ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ทุกข์ของนางแก้ว..

ขออนุโมทนาบุญกับน้องธรรมวิวัฒน์ด้วยค่ะ

เรื่องของการบำเพ็ญเป็นคู่บารมีพระโพธิสัตว์นั้น ส่วนใหญ่จะเข้าใจว่า มีความสำคัญในแง่การถูกบริจาคภรรยาเป็นมหาทานบารมี

แท้จริงมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ถูกทดสอบกำลังใจครั้งแล้วครั้งเล่า โดยเฉพาะเรื่องของความศรัทธาในตัวพระโพธิสัตว์ จะถูกทดสอบเป็นด่านสุดท้าย นอกเหนือจากเรื่องของความรัก

พี่เคยพบผู้ปรารถนาพุทธภูมิมาหลายท่าน ก็มีแต่คนบอกว่า พี่เคยเป็นนางแก้วของเขาเหล่านั้น (3-4 ท่าน)

ตอนนั้นฝึกมโนมยิทธิยังอ่อนหัดมาก และไม่รู้เรื่องนางแก้วมากนัก แถมยังระลึกชาติ เพียงบางชาติได้ตรงกัน แต่ถึงแม้จะเคยเป็นคู่กันความรู้สึกก็ยังไม่ได้ผูกพันธ์มากนัก
ที่สำคัญพี่เกาะศีลแน่นมาก เพราะว่า บางท่านมีภรรยาแล้ว แต่ยังมีท่าทีที่ไม่น่าไว้ใจ

บางหมู่คณะ พี่ยอมเสียสัจจะที่จะช่วยงานพระศาสนาไป หรือกิจการนั้น ๆ ให้สำเร็จ เมื่อเห็นท่าไม่ดี และใช้อธิษฐานบารมีกำกับ ขอให้เป็นผู้รักษาศีลบริสุทธิ์

พี่ถือคติว่า ยอมตายดีกว่ายอมผิดศีล ถ้าเริ่มมาล้ำเส้น ก็ตะเตือนกันตรง ๆ แบบแมน ๆ อิอิ..เป็นพี่ เป็นน้องกันได้ ร่วมงานในพระศาสนาได้ แต่จะไม่ยอมผิดศีลเด็ดขาด ตอนนั้นพยายามระลึกถึงการบำเพ็ญเนกขัมมบารมี

พอปฏิบัติมโนมยิทธิพัฒนาจิตขึ้น กายในมีความใสมากขึ้น ที่นี้เราสามารถจะเห็นกายของแต่ละท่านว่า อยู่ในบารมีระดับใด ตอนนั้นยังไม่รู้จักการปิดจิตของตัวเอง ปรากฏไปพบผู้ที่ปฏิบัติขั้นสูงกว่า เห็นกายในของพี่ จากเป็นพี่เป็นน้องก็เริ่มออกลาย "กายในคุณสวยมากนะครับ ทำบุญอะไรมาถึงสวยอย่างนี้"

ฟังแล้วก็รู้สึกตกใจ คิดว่า "ถ้าเป็นคนในทางโลก ไม่เท่าไร แต่เป็นคนในสายธรรมรู้ทั้งรู้กลับไม่สำรวมกาย วาจา ใจ"
จึงเลิกปรึกษาพูดคุย

พอนานไปก็เริ่มเห็นลายของผู้ปรารถนาพุทธภูมิเหล่านั้น พี่ก็เริ่มตั้งจิตอธิษฐานขอลาจากการเป็นนางแก้วของท่านเหล่านั้นไปทีละคน

ความทุกข์ของความเป็นสตรี มันเกิดจากตรงนี้ นอกเหนือจากความทุกข์ ๕ อย่างของสตรีแล้ว ชาตินี้ คงเป็นวิบากกรรมที่พี่จะต้องพบปัญหาเรื่องรัก ๆ ตั้งแต่ป.๔ แต่พี่ไม่เคยสนใจ คิดมุ่งจะประพฤติพรหมจรรย์ แต่สุดท้ายเลี่ยงวิบากกรรมเรื่องความรักไม่พ้น

