ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 8 พฤษภาคม 2010.

  1. Onigiri

    Onigiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    140
    ค่าพลัง:
    +338
    ขอบพระคุณมากครับ ผมตามอ่านตั้งแต่หน้าแรกยังไม่จบเลย หวังว่าคุณน้า Modpong จะกลับมาเขียนใหม่เมื่อมีโอกาสนะครับ รักษาสุขภาพด้วยครับ
     
  2. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ....
    ....................
    .....ก็อยากบอกว่า...กลับมาเฉพาะ..ช่วงเวลาไม่นานครับ...
    .....เพราะสาเหตุ..ที่ผมเข้า..ไปถามไถ่บางอย่าง..ที่กระทู้หลวงพ่อเกษม...และ...
    มีเล่าอะไร..เล็กน้อยเป็น..ของแถม...พอดี Mastertest..ลูกศิษย์ผม..ไปอ่าน...แล้วก็..ต่อยอด
    ถามต่อ.....ตามที่ผมcopy เอามาลงให้..นี่แหละ....

    ........................
    ...ไหนๆ..ก็..เข้ามากระทู้นี้..ผมก็ขอเขียน...ประสพการณ์ให้หน่อยแล้วกัน......
    ....ผมว่า..สมาชิกที่ได้อ่านเกือบทั้งงหมดนี่..คงมีไม่เกิน ๑๐ ท่าน..ที่เล่นพระ..มาก่อนหลวงพ่อจะดังในส่วนกลาง..ผมไม่เจตนายกตัวเอง..แต่เพียงจะบอก..ให้หลายท่านทราบ..ว่า..หลวงพ่อไม่ได้เริ่มดัง..จากเหรียญระฆัง(๒๕๑๖)......
    ....ท่านเริ่มดังมา..พร้อมๆกับ..มีนิตยสารรายเดือนพระรุ่นแรกเลย...
    .....เหรียญที่สร้างชื่อ..ให้ท่าน..ด้วยประสพการณ์อย่างดีนั้น..จนนักเลงพระ..ต้องมาสนใจ..พระทางเหนือที่ไม่ได้อยู่วัด..แต่อยู่..ในสุสานนั้น..คือ..
    ....เหรียญที่ออกที่..วัดคะตึกเชียงมั้่น..ในปี ๒๕๑๔ ครับ...
    ......เหรียญนี้..ออกมาไม่ถึงปี ก็มีประสพการณ์แล้ว...ตอนนั้นปี ๒๕๑๕ ผมเอ็นทรานซ์ติด..แล้วเข้าเรียนอยู่ปี ๑ เริ่มมีการกล่าวขานกัน..มากในสนามพระ..
    ..และผมเริ่มสนใจและ..เล่นพระ..เข้าสนามมา..ร่วม ๔ ปีแล้ว..ในตอนนั้น
    ....ก่อนท่าน..จะออกเหรียญระฆัง..เหรียญวัดคะตึก..ก็มีปลอมแล้ว..ส่วนของ
    วัดนางเหลียว..นั้น..ไม่ดังเท่าวัดคะตึกครับ..ตอนนั้น..เลยยังไม่มีปลอม..
    ...ส่วนเหรียญพระครูพิชัยมงคลนั้น..มีเป็นส่วนน้อยที่จะรู้ว่า..หลวงพ่อปลุกเสก..
    ก็เล่นหากัน..ในวงแคบ....
    ........ดังนั้น..เมื่อเหรียญระฆังออกมา...พ่อผม..ก็สั่งให้ลูกน้อง..ที่ลำปาง..เช่ามาเลย..ตั้งแต่เริ่มออกให้เช่า..ประมาณ ๑๐ เหรียญได้..เผื่อลูก..ทุกคน..
    ..........ผมเลี่ยมพลาสติกเองเลย..ตั้งแต่ตอนนั้น..และจำได้ว่า..
    ...ห้อยจนถึง..เรียนจบ...
    สวัสดีครับคุณครู _/\_
    ขอภาคขยายเรื่องหลวงพ่อเกษมต่ออีกหน่อยครับว่ามีเรื่องราวหรือเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นถึงทำให้หลายๆวัดมาขอให้ท่านสร้างวัตถุมงคลให้ในสมัยนั้นครับ คือไม่ใช่แค่ให้มาร่วมปลุกเสกแต่ขอออกเป็นรูปหลวงพ่อเกษมเองเลย แล้วสมัยนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติหรือเปล่าครับที่วัดอื่นจะขอออกวัตถุมงคลเป็นรูปพระรูปอื่นที่ไม่ได้อยู่ที่วัดนั้นๆแบบนี้ครับ (เท่าที่ตอนนี้นึกออก องค์อื่นอย่างมากก็แค่ 2-3 วัด และเป็นวัดที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน เช่นเป็นศิษย์เป็นอาจารย์กันหรือเรียนร่วมสำนักเดียวกันมา อะไรแบบนั้น ไม่ใช่แบบหลวงพ่อเกษม) เพราะตอนนั้นการสื่อสารทำได้ยาก หนังสือพระเครื่องก็ยังไม่มี แล้วหลวงพ่อเกษมก็ดังขนาดหลายๆวัดมาขอออกวัตถุมงคลเป็นรูปท่านได้นี่ แสดงว่าวัดอื่นๆต้องมั่นใจว่าเป็นรูปหลวงพ่อแล้วจะมีคนบูชา ผมว่ามันต้องมีเรื่องราวอะไรที่น่ารู้เยอะแยะแน่ๆเลย ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ _/\_

