ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

รอด้วยคนครับคุณอา

 

รอติดตามตอนต่อไปครับอา

ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับ พี่ Modpong และทุกท่านครับ
ได้รับความรู้มากครับ ประวัติศาสตร์และพระกรุโบราณ ผมชอบมากครับ วิชาการรบและคาถาสมัยก่อน ของอยุธยาสำนักดาบพุทไธสวรรค์ ก่อนเสียกรุงครั้งที่ 2 ผมขอติดตามครับ
ขอบพระคุณครับ
ฮักแพง

 

..............
..หวัดดี..หลานbear..หลานสวนพลู..หลานเขม..และ..ฮักแพง..
รวมถึงทุกคนในครอบครัวผม...
................................
...ต่อจากตอนที่แล้ว.........
............................
................................................................
...เรื่องนี้..ขอบอกว่า..ไม่ได้เจตนา..จะโปรโมทตัวเอง..เพราะนั่นไม่ใช่คนอย่างผม
..เพียงแต่..ข้อความในเน็ต..นะ..หลายคนไม่คิดอะไร..เชื่อง่าย..และก็จำเอาไปประดับ
สมอง..ถ้ามันง่ายอย่างงั้น..ป่านนี้..เราคงสะสางเรื่องราวในอดีต..หรือ..ประวัติศาสตร์
บางช่วงบางตอน..ได้หมดแล้วซิ..แต่มันไม่ใช่อย่างงั้น.....
...เวลาที่..บางคนเขียนคำว่า..."...คาดว่า.."..หรือ..."..คิดว่า.."..หรือ.."..เชื่อว่า.."
ส่วนใหญ่เวลาตอนจำ.....คำพวกนี้...มันจะหายไป....จากความทรงจำผู้ที่อ่านคำเหล่านี้...
...กลายเป็น.....ตรงตามความที่ผู้เขียน..อธิบาย..ไปจริงๆ.....
..............ผมเอง..เวลาเขียนบทความ..การวิเคราะห์ต่างๆ..ก็กลัวเช่นกัน..ว่าคนอ่าน..บทความ
ผม..จะเป็นอย่างนั้น...ยิ่งเวลาที่..พวกเราบางคน..ขอนำบทความ..ไปPOST..ต่อ..ยิ่งกลัว
....วิธีผ่อนคลาย..ก็คือ..ทำการบ้านให้รอบคอบ..เท่าที่จะเป็นไปได้..นั่นเอง..ไม่ละเลย..ราย
ละเอียดปลีกย่อย...
...ก็เลย..เป็นที่มาในการอธิบาย..และ..วิเคราะห์..ของผมตอนนี้..ผมจึงอยากให้หลายคน..ถ้า
ข้อมูลน้อย..ขึ้เกียจวิเคราะห์..ก็อย่าไป..เสนอแนวคิด..ซะดีกว่า....
.......................................................
....ก่อนอื่น..ดูประวัติวัดก่อน..วัดนี้สร้างตรงกับ..รัชสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒
กษัตริย์องค์ที่ ๑๐ ของกรุงศรีอยุธยา..พระองค์เป็น..โอรสของ..พระบรมไตรโลกนาถ..
ราชวงศ์สุวรรณภูมิ....ช่วงเวลาในยุคนั้น..ถ้าเป็นงานศิลปะ..ก็จัดเป็นช่วงยุคปลายของ..
ศิลปแบบอยุธยาตอนต้น..ซึ่งส่งอิทธิพล..ต่อเข้ามาสู่ยุคต้นของอยุธยาตอนกลาง....
....ความจริงแล้ว..คำว่า.."อินทร"..ที่หมายถึง..พระอินทร์นี้...เป็นชื่อ..เจ้านาย..เชื้อพระวงศ์
กัน..มา..เรื่อยๆ..หมายถึง..จะมีชื่อซ้ำกัน..ได้ในแต่ละยุค......
....แต่ในสมัย..สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ มีอยู่..องค์หนึ่ง..ที่นักประวัติศาสตร์คิดว่ามีจริง..
แต่..รายละเอียดน้อย..และ..สับสนพอควร..แต่ค่อยข้างยืนยัน..ได้ว่า..ท่านก็เป็น..โอรสของ..
