ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ท่านkorn95 ผมว่าท่านมาผิดงานแล้ว อย่าเป็นอีแอบดีกว่า คนที่ออกไป5ล้านคนนะออกไปด้วยความเมตตาที่มีต่อรัฐบาล(เหมือนมหาตมะคานธี)ไม่ได้ออกไปฆ่าไปแกงรัฐบาลโดยออกไปบอกว่า ท่านรัฐบาลท่านหยุดเถอะเราประชาชนรับไม่ได้แล้วพอเถอะ ผมว่าคนในเว็ปบอณ์ดพลังจิตนะส่วนใหญ่เข้าใจธรรมของพระพุทธเจ้าดี ทุกอย่างเกิดขึ้นจากเหตุให้ดับที่เหตุ.

 

เราจะทำให้ชาติพินาศ หรือเราให้ชาติสันติสุข

เราจะทำให้คนตาย คราวละมากๆ ต้องทำแบบบเศรษฐีจรจัดทักษิณ
หรือเราจะทำให้ก้าวหน้า ต้องไม่ทำแบบหน้าเหลี่ยมทักษิณ

เราจะทำให้คนไทยแตกแยก ต้องไม่ปลุกปั่นให้ล้มสถาบัน
หรือเราจะทำให้ไทยสามัคคี ก็ต้องไม่ทำแบบทักษิณ

เราจะทำให้ชาติตกต่ำ ต้องทำแบบทักษิณ
หรือเราจะทำให้ชาติเจริญรุ่งเรือง ต้องไม่ทำแบบทักษิณ

ทุกกรณีผ่านการพิจารณาจากคนรักชาติ รักในหลวงมาแล้ว รู้ซึ้งว่าทักษิณไม่รักชาติ
ไม่ได้รักประชาชนไทยรวมถึงประชาชนเสื้อแดง และไม่มีเมตตาต่อน้องสาวตนเอง!!!

 

ที่เธอพยายามนำเสนอเสนอข้อมูลเหล่านี้ เพราะเพื่อต้องการปกป้องคนที่ให้ประโยชน์
เล็กๆ น้อยๆ แล้วเธอก็กระทำซ้ำเติมบ้านเมืองของเธอ แผ่นดินเกิดของตัวเอง ตลอดจนบุคคลที่เป็นที่เคารพของญาติพี่น้องของเธอทั้งหลาย หรือญาติพี่น้องทั้งหลาย
ของเธอไม่มีใครรักเคารพในหลวงเลยซักคน???

 

ทักษิณไม่ละความพยามยาม ที่จะโชว์ต่อสายตาชาวโลก
ถึงความสามารถที่เขามีอยู่ และ
ให้คนไทยได้เห็นว่าเขาสามารถที่จะทำให้คนไทย
นับล้านๆคน เดินออกมาจากบ้าน เพื่อมาต่อต้าน
และขับไล่ คนในตระกูลของเขาไม่ให้อยู่ในประเทศไทย
อีกต่อไปและเขาใกล้จะประสบความเร็จแล้ว!!!

 

โหนได้ทุกกระแสเลยน่ะ เอามารวมกันได้หมดทุกเรื่องทุกคราว

 

ตอนนี้เรายังไว้ใจอะไรยังไม่ได้ ถึงแม้น้องหมาเดินจากไป แต่มันก็ยังคงทิ้งเห็บทิ้งหมัดเอาไว้กัดให้เราคันเล่นอยู่

 

มวลประชาชนผู้ตื่นรู้ จำนวนล้านๆ
ออกมา"เรียกคืนอำนาจประชาธิปไตย"
ไม่ได้มาแย่งอำนาจจากรัฐบาล
แต่รัฐบาลเองพยายามที่จะยื้ออำนาจไว้
ทุกวิถีถ้าหากอำนาจหลุดไป ก็ต้อง
กลายเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายยกฝูง
เพราะได้กระทำความผิดร้ายแรงนั่นคือการปฏิเสธ
คำพิพากษาของธรรมนูญ กรณีแก้ไขกฎหมาย
ม.219 ที่ว่าด้วยที่มาของสว.

 

ไม่เข้าใจคนไทยหรือเปล่า แค่นี้ก็อ่านภาษาไทยไม่รู้เรื่อง

พวกคุณๆ ทั้งหลายครับ อ่านภาษาไทยออกหรือไม่ บอร์ดอันนี้ เขาเขียนและมีหัวข้อว่า ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่ ซึ่งไม่น่าจะมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองเลย อ่านง่ายๆ ไม่ยาก ภาษาก็ตรงๆ หรือคุณไม่ใช่คนไทยเป็นเขมรกัน ถ้าอยากคุยเรื่องการเมืองกรุณาไปตั้งบอร์ดใหม่ขึ้นหัวข้อเป็นเรื่องเป็นราวทางการเมืองอย่างที่คุณๆ ต้องการจะดีกว่ามัยครับ บ้าจริงๆๆ

 

