ใครตอบไม่ได้คนนั้นไม่มีวันที่จะบรรลุธรรมได้ สติคืออะไร?

มหาสติปัฏฐานสูตร สติแบบนี้ละที่พระพุทธองค์ทรงสอนไห้เจริญ

เดี๋ยวๆๆ สติใครๆเค้าก็มีกัน เป็นเรื่องธรรมดา ฝึกฝนกันได้

สติมันมีหลายระดับ

สติปัฏฐาน 4.. เป็นหลักธรรมที่อยู่ในมหาสติปัฏฐานสูตร[1]..ตามพระไตรปิฏก

.. เป็นข้อปฏิบัติเพื่อรู้แจ้ง คือเข้าใจตามเป็นจริงของสิ่งทั้งปวงโดยไม่ถูกกิเลสครอบงำ สติปัฏฐานมี 4 ระดับ คือ กาย เวทนา จิต และ ธรรม
คำว่าสติปัฏฐานนั้นมาจาก (สร ธาตุ + ติ ปัจจัย + ป อุปสัคค์ + ฐา ธาตุ) แปลว่า สติที่ตั้งมั่น, การหมั่นระลึก, การมีสัมมาสติระลึกรู้นั้นพ้นจากการคิดโดยตั้งใจ แต่เกิดจากจิตจำสภาวะได้ แล้วระลึกรู้โดยอัตโนมัติ โดยคำว่า สติ หมายถึงความระลึกรู้ เป็นเจตสิกประ​เภทหนึ่ง​ ส่วนปัฏฐาน ​แปล​ได้​หลายอย่าง​ ​แต่​ใน​ ​มหาสติปัฏฐานสูตร​ ​และ​ ​สติปัฏฐานสูตร​ ​หมาย​ถึง​ ​ความตั้งมั่น, ความแน่วแน่, ความมุ่งมั่น
โดยรวมคือเข้าไปรู้เห็นในสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง ตามมุ่งมองของไตรลักษณ์หรือสามัญลักษณะ โดยไม่มีความยึดติดด้วยอำนาจกิเลสทั้งปวง ได้แก่
กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน - การมีสติระลึกรู้กายเป็นฐาน ซึ่งกายในที่นี่หมายถึงประชุม หรือรวม นั่นคือธาตุ 4 ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟมาประชุมรวมกันเป็นร่างกาย ไม่มองกายด้วยความเป็นคน สัตว์ เรา เขา แต่มองแยกเป็น รูปธรรมหนึ่งๆ เห็นความเกิดดับ กายล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา
เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน - การมีสติระลึกรู้เวทนาเป็นฐาน ไม่มองเวทนาด้วยความเป็นคน สัตว์ เรา เขาคือไม่มองว่าเรากำลังทุกข์ หรือเรากำลังสุข หรือเราเฉยๆ แต่มองแยกเป็นนามธรรมอย่างหนึ่ง เห็นความเกิดดับ เวทนาล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา
จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน - การมีสติระลึกรู้จิตเป็นฐาน เป็นการนำจิตมาระลึกรู้เจตสิกหรือรู้จิตก็ได้ ไม่มองจิตด้วยความเป็นคน สัตว์ เรา เขา คือไม่มองว่าเรากำลังคิด เรากำลังโกรธ หรือเรากำลังเหม่อลอย แต่มองแยกเป็นนามธรรมอย่างหนึ่ง เห็นความเกิดดับ จิตล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา
ธรรมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน - การมีสติระลึกรู้สภาวะธรรมเป็นฐาน ทั้งรูปธรรมและนามธรรมล้วนมีความเกิดดับ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา

 

สติก็คือการระลึกรู้ สติควรระลึกรู้อะไรตรงนี้ผมว่าควรจะไปดูที่สติปัฏฐานสูตรซึ่งท่านแสดงไว้ ๔ ประการคือการระลึกรู้ในกาย๑ ระลึกรู้ในเวทนา๒ ระลึกรู้ในจิต๓ ระลึกรู้ในธรรมมารมณ์๔
เจริญในธรรมครับ

 

จะให้อธิบายสิ่งที่มันละเอียดกว่าคำพูด มันอธิบายลำบากนะ
อีกอย่าง อธิบายไปแล้วได้อะไร?
คนอ่าน ก็ใช่ว่าอ่านแล้วเกิดสติขึ้นมาได้นี่นะ

เอาละ ปากก็บอกว่าเทิดทูนพระพุทธองค์แต่ไอ้ที่พูดออกมานี่ฉีกพระไตรปิฏกกันเลยทีเดียว

