ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

หากสิ่งที่เห็นเป็น UFO ก็น่าจะเป็นคุณต่อโลกเรามากกว่า
เป็นโทษ หรือหากเป็นโทษศักยภาพของมนุษย์ ที่จะไปต่อกร
กับยานพิลึกแบบนั้นคงต้องปล่อยให้มหาอำนาจ เขาเล่นกันไป
โดยเฉพาะ US เขาตั้งตัวเป็นผู้พิทักษ์โลก ก็ปล่อยเขาทำหน้าที่ไป
ประเทศไทยเด็กเกินไป อาวุธระดับสตาร์วอร์ก็มีแต่เรือเหาะรั่ว ๆ
จึงไม่น่ากังวลใจ มหาอำนาจต้องทุ่มเทเต็มกำลัง เพื่อรักษาทรัพยากร
บุคคลระดับหัวกระทิ บนโลกใบนี้โดยเฉพาะบุคคลสำคัญของเขา

ส่วนคนไทยของเรา ใช้วิธีการพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อันมีคุณพระ คุณเจ้า ที่เรา
เคารพนบไหว้ บูชา เป็นต้น

หากจะสนใจเรื่องนอกตัวจริงๆ กรณี การต่อสู้กันภายในบ้านเมือง
ระหว่างประชาชนกองทัพนกหวีดผู้รักความถูกต้อง กับเจ้าพนักงาน
ตำรวจรับใช้ระบอบทรราช เป็นเรื่องน่าสนใจที่สุด ณ เวลานี้

ซึ่งเป็นการเป็นยื้อแย่งเพื่อให้มาซึ่งอำนาจรัฐ ของประชาชน
เจ้าของอำนาจที่แท้จริง กับรัฐบาลที่ได้รวบรวมจัดซื้อจัดหาอำนาจ
จากประชาชนมา เพื่อใช้ควบคุมประเทศด้วยเล่ห์ทางเมือง

แต่วันหนึ่ง รัฐบาลใช้อำนาจประชาชนจนเกินขอบเขต
ประชาชนเจ้าของอำนาจหลายกลุ่มทั่วประเทศจำนวนหลาย
ล้านคน เกิดรู้เท่าทันและสุดทนต่อการลุแก่อำนาจ จึงลุกฮือ

ขึ้นในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน ทั้งใน กทม.และต่างหวัด ด้วยจุดประสงค์
ขออำนาจคืน ด้วยเสียงหวีดกับหัวใจที่รักชาติและความยุติธรรม

เป็นกรณีที่น่าให้เวลาในการศึกษา มากกว่าเรื่องดาวหาง 100 เท่า

 

สิ่งที่ผมพิมพ์ลงไปต้องเข้าใจอยู่แล้วเป็นธรรมดาตามหลักศาสนาว่า ต้องมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ต้องมีคนเชื่อและไม่เชื่อ ต้องมีคนชอบและไม่ชอบเป็นปกติธรรมดา แต่ผมรู้ตัวเองว่าผมไม่ชอบการโกหก สุดแต่ท่านจะพิจารณากันเอาเองครับ

 

ดีเเล้วที่เธอสนใจทั้งการเมือง เเละศาสนา
ใครก็ตามสนใจทั้ง 2 เรื่อง ได้อย่างถูกต้องถูกตรง
จริงเเท้ ย่อมเป็นพลเมืองเกรด A ของชาติ

 

เเต่ถ้าผิดพลาด ด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งก็ย่อมจะผิดไปด้วย
เเต่หากเข้าใจผิดด้านศาสนา การด้านเมือง
ย่อมไปไกลจนกู่ไม่กลับ

ดังนั้น ต้องเเน่ใจว่าตนเองไม่พลาดเเน่นะ

 

ดูข่าวที่หน้าราม เมื่อเช้า เห็นเขานำเสนอภาพนักศึกษา หน้าตายังกะโจรใต้ คิดว่า ถ้าตำรวจอยากจับโจรใต้ไปดูที่หน้ารามเถอะ สังเกตไหม ช่วงนี้ภาคใต้ทำไมเงียบไปเรื่องระเบิดการวางระเบิดลอบฆ่าทหารตำรวจ นี้แหละทำให้อดคิดไม่ได้ที่ภาคใต้มันวุ่นวายทุกวันนี้เป็นฝีมือนักการเมืองและพรรคการเมือง และอดคิดต่อไปไม่ได้ว่าหัวหน้าม็อบเอาโจรมาสุมกำลังไว้ที่รามเพื่อก่อความวุ่นวายใน กทม.