    .....
    ..............
    ..........ผมก็บอกว่า..เกรงใจ...เพราะถ้าเขียน..มันมีเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับ...หลวงพ่อเกษมที่ค้องจูง
    เรื่องมา..หลายๆตอน..เพื่อจะได้เข้าใจ..ต้องถาม..เจ้าของกระทู้ว่า OK รึเปล่า.....
    ...ปรากฎว่าMastertestบอกว่า..เจ้าของกระทู้..ไม่เข้ามาเป็นปีแล้ว..เอาว่าโหวตแล้วกัน...
    ถ้า ๑๐ เสียงขึ้นไป...ก็ถือว่า..OK....ผมก็เห็นว่ามีเหตุผล..ก็ตกลงไป...แล้วผมก็ไม่ได้เข้ากระทู้ไป
    อ่าน..หลายวันเพราะ..มีเรื่องหงุดหงิดเล็กน้อย....กลับเข้าไปอีกที...ผมก็นึกไปนึกมาว่า...
    ...เดี๋ยวขาประจำ..ห้องหลวงพ่อเกษม..เขาอาจไม่พอใจเพราะ..เรื่องส่วนใหญ่..จะไม่เกี่ยวกับ..
    หลวงพ่อเกษม...ผมก็เลยบอกเล่าทางนั้นว่า...ผมย้าย..เรื่องที่ผมจะเขียน..มาที่นี่แล้วกัน..และ
    ก็บอกเหตุผลไปด้วย...เพื่อความสบายใจของผม..อีกทั้งก็..ผมก็จะสามารถยืดเรื่องได้..ไม่ต้อง
    รีบ..สรุปเรื่อง...เพราะนั่น..ไม่ใช่กระทู้ของผม.........
    ........ก็ตามนี้แหละครับ.................................
    ................................................................................................
    ...............................................................................................
    .................เรื่องหลักจริงๆ..ที่หลายท่านในยุคนี้..ไม่เข้าใจ..ว่า..วงการพระสมัยก่อน..ก่อนยุค
    มีหนังสือ..รายเดือนพระเครื่อง(ปี ๒๕๑๗ )....เขารู้จักพระโน่นพระนี่กันได้ยังไง..ทำไมรู้ว่า
    ..พระองค์นี้เก่ง...องค์นี้ดัง...และมีการเช่าหากัน..เป็นที่นิยม...แถม..หลวงพ่อองค์นี้..ยังมีพระ
    ปลอม..เหรียญปลอม...ออกมาได้..ทั้งๆที่ไม่มีสื่อ..หนังสือพระรายเดือน...ความเคลื่อนไหว..
    ..เขา..รู้กันได้ยังไง...สื่อสารกันได้ยังไง...แบบไหน.........................
    ............เมื่อมีสังคมอะไร..ซักอย่าง..แล้วมีคนอยู่ในสังคมนั้นๆ..นั่นก็คือ..คนเหล่านั้นต้องมี
    ความชอบ..ในหัวข้อหลัก..ของสังคมนั้น..ไปในทางเดียวกัน..แล้วหลังจากนั้น...แนวทาง
    ก็อาจมี..ฉีกแตกแขนงออกไป....ตามกาลเวลา..และ..ขนาดของสังคมที่ขยายตัวไป.....
    .........เฉกเช่นเดียวกับ...สังคมพระเครื่อง....ที่เริ่มต้นเป็นกลุ่มเล็กๆ...มีกระจายไปทั่วประเทศ
    ...ในยุคโบราณ...สื่อหลัก..ที่ใช้สื่อสารการ..ภายในกลุ่มของตน..และ..ไปต่อยัง..กลุ่มอื่นๆ
    .....และ..เป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์..ได้ด้วย....มีอย่างเดียว...ก็คือ................
    ......................ปาก.....หรือ...สื่อโดยการ..พูด โต้-ตอบกันนั่นเอง............
    ..............................ต่อตอนหน้าครับ...................................
     
  3. bearkery

    bearkery เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,668
    ค่าพลัง:
    +6,383
    ดีใจที่คุณลุงกลับมาเขียนงานดี ๆ ให้หลาน ๆ รุ่นใหม่แบบผมได้อ่านครับ
     
  4. MasterTest

    MasterTest เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +1,031
    สวัสดีครับคุณครู _/\_
    มาศึกษาต่อครับ ขอบพระคุณที่เขียนต่อครับ
     
  5. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    สวัสดีครับคุณอา...มาติดตามอ่านครับ
     