พระปัจเจกพุทธเจ้าตรัสรู้ได้ยังไง?
พระพุทธองค์ตรัสรู้ได้ยังไง?
พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ก่อนตรัสรู้ ก็เป็นสัตว์(โพธิสัตว์ ก็คือยังเป็นสัตว์, สัตว์ในความหมายตามพระไตรปิฎกคือจิตที่ต้องเวียนว่ายตายเกิด เป็นพรหมชั้นสูงสุด พระพุทธองค์ก็เรียกว่าสัตว์)มาก่อน เคยหลงมาก่อน แล้วท่านมีสติได้ยังไง?

newamazing สิ่งใดมีอยู่ในธรรมชาติ สิ่งนั้นก็อยู่ตรงนั้นเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
อย่าไปดัดแปลงธรรมะให้มันพิสดารเกินกว่าความเป็นจริง อย่าไปคิดจินตนาการไขว่คว้าอะไร เพราะสิ่งที่มันมีอยู่ มันอยู่ตรงนั้นมาตลอด แต่ถ้าไม่เลิกปรุงแต่งค้นหา ก็จะไม่มีวันเห็นมัน

 

ท่านอินทรบุตร ท่านลืมไปแล้วเหรอครับเราอยู่ในยุคไหน เราอยู่ในยุคที่ปัญญาทั้งหลายเราต้องได้ยินได้ฟังจากพระพุทธองค์หรือสิ่งที่ตกทอดมาปัญญาเราถึงจะเกิด เราไม่สามารถเกิดพุทธปัญญาขึ้นมาเองนะครับ อย่าเอาเราไปเปรียบเทียบกับพระปัจจเจกพุทธเจาหรือพระพุทธเจ้าเลย เราเป็นผู้ต้องสดับครับ ท่านอธิบายว่าอย่าไรสติที่เกิดขึ้นกับท่านมันต้องอธิบายได้บางสิครับ เป็นธรรมทานครับ

 

นี่คือสิ่งที่เราได้เรียนรู้เท่านั้นเป็นสุตตะ จินตะ แต่สภาวะทั้งหมดของฐานทั้ง4นั้นเราต้องเขาไปรู้ชัดถึงสภาวะธรรมเหล่านั้นเราถึงจะเรียกว่ามหาสติซึ่งจะ่ก่อให้เกิดปัญญาสูงสุดทั้งสังขตธรรมและอสังขตธรรม

 

จำได้ว่าลุงขันธ์พูดถึง มหาสติ พี่เตชพโลพูดถึงสติอัตโนมัติ น่ะ แล้วนี่สติมันมีหลายอย่างรึเปล่า หรือมันเป็นเชือกเส้นเดียวหย่อนลงไปในบ่อมืด ยิ่งยาวยิ่งมองไม่เห็น แล้วก็ดึงขึ้นๆๆๆๆ ดูอีกทีว่าจะมีตัวอาไรติดมา จารองเท้าหรือว่า อ๊บๆ ฮ่าาา.......

 

สติอัตโนมัติ

 

สภาวะอย่างหนึ่ง ธรรมอย่างหนึ่ง ธรรมชาติอย่างหนึ่ง โอปนยิโก
คือ.............อ๋อเป็นอย่างนี้นี่เอง

 

สติ...ธรรมชาติของจิต (หรือตัวจริงของเรา) ก็รู้อยู่ ระลึกอยู่ แต่เมื่อสติขาด ก็ยังความไม่รู้แจ้งแก่ขันธ์ทั้งหลายทั้งมีชีวิต ไม่มีชีวิตให้เกิดขึ้น ตามภูมิธรรมที่สั่งสมมา เจือด้วยตัณหา อุปาทาน วนกันไปกันมาจน สติถึงพร้อมด้วยบารมี จึงประสานสติเข้ากับปัญญาที่รู้แจ้งด้วยวิปัสสนา ถึงพร้อมด้วยอริยสัจ ชาติภพจึงขาดลง ด้วยสตินั้นแล...แค่นี้มั้งคับ

"ธรรมทั้งหลาย เกิดขึ้นด้วยเหตุ พระพุทธเจ้าตรัสซึ่งเหตุนั้น"

 

พูดเหมือนยุคนี้ ไม่มีพระโพธิสัตว์ หรือผู้ที่เดินทางสายปัจเจกมาเกิดยังงั้นแหละ
ไม่รู้หรือว่า ผู้ที่เดินทางสายโพธิสัตว์ กับผู้ที่เดินสายปัจเจก ที่มาเกิดในยุคนี้ ก็กำลังสะสมเหตุปัจจัยแห่งการเกิดสติด้วยตนเอง อยู่

จะเหมาเอาหมดเลยเหรอว่า ดวงจิตที่มาเกิดเป็นมนุษย์ยุคนี้ ต้องบรรลุเป็นพระอรหันต์ในยุคของพระสมณโคดมอย่างเดียวเลยใช่ไหม?

ใจแคบเกินไปไหม newamazing?