นิวยอร์กพบแมลงสาบบุกและทนอากาศหนาวได้​

​

นิวยอร์ก 9 ธ.ค. - สวนสาธารณะไฮไลน์ในนครนิวยอร์กที่แปรสภาพจากรางรถไฟเก่าพืชคลุมรกร้าง มาปรับโฉมเป็นสวนต้อนรับนักท่องเที่ยว แต่กลับพบว่ามีแมลงสาบที่สามารถต้านทานสภาพอากาศหนาวได้ทั้งที่ไม่เคยพบมาก่อนในสหรัฐ

เจสสิก้า แวร์ และโดมินิก อิแวนเจลิสต้า ผู้เชี่ยวชาญด้านแมลงที่มหาวิทยาลัยรัทเกอร์ส กล่าวว่า สัตว์ในตระกูลแมลงสาบที่มีอยู่ทั่วไปในเอเชีย เพิ่งมาพบในสหรัฐช่วงนี้ แม้ขณะนี้ยังไม่สามารถคาดเดาถึงผลกระทบได้ แต่ก็น่าเป็นห่วง คณะนักชีววิทยาดังกล่าวมีรายงานลงในวารสารด้านกีฏวิทยา Journal of Economic Entomology ว่า แมลงชนิดนี้มีสายพันธุ์ใกล้เคียงแมลงสาบมากและอาศัยอยู่ในเมือง บริษัทกำจัดแมลงที่สวนไฮไลน์พบแมลงสาบครั้งแรกในนิวยอร์กเมื่อปี 2555 นักวิทยาศาสตร์คาดว่า แมลงเล็กๆเหล่านี้อาจอยู่ในดินที่ติดมากับต้นไม้ที่ใช้ตกแต่งสวนซึ่งมีต้นไม้นำเข้ามาบางส่วนด้วย

นอกจากนี้ยังพบว่าแมลงสาบยังต้านทานสภาพอากาศหนาวจัดกลางแจ้งได้อย่างดี อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า แนวโน้มแมลงสายพันธุ์ใหม่จะผสมพันธุ์กับแมลงท้องถิ่นเป็นซูเปอร์แมลงสาบนั้นมีโอกาสน้อย เนื่องจากระบบสืบพันธุ์ของตัวผู้และตัวเมียในแมลงแต่ละสายพันธุ์นั้นมีขนาดแตกต่างกัน จึงคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้มากนัก

สำนักข่าวไทย TNA News | 9 ธ.ค. 2556 13:10 |

บราซิลฝนตกหนักประชาชนดับ 11 ราย​

​

บราซิเลีย 10 ธ.ค. - เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันภัยพลเรือนในบราซิลรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน และสูญหาย 6 คนหลังพายุฝนพัดกระหน่ำรัฐบาเยียทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

โฆษกสำนักงานฯแถลงว่า บ้านเรือนราว 70 หลังพังทลาย และอีก 200 หลังได้รับความเสียหายระหว่างพายุกระหน่ำรุนแรงเมื่อสุดสัปดาห์ ขณะที่การกู้ภัยดำเนินมาต่อเนื่องจนถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา อาคารที่ทำการและร้านค้าหลายแห่งในพื้นที่ดังกล่าวซึ่งมีผู้อาศัยราว 4,000 คนได้รับความเสียหาย ชาวบ้านกล่าวว่า ระดับน้ำบางแห่งบนท้องถนนท่วมสูงถึง 2 เมตร

สำนักข่าวไทย TNA News | 10 ธ.ค. 2556 10:04 |

หลายพื้นที่ในสหรัฐเผชิญสภาพอากาศเลวร้าย​

​

สหรัฐ 10 ธ.ค.-หลายพื้นที่ในสหรัฐกำลังเผชิญกับสภาพอากาศที่เลวร้าย

สภาพท้องถนนในสหรัฐถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็งสร้างปัญหาต่อการจราจรอย่างหนัก คาดว่าสภาพอากาศเลวร้ายเช่นนี้จะแผ่ปกคลุมไปถึงเมืองบัลติมอร์และกรุงวอชิงตันวันอังคารนี้ ขณะที่สนามบินฟิลาเดลเฟียต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่า 460 เที่ยว ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารจำนวนมาก

สำนักข่าวไทย TNA News | 10 ธ.ค. 2556 14:25 |

ที่มา MCOT.net - Site | MCOT.net

 

ไม่เถียง ไม่ตอบโต้ เเค่แข็งข้อแบบอาระยะ
สามารถทำได้ ตามระบอบประชาธิปไตย

 

อันเป็นการแสดงออกถึงสิทธิและหน้าที่ของเจ้าของประเทศ
อันจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

 

ยังไม่ได้เป็นที่ปรากฎว่าNeoได้ละเมิดผลประโยชน์
ใดๆ ของผู้อื่นหรือผู้อ่าน

 

