ของดีราคาถูก พระหลักร้อย พุทธคุณหลักล้าน

หลวงพ่อเกษร วัดท่าพระ

 

สวัสดียามเย็นครับพี่ตี๋ใหญ่ พี่รุ่ง คุณบอย คุณเอ๊ะ คุณปู คุณโญ คุณภัทร์ คุณเอ็ม คุณนอร์ และทุกๆท่านครับ

 

พระผงปิดตาสมจินตนา พระประสบการณ์ดีๆ อีกรุ่นหนึ่งครับ

หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร วัดประชาชุมพลพัฒนาราม

วัตถุประสงค์
เพื่อแจกเป็นที่ระลึกเนื่องในงานทอดกฐิน วัดป่าประชาชุมพล จังหวัดอุดรธานี วันที่ 7 พฤศจิกายน 2542

จัดสร้างโดย
ทนายนพรัตน์ และ นายศุภกร หอมระรื่น

มวลสารประกอบด้วย
- ว่านกระจายทั้งห้า
- ว่าน 180 ผงใบลาน
- ผงอิทธิเจ
- หลวงพ่อปาน บางนมโค
- ผงยอดทรัพย์ หลวงปู่คำสิงห์ สุภัทโธ
- ผงปรอทดำ - ภูควายเงิน
- ผงทองพระธาตุโมกุล - ภูหินลาย

--------------------------------------------------------

ประวัติการสร้างและที่มา

พระปิดตาสมจินตนา เป็นพระเครื่องที่หลวงปู่บอกให้ลูกศิษย์ท่านหนึ่งสร้างถวาย จัดเป็นพระเครื่องประเภท เล็กดี รสโต เพราะท่านกำหนดว่า ต้องหาว่านมงคล โดยเฉพาะว่านมหานิยม เช่น เครือสาวหลงตัวผู้ และ ตัวเมีย ว่านดอกทองตัวผู้และตัวเมีย ว่านเสน่ห์จันทร์ขาว แดง ฯลฯ

ค่าจ้างสร้างพระองค์ละไม่ถึงสามบาท แต่ค่าน้ำมันรถ ดีนะตอนนั้นยังไม่แพงหมดไปหลายอยู่ กว่าจะได้ว่านและกาฝากครบ 180 ชนิดตามที่กำหนด ท่านเมตตาให้อยู่เป็นเดือน แล้วมาแจกกันในงานกฐิน

หลวงปู่ว่า แจกให้พวกพ่อค้าวานิช พวกนี้ ไม่มีวิชาหรือความสามารถในการตีรันฟันแทง ดีแต่ค้าขาย ดีแต่ปาก ปากพาอยู่รอด พระฃุดนี้ จึงเน้นที่มหานิยม ในขณะเดียวกัน พญาว่าน หรือว่านกระจาย เป็นตัวป้องกัน คือ ดีทางอยู่ยงคงกะพัน ซึ่งเห้นได้จากพระปิดตาเนื้อว่านกระจาย ของพระอาจารย์เจริญ ฐานยุตโตที่เกียวกราวมาแล้ว ครั้งคลังแสงระเบิด ก็ด้วยอำนาจและคุณสมบัติของพญาว่าน หรือ ว่านกระจายนี่เอง จัดได้ว่า เป็นพระเครื่องอีกรุ่นหนึ่ง ที่ควรค่า แก่การเลี่ยมทอง ไม่เสียดายเงิน ไม่หนักคอเบา ........