  6. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ......
    ...หวัดดี..Bearkery..Mastertest..และ..เฉียวฟงหลานรัก..
    ............
    .....................................................................................
    ...สังคมนิยมพระ...เรียกสั้นแค่นี้..ในสมัย ร.๔...จะไม่ถูกต้อง..ต้องเรียกว่า...เครื่องราง ของขลัง
    ..และ..พระ...เพราะ..ในยุค ร.๔-ร.๕...พระกรุที่แพงเป็นล้าน..ทั้งหลายเดี๋ยวนี้..เกือบทั้งหมดยัง
    ไม่แตก....ของติดตัว..ก็จะเป็นเครื่องรางของขลัง..เกือบทั้งหมด...อย่างที่ผมเคยได้เล่าไปบ้าง
    แล้ว..ใน..ผม..พระตอนเก่าๆ....ตอนสมัยเด็กเริ่มเล่นพระใหม่ๆ...ผมไปรื้อห้องพระของคุณปู่
    .....ผมยังพบ...ซองผ้าขาวพับได้..เย็บไว้เป็นช่องๆยาว..อย่างเก่าเลย..เอามาให้พ่อดู...
    ......พ่อก็บอกว่า...นี่เป็นของ..คุณปู่..(ในช่องแต่ละช่อง...ก็สามารถใส่..ตะกรุด..ขนาด ๔ นิ้วได้
    สบาย..พับได้เหมือนกระเป๋า..มีช่องใส่ตะกรุด..ประมาณ ๑๐ ช่องได้)..พ่อบอกว่า...ท่านจะเอา
    ใส่..ไว้ในกระเป๋าเสื้อราชปะแตนท์..ตอนไปทำงาน(ปู่ผม..รับราชการมาตั้งแต่สมัย รัชกาลที่๕)
    ...ผมสังเกตดูแล้ว..ไม่มีช่องใส่พระเลย..แม้แต่อันเดียว....นั่นแหละครับ...คนยุคนั้น..เขาพกกัน
    แบบนี้..(..ในซอง..มีตะกรุดเหลือค้างอยู่..ประมาณ ๓-๔ ดอก)..................
    ..................นอกจากสังคมพระ..ก็ยังมีสังคมเครื่องประดับบ้าน..สังคมเครื่องประดับร่างกาย..
    ที่เก่าแก่..ยืนยาวมา..ตั้งแต่ก่อนยุครัตนโกสินทร์แล้ว.....แต่สังคมเหล่านี้ในยุคนั้น..ไม่ได้เป็น
    ธุรกิจ..คือ..คนนี้คุยว่ามีไอ้นี่..หรือ..บังเอิญไปบ้านนี้..แล้วเห็น..ก็ชอบ..อยากได้..ก็จะเป็นการ
    แลกเปลี่ยนกันเป็นส่วนใหญ่..หรือถ้าไม่งั้น..ก็เอาของอย่างอื่นที่..มีคุณค่าสมน้ำสมเนื้อมาแลกกัน
    ...........ก็น่าจะเป็น..แบบเดียวกันตั้งแต่ยุค..ร.๔ - ร.๕ มา...แต่ความเปลี่แปลงมันเริ่มจากความเจริญ
    ที่เข้ามาสู่เมืองไทย...ข้าราชการมากขึ้น...คนรวย..หรือพวกเจ้าสัว...มากขึ้น...พวกนี้ก็จะมีการ
    แลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้มากขึ้นด้วย..แถมยังมีเรื่องการคมนาคม..ที่เป็นส่วนเสริม......
    ................ผมต้องทำความเข้าใจก่อนว่า...ในยุคนั้น...สังคมพระ..หรือ..อีก ๒ แบบ..ที่บอกไปแล้ว
    ...คนที่อยู่ในสังคมนั้น..ไม่ใช่ชาวบ้าน..ชาวสวน..ชาวไร่...ถ้าแยกเป็นพวกใหญ่ๆ..ก็จะมีอยู่ ๓
    พวก..คือ...
    ๑. พวกเจ้านาย (พระบรมวงศานุวงศ์)
    ๒. พวกข้าราชการ...พระยา(เจ้าคุณ)..คุณพระ..คุณหลวง..ขุน..ชั้นกลาง..จนถึง..ชั้นสูง
    ๓. เศรษฐี เจ้าสัว
    ....ทำไมรึครับ...พวกคนเหล่านี้..ที่มีคล้ายกันคือ..มีฐานะ..มีสังคม..ทั้งในกลุ่มเดียวกัน..ต่างกลุ่ม
    (...ก็คือ..ทั้ง ๓ กลุ่ม..ก็จะมีโอกาศรู้จักกัน..ทั้งตามหน้าที่..และ..ความเกี่ยวข้องกันต่างๆ)...
    .............แล้วชาวบ้านทั่วไปละ....
    .....อบ่าลืมนะครับ..ว่ายุคนั้น...การเดินทางลำบาก...ชุมชน..ที่อยู่ใกล้กันเท่านั้น..ที่จะรู้จักกัน..
    ...แล้ว..เขาก็ไม่ได้จน..หรือ..มีความแตกต่างจากกัน..ในชุมชนนั้นๆมากนัก...ชีวิตไม่ลำบาก..
    ...เพราะ..มีวิถี..ไม่ต่างจาก...ร้อย..สองร้อยปีก่อน...เรียกว่า..ถ้าไม่ได้อยู่ในตัวจังหวัด...พ้นออกไป
    ก็คือ..บ้านนอก..เหมือนกันไปหมด...สิ่งล่อให้มาเสียเงิน..เสียทองก็ไม่มี...ทำให้ชาวบ้านมีวิถีที่
    สุขสบาย..ศูนย์กลางคือ..วัดในแต่ละชุมชน..ที่จะได้พบปะเป็นเรื่องเป็นราว..และได้พักผ่อน...
    เดือนละ๒ครั้ง..ก็คือ..วันพระ......ทุกๆคนก็มีพอๆกัน..และมีอะไรคล้ายๆกัน...สมัยโน้น..เจ้า
    อาวาส..ในชุมชนไหนๆ..ก็ต้องเก่ง...ช่วยเหลือชาวบ้านได้..พอสมควรทั้งนั้น..เพราะชาวบ้าน
    ก็ต้องพึ่งพระ..ยามเจ็บไข้...สอนหนังสือให้ลูกชาย...พระก็ต้องอาศัย..ข้าวปลาจากชาวบ้าน..
    ประทังชีวิต...การเลือกเจ้าอาวาส..ก็มาจากชาวบ้านเป็นหลัก......
    ......อย่างพวกของขลัง..ทุกคนก็จะได้เหมือนๆกัน...ส่วนใหญ่ก็เป็นตะกรุดมั่ง..ลูกอมมั่ง...
    ..มันก็ไม่มีความแตกต่างกัน....
    ..........อีกอย่าง....ชาวบ้านต้องทำงานกันทุกวัน...พอมีเวลาหน่อยก็วันพระ..พูดคุยกัน..เฮฮา
    กันบ้าง...ก็แค่นั้น....ต่างจาก๓กลุ่มคนที่ว่า.....
    .......เพราะ..คนเหล่านั้น..มีเวลาเป็นส่วนตัวมากกว่า...มีข้าทาส..บริวาร..ที่จะช่วยทำงานบ้าน
    ..เวลา..พักผ่อน..สรวลเสเฮฮา..ระหว่างในกลุ่มมีมาก..และ..ก็ยังมีเวลาสังสรรค์กับ..กลุ่มที่
    เหลือ..ได้อีก...คนมาจากแหล่งที่ต่างกัน..บ้านเดิม..ก็ต่างกัน...พระหรือของขลัง..ของแต่ละ
    คนก็ต่างกันด้วย(..เช่นเดียวกับ..ที่ผมเล่าไปตอนต้น..ก็คือ..พวกชอบเตรื่องประดับบ้าน...
    และ..เครื่องประดับส่วนตัว...มันก็มีแตกต่างกัน)...มันก็เลยมีเรื่องคุยกันได้..แลกเปลี่ยน..
    ความรู้ประสพการณ์..กันได้....เอาของมาดูกัน...แล้วชอบ..แต่ที่บ้านแต่ละคนก็มีอีก....
    หรือ..กลับไปหาเอาใหม่ไม่ยาก...ก็สามารถ..แลกเปลี่ยนกันได้....ต่างคนต่างมีกันเยอะ..วัน
    หลัง..มาเจอพกมาแบ่งกันดู...ก็เป็นสนุกสนานบันเทิง..สำหรับคนที่ชอบคล้ายๆกัน....
    .....สังคมพระ..ก็เกิดขึ้นได้..สำหรับคนกลุ่มเหล่านี้..ทั้งที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน..และ..ต่างกลุ่ม
    ออกไป...
    ...................................ต่อตอนหน้าครับ......................
     
