ประสบการณ์มโนมยิทธิ กรรม และเรื่องยุ่งๆของผม

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย softkid9, 18 กุมภาพันธ์ 2014.

  1. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    -๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๗-​


    วันนี้ปฎิบัติธรรมเจริญพระกรรมฐานมโนมยิทธิตามปกติครับ พอจิตเริ่มสงบก็ขึ้นไปบนพระจุฬามณีเจดีย์สถาน กราบพระ แล้วขอบารมีพระไปที่วิมานของตัวเองเพื่อไปเก็บดอกบัวแก้วมาถวายสมเด็จองค์ปฐมที่วิมานของท่าน สมเด็จองค์ปฐมท่านปรากฎในกายมนุษย์ที่มีความงดงามสว่างไสว สีของจีวรที่ท่านห่มนั้นเหลืองอร่ามสวยสดงดงามมาก ใบหน้าท่านก็ยิ้มแย้มตลอดเวลา ท่านทรงแย้มพระโอษฐ์เมื่อผมเข้าไปกราบท่าน วันนี้ได้ถวายดอกบัวแก้วแด่ท่าน และทูลถามท่านเรื่องเกี่ยวกับบุคคลคนคนหนึ่งอันเป็นบุคคลประเภทที่เรียกว่า "เถรใบลานเปล่า"

    ท่านก็ทรงแย้มพระโอษฐ์อีกครั้งหนึ่งแล้วทรงมีพุทธฎีกาตรัสตอบว่า "เธอจะไปสนใจในจริยาของบุคคลอื่นไปเพื่ออะไร เขาจะทำอะไรก็ช่างเขาเถอะ เขาทำเขาเชื่อแบบนั้นมันก็เป็นเรื่องของเขา แล้วเขาจะได้รับผลที่เขาได้กระทำลงไปเอง อย่าไปสนใจจริยาของบุคคลอื่นเลย สนใจจริยาของตัวเธอเองเถิด"

    เมื่อได้ยินดังนั้นผมจึงกราบลาท่านแล้วไปที่วิมานของตัวเอง จากนั้นจึงขอบารมีพระไปพบกับท่านเจ้า(ของ)ที่ที่แม่ของผมได้เข้าไปทำงาน เธอเป็นผู้หญิงผมยาว บัดนี้เธอมีความสวยงามมาก รัศมีกายสว่าง นุ่งขาวห่มขาว มีใบหน้าที่ยิ้มแย้ม นั่งคุยกับท่านเรื่องเกี่ยวกับการตั้งศาลให้ท่านได้อยู่ ท่านตอบกลับมาว่าท่านไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ท่านอยู่ของท่านที่นี้เท่านั้น จากนั้นผมจึงอุทิศบุญกุศลให้ท่านไป รัศมีกายของท่านยิ่งสว่างมากขึ้น แล้วผมจึงกราบลาท่านกลับไปที่พระนิพพาน

    แต่กลับไปได้สักแปปเดียวเท่านั้น ผมก็ขอบารมีพระเพื่อมาชมพรหมโลกที่ผมเคยอยู่ จิตบอกว่าที่นี้เป็นรูปพรหมชั้นที่๓ ภาพที่ผมเห็นคือ วิมานของพรหมแต่ละท่านที่ใหญ่โตมาก และ ตั้งห่างกันในระยะทางที่ไกลพอสมควร จิตบอกว่า วิมานของแต่ละท่านนั้นตั้งห่างกันราว3โยชน์ และภาพที่เห็นก็เปลี่ยนไปเป็นแบบBird-eye view คือ เห็นภาพวิมานของพรหมแต่ละท่านในมุมสูง ยิ่งเห็นแบบนี้แล้วยิ่งรู้ว่าวิมานของแต่ละท่านมีมากจริงๆ นับไม่ไหวเลยทีเดียว หลังจากนั้นจึงขอบารมีท่านกลับไปวิมานของตัวเอง แล้วกราบลาองค์สมเด็จท่านและกลับมาที่มนุษยภูมิเช่นเดิม
     
  2. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    สาธุกับน้องกฤษณ์เป็นอย่างสูงครับ สิ่งที่น้องทูลถามพระองค์ท่านตรงใจพี่จริงๆ ถือเป็นการสงเคราะห์ผมถูกที่ถูกเวลาจริงแท้ ซึ่งผมกำลังใช้ขันติและคำว่าช่างมันๆ กับเถรใบลานเปล่าที่น้องกล่าวถึงอยู่พอดี แฟนผมวันนี้ก็ยุ่งเรื่องงานอยู่ เลยไม่กล้ารบกวนทูลถามเบื้องบนท่าน

