 

ปิดรายการที่ 690 [SIZE=+1]พระสมเด็จ"รุ่นแรก"หลวง ตามหาบัว ญาณสัมปันโน เนื้อผงว่านสบู่เลือดผสมเส้นเกศา นิยม” ออกที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี. ปี 2539 เนื้อนี้สร้างน้อยหายากมากครับ องค์นี้มีติดสายบาตร ฝังแร่ด้วยครับ เกศาเพี๊ยบ เก็บอย่างดี สวยงามจับใจ ขอที่ 850.-(พี่นอกเว็ป)ฟรี ส่ง EMS

รับประกันแท้ทุกกรณีครับ...สบายใจได้....
[/SIZE]