 

เธอมีทัศนคติเเปลกๆ เลยไม่อาจมองสถานการณ์ได้ถูกตรง
เเละเกณฑ์การตัดสินคนคีไม่ดี ใครเขาวัดกันที่น่าตา ยศ ศักดิ์
เกณฑ์ของเธอเอาไป ใช้ในการตัดสินลิงยังไม่ได้เลย

ทัศนะเเบบนี้ วิเคราห์อะไรก็เบี่ยงเบนเเบบบริสุทธิ์ใจ

 

เกิดแผ่นดินไหว 6.3 ริกเตอร์ในอินโดนีเซีย แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต​

​

จาการ์ตา 2 พ.ย.- เกิดแผ่นดินไหวตื้นขนาด 6.3 ริกเตอร์ในหลายพื้นที่ทางตะวันออกของอินโดนีเซียเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐรายงานว่า แผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองซาอุมลากี ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งในจังหวัดโมลุกกะ ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 343 กิโลเมตร โดยอยู่ลึกลงไปใต้ทะเลราว 9 กิโลเมตร

ด้านสำนักอุตุนิยมวิทยา แผ่นดินไหวและธรณีฟิสิกส์ของอินโดนีเซียระบุว่า เบื้องต้นแผ่นดินไหวครั้งนี้มีขนาด 6.7 ริกเตอร์ แต่ไม่มีแนวโน้มว่าจะทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ

อินโดนีเซียซึ่งเป็นหมู่เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลกเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งเนื่องจากภูมิประเทศตั้งอยู่บนวงแหวนแห่งไฟในมหาสมุทรแปซิฟิกซึ่งเป็นแนวเคลื่อนตัวของเปลือกโลกในแอ่งมหาสมุทรแปซิฟิก ในปี 2557 แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งจังหวัดอาเจะห์ ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิซึ่งคร่าชีวิตประชาชนราว 230,000 คนในหลายสิบประเทศ โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดอาเจะห์.

สำนักข่าวไทย TNA News | 2 ธ.ค. 2556 09:58 |

จีนส่งเครื่องบินขึ้นสกัดเครื่องบินสหรัฐและญี่ปุ่นในเขตป้องกันทางอากาศ​

​

ปักกิ่ง 30 พ.ย.- สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า จีนได้ส่งฝูงบินขับไล่ขึ้นสกัดเครื่องบินสอดแนมของสหรัฐ 2 ลำและเครื่องบินญี่ปุ่น 10 ลำ ที่บินเข้ามาในเขตแสดงตัวเพื่อการป้องกันทางอากาศเหนือทะเลจีนตะวันออก

ซินหัวอ้างโฆษกกองทัพอากาศว่า การขึ้นสกัดเมื่อวันพฤหัสบดีเป็นการบินสังเกตการณ์ตามมาตรการป้องกันและเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติสากล แต่ไม่ได้รายงานรายละเอียดเพิ่มเติม ด้านญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เครื่องบินของกองทัพทั้งสองประเทศได้บินผ่านเขตดังกล่าวที่ครอบคลุมน่านฟ้าเหนือหมู่เกาะที่มีข้อพิพาทเรื่องการอ้างสิทธิทับซ้อนกับจีน ขณะที่สหรัฐยืนยันเมื่อวันศุกร์ว่า เครื่องบินสหรัฐบินผ่านเขตดังกล่าวตามปกติ หลังจากเครื่องบินทิ้งระเบิดบี 52 บินผ่านเมื่อต้นสัปดาห์

ขณะเดียวกันโฆษกกระทรวงกลาโหมจีนกล่าวว่า เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนที่ว่าจีนจะยิงเครื่องบินที่บินเข้าเขตป้องกันทางอากาศโดยไม่แสดงตน หลังจากจีนประกาศตั้งเขตดังกล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาและกำหนดให้เครื่องบินต่างชาติต้องแสดงตนต่อทางการจีน.

สำนักข่าวไทย TNA News | 30 พ.ย. 2556 09:42 |

นครเซี่ยงไฮ้จะปิดตลาดขายสัตว์ปีกหลังมีกระแสหวาดกลัวไข้หวัดนก​

​

ปักกิ่ง 2 ธ.ค.- สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นครเซี่ยงไฮ้จะระงับการซื้อขายสัตว์ปีกมีชีวิตตั้งแต่วันที่ 31 มกราคมปีหน้า ซึ่งเป็นวันตรุษจีนไปจนถึงวันที่ 30 เมษายนเพื่อป้องกันไม่ให้ไข้หวัดนกกลับมาระบาดใหม่อีกครั้ง

แถลงการณ์ร่วมระหว่างคณะกรรมาธิการการเกษตรนครเซี่ยงไฮ้และคณะกรรมการพาณิชย์นครเซี่ยงไฮ้ระบุว่า จะมีการระงับการซื้อขายสัตว์ปีกมีชีวิตทุกปีตลอดช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยขึ้นอยู่กับการประเมินผลและการเตือนภัยไข้หวัดนกและการเริ่มฤดูกาลไข้หวัดนกระบาด