    ธรรมะของพระพุทธองค์ใช้ได้กับทุกสถานที่ ทุกเวลาจริงๆครับ เถรใบลานเปล่าที่น้องกฤษณ์พูดถึงนั้น ในยุคนี้มีกันหลายคน และมีในทุกสถานที่ ก็ต้องปล่อยเค้าไปและหันกลับมาดูใจเราอย่างที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ ใครเค้าจะไปที่ไหนก็ปล่อยเค้าไป เราตั้งใจไปที่ของเราดีกว่าครับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2014
  3. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    พี่เก่งครับ เรื่องที่พี่จะให้ผมช่วย ผมได้ทูลถามพระมาแล้วครับ แต่ไม่ค่อยแน่ชัดนัก ประเดี๋ยวผมจะทูลถามท่านอีกครั้งหนึ่งในวันพรุ่งนี้นะครับ

    กราบขออภัยมา ณ ที่นี้นะครับ
     
  4. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    วันนี้ขับรถผ่านแผงพระเล็กๆแถวลำพูน เลยขออนุญาติแฟนผมลงไปด้อมๆมองๆสักนิด เจอสมเด็จองค์ปฐม ฐานบัว หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะท่านสร้างปี 2549 แต่ผิวองค์พระท่านโดนมือสัมผัสเลยเปลี่ยนสีไปหน่อย ผมบูชามาสองร้อยบาท ตั้งแต่ฝึกมโนมยิทธิมา ผมเจอสมเด็จองค์ปฐมที่แผงพระค่อนข้างบ่อย

    แฮะๆ ขออนุญาตยืมภาพของคุณ ณ แปดริ้ว แทนหน่อยนะคร้าบ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2014
  5. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    สาธุค่ะพี่เก่ง และน้องกฤษณ์ พอดี2-3 วันมานี้ได้มีโอกาสนั่งสมาธิเล็กๆน้อยๆบ้างเหมือนกัน โดยวันนี้หลังจากทำสมาธิเสร็จได้อุทิศส่วนกุศลตามแบบฉบับของหลวงพ่อ และแผ่เมตตาให้กับทุกๆดวงจิตที่เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพภูมิต่างๆ หลังจากนั้นก็ได้แผ่เมตตาให้กับทุกๆดวงจิตในประเทศไทยด้วยค่ะ :)

    สำหรับเรื่องเถรใบลานเปล่า หรือเรื่องราวของบุคคลต่างๆที่เข้าข่ายทำนองนี้ หลายวันมานี้ก็ได้ไปอ่านข่าวคราวอยู่เหมือนกัน พอมาอ่านสิ่งที่พี่เก่งโพสต์ไว้ก็รู้ตัวเลยว่า ไม่ไหวเลยเรา เอาใจไปยุ่งกับคนอื่นจนได้ ต้องขอขอบคุณพี่เก่งด้วยนะคะที่ทำให้เข้ามาเจอะเจอพอดี งานนี้ขอแก้ตัวค่ะ ฮ่าๆๆ :)
     
  6. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    แฮะๆ พี่ก็ไม่ได้ดีกว่าน้องเฟมเลยนะคร้าบ เสียท่ากิเลสมารท่านจนได้ เอาใหม่ครับต้องสู้กับท่านต่อไป อะ! วันนี้พี่มีพระสมเด็จองค์ปฐมอยู่ 1 องค์ เป็นสมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่องจักรพรรดิ์ ผงกรรมฐานหลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ พิมพ์นี้ไม่ค่อยได้เห็นซักเท่าไหร่ เห็นมีให้บูชาในเว็บข้างนอกรู้สึกว่าจะหลายกะตังค์เหมือนกัน พี่ๆน้องๆท่านใดอยากได้ไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นพุทธานุสติ โพสแจ้งในกระทู้นี้เลยครับ แล้วส่งที่อยู่ทาง pm มาหาผมด้วย ฟรีครับไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น (มีอยู่องค์เดียวนะครับ ท่านใดโพสจองที่หน้ากระทู้ลำดับแรก ได้ก่อนครับ) เพราะภารกิจนี้ผมมีความรู้สึกว่าถ้าผมเจอพระสมเด็จองค์ปฐมที่แผงพระหรืออะไรก็ตามที่ราคาบูชาไม่แพง เบื้องบนท่านให้ผมรวบรวมไว้ เพราะผู้ที่ไม่รู้ยังมีอีกเยอะ จะได้ไม่เป็นการปรามาสพระรัตนตรัส และยังมีพี่ๆน้องๆญาติธรรมที่ยังไม่มีสมเด็จองค์ปฐมไว้บูชาอีกหลายท่าน ฉะนั้นก็ถือว่าเป็นธรรมทานอีกทางหนึ่งด้วยครับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2014
  7. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    ผมขอรับบูชาไว้ครับพี่เก่ง ส่วนที่อยู่จะส่งไปทางpmครับ :cool:
     
