ภาวนาแบบไหนถึงจะได้เห็นหรือสัมผัสกับสรวงสวรรค์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย มาจากดิน, 26 พฤศจิกายน 2014.

  1. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    อยากรู้ว่าปฏิบัตินานแค่ไหน ต้องปฏิบัติสะสมบุญกุศลเยอะๆรึเปล่า รึปฏิบัติภาวนาแบบเข้มข้นอย่างเดียวก็พอครับ ท่านที่เคยเห็นใช้บารมีข้อไหนช่วยรึเปล่า และเมื่อไปเห็นไปสัมผัสมาแล้วรู้สึกดีๆไหมครับ อยากให้แนะแนวทางและเล่าประสพการณ์ให้ฟังบ้าง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 พฤศจิกายน 2014
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    แค่ทาน กับ. สีล. ก็แช่แป้งได้แล้วนี่

    ไอ้ที่เลยกว่านี้. เขาเรียกว่า. จิตไม่ตั้งมั่นพอ. จิตเลยแส่ส่่าย ส่งออก
     
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    พอจิตส่งออก. ก็เลย. คลาดการกำหนรู้. การรู้. การเสวย

    พอกำหนดรู้ไม่ทัน. มันก็กลายเปน. มานัส มานะ. มโน

    พอกลานเปน มนะ. มโน. มนัส. กำหนดรู้ไม่ทันอีก. ก็เริ่มเกิด. ทิฏฐิ กล่อมว่่า
    ต้องเห็น. จึงจะเชื่อ

    พอทิฏฐิเกิด. กำหนดรู้ไม่ทัน. ก็เลยเกิด. วัตร. วัฏฏะ. เดี๋ยวเข้า. เดี๋ยวออก. นั่งยิ้ม
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    พอนั่งยิ้ม. แล้วไงต่อ

    ก็เหนครูบาอาจารย์กล่าวย้อนกลับมาที่. จาคะ. และ. สีล

    พร้อมด้วย. จิตตั้งมั่น. มีอธิจิต. ยังจิตให้ถึงพร้อม. จบ
     
  5. พลรัฐ

    พลรัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +1,111
    ...หิริ โอตตัปปะ
    การมีความละอายต่อความชั่วทั้งปวง
    และเกรงกลัวผลของบาปที่จะให้ผล
    ...เป็นสมบัติของชาวสวรรค์ หากต้องการสัมผัส เข้าถึงอารมณนี้
     
  6. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ถ้ายังงั้นก็แนะนำ ทาน, ศีล ดังว่า เพื่อเป็นธรรมทานเลยครับ
     
  7. zaff

    zaff Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2014
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +56
    ประสบการณ์ที่ได้ไปเห็นและสัมผัสสรวงสวรรค์ ตามที่เจ้าของกระทู้ถาม ทำไมยังไม่มีผู้ใด นำมาถ่ายทอดให้อ่านกันบ้างเลย?

    ยังไงรออ่านอยู่นะครับ
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เอ้า จะมาถามผม ทำอิหยังหละ คุณ psudo-กรัชกาย ผู้มาก
    ด้วยการแวะเวียน บอร์ดโน้น บอร์ดนี้ เพื่อโพส คำถามธรรมซ้ำๆๆๆๆ อิง ลิงค์ ธรรม
    เป็นธรรมทาน

    ก็อาศัย การมากด้วยการทำ ธรรมทาน เอา ธรรมะของ พระพุทธองค์
    จะเป็นของตนสักนิด ก็หามีไม่ ได้แต่เอา ธรรมของพระพุทธองค์แจก
    จ่าย เผยแผ่เป็น ธรรมทาน โดยไม่ได้ถือครองเอาไว้ว่า ธรรมกู

