ใครตอบไม่ได้คนนั้นไม่มีวันที่จะบรรลุธรรมได้ สติคืออะไร?

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย newamazing, 6 สิงหาคม 2013.

  1. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ใครตอบไม่ได้คนนั้นไม่มีวันที่จะบรรลุธรรมได้ สติคืออะไร?มีใครตอบบ้างครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 สิงหาคม 2013
  2. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ในสมัยพุทธกาล น่าจะมีพระอรหันต์จำนวนมาก ที่ขณะบรรลุธรรม ยังไม่สามารถตอบได้ว่า "สติ" คืออะไร
     
  3. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    เป็นไปไม่ได้เลยท่านอินทรบุตร
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ถามวันพระพอดีช่างได้จังหวะเลยนะครับ..
    เอาแค่หลักๆนะครับยังไม่ขอลงรายละเอียดแล้วกัน
    จากประสบการณ์ส่วนตัว...ทำให้พอแยกสติออกได้ อย่าง...


    ๑.คือ สติทางโลก.พูดง่ายๆก็คือ พวกสติแบบความรู้ต่างๆที่มีจากทางโลก..
    ที่ได้รับรู้จาก การได้ยินมา ได้ฟังมา ได้อ่านมาหรือเห็นมา.ไม่ว่าจะแหล่งใดๆก็ตาม
    หรือในกรณีใดๆก็ตาม..


    .เป็นตัวสติ ที่ทำให้พอระลึกได้ว่ากำลังทำอะไรอยู่.และควรจะต้องทำอะไรต่อไป
    .แต่ไม่ใช่ตัวสติที่จะไปคอยควบคุมพฤิติกรรมของจิต เพื่อให้จิต ละและคลายใจออกจากความคิดที่เกิดจากจิต

    ..หรือคลายใจให้ออกจากความคิดที่เกิดจากขันธ์ ส่วนนามธรรม..
    และชอบเผลอนำไปพิจารณาคิดว่าเป็นปัญญาทางธรรมที่สามารถละและคลายกิเลสต่างๆที่ฝั่งอยู่ในจิตได้...
    ที่หลายๆคนหมายมั่นเข้าใจไปเองว่าคือตัวปัญญา.แท้จริงคือสัญญาปัญญา


    คือเป็นความรู้ทางโลกที่ได้รับรู้มาจากช่องทางใดช่องทางหนึ่ง.ยังเป็นความคิด
    ที่ผุดขึ้นมาจากจิต.มีฐานอยู่ที่จิต หรือยังเป็นความคิดที่เกิดจากจิตอยู่นั่นเอง.
    แม้ว่าต่อให้ได้รับรู้มาจนตนเองเป็นอัจฉริยะสุดยอดที่สุดในสามโลกก็ตามก็ไม่ใช่

    ตัวปัญญาทางธรรมที่จะละและคลายกิเลสต่างๆที่เกาะอยู่ในจิตได้.แต่ไม่ใช่ว่า
    จำเป็น.เพราะมีประโยชน์สำหรับการเป็นแนวทางการเดินปัญญาทางธรรมให้กับจิตได้
    .แต่หากไปหมายมั่นปั้นมือว่าตัวสติทางโลกตัวนี้คือตัวปัญญาแล้วเผลอไป
    พิจารณาด้วยแล้ว.จะกลายเป็นคนที่ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นจากคนอื่นๆ
    ได้ง่ายๆ เป็นคนมีอัตตาสูงว่าตัวว่าตนดีกว่าคนอื่นๆ.
    .เห็นคนอื่นดีกว่าตนยอมรับไม่ได้.
    ยินดีในความสำเร็จของบุคคลอื่นๆได้ยาก
    เผลอๆอาจคิดว่าตนประเสริฐ เป็นผู้พ้นแล้ว บางคนถึงขั้นวิปลาสเข้ากับสังคมไม่ได้เลยก็มี เป็นผลจากอาการที่เราเรียกว่าวิปัสสนึกนั่นเอง.....


    ๒.สติทางธรรม..คือตัวสติที่สร้างจากการเจริญสติไม่ว่าวิธีใดๆก็ตามที่มีฐานอยู่ที่กาย.
    .จะเป็นการตามลมหายใจ หรือการเคลื่อนไหวกาย อะไรตามแต่..

    เป็นตัวสติที่จะคอย ควบคุมพฤติกรรมของจิต เพื่อให้จิต ละ และ คลายใจออกจากความคิดที่เกิดจากจิต ออกจาก
    ความคิดที่เกิดจากขันธ์ ส่วนนามธรรม..