  8. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    -๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๗-​

    วันธรรมสวนะ (ขึ้น๑๕ ค่ำ เดือน ๗)


    วันนี้เจริญพระกรรมฐานมโนมยิทธิตามปกติ พอจิตใจเริ่มสบายก็ได้เคลื่อนจิตไปที่พระจุฬามุณีย์เจดีย์สถานเช่นเคย หลังจากกราบพระท่านเสร็จก็ปรากฎว่าท่านท้าวกุเวรผู้เป็นใหญ่ ยืนยิ้มอยู่ด้านหลัง เหมือนท่านมารอผมที่นี้อยู่แล้ว จึงกราบท่านรวมถึงขอพรและขอให้ท่านเมตตาคุ้มครองตามวิสัย หลังจากนั้นผมจึงขอบารมีพระและบารมีของท่านท้าวผู้เป็นใหญ่ขึ้นไปบนวิมานของสมเด็จองค์ปฐม ขอพระพุทธานุญาตให้ท่านช่วยอธิบายเรื่องหลักปฎิจจสมุปบาทอย่างง่ายให้ฟัง(พอดีผมพิ่งซึ่งหนังสือปฎิจจสมุปบาทจากพระโอษฐ์ที่ท่านพุทธทาสได้รวบรวมพระพุทธวจนจากพระบาลีเอาไว้มาศึกษาครับ) ท่านทรงแย้มพระโอษฐ์แล้วทรงอธิบายง่ายๆว่า "สิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี สิ่งนี้ดับ สิ่งนี้จึงดับ การเกิดปรากฎขึ้นได้เพราะอวิชชา คือ ความโง่ เห็นว่าสิ่งไม่ดีเป็นสิ่งดี เมื่อมีอวิชชาแล้วจึงทำให้เกิดชาติ ชรา มรณะ และทุกข์อีกมากมาย ดังนั้นหากไม่มีอวิชชาคือความโง่แล้ว ชาติ ชรา มรณะ และ ความทุกข์ต่างๆอีกมากมายก็จักไม่บังเกิดขึ้น"เมื่อเข้าใจดีแล้วผมจึงกราบลาท่านไปที่วิมานของตัวเอง อยู่วิมานตัวเองได้สักพักหนึ่งจึงลงไปที่เทวสภา วันนี้พระกัสสป เป็นผู้ลงมาเทศนา ท่านอยู่ในรูปกายมนุษย์(พระสงฆ์)ที่มีลักษณะงดงามและสง่างามเป็นที่สุด วันนี้ผมไม่ได้อยู่ฟังเทศน์จากท่าน จึงลงมาเพียงกราบท่านแล้วขอบารมีพระขึ้นไปเฝ้าสมเด็จองค์ปัจจุบันเพื่อไต่ถามถึงพุทธวจนที่พระองค์ทรงเปรียบความยาวนานของสังสารวัฎกับเมล็ดทรายในแม่น้ำคงคา ว่าผมมีความเข้าใจถูกต้องตรงตามความหมายที่พระองค์ต้องการจะสื่อหรือไม่ เมื่อถามดังนั้น พระองค์ก็ทรงแย้มพระโอษฐ์ และทรงตรัสว่า "ถูกแล้ว ถูกแล้ว เธอเข้าใจถูกต้องแล้ว" ก่อนจะลาท่านกลับมาที่เดิม ผมได้ขอพรจากท่าน ซึ่งท่านก็อวยพรให้ผมประสบผลสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรม รวมถึงการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอีกด้วย


    พุทธวจน

    ความยาวนานแห่งสังสารวัฎ(นัยที่๒)

    ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ! กัปทั้งหลายที่ผ่านไปแล้ว ล่วงไปแล้ว มากเท่าไหร่หนอ ?

    พราหมณ์ ! กัปทั้งหลายที่ผ่านไปแล้ว ล่วงไปแล้ว มากแล มิใช่ง่ายที่นับกัปเหล่านั้นว่า เท่านี้กัป เท่านี้ ๑๐๐ กัป เท่านี้ ๑,๐๐๐ กัป หรือว่าเท่านี้ ๑๐๐,๐๐๐ กัป

    ก็พระโคดมผู้เจริญอาจจะอุปมาได้ไหม ?

    อาจอุปมาได้ พราหมณ์!

