ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

เรียนคุณอา และพี่ๆทุกท่าน สัปดาห์นี้ขออนุญาติลากระทู้ก่อนครับ เนื่องจากลาหยุดยาว กลับมาทำงานไม่ทันครับ ขอปั่นงานก่อนครับ ขออภัยทุกท่านด้วยจริิงๆครับ

 

.......
...ไม่เป็นไร...ตามสะดวก...เรียบร้อย..ผ่อนคลาย..ค่อยกลับมาต่อ..

 

.........
.....หวัดดี..น้องรุ่ง.....
............................
...ต่อจากตอนที่แล้ว.....
.............................

...................................

.........................................................
.......ความจริง..ผมทราบเรื่องนี้..มาก่อนหน้า..แต่ก็สงสัยเช่นคนอื่น...ว่าทำไม..ต้องเป็นอย่างนั้น..
...มันเจตนา...หรือ..เป็นเพราะผลที่สืบเนื่องมาขบวนการทำ................
.......ไม่ว่า..ใคร..ก็คงเคยปั้นดินน้ำมันมาสมัยเป็นเด็ก...ดินน้ำมัน..มันก็มีความหยุ่นตัว(ELASTICITY)
..ใกล้เคียง..กับ..ดินที่เราจะเอาไปเข้าพิมพ์..เพื่อกดมันออกมา..เป็น..พระ..เพียงแต่..เราหมุนคลึง..
นวดยังไง..มันก็ไม่แห้งลงไปเรื่อยๆเหมือน..ดิน..เพราะน้ำมันจะระเหยออกไปตลอดเวลา...ยิ่งนวด
นานยิ่งแห้ง...ผมเคยพิมพ์พระดินเผปา..มาก่อนจึงทราบดี..แต่ก่อนหน้า..เวลาที่ลองพิมพ์..ว่า..ที่ผม
แกะออกมา..เป็นยังไง..ก็ต้องใช้..ไอ้ดินน้ำมันนี่แหละ..ทดสอบพิมพ์....
............คุณก็..คงเคยทำเหมือนผม..ตอนเด็ก..ปั้นดินน้ำมัน..เป็นก้อนกลมๆ..แล้วเอาหัวแม่มือ..กด
ลงไปที่พื้น..มันก็แบบไปเป็นทรงกลมเช่นกัน..ต่อให้ปั้น..เป็นทรงลูกเต๋า..เอาหัวแม่มือกดลงไป...
...มันก็..ไม่กลายเป็นทรงสี่เหลี่ยมอย่างเดิม...มันจะกลายเป็นทรง..ลูกครึ่งระหว่าง..สี่เหลี่ยม..กับ
..วงกลม..คือ..เกือบจะกลม..แต่มีมุม..สี่มุม..มนๆ..ด้านที่เคยตรง..ก็..โค้งเป็นทรงกลม....
...นั่นเป็นผลมา..จาก..หัวแม่มือ..หรือ..ปลายนิ้ว..ของเรา..มันโค้งมน..เมื่อเรากดลงไป..รูปทรงของ
ปลายนิ้วขยายขึ้น..แต่รูปร่าง..ของมันไม่เปลี่ยน..มันก็เลยไปกระทำกับ..ดินน้ำมันแบบนั้น..
.....ทำให้ดินน้ำมันมัน..ยืดไปตามรูปนิ้วของเรา....(ถ้าใครมีอยู่ใกล้ๆ..ลองดูได้เลย)...
...แล้วถ้าคุณลองกด..ดินที่คุณปั้นไว้กลมๆอยู่ในมือ..เล็กน้อยแล้วคลึง..ทรงกลมมันก็จะกลายเป็น
ทรง..ยาเม็ดแค็ปซูล..คือ..ทรงกระบอกหัวมนท้ายมน..เมื่อกดลงไปกับ..พื้น..มันก็จะ..มีทรงคล้าย
เดิม..แต่ขยายตัวออก..ตรงกลางก็จะป่องออก..เล็กน้อย..เท่านั้น
.............รูปทรงของพระรอดนั้น....ส่วนปลายด้านบน...โค้งมน...เหมือน..นิ้วมือเรา...
....แต่ส่วนด้านล่างที่เป็นฐาน..นั้น..รูปแบบจริง..เป็นเหลี่ยมชัดเจน.......
.....ถ้าเราจะใช้หลักการ..ตามที่ผมว่าคือ..ทำให้เร็วไม่เยิ่นเย้อ....ก็ควรจะ..กดลงไปครั้งเดียว..ให้
พระติดเต็ม..แล้วมากดแด่งหลังและขอบเล็กน้อย..ก็พอแล้ว......
.......ด้วยรูปทรงพระ..ที่ส่วนด้านฐานลึก..ใช้ดินมาก...ส่วนบนน้อย.....
...ถ้าจะทำตามแนวทางข้างบน..รูปทรงที่เราควรจะคลึงมันไว้ก่อน..ที่จะกด...มันก็ควรจะ...
....เหมือนกับ....................สากหิน..ที่เอาไว้..ตำครกหิน(อ่างศิลา)..นี่แหละ....
..........ปลายด้านนึงอ้วน...ปลายด้านนึง..ผอม........
...ผมคิดว่า..น่าจะเหมาะสม..แล้วอีกอย่าง..เราใช้แค่..หัวแม่มือ..นิ้วชี้..นิ้วกลาง..ก็ทำได้แล้ว..
......แต่เวลาทำ..ต้องไม่นาน..เพราะ..เนื้อดิน..จะค่อยๆแห้งไปเรื่อยๆ..จะทำให้ตัวมัน
..........เสียความยืดหยุ่น...เสียน้ำในเนื้อไปเยอะ..เวลากดนอกจากจะติดพิมพ์ได้ไม่หมด..
............ยังมีผลให้..น้ำดิน..ที่ออกมาห่อหุ้มผิวน้อยลงด้วย..ผิวพระจะไม่เนียนสวย..
...............................ต่อตอนหน้า.....................