  7. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    ตามมาจากห้องหลวงพ่อเกษมครับอ้ายมด
    ซำบายดีตามอัตภาพครับผม
    ว่าง ๆ ก็แวะมาหยอดเ้รื่อย ๆ ก็ได้ครับอ้าย
    ยินดีติดตามครับผม
     
  8. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,203
    ดีครับพี่ เรื่องหลวงพ่อเกษมนั้นมีเรื่องจะถามพี่ครับ ที่ว่าหลังจากปี 2518 มีข่าวว่าหลวงพ่อเกษม ท่านเคยประกาศว่าท่านจะไม่พุทธาภิเษก วัดถุมงคลอื่นใดอีก พี่ modpong พอจะรู้เรื่องราวเหล่านี้มั้ยครับ ขอบคุณครับพี่ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยช่วงนี้ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ
     
  9. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .......หวัดดีกำธรน้องรัก..ไม่ได้เจอกันซะนาน..ขอบคุณที่เป็นห่วง..ยังดีอยู่ดรับ....
    ......ถามปัญหาโลกแตก..อีกแล้ว...พี่ว่ามีคนถามตามเว็บ..ต่างๆมากมายเลย..เรื่องนี้..ตอบตามที่พี่ได้รับทราบนะ..มันไม่มากหรอก..เพราะพี่ก็ไม่ได้เป็นลูกศิษย์ท่าน..ไม่เคยได้เข้าพบ(เพราะขี้เกียจ..รอ)..แต่ก็สนใจข่าวสารท่านตามควร....
    ....ข้อแรกเลย....มีจริงสำหรับข่าวนี้..ในปลายปี ๑๘ แล้วก็ฮือฮา..พอควร..ลองไปหา..ตามนิตยสารรายเดือนพระเครื่องช่วงปลายปี..๒๕๑๘ ต่อเข้าปี ๑๙ ได้มีลงด้วย..ข่าวนี้..เข้าใจว่า..มาจากฝ่ายจัดการของสุสานฯ..เพราะ..ท่านเองไม่ได้พูดโดยตรงให้นักข่าวทราบ(..แต่พวกลูกศิษย์สนิท..ที่ไปมาหาสู่บ่อยๆ..พอได้ข่าวก็น่าจะถาม..จากตัวหลวงพ่อเองด้วย..เมื่อได้พบ..แต่ส่วนนี้อาจไม่ได้เป็นข่าว..แต่เล่าสู่กันฟังในหมู่สานุศิษย์ที่ใกล้ชิด(..ที่ไม่ใช่คนของสุสาน..)..แล้วก็กระจายออกมาที่คนนอกที่สนใจ..แต่ปัญหาคือ..ข่าวนี้ออกมาทางเดียวกัน..หรือไม่..พี่ไม่บอก..ก็คงจะรู้ว่า..ไม่เป็นอย่างนั้น..ทั้งหมด)..
    ....นี่คือ..เท่าที่ทราบ....
    ...ตอนนี้..มาดูเรื่องเหตุผล..ลองดูซิ..ในปี ๑๗ ถึง ๑๘ หลวงพ่อไหน..ที่ต้องปลุกเสกพระ..มากที่สุด ๓ อันดับแรก..สำหรับกรณีปลุกเสกเดี่ยว..
    หรือ..ก็คือ..ออกเป็นของท่าน..แต่จัดสร้างโดยหลากที่กัน..
    พี่ก็ไม่เคยไปนับเหมือนกัน..แต่.. ๑ใน ๓ นั้น..ต้องมีชื่อ..หลวงพ่อเกษมอยู่แน่ๆ..คิดดูว่าท่าน..เป็นพระสงฆ์องค์แรกๆ(ถ้า..ไม่องค์ที่ ๑ ก็องค์ที่ ๒)..ที่ยังมีชีวิต..แล้วได้ลงปกนิตยสารพระเครื่อง..ที่ออกมาปีแรกในปี ๒๕๑๗..
    (นิตยสาร พระเครื่อง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และ..พระพุทธรูป..(ชื่อถูกหรือเปล่าไม่แน่ใจ..เพราะชื่อยาวมาก)).....
    ........ปัญหาที่ต่างจาก..พระรูปอื่น..ของท่าน..รูปแบบการเสก..ก็เรียกง่ายๆว่า มี ๒ แบบ(อาจมีมากกว่านั้น พี่ไม่ทราบ)..คืออย่างแรก..
    ...คล้ายๆกับทั่วๆไปคือ..โยงสายสิญจน์จากมือท่าน..ไปที่วัตถุมงคล..
    .....อย่างที่ ๒ อันนี้แหละที่พี่ว่า..น่าจะเป็นตัวปัญหาใหญ่คือ..
    ..เอาวัตถุมงคล..ทั้งหลายเปิดออกมาแล้ว..เอามากระจายอยู่ในถาดมั่ง..
    ..กล่องมั่งแล้วแต่...แล้วท่านเสกและเป่า(ปล่อยปราณ)..ออกไปให้สัมผัส
    ..วัตถุมงคลนั้นๆ..โดยตรง...ขึ้นกับจำนวนวัตถุมงคลนั้นๆ..ถ้าเยอะ..ท่านก็ต้องออกแรงเป่าเยอะ...ลองไปเปิดดูรูปในGoogleได้..ตอนที่..ท่านเสกเหรียญกองพันเชียงใหม่ปี ๒๕๑๘ นั่นแหละแบบนั้น..เพียงแต่ท่านทำแบบ
    นี้..น้อยครั้ง..ปัญหาคือ..หลายเจ้าในตอนหลังเท่าที่ทราบ..ก็อยากให้ท่านทำแบบนั้น..กับวัตถุมงคลของตัวเองที่สร้างมาด้วย.....
    ....โอ้ยเหนื่อย..วะ...เดี๋ยวคืนนี้..พี่มาต่อให้ไม่จบ..เรื่องมันยาว
    (..ท่านผู้เป็นลูกศิษย์..และ..ผู้ที่มีวัตถุมงคลท่านหลังปี ๒๕๑๘ ก็อย่าพึ่งตื่นเต้น..หรือ..ส่ายหน้า..ต้องรอให้ผมเล่าจบซะก่อน..)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2013
  10. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,203
    ขอบคุณมากครับพี่ จะรออ่านนะครับ
     