    ก็ การกระทำเช่นนั้นแหละ เรียก ทาน เรียกว่า จาคะ

    และ เพราะว่างเปล่า ไม่ถือเอาว่า ตนมีธรรม ตนเป็นเจ้าของธรรม เรียกว่า ศีล

    เอา จาคะ กับ ศีล ที่ หมั่นประกอบ ยกขึ้นพิจารณาเป็น จาคานุสติกรรมฐาน

    ด้วยอำนาจแห่ง ทาน ย่อมทำให้สัมผัสสววรค์

    ด้วยอำนาจแห่งการไม่ถือเอา ทำเพียงตบแต่งจิต นี่ สววรคิ์ชั้น ปรนิมวัสวัตตี สัมผัส แล้ว

    อาศัย สัมผัสระลึก ยังจิตให่เกิด ปิติ มีจิตตั้งมั่น มีการเฝ้นธรรม แค่นี้ โพชงค์ก็ บริบูรณ์ได้

    และ เพราะ โพชฌงค์บริบูรณ์ได้ จึงเหนือโลกธรรม เหนือสวรรคิ์ได้
    ไม่จมจ่อม หมกมุ่นอยู่ในสวรรคิ์ ก็จะได้ชื่อว่า " ผ่านภิภพ (ตามเห็นการดับไปของ ภพ) " ไม่ต้องไป
    นั่งยิ้ม ดูผู้อื่นยิ้ม ให้เมื่อยลูกตา แช่แป้งสวรรคิ์ โดยมิต้องสงสัย
     
  9. ประกายพลอย

    ประกายพลอย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +452
    โลกเรา ท่ีอาศัยอยู่เป็นยังไง

    ก็เป็นอนิจจัง ทุกขัง สุดท้ายก็อนัตตา ไม่มีเรา ไม่มีเขา สูญสลายหมดสิ้น ไร้แก่นสาร

    อายุสัตว์โลกก็กระจิ๋ว นิดเดียว


    โลกเรานี้ โลกใบบนี้ ไร้แก่นสาร อยู่กันไม่ถึง 100 ปี ก็ตายกันเรียบ โดนค่าเฉลี่ย


    .. โลกสวรรค์ละ อายุ อย่าต่ำ เป็น 1000 ปี ของโลกมนุษย์ เป็น 10000 ปี

    พรหม นี่ ปาไปเป็น แสน เป็นล้านล้านปี ถ้านับอายุแบบ ชาวโลก


    สวรรค์โลกมั่นคงกว่า เป็นจริงเป็นกว่า สัมผัสได้ชัดเจนกว่า

    ทุกสิ่งทุกอย่างบนสรวงสวรรค์ ช่าง มั่นคงเสียเหลือเกิน อายุยืนนานเสียเหลือเกิน

    เป็นจริง เป็นจัง กว่าโกลมนุษย์ มากมายมหาศาล

    แต่ที่น่าเสียดาย มันคนละโลกกัน

    ฟันธง
     
  10. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,126
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,087
    ก่อนอื่น ทำสมาธิ อย่าหวังว่าจะเห็นอะไร หรือได้อะไร เพราะเป็นกิเลส และต้องทำบ่อยๆ หลายครั้ง อาจ หนายวัน หลายเดือน หลายปี โดยเริ่มบริกรรม จนจิตรวม เป็นไปตามลำดัน ขนิกะ อุปจาระ อัปนา จนจิตละคำบริกรรมได้ และสามารถรวมเป็น เอตคัตตา ทำไปเรื่อยๆ จิตจะเข้าสุฌาน ไปตามลำดับ ปฐม ทุติยะ ตะติยะ และจตุฌาน ถึงจุดนี้ จะเข้าถึงอภิญญาต่างๆด้เองอัตโนมัติ ข้อสำคัญ อย่าหลง และติดกับนิมิต ทำไปด้วยพละ 5 เริ่มจากศรัทธา จะเร็วหรือช้าขึ้นกับความเพียร ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย กว่าจะถึงจุดนี้ ต้องเอชีวิตเข้าแลก เราปุถุชน ที่เต็มไปด้วยกิเลส ก็คิดดูเอาเอง ถ้าได้ครูดี กัลยาณมิตรที่ดี จะสามารถเข้าสู่กระแสได้สักวันหนึ่ง ค่อยๆสะสมไปเรื่อยๆ อย่าโลภ ผู้ที่สำเร็จในแต่ละขั้น ย่อมรู้เอง เห็นเอง เหมืนคนกินข้าว เมื่ออิ่มก็รู้เองฉันนั้น อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2014
  11. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ประสพการณ์ท่องสวรรค์มีเยอะมากขอเล่าแค่สองเรื่องคือ