ฟันธงได้เลยว่า สุดยอดในบรรดาพระเนื้อผงของหลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร คงไม่มีรุ่นใด ที่อุดมไปด้วยมวลสาร ดีนอก และ ดีใน ไปกว่านี้แล้ว และ เป็นรุ่นเดียว ที่สร้างมาโดยไม่ต้องขออนุญาตจากหลวงปู่ เพราะท่านบอกให้สร้างเอง

จากการสนทนากับหลวงปู่คำพัน วัดธาตุมหาชัย ท่านเมตตาบอกว่า ปฐวีธาตุที่ศักดิ์สิทธิที่สุด อยุ่ที่ถ้ำภูควายเงิน จังหวัดเลย ท่านเมตตาบอกว่า ปฐวีธาตุที่ผ่านการเมตตาจากพระเกจิอาจารย์ผู้วิมุตตหลุดพ้นแล้วมีคุณสมบัติเสมือนแก้วสารพัดนึก เป็นโภคทรัพย์และป้องกันได้แม้ระเบิดนิวเคลียร์

ได้ฟังมา ก็จำไว้ จนมาพบกับพระอาจารย์ผาสิงห์ วัดโนนสว่าง ว่าจะไปเอาหินที่ถ้ำภูควายเงิน จังหวัดเลย จึงฉุดคิดถึงคำพูดของหลวงปู่คำพัน จึงอาสาไปด้วย พระอาจารย์เจริญ ฐานยุตโต ท่านจะเอาหิน( ปฐวีธาตุ ) นี้ ฝังไว้ที่หน้าอกพระปิดตารุ่นแรก รุ่นสองและรุ่นคลังแสงระเบิด มาโดยตลอด

ผมได้แบ่งจากครูบาผาสิงห์ มาถวายหลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร จำนวนหนึ่ง ปฐวีธาตุนี้ จะเป็นเม็ดหินเล็กๆ สุกใส และ ได้นำปฐวีธาตุเหล่านี้ บรรจุในพระปิดตาสมจินตนาทุกองค์ เพราะฉะนั้น หากท่านใดต้องการปฐวีธาตุของหลวงปู่อ่อนสา ให้หาพระปิดตาสมจินตนามาใช้ได้เลย

ข้อมูลจากเวบอุดร 108


---------------------------------------------


หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร ท่านเป็นศิษย์ที่ทันยุคองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ท่านเป็นพระที่มีจิตใจมั่นคง เด็ดเดี่ยว ท่านชอบอยู่ตามลำพัง หากมีหมู่คณะร่วมธุดงค์เกินกว่า 3-4 รูป หลวงปู่จะปลีกวิเวกไปแต่เพียงลำพัง หลวงปู่เป็นพระที่มีเมตตาสูงมา ท่านสงเคราะห์คนทุกหมู่เหล่า ไม่เลือกชั้นวรรณ แต่สำหรับพระสงฆ์แล้ว ท่านจะเข้มงวดเป็นพิเศษ เพราะต่อไป จะต้องออกไปเป็นแบบอย่างให้กับญาติโยม

ด้วยจริตที่ไม่ชอบคลุกคลีกับหมู่คณะ อันเป็นที่ประจักษ์ในวงศิษยานุศิษย์สายพ่อแม่ครูจารย์มั่น ภูริทัตโต ประกอบกับองค์หลวงปู่ก็ไม่ชอบพูด คือ ไม่ช่างสนทนา ประวัติของหลวงปู่จึงหาอ่านได้ยากลำบากนัก ต้องอ้างอิงไปหาหนังสือประวัติพ่อแม่ครูจารย์องค์อื่นที่กล่าวถึง หลวงปู่อ่อนสา

แม้องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโณ ก็ไม่เคยแนะนำให้ลูกศิษย์ลูกหาไปรบกวนหลวงปู่อ่อนสา แต่ประการใดทั้ง่ที ท่านเคยบอกแก่เหล่านายทหารอากาศที่มากราบท่านถึงวัดป่าบ้านตาดว่า

" ทำไมพากันมองข้าม พระอรหันต์ทั้งองค์ที่หลังสนามบิน ท่านเป็นอรหันต์ทั้งแท่ง และ ฉลาดด้วย "

​

 