เรียนคุณ Neoworld ครับ

ที่คุณกำลังคุยเรื่องการเมืองกันอยู่กับคุณ pound อะไรนั้นนะหรือกับคนอื่นๆ ก็แล้วแต่ เขาเรียกว่าละเมิดสิทธิ์แล้วครับ เพราะบุคคลที่เขามาติดตามข่าวสารในบอร์ดนี้ซึ่งชื่อบอร์ดก็เขียนไว้ชัดๆ ว่า "เป็นการเตือนภัยด้านภัยพิบัติ" คนส่วนใหญ่เขาก็จะเข้ามาดูเรื่องภัยพิบัติกัน เพื่อเป็นการติดตามข่าวสารและที่สำคัญคือ ได้ความรู้ครับอาจจะดีบ้างไม่ดีบ้างก็เข้าใจครับว่าข่าวสารมาจากหลายแหล่งย่อมต้องมีทั้งดีและไม่ดีครับ ไม่ใช่เอาเรื่องการเมืองมาเถียงกันทำให้คนอื่นเขาปวดสมองกันเปล่าๆ เข้าใจมัยครับ หวังว่าคงจะเข้าใจภาษาคนนะครับอย่าทำตัวเป็นปัญหากับสังคมเลย ถ้าเครียดไม่รู้จะระบายที่ไหนก็อ่านหนังสือธรรมมะให้มากๆ สิครับ เผื่อจะช่วยได้ หรือไม่อีกวิธีนะเข้าป่าไปในที่ไม่มีสัญญาณทีวี มือถือ ติดต่อโลกภายนอกไม่ได้นะ และคุณก็ดูตัวเองนะครับอาจจะช่วยได้

 

สื่อมวลชน บางสื่อ กล้าเรียกมวลชนนกหวีดปกป้องรัฐธรรมนูญ
ว่าเป็น"ม๊อบประชาธิปัตย์"Neo รู้ได้ทันทีว่าเป็นสื่อด้อยคุณภาพ
มีความเข้าใจพัฒนาการทางการเมือง ที่ล้าหลังกว่ามวลชนหลายขุม
เพราะในความเป็นจริง พรรคประชาธิปัตย์กำลังดึงมวลชนให้ละล้าละลัง
จนถอยหลังมานิยมการเมืองแบบเก่าๆ โดยมีคาถาประจำพรรคว่า"ยึดมั่นแนวทางระบบ
รัฐสภา"และ "ไม่นิยมการเมืองข้างถนน" โดยไม่กล้าคิดนอกกรอบว่าการพัฒนา
ทางการเมืองที่สุจริต มุ่งมั่น แน่วแน่เพื่อแก้ปัญหาประชาชนถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ
และพิทักษ์และจัดการผลประโยชน์ต่างๆให้ถึงมือประชาชนเจ้าของประเทศอย่างทัดเทียมกัน
นั้นสามารถทำได้หลายแบบหลายแนวทาง ตราบใดที่ยังไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ของประเทศ

 

จะต้องมีการทำลายล้างก่อน จึงจะวางระบบใหม่ได้ !!!​

​

มหาเทพแห่งการทำลายล้าง..และเครื่องมือในการทำลายล้าง

สรรพสิ่งล้วนต้องมีวาระเกิดและดับ ไม่อาจยึดมั่นถือมั่นได้ หากจักรวาลนี้ มีแต่การเกิด และการรักษาแล้ว ย่อมจะเสียสมดุล ไม่อาจอยู่ต่อไปได้ สุดท้ายจะพังพินาศหมดสิ้น กระบวนการทำลายล้าง จึงเปรียบเหมือนการเตรียมที่นา ไว้สำหรับเพาะพันธุ์ข้าวให้ได้มรรคผลต่อไป หากไม่มีการเผาทำลายหญ้าฟาง การไถพรวนก่อน ก็ไม่อาจใช้นาแปลงนั้นในการเพาะปลูกในฤดูต่อไปได้ เพื่อให้ได้ผลผลิตมากที่สุด คือ ดวงจิตที่ได้นิพพานสูงที่สุด จึงจำต้องมีการปรับพื้นนา ซึ่งก็คือ กระบวนการทำลายล้างเพื่อการเริ่มต้นใหม่นั่นเอง

ยังมีมนุษย์บางจำพวกที่มีความสุขดีบนโลกมนุษย์ ยึดมั่นถือมั่นในทรัพย์สมบัติของตน จึงไม่ยอมให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และกล่าวร้ายเหล่าผู้ทำการทำลายล้างว่าเป็นคนเลวบ้าง คนขาดสติ คนบ้าบ้าง เพราะเขาเหล่านั้น เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวและบริวารของตนเป็นที่ตั้ง ไม่เคยได้คิดถึงดวงจิตอีกมากมายมหาศาลที่จะต้องจุติลงมาเวียนว่ายตายเกิดบนโลกนี้ คนพวกนี้จะทำความดี เพื่อให้คนทั้งหลายศรัทธา และยึดมั่นว่าตนเป็นคนดี ไม่อาจทำให้ใครหลุดพ้นได้เลย เพราะเอาความดี คนดี และตนเอง เป็นสังโยชน์ร้อยรัดสรรพสัตว์ทั้งหลายไว้ให้ยึดมั่นถือมั่นในตน ไม่สนใจว่าพวกเขาจะต้องเวียนว่ายตายเกิดไปเป็นบริวารและยากลำบาก ต้องทุกข์ ต้องเกิดแก่เจ็บตายอีกเท่าไร