..ขอบคุณ ภาพต้นฉบับ..จากหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก

 

สวัดดีครับ ผมตามอ่าน สาระและความรู้ต่างๆของพี่(ขอเรียกพี่ครับ)มานาน จนต้องสมัครสมาชิกมาเพื่อเป็นกำลังใจ ให้พี่ ให้สาระความรู้ต่างๆ ไปเรื่อยๆครับ

 

...........
...หวัดดี..และ..ยินดีต้อนรับครับ..คุณApril...
..รู้สึกดี..กับ..คำบอกเล่า..และ..ขอบคุณครับ....
...ก็..จะพยายามครับ...ถ้ามีกำลังใจให้....
......ความจริง..เรื่องต่างๆ..มันเยอะมาก..แต่ไอ้ที่ไม่ควรเล่า
....มันก็เยอะ...จำเป็นต้อง..คัดออกไป...
......เชื่อหรือครับว่า..ผมยังมี..เรื่องสาระต่างๆ..
ให้เล่าอีกเยอะ
.......ก็ลองติดตามต่อไปแล้วกัน.........

 

เชื่อครับ รอฟังเรื่องราวมีสาระและประโยชน์ครับ

 

ซำบายดียามหนาวครับผม
แอบแวะมาทักยามว่างครับ
แต่แอบอ่านทุกวันครับผม

 

ผมก็เชื่อเช่นกันครับ จะติดตามอ่านบทความ ประสบการณ์ความรู้ดีๆมีสาระของคุณอาไปตลอดครับ

 

***เชื่อครับพี่...........ขอตามอีก 1 เสียงครับ***

 