พระบรมไตรโลกนาถ..เช่นกัน..และ..เป็นพี่น้อง..กับ..สมเด็จพระรามธิบดีที่ ๒ แต่คาดว่าน่าจะ
คนละแม่..ท่านชื่อว่า..........."พระอินทราชา".....คือ..ถ้าชื่อเรียกสั้นอย่างไทย..คนเรียกกันง่ายๆ..
..ก็น่าจะ..เป็นแค่.."อินทร"..เฉยๆ....และก็..มีความเป็นไปได้..ที่จะเป็น.."องค์อินทร"......
....................................
.กลับมาดู...เรื่องเกี่ยวกับ..วัดนี้ก่อน....มีข้อสังเกต..ให้เห็นที่มาของวัดนี้..ดังนี้..เอาที่แน่นอนก่อนคือ
.......๑. วัดนี้เป็นพระอารามหลวงมาตั้งแต่เดิม.....
.....เพราะอะไร...เราจึงทราบแน่นอน....
.....เพราะ....เสมา..ที่โบสถ์..ครับ.....
........พวกเราที่เป้นสมาชิกในครอบครัว..อาจไม่ได้อ่าน..กระทู้ของผม..ทุกกระทู้
...ซึ่งมีทั้งหมด..๓ กระทู้..ด้วยกัน..๑ในนั้นคือ.."หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง กับ หลวงพ่อจันทร์
วัดมฤคทายวัน..."...ผมเคยเขียน..เรื่องเกี่ยวกับ..การดูยุคของโบสถ์..จาก..เสมา..รวมถึง...
ลักษณะ..ชนิด..วัสดุที่ทำ..จะบอกอะไรให้เราทราบบ้าง..อย่างเคร่าๆ..แต่ไม่ได้บอกไปทั้งหมด
..ในกระทู้นั้น..มาแล้ว..ถ้าใครอยากทราบเพิ่มเติม..ก้ไปค้นหาอ่านเอา....
...แต่..เรื่อง..การบอกลักษณะการเป็นเสมา..ของพระอารามหลวง..สมัยกรุงศรีอยุธยา..นั้น
..ผมก้ได้บอก..ไปในนั้นด้วยว่า....
.......เสมา..ที่ตั้งคู่ซ้อนกัน..ในฐานเดียว..และ..เหมือนกัน..ทุกประการ..นั่นก็หมายถึง...ทำมา
พร้อมกัน..ในคราวเดียวกันนั้น..แสดงว่า..พระอารามแห่งนั้น...เป็นพระอารามหลวง..อยู่ใน
ความดูแล..และ..อุปถัมภ์..ของ..พระมหากษัตริย์......
..(..ให้สังเกต..ในรูป..ของตอนที่แล้ว..จะเห็น..เสมาประธาน..หน้าโบสถ์...เป็น..เสมาขนาดใหญ่
..ทำด้วย..หินชนวน..(แบบเดียว..กับในยุคของ..สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ)..๒ แผ่น..ซ้อนกัน
วางอยู่บนฐานเดียวกัน....)
..(..เพราะอะไร..ทำไม..แล้ว..ถ้าอยู่ในฐานเดียวกัน..แล้วไม่เหมือนกัน..สร้างคนละยุค..หมายถึง
อะไร..ก็..ไปหาอ่านเอาในนั้นได้..)...................
..........แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า..กษัตริย์..ต้องเป็นผู้ดำริห์สร้างเสมอไป..อาจเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
...เชื้อพระวงศ์ชั้นสูง..สร้างขึ้น..พร้อมกับขอ..กษัตริย์รับ..ไว้เป็นพระอารามหลวง..แต่แรก...
.....................................
....อ่านมาถึง...ตรงนี้..ผู้อ่านก็งงว่า..อ้าวก็ถูกแล้วไง..ก็..องค์อินทร..ก็เป็นเจ้า..แล้วสร้างวัดขึ้นมา
เป็นของตัวเอง..พร้อมกับไปขอให้เป็น..พระอารามหลวง..แล้วมันแปลกตรงไหน...ถ้าเหตุผล
แค่นี้..มันก็หมูไปหน่อย..หรือเรียกว่า..เหตุผลตื้นๆ..หรือ..หยาบไป..ตอนหน้า..ผมจะมาว่าต่อ..
...ว่า...ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น..เพราะ..