เพราะความเห็นแก่ตัวอย่างนี้เอง พวกเขาจึงต่อต้านการทำลายล้าง และกล่าวหาผู้ดูแลการทำลายล้างว่าเป็นคนเลวบ้าง คนบ้าบ้าง คนขาดสติบ้าง ก็ใครเล่าที่มีความสุขสบายดีอยู่ จะพอใจกับการเปลี่ยนแปลง ลองให้เขาประสบความยากลำบากบ้าง ย่อมเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเฉกเช่นกัน คนเหล่านี้ เรียกได้ว่าเป็น “คนดีที่เห็นแก่ตัว” ทั้งสิ้น

บทความฉบับนี้ จะกล่าวถึงเครื่องมือในการทำลายล้างของมหาเทพแห่งการทำลายล้าง

๑) ตรีศูล เป็นอาวุธทิพย์ประจำพระองค์ของพระศิวะ ใช้ในการสร้างจักรวาล หรือทำลายจักรวาล ในช่วงที่จักรวาลถึงวาระแตกดับ เพื่อกำเนิดใหม่อีกครั้ง ก็ต้องอาศัยตรีศูลนี้ในการทำกิจ ดังนี้ ตรีศูลจึงไม่ใช้บ่อย เพราะเสี่ยงต่อการผิดพลาด อนึ่ง ตรีศูลนี้ เป็นอาวุธทิพย์ที่มีอยู่ในโลกทิพย์มากมาย ในพระโพธิสัตว์พันมือ ทุกองค์ก็มีอาวุธชนิดนี้ได้ทั้งสิ้น ทว่า อานุภาพการทำลายล้างไม่เท่ากัน ถ้าองค์ใดบำเพ็ญมาทางเมตตาบารมี มีจิตใจกว้างใหญ่ไพศาล คิดถึงมวลสัตว์จำนวนมากได้เท่าไร อำนาจในการทำลายล้างก็จะแผ่ไพศาลไปมากเท่ากำลังจิตนั้น

๒) ตาที่สาม ของพระศิวะ เมื่อท่านเปิดตาทิพย์ ไฟบัลลัยกัปจะออกจากตาที่สามของท่าน กำลังการทำลายล้างของไฟจากตาที่สามของพระศิวะนี้ สามารถทำลายล้างได้สามภพ หรือก็คือ หนึ่งโลกธาตุ มีความรุนแรงน้อยกว่าตรีศูล ซึ่งผู้ที่สามารถลดทอนไฟนี้ได้มีเพียง พระกามเทพ เท่านั้น พระกามเทพนั้น เดิมทีเคยมีความรักและผิดหวัง จึงฝึกวิชชาหนึ่ง ทำให้มีพลังน้ำแข็งหุ้มดวงจิตไว้ เมื่อไฟบัลลัยกัปของพระศิวะต้องกายทิพย์ของพระกามเทพ จะส่งผลให้ไฟบัลลัยกัปสิ้นฤทธิ์ ทว่า กายทิพย์ของพระกามเทพก็ต้องสลายสิ้น ดั่งน้ำแข็งละลายฉะนั้น ตาที่สามนี้จะทำกิจเมื่อสิ้นกัป เมื่อนั้น พระกามเทพก็ห้ามไม่ได้ มนุษย์จะสูญพันธุ์

๓) พระกาลี พระศักติของพระศิวะ ซึ่งแบ่งภาคออกมาจากพระอุมา พระกาลีจะบำเพ็ญอิทธิฤทธิ์ด้วยการดูดซับพลังดำเข้าตัวได้ไม่มีจำกัด ทั้งพลังมารและอสูร จนทำให้ท่านมีทั้งความดุร้ายและเล่ห์เหลี่ยมสารพัด จนสามารถทำกิจภาคทำลายล้างได้ โดยท่านจะทำกิจเต็มที่ก็ต่อเมื่อกลียุคเท่านั้น คือ หลังสิ้นพระพุทธศาสนาแล้วเท่านั้น ผลจากการทำกิจนั้น ธาตุสี่บนโลกจะแปรปรวนทั้งหมด คือ เกิดภัยพิบัติทั้งดิน, น้ำ, ลม และไฟ จนเมื่อพระศิวะลงมาห้ามก็จะสงบลงได้ กระบวนการทำลายล้างก็จะหยุด ซึ่งมนุษย์จะไม่ถึงขั้นสูญพันธุ์

๔) วัวพาหนะทรงของพระศิวะ สามารถทำหน้าที่ไถปรับพื้นโลกใหม่ได้ ความหมายคือ สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ “แผ่นดิน” ได้ เช่น เกิดสงครามช่วงผลัดถ่ายแผ่นดินไปสู่อาณาจักรใหม่ๆ เป็นต้น กำลังของวัวพาหนะนั้น น้อยกว่าตาที่สาม เพราะสามารถกำหนดความเสียหายให้เกิดเป็นประเทศๆ ไปได้ ดังนั้น เมื่อถึงคราวผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน หรือถึงการสิ้นลงของอาณาจักรใดๆ ก็ตาม จะมีการใช้ “วัวพาหนะทรง” ของพระศิวะช่วยในการทำกิจนี้เสมอ ซึ่งก็คือ “มนุษย์” ผู้บำเพ็ญบารมีเป็น “นิตยโพธิสัตว์” รุ่นน้องที่บำเพ็ญบารมีตามมาทีหลังนั่นเอง