..........
...น้องๆ..หลานๆ...ผมนี่..ก็เหนียวแน่น..จริงๆ...
......ทุกวันนี้...วงการพระ..เปลี่ยนไปเยอะ.....
..พระกรุจริงๆ...ที่เป็นยอดนิยม..ในอดีต..ก็หาดูยาก....
....เพราะ..ไอ้วัฒนธรรมเศรษฐีชอบอวดของ...มันเข้ามานี่แหละ...
.....ข้อเสีย..ไอ้พวกนี้..คือ..มีไม่ถึงครึ่ง..ที่มันชอบรักพระ..ชอบเล่น
..กันจริงๆ...ผมเริ่มสัมผัสมัน..มาพร้อมกับ..วัฒนธรรมที่ใครอยากยกระดับ
...อยากเข้าวงสังคมเศรษฐี..ก็พากันเล่นกอล์ฟ..พอรวยขึ้นมาหน่อย..
..ก็ต้องไปหัดเล่นกอล์ฟ..เพื่อเข้าสังคม..พร้อมทั้งหางาน..และ..ขยายธุรกิจ
..เพราะ..สมัย ๓๐ กว่าปีก่อน..ตอนที่กอล์ฟเริ่มเฟื่องนั้น..การเล่นกอล์ฟ..
...มันถือว่าแพงมาก..เศรษฐีจริงๆ..กับ..พวกข้าราชการชั้นสูง..เท่านั้นที่เล่นกัน..
.....ธุรกิจบ้านเรา..ยังไม่บูม..คราวนี้..พวกที่ผมว่าข้างบน..เรียกว่า..ไม่น้อย
...ชอบเล่นพระ..บางทีมาร่วมก๊วนกัน..เกิดมีคนคุยเรื่องพระขึ้น..เอ้า..ชอบเหมือนกันเรอะ..
..ขนาดพักระหว่างหลุมรอก๊วนหน้า..บางทีก็เอาพระ..มานั่ง..ส่องกันเป็นที่บันเทิง..เริงรมย์....
..คนนี้..มีพระนั่น..อยากได้พระนี่..แต่ไอ้คนนี้..งวดนี้ไม่ได้เอามา..ครั้งหน้าจะเอามา..ให้ดู..แต่ไม่ขาย..เพราะกูรวยอยู่แล้ว..แต่ถ้าแลก..กับไอ้ที่กูอยากได้มั่ง..ก็เอา...
....ครบ ๑๘ หลุม..ไปนุั่งฟาดเหล้าเบียร์..กันต่อ..ก็ยังเอาเรื่องพระไปคุยกัน..ไอ้นี่..มันธรรมดา..ของสังคม..คนรวย...แถมเรื่องธุรกิจ..ต่อยอดได้อีก..
.....แต่ไอ้พวก..ลูกน้องเด็กๆที่คอยตามก้นเจ้านายไป..ด้วยนี่..มันก็จะทราบว่า..
...การสังคมแบบนี้..มันต้องทำอะไรบ้าง...
....พอไอ้พวกนี้..ใหญ่โต..ขึ้นมา..แล้วเข้ายุคธุรกิจบูม..เศรษฐีเมืองไทย.หน้าใหม่
......โผล่กันขึ้นมาเพียบ..ทั้งระดับ...ใหญ่..กลาง..เล็ก....
....หลายคน..รวยมาชั่วข้ามคืน...สังคมเดิม..ก็คือ..ระดับกลางธรรมดา...
........เมื่อรวยขึ้นมาก็อยากเปลี่ยนสังคม..เพื่อต่อยอดทางธุรกิจ..และ..ยกระดับ..ในสังคม..ตัวเองด้วย...มันก็ต้องทั้งศึกษา..และ..ปรึกษาคนอื่น....
.......ผลออกมา..เหมือนกันหมดคือ..เล่นกอล์ฟ...เพราะ...
.....ถ้ามึงหัดเล่น..ให้เป็น..และมีฝีมือบ้าง..มึงก็..สัมผัสกับ..สังคมคนร่ำรวยเก่าได้...
........ซึ่ง..โอกาศแบบนี้..ถ้าไม่ใช่ที่..สนามกอล์ฟ..เอ็งก็หมดสิทธิ์..
......(..ซึ่งวิธีนี้..ไอ้พวกข้าราชการ..ระดับกลางๆใช้กันเพียบ..เพราะมีโอกาศที่ได้..สนิท..กับเจ้านายมากขึ้น..แถม..ยังได้พบนักการเมือง..เศรษฐี..บุกเบิกความก้าวหน้า..ให้กับ..ตัวเอง...ผมเห็นมาเยอะ..หลายคน..ทำงานไม่ได้เรื่อง..แต่เล่นกอล์ฟดี..
....เจ้านายชอบ..สักพัก..เลื่อนระดับ....)..
............ไม่จบว่ะ..เดี๋ยวกลางคืนมาต่อให้...