..............

...ภาพนี้..คนส่วนใหญ่จะไม่คุ้น..ต้องขอบคุณ คุณZORAKUN..เจ้าของภาพ..ที่ได้
ถ่ายไว้..ผมเลยทึกทักขออนุญาตเอามาให้ดูกัน..เพื่อให้เป็นวิทยาทาน....
.....เป็นภาพ..ของ..ด้านหลังพระอุโบสถ..ครับ..ตอนที่แล้ว..ได้เห็นด้านหน้าไป..
..แล้วเกือบร้อยทั้งร้อย..ไม่มีใครถ่ายหลังโบสถ์เลย....ที่มุขด้านหลัง..จะเห็นรูปจำลอง
ของพระประธาน..ติดตั้งไว้..และ..หันหน้าไปหา..แม่น้ำลพบุรี....
...ส่วนเจดีย์ที่เห็น..อยู่ในภาพนั้น..คนละยุคกัน..สร้างขึ้นภายหลังเยอะ..พวกเจดีย์แบบย่อมุม
มามีกัน..ในยุคกลางค่อนข้างปลาย..ถึง..ปลาย..และ..ต่อมาถึง..ต้นรัตนโกสินทร์...

.......................ต่อตอนหน้า..................

 

รอติดตามอนต่อไปครับ

 

สวัสดีครับคุณอา.เข้ามาติตามอ่านต่อครับ..

 

ขอขอบคุณคุณอาสำหรับข้อเขียนที่มีคุณค่าครับ มาติดตามอ่านตอนต่อไปครับ

 

ตามต่อเนื่องครับ ประวัติศาสตร์ มีคุณค่าในตัวเอง แต่คนไทยในยุคก่อน แค่ขาดการบันทึกเท่านั้นเอง หลายๆอย่างจึงลางเลือน ขอบพระคุณ คุณอาครับ

 

มาติดตามครับ เรื่องราวสำคัญในประวัติศาสตร์ของไทย

 

สวัสดีครับคุณอา..มาติดตามอ่านบทวิเคราะห์ตอนต่อไปครับ

 