    พอคลายตรงส่วนนี้แล้วถึงเข้าสู่การเดินปัญญา
    ด้วยการปล่อยให้จิตรับรู้ตามความเป็นจริง..
    ด้วยสภาวะที่จิตเป็นกลางโดยไม่มีความคิดที่เกิด
    จากจิตเข้าไปแทรกแซง จะก่อให้เกิดปัญญาทางธรรมขึ้นมา เพื่อที่จะใช้ ลด ละ และคลายกิเลสต่างๆที่ฝั่งอยู่ในจิต.ให้น้อยลงไปได้
    หากอาศัยองค์ประกอบหลายๆร่วมด้วย เช่นสัจจะบารมีในการลด ละ กิเลส
    หรือด้วยกำลังสมาธิขั้นสูงกว่าเพื่อเดินปัญญา โดยมีทาน ศีล เป็นพื้นฐานเบื้องต้น และน้อยลง..ไปเรื่อยๆตามลำดับ.
    จนกระทั้งคลายออกจากจิตไปได้...



    ก่อนจะถามความรู้แบบทางโลกๆกับใครเรื่องสตินั้น.ลองคิดในใจดูเล่นๆหน่อยซิครับว่า
    ตอบคำถามข้างล่างดังต่อไปนี้ได้ไหม..ทราบหรือไม่ เข้าใจหรือไม่ เคยเห็นบ้างหรือยัง..เข้าถึงหรือยัง...


    ๑.อะไรคือความคิดที่เกิดจากจิต..ฐานเค้าอยู่ตรงไหน..
    เข้าใจกิริยาที่เป็นลักษณะเด่นของความคิดลักษณะนี้หรือไม่...
    .ที่สำคัญหน้าตาเป็นอย่างไรทางนามธรรม..และมันขึ้นมาจากตรงไหน


    ๒.อะไรคือความคิดที่เกิดจากขันธ์ ส่วนนามธรรม..ลักษณะกิริยาของเค้าที่เด่นๆ
    เป็นอย่างไร..หน้าตาเป็นอย่างไรทางนามธรรม..ฐานเค้าอยู่ตรงๆ อยู่ฝั่งไหนหากเทียบกับจิต


    ๓. กิริยาของจิตลักษณะต่างๆเป็นอย่างไร เช่น จิตกระเพื่อมเป็นอย่างไร..จิตรวมกับความคิดที่เกิดจากจิตอาการเป็นอย่างไร
    อาการที่จิตร่วมกับความคิดที่เกิดจากขันธ์ ส่วนนามธรรมเป็นอย่างไร..
    อาการจิตสงบเป็นอย่างไร..อาการจิตว่างเป็นอย่างไร.
    ลักษณะอาการที่จิตอยู่ในสภาวะเป็นกลางสำหรับการเดินปัญญาเป็นอย่างไร...
    .

    ลองอ่าน ข้อความข้างบนนี้ก่อนลองดู..เข้าใจทั้งหมดไหม.
    ก่อนที่จะมาตั้งคำถามว่า ''ใครตอบไม่ได้คนนั้นไม่มีวันที่จะบรรลุธรรมได้ สติคืออะไร?''
    .และก่อนที่จะมั่นใจว่าสติที่ตนรู้นั้นเป็นฐานในการบรรลุธรรมที่ตนเองเข้าใจ
    ว่าเป็นอย่างที่ตนเข้าใจจริงๆตอนนี้ไหมครับ...
    .อาจทำให้ตนเองเข้าใจคลาดเคลื่อนนำสิ่งที่ตน
    รู้ ณ ขณะนี้แล้วมาถามและใช้เป็นเครื่องชี้วัดว่า.
    .การที่คนไม่รู้จะไม่สามารถบรรลุธรรมได้.จริงอยู่สติเป็นสิ่ง

    สำคัญที่ขาดไม่ได้.เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งในการบรรลุธรรม.
    แต่ไม่ใช่ทั้งหมดและเอามาชี้วัดไม่ได้เพราะถึงรู้
    ก็เป็นความรู้ทางโลกๆอยู่ดี แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่เราควรรู้
    และต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อน
    ว่าสติที่เรามีอยู่ในเวลาขณะนี้ เป็นสติทางโลกแบบสัญญาปัญญา หรือสติทางธรรมที่จะสร้างปัญญาทางธรรม
    เพื่อ ลด ละ คลายกิเลสให้กับจิตครับ