    1 ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นั่งสมาธิภาวนาแล้วสงบนิ่ง แบบนิ่งไปเลย แต่มีสติรู้ ว่าสงบเบาสบาย ในขณะนั้นไม่รับรู้กาย เวทนา ดับหมดแล้ว ก็ปรากฏ นิมิตภายในความสงบนิ่ง เห็นท้องฟ้ากว้างไกลสวยงาม มีเมฆลอยอยู่ข้างล่างต่ำกว่าที่ตนเองยืนอยู่พอสมควร มองไปข้างหน้า เห็นวิมานหลังหนึ่ง ไกลๆสวยอร่ามมาก แค่นึก รู้สึกว่าตนเองไปยืนอยู่ข้างหน้า วิหารทิพย์ที่เห็นสวยงามเหลืองอร่ามเหมือนอุโบสถแต่หลังไม่ใหญ่มาก แบบวิหารหลวงพ่อเป็นต้น แบ๊บเดียวก็มีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏสวมใส่ชุดขาวเรียบร้อยสะอาดหมดจด ยืนอยู่ตรงประตู ด้านหน้ามีม่านสีทองกางกั้นอย่างสวย ในจิตอยากรู้ว่าเป็นวิหารของใคร แค่นึก ผู้หญิงคนดังกล่าว พนมมือไหว้กระผมแล้วพูดว่า
    วิหารทิพย์หลังนี้เป็นของท่านมิใช่ของใครอื่น ผลบุญที่ท่านได้สร้างวิหารทาน จะเกิดรอท่านทันที เมื่อท่านละสังขารเมื่อไหร่ท่านจะใช้สอยวิหารหลังนี้ก็เป็นสิทธิ์ของท่าน ส่วนดิฉันมีหน้าที่ดูแลรักษาไว้ให้จนกว่าจะถึงเวลานั้นเจ้าคะ

    ผมได้รับรู้อย่างนี้ก็มีปิติ และจำได้ว่า ตนเคยนำผ้าป่าไปสร้างกุฏิพระเมื่อไม่นานมานี่เอง ผลบุญเกิดทันที มีวิหารทิพย์เกิดขึ้นทันที
    แต่ในจิตก็นึกว่า เราไม่ได้อยากได้อะไร เราทำบุญเพราะศรัทธา ก็เท่านั้น แล้วถ้าเราสร้างวิหารทานหลายๆที่ วิหารทิพย์ของเราก็คงมีหลายที่เช่นกัน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร

    แค่นึกอย่างนี้ก็ปรากฏรู้ขึ้นมาว่า วิหารทิพย์ ย่อมปรากฏตามวิหารทานที่เราได้ตั้งใจสร้างถวาย และในขณะนั้นกำลังจิตเราทรงอารมณ์ใด วาสนาบารมีเราในขณะนั้นมีกำลังมากน้อยแค่ไหน หากเรามีกำลังจิตเทียบเคียงพระโสดาบัน วิหารเราย่อมเกิดปรากฏในชั้นจาตุมหาราชิกา เป็นเบื้องต้น หากทรงกำลังจิตสกิทาคามี ก็หมายถึงวิหารย่อมเกิดในชั้น ดาวดึงส์ขึ้นไปจนถึงชั้นยามาเป็นต้น คือวิหารทิพย์เกิดตามวิหารทานและอาศัยกำลังใจเป็นเครื่องหนุนส่งไปในชั้นภพนั้นๆครับ สาธุ

    แต่ก็มีความเข้าใจผุดขึ้นอีกว่า หากเราไปเสวยทิพย์ในชั้นที่สูง เราจะลงมาวิหารทิพยวิมานในชั้นที่ต่ำกว่าก็ย่อมทำได้ แต่ทั้งนี้ อาศัยกำลังจิตตอนละสังขารสำคัญมากที่สุด ส่วนทิพย์วิมาน ก็จะเกิดปรากฏแก่เราในทันทีที่เราไปเกิดบนสวรรค์ครับ มีเหตุปัจจัยหลายอย่างหนุนส่งครับ