.......................
..หวัดดี..หลานApril..หลานเดิน..หมูดำ..หลานสวนพลู..กำธรน้องรัก..
..และ..เฉียวฟงหลานรัก..รวมถึง..ทุกคนในครอบครัวผม..
......................
...ต่อจากตอนที่แล้ว...
....................
..................................................................
....ความเห็นของผม..ที่วิเคราะห์มาหลายด้านนั้น..วัดนี้..สร้างโดยพระมหากษัตริย์ครับ..
ก็คือ..สมเด็จพระรามาธบดีที่ ๒ ..โดยผู้รับผิดชอบ..ดูแล..การก่อสร้างคือ..องค์อินทร...
สาเหตุ..หรือ..เหตุผลในการวิเคราะห์..มีหลายประการที่..ทำให้ผมเชื่อว่าน่าจะ..เป็น..ของกษัตริย์
ก็คือ....
๑. ชื่อเดิมของวัดนี้..คือ..วัดพระเมรุชิการาม....ชื่อ..วัด..มาจาก..สามคำ..คือ..
....พระเมรุ..คือ..ที่เผาศพ..ของ..พรบรมวงศานุวงศ์..อาจหมายรวมไปถึง..กษัตริย์..ด้วย...
...ราชิก....หมายถึง....แห่ง ราชา(กษัตริย์)..หรือ..ของ ราชา(กษัตริย์)...ซึ่งคำนี้พบได้ในหลายที่เช่น
.....จาตุมหาราชิกา...ซึ่ง..แปลความว่า..ของ..หรือ..แห่ง..มหาราช..ทั้ง ๔ ..ชื่อของสวรรค์ชั้นที่๑
....ธรรมราชิกสถูป..ซึ่ง..แปลความว่า..สถูปของพระราชาผู้ทรงธรรม..สร้างโดยพระเจ้าอโศกฯ
....................
...ดังนั้น..จาก..๒ คำแรก..เน้นให้เห็นว่า...พระเมรุ..ที่จะตั้งที่นี่..เป็นพระเมรุของราชา..หรือ..ของ
กษัตริย์..นั่นเอง...
.....อาราม....ก็คือ...วัด..
....ความหมายรวมก็คือ..วัดที่เป็นที่..ตั้งพระเมรุของกษัตริย์....
....ซึ่งความเห็นผมว่า..แต่แรกเริ่ม..นั้น..ยังไม่มีการกำหนดที่ตั้ง..พระเมรุของกษัตริย์อยุธยา..เป็นการ
ถาวร..ก็จึงได้สร้างวัดนี้ขึ้น..ให้มีสถานที่กว้างขวางโดยเฉพาะด้านหน้า..เพื่อ..จะตั้งพระเมรุของ
กษัตริย์...
....ปัจจุบัน..ถ้าดูแผนที่..ภาพถ่ายทางอากาศ..สมันโบราณ..จะเห็นได้ว่า..ด้านหน้าของ..วัด..
จะไม่มีสิ่งปลูกสร้างอะไร..ที่เป็นถาวร..เป็นที่ว่างกว้างขวาง...ก็คงจะ..เป็นที่ตั้งพระเมรุของกษัตริย์
นั่นเอง...ต่อมา..หลังเสียกรุงแล้วปฎิสังขรณ์ใหม่..วัดเหลือที่น้อยลง..เขตพระเมรุ..ไม่มีแล้ว..
...วัดก็เลย..มีชื่อใหม่แต่บอก..เค้าโครงเดิมไว้..ว่า..เป็นวัดที่อยู่ด้านหน้าของพระเมรุเดิม....
๒. วัดนี้..สร้างขึ้นมา..เพื่อ..กิจกรรมทางสงฆ์..ของกษัตริย์..โดยเฉพาะ..หรือ..เป็นหลัก..
...โดย..สังเกตได้..จากลักษณะ..การวางทิศทางของโบสถ์......
..............แม้วัด..จะอยู่ติดแม่น้ำลพบุรี...แต่..ประตูหน้าโบสถ์..นั้นอยู่ในทิศทางตรงกันข้าม..กับ
ลำน้ำ..แต่..หันไปทาง..พระราชวังที่เป็นทิศใต้ของวัด............ด้านหลังโบสถ์..จะหันไปหา..แม่น้ำ
แทน.....
......วัดเก่าๆ..ตั้งแต่สมัยอยุธยาทั่วไป..รวมถึง..ต้นกรุงรัตนโกสิรทร์..ยึดคติเดียวกัน...
...เนื่องจาก..การเดินทางของประชาชน..ใช้การสัญจรทางน้ำ..เป็นหลัก..ดังนั้น..ตำแหน่งวัด