    ด้วยความเคารพครับ..คุณ newamazing
     
  5. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ขอบคุณที่แสดงความคิดเห็นครับ มีท่านใดอีกบ้างครับ
     
  6. หมูดิน1

    หมูดิน1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2011
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +863
    สติ ก็คือ รู้ตัว อยู่ทั่วพร้อม

    เช่น มีสติ ก่อนสตาร์ท

    มีสติ ไม่พรั้งเผลอ

    เช่น ในพระไตร ก็มีว่าไห้ ให้เจริญ อานาปานุสติ

    ให้เจริญมหาสติ

    สติ เป็นตัวกระหนาบจิต เป็นตัวรู้ทันทันจิต ท่ีจะคิดดี คิดชั่ว

    และสติจะเป็นตัวคัดกรอง ว่า อย่างไหนเอา อย่างไหนไม่เอา

    เจริญในธรรม ทุกท่าน ทุกคน
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    คำถาม โง่ๆ !!!

    ในสัทธรรม ก็มีการ ระบุอยู่แล้วว่า

    สัญญา กับ ญาณ อันไหนเกิดก่อน

    เด็กที่เขาอ่านหนังสือเป็น เขาก็ทราบว่า มีการระบุไว้ชัดว่า
    " สัญญาเกิดก่อน ญาณเกิดทีหลัง "

    คน โง่ ขนาดหนักเท่านั้น ที่จะดำริไปว่า สัญญา ทำความ
    เข้าใจว่า " สติ " แปลว่าอะไร จะมี บุคคลบัดซบ อ่านหนัง
    สือไม่ออก ตอบไม่ได้ว่า " สติ " คืออะไร
     
  8. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154
    ถ้าเป็นแต่เพียงผู้ฟัง..และปฎิบัติตาม

    จะบรรลุตามสภาวะธรรมได้ไหม..หนอ ?
     
  9. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    แล้วท่านคิดว่าสติคืออะไรครับ อธิบาหน่อยซิครับเอาแบบที่่คุณเข้าใจนะครับ
     
  10. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    อย่าไป ดูถูกความเป็น สัตว์ ของ ทุกสรรพสัตว์สิครับท่าน

    เวลา สัตว์ได้รับการฟัง การสั่งสอน ว่า นี่คืออะไร สัตว์ทุกตัว ทุกชนิด
    จะอาศัยการฟัง

    และ ทันทีที่ได้ยินได้ฟัง มันจะเกิด ความใส่ใจว่า หมายถึงอะไร

    โดยพฤติกรรมศาสตร์ของสัตว์(จิตที่มีอุปทานขันธ์) ต่อให้ โง่ แค่ไหน มันก็มีความ ใส่ใจ
    ใคร่ครวญตามประสาของมัน

    พอมันได้ ฟังซ้ำๆ ใคร่ครวญตามประสาของมันซ้ำๆ มันจะ เปรียบ
    เทียบได้ว่า เข้าใจถูก หรือ ไม่ถูก

    เช่น สั่งให้หมา หยุด สั่งให้ ควาย ยอ สั่งมันบ่อยๆ สอนมันบ่อยๆ
    เดี๋ยวมันก็ใคร่ครวญตามประสาของมัน จนกระทั่ง มันทำถูกต้องได้
    ในที่สุด

    พอทำถูกต้องได้ พอได้ยินคำว่า หยุด หรือ ยอ มันก็ ทำได้

    เกิดการกระทำขึ้นได้ กระบวนการแบบนี้ มีอยู่ใน สัตว์ทุกประเภท

    หากไม่ลืมตัว ลืมตีนเกินไป ไม่บัดซบเกินไป ก็จะไม่ปฏิเสธ กระบวน
    การ ฟัง และ กระทำ

    ได้ ฟัง จนนำไปสู่ การกระทำ มันมีอยู่ของมันอยู่แล้ว

    เพียงแต่ มะนุดนั้น ฟังสิ่งที่ไม่ใช่แค่คำสั่ง ศีล หรือ วัตร ได้เท่านั้น

    มะนุด ยังฟังสิ่งที่เรียกว่า " ธรรมะ " ได้ แล้วก็ย่อม สามารถ น้อม
    นำไป สมาทาน ใส่ใจด้วยดี ตามพฤติกรรมสัตว์ จนกระทั่ง เกิดการปฏิบัติ
    จนถูกต้อง สมควรแก่ธรรมได้