    ส่วนเรื่องที่สอง คือ หลวงปู่พาไปกราบพระจุฬามณี จตุระทวารชั้นดาวดึงส์ สวยงามมาก เรื่องนี้ เกิดขึ้นนานแล้วเช่นกัน เมื่อก่อนผมชอบนั่งสมาธิภาวนา นั่งนานแบบนั่งแล้วต้องตัดกาย เวทนาให้ได้ แล้วคงเหลือไว้เพียงสุขสงบในสมาธิหรือฌาณ ตอนนั้นชอบไปนั่งตามป่าตามเขา ถ้ำและวัด เวลาไปก็ไปคนเดียวจะได้สะดวกและไม่ต้องเป็นห่วงอะไร นั่งครั้งหนึ่งก็นาน2ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ นานสุดเคยนั่งภาวนาที่ในวัดแห่งหนึ่งใกล้เมรุนานตั้งแต่เย็นหัวค่ำจนรุ่งสางอีกวัน

    วันหนึ่งนั่งสมาธิภาวนาเหมือนเคย วันไหนสวดชินบัญชรและยอดพระกันไตรปิฏกแบบไม่ผิดเลยแสดงว่าสมาธิเราดีมาก แล้วจึงภาวนา เมื่อสงบนิ่ง มันเกิดอยากรู้อยากไปจุฬามณีไปกราบพระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว จำได้ว่าครั้งแรกเคยไปวิมานชั้นจาตุมหาราชิกามาแล้ว ครั้งนี้จึงอธิฐานจิตไป แต่พอรวมจิตเป็นสมาธิแล้ว ขึ้นไปบนท้องฟ้ากว้างไกล ไปไม่ถูก ก็นึกขึ้นได้ว่า ชั้นดาวดึงส์นี่มันสูงนะ คงไปได้ไม่ง่ายๆและเป็นชั้นที่องค์อัมรินทร์ท่านปกครอง คงขึ้นไปยาก ทำอย่างไรดี ปรากฏว่าใน ขณะนั้น ปรากฏนิมิตเห็นหลวงปู่รูปหนึ่ง[ไม่ขอเอ่ยชื่อท่านครับ] ท่านบอกว่า ให้ตามท่านมา ผมเห็นท่านถือไม้เท้า และก้าวเดินตามท่านไปบนอากาศ จำได้ว่า 5ก้าว ก็ถึงพระจุฬามณี สภาพอากาศโดยรอบ เหมือนอยู่ท่ามกลางหมู่ด่าวระยิบระยับสวยงามมาก ท้องฟ้าเต็มไปด้วยอัญมณีรัตนชาติ คือสวยงามมากสบายตาสบายใจจะว่ามืดก็ไม่มืดจะว่าสะว่างเหมือนชั้นจาตุมหาราชิกาก็ไม่ใช่ ชั้นจาตุมหาราชิกาจะสว่างจ้าเหมือนโลกมนุษย์ แต่ดาวดึงส์จะสว่างแบบนวลตาพูดไม่ถูกครับ
    พอไปถึงจุฬามณี เห็นซุ้มประตู เป็นจตุรมุข ทสี่ด้านสวยงาม มีเทพยืนประจำประตู หนึ่งท่านต่อประตูหนึ่งๆ สวยงามมาก ตอนนั้นไม่ได้มองอะไรมาก เดินตามท่านหลวงปู่เข้าผ่านประตูเข้าไปข้างใน ตอนแรกดูจากข้างนอกก็ใหญ่ปานกลาง แต่พอเข้าไปข้างในกลับกว้างขวางมาก ข้างในเป็นที่โล่งกว้าง แต่ก้าวเดินตามหลวงปู่เพียงสามก้าวก็อยู่หน้ามณฑบพระจุฬามณีอันมีพระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว ส่องฉัพพรรณรังสี สวยงามมากเป็นสีรุ้งสว่าง อยู่บนแท่นบุษบกชุกชี ทำด้วยทองคำและประดับด้วยรัตนชาติ ครอบด้วยแก้วสวยงามมากครับ เมื่อนั้นก็ก้มลงกราบตามหลวงปู่ เสร็จแล้วจึงกลับ ตอนเดินออกมาก้าวแรกก็เห็นเทพพรหม เข้ามากันอย่างไม่ขาดสายต่อเนื้องจากทั้งสี่ทิศสี่ประตู ก้าวที่สองออกมานอกพระจุฬามณี ก้าวที่สาม ลงมา ลงมา จนถึงก้าวที่ห้าก็รู้สึกตัว ออกจากสมาธิ คืนนี้เป็นอันว่าสมปราถนา น้ำตาแห่งปิติเกิดขึ้นอย่างมากที่สุดในชีวิตที่ปฏิบัติธรรมมมา ทำให้เชื่อว่าสวรรค์มีจริง สิ่งที่กล่าวไว้ตามพระคัมภีร์มีจริง จึงเกิดกำลังใจมากมายเป็นที่สุด ในการ ตั้งใจทำความดี และปฏิบัติธรรม สวดมนต์ภาวนา ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันครับ สาธุ