พระปิดตารุ่น "เจริญพร" หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ




หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ท่านเกิดเมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2455 ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ ฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 แห่งราชวงศ์จักรี ครอบครัวมีอาชีพทำนา ทำสวนและเลี้ยงสัตว์ มีพี่น้องด้วยกัน 7 คนแต่ได้เสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็กทุกคน เมื่อหลวงปู่ท่านมีอายุได้ 10 ปี มารดาของท่านได้ถึงแก่กรรมลง คุณพ่อก็มีภรรยาใหม่ คุณยายจึงทำหน้าที่รับเลี้ยงดูอุปถัมภ์ท่านแทน และเมื่อเรียนหนังสือจบ ท่านได้กลับไปช่วยพี่น้องที่เป็นลูกของมารดาใหม่ อย่างขยันขันแข็ง ต่อมาเมื่อท่านมีอายุครบ 20 ปี ท่านมีปรารถนาที่จะบวช เพราะท่านได้คิดว่า สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่บนโลก ล้วนไม่จีรังยั่งยืน ล้วนแต่จะต้องดับสูญทั้งหมดทั้งสิ้น ร่างกายนี้เมื่อจิตละไปแล้ว ก็ต้องแตกสลายออกจากกัน ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย เมือพิจารณาดังนี้แล้ว ท่านจึงไปขออนุญาตบิดาและมารดาเพื่อขอลาบวช เมื่อบิดาท่านได้อนุญาตแล้ว
อุปสมบทและธุดงควัตร

ท่านก็อุปสมบทเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2475 ณ อุโบสถวัดบ้านหงษ์ทอง มีท่านพระครูวาปีดิฐวัตร เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระอาจารย์พรหม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านก็ได้กลับมาจำพรรษาอยู่ที่ วัดโพธิ์ชัย บ้านหม้อ โดยท่านอาจารย์วัดโพธิ์ สอนให้ท่านภาวนาอนุสติ 10 ท่านก็ได้ท่องเอา แล้วบริกรรมไปเรื่อยๆ ตั้งแต่พุทธานุสติ ธรรมานุสติ ไปจนถึงอุปสมานุสติแล้วจึงตั้งใหม่ ในต่อมา บิดามารดาท่านได้นพหนังสือของ พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม มาถวายให้ท่าน ท่านอ่านแล้วรู้สึก สนใจในเรื่องกายานุปัสสนา ซึ่งในหนังสือได้แนะนำให้พิจารณากายแยกย่อยไปเป็นส่วนต่างๆ ให้สติได้รู้ว่า ร่างกายนี้ไม่ได้มีอะไรเป็นของตนสักอย่างเดียว เมื่อท่านพิจารณาได้ดังนี้จึงมีดำริจะออกไปอยู่ในป่า ในตลอดสายธรรมยุติ ท่านได้เรียนศึกษาวิชาความรู้เพิ่มเติมกับพระคณาจารย์ตาง ๆ โดยในพรรษาที่ท่านบวชโดยจะยกตัวอย่างพรรษาที่ท่านได้ธุดงควัตร

พรรษาแรกหลวงปู่ได้พบกับท่านอาจารย์บุญมา ฐิตเปโต ท่านอาจารย์บุญมาได้พาท่านไปบวชเป็นธรรมยุติที่วัดโพธิสมภรณ์ อุดรธานี ในพรรษาแรก ท่านได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าสาระวารี จ.อุดรธานี หลังจากออกพรรษา ท่านก็วิเวกไปอยู่ที่จังหวัดเลย

พรรษาที่ 2 ท่านจึงได้กลับลงมาจำพรรษาที่วัดอรัญวาสี จ.หนองคาย ท่านได้คิดตัดสินใจว่า ในพรรษานี้ จะไม่นอนกลางวัน จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียนมากขึ้น

พรรษาที่ 6 ท่านได้พบกับ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และพระอาจารย์เนียม ท่านได้เดินธุดงค์ไปกับพระอาจารย์ทั้ง 2 รูป และพระสงฆ์อีก 6 รูป หลังจากท่านได้พบกับพระอาจารย์มั่น ท่านก็มีความเลื่อมใสมาก ท่านจึงตัดสินใจอยู่ภาคเหนือต่อก่อน