ก็จะติดกับลำน้ำ..ไม่ว่าจะเป็น..คูคลอง..หรือ..แม่น้ำก็ตาม...ประตูทางเข้าวัดคือ...ท่าน้ำวัด..
ป้ายชื่อวัด..ก็จะหันไปหาลำน้ำ...อุบาสก..อุบาสิกา..มาทำบุญที่วัด..เอาเรือเทียบท่า..ที่ท่าน้ำวัด
..ผูกเรือไว้..ก็เดินตรงจากท่าน้ำเข้า..ประตูโบสถ์ได้เลย....
.....แต่ถ้าเป็นวัดที่..สร้างเพื่อจุดประสงค์..ทำนองเดียวกับ..วัดหน้าพระเมรุนี้..ตัวโบสถ์นั้น..จะไม่
หันหน้า..ไปในทิศทาง..อย่างทั่วไป..ส่วนใหญ่ก็หันหลังให้น้ำ..เหมือนกับ..ให้ประชาชนทั่วไป
ทราบ..ได้เอง..โดยการสังเกต..ยกตัวอย่างเช่น...
.........วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม..ซึ่งเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๑ ...วัดโพธิ์ก็เช่นกัน..พระอุโบสถ
หันหน้าไป..ตรงกันข้ามกับ..แม่น้ำเจ้าพระยา...
..........ส่วนใหญ่วัดแบบนี้...ก็จะมีแต่..วิหาร..ที่จะ..สร้างใกล้กับ..ลำน้ำแทน..ซึ่ง..วัดหน้าพระเมรุ
ก็มี..การสร้างวิหาร..ที่อยู่ด้านหลัง..ของโบสถ์..เหมือนของวัดโพธิ์..
.....เหตุผล..ผมคาดว่า..เพื่อความสะดวกของ..กษัตริย์ที่จะต้องเดินทาง..มาทำกิจกรรมทางพุทธ
ศาสนา..ทีวัด..มากกว่า..เพราะ..พระราชวังอยู่ติดวัด..ก็จะไปลงเรือให้เมื่อยทำไม...ขนเข้า..
ขนของ....ก็สะดวก....
๓. เสมาที่เป็นหินชนวน...ขนาดใหญ่...ซึ่งเป็นลักษณะ..เป็นเช่นเดียวกับ..วัดที่พระบรมไตร
โลกนาถ..พระราชบิดา..ทรงสร้าง...ซึ่ง..ในยุคเดียวกัน..วัดทั่วๆไป..เสมาจะไม่ใหญ่มาก..และ..
ก็มีสร้างเป็นหินทราย..ก็ยังมี..
๔. พระประธานในโบสถ์....ก่อนหน้าจะสร้างวัดนี้..มีพระพุทธรูป..ขนาดใหญ่ยักษ์อยู่แค่
เพียงองค์เดียว..และ..อยู่นอกเกาะเมือง..คือ..หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง...ซึ่งหลวงพ่อโตนั้น..
สร้างก่อนตั้ง..กรุงศรีอยุธยาอีก..ซึ่งก็คาดว่า..ด้วยขนาดและกำลังทรัพย์..รวมถึงช่างที่ทำการสร้าง
...ผู้ที่จะดำเนินการได้..ก็คงต้องเป็นกษัตริย์..เช่นกัน..พระเจ้าอู่ทองเอง..อาจจะสร้างไว้ก่อนสถาปนา
...กรุงศรีฯ..ก็เป็นไปได้.....
......เวลาผ่านมาเป็น..ร้อยปี..ก็ยังไม่มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่..ที่ไหน..ในกรุงศรีฯ..ที่จะสร้างได้
ใหญ่โตมโหฬารได้อีก....(..พระมงคลบพิตร..สร้างหลัง..วัดหน้าพระเมรุ..ในสมัย..พระไชยราชา
ธิราช...หลายสิบปี..)...ดังนั้น..พระใหญ่ขนาดนี้..ทั้งเงินที่จะต้องใช้...จำนวนช่างที่ต้องใช้...
..ก็มีแต่กษัตริย์..เท่านั้นแหละตรับ..ที่จะสร้างได้ในยุคนั้น....ขนาดท่านก็..เป็นรองแค่..หลวงพ่อโต
วัดพนัญเชิง..องค์เดียวเท่านั้น..แต่..รายละเอียดความหรูหรา..เนื่องจากที่ท่านเป็นพระพุทธรูปทรง
เครื่อง..ผมก็เชื่อแน่ว่า..ค่าก่อสร้างย่อมมากกว่า..หลวงพ่อโต..แน่....