    นอกจากนี้ยังมีประสพการณ์อื่นๆอีกมากมายด้านการท่องสวรรค์และนรก อีกมากมายครับ

    แต่ขอละไว้เพียงเท่านี้ก่อนครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2014
  12. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    อ่านแล้วเวียนหัว : )
     
  13. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +3,152
    ข้าพเจ้าขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับ

    เมื่อก่อนข้าพเจ้าก็อยากไปรู้ไปเห็นนรก สวรรค์ เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติเช่นกัน แต่พอได้ไปแล้ว ได้รู้ได้เห็นแล้ว ก็อยากจะดูโน่นดูนี่บนสวรรค์อีก อยากจะสัมผัสบ้าง เช่นการกิน การดมกลิ่น การฟังเสียง การสัมผัสบรรยากาศ เริ่มอยากจะรู้ว่าตัวเองเคยเกิดมาเป็นอะไรบนนี้ เริ่มอยากจะรู้ว่าวิมารของเราเป็นยังไง เริ่มอยากจะดูบริวารว่ามีมากขนาดไหน แล้วมายังไง สุดท้ายจึงโดนเตือนว่า

    "ปฏิบัติเพราะอยากพ้นจากทุกข์ แล้วจะมามัวหากิเลสเพิ่มทำไม"

    ตั้งแต่วันนั้นมาข้าพเจ้าก็ไม่ไปดูอะไรอีกเลย

    สุดท้ายนี้ขออย่าได้เชื่อถือหรือยึดมั่นในสิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไปเลย

    ขอให้เจริญในธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2014
  14. bornstut

    bornstut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    179
    ค่าพลัง:
    +217
    ก่อนปล่อยวางได้บางทีจำเป็นต้องพบเห็น
    มันถึงเป็นความเข้าใจที่ปล่อยได้
    ว่าถึงรู้มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร
    ความจริงไงคือเราเป็นมนุษย์โลก อย่าลืมตน
     