  11. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .......
    ...เอ้า..ตอบคำถามต่อ....
    ...................................
    ....ก็เพราะอะไร...เพราะขนาดคนทั่วไป..ที่ไม่ได้เล่นพระ..เมื่อเอารูป..ที่มีการปลุกเสก..ทั้งสองแบบ..ซึ่งตอนนั้นเคยมีลงในหนังสือพระ..พี่เคยลองเอาไปให้เพื่อนร่วมงานดู..แล้วถามความรู้สึก..ว่าแบบไหนน่าจะศักดิ์สิทธิ์กว่ากัน..๓-๔ คนบอกเหมือนกันหมดว่า..ท่าที่ท่านเป่าลงไปที่วัตถุมงคลนั่นแหละ..ศักดิ์สิทธิ์กว่า...
    .....ทั้งๆเรื่องจริงพี่ก็ไม่ทราบว่า..พลังจะเท่ากันหรือไม่..เพราะคนอย่างพี่..กำธรย่อมรู้อยู่แล้วว่า..พี่เป็นคนที่เชื่อในเหตุผล..และ..พิสูจน์ได้..ไม่ได้เล่นพระแบบจับพลัง...
    ..เรื่องจริงอาจจะพอๆกันก็ได้..แต่ความรู้สึกของคน..มันแตกต่างกัน...
    ......ความจริงเรื่องนี้..ถ้าเป็นแฟนทั่วๆไป..พี่ก็คงตอบไม่ยาว..หรือ..บ่ายเบี่ยงไปมั่ง..แต่อย่างเรา..เฉียวฟง..พลศิริ..Joni..ลินน์..รวมถึง anoldman..เป็นต้น..การกระทำเป็นเครื่องพิสูจน์..ว่า..เชื่อมั่น..และ..นับถือ..ในตัวพี่..โดยเฉพาะอย่างยิ่ง..กำธรเอง..ซึ่งทำธุรกิจซื้อขายพระ..เป็นงานอดิเรก..ถือว่าอยู่ในวงการ..ก็ต้องอยากทราบในรายละเอียด..เพื่อเอาไว้เป็นข้อมูล..พี่ก็ให้เต็มที่..มันก็เลยยาวไง..
    ....เหมือนกัน..สิ่งที่เอามาเล่า..พี่ต้องสัมผัสเอง..หรือไม่ก็ต้องเชื่อมั่นในข้อมูลที่ได้รับ..ถ้านอกเหนือจากนี่..พี่ก็ไม่เอามาเล่าเด็ดขาด...
    ...แต่เรื่องหลวงพ่อเกษมนี่..ส่วนใหญ่ที่เล่าจะสัมผัสเองทั้งสิ้น..มาว่าต่อกัน..
    ........กำธรเอง..ลองเปรียบเทียบ..รูปหลวงพ่อตอนปี ๒๕๑๖ กับ ปี ๒๕๑๘ ดูเอาเองก็แล้วกัน..ว่า..ท่านเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน..แค่ ๓ ปี จาก ๕ รอบ (๖๐)..ไป ๖๓..เรียกว่า..เหมือนกับ..รูปทั้งสอง..ถ่ายระยะเวลาห่างกัน..เป็น สิบกว่าปี..สำหรับ..คนธรรมดาทั่วไป..อันนี้ไม่อุปาทาน..พี่เคยลองดูแล้วดูอีก..ไม่น่าเชื่อจริงๆ..ว่า..ท่านโทรมไปมาก...เราเห็นจากภาพ..ก็สัมผัสได้แล้ว..ว่าท่านเริ่มสุขภาพไม่ดี..
    ...จะด้วยเหตุผลอื่นได้มาประกอบ..ไม่ทราบ..แต่ที่สำคัญอย่างหนึ่งที่..ไม่เอาไปร่วมไม่ได้..ก็คือ..การรับแขก..แบบมหาศาล..ต่อเนื่อง..ทำให้การพักผ่อนน้อยลง..และ..มีความน่าจะเป็นไปได้สูงคือ..การปลุกเสกพระ..แบบนับรุ่น..ไม่ถ้วน..ในสามปี..นั้น..ยิ่งแบบที่ท่านเป่าเหรียญกองพันเชียงใหม่(..พี่ยกมาเป็นตัวอย่าง..เท่านั้น..ความจริง..มีรุ่นอื่นอีก..แต่จำไม่ได้)..พี่เคยลองนึกถึง..ตัวเอง..ถ้าไปเป่าแบบนั้นบ้างคงเหนื่อย..น่าดู..จำได้ตอนนั้น..ยังคิดสงสารท่านเลย....
    .......พี่ว่า(ย้ำ..เป็นความคิดของพี่เอง)..ท่านเอง..คงไม่ได้..พูดเอง..แน่..เนื่องจากท่านก็..ถือว่าเป็นพระสุปะติปันโน..มีเมตตาสูง..เป็นที่เคารพ..แม้กระทั้ง..ในหลวง..และ..พระราชินี...แต่..คนที่อยู่ใกล้ชิด..อย่างกรรมการสุสานฯ..ที่อยู่กับท่านทุกวัน..คงมานั่งประชุมกันว่า..น่าจะให้ท่านได้พักเพราะเหนื่อยมาก..ทำให้สุขภาพแย่...เดี๋ยวท่านจะเป็นอะไรไปก่อน..แทนที่..จะอยู่เป็นมิ่งขวัญ..ให้ประชาชน..และ..ลูกศิษย์..ได้นานๆ...ดังนั้น..จึงออกข่าวมาว่า..เลยปี ๑๘ ไปแล้ว..จะไม่ปลุกเสกวัตถุมงคลอีก....พี่ว่า..นั่นคือความตั้งใจ..ของผู้รับใช้ใกล้ชิด..ที่เขาสัมผัสได้มากกว่า..พวกที่ไปเยี่ยมท่าน..ซักพักก็กลับ..ตัวเอง Happy..แต่ลืมไปว่า..ท่านต้องเหนื่อย..ขนาดไหน..ยิ่งมีสลับด้วย..พิธีปลุกเสกพระ..ที่มีเป็นระยะ..ต่อเนื่องไม่ขาดสาย...
    ..........ปัญหามันอยู่ที่ว่า..ตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น..แล้วทำได้รึเปล่า..เพราะอย่างกำธร..อยู่ในแวดวงเหมือนกัน..จะทราบว่า..พระอาจารย์ที่ดังมากๆ..คิวจองปลุกเสก..ยาวขนาดไหน...พี่ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า..ตอนที่ออกมาบอกนะ..คิวจองปลุกเสกท่านนะ..มันเลื้อยไปข้ามไปถึงปี ๒๕๑๙ หรือเปล่า..แต่พี่ว่ามีโอกาศเป็นไปได้สูง...
    ...แล้วจะทำยังไงละ..สำหรับกรณีนี้..ถ้ากลับไปสอบถาม..คนที่จองคิว..แล้วเขาบอกว่า..ผมทำออกมาแล้ว..เหลือรอแต่..ให้ท่านปลุกเสกเท่านั้นแหละครับ..
    ....ปัญหาก็ตามมา..ทันที..พูดไปออกเป็นข่าวไปแล้ว..แล้วจะมาขอยกเลิกเขา..เหรอ
    ...ใครจะยอม..ลงทุนไปแล้วด้วย..ไปกันใหญ่...
    ....เอ้อ..ไม่จบอีก..เหนื่อยแล้ว...ต้องไปต่อพรุ่งนี้อีก..จะจบมั้ยนี่..ยังไม่รู้เลย..เพราะพี่เขียนสดๆ..ก็คอยไปแล้วกัน....
     