ทำให้เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายปรารถนาจะเข้าพระนิพพาน พี่จึงเร่งฝึกตนแบบอุกฤษณ์ ประเภทบ้าฝึกวิชา มโนมยิทธิก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นพี่ตั้งใจถือศีล ๘ อย่างจริงจัง

หลวงปู่ปาน ท่านมาเตือนว่า "ลูกเอย ไม่ต้องถือนานเกิน ๑๐ วันนะ เอาเป็นว่า ถือ 3 วัน 5 วัน ค่อยเข้าใหม่ ทำอย่างนี้ อย่าถือยาวเกินไป เดี๋ยวพระโพธิสัตว์ ท่านจะเสียกำลังใจ"

ตอนนั้นก็รู้สึกว่าแปลกใจมาก ปกติครูบาอาจารย์ทั่วไปย่อมยินดีที่ศิษย์ประพฤติพรหมจรรย์ แต่หลวงปู่กลับบอกแบบนี้ แต่ด้วยความที่พี่เชื่อฟังจึงทำตามท่านทุกอย่าง กลายเป๋นเข้า ๆ ออก ๆ ในการรักษาอุโบสถศีล ปัจจุบันท่านให้รักษาเพียงวันพระ

หลังจากเรียนวิชาจากหลวงปู่ปานแล้ว ก็เรียนวิชาจากสมเด็จองค์ปัจจุบัน ทรงไว้ตอนหนึ่งว่า...

"ในชาตินี้การปฏิบัติของเธอจะทรงอารมณ์สูงสุดที่พระสกิทาคามีผล จะไม่สูงกว่านี้ เพราะเธอต้องมีหน้าที่ทางโลก และการประคองกำลังใจพระโพธิสัตว์"

เวลานั้นรู้สึกว่า" เอ..เราลาจากนางแก้วทุกตำแหน่งแล้วจะมีพระโพธิสัตว์ที่ไหนมาอีก ที่อยู่รอบตัว ไม่รู้สึกอยากจะร่วมสร้างบารมีกับใครเลย ไม่เป็นไร เราจะอธิษฐานปรารถนาพุทธภูมิให้หนักแน่น จะได้เกิดเป็นผู้ชายเรื่องนางแก้วอาจจะอุปทานไปเองก็ได้"

จากนั้นพี่ก็เร่งบุญทุกบุญอธิษฐานขอเกิดเป็นชาย ขอบวชมนพระศาสนา เกิดมาแล้วให้เป็นผู้มีปัญญาระลึกชาติได้ และสร้างบารมีต่อไป เรียกว่า เก็บบุญทุกเม็ด

ต่อมาสมเด็จองค์ปัจจุบันได้พาไปกราบสมเด็จองค์ปฐม ท่านสอนหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่อง การเข้าสมาบัติในมโนมยิทธิ

หลังจากนั้น พระพุทธองค์สั่งให้ไปกรายสมเด็จองค์ปฐมที่พระนิพพานก่อนจะไปภพภูมิอื่นทุกครั้ง จนวันหนึ่งทรงตรัสอย่างจริงจังว่า...

"ลูกเอ๋ย กำลังบารมีการปรารถนางแก้วของลูกมีความเข้มข้นกว่า พุทธภูมิมากนัก ปรารถนาพุทธภูมิยังอีกนาน ถึงอม้จะปรารถนาแแบบปัญญาธิกะก็ตาม

ลูกได้บำเพ็ญบารมีนางแก้วมา และได้รับพยากรณ์แล้วกว่า ๑๔ อสงไขย หากนับรวมกับการปรารถนาพุทธภูมินั้น ก็ครบ ๑๖ อสงไขย กำไรเกือยแสนมหากัป จงละความปรารถนาพุทธภูมิเสียเถิดลูก

มีพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งที่ใกล้จะสำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญา
น หากปราศจากนางแก้วแล้ว ท่านก็ไม่สามารถสำเร็จได้ และอย่าคิดหนีเข้าพระนิพพาน"

เมื่อสิ้นพระสุรเสียง ตอนนั้นถึงกับน้ำตาร่วง เราไม่ปรารถนาเป็นหญิงอีกแล้ว ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายที่จะเป็นหญิง ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ จึงกราบสมเด็จองค์ปฐมออกจากสมาธิทันที