    อย่าให้ ความบัดซบ หลอกตัวเอง จน ลืมว่า " สิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี " มันเป็น
    เรื่อง ธรรมชาติธรรมดา เป็น อุบายในการฝึกหัดอบรมจิต มันไม่ได้ขึ้น
    กับว่า จิตเป็นของใคร แต่ จิตนั้นหากสดับธรรมเนืองๆ ก็จะได้รับ ธรรมฤทธิ์
    โน้นนำไปในกุศลได้แน่นอน

    คนบัดซบเท่านั้นที่ ไปคิดระยำว่า หากสดับ "ธรรม" แล้ว ความชั่วหยาบ
    ก็ยังปรากฏแก่สัตว์นั้นเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง

    เพราะอะไร

    เพราะ คนๆนั้น ยังไม่เคยเห็น ธรรมฤทธิ์ ว่า นำพา จิต ไปด้วยอาการใด

    ทำไมถึงไม่เห็น ก็เพราะ มัวแต่เห็น จิตเป็นอัตตา เป็นตน เป็นของตน
    ตนเป็นผู้สั่งสาร บังคับบัญชา จิตให้เอาดีได้ตามความอยาก ปราถนา

    ความชั่วหยาบ ยังบังตา อยู่นั่นเอง จึงไม่เห็น ธรรมจักร ที่หมุนโดย เอกบุรุษเพียงผู้เดียว

    ยกตัวอย่าง :

    ค้างคาวที่ฟังพระสวดมนต์ หากมันฟังแล้ว จิตมันน้อมนำ ธรรมะ ไม่ได้
    มันก็คงไม่ไปเกิดเป็นเทวดา แล้ว เพียงแต่ พวกมันลงมาเกิดเป็นคน
    แล้วได้ยินเสียงสวดมนต์ซ้ำ ก็เข้ามาบวช แล้ว เข้าถึงความเป็น อรหันต์
    ไปตามวาสนาที่ได้ฟังธรรมมาเป็นเหตุ ......คนโง่ ก็จะคิดว่า กระบวน
    การนี้เกิดจาก มันใช้สัญญา คนที่ฟังธรรมเป็นจะพึงทราบได้ว่า
    " สัญญาเกิดก่อน ญาณเกิดทีหลัง " เป็นอย่างไร และทำไมถึง
    กล่าวได้ว่า ไม่ได้ใช้สัญญาเพื่อการบรรลุธรรม ถ้าไม่เข้าใจ ก็
    ลองไปหาฟังเรื่อง " ม้า7พลัด " หรือ วิสุทธิ7 ให้เข้าใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2013
  11. หมูดิน1

    หมูดิน1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2011
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +863
    ทุกวันนี้ ผมขับรถ ไม่เคยเชี่ยวชน