รายงานระบุว่า ตลาดขายปลีกและขายส่งที่ทางการกำหนดทุกแห่งจะถูกสั่งห้ามซื้อขายสัตว์ปีก หากฝ่าฝืนจะต้องถูกปรับระหว่าง 10,000-30,000 หยวน (ราว 50,800-152,600 บาท) ภายใต้กฎระเบียบใหม่ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่วนพ่อค้าแม่ค้าที่ไม่มีใบอนุญาตและขายสัตว์ปีกในช่วงดังกล่าวจะถูกลงโทษ สัตว์ปีกจากเมืองและมณฑลอื่นๆ จะต้องถูกส่งไปยังโรงเชือดและไม่สามารถนำเข้ามาที่ตลาดท้องถิ่นโดยตรง นอกจากนี้ทางการยังขอให้ประชาชนรายงานเกี่ยวกับการลักลอบซื้อขายสัตว์ปีกผ่านทางสายด่วนของสำนักงานการจัดการอุตสาหกรรมและการค้านครเซี่ยงไฮ้ สำนักงานการอาหารและยานครเซี่ยงไฮ้ คณะกรรมาธิการการเกษตรนครเซี่ยงไฮ้และสำนักงานการจัดการเขตเมืองนครเซี่ยงไฮ้

ทั้งนี้ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา นครเซี่ยงไฮ้ได้สั่งปิดตลาดขายสัตว์ปีกทั้งหมดในนครเซี่ยงไฮ้หลังจากมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนกเอช7เอ็น9 จำนวน 43 รายในจีน และได้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวในเดือนมิถุนายนและมีตลาดสัตว์ปีกราว 110 แห่งที่กลับมาเปิดค้าขายตามปกติ ก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่ไข้หวัดนกเอช7เอ็น9 อาจกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งและแนะให้ทางการสั่งห้ามซื้อขายสัตว์ปีกทั้งหมด

จีนแผ่นดินใหญ่มีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช7เอ็น9 จำนวน 5 รายในช่วงฤดูใบไม้ร่วง โดยผู้ป่วย 3 รายอาศัยอยู่ในมณฑลเจ้อเจียง คณะกรรมการสาธารณสุขและการวางแผนครอบครัวแห่งชาติระบุว่า ในจีนแผ่นดินใหญ่มีรายงานผู้ติดเชื้อไข้หวัดนก 134 รายนับจนถึงสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยในจำนวนดังกล่าวเสียชีวิต 45 ราย.

สำนักข่าวไทย TNA News | 2 ธ.ค. 2556 14:07 |

ที่มา www.mcot.net

 

บัณฑิตย่อมไม่เพ่งโทษผู้อื่น​

(คำสอนจากสมเด็จพระญาณสังวรฯ)​

​

พระพุทธภาษิตบทหนึ่งกล่าวว่า “บัณฑิตย่อมไม่เพ่งโทษผู้อื่น”

อัญเชิญพระพุทธภาษิตนี้มาช่วยประเทศชาติของเราเถิด ถึงเวลาแล้วอย่าปล่อยให้สายเกินไป รู้อยู่แก่ใจ ว่าบ้านเมืองกำลังวุ่น กำลังร้อน อย่าไปมัวเพ่งโทษคนนั้นคนนี้ว่าไม่ดีอย่างนั้น ไม่ดีอย่างนี้ ควรทำอย่างนั้น ควรทำอย่างนี้

โดยมิได้นึกถึงตนเองเลยว่าต้องทำอย่างนั้น ต้องทำอย่างนี้ ที่เป็นบุญกุศล ไม่เป็นบาปไม่เป็นอกุศล แล้วทำตามที่คิดในทันที การมัวไปเพ่งโทษคนอื่นว่าทำผิดอย่างนั้น ทำไม่ดีอย่างนี้ นอกจากไม่ให้คุณแก่ใครแล้ว ไม่ช่วยประเทศชาติให้ร่มเย็นเป็นสุข

มีพระพุทธภาษิตเตือนไว้ว่า “บัณฑิตย่อมไม่เพ่งโทษผู้อื่น” เพราะไม่มีคุณสมบัติ มีแต่โทษสถานเดียว

ทุกคนน่าจะพยายามอยากเป็นบัณฑิตตามพระพุทธพจน์ พร้อมกับไม่ลืมนึกไปพร้อมกันด้วยว่า “บัณฑิตย่อมไม่เพ่งโทษผู้อื่น” และขณะนี้กำลังอ่านหนังสืออบรมจิตใจ เรียกว่าหนังสือธัมมะก็ไม่ผิด