จากนั้นเมื่อขึ้นไปกราบสมเด็จองค์ปฐม พระพุทธองค์ทรงเตือนเรื่องนี้ เป็นเหตุให้หยุดใช่มโนมยิทธินานเกือบเดือน (ยังมีมิจฉาทิฐิอยู่) จนกระทั่งท้าวสักกเทวราชให้เทวดามาตาม เป็นเหตุให้ลาพุทธภูมิ ดังที่เคยเล่ามาแล้วค่ะ

จนกระทั่งปี ๒๕๕๓ ได้ดวงแก้วคู่บารมีมา คือ " แก้วศุภมงคล-จงกลมณีกานต์"

การปฏิบัติดีขึ้นแบบกระโดด ได้เรียนรู้เรื่องการบำเพ็ญบารมีจากประวัติดวงแก้ว ได้พบสายบุญที่เกื้อกูลกันดังเช่นปัจจุบัน และเริ่มเข้าใจสิ่งที่หลวงปู่ปานเคยกล่าวไว้เรื่องการรักษาศีล

หลังจากผ่านการทดสอบมากมายหลาย จนฝึกการทรงอารมณ์พระอริยเจ้าไว้ได้ตามที่สมเด็จองค์ปัจจุบันตรัสไว้ทุกประการ ทำให้มีความมั่นคงในพระรัตนตรัยไม่คลอนแคลน

แต่มาพบบททดสอบมหาโหดเกี่ยวกับความมั่นคงในความศรัทธาในตัวของพระโพธิสัตว์ ซึ่งยากกว่ามาก เนื่องจากเป็นเรื่องของการเรียนรู้แห่งจิต และความประพฤติ ตอนนี้ยังไม่ผ่านการทดสอบค่ะ

สิ่งที่ท่านมุจลินทร์เทวบุตรได้กล่าวเตือนนั้น ท่านสอนพี่โดยตรง เห็นว่า อาจจะมีประโยชน์ต่อท่านผู้ยังต้องเดินทางไม่มากก็น้อย จึงนำมาให้อ่านกันค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับน้องธรรมวิวัฒน์ด้วยค่ะ

Numsai

 

สวัสดีค่ะ พี่น้ำใสและญาติธรรมทุกท่าน

diya กับพี่พัชรี เลิศคงคาทิพย์ ร่วมบุญภัตตาหารและโรงทานก๋วยเตี๋ยว วัดดอนธาตุ จ.อุดรธานี
โอนปัจจัยเข้าบัญชี ธ.กรุงเทพ เลขที่ ๒๑๔๔๐๖๔๕๘๗ วันนี้ เวลา ๑๒:๕๓ น. จำนวน ๕๐๖ บาท

ขอน้อมจิตอนุโมทนาบุญกับพี่น้องทุกท่านทั้งหมดทั้งมวลค่ะ สาธุ

 

ขออนุญาตอัพเดตการประมูลดวงแก้วมุจลินทรราชันย์-อัปสรสวรรค์มนตรา

​

ขออนุโมทนาบุญกับคุณNamfonBaanfa คุณNumsai​

และผู้ร่วมประมูลทุกท่านในครั้งนี้ด้วยครับ​

สาธุ สาธุ สาธุ ​

 

โอนเงินร่วมบุญบูชาดวงแก้วเข้าธนาคารไทยพาณิชย์ แล้วครับ
จำนวน 1000 บาท วันที่ 30/04/57 เวลา 17.58น.
ส่วนที่เกินไป แล้วแต่พี่นำใสจะเห็นควรครับ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ
เพิ่มเติมครับ และขอร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหาร และโรงทานก๋วยเตี๋ยว ๑๕ วัน จำนวน 500 บาท

 

เรียน ท่านที่บูชาดวงแก้วพระปัจเจกพุทธเจ้า ชุด ๑๑-๑๓

ต้องกราบจออภัยทุกท่าน เป็นอย่างยิ่งค่ะ เนื่องจากการจัดส่งดวงแก้วจากภูพานมาถึงล่าช้า และพรุ่งนี้เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ จึงขออนุญาตจัดส่งดวงแก้วทุกดวงในวันที่ ๒ พค.๕๗ ค่ะ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และขออภัยทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ Giant 1 ที่ช่วยสรุปข้อมูลการประมูลครั้งนี้ค่ะ