  15. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817

    ก็ปฏิบัติไปตามตำราที่มีสอนอยู่ก็ได้แล้วขอรับ เพราะถ้าจะว่ากันตามหลักความจริงแล้ว สวรรค์มีอยู่หลายชั้น ชั้นแรก ก็อยู่ที่โลกมนุษย์นี้แหละขอรับ ถ้าละความโลภ ความโกรธ ความหลงได้ ก็ไปสู่สวรรค์ชั้นหนึ่งแล้ว
    ถ้าอยากจะไปสวรรค์ที่อยู่นอกเหลือจากโลกมนุษย์ ก็ต้องฝึกกันอย่างหนักเลยขอรับ
    บารมี ถ้าจะว่ากันตามหลักความจริงอีกนั่นแหละ ไม่เกี่ยวกันดอกขอรับ ถ้ารู้จักความคุมความคิดที่มักจะไหลไปทางต่ำได้ ก็เรียกว่า มีสมาธิ เมื่อมีสมาธิ คือรู้จักกำหนดให้ตัวเองมีสมาธิ จะคิดพิจารณา อย่างไรก็ลุล่วง เรียกว่า ปัญญาเกิดว่าง้้นเหอะ
    สรุปแล้ว ไม่เกี่ยวกับ บุญบารมีดอกขอรับ มันเกี่ยวกับ วิชชา ความรู้ หรือ หลักวิชชา กับการปฏิบัติตามหลักวิชชา
    ถ้าปฏิบัติถูกตามหลักวิชชา อย่างน้อยที่สุดตอนนี้ ก็สามารถทำให้ความดันโลหิตต่ำได้ สูงได้ หรือจะกล่าวแบบโม้นิดๆ ก็คือ สามารถรักษาอาการ ความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้ (ข้าพเจ้าไม่ได้วัดความดันโลหิตมาประมาณปีกว่าถึงสองปีแล้ว)แต่วัดเอาจากอาการของร่างกาย เรียกว่ามีประสบการณ์อยุ่บ้างขอรับ
     
  16. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
  17. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ชมพูทวีป "ทวีปที่กำหนดหมายด้วยต้นหว้า (มีต้นหว้าเป็นเครื่องหมาย) หรือทวีปที่มีต้นหว้าใหญ่ (มหาชมพู) เป็นประธาน"

    ตามคติโบราณว่า มีสัณฐานคือรูปร่างเหมือนเกวียน, เป็นชื่อครั้งโบราณอันใช้เรียกดินแดนที่กำหนดคร่าวๆ ว่า คือ ประเทศอินเดียในปัจจุบัน (แต่แท้จริงนั้น ชมพูทวีปกว้างใหญ่กว่าอินเดียปัจจุบันมาก เพราะครอบคลุมถึงปากีสถานและอัฟกานิสถาน เป็นต้น ด้วย)


    ชมพูทวีปในสมัยพุทธกาล ประกอบด้วยมหาชนบท คือ แว่นแคว้นใหญ่ หรือมหาอาณาจักร ๑๖ เรียงคร่าวๆ จากตะวันออก (แถบบังคลาเทศ) ขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ (แถบเหนือของอัฟกานิสถาน) คือ อังคะ มคธ กาสี โกศล วัชชี มัลละ เจตี วังสะ กุรุ ปัญจาละ มัจฉะ สุรเสนะ อัสสกะ อวันตี คันธาระ และกัมโพชะ (กล่าวในพระไตรปิฎก เช่น องฺ.ติก. 20/510/273)

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  18. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    เมรุ ๑ ชื่อภูเขาที่เป็นศูนย์กลางของจักรวาล บางทีเรียกพระสุเมรุ ตามคติของศาสนาฮินดู ถือว่าเป็นบริเวณที่มีสวรรค์อยู่โดยรอบ เช่น สวรรค์ของพระอินทร์อยู่ทางทิศเหนือ ไวกูณฐ์แดนสถิตของพระวิษณุหรือพระนารายณ์ อยู่ทางทิศใต้ ไกลาส ที่สถิตของพระศิวะ หรือพระอิศวรก็อยู่ทางทิศใต้ เหนือยอดเขาพระสุเมรุนั้น คือ พรหมโลก เป็นที่สถิตของพระพรหม, ภูเขานี้ เรียกชื่อเป็นภาษาบาลีว่า สิเนรุ และตามคติฝ่ายพระพุทธศาสนา ในชั้นอรรถกถา ยอดเขาสิเนรุเป็นที่ตั้งของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งเป็นที่สถิตของพระอินทร์ เชิงเขาสิเนรุ ซึ่งหยั่งลึกลงไปในมหาสมุทรเป็นอสูรพิภพ สูงขึ้นไปกึ่งทางระหว่างแดนทั้งสองนั้น เป็นสวรรค์ของท้าวจาตุมหาราช สวรรค์ชั้นอื่นๆ และโลกมนุษย์ เป็นต้น ก็เรียงรายกันอยู่สูงบ้างต่ำบ้าง รอบเขาสิเนรุนี้ (ในวรรณคดีบาลียุคหลัง เช่น จูฬวงส์ พงศาวดารลังกา เรียก เมรุ และ สุเมรุ อย่างสันสกฤตก็มี) ๒. ที่เผาศพ หลังคาเป็นยอด มีรั้วล้อมรอบ ซึ่งคงได้คติจากภูเขาเมรุนั้น