 

มันเป็นลักษณะของการทรงฌานในชีวิตประจำวันไปด้วยในตัว

 

..อย่าหลงครับ..คุณ new ศาสนาพุทธ ของสมณะโคดมนั้น
จะหลุดพ้นด้วย.."ปัญญา"..เท่านั้น
:boo:ไม่ใช่.."สติ"..เข้าใจให้ถูกต้องครับ สาธุ
(สติ คือพื้นฐาน ที่ใช้สำหรับเรียนรู้ธรรม ให้แจ้งเท่านั้น)

 

ธรรมทั้งหลาย..มีอยู่แล้ว ในโลก เราตถาคตไม่ใช้ผู้สร้างแค่ค้นพบแล้วชี้ทางให้พวกท่านศึกษา..คุณNEW..อย่าเข้าใจผิด สติแค่ทำให้ระลึกรู้ ธรรมที่เคยเห็น-ได้ยิน-ได้ฟัง มาแล้วนำมาประมวลผลเองของคนๆนั้น จนแจ้ง..จนแจ้ง.. พุทธศาสนาเราจะ..หลุดพ้น.

(k)จะหลุดพ้นด้วย.."ปัญญา"..เท่านั้น
ไม่ใช่.."สติ"..เข้าใจให้ถูกต้องครับ สาธุ
(สติ คือพื้นฐาน ที่ใช้สำหรับเรียนรู้ธรรม ให้แจ้งเท่านั้น)

 

จิตที่มี " สติ " มาก จะสงบมาก จิตที่สงบมาก จะมีปัญญามาก

(รู้แค่นี้อ่ะ อย่างอื่นไม่รู้แล้ว)

 

ถ้าบารมีด้านอื่นมีพร้อมอยู่เเล้ว(เช่น มีสติระลึกรู้ดีอยู่เเล้ว)
เมื่อมาสดับข้อธรรมที่จำเป็นต่อการเข้าถึงมรรคผลนิพพาน
ผมว่าสามารถผ่านไปได้อยู่นะ ในยุคพุทธกาลน่าจะมีตัวอย่าง
ผู้รอบรู้กรุณาสงเคราะห์ให้ต่อไป

 

ใช่แล้วธรรมที่มีอยู่แล้วนั้นเอง แต่ธรรมที่ละเอียดที่ลึกซึ้งก็ไม่ได้ผลุดขึ้นกับทุกคนนะครับ ธรรมที่ละเอียดลึกซึ้งนั้นต้องมีกำลังของสติ สมาธิมากกว่าการตรึกนึกคิดธรรมดานะครับ ออกแรงกันหน่อยจะได้พบธรรมแท้ครับ

 

ใช่ครับหลุดพ้นด้วยปัญญาครับ แต่ปัญญาระดับนึกคิดนะมันไม่ไดหรอกครับ ตัวปัญญาที่มีกำลังนะมันอยู่ลึกละเอียด ต้องใชกำลังของสติ สมาํิธิครับ กายดับ เวทนาดับ จิตดับ ธรรมดับนั้นแหล่ะคุณสับสนถึงจะเข้าถึงสังขตะธรรมที่ไม่มีการเกิดดับ ปัญญาระดับนี้ครับถึงเอาอยู่ครับ

 

พระโพธิสัตว์ก็ยังสติไม่พุทธปัญญาสติก็บังไม่เกิดครับเป็นแค่การบำเพ็ญบารมีครับ และสติบารมีก็ไม่มีนะครับ ส่วนใครจะบรรลุเป้นพระอาหันต์ในยุคนี้ปัญญาจะต้องได้ฟังพุทธปัญญาของพระสมณโคดมเท่านั้น ส่วนโพธิสัตว์นั้นจะต้องค้นพบเองแต่ไม่ใช้ในยุคที่พระสัทธรรมของพระพุทธองค์ที่ทรงค้นพบนั้นยังทรงอยู่

 

เมื่อพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ มีพระ มีคน เดินตามพุทธเจ้าทุกวัน ฟังธรรมเทศนาทุกวันแต่สติไม่เกิดก็มี เช่น พระวักกลิ เดินตามทุกวัน แต่สติไม่เกิด ฯลฯ

บัดนี้พระพุทธเจ้าปรินิพพานล่วงแล้วได้ 2556 พรรษา ชาวพุทธจะได้ยินคำสอนของพระพุทธเจ้าแต่ที่ไหน จะมีก็เพียงอ่านตำราเอา อ่านแล้วตีความผิดสติก็ไม่เกิด อ่านแล้วไม่ลงมือปฏิบัติสติก็ไม่เกิด ปฏิบัติแล้ว แต่เป็นมิจฉาปฏิปทา สติก็ไม่เกิด

 

ไม่เข้าใจคำว่า "ดับ" ยังไงครับดับ

เอาเห็น "กายดับ" นี่ยังไง ตายหรือยังไง