 

***อันนี้เห็นด้วยครับพี่............สังคม คนรวยเขา หาช่อง หาพวก และ ต่อยอดธุรกิจ ต่อยอดอำนาจ ต่อยอดอำนาจการลงทุน ก็ ต้องมาร่วมเข้า สังคม โดยการเล่นกอล์ฟ เป็นศูนย์รวม คนที่มีระดับ มาเจอกัน ครับ
แต่กระผม ไม่มีระดับครับ เล่นกอล์ฟไม่เป็น ครับ ยอมครับพี่***

 

ผมยอมตีกอล์ฟไม่เป็นล่ะครับ ถ้าจะได้ก้าวหน้าอย่างนี้ไม่เอา สมัยผมเรียนปริญญาตรี เพื่อนบางคนไปตีกอล์ฟ กับอาจารย์ เพื่อขอเกรดก็มีครับ ผมเรียน วันหยุดราชการ ส่วนใหญ่คนไปเรียนทำงานกันแล้วทั้งนั้นครับ พวกนี้มันเคยชวนผมไป แต่ผมไม่ไปเพราะไม่ชอบครับ

 

..............
........ต่อ...............
.......................
..เพราะ..สังคมกอล์ฟ..มันเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่....
...ใครมา..คนเดียว..ไม่ต้องรู้จักใคร..ก็ขอไปแจมกับ..ก๊วนที่มาแค่ ๒-๓ คนได้
.....และ..เมื่อถือไม้กอล์ฟ..ในสนามแล้ว..ทุกคนก็เสมอกัน..ไม่ถือชั้น..วรรณะ
....ยิ่งไปวันธรรมดา..ได้..ยิ่งดี..เพราะเศรษฐี..ระกับ CEO หรือ..ประธานบริหาร
...เขากลัว..คนแน่น..บางคนนี่ใหญ่ฉิบเป๋ง..เครียดๆ..หรือ..เซ็งๆ..ก้ออกไปตีกอล์ฟ
.....ก่อนอื่น..เลือกสนามที่ผู้บริหาร..บริษัทใหญ่ๆ..ชอบไปตีกัน...แล้ว..ก็รอจังหวะ
....ไม่จอง..จ่ายเงิน..แล้วนั่งรอให้..พวกเจ๋งๆมา..เลือกที่มีแค่ ๒ คน..หรือ ๓ คน..หรือ..ถ้าเจอมา..คนเดียวยิ่งดี..เข้าไปแจมร่วมก๊วน....
.....เหนือสิ่งอื่นใด..ก่อนที่จะทำอย่างนี้..ต้องปรับระดับตัวเอง..ก่อน...
....อย่างนึง..ไม่ควรขาดคือ..พระที่ห้อย..และ..ความรู้เรื่องพระติดตัว..พอประมาณ
.....อย่าแปลกใจ..ว่าทำไม..ผมรู้ดี..ก็เพราะปี ๓๐ ต้นๆ..ผมก็เคยเป็น..กุนซือ
....พวกนี้มาก่อน....บางที..ก็มีเพื่อนแนะนำ..มาอีกที....