พรรษาที่ 7 - 12 ท่านได้มาจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์ โดยในขณะนั้น หลวงปู่ชอบ หลวงปู่ขาว ได้วิเวก แต่หลวงปู่ขาวท่านไม่สบาย แต่หลวงปู่ชอบก็ชวนท่านขึ้นไป ในภายหลังจากที่ท่านได้เดินทางกลับประเทศไทย ท่านก็ได้มาจำพรรษาอยู่ที่ สำนักสงฆ์ ตามเขาและถ้ำ อีกครั้งหนึ่ง ท่านจึงได้ตั้งสติทำสมาธิโดยต่อมาหลวงปู่ชอบ เห็นนิมิตของเสือ หลวงปู่เหรียญก็เห็นรอยเท้าเสือ จึงได้แผ่เมตตาให้เสือขณะออกบิณฑบาตอยู่ หลังจากนั้น เสือก็ไม่มีมารบกวนอีกเลย

พรรษาที่ 16 และท่านก็ได้เดินธุดงควัตรไปยังประเทศลาว ท่านก็เห็นนิมิตในอนาคตของประเทศว่า ประเทศลาวในอนาคตข้างหน้า จะหาความสงบได้ยาก ท่านจึงเดินทางกลับประเทศไทย และหลังจากเดินทางกลับประเทศไทย ท่านก็ไปจำพรรษาอยู่ที่ วัดสำนักสงฆ์ ต.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา 2 พรรษา จากนั้นพอออกพรรษา ท่านก็เดินเที่ยวไปที่จังหวัดพังงา รั้นเมื่อใกล้จะเข้าพรรษาก็ได้มีผู้นิมนต์ให้จำพรรษาที่เมืองพังงา ขณะที่ท่านได้ไปบำเพ็ญอยู่ที่ถ้ำหลักเมือง หน้าถ้ำมีศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตั้งอยู่ มีการขอบัตร ขอเบอร์ ทรงเจ้า ฆ่าสัตว์สังเวยทุกปี ท่านได้อยู่บำเพ็ญสมณกิจที่สำนักสงฆ์นั้นมาจนขออนุญาตสร้างวัดได้สำเร็จ ตั้งชื่อว่า วัดประชาสันติ อยู่วัดนี้ได้ 6 ปี จึงย้ายมาอยู่วัดสันติวราราม อีก 2 ปี จึงย้ายกลับไปอยู่วัดอรัญญบรรพต ตั้งแต่ปี 2502 - 2548 จนกระทั่งมรณภาพเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน รวมสิริอายุได้ 93 ปี 73 พรรษา

คัดลอกจาก พระสุธรรมคณาจารย์ (เหรียญ วรลาโภ) - วิกิพีเดีย

 

พระหลักร้อยองค์นี้นำเสนอ พระปิดตารุ่น "ศรัทธาบารมี"
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย





พระสุปฏิปันโน สายอีสาน เจริญพระพุทธมนต์ และเจริญจิตภาวนาอธิษฐานจิต พระหลวงปู่เหรียญ “รุ่นศรัทธาบารมี”
วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2539 เวลา 18.09 น. ณ พระอุโบสถวัดบรมนิวาส กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย
1. พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย ประธานจุดเทียนชัย
2. พระญาณทีปาจารย์ (หลวงปู่ท่อน ญาณธโร) วัดป่าศรีอภัยวัน จ.เลย
3. หลวงปู่จันโสม กิตติกโร วัดป่าจันทรังษี (วัดป่านาสีดา) จ.อุดรธานี
4. หลวงปู่จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย จ.พิจิตร
5. พระสุทธิสารมุนี (หลวงปู่รักษ์) วัดป่าสำราญนิเวช จ.อำนาจเจริญ
6. พระครูการุณยธรรมนิวาส (หลวงปู่หลวง กตปุญโญ) วัดป่าสำราญนิวาส จ.ลำปาง
7. พระครูวิเวกวัฒนาทร (หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก) วัดป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่น
8. พระครูวีรธรรมานุยุต (หลวงปู่พวง สุวีโร) วัดป่าปูลูสันติวัฒนา จ.อุดรธานี
9. พระครูอุดมธรรมสุนทร (หลวงพ่อคำแปลง สุนทโร) วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร
10. พระครูอุดมสังวรคุณ (อาจารย์สนธิ์) วัดบรมนิวาส กรุงเทพมหานคร
11. พระครูปลัดสุวัฑฒพรหมจริยคุณ วัดบรมนิวาส กรุงเทพมหานคร