เมื่อกล่าวถึงบัณฑิตจึงเป็นบัณฑิตทางธรรมด้วย คือเป็นคนดีมีปัญญา ไม่มีการศึกษาระดับปริญญาเอกโท ตรี เลยก็เป็นบัณฑิตในพระพุทธศาสนาได้ แม้เป็นคนดีมีปัญญา แต่แม้มีปริญญาเอก โท ตรี แต่ไม่มีความดีไม่มีปัญญา คือไม่ใช่คนดีมีปัญญา ก็ไม่ใช่บัณฑิตในทางธรรมในพระพุทธศาสนา

เมื่อนึกเช่นนี้ขึ้นมา ก็ทำให้นึกเลยไปจนได้ความคิดมาฝากให้เป็นประโยชน์แก่พวกเราทั้งหลาย นั่นก็คือเกิดความคิดเพ่งโทษผู้อื่นเมื่อใด ให้มีสติรับรู้ความจริง และบอกความจริงนั้นแก่ตนว่า ตนไม่ใช่บัณฑิต เพราะถ้าตนเป็นบัณฑิตก็คงไม่ไปเพ่งโทษคนนั้นคนนี้ ต้องเพ่งโทษตัวเองเท่านั้น

ก็ขอฝากไว้ให้พยายามมีสติระลึกรู้ความจริงนี้ไว้เสมอ ว่าตนเป็นบัณฑิตหรือไม่ใช่บัณฑิต อายตัวเองหรือไม่อาย เมื่อรู้แก่ใจว่าตนไม่ใช่คนดีมีปัญญา มีบุญได้เกิดเป็นมนุษย์ พบพระพุทธศาสนา ยังไม่ปฏิบัติตามที่สมเด็จพระบรมครูทรงสอน

: แสงส่องใจ อาสาฬหบูชา ๒๕๔๗
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

ที่มา www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=12831

 

"พอล วอล์คเกอร์"เสียชีวิตแล้ว !!!​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=eT1XVFRKs_0]เสียชีวิตแล้ว! "พอล วอล์คเกอร์" พระเอก Fast And The Furious - YouTube[/ame]
พอล วอล์คเกอร์ นักต่อสู้บรรเทาภัยพิบัติทั่วโลก เสียชีวิตโดยองค์กรลับ?

เขามีทีมสำหรับช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมสำหรับผู้ประสบภัยทั่วโลก เขาเผยแพร่บทความการกระทำอันสกปรกของบางองค์กร ที่หน้าฉากบอกว่าช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ประสบภัยพิบัติ แต่หลังฉากคือฆาตกร!

เมื่อเขารู้ความลับบางอย่าง รู้ว่ามีบางอย่างถูกผสมในอาหารที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ และเผยแพร่บทความต่อต้านองค์กรนั้น? .. การถูกสั่งฆ่าจึงมีขึ้นโดยวิธีคล้ายกันกับที่ใช้กับเจ้าหญิงไดอาน่า

อ่านทั้งหมดตามลิ้งค์
The Cause That Paul Walker Remained Dedicated to Until the Moment of His Death | Mother Jones

ที่มา https://www.facebook.com/pages/ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล/448042111925451

 

คำทำนายของข้าพเจ้า......

วันนี้ บ.ช.น. แตกครับ

ถ้าผิดมารุมได้เลย

 

เหล่าบัณฑิตที่มี"ดวงตาเป็นไท ดวงใจเห็นธรรม"
สังคมไทย ก็ยังต้องการเป็นอย่างมาก

และต้องการให้บัณฑิตเหล่านี้
เข้ามามีส่วนในการจัดการ
ประเทศของเขา ให้พ้นจาก
การครอบงำของคนที่
ไม่รู้ธรรมะ ข้อ"กตัญญูู รู้คุณชาติและแผ่นดิน"

 

กำลังนี้ ประเทศต้องการคนที่รู้จัก การจำแนกระหว่างความดีงามความถูกต้อง
กับความชั่วร้าย หรือระหว่างธรรม กับ อธรรม
หากแยกแยะตรงนี้ได้โดยปราศจากคติ และมีใจเป็นธรรม

ก็จะเป็นการก้าวข้ามเรื่องการเพ่งโทษผู้อื่นไปได้โดยปริยาย


ดังนั้น ก็ชอบแล้วที่กลุ่มคนที่มีดวงตาเป็นไทย ดวงใจเป็นธรรม
นับแสน นับล้าน พากันออกมาเคลื่อนไหว เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า

"กลุ่มคนที่ปฏิเสธอำนาจศาล หรือกลุ่มที่สนับสนุนการปฏิเสธ
อำนาจศาลใดๆ ไม่ควรดำรงฐานะเป็นผู้ที่ใช้กฎหมายที่ตนเองปฏิเสธ
มาบังคับให้ ผู้อื่นปฏิบัติตามกฎหมายนั้น ใครจะมา
สมัครใจเชื่อ และปฏิบัติตาม!!!"