.....มันจึงเริ่มมาจาก...การหาพระกรุ..ที่มีระดับหน่อย..เลี่ยมทอง..ใสโซ่ทอง
......เอาไว้ติดตัวเอง..ไปหาจากแหล่งที่เขาประกัน..เพื่อความมั่นใจ..เวลา
....เอาออกไปโชว์..จะได้ไม่ขายขี้หน้าเขา..เพราะเศรษฐี..ที่เขาเล่นพระ
หลายๆท่าน..ไม่ใช่กระจอก....ดูพระเป็น..และเนื่องจาก..พวกนี้ใช้เป็น
อุปกรณ์ประกอบฐานะ..ส่วนใหญ่..ก็คือ..ไม่ปล่อย..
...เรื่องความรู้เช่นกัน..ถ้าไม่มีเลยสักแต่ว่า..ห้อย..มันก็ดูไม่มีระดับ..ต้องมีไว้..
...บางที..ก็..ห้อยมานานแล้ว..เริ่มเบื่อ..หรือ..รวยขึ้น..ก็หาพระกรุ..ระดับสูงขึ้นไปอีก..ของเดิมก็ไม่ปล่อย..เก็บ..แถมบางคน..เข้าไปคุยกับเรื่องพระ..กับพวกมีระดับบ่อยๆเข้า..บางคนคุยเรื่ององค์นี่..องค์นั้น..หายาก..มั่ง..ก็ต้องโชว์..ความเจ๋ง
..ของตัวเอง..หามาโชว์...
....ไปๆมาๆ..ผมพบหลายคน..ที่กลายมาเป็นชอบ..คราวนี้..พระกรุดังๆ..
..ก็ทยอย..ไปเข้าเซฟพวกนี้กัน..อย่างเก่ง..ก็แลกเปลี่ยน..กับคนสังคมเดียวกัน..
..พระ..ก็เลยทยอย..หายไปเรื่อยๆ..เพราะพวกนี้เก็บลูกเดียว...แถมโชว์..ของจริง..ก็ไม่โชว์..โชว์กันแต่รูป.....
.....ไหนๆ..ก็ยังมีรายการ..เอาใจผู้ใหญ่...ยอมแลก..กับ..กรุถูกกว่า..ก็เลย
ต้องไปหาเพิ่มมา..อีก.....
.....ไปสังเกตได้เลย...พระกรุ..เริ่มค่อยๆ..หายไป..ด้วยอัตราผิดสังเกต..ตั้งแต่ปีประมาณ ๓๐ เป็นต้นมา...สิบกว่าปี..พระกรุเนื้อชิน..มีระดับ..แทบหาวิ่งอยู่ใน..วงการไม่ได้...ต่อมา..ก็ลามไปหมด...พวกปลอมพระ..ก็ร่ำรวยกันไป...
.....ดังนั้น..ที่ผมเอาพระระดับนี้..มาเล่าให้ฟัง..ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก...
....เอาไว้ประดับ..ความรู้..เผื่อ..เอาไว้..เวลามีใครถาม....

 