รายการมวลสารและวัตถุมงคลที่ประกอบเป็นองค์พระ รุ่น “ศรัทธาบารมี” มีดังนี้
1. ผงอังคารหลวงปู่สิม พุทธาจาโร
2. ผงอังคารหลวงปู่สาม อภิญจโน
3. ผงอังคารหลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส
4. ผงอังคารหลวงปู่หลุย จันทสาโร
5. ผงอังคารหลวงปู่ครูบาพรหมา หรหมจักโก
6. ผงอังคารหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง
7. ผงเสกหลวงปู่ฝั้น อาจาโร
8. ผงเสกหลวงปู่แหวน สุจิณโณ
9. ผงเสกหลวงปู่ครูบาธรรมชัย
10. ผงเสกหลวงปู่ชอบ ฐานสโม
11. ผงเสก แป้งเสก และเกศา หลวงปู่หลวง กตปุญโญ
12. เกศาหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
13. เกศาหลวงปู่จันโสม กิตติกโร
14. เกศาหลวงปู่แว่น ธนปาโล
15. เกศาหลวงปู่เทียม วัดกษัตราฯ อยุธยา
16. ผงว่าน 108 เจ้าคุณนรรัตน์ฯ วัดเทพศิรินทร์
17. ผงใบลานไตรมาส หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
18. แป้งเสก หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
19. แป้งเสก หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
20. ผงพระกรุวัดป่านาดุน ขอนแก่น
21. เกสรดอกพิกุล,ดอกจำปา,ดอกจำปี,ดอกมะลิ,สาระภี,ดอกบัว,บุนนาค,ดอกคำไทย,ดอกกระดังงา
22. ผงพุทธคุณ,แป้งเจิม,ทรายเสก หลวงปู่แช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม
23. ผงพุทธคุณ,ผงยา หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม
24. ผงพุทธคุณ หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิต
25. ผงพุทธคุณ,ผงมหาราช หลวงพ่อแคล้ว วัดยมโลก กรุงเทพฯ
26. ผงพุทธคุณ วัดเลา กรุงเทพฯ
27. ผงกระเบี้องพระอุโบสถ วัดระฆังฯ วัดกัลยา กรุงเทพฯ
28. ผงพระรุ่นต่าง ๆ วัดโพธิคุณ จ.ตาก
29. ผงพุทธคุณ หลวงพ่อแพวัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
30. ใบโพธิ์พุทธคยา เสกวัดอินทรวิหาร กรุงเทพฯ
31. ผงใบพลูดับเทียนชัยพิธีพุทธาภิเษก 17 พิธี
32. ผงดอกบัวในอ่างน้ำพระพุทธมนต์ พิธีพุทธาภิเษก 49 พิธี
33. ผงพุทธคุณ หลวงพ่อคูร วัดบ้านไร่
34. แป้งเสก หลวงปู่บุดดา ถาวโร
35. ผงพระครั่งพุทธาหลวงพ่อแผ่ว วัดโตนดหลวง เพชรบุรี
36. ผงวัดปากน้ำรุ่น 5 , 6 ชำรุด 8 องค์
37. ผงธูปกรรมฐานพระสุปฏิปันโน 63 องค์
38. ผงธูปจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทุกภาคของประเทศไทย
39. ผงเกสรดอกไม้ 108 ปลุกเสก 200 พิธี (ปลุกเสก 5 ปี)
40. ผงพระชำรุดแตกหักวัดใหม่อมตรส
41. ผงพุทธคุณ ผงพระชำรุด ไม่ทราบวัด จำนวนมาก
ขอบพระคุณผู้เขียนบทความ
บุฉนวน knowledge centre
เขียนโดย Prachak Nachaisong ที่ วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 11, 2010