ทั้งนี้ กลุ่มกองทัพนกหวีดประชาชน ที่เคารพกฎหมายรัฐธรรมนูญ
รักแผ่นดิน รักในหลวงก็ไม่มีเวลามานั่งเพ่งโทษใคร???เพราะ
ต้องรวบรวมความหาญกล้า และจิคใจที่เข้มแข็ง

มุ่งมั่น ผนึกกำลังเข้าร่วมกันเพื่อปกป้องชาติ และรัฐธรรมนูญ
ด้วยการใช้เวลาไปต่อกรกับกองกำลัง
ของฝ่ายอธรรม ที่ใช้อาวุธแก๊สน้ำตา
และอาวุธอื่นๆ ด้วยนกเสียงนกหวีด
กับสติปัญญา

เพียงหวังให้ได้อำนาจของประชาชน
คืนกลับมาสู่ประชาชนอีกครั้ง และร่วมกันใช้อำนาจนั้น
ปฏิรูปสังคมใหม่ ให้เต็มสมบูรณ์ด้วยความถูกต้องและ
เป็นธรรม
อันจะนำมาซึ่งความสงบ สันติ กลับคืนสู่ประเทศ

 

ประมาณนี้

 

........เย้ๆๆๆ ชอบๆ .....เอาอีกๆๆ

 

สธ.เตือนระวัง 6 โรคหน้าหนาว ปีที่แล้วพบผู้ป่วย 4.7 แสนราย​

​

กระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศแนะนำประชาชนในการดูแลสุขภาพ ป้องกันการเจ็บป่วยจาก 6 โรคที่พบบ่อยในฤดูหนาว ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม หัด อีสุกอีใส มือเท้าปาก อุจจาระร่วง เผยฤดูหนาวปีที่ผ่านมา พบป่วย 4.7 แสนราย เสียชีวิต 355 ราย ขอความร่วมมือประชาชนยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง แนะหากป่วยเป็นไข้หวัด 2 วัน อาการไม่ดีขึ้น ให้รีบพบแพทย์

นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงจะทำให้เจ็บป่วยได้ง่ายหากร่างกายปรับตัวไม่ทัน สภาพที่อากาศชื้น หนาวเย็น ทำให้เชื้อโรคหลายชนิดโดยเฉพาะเชื้อไวรัสเจริญเติบโตได้ดี มีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานขึ้น ได้ให้กรมควบคุมโรคออกประกาศแจ้งเตือน การป้องกันโรคที่มักเกิดขึ้นในฤดูหนาวไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุข ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชนในการดูแลสุขภาพ ป้องกันการเจ็บป่วยจาก 6 โรคที่พบบ่อยในฤดูหนาวทุกปี ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม หัด อีสุกอีใส มือเท้าปาก และอุจจาระร่วง รวมทั้งช่วยกันป้องกันอันตรายจากการดื่มเหล้าแก้หนาว เพราะประชาชนบางส่วนยังมีความเชื่อว่า การดื่มเหล้าจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นร่างกาย แก้หนาวได้ ไม่ต้องสวมเสื้อผ้าให้อบอุ่นก็ได้ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดและเป็นอันตรายมาก ทำให้มีข่าวเสียชีวิตทุกปี

นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ช่วงฤดูหนาวปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2555-กุมภาพันธ์ 2556 สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานพบผู้ป่วย 6 โรคฤดูหนาวรวม471,172 ราย เสียชีวิต 355 ราย โรคที่มีความรุนแรงมากที่สุด คือปอดบวม เสียชีวิต 350 ราย จากที่ป่วยทั้งหมด 64,155 ราย รองลงมาคือไข้หวัดใหญ่ป่วย 23,255 ราย เสียชีวิต 1 ราย อุจจาระร่วง 351,611 ราย เสียชีวิต 4 ราย โรคมือเท้าปาก 13,823 ราย โรคอีสุกอีใส 17,251 ราย และโรคหัด 1,077 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเป็นเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น หอบหืด โรคปอดเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคตับ โรคไต เบาหวาน โรคโลหิตจาง เนื่องจากมีภูมิต้านทานโรคต่ำ จึงติดเชื้อง่าย และอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไป

ดังนั้นจึงขอให้ผู้ที่มีความเสี่ยงป่วยง่าย ไม่คลุกคลีใกล้ชิดและไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้ป่วยที่เป็นหวัด ไอ จาม เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ จาน โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กเล็ก รวมทั้งมีผู้ป่วยที่อยู่ในความดูแลเช่นผู้ป่วยอัมพาต ผู้สูงอายุที่ป่วยและช่วยตัวเองไม่ได้ ขอให้เพิ่มการดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ จุดที่ต้องเพิ่มความอบอุ่นเป็นพิเศษคือ ศีรษะ คอ และหน้าอก

นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การป้องกันการเจ็บป่วยจากโรคต่าง ๆ ในฤดูหนาว ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง โดยออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาทีสัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และเพิ่มผัก ผลไม้สด ซึ่งมีวิตามินซี จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรคได้ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ไม่หักโหมทำงานหามรุ่งหามค่ำ เนื่องจากจะทำให้เกิดความอ่อนเพลีย สวมเสื้อผ้าหนา ๆ หรือสวมเสื้อหลาย ๆ ชั้น เพื่อรักษาร่างกายให้อบอุ่น

ในการป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อ ให้ประชาชนยึดหลักปฏิบัติ คือให้กินร้อน ช้อนกลาง และล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ขอให้ประชาชนกระตุ้นสมาชิกในครอบครัว หรือหากเป็นโรงเรียน ขอให้ครูฝึกและกระตุ้นให้นักเรียนปฏิบัติให้ติดเป็นนิสัย การล้างมือจะขจัดเชื้อโรคที่ติดมากับมือออกไปได้ถึงร้อยละ 80 และให้สังเกตอาการป่วย หากเป็นไข้หวัดหรือป่วยมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยเนื้อตัว อ่อนเพลีย เจ็บคอ ไอ ให้นอนพักอยู่บ้าน หาก 2 วันแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ยังมีไข้สูง หรือมีอาการหายใจลำบาก หายใจเร็ว หอบเหนื่อย โดยเฉพาะเด็กเล็กหายใจมีเสียงหวีด ซี่โครงบุ๋ม ขอให้นึกถึงโรคปอดบวม ซึ่งเป็นโรคที่มีอันตรายสูง ขอให้รีบไปพบแพทย์ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านทันที หากเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ควรใช้ผ้าปิดปากและจมูกเวลาไอจาม ไม่คลุกคลีกับผู้อื่น รวมทั้งขอให้กลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไปรับบริการที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการดื่มสุรา สูบบุหรี่ และยาเสพติดต่างๆ เนื่องจากเป็นสิ่งทำลายสุขภาพ ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง โดยเฉพาะการดื่มสุราเพื่อหวังแก้หนาวเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง การดื่มสุราระยะแรกจะทำให้ร่างกายร้อนวูบวาบเนื่องจากหลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัวจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ความร้อนจะถูกระบายออกจากร่างกายมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว และทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดต่ำลง ระบบไหลเวียนเลือดหนืดขึ้น อาจเสียชีวิตได้ และหากดื่มหนักฤทธิ์แอลกอฮอล์จะกดประสาทส่วนกลางทำให้เมา หลับไม่รู้สึกตัว โดยเฉพาะถ้ามีเครื่องนุ่งห่มให้ความอบอุ่นไม่เพียงพอ ร่างกายตากอากาศเย็นเป็นเวลานานอาจเสียชีวิตได้เช่นกัน.

โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
3 พฤศจิกายน 2556, 19:19 น.

ที่มา สธ.เตือนระวัง 6 โรคหน้าหนาว ปีที่แล้วพบผู้ป่วย 4.7 แสนราย - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ผู้ประท้วงในยูเครนยึดที่ทำการรัฐบาล​

​

เคียฟ 2 ธ.ค. - ประชาชนหลายพันคนในยูเครนปิดกั้นทางเข้าอาคารรัฐบาล พร้อมเรียกร้องนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลลาออกจากตำแหน่ง ขณะที่ความไม่พอใจที่มีต่อการตัดสินใจของประธานาธิบดีเพื่อยกเลิกข้อตกลงกับสหภาพยุโรป ส่งผลต่อบางส่วนในยูเครนและการบริหารประเทศของเขาด้วย

การยึดที่ทำการรัฐบาลภายหลังเหตุประท้วงใหญ่ในกรุงเคียฟที่มีผู้เข้าร่วมหลายแสนคนเมื่อวันอาทิตย์และโดยส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสันติ จนกระทั่งกลุ่มผู้ประท้วงพยายามบุกทำเนียบประธานาธิบดีวิคตอร์ ยานูโควิช หลังชุลมุนกันนานหลายชั่วโมงตำรวจจึงใช้แก๊สน้ำตาและกระบองเข้าสลายผู้ชุมนุม ซึ่งถือเป็นการใช้ความรุนแรงของตำรวจกับผู้ประท้วงเมื่อเช้าวันเสาร์ ยิ่งทำให้ผู้ประท้วงออกมามากขึ้นเพื่อให้ประธานาธิบดีและรัฐบาลลงจากตำแหน่ง สมาชิกสภาอย่างน้อย 3 คนในพรรครัฐบาลลาออกเพื่อประท้วงแล้ว