  12. bearkery

    bearkery เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,668
    ค่าพลัง:
    +6,383
    กำลังมันส์ เข้าด้ายเข้าเข็มเลยครับ
    ผมขอติดตามต่อพรุ่งนี้นะครับ
     
  13. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...ขอชี้แจงหน่อยเดี๋ยวจะไม่เข้าใจ..หาว่า..ผม..ลีลามาก...
    ...เรื่องจริงครับ..เมื่อเขียน..ผม..พระ..ปีแรกๆ..ผมเขียนต่อเนื่องได้ยาว..แต่มาเริ่มตั้งแต่..ปีทีแล้ว..พอเขียนไปได้ซักพัก(เนื่องจากผม..เป็นคนที่เขียนสดๆ..นึกอะไร..ก็เขียน..โครงเรื่องแทบไม่มี)..มันเหนื่อย..และ..ล้าที่สมอง..คงเป็นมาจากวัยที่สูงขึ้น..และอีกอย่าง..ผมไม่ใช่นักเขียนอาชีพ..ที่เขียนมาตั้งแต่..หนุ่มๆ..ซึ่งอาจจะชิน...
    ....หรือเพราะ..กรรมตามทัน..เคยนึกหมั่นไส้..ไอ้พวกนักเขียนสมัยก่อนว่า..
    ไอ้พวกนี้..อาชีพสบาย..ทำงานได้เงิน..ไม่ต้องเหนื่อยยากอะไร...
    ...ตอนนี้..ผมรู้แล้วครับว่า..มันเป็นยังไง..ผมเลยไม่สามารถเขียนแต่ละตอน..ได้ยาว..เหมือนปีแรกๆครับ....
     