Numsai

 

อนุโมทนากับเจ้าของดวงแก้วทุกท่านครับ
ตั้งใจรอดวงแก้วชุดที่ ๑๔ ต่อไปครับ
สาธุ __/\__

 

สาธุ สาธุ ขอขอบคุณคุณพี่น้ำใสมาก ๆ ครับ
และขออนูโมทนาทุกบุญครับ

 

ขออนุญาติครับแจ้งการโอนเงินร่วมบุญครับ

ร่วมบุญสัปปทนเพิ่มจำนวน 400 บาท โอนเงินแล้ววันนี้ครับ
เวลาในช่วง เที่ยงครับ คุณสถิต 50 คุณปรานอม อินทศักดิ์ 100 คุณ นฤพร ธรรมธรสิริ 100 คุณชุติการญจน์ ลาภเจริญ 100 อีก 50 ผมทำเพิ่มครับ

รบกวนฝากแจ้งคุณพี่อริย์ธัธ์ ด้วยครับ
สาธุ สาธุ

 

ร่วมบุญกองบุญสมเด็จพระพุทธวิปัสสีฯ ครับ จำนวน 470 บาท
โอนแล้ววันนี้ครับ เวลา 12.42.14 น. ครับ
คุณชุติกาญจน์ ลาภเจริญ 300 คุณจินตนา สีสง่าและครอบครัว 50 คุณมิตรธิรา อึ้งตระกูล 20 ส่วนอีก 100 ผมครับ
สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาครับ
catt4catt4catt4

 

ร่วมบุญโรงทาน วัดดอนธาตุ จ.อุดรธานีครับ จำนวน 1,800 บาท
โอนเงินแล้ววันนี้ครับ เวลา ช่วงเที่ยงครับ ในบัญชีเลขที่ 214-4-06458-7 ครับ
1. หลวงพี่กับผม 200 6. คุณปัทมพันธ์-สมศักดิ์ สิทธิบุญเรือง 100
2. พระจ๋อย จันทโชโต 20 7. คุณประสิทธิ์-พิมพ์วลัญช์ สุริยา 100
3. พระจากเวียดนาม 2 รูป 40 8. คุณมิตรธิรา อึ้งตระกูล 40
4. คุณธวัชชัย เจริญรัตนไพฑูรย์ 100 9. คุณสถิต 50
5.คุณแม่นภา สมติ๊บ และครอบครัว 40 10. คุณยายวนิดา (ไล)เล็กสุวรรณ 20
11.คุณสุฎาวัลย์ สิงห์คราช คุณพงษ์พันธ์ ไชยมงคล คุณธนพล อุตสาคต 100
12.คุณอาโก 10 คุณปื้อ 50 คุณนรินทร์ เหรียญธารี 20 คุณอุษณีย์ แก้วคำมูล 40
13.คุณอรุณ คำตั๋น(ณ บรรพต) 50
14.คุณระพีพรรณ ปิงมูลทา 120 15. คุณจินตนา สีสง่า+ครอบครัว 50
16.คุณชุติกาญจน์ ลาภเจริญ 200 17. คุณปรานอม อินทศักดิ์ 100
18. คุณนฟพร ธรรมธรสิริ 100
ขออภัยถ้ารายชื่อตกหล่นครับ

:z2:z2:z2

ขอขอบคุณและอนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ และทุกท่านครับ

 

ขออนุญาตค่ะ ขอแอบนอกเรื่อง...
แว่บเข้ามาอนุโมทนาบุญกับทุกท่าน เห็นโพสต์คุณ Prar ตัวการ์ตูนน่ารักสนุกสนานสดใสทำให้อดอมยิ้มไม่ได้ค่ะ (smile)
ขอร่วมยินดีในบุญกุศลของคุณ Prar ด้วยนะคะ ดีจังเลยค่ะเป็นสะพานบุญอีกต่อให้ญาติธรรมมาร่วมบุญกันเยอะๆเลย

ขออนุโมทนาบุญของทุกท่านด้วยค่ะ สาธุ

 

วิธีแยกจิตออกจากกายทำได้อย่างไร

ถาม : วิธีแยกจิตออกจากกายทำอย่างไร ?