กลุ่มผู้ประท้วงต้องการขับคณะรัฐบาลนายกรัฐมนตรีมิคอลา อาซารอฟออกจากตำแหน่งในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาวันอังคารนี้ ซึ่งฝ่ายค้านมีอยู่ราว 170 เสียงและจะต้องได้ 226 เสียงในการลงมติในสภาทั้งหมด 450 ที่นั่งเพื่อให้ยุบสภา อย่างไรก็ตามโฆษกนายกรัฐมนตรีไม่ได้กล่าวว่า นายอาซารอฟเข้าทำเนียบนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ แต่ยังไม่คิดประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งนี้ทางภาคตะวันตกของยูเครนส่วนใหญ่พูดภาษายูเครนและโน้มเอียงไปทางสหภาพยุโรป

สำนักข่าวไทย TNA News | 2 ธ.ค. 2556 17:01 |

เหตุไฟดับทำให้เมืองหลวงเวเนซุเอลาตกอยู่ในความมืด​

​

การากัส 3 ธ.ค.-ผู้อยู่อาศัยกล่าวว่า เหตุไฟฟ้าดับทำให้กรุงการากัสเมืองหลวงของเวเนซุเอลาและเมืองอื่น ๆ ตกอยู่ในความมืดเมื่อค่ำวันจันทร์

ที่ผ่านมาเวเนซุเอลาเผชิญกับปัญหาไฟฟ้าดับทั่วประเทศอยู่เป็นระยะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ที่กรุงการากัสยังไม่ถึงกับประสบปัญหาไฟดับครั้งใหญ่ เหตุการณ์ไฟดับมักเป็นเพราะมีการปันส่วนแบ่งการใช้ไฟฟ้า หรือไฟฟ้าขัดข้องในเวเนซุเอลา ไม่กระทบโรงกลั่นน้ำมันซึ่งใช้โรงไฟฟ้าแยกกัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีเหตุไฟดับตามเมืองหลายแห่งเมื่อเดือนกันยายน.

สำนักข่าวไทย TNA News | 3 ธ.ค. 2556 10:49 |

ตำรวจแอลเอชี้การขับรถเร็วเป็นสาเหตุหนึ่งที่คร่าชีวิตพระเอกฟาสต์แอนด์ฟิวเรียส​

​

แอลเอ 2 ธ.ค.- ตำรวจนครลอสแอนเจลิส (แอลเอ) ของสหรัฐระบุว่า การขับรถด้วยความเร็วสูงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พอล วอล์กเกอร์ พระเอกภาพยนตร์ชื่อดังฟาสต์แอนด์ฟิวเรียสเสียชีวิตพร้อมเพื่อนเนื่องจากรถพุ่งชนเสาและระเบิดไฟลุกท่วม

ตำรวจแอลเอแถลงว่า วอลก์เกอร์วัย 40 ปี และเพื่อนที่เป็นคนขับ เสียชีวิตคาที่ที่เขตเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนียเมื่อบ่ายวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้นและสันนิษฐานว่าการขับรถด้วยความเร็วสูงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าว แต่ยังไม่ทราบว่ารถแล่นด้วยความเร็วเท่าไหร่ในขณะประสบเหตุ

อย่างไรก็ดี ตำรวจไม่ยืนยันรายงานของหนังสือพิมพ์ลอสแอนเจลิสที่ว่า ผู้ขับรถพอร์ชคาร์เรราจีทีปี 2005 สีแดงที่เกิดเหตุคือ นายโรเจอร์ โรดาส วัย 38 ปี เจ้าของออลเวย์สอีโวลวิง บริษัทตัวแทนจำหน่ายรถและบริการแข่งรถ

สำนักข่าวไทย TNA News | 2 ธ.ค. 2556 09:46 |

รองประธานาธิบดีสหรัฐเยือนเอเชียท่ามกลางความตึงเครียดเรื่องเขตน่านฟ้าของจีน​

​

วอชิงตัน 2 ธ.ค. - นายโจ ไบเดน รองประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทวีความตึงเครียดกรณีเขตระบุตัวตนเพื่อการปกป้องภัยทางอากาศที่จีนเพิ่งประกาศใช้

รายงานระบุว่า เครื่องบินแอร์ฟอร์ซทูของรองประธานาธิบดีสหรัฐเดินทางถึงเมื่อเวลา 17.03 น.วันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น (05.03 น.วันจันทร์ตามเวลาไทย) โดยมีกำหนดกลับกรุงวอชิงตันในวันที่ 7 ธันวาคม