    พราหมณ์! แม่น้ำคงคานี้ย่อมเกิดแต่ที่ใด และ ย่อมถึงมหาสมุทร ณ ที่ใด เมล็ดทรายในระยะนี้ไม่เป็นของง่ายที่จะกำหนดได้ว่าเท่านี้เม็ด เท่านี้ ๑๐๐ เม็ด เท่านี้ ๑,๐๐๐ เม็ด หรือว่าเท่านี้ ๑๐๐,๐๐๐ เมล็ด.
    พราหมณ์ ! กัปทั้งหลายที่ผ่านไปแล้ว ล่วงไปแล้วมากกว่าเมล็ดทรายเหล่านั้น มิใช่ง่ายที่จะนับกัปเหล่านั้นว่า เท่านี้กัป เท่านี้ ๑๐๐ กัป เท่านี้ ๑,๐๐๐ กัป หรือว่าเท่านี้ ๑๐๐,๐๐๐ กัป

    ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า?

    เพราะเหตุว่าสงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฎสัตว์เหล่านั้นได้เสวยทุกข์ ความเผ็ดร้อน ความพินาศ ได้เพิ่มพูนปฐพีที่เป็นป่าช้าตลอดกาลนานเหมือนฉะนั้น.

    พราหมณ์ ! ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ก็พอแล้วเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอแล้วเพื่อจะคลายกำหนัด พอแล้วเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้.
    นิทาน สํ. ๑๖/๒๑๗-๒๑๘/๔๓๕-๔๓๗​
     
  9. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    จัดไปครับน้องกฤษณ์ ถ้าไม่ติดธุระอะไรวันเสาร์ช่วงเช้าพี่จะส่งให้นะคร้าบ และขออนุโมทนากับธรรมทานที่น้องกฤษณ์นำมาลงครับ อ่านแล้วซาบซึ้งในพระเมตตาของพระพุทธองค์เป็นล้นพ้นยิ่งนัก

    อ้อ!ถ้าน้องกฤษณ์ได้ขึ้นไปเบื้องบน ช่วยกราบทูลถามพระใหญ่ท่าน ว่าสิ่งที่พี่รู้สึกนั้นถูกต้องหรือไม่ในการที่พี่รู้สึกว่าถ้าเจอพระสมเด็จองค์ปฐมที่แผงพระหรืออะไรก็ตามที่ราคาบูชาไม่แพง เบื้องบนท่านให้รวบรวมไว้ เพราะผู้ที่ไม่รู้ยังมีอีกเยอะ จะได้ไม่เป็นการปรามาสพระรัตนตรัส และยังมีพี่ๆน้องๆญาติธรรมที่ยังไม่มีสมเด็จองค์ปฐมไว้บูชาอีกหลายท่าน จะได้แจกกันไปบูชา ซึ่งก็ถือว่าเป็นธรรมทานอีกทางหนึ่งด้วย ขอบคุณล่วงหน้านะก๊าบ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2014
  10. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112


    ได้เลยค้าบผม เดี๋ยวผมจะทูลถามท่านให้นะครับ :cool:
     
  11. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743

    สาธุ พออ่านที่น้องกฤษณ์พิมพ์แล้วพี่ชอบมากๆเลย สิ่งที่ท่านบอกคือสรุปรวบยอดที่นำไปสู่การพ้นทุกข์โดยใช้หลักปฎิจจสมุปบาท ซึ่งหลวงพ่อท่านสอนพวกเราไว้แล้วคือการตัดสักกายทิฐิ วิจิกิจฉา และศีลพตปรามาสนั่นเอง


    พอดีพี่เพิ่งไปอ่านเจอเรื่องการภาวนา"สัมปจิตฉามิ" โดยหลวงพ่อท่านบอกว่าคาถานี้ “พระ” มาบอกให้ภาวนา ถ้าทำได้จะมีผลคล้ายอภิญญา คือไม่ต้องเสียเวลาไปฝึกกสิณ ๑๐ ภาวนาคาถานี้แล้วจะใช้ผลของกสิณได้เลย...ซึ่งมีวิธีการดังนี้

    ๑. นะโมฯ. ๓ จบ
    ๒. พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิฯ. ตติยัมปิฯ.
    ๓. อิติปิโสฯ. สวากขาโตฯ. สุปฏิปันโนฯ.
    ๔. แล้วทำใจสบาย ๆ ภาวนาว่า “สัมปจิตฉามิ” อ่านว่า สำ – ปะ – จิต – ฉา – มิ ไปเรื่อย ๆ ประมาณ ๑ ชั่วโมง


    ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวพี่เองเคยได้อภิญญา(ผ่านกสิณ ๑๐)มาก่อนไหม แต่เท่าที่ดูจากประสบการณ์ที่ผ่านมา การได้ทิพจักขุญาณบ้างเล็กๆน้อยๆตรงนั้นก็น่าจะสะท้อนให้เห็นว่าเคยได้กสิณไฟ กสิณสีขาว หรือกสิณแสงสว่างมาแล้วล่ะ ดังนั้นคาถานี้น่าจะพอช่วยได้ นอกจากนี้คาถานี้ยังมีผลช่วยกันและสะท้อนคุณไสยหรือสิ่งที่ไม่ดีต่างๆให้กลับไปหาผู้ที่กระทำใส่เราอีกด้วย (แต่ถ้าจะป้องกันเฉยๆให้ภาวนา"สัมปติจฉามิ"จะได้ไม่มีเวรต่อกัน)


    จากประสบการณ์ที่ผ่านมาคุณไสยและวิญญาณต่างๆนั้นมีอยู่จริง ซึ่งจะทำให้เกิดความแตกแยกเข้าใจผิดระหว่างหมู่คณะ หรือทำให้เกิดความเสียหายในเรื่องต่างๆในชีวิตได้ อีกทั้งยังทำให้เราไขว้เขวออกจากความจริงและธรรมที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งสอน ดังนั้นจึงอยากให้เป็นอุทาหรณ์แก่ท่านผู้อ่าน และให้ฉุกคิดเมื่อเห็นท่านที่ออกนอกลู่นอกทาง เพราะแต่ละคนมีกรรมไม่เหมือนกัน และถ้าหากเราคิดขึ้นมาดีๆ การที่เราเจอกรรมในแนวนี้ ก็เนื่องมาจากการที่เราเคยเป็นผู้ฝึกวิชาต่างๆเหล่านี้และใช้วิชากับคนอื่นๆให้ได้รับความเสียหายทั้งทรัพย์สิน ชีวิตและจิตใจ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือการหมั่นทำความดีและอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร แผ่เมตตาให้กับสรรพสัตว์และเขาเหล่านั้น แม้บางครั้งจะมีอารมณ์โกรธและพยาบาทเมื่อรู้ตัวก็ให้รีบอโหสิกรรมต่อกัน เพื่อที่ว่าจะได้ไม่มีเวรแก่กันและกันต่อไปในภายภาคหน้าค่ะ


    สำหรับเรื่องการปฏิบัติธรรม หลายๆคนจะเจอบททดสอบที่แตกต่างกัน บางทีมาในรูปนิมิต หรือสภาวะธรรม ซึ่งจะหลอกล่อให้เราไขว้เขวออกห่างจากธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแทบทั้งสิ้น เช่น จะทำให้เราเกิดมานะทิฐิคิดว่าเราเป็นคนดี ขาดพรหมวิหารธรรม ฯลฯ จนถึงขั้นละเมิดศีลได้ เช่น หลอกให้เราคิดว่าตัวเองเป็นพระอริยเจ้า หรือเป็นพระโพธิสัตว์ที่มีบารมีสูง ถ้าเจอแบบนี้ให้ลองสำรวจตัวเองดูว่าเรายังมีความเลวอยู่ไหม ถ้ายังเห็นความเลวอยู่ให้พิจารณาแล้วรีบปรับปรุงตัวเอง เพราะสุดท้ายแล้วเราจะเห็นว่าเรายังมีนิวรณ์ 5 อยู่เต็มใจ และยังมีสักกายทิฐิอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าสุดท้ายมองไม่เห็นความเลวของตัวเองให้รู้เลยว่า มีความผิดปกติเกิดขึ้นกับการปฏิบัติธรรมของเราแล้ว ทั้งนี้เพราะความเป็นพระอริยเจ้าและพระโพธิสัตว์ที่มีบารมีสูงทรงกำลังใจเทียบเท่าพระอริยเจ้านั้น(พระโพธิสัตว์ปรมัตถบารมี)ท่านย่อมอยู่ในความไม่ประมาท และทรงอารมณ์ใจตัดสังโยชน์ประการต่างๆอยู่เป็นปกติ ดังนั้นการที่จะคิดว่าตัวเองดีนั้น ย่อมไม่มีสำหรับท่านอย่างเด็ดขาด...