๕) อสูรใต้เขาพระสุเมรุ ซึ่งอสูรเหล่านี้ล้วนบูชาพระศิวะ แต่ถ้าพวกมันสามารถฆ่าพระศิวะได้ มันก็จะทำเช่นกัน เพราะพระศิวะ ทรงนั่งอยู่บนยอดเขาเพื่อคุมการเปิดปิดของภพอสูร ภพอสูรอยู่ใต้เขาสุเมรุนี้ เพื่อให้มีอสูรออกจากภพอสูรในปริมาณที่พอดี ทำให้เกิดกรรมแก่มวลมนุษย์ในปริมาณที่พอดี ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป การเปิดภพอสูรนี้ ส่งผลให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลง และกระบวนการทำลายล้าง มากหรือน้อย ก็ตามแต่ท่านจะเปิด ซึ่งท่านจะดูความเหมาะสม ว่ากระบวนการทำลายล้างนั้น เพียงพอหรือไม่ ถ้าคนไม่สำนึก ก็มากขึ้น ถ้าสำนึกเร็วก็เบาลง ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นไปเพื่อให้เกิดการหน่ายโลกและนิพพานทั้งสิ้น

๖) พระขันทกุมาร คือ บุตรชายของพระศิวะ ซึ่งอยู่ห่างไกลบิดา (สังเกตว่ารูปเคารพของพระศิวะจะมีแต่พระพิฆเนศ ไม่เห็นพระขันทกุมารเลย) โดยได้รับการเลี้ยงดูอยู่กับพวกอสูร หรือเข้ากับพวกอสูรมาก่อน ทำให้มีความสามารถเก่งกาจด้านการรบ และได้ชื่อว่าเป็น “มหาเทพแห่งการสงคราม” ซึ่งหากพระศิวะใช้งานด้านการทำลายล้างแก่พระขันทกุมาร ภัยสงครามก็จะเกิดขึ้นทันที สงครามโลกนั้น จะเกิดได้ต้องอาศัยพระขันทกุมาร โดยพระศิวะอาจมาในรูปของนักเขียน เช่น คาลมาร์ก แต่ไม่ได้ทรงทำการสงคราม แต่พระขันทกุมาร จะใช้งานเขียนของท่านนั้นในการทำสงคราม ยามใด มีพระศิวะเขียนหรือสอนเรื่องการเปลี่ยนแปลง ยามนั้น ถ้าพระขันทกุมารมีอำนาจ ก็จะทำการปฏิวัติ หรือก่อสงครามได้

ยามนี้ อสูรได้ถูกปลดปล่อยมาจำนวนมาก จนพระนารายไม่อาจปราบได้หมดสิ้น เพราะมากเกินกำลัง อสูรเหล่านี้ จะมาอาศัยแทรกอยู่ในกายสังขารของมนุษย์ โดยเฉพาะผู้ที่มีกำลังจิตอ่อน เพราะผู้ที่มีกำลังจิตมาก อสูรจะเข้าแทรกยาก ควบคุมได้ยาก ยกตัวอย่างเช่น เหล่าเด็กแว้นท์ เหล่านี้ ล้วนมีจิตอสูรเข้าแทรกทั้งสิ้น ตำรวจก็จับพวกเขาได้ยาก พ่อแม่ก็ควบคุมเขาไม่ได้ เพราะอสูรเหล่านี้ล้วนมีฤทธิ์มาก เหล่าอสูรจะบูชาพวกอสูรด้วยกัน ในจำนวนอสูรที่มีฤทธิ์และบารมีมากนั้น ก็มี “อสุรินทราหูโพธิสัตว์” ซึ่งบำเพ็ญมาทางการเกิดเป็น “อสูรราหู” มาหลายชาติ

อสูรตนนี้เป็นศิษย์ผู้หนึ่งของพระศิวะ แต่เพราะมีความปรารถนาพุทธภูมิเช่นเดียวกับพระศิวะ จึงไม่ยอมเชื่อฟังพระศิวะ ดัดแปลงวิชชาความรู้ต่างๆ เอง จนเกิดเป็น “วิชชาอสูร” เฉพาะของตนเอง แล้วนำมาใช้ทำร้ายพระศิวะในที่สุด จากนั้น ก็ได้แผ่อำนาจออกไปสู่โลกมนุษย์ กลายเป็นที่ยอมรับของผู้คนมากมาย ก่อนที่จะเปิดภพอสูร นำพาบริวารอสูรมากมายเข้าสู่โลกมนุษย์ จวบจนกว่าพระศิวะจะสอนศิษย์คนสำคัญมาปราบอสูรราหูได้ ซึ่งก็คือ พระพิฆเนศ นั่นเอง ก่อนหน้าที่พระพิฆเนศจะบำเพ็ญฤทธิ์จนปราบอสูรราหูได้นั้น พระนารายจะลงมือก่อน โดยตัดบริวารของราหูออกไปด้วยจักร เมื่อราหูถูกโดดเดี่ยวต้องเร่ร่อนจรไปมาแล้ว พระพิฆเนศจะเป็นผู้ปราบอสูรราหูได้สำเร็จ ด้วยตัวคนเดียว ไม่ใช้กองทัพหรือสงครามแบบพระขันทกุมาร