 

;aa44 สวัสดีครับพี่วัน.............................

 

มวลสารเยี่่ยม และฝังปฐวีธาตุด้วยอีกต่างหาก สุดยอดครับ

 

Test Test Test

โพสต์ตามปกติได้แล้วคร๊าาาาบ....:z5

 

สวัสดีครับคุณโญ คุณเอ็ม

วันนี้อากาศเย็นสบายทั้งวันเลยครับ

 

หลวงพ่อเติม หรือพระครูปุณณสิริโศภน อดีตเจ้าอาวาสวัดต้นตาล หลวงพ่อเติม ชื่ออาจจะไม่ค่อยคุ้น แต่ท่านเป็น ศิษย์อาจารย์เดียวกันกับหลวงพ่อแจ๋ ครับ คือหลวงพ่อบัว วัดนครเนืองเขต(ต้นตาล) วัดที่หลวงพ่อแจ๋ มาอุปสมบท นั่นเอง วัตถุมงคลท่าน ตามประวัติ มีแค่เหรียญครบ ๖ รอบ จัดสร้างขึ้นในปี 2519 รายละเอียดคร่าว ๆ มีเนื้อเงิน เนื้อนว เนื้อทองแดง มีทั้งตอกโค๊ตและไม่ตอก ประสบการณ์ จะจะ จังจัง คือ คนพื้นที่แขวนเหรียญรุ่นนี้ แล้วทะเลาะกัน โดนอีกคนใช้มีดปลายแหลมแทง สองจึก ไม่เข้าครับ และอีกเหตุการณ์ คนแขวนเหรียญรุ่นนี้ โดนรถปิกอัพพุ่งชนจะๆ รถมอไซค์พังยับแต่คนไม่เป็นอะไรเลย ตอนนี้ มีการหาเก็บๆ เหรียญรุ่นนี้กันอยู่ครับ แต่เค้าจะหาเก็บกันเฉพาะเนื้อเงินกับนวะ ครับ นับเป็นอีกเหรียญที่ราคาไม่แพงอะไร บางเวบยังอยู่ที่สามร้อย สี่ร้อย ตามแต่จะตั้งกัน ของปลอมนั้นแทบจะไม่มีให้เจอ ใครเจอ ชอบก็เก็บๆได้ครับ

 

<a href="http://upic.me/show/47411502" target="_blank"><img border="0" src="http://upic.me/i/bg/vyhodvzpy2i.gif"></a>

 

<a href="http://upic.me/show/42016333" target="_blank"><img border="0" src="http://upic.me/i/6f/d7s18.gif"></a>

วันนี้ต้องใส่เสื้อแขนยาวมาทำงาน หนาวๆๆ ส่วนที่เชียงราย พี่สาวบอกว่า ตอนนี้ต้องใส่เสื้อกันหนาว 3 ตัว หนาวมากกกกกกก ในรอบหลายๆ ปี

 

โพสต์ไปหลับไปครับ.....<a href="http://emoticon.ohozaa.com" target="_blank"><img src="http://emoticon.ohozaa.com/datas/emoticon/Onion/onion24.gif" border="0" alt="onion24.gif" /></a>

 

Test Test test

โพสต์ได้ตามปกติแล้วจริงๆด้วย...

 

รุ่นถวายพระพรคร๊าบบ

 

กลับหละครับ พรุ่งนี้เจอกันใหม่