    ปล. ถึงพี่เก่งและน้องกฤษณ์ ที่พิมพ์ๆมาตั้งแต่กระทู้"ประสบการณ์มโนมยิทธิและญาณ๘" บางทีก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้พิมพ์เหมือนกันค่ะ เพราะตัวเองก็ไม่ใช่ว่าจะดีกว่าชาวบ้านเลย แต่พอพิมพ์ไปพิมพ์มาก็รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ดีและถูกต้อง อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อตัวเราเองและผู้อ่านก็เลยปล่อยผ่านค่ะ :)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2014
  12. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112


    เวลาได้อ่าน/ศึกษาพุทธวจน ขององค์สมเด็จพระมหามุนี ที่อยู่ในรูปของพระพุทธพจน์ในพระไตรปิฎกแล้ว พลันรู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างการฟังธรรมจากพระโอษฐ์ของพระองค์โดยตรงบนพระนิพพาน หรือ จากข้อธรรมจากในหนังสือ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น การฟังธรรม/ศึกษาธรรมแบบนี้ จะให้ความรู้สึกว่าช้อธรรมนั้นง่ายมาก เพราะท่านเทศน์เป็นภาษาไทยปัจจุบัน แต่หากอ่าน/ศึกษาจากพุทธวจนที่ได้รับการบันทึก จะใหัความรู้สึกว่าข้อธรรมเหล่านั้นยากขึ้นเพราะเต็มไปด้วยคำยาก และ มีภาษาบาลีปะปนอยู่ ทั้งๆที่สภาวะของธรรมะนั้นเป็นแบบเดียวกันแท้ๆ ;)
     
  13. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    เห็นด้วยกับน้องเฟมและน้องกฤษณ์ครับ ในมโนมยิทธินั้นเวลาเบื้องบนท่านสั่งสอนธรรมะเราจะเข้าใจได้ง่ายและแนบสนิท แต่พอในเวลาปกติที่เราใช้ชีวิตประจำวันแล้วเราจะเข้าใจแค่ 1 ใน 3 เท่านั้น เข้าใจว่าด้วยสภาพแวดล้อมและกายหยาบทำให้เป็บแบบนั้นน่ะครับ

    วันนี้จะมาฝอยเรื่องเวลาและมิติก็แล้วกันนะครับ พี่ๆน้องๆญาติธรรมคงจะเคยศึกษาและได้ยินเกี่ยวกับเรื่องมิติ 31 ภพภูมิที่มีในพระไตรปิฎกแล้ว

    ในจำนวนทั้งหมด 31 ภพภูมินั้น ตาเนื้อของคนเรานั้นสามารถมองเห็นได้เพียง 2 ภพ คือภพภูมิมนุษย์กับภพภูมิเดรัจฉานแต่ระยะเวลาในสองภพภูมิก็ยังไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น 7 ปีของคนเราเท่ากับ 1 ปีสุนัข ถ้าสุนัขตายตอนอายุ 12 ปี ความรู้สึกของมันก็ยาวนานพอๆกับคนที่เสียชีวิตตอนอายุ 84 ปี และตาของสุนัขก็ไม่สามารถเห็นแสงสีต่างๆที่งดงามเหมือนกับที่คนเรามองเห็น แม้จะอยู่ในมิติที่ความเร็วแสงเท่ากัน แต่กายหยาบตอบสนองต่อแสงไม่เหมือนและไม่เท่ากัน

    [​IMG]

    ปัจจุบันจากการคำนวณเพื่อให้สอดคล้องกับทฤษฏีใหม่ๆ นักวิทยาศาสตร์แห่งสถาบัน CERN (The European Organization for Nuclear Research) คือองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศในทวีปยุโรป 12 ประเทศ เพื่อวิจัยและพัฒนาทางด้านนิวเคลียร์ที่สร้างห้องทดลองใต้ดินเพื่อทดลองเครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่ (Large Hadron Collider : LHC)ถูกสร้างขึ้นเพื่อยิงอนุภาค 2 ลำ ให้ชนกันด้วยความเร็วเข้าใกล้แสง อนุภาคที่ว่าคือ อนุภาคของโปรตรอน 2 ทิศทาง เพื่อวิเคราะห์ผลที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการจำลองเหตุการณ์ "บิ๊กแบง (Big Bang)" หรือเรียกอย่างง่ายๆว่ายิงประจุเพื่อหาอนุภาคของพระเจ้าหรือฮิกส์นั้นเอง (ในความเห็นของผมนั้นยังไม่รู้เลยว่าผลการทดลองจากเครื่องยิงอนุภาคนั้นจะส่งผลกระทบต่อโลกมากน้อยเพียงใด เพราะผืนแผ่นดินเปลือกโลกนั้นลอยอยู่บนน้ำ น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ซึ่งในปัจจุบันมีการขุดเจาะเอาน้ำมันและก๊าซขึ้นมาใช้กันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน แต่สงกะสัยตอนนั้นผมและพี่ๆน้องๆญาติธรรมคงจะย้ายบ้านกันไปแล้วละครับ)

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]-->
    [FONT=&quot]ภาพจำลองแสดงภาพตัดขวางของห้อง[/FONT] [FONT=&quot]ปฏิบัติการสำหรับเครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซี
    [/FONT]
    [​IMG]