..............
...หวัดดี..น้องรุ่ง..พลศิริน้องรัก..และ..กำธรน้องรัก
..........................................
...ต่อจากตอนที่แล้ว........
....................................
.........................................................................
....เมื่อ..ผมนึกถึง..รูปร่าง..ของดินที่จะปั้น...พอกดลงไปในพิมพ์..และย้ำๆให้แน่น...ผมก็นึกถึง
...ตอนเด็กๆที่ผมเคยทำ..ที่ผมเล่าไปตอนที่แล้ว..ว่าถ้า..ปั้นดินให้เป็นทรงแค็ปซูลยา..มันก็คงไม่ต่าง
..จากที่ผมจะปั้นให้เป็นทรง..สากหินตำครก..เท่าไหร่..รูปทรงเมื่อเรากดลงไป..มันก็จะออกมา..
คล้ายๆกัน...ด้านบน..ไม่มีปัญหาอะไร..เพราะโค้งเป็นปลายนอ้ว..มันก็จะล้อ..ไปกับพิมพ์...
......แต่ส่วนด้านล่างที่เป็นฐาน..นี่ซิ..พิมพ์เป็นเหลี่ยมก็จริง...แต่เมื่อกดแล้ว..เนื้อดินส่วนบน..
ที่มันจะต้องสูงและ..อูมหน่อยๆ..โผล่พ้นแนวพิมพ์ออกมา..ยังไง..มันก็..ต้องเป็น..รูปโค้งอยู่ดี..
ตามปลายนิ้ว..ที่ไถไป..............ยื่นออกมานอกพิมพ์..ด้านล่างที่เป็นเส้นตรง..ยาวยื่นออกไป....
..พอควร..เพราะเราต้องหุ้มพิมพ์ให้มิด..ยื่นออกมาเป็นแนวโค้ง..โดยส่วนปลายสุด..น่าจะยาว
พอๆ..กับ..ความลึกขององค์พระ..หรือ..พอๆกับ..ความกว้างฐานได้เลย.......
...................แค่นี้...มันก็ถึง...บางอ้อ..สิ่งที่..ผมสงสัยมานาน....ทำไมพระรอดถึงเป็นอย่างนั้น......
.........ผมไม่ได้เล่าโจทย์..ให้ฟังตั้งแต่แรก..คิดว่า..ส่วนใหญ่..จะไม่รู้..แต่..หลายคนคงพอทราบ
...อยู่แล้ว...........นั่นคือ...................
................พระรอดทุกองค์....ส่วนที่ดูเหมือนฐานชั้นล่างสุด...จริงๆ..ไม่ใช่ฐานพระ.....
..........แต่เป็นปีกพระ...ด้านล่าง....ที่พับขึ้นมา..แปะให้ติดแน่น..ใต้ฐานอีกที....
...................ดูรูป..องค์นี้ได้เลยครับ....ที่ฐานล่างสุดนะ..มันบางและ..โค้งๆไม่ตรง(..ก็เพราะเกิดจาก
รูปแบบที่ผมเล่าไปแล้ว)...ริบขอบคม..ก็แน่นอนละครับ..มันก็เหมือนปีกพระด้านข้าง..หรือ..
ด้าบนบน..นั่นเอง....
....ถ้าคุณได้เห็นของจริง..ด้านข้างของพระรอด..หรือ..ดูรูปในเน็ตก็ได้....จะเห็นร่องรอยการพับปีก
..ขึ้นมา..๙๐ องศา..จนมาแปะกับใต้ฐาน...
............แต่นี่..คือ..ข้อโต้แย้งกัน..ในสมัยก่อน..ว่า..ทำแบบนี้ทำไม..เป็นเจตนาทำรึเปล่า....
........ทำแล้วมันมี..ประโยชน์อะไร...พระตรงอื่นดูดีหมด..มาขี้เหร่ก็..ไอ้ตรงฐานนี่แหละ..
....(..เอาไว้..ตอนหลัง..ผมจะเล่าว่า..การทำแบบนี้..มันไม่ได้ทำให้..พระขี้เหร่..ส่วนเดียว..
......แต่มันส่งผล..ไปหลายอย่าง...)
.......ก็ปีกด้านอื่น...ก็แคบ..ทำไม..ด้านล่างมันยาว......................ก็เพราะ..ไม่มีใครไปสนใจเจาะ..
ไปที่ๆมาแบบผม...เพียงแต่เป็นจุดสังเกต..สำหรับ..เช็คพระ...เท่านั้น
...............................ต่อตอนหน้าครับ....................
(..ดูรูป..พระรอดองค์นี้(ตอนที่แล้ว)ประกอบการอ่านด้วย)

 

จริงครับที่อาจเป็นได้เพียงความรู้ประดับตัวน่ะครับ เพราะถึงมีเงินก็ยังหาแต่ละอย่างที่พี่มดกล่าวมาข้างต้นได้ยากเลยครับ หรือไม่ก็โดนฟันยับครับ ถ้ารู้จักกันพวกๆกันก็มักไม่ปล่อย บางทีเขากลัวเสืยหน้าคนในแวดวงถ้าได้ข่าวว่าขายของเอาเงิน ถ้าจะให้ให้ฟรีๆเลยก็กะไรๆอยู่น่ะครับ ของมีราคาหนิครับ