ตอบ :
ท่านที่สามารถแยกจิตออกจากกายได้เด็ดขาดคือ ไม่ติดใจ ไม่มีเยื่อใยในกายอีกต่อไป ถือว่าจิตกับกายเป็นคนละส่วนกัน คือ พระอรหันต์ จิตของพระอรหันต์เป็นจิตที่มีประกายพรึกงดงาม แสงสว่างสดใส ไม่มีกิเลสพัวพันอีก

ท่านที่แยกจิตออกจากกายได้ 75 % คือ พระอนาคามี อีก 25 % ยังติดในรูปฌานและอรูปฌาน มานะ ถือตัว จิตฟุ้งซ่านในฝ่ายกุศลนอกเรื่องจากอรูปฌาน มานะ ถือตัว จิตฟุ้งซ่านในฝ่ายกุศลนอกเรื่องจากพระนิพพาน มีอวิชชา เล็กน้อย คิดว่าได้คุณธรรมแค่พระอนาคามีก็พอแล้ว อย่างไร ๆ ก็ได้ ไปเกิดชั้นสุทธาวาสเป็นพรหมสบาย ๆ อยู่แล้ว ค่อยไปปฏิบัติต่อที่พรหมเพื่อไปพระนิพพานต่อก็ได้

จิตที่ไม่ติดใจในกายได้ 50 % คือ จิตของพระสกิทาคามี ยังมีกามฉันทะ ปฏิฆะ ความโกรธไม่พอใจเล็กน้อย มีความเห็นตรงตามคำสอนพระพุทธองค์ มีศีล 5 ครบ มีกรรมบถ 10 ครบถ้วน ไม่พูดเพ้อเจ้อ หยาบคาย เหลวไหล

ท่านที่แยกจิตออกจากกายได้ 25 % คือ พระโสดาบัน ท่านเอาจิตไปพิจารณาว่ากายต้องตายเพราะกายเป็นธาตุ 4 เป็นของโลก จิตเป็นของละเอียด เป็นนามธรรมมาอาศัยกายซึ่งเป็นรังที่แสนสกปรกรกรุงรัง จิตต้องมีภาระดูแลทำความสะอาดทุกวันเหม็นเน่าสาบสางทุกวัน มีแต่โรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียนเป็นทุกข์เป็นโทษ กายเป็นที่อาศัยของจิตชั่วคราว สติพิจารณาตัวตนไว้ว่าตัวเราคือจิต กายทำอะไรให้จิต จิตทำอะไรให้กาย เป็นการพิจารณาที่ตัดสักกายทิฏฐิให้เห็นว่า กายกับจิตเป็นคนละส่วนกัน

ท่านที่แยกจิตออกจากกาย ความจริงจิตก็ยังอยู่อยู่ในกายนั่นแหละยังไม่ตาย แต่จิตไม่รักหวงแหนหลงใหลว่ากายเป็นของจริงเหมือนอย่างสมัยปุถุชน

เราท่านที่ยังไม่ได้เป็นพระอริยบุคคลก็หัดแยกจิตออกจากกายตามวิธีที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ดังนี้

1. พิจารณาร่างกายเป็นธาตุ 4 ขันธ์ 5 (รูป-นาม) ไม่ใช่ตัวตนของเรา เราจริง ๆ คือ จิตหรือ อทิสมานกาย กายในที่เป็นนาม มองไม่เห็นแต่เป็นผู้รู้คิดผู้มีสติปัญญา ไม่หลงในกายที่มีแต่สิ่งสกปรก มีแต่ทุกข์ คือ หิวเหนื่อยร้อนหนาวปวดทุกวัน เมื่อกายตายจิตไม่ตายตามกาย