    [FONT=&quot]โดยตำแหน่งของท่อที่ขดเป็นวงยาว[/FONT] 27 [FONT=&quot]กิโลเมตรนี้อยู่ลึกลงไปใต้ประเทศฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ [/FONT]100 [FONT=&quot]เมตร[/FONT]
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
    [​IMG]

    และ MIT (Mawwachusetts Institute of Technology) สถาบันเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐอเมริกา เด่นในเรื่องงานวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์ ผู้ที่จบจากสถาบันนี้ได้รับรางวัลโนเบล ถึง 63 คน

    ทั้งสองสถาบันพบว่าเฉพาะจักรวาลนี้ยังมีได้ถึง 26 มิติ ซึ่งแค่มิติที่ 3 และ 4 มนุษย์โลกยังงงกันมาเป็นร้อยปี คงไม่ต้องนึกถึงการอธิบายมิติที่สูงกว่านี้ ที่ซับซ้อนเกินกว่าความเข้าใจ

    แสงมีความเร็วประมาณ 300,000 กม./วินาที ไม่มีสิ่งใดๆในจักรวาลสามารถทำความเร็วเท่ากับแสงได้ เพราะเวลาจะหยุด แสงซึ่งเปรียบเสมือนตัวคุมจักรวาลจึงไม่ยอมให้สิ่งใดๆทำความเร็วเกินกว่าตัวมัน และเครื่องมือสำคัญที่แสงใช้สำหรับการควมคุมความเร็วก็คือ
    “เวลา”(Time)

    ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ปรากฏในพระไตรปิฎกนั้นก็คือ เวลา ซึ่งเวลาในแต่ละภพภูมินั้นไม่เท่ากัน ถ้าเราจะอุปมาเปรียบเทียบให้เห็นชัดๆด้วยหลักการทางฟิสิกซ์ นั้นก็คือ ถ้าเรานำนาฬิกาที่เที่ยงตรงที่สุดไปตั้งไว้บนดวงจันทร์ 1 เรือน ดาวอังคาร 1 เรือน และบนโลก 1 เรือน หลังจากนั้น 1 ปีนำนาฬิกามาเทียบกัน จะพบว่าเวลาเดินไม่เท่ากัน ซึ่งนาฬิกาบนดวงจันทร์เดินเร็วที่สุด ดาวอังคารรองลงมา และนาฬิกาบนโลกจะเดินช้าที่สุด เพราะโลกมีมวลสูง ซึ่งเหตุการณ์นี้อธิบายได้ด้วยเหตุผลที่ว่าเมื่อใดที่แสงต้องเดินทางอ้อม มันจะไปดึงเวลาให้ช้าลงเพื่อที่ว่าความเร็วของมันจะได้เท่าเดิม หรือเรียกง่ายๆว่าเกิดปรากฏการณ์ยืดหดของระยะทางและเวลา แต่น้อยมากจนสังเกตไม่เห็น

    แม้แต่การชี้ตำแหน่งบนโลกจากดาวเทียม (GPS) หรือเรียกสั้นๆว่าพิกัดดาวเทียมนั้นต้องนำเวลาที่เดินเร็ว ช้า ไม่เท่ากันระหว่างพื้นโลกกับบนดาวเทียมมาคำนวณด้วย ไม่เช่นนั้นตำแหน่งที่ได้จะคลาดเคลื่อนไปจากความจริงมาก



    (ไอ้ที่เอามาฝอยข้างบนน่ะ ผมเอามายำรวมกันนะครับ ผมก็ไม่ได้เก่งขนาดจะเข้าใจทั้งหมดหรอก แต่ถ้าจะเอาวิทยาศาสตร์มาอุปมาและอธิบายเพื่อให้เห็นภาพนั้น
    พอจะได้เล็กน้อยครับ เพราะพุทธศาสนาและเรื่องของจิตนั้นลึกซึ้งเกินกว่าที่จะใช้ภาษาอธิบายได้หมด)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2014
  14. พีรวิชช์

    พีรวิชช์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +218
    ขออนุญาตครับ ไม่ทราบว่าผมจะติดต่อหลวงพ่อวิชัยได้อยู่หรือปล่าวครับ คือผมอยากจะฝึกนะครับแต่บังเอิญผมอยู่ไกล(จังหวัดน่าน)จึงอยากจะโทรไปกราบนมัสการประสานงานกับหลวงพ่อท่านไว้เป็นเบื้องก่อนว่าหลวงพ่อท่านว่างในช่วงไหนนะครับ(ผมบันทึกเบอร์โทรที่ท่านแจ้งไว้ในกระทู้นี้แล้วนะครับ)
     