  14. watchdog

    watchdog เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +35,870
    **หวัดดีครับ อ.ตามอ่านต่อครับ สั้นๆก็ไม่เป็นไรครับ ผมชอบสำนวนกับบรรยากาศครับ อ่านแล้วเหมือนเราอยู่ในเหตุการณ์ด้วยครับ รื่นรมญ์ดีครับ**
     
  15. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,203
    ขอบคุณมากครับพี่ ได้ความกระจ่างขึ้นเยอะครับ
     
  16. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    ซำบายดีครับอ้าย แวะมารับความรู้ครับผม
    รักษาสุขภาพนำเด้อครับผม
     
  17. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .......................................
    ....ตอบคำถาม..ต่อ..
    .....พี่เลยมาคิดว่า..พระส่วนนึง..ที่ออกมาในปี ๒๕๑๙ ก็คือ..การเคลียร์ค้างคิวที่เหลือ...กับ..อีก
    รายการที่ปฎิเสธไม่ได้จริงๆอาจด้วย..บุญคุณ...ความผูกพันธ์พิเศษ..บารมี(เช่นทหาร..จังหวัด.เป็นต้น)
    ..........อันนี้เห็นได้ชัดจริงๆ..ว่ากรรมการสุสานคงอยากทำอย่างที่พูด..เพราะปริมาณ..พระที่ท่าน
    ปลุกเสก..ในปี ๒๕๑๙ ลดลงจาก..ในปี ๒๕๑๘ อย่างฟ้ากับเหว...และ..ใน ๒-๓ปี..ต่อมาก็ทำนอง
    เดียวกัน..เหลือเฉพาะรายการที่ปฎิเสธไม่ได้จริงๆ...(ลองไปอ่านชื่อผู้จัดสร้างซิ..ส่วนใหญ่..จะไม่
    ธรรมดา)..............................
    ...............เรื่องนี้..ส่งผลให้..พระที่ออกหลังปี ๒๕๑๘ ไม่ว่า..ราคาปล่อย..หรือ..รับซื้อ..ไม่เวอร์คไป
    ด้วยในช่วงนั้น...มันเป็นเรื่องของ..กลไกตลาด..ที่พี่สัมผัสเอง....
    ..........คือ..ตั้งแต่ปี..๒๕๑๙ เรียนปีสุดท้าย..๒๕๒๐ ทำงานส่วนใหญ่..อยู่ต่างจังหวัด..ก็เป็นช่วงที่
    ห่างเหินสนาม..ไม่ได้เข้าไปเดิน..นานๆหลายๆเดือนจะเข้าไปซะที...แต่ก็ยังอ่านหนังสือพระอยู่
    บ้างตามเวลาที่จะอำนวย...จำได้ว่า..ปลายปี ๒๕๒๐ หรือ ๒๕๒๑ เข้าไปสนามท่าพระจันทร์..
    ..หลังจากที่ไม่ได้เข้าไปนาน..ปกติพี่จะไม่เดินดูแผงที่ขายพระใหม่..แต่ถ้าดู..ก็จะดูแผงที่เป็น
    สากล...พวกแผงเฉพาะ..คือ..ขายหลวงพ่อนั้นหลวงพ่อนี้เป็นหลัก..พี่จะไม่เคยไปดูเลย.......
    ........พี่ไปชะโงกๆดูที่แผงกลาง..แล้วก็แปลกใจคือ..สิ่งหนึ่งสมัยก่อน..ที่จะได้เจอประจำคือ
    พระของหลวงพ่อเกษม...แต่ตอนนี้..หาทีแรกไม่พบ..พี่ก็เลยถามทำนองว่า..ของท่านเดี๋ยวนี้ไป
    ไหนหมดแล้วละ...เจ้าของแผงหนุ่มๆเขาก็หยิบมาให้ดู..จากมุมๆแผง..แบบว่า..เหลือแค่นี้....
    ....คราวนี้ก็เลยคุยยาว..เรื่องที่มาที่ไป...คนขายมันก็บอกว่า..เริ่มแย่หลังจากที่มีข่าวแล้ว....
    ..พระก็ออกน้อยลง..มันแบ่งกับเพื่อนมาปล่อย..ก็ปล่อยไม่ค่อยได้..เพราะ..คนส่วนหนึ่งเขาก็
    ทราบข่าว..ยังมาถามว่าปลุกเสกจริงรึเปล่าด้วย...(กำธร..อย่าลืมว่า..พวกที่นับถือท่านเป็นชีวิตจิตใจ
    ..ออกกี่รุ่นแบบไหน..กูก็เช่าหมด..พวกนี้ส่วนใหญ่เขาก็ไม่มาที่แผงกลางๆแบบนี้..เขาจะไปแผง
    ที่ขายเฉพาะ..ชัวร์กว่าแน่ใจว่ามีแน่...ส่วนคนที่เป็นกลางๆ..ก็เจอกระแสข่าวเข้าไปก็ไม่มั่นใจ..
    ดังนั้น..การขายที่แผงกลางๆ..ก็เลยลดน้อยไปมาก )..ตอนหลังเขาก็เลยรับมา..น้อยลง....เผื่อ
    เฉพาะพวกกระเส็นกระสาย....
    ..............แล้วพี่ก็เดินไป..แผงที่ส่วนใหญ่ขายเหรียญหลวงพ่อทั่วๆไป..ที่ค่อนข้างมีมาตรฐาน
    ..เลือกเอาที่ว่า..หน้าตามันพอรับแขกหน่อย..ไปดูแล้ว..ไม่พบเหรียญท่านหลังปี ๒๕๑๘ เลย
    ..ก็เลยคุยหน่อย..เพียงแต่พี่ก็ต้องโชว์ศักยภาพ(ภูมิ)หน่อย..ว่าเราไม่ใช่นักเล่นพระหน้าใหม่..