    หิมพานต์ มีหิมะ, ปกคลุมด้วยหิมะ, ชื่อภูเขาใหญ่ที่อยู่ทางทิศเหนือของประเทศอินเดีย บัดนี้ เรียกภูเขาหิมาลัย, ป่าที่อยู่รอบบริเวณภูเขานี้ ก็เรียกกันว่า ป่าหิมพานต์ หิมวันต์ ก็เรียก

    เทือกเขาหิมาลัย เกิดจากการชนกันของขอบทวีปตรงส่วนเป็นแผ่นดิน ระหว่าง อินเดีย กับ ทวีปเอเชีย จนดันเปลือกโลกให้โก่งตัวสูงขึ้นมา เทือกเขาหิมาลัยนี้เป็นที่ตั้งของยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกที่รู้จักกันดี คือ ยอดเขาเอเวอร์เรสต์ และถูกพิชิตโดยนักไต่เขาชาวอังกฤษเมื่อปี 1953

    เทือกเขาหิมาลัย (Himalaya) เป็นเทือกเขาในทวีปเอเชีย ที่แยกอนุทวีปอินเดียทางเหนือ ออกจากที่ราบสูงทิเบตทางใต้ เป็นที่ที่มียอดเขาที่สูงที่สุดในโลก เช่น ยอดเขาเอเวอเรสต์ และยอดเขากันเจนชุงคา (Kanchenjunga) ในทางศัพท์มูลวิทยา คำว่า หิมาลัย มาจากภาษาสันสกฤต หมายถึง ที่อยู่ของหิมะ

    เทือกเขาหิมาลัยทอดยาว พาดผ่านพื้นที่ของ 5 ประเทศ ได้แก่ ปากีสถาน อินเดีย จีน ภูฏาน และเนปาล ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของระบบแม่น้ำที่สำคัญของโลกหลายสาย เช่น แอ่งแม่น้ำสินธุ และแอ่งแม่น้ำคงคา แม่น้ำสาละวิน และแม่น้ำโขง พื้นที่ลุ่มน้ำของแม่น้ำหิมาลัยเป็นที่อยู่ของผู้คนราว 750 ล้านคน ซึ่งรวมถึงชาวบังคลาเทศ
     
  19. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
  20. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ทุกอย่างมีจุดเริ่มต้น ท่ามกลางและที่สุด

    เรื่องการเจริญสมาธิก็เช่นกัน ที่สุดของสมาธิคือปัญญารู้แจ้งปล่อยวาง

    วันนี้เราเหมือนคนที่ผ่านโลกมามาก เมื่อย้อนมองสิ่งที่ล่วงมาแล้ว มันเป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่ประกอบปัญญา ปัญญาในสมาธิของเราในเวลาจึงเข้าใจแจ่มแจ้งชัด ตกผลึกแล้ว นั่นคือ ความไม่ยึดมั่นถือมั่นใดๆ นั่นเอง อดีตที่ผ่านมามันสั่งสมบ่มปัญญา จนถึงที่สุด มันไม่มีอะไรให้ต้องไปยึดมั่นถือมั่น ต่อไป การปฏิบัติธรรมจึงไม่ใช่การปฏิบัติเพื่อหวังอยากได้อะไรหรือเอาอะไรมาพอกพูนฉาบทาจิตใจของตนเอง แต่เป็นไปเพื่อการชำระกระเทาะปล่อยวางสรรพสิ่งออกไปให้หมด ไม่เหลือแม้อัตตาในตนที่มีครับ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...