  15. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    อนุโมทนากับคุณพีรวิชช์ครับ สามารถติดต่อหลวงพ่อท่านได้เลยครับ แต่ถ้าท่านติดกิจอะไรอยู่ก็จะอาจไม่ได้รับโทรศัพท์ครับ
     
  16. พีรวิชช์

    พีรวิชช์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +218
    ขอบพระคุณมากครับ
     
  17. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    -๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๗-​


    วันนี้เจริญพระกรรมฐานตามปกติ พอจิตเริ่มเป็นสมาธิก็เคลื่อนจิตขึ้นไปกราบพระบนพระจุฬามณีเจดีย์สถาน จากนั้นจึงไปหาท่านปู่ท่านย่าที่บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์กราบท่านทั้งสองเพื่อของพรจากท่าน และ ได้ขอบารมีพระขึ้นไปกราบสมเด็จองค์ปฐมที่วิมานของท่าน ท่านอยู่ในรูปกายของมนุษย์ที่มีความงดงามมาก กราบท่านและได้ถวายมาลัยแก้วแด่ท่าน และทูลถามท่านในเรื่องที่พี่เก่งฝากผมถาม ท่านทรงยิ้มและตอบกลับมาว่า "ถูกแล้ว..เขาเข้าใจถูกต้องแล้ว ยังมีคนอีกมากที่ยังไม่รู้จักเรา อาจจะทำให้เกิดการปรามาสพระรัตนตรัยได้โดยไม่รู้ตัวหากรูปแทนอยู่ในมือของผู้ที่ไม่รู้จักเรา ให้เขาเก็บรักษาไว้ดีๆดีแล้ว" หลังจากนั้นจึงขอพรจากท่านและกราบลาท่านไปที่วิมานของตัวผมเอง และกลับลงมา
     
  18. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    อนุโมทนาและขอบคุณมากครับน้องกฤษณ์ ได้รับฟังแล้วปลื้มปิติมากๆ พวกเราถือว่ามีวาสนาในกันและกัน มีอะไรทีี่ได้รู้ได้เห็นมาแล้วสอบทานเรื่องมโนมยิทธิกันได้เพื่อความถูกต้องเป็นสิ่งที่ดี เดี๋ยววันจันทร์หรืออังคารนี้พี่ส่งสมเด็จองค์ปฐมให้นะครับ
     
  19. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112

    คร้าลผมพี่เก่ง ถ้าจะให้ดีให้แฟนพี่สอบทานดูอีกทีก็ดีนะครับ เพื่อความแน่ใจ :cool:

    อนุโมทนาคร้าบบ
     
  20. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    -๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๗-​


    วันนี้ได้ขึ้นไปกราบพระจุฬามณีเจดีย์สถานและได้ขึ้นไปกราบสมเด็จองค์ปัจจุบันบนวิมานของท่านที่พระนิพพาน (ตอนแรกเห็นท่านในรูปกายแบบพระวิสุทธิเทพ ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นกายพระสงฆ์คงจะเป็นเพราะว่าวันนี้ได้จับภาพพระวิสุทธิเทพแก้วใสกระมัง) และได้ทูลถามท่านเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธานุภาพของพระคาถามงุกุฎพระพุทธเจ้าท่านก็ทรงยิ้มและมีพระพุทธฎีกาตรัสตอบกลับมาว่า "คาถามงกุฎพระพุทธเจ้านี้ดีมาก เวลาสวดพระพุทธานุภาพจะปกคลุมอทิสมานกายของเธอและเทพพรหมเทวดาทั้งหลายจะคุ้มครองเธอ" จากนั้นผมจึงขอพรจากท่านและกราบถวายมาลัยแก้วแด่ท่านเพื่อเป็นพุทธบูชา แล้วจึงกลับลงมา พอกลับลงมาแล้วก็มีข้อสงสัยในสิ่งที่เห็นเล็กน้อยว่า เอ...สิ่งที่เราเห็นนั้นมันเป็นเรื่องจริงไหม ผมจึุงเลยลองค้นหาข้อมูลจากในอินเทอร์เน็ตดูปรากฎว่าสิ่งที่พบนั้นเป็นค่อนข้างตรงกับสิ่งที่ผมได้รับรู้มาเสียด้วย นี่จึงเป็นการพิสูจน์ถึงสิ่งที่ผมเห็นในวันนี้ครับ :cool:

    ปล.ผมแปะลิงค์ไว้ให้นะค้าบ เผื่อใครสนใจจะได้เข้าไปดูกัน http://www.oknation.net/blog/Kananun/2009/04/28/entry-1
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2014

แชร์หน้านี้

Loading...