2. หัดแยกจิตออกจากกาย คือ หัดทำสมาธิ ด้วยอานาปานุสสติ กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกอยู่เสมอ มีพุท-โธ สัมมาอรหัง นะมะพะธะ นะโมพุทธายะ ประจำลมหายใจ จิตสะอาดด้วย พุทธานุสสติกรรมฐานและการกำหนดจิตตามลมหายใจเข้าหายใจออก จิตก็ไม่หลงติดพัวพันในร่างกายคนที่เรารักอีกต่อไป จะมีปัญญารู้ว่าไม่น่าติดใจหลงใหลใฝ่ฝันในกายเรากายเขาเพราะสกปรก ตายทุกคน ถ้าจิตเป็นฌาน 4 จิตจะมีพลังแก่กล้า ก็ช่วยให้แยกจิตออกจากกายได้เด็ดขาด ไม่มีความรู้สึกทรมานเป็นทุกข์เวทนาในเมื่อร่างกายเจ็บป่วยใกล้ตายไม่ต้องใช้ยาระงับปวด เป็นประโยชน์ในการตายอย่างสงบสุข แต่ต้องฝึกเข้าฌานตอนที่ร่างกายดีแข็งแรงจึงจะได้ผล ถ้าฝึกสมาธิตอนป่วยจิตจะไม่สงบฟุ้งซ่าน ไม่เป็นสมาธิ

3. หัดแยกจิตโดยฝึกหัด มโนมยิทธิ ตามที่หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง อุทัยธานี สอนไว้ ให้ยกจิตหรืออทิสมานกาย ออกจากกายเนื้อที่เป็นกายจอมปลอมไปกราบองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระนิพพานทุกวันวันละ 5 นาที ทำบ่อย ๆ จิตจะชินเมื่อใกล้ตายจะไปพระนิพพานได้ง่าย เพราะ จิตเป็นผู้ไป ตั้งใจไปไหนตายแล้วจิตจะไปที่นั่น แม้มีกิเลสวุ่นวายมากมาย แม้ก่อนตาย กายจะเจ็บปวดทรมาน จิตไม่สนใจในความอยากโกรธ ไม่เกลียด ไม่หลงในกายเห็นกายเป็นทุกข์โทษทรมานเป็นวิปัสสนาญาณ จิตกำหนดพระนิพพานไว้ทุกวัน จะเป็นพลังความดีที่ช่วยให้เข้าถึงพระนิพพานได้ง่าย ถ้านึกถึงพระพุทธองค์ทุกวัน พระพุทธเจ้าท่านเมตตาคน สัตว์อยู่แล้ว พระองค์ก็เปล่งฉัพพรรณรังสีมาให้ผู้ที่นึกถึงพระองค์ได้เห็นพระรูปพระโฉมที่งดงามเป็นทิพย์ของพระพุทธองค์ จิตของผู้ตายจะสดชื่นเบิกบานลืมความเจ็บปวดของกายหมด จิตสบายเป็นสุข ก็ติดตามพระพุทธองค์เข้าสู่พระนิพพาน ซึ่งเป็นทางลัดง่าย ๆ ที่จิตเราค่อย ๆ ทำไปให้มั่นใจ สักวันคงพ้นทุกข์แน่นอน

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

 

ร่วมบุญประมูลดวงแก้วมุจลินทรราชันย์-อัปสรสวรรค์มนตรา ๒๖,๑๐๐ บาท

 

ร่วมบุญประมูลดวงแก้วมุจลินทรราชันย์-อัปสรสวรรค์มนตรา
๒๖,๒๑๑ บาท
​

 

ขอร่วมบุญประมูลดวงแก้วมุจลินทรราชันย์-อัปสรสวรรค์มนตรา 26300 บาทครับ

 

-ขอร่วมบุญประมูลดวงแก้วมุจลินทรราชันย์-อัปสรสวรรค์มนตรา
26,500 บาท ครับ

 

ขอร่วมบุญประมูลดวงแก้วมุจลินทรราชันย์-อัปสรสวรรค์มนตรา 26700 บาทครับ

 

ขออนุญาตอัพเดตการประมูลดวงแก้วมุจลินทรราชันย์-อัปสรสวรรค์มนตรา

​

ขออนุโมทนาบุญกับคุณNamfonBaanfa คุณNumsai​

และผู้ร่วมประมูลทุกท่านในครั้งนี้ด้วยครับ​

สาธุ สาธุ สาธุ ​

 

ขอร่วมบุญประมูลดวงแก้วมุจลินทรราชันย์-อัปสรสวรรค์มนตรา 30,000บาทครับ