ยุคปัจจุบันเข้าสู่กระบวนการทำลายล้าง พระศิวะมิได้ใช้ตรีศูล มิได้ใช้พระกาลี มิได้ใช้ตาที่สาม มิได้ใช้พระขันทกุมาร แต่ทรงใช้เริ่มต้นเพียง วัวโพธิสัตว์ และเปิดภพอสูรให้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งหากมนุษย์ยังยึดมั่นถือมั่น ไม่ยอมรับความจริง ก็จะมีมาตรการดำเนินสู่การทำลายล้างที่มากขึ้นต่อไป แต่ถ้ามนุษย์เลิกหลงโลก และยอมรับสัจธรรมความจริง ไม่เป็นผู้ลวงโลก ปิดบังความจริง กระบวนการทำลายล้างก็จะเบาบางลงได้ไม่ยากเย็นเลย

พระศิวะย่อมรู้ดีว่าพระนารายพร้อมช่วยเหลือท่าน และเหล่าอสูรพร้อมฆ่าท่าน แต่ท่านก็ยอมให้อสูรฆ่าได้โดยไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย เมื่อท่านได้ทำกิจเสร็จสิ้นแล้ว เช่น การตายของบุคคลสำคัญทางการเมืองของโลก เช่น ท่านมหาตมะ คานธีร์ เหล่านี้ ล้วนบำเพ็ญบารมีมาทางพระศิวะทั้งสิ้น ท่านไม่สนใจว่าจะตายหรือไม่ เพราะอะไร แต่ท่านสนใจในอุดมการณ์ที่จะทำให้ทุกคนมีความสงบสุขเท่าเทียมกัน ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง หรือเลือกมิตรเลือกศัตรู เพื่อให้สามภพนี้เป็นที่อาศัยของทุกสรรพจิต หลายครั้ง ที่ท่านทำการเปลี่ยนแปลงการเมืองบนโลก สงครามมักจะเกิดขึ้นก่อน และท่านมักต้องตาย จากนั้น พวกอสูรที่ก่อกรรมกับท่านก็จะต้องได้รับกรรมตายไปด้วย หลังจากนั้น สิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นใหม่ แต่ถ้าไม่มีกระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้ สิ่งดีๆ ใหม่ๆ จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย เพราะบุคคลย่อมยึดติดในความเป็นแบบเดิม และกลัวการเปลี่ยนแปลงนั่นเอง

เมื่อเหล่าเทพและพรหมหลงในความดีของตนเอง จนไม่เห็นสัจธรรมความจริง เมื่อนั้น พระศิวะก็ต้องทำกิจเพื่อให้เหล่าเทพพรหมไม่หลงตัวเอง หลงดีในตัวเองจนสอนไม่ได้ มีคนจำนวนมากที่คิดว่าตนเองดีแล้ว เพราะทำความดีมามาก และผู้คนล้วนศรัทธามากมาย แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่าที่พวกเขาทำมานั้น ไม่ใช่ความดีที่แท้จริง มีแต่ความหลงโลก หลงในโลกียสุข หลงผลบุญที่ตนได้เสวยอยู่ในฐานะของเทพและพรหม ดังนั้น สัตว์เหล่านี้จึงสอนไม่ได้ จำต้องให้เกิดกระบวนการทำลายล้างก่อน จึงจะยอมรับสัจธรรมของพระพุทธเจ้าได้ ดังนี้ พระศิวะก็ต้องทำกิจ ทั้งๆ ที่ไม่คิดอยากจะทำลายเลย โดยจะมีพระกามเทพ ซึ่งเกิดเป็นมนุษย์ผู้สูงศักดิ์ ทำหน้าที่เยาะเย้ยถากถางท่าน ท่านจะเกิดในตระกูลต่ำต้อย ดังนั้น เรื่องชนชั้นจึงกลายเป็นประเด็นในการเกิดสงครามในที่สุด

ปัจจุบัน กิจในการทำลายล้างในยุคกลางกึ่งพุทธกาลนั้น มีวัตถุประสงค์ดังนี้

๑) เพื่อปรับสมดุลสามภพ ฟื้นฟูสภาพธรรมชาติที่ถูกทำลายลงไปมาก หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงของธาตุสี่บนโลก ลูกหลานเราจะต้องกินกันเอง เพราะขาดแคลน

๒) เพื่อเปลี่ยนแนวทางการดำเนินไปของโลกในยุคโลกาภิวัตน์ จะต้องมีการทำลายล้างก่อน จึงจะวางระบบใหม่ได้ ทั้งนี้ พระศิวะไม่มีส่วนได้ผลประโยชน์เลย

๓) เพื่อให้เกิดการยอมรับในสัจธรรม คือ โลกที่ไม่เที่ยง เลิกหลงโลก เปิดรับผู้นำทางจิตวิญญาณที่จะมาถ่ายทอดธรรมในยุคหลังกึ่งกลางพุทธกาลไม่นานนี้