 

...........
...การคบกับแวดวง..ชั้นสูงนี่..ต้องระวังตัวเอง..ตลอดเวลาไม่ให้ตกม้าตาย...
....อย่างวันเกิดเขา..ไอ้เสี่ยเล็ก..อยู่ดี..พอร่วมก๊วนกอล์ฟกัน..วันใกล้ๆ..เสือก..เอา
..พระร่วงหลังรางปืน สวรรคโลกไปให้..ถ้าเสี่ยใหญ่ที่มีระดับจริงๆ..ถึงเขาไม่มี..อยากได้..มันก็ผิดสังเกต..แล้วก็ถือว่า..ดูถูกอีกต่างหาก..เพราะความจริงพวกระดับนี้..นะ..เขาก็รู้ว่า..ไอ้นี่มันพยายามมาเข้าสังคมนี้..เพราะอะไร..แต่ระดับนี้..เขามีวิธีปฏิเสธ..ที่นิ่มนวล..ดูเหมือนดี..แต่หลังจากนั้น..เขาก็หันหลังให้เลย...
...อย่างงี้..เรียกว่า...เสร่อ...ตกม้าตาย...ต้องไปเริ่มต้นใหม่ที่ก๊วนใหม่...
....ผมถึง..บอกว่า..พวกนี้แลกกัน..อย่างเดียว..หรือไม่..ก็ใช้ข้ออ้างเอา
มาเป็น..หัวข้อ..ในการพนัน..แต่ละหลุม..ถ้ามึง..อยากให้เขาจริง..มึงก็แกล้งแพ้..อย่างนี้..เสี่ยใหญ่ถึงรู้..ว่าไอ้เสี่ยเล็กแกล้งแพ้..แต่ไม่น่าเกลียด..รับได้..
....ยากนะครับ..จะบอกให้..คบกับ..พวกรวยโคตรๆรุ่นเดอะ..นี่..ต้องหา
ข้อมูล..เบื้องต้นให้ครบ..สมุสมะ..เป็นเสร็จ.......
.....แล้วไอ้ที่รวยโคตรๆนี่...บางทีหลงเชื่อใจใคร..ไปเช่าพระ..แล้วมารู้ว่า
เก๊..เขาก็ไม่ว่า..อะไร..เพราะทำงานวันเดียว..ก็ได้เงิน..เกินราคาพระแล้ว
...เค้าไม่ฟ้อง..หรอก..เป็นข่าวแล้ว..เสียหายมากกว่านั้น...
....เพียงแต่..เขาก็ไม่คบ..กับไอ้ที่ติดต่อซื้อขายพระ..คนนั้นต่อไป..และ
ร้านที่ปล่อยพระมาตุ๋นเขา..ก็แค่นั้น..กับไปเล่าให้เพื่อนๆระดับ..เดียวกันให้ฟัง
....ไอ้ตัวนี้..กับ..ร้านนี้..มันก็หมดสิทธิ์ปล่อยพระ..ให้กับกลุ่มไอ้รวย..โคตรๆนี้
...ต่อไป

 

ตามสัญญาครับ รูปปั้นบูชา ที่ปู่ไปอุ้มมาเอง กลับลพบุรีมา ก็เลยถ่ายภาพมาฝากครับ

 

ตอนแนบในโทรศัพท์มันตั้ง พอโพสแล้วนอนซะงั้นครับ

 

.......
..เอ้อ..หวัดดี...ขอบใจที่เอารูปมาฝาก....
...ท่านถือครกบดยา(มั้ง..คิดว่า)..ก็คงแสดงว่า..เป็นหมอยา..ชัดเจน
...รักษาโรคภัย..เป็นหลัก..สำหรับภาคนี้...

 

มีรูปสมเด็จองค์ปฐมวัดท่าซุงด้วย สาธุๆๆ ^__^ _/\_