    เพราะทุกครั้ง ผมมีสติ ก่อนสตาร์ท ทุกครั้ง

    ขับที่ไหร่ 150-170 กม/ชม

    ผมกดอย่างเดียว

    อารมร์ดีๆ ก็ กดไป200นี่

    นี่สติ ดีอย่างนี้

    เจริญในธรรรมครับผม
     
  12. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    การตั้งอยู่ในอรหัตตผล ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมกล่าวการตั้งอยู่ในอรหัตตผล ด้วยการไปครั้งแรกเท่านั้นหามิได้ แต่การตั้งอยู่ในอรหัตตผลนั้น ย่อมมีได้ ด้วยการศึกษาโดยลำดับ ด้วยการทำ
    โดยลำดับ ด้วยความปฏิบัติโดยลำดับ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็การตั้งอยู่ ในอรหัตตผล ย่อมมีได้
    ด้วยการศึกษาโดยลำดับ ด้วยการทำโดยลำดับ ด้วยความปฏิบัติโดยลำดับอย่างไร? ดูกรภิกษุ
    ทั้งหลาย กุลบุตรในธรรมวินัยนี้ เกิดศรัทธาแล้วย่อมเข้าไปใกล้ เมื่อเข้าไปใกล้ย่อมนั่งใกล้
    เมื่อนั่งใกล้ย่อมเงี่ยโสตลง เมื่อเงี่ยโสตลงแล้วย่อมฟังธรรม ครั้นฟังธรรมย่อมทรงธรรมไว้ย่อมพิจารณาเนื้อความแห่งธรรมที่ทรงไว้แล้ว เมื่อพิจารณาเนื้อความอยู่ ธรรมทั้งหลายย่อมทน
    ได้ซึ่งความพินิจ เมื่อธรรมทนความพินิจได้อยู่ ฉันทะย่อมเกิด เมื่อเกิดฉันทะแล้ว ย่อมอุตสาหะ
    ครั้นอุตสาหะแล้ว ย่อมไตร่ตรอง ครั้นไตร่ตรองแล้ว ย่อมตั้งความเพียร เมื่อมีตนส่งไปแล้ว
    ย่อมทำให้แจ้งชัดซึ่งบรมสัจจะด้วยกาย และย่อมแทงตลอดเห็นแจ้งบรมสัจจะนั้นด้วยปัญญา.
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ศรัทธาก็ดี การเข้าไปใกล้ก็ดี การนั่งใกล้ก็ดี การเงี่ยโสตลงก็ดี การฟังธรรม
    ก็ดี ความพิจารณาเนื้อความก็ดี ธรรมอันทนได้ซึ่งความพินิจก็ดี ฉันทะก็ดี อุตสาหะก็ดี
    การไตร่ตรองก็ดี การตั้งความเพียรก็ดี นั้นๆ ไม่ได้มีแล้ว เธอทั้งหลายย่อมเป็นผู้ปฏิบัติพลาด
    ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติผิด ดูกรภิกษุทั้งหลาย โมฆบุรุษเหล่านี้ ได้หลีกไปจากธรรมวินัยนี้ ไกลเพียงไร.
    จะเห็นได้ว่าการปฎิบัติพลาดไตรตรองผิดนั้นผลเป้นเช่นไร ฉะนั้นสติที่เขาใจกันถูกแล้วหรือ
     
  13. Workgroup

    Workgroup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +1,947
    สติ เป็นกรงขัง กิเลส ตัณหา อุปาทาน

    สาธุเจริญธรรม
     
  14. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ทำไมจึงคิดว่าเป็นไปไม่ได้?
     
  15. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,947
    นั่นซิคะ ทำไมจึงคิดว่าเป็นไปไม่ได้ละคะ?
    น่าจะมีเหตุผลประกอบด้วยนะคะ
    ท่าทางเจ้าของกระทู้จะรู้จักความหมายของสติดี เผื่อจะช่วยให้หลายๆ คนที่ไม่รู้จักความหมายของสติ ได้เข้าใจมากขึ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2013
  16. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    เพราะสติเป็นสิ่งแรกที่จะต้องเป็นนำพาโพฌงค์ให้บริบูรณ์ ถ้าสติที่ทุกคนเข้าใจมันผิดไปจากความเป็นจริงทุกอย่างก็จบกัน
     
  17. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    แหม ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองมาเลย มาแนวนี้ คนอื่นดูเผินๆ เขาจะปรามาสเอาได้ ว่าเป็นหนอนตำรา ที่ไม่รู้เรื่องการปฏิบัติจริง

    เอ้า ถามง่ายๆ
    "สติ" นี่ จำเป็นต้อง "มี" หรือ ต้อง "พูดให้คนอื่นฟัง"?
     
  18. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    เพราะสติ ทั้งหลาย เป็นแดนเกิดแห่ง วิชา คือปัญญาความรู้จริงรู้แจ้ง
    เพราะวิชาเกิดแล้ว อวิชาจึงดับ
    เพราะวิชาเกิดได้แล้วด้วย สติสัมปชัญญะ เป็นมูลรากฐาน ปัญญาจึงแก่กล้า
    เมื่อปัญญาแก่กล้า วิชาก็ย่อมแก่กล้า เมื่อวิชาแก่กล้าอวิชาจึงดับไม่เหลือ
    นั่นแหละคือผู้พ้นทุกข์แล้วโดยสิ้นเชิง

    เพราะนี่คือสัจจธรรม แห่ง สติ ใน โลกุตระธรรม เป็นไปอย่างนี้ หาได้มีประโยชน์เพื่ออย่างอื่นไม่
    สติ ในโลกุตระธรรมเป็นไปเพื่อ สมาธิ วิปัสสนา ปัญญา เกิดวิชารู้จริงรู้แจ้ง ดับอวิชาก็มีเท่านี้ครับ สาธุ
     
  19. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    จำเป็นต้องมีครับ สตินั้นตลอดชีวิตบางคนอาจจะไม่เคยเกิดเลยกว่าได้ สติของท่านอินเป็นลักษณะอย่างไรครับ
     
  20. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    สติเราไม่สามารถเกิดได้เลยถ้าเราไม่ได้ยินคำสอนของพระพุทธองค์
     

แชร์หน้านี้

Loading...