๔) เพื่อให้เกิดการบำเพ็ญบารมีของพระนิตยโพธิสัตว์ทุกพระองค์ได้คุ้มค่าไม่เสียชาติเกิด แต่ละองค์จะต้องได้รับข้อสอบ และสอบให้ผ่านให้ได้มากที่สุด

เหตุผลทั้งสี่ข้อนี้ มีน้ำหนักมากพอที่จะต้องเห็นความสำคัญและจำเป็นของการทำลายล้าง ไม่มีผู้ใดอยากทำลาย และตกเป็นจำเลยสังคมในฐานะผู้ทำลายล้าง แต่เพราะความจำเป็นของสามภพที่ต้องมีการปรับตัวในแต่ละช่วงเวลา เมื่อเราได้ใช้และเปลี่ยนแปลงโลกมากแล้ว โลกก็จะระบมมาก โลกต้องการการพักตัว และฟื้นตัวเองบ้าง จึงต้องมีการทำลายล้างดังกล่าว กิจนี้ ไม่มีใครอยากทำ ทำแล้วกลายเป็นตัวร้าย ตัวไม่ดี ไม่เหมือนการทำตัวเป็นพระเอกขี่ม้าขาว มีแต่คนรักคนศรัทธา แต่นั่นไม่ใช่ทางออกของสามภพนี้

บทความฉบับนี้ ไม่ได้ต้องการสื่อให้ผู้อ่านนิยมการทำลายล้าง การทำลายล้างเป็นเพียงกระบวนการหนึ่งทางธรรมชาติเท่านั้น เมื่อถึงเวลามันก็ต้องเกิด แต่เมื่อไม่ถึงเวลาก็ไม่มี ที่สำคัญอยู่ที่ตัวมนุษย์ทุกคนว่ามีความพร้อมรับในการเปลี่ยนแปลงของโลกนี้หรือไม่ ไม่มีใครไม่ตายจากโลก ดังนั้น แม้โลกจะตายจากมนุษย์ไปก็ไม่แตกต่างกับมนุษย์ตายจากโลก ดังนี้ โลกจึงไม่จำเป็นต้องแตก แต่มนุษย์จำเป็นต้องผลัดกันตาย ผลัดกันเวียนว่ายตายเกิด เพื่อเปิดโอกาสให้ดวงจิตอื่นๆ ได้เข้ามาใช้ประโยชน์ในโลกนี้บ้าง

พระศิวะ ไม่ต้องการให้ผู้อื่นลงมือ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการทำลายล้างที่รุนแรงกว่า ดังนั้น เพราะความเมตตา ท่านจึงจำเป็นต้องลงมือเอง เพื่อควบคุมกระบวนการทำลายล้างนั้น ให้เหมาะสม พอดี พอควร อยู่ในระดับที่เกิดประโยชน์ในทางธรรมมากที่สุด ทางโลกบอบช้ำน้อยที่สุด

บทความโดยคุณ physigmund_foid

ที่มา www.oknation.net/blog/print.php?id=524753

 

ขอบคุณครับที่กรุณาเตือน ผมเริ่มจะถอดใจแล้ว
เพราะดูแล้วได้ไม่เท่าเสีย พอประเมินได้ว่าที่นี่มีราษฎรไทย
มากกว่าประชาชนไทย และประชาชนส่วนใหญ่ก็ให้ความสนใจ
สนใจภัยส่วนตัวมที่จะมาจากเรื่อง"โลกแตก"มากกว่าภัยพิบัติ
ที่กำลังเกิดแก่ประชาชนที่ต้องสูญเสียอำนาจอธิปไตย
ในฐานะการเป็นเจ้าของประเทศ แต่ไม่ใยดี กลับกลัวโลกแตกมากกว่า
!!!
ผมขอถอยแบบสุดซอย และไม่บีบน้ำตาแล้วยิ้มเยาะไปแล้วครับ

 

พรคประชาธิปัตจริงๆห่วยมากน่ะ ผลงานไม่เคยมี เวลาเลือกตั้งถึงได้แพ้

มาตอนนี้จะมีเลือกตั้งแล้ว ไม่เอาอีกคงเห็นว่าแพ้อีก จะเอาสภาเทือกตั้งแทน

ทักษินมันเลวนะ แต่มันมีส่วนดีหลายอย่าง ชาวบ้านถึงได้เลือกมัน

แต่ผมเชื่อนะ ถ้าท่านเทือก ตอนนี้ประกาศตัวเป็นรัฐถาธิปัตแล้ว ไปขอร้องทักษินดีๆ ว่าเฮ้ย พวกมึงเลิกลงเลือกตั้งได้ไหม มึงลงกูก็แพ้ทุกที เที่ยวนี้ขอกูบ้าง
กูอยากเป็นนายกว่ะ ผมว่าแม้วมันคงยอมนะ ดีกว่ามาปลุกม้อบแบบนี้ ดีไม่ดี แดงออกมาเดี๋ยวมีเรื่อง

แล้วที่ผมโครตเกลียดเลย สาวก ปชป ชอบจังเอาไอ้แม้วไปเทียบกับ พระเจ้าอยู่หัวเนี่ย คิดได้งัย เอาขี้(แม้ว) ไปเทียบกับทอง