    แล้วก็เข้าเรื่อง..ที่สนใจก็เพราะว่าไอ้ข่าวแบบนี้..มันส่งผลยังไง..แต่เราสังเกตแล้วว่า..มันมีแน่
    .....ผลจากการบอกเล่า..ก็ออกมา..ดังคาดคือ...เมื่อ demandลดลงไปเพราะข่าว..เนื่องจากไม่แน่
    ใจว่า..ของจริงรึเปล่า..supplyก้ต้องหดตาม..รับเช่าขาจรมาก็ปล่อยไม่ได้ราคา..หรือ..บางทีไม่
    มีคนสนใจซะอีก..ตอนหลัง..ถ้าขาจรมาปล่อย(ที่ว่านี่คือ..เหรียญตั้งแต่ พ.ศ. ๑๙ ลงมา)ก็ต้อง
    ราคาเป็นเหรียญธรรมดาไป..แต่ส่วนใหญ่คือ..ไม่เอาปฏิเสธไปเลย..ไม่ต้องเสียอารมณ์บอกราคา
    ไป..ไอ้คนที่เอาพระมาขายมันก็ทำใจไม่ได้อยู่ดี...ตอนนี้เขาบอกสบายกว่าคือ..ไม่รับเช่า...
    ...มีแต่เหรียญที่..ไม่เกิน..พ.ศ. ๒๕๑๘ ........คนเล่นพระทั่วๆไปอาจจะลืม..แต่พวกซื้อ-ขายพระ
    ต่อให้รุ่นใหม่เขา..ก็ไม่ลืม..เพราะพวกนี้..ก็ได้รับการอบรม..มาจากรุ่นก่อนว่าๆ..อันไหนแตะได้
    ..อันไหนอย่าไปแตะ..................................
    .........พวกอยู่นอกวงการ..หรือ..คนเล่นพระรุ่นใหม่ๆทั่วๆไป...ก็ไม่รู้เรื่อง.พอไปฟังพวกแผงรับเช่าพระ
    เขาพูดเข้า..ก็ตีความทำนองว่า..ดูถูก..หลวงพ่อก็ปลุกเสก..แล้วทำไมไม่เอา..หารู้ไม่ว่า..ไม่ใช่เขาไม่
    เชื่อ..แต่"มันเล่นยาก..มันมีปัญหา"...สู้เขาไปเล่นของปล่อยง่ายไม่ดีกว่าเรอะ......ยิ่งพวกที่นับถือ
    มีของท่านมากมาย..มีทุกรุ่น..เคยเล่นหา..กันแต่กลุ่มพวกเดียวกันเอง..ไม่เข้าใจกลไกตลาดสากล
    ..ยิ่งเป็นเดือดเป็นแค้น...มันไม่ใช่อะไรหรอก..มันมาจากความเข้าใจผิด...
    .............ยิ่งช่วงหลังปี ๑๘ หลังไปไม่กี่ปี..ของท่านน้อยลง..ประสพการณ์ก็น้อยลงด้วย...อย่าลืม
    ว่า..ปี ๑๙-๒๒ ..ทหาร รบปะทะ..กับ..คอมมิวนิสต์..แถบอีสานหนัก..พระหลวงพ่อเกษม..ที่ใช้
    กัน..ก็ปี รุ่นเก่าๆ..กันทั้งนั้น..รุ่นใหม่ๆ..ก็เลยไม่ได้ประสพการณ์ไปเขาด้วย..พอคอมมิวนิสต์หมด
    รุ่นใหม่ก็เลย..โอกาสน้อยที่จะได้โชว์ศักยภาพ...สถานะการณ์สร้างวีรบุรุษ..ฉันใด..ฉันนั้น...
    .........ต่อมาวงจรก็เริ่มกลับมา...อย่าลืมว่า..ตอนนั้นปี ๒๕๑๘ หลวงพ่อเองท่านก็อายุ..ก็ไม่ถือว่า
    มากแค่ ๖๓ เพียงแต่ท่านเป็นคนผอม..ร่างกายเดิมก็ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว...แต่พอได้พักผ่อนมากขึ้น
    หลายปี..ร่างกายแข็งแรงขึ้น...ตอนนี้..จะปฏิเสธ..ความต้องการมหาชนได้ยังไง..พี่ว่ากรรมการสุสาน
    ก็คงพูดไม่ออกเหมือนกัน..หรือ..บางทีเงินส่วนแบ่งมาทางสุสานก็คงน้อยลงด้วย..ก็เลยอาจเป็น
    สาเหตุ..ที่พระหลวงพ่อเกษมเลยเลยเริ่มทยอยออกมาเยอะขึ้น..ในช่วงท้ายๆของชีวิตท่าน
    ..........นี่เป็นความคิดเห็นของพี่นะ..เป็นกลางๆ..โดยถือว่า..ทุกอย่างมันต้องมีเหตุผล..ของตัวมันเอง
    ..แต่ที่ถามว่า..แล้วไอ้พวกที่มั่วนิ่มละมีมั้ย..ตามเหตุ..คามผลพี่ก็ว่า..น่าจะมีบ้าง..ก็นี่ก็เป้นอีกสาเหตุ
    ที่..เขาถึงไม่เล่นหลังปี ๑๘ กัน...ส่วนไอ้เรื่องมีนอกมีใน..ความขัดแย้งภายใน..อะไรพวกนี้..พี่ไม่
    ทราบ..และ..ไม่เคยอยากไปขวนขวายทราบ...เพราะเราไม่เล่นอยู่แล้วก็ไม่จำเป้นต้องรู้..รกสมอง
    ............คราวนี้มาแถมหน่อยให้...เรื่องรุ่นที่มีอนาคต..ตอนนี้พี่ก็ว่า..ไม่พ้น..กองพันเชียงใหม่๑๘...
    เพราะกองพันลำปาง๑๗ ไปไกลแล้ว...ข้อได้เปรียบรุ่นนี้..ก็คือ..จำนวนการสร้างที่ถือว่า..น้อยมาก
    ...การปลุกเสกแบบได้รับลมปราณหลวงพ่ออย่างทั่วถึง..แถมมีรูปประกอบเป็นหลักฐาน...
    ..แล้วในจำนวนที่ว่าน้อย..ส่วนเป็นพันเหรียญ..ก็กันไว