...............

.....หลวงพ่อพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ....
..หน้าตักกว้าง ๙ ศอก...สูง ๓ วา( ๑๒ ศอก).........
(..ขอบคุณภาพจาก thai.tourismthailand.org..)

...............ต่อตอนหน้า...............

 

มารอติดตามความรู้ดีๆ อีกเช่นเคยครับ

 

สวัสดีครับ พี่ Modpong และพี่น้องทุกท่านครับ
ติดตามประวัติศาสตร์ครับ หลวงพ่อพุทธนิมิตร สวมมงคลชีโบ พร้อมทรงเครื่องสร้อยสังวาลย์ องค์พระอุระ พระกร และวางเข่าวงใน ผมคิดถึงพระคงทรงเครื่องครับ (ผมคิดผิดขออภัยนะครับ)
ขอบพระคุณครับพี่ Modpong
ฮักแพง

 

..........................................
...หวัดดีน้อง...ก็ถูกต้อง..ท่านเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง..ที่เรารู้จักกัน..ว่าเป็นปางปราบท้าวมหาชมพู...พูดภาษาชาวบ้าน..ก็ปางปราบมาร..

 

รอติดตามต่อครับ

 

บางทีผมนั่งคิดนะครับว่า ศิลปะในการสร้างพระพุทธรูปแต่ละสมัยจะแตกต่างกันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่พอมาถึงยุคปัจจุบันผมกลับหาเอกลักษณ์ในการสร้างพระพุทธรูปไม่ค่อยได้ครับ น่าจะเป็นยุคแห่งความหลากหลายทางเชิงศิลป์ครับคุณอา

 

......................................
..ถูกต้องแล้ว...การที่ศิลปินยุคนี้..ได้เรียนรู้..รูปแบบเก่าๆ..เยอะ..แล้ว..ก็มีความชอบในยุคแต่ละยุค..ไม่เหมือนกัน..คนนี้ชอบแบบลพบุรี..คนนี้ชอบสุโขทัย..คนนี้ชอบอยุธยาตอนปลาย..ด้วยรูปแบบงานศิลป์..มันพัฒนามาเป็นพันปี..จนมันจะเริ่มฉีกแนว..ไม่ออก..บางคนอยากสร้างรูปแบบ..ใหม่ๆขึ้นมา..แล้วมีคนยอมรับได้กี่คน..ส่วนใหญ่เขาก็ชมชอบกับแบบเดิม..เอามาผสมกันบ้าง..เปลี่ยนนิดเปลี่ยนหน่อย...แต่ไอ้ทีฉีกอย่าง...เฉลิมชัย..ที่ทำโบสถ์..ที่วัดร่องขุ่น..
ทำราหูอมจันทร..ในแบบของเขา..ก็จะมีคนที่ชมชอบ..ในตัวอยู่เดิม..พวกหนึ่ง..ที่เป็นสาวกชอบ..
...ถามอาว่า..ชอบมั้ย..บอกได้เลยว่า...โคตรจะรำคาญลูกกะตา..ไม่ชอบอย่างแรง..ใครจะชอบก็ช่างเถอะ..อาไม่ชอบอะไร..ที่มันรก..รกมากๆ..
...แล้วเคยไปถามหลายคน..ที่รู้จัก..เขาก็รู้สึก..คล้ายๆกัน..บางคนที่ไปถามที่เป็นรุ่นหนุ่มสาว..ก็มีทั้งชอบ..และไม่ชอบ...
..........ดังนั้นสรุปที่อย่างเราบอกนั่นแหละ..
ศิลปไทย..บรรพบุรุษ..พัฒนากลั่นกรอง..จนเป็นที่ยอมรับกัน..มาไม่รู้กี่รูปแบบแล้ว...มาถึงยุคนี้ไม่ว่าใครก็เหอะ..ไม่มีทางมาส้รางรูปแบบให้เป็นที่ยอมรับของทุกคนได้หรอก...

 

รอติดตามครับผม
จบเรื่องพระธาตุ แล้ว
มาเรื่องต่อไป ก็น่าติดตามเช่นเดิมครับ
รออ่าน และเป็นกำลังใจให้ครับผม

 

ผมว่า น่าจะทำการระดมสมองเชิงศิลป์ กำหนดแนวทาง พระพุทธรูป ที่จะสร้างในยุคนี้ก็ดีนะครับ เช่นรูปลักษณ์ หน้าตา โครงหน้า ฐานพระ ซุ้มพระ อะไรประมาณนี้ครับคุณอา แล้วสร้างพระรัชกาลขึ้นมาบ้าง อิอิ

 

สวัสดีครับคุณอา..มาติดตามอ่านตอนต่อไปครับ