ทำเนียบขาวสหรัฐแถลงว่า ระหว่างการเยือนกรุงปักกิ่ง นายไบเดนจะเน้นเกี่ยวกับข้อกังวลต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาค นอกจากนี้ระหว่างการเยือนญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ นายไบเดนยังมีแผนเน้นย้ำถึงแสนยานุภาพของสหรัฐในฐานะมหาอำนาจแห่งแปซิฟิก และย้ำพันธกรณีในการถ่วงดุลนโยบายต่างประเทศของสหรัฐต่อภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารระดับสูงของสหรัฐกล่าวว่า นายไบเดนมีแผนแสดงความกังวลของรัฐบาลสหรัฐเกี่ยวกับเขตระบุตัวตนเพื่อการปกป้องภัยทางอากาศของจีน และต้องการความชัดเจนเกี่ยวกับเจตนาของจีนในการประกาศใช้เขตน่านฟ้าดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น กล่าวว่า จะหารือประเด็นดังกล่าวกับนายไบเดนที่กรุงโตเกียว หลังจากญี่ปุ่นตอบโต้โดยการไม่ยอมรับการประกาศใช้เขตน่านฟ้าดังกล่าวของจีน

นอกจากนี้ รายงานระบุว่านอกเหนือจากการพบปะกับผู้นำของญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ นายไบเดนจะพูดคุยกับบรรดาตัวแทนภาคประชาสังคม โดยจะพบปะกับกลุ่มสตรีที่บริษัทเทคโนโลยีในกรุงโตเกียว และจะฉลองครบรอบ 60 ปีที่สหรัฐเป็นพันธมิตรกับเกาหลีใต้ และกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยยอนเซในกรุงโซลด้วย

สำนักข่าวไทย TNA News | 2 ธ.ค. 2556 14:54 |

ที่มา www.mcot.net

 

ข่าวโลกแตก และข่าวดาวหาง ในประเทศไทยยังมีแต่ไม่แรง
เท่าข่าวประชาชนต่อสู้เพื่อขออำนาจอธิปไตยคืน กลับมาสู่ประชา
เพื่อร่วมกันจัดการด้วยมือของประชาชนเอง......
ไม่ให้สัมปทานนักการเมืองไปทำอีกแล้ว.....
ให้ทำทีไรประชาชนขาดทุนทุกที

นักการเมืองกับบริวารผู้สัมปทานอู้ฟู่!!!!

 

ลิขิตที่สาบสูญของนอสตราดามุส !!!​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=c7AO2ntn_sM]TSN ลิขิตที่สาบสูญของนอสตราดามุส 1- YouTube[/ame]
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=fPl7xgZzGt8]TSN ลิขิตที่สาบสูญของนอสตราดามุส 2-YouTube[/ame]
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=a0XrVyzJgsg]TSN ลิขิตที่สาบสูญของนอสตราดามุส 3-YouTube[/ame]

อัปโหลดเมื่อ 30 ต.ค. 2011​

 

จากการติดตามได้พบว่า
*****ความคิดเห็นของมวลชนฝ่ายธรรม ก็มีความแตกต่างกันภายใน แต่ไม่ถึงกับดำเป็นขาวหรือขาวเป็นดำ

*****ความคิดเห็นมวลชนฝ่ายอธรรม จะมีความต่างกันภายในแบบ
ดำเป็นขาวและขาวเป็นดำ เช่น การตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
ว่าขอปฎิเสธอำนาจตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญกรณีตัดสินว่ากระทำการ
ขัดต่อรัฐธรรมนูญ คนนั่งหังโต๊ะ(จารุพงศ์หน.พรรคและมท.1)แถลงขึงขัง ต่อมา
ประชา ศอ.รส.แถลงหน้าสื่อว่ารัฐบาลไม่เคยแถลงปฏิเสธอำนาจศาล
แล้วต่อมาประชาก็เด้งจาก ศอ.รส.เป็นความเห็นต่างภายในกลุ่มและมีผล
ให้ต้องเสียอำนาจไปทันที ตกกระป๋องทันที

แบบนี้จึงสมควรเรียกความเห็นต่าง

 

ส่วนความคิดเห็นของฝ่ายนิยมเศรษฐกิจพอเพียง กับ ฝ่ายนิยมทุนสามานย์
(ทุนทำร้าย ทำลายชาติ ทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทำลายความซื่อสัตย์
ทำคนสิ้นศักดิ์ศรีขายตัวขายวิญาณ)

โอกาสที่จะไปบรรจบกันนั้นไม่มี เว้นแต่ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้อง
ปฏิรูปความคิดแบบยกกะบิ