ไอ้แม้วมันทำทุกอย่างเพื่อ คะแนนเสียง เพื่ออำนาจ ผลประโยชน์

พ่อหลวง ท่านทำทุกอย่างเพื่อลูก

ส่วนใครจะคิดว่าแม้วจะล้มเจ้า ผมว่า ยากนะ บ้านนี้เมืองนี้ ต้องมีกษัตรย์อย่างท่าน ใครจะมาเป็นใหญ่แทนท่าน ผมว่าประชาชนไม่ยอมหรอก

เอาแค่ไอ้พวกนี้เทียบกัน แม้ว ยิ่งลัก เติ้ง มารค์ เทพ ชอบใครก็เลือกคนนั้น ผมว่าน่าจะพอ อย่าไปปั่นกระแสอะไรให้มันวุ่นวายเลย

เศรษฐกิจก็ใช่จะดี ทำมาหากินธรรมดาก็ลำบากกันแย่อยู่แล้ว

 

สงครามในตำนาน Ragnarok !!!​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=11d6YX2hKbA]Will the World End on February 22, 2014 Viking Apocalypse Day ? - YouTube[/ame]
วิดีโอรวบรวมเรื่องที่เกี่ยวข้องของ nemesis maturity
Will the World End on February 22, 2014 Viking Apocalypse Day ?

ตามความคิดเห็นและเล่าต่อมาของการต่อสู้ ในตำนานเทพเจ้าตามความเชื่อชาวไวกิ้งที่ จะเป็นวันที่นครนิวยอร์คได้ยินเสียงแตรสำหรับป่าวประกาศการเกิดขึ้นของจุดเริ่มต้นของสงครามในตำนาน Ragnarok ที่จะนำมาของภัยพิบัติต่างๆ จะเริ่มเกิดขึ้นใน 22 กุมภาพันธ์ 2014 ตามที่ผู้เชี่ยวชาญใน
We’re doomed: Countdown begins to end of world - starting in York on February 22 - Yorkshire Post

การต่อสู้ครั้งสุดท้ายในตำนาน Ragnarok ของชาวไวกิ้ง ที่จะทำให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆขนาดยักษ์ เป็นที่มาของแผ่นดินที่จะจมลงใต้สมุทร และท้องฟ้าจะถูกย้อมด้วยยาพิษ!

โพสต์โดยคุณ ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล

ที่มา https://www.facebook.com/pages/ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล/448042111925451

 

ผมอ่านมานานพอสมควรแต่ไม่ได้โพสอะไรมาก เข้ามาอ่านนึกว่านี่เป็นกระทู้ห้องราชดำเนิน
เสียอีก แต่ละท่านก็จัดหนักเรื่องการเมืองมาด้วยข้อมูลของทั้งสองฝ่ายกันไม่ยั้ง คุณเกษม
แกก็ทำหน้าที่ของแกไปเอาข่าวสารต่างๆมาเตือนภัยตามปกติ เหมือนได้อ่านสรุปข่าว
รายวันและมันจะดีกว่านี้มากถ้าไม่เอาพวกนิทานของลัทธิต่างๆมาโพส มันจะได้ตรงตามหัวข้อกระทู้จริงๆ "ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่"
มันจะได้เป็นสาระกับผู้อ่านมากกว่า มาช่วยกันวิเคราะห์ด้วยหลักเหตุและผล ใครมีข้อมูลดีๆ
ก็มาช่วยคุยกัน อธิบายกันมันจะช่วยให้บรรยากาศของห้องนี้มันสงบลง

 

กำนันสุเทพประกาศหลายครั้งแล้วว่าไม่ขอเป็นอะไรทั้งนั้น ต้องการแค่สภาประชาชนพอได้มาแล้วแกก็จะวางมือ เหมือนงานนี้ต้องการแค่เกียรติประวัติของการเป็นนักการเมืองซึ่งอดีตมีดีบ้างเลวบ้าง แต่งานนี้ขอชื่อเป็นผู้หนึ่งที่ร่วมสร้างการปฏิรูปประเทศไทยจริงๆจังๆ แต่ถ้าคนไม่เอาด้วยคงไม่มีใครมาร่วมเดินเยอะขนาดนี้ โดยส่วนตัวผมก็ไม่ได้ชอบคุณสุเทพ แต่ถ้าเขาทำงานนี้สำเร็จแล้วก็ไม่รับตำแหน่งใดใดตามที่เขาประกาศอันนี้ผมยอมรับได้ตรับเพราะงานอย่างนี้แม้แต่คุณอภิสิทธิ์ยังไม่กล้าทำเท่ากำนัน คนที่เขาเข้าร่วมเขามีวิจารณญานดีพอครับ แต่ที่ชอบมากๆๆคือคนที่ร่วมนี้ประกาศชัดครับพร้อมปกป้องพระเจ้าอยู่หัว ตอนนี้เหมือนต้องเลือกแล้วครับ จะยอมให้พวกที่มันพยายามหมิ่นและล้มพระองค์ หรือจะลุกขึ้นสู้ต่อต้านพวกมัน ความเป็นกลางแน่ใจหรือครับว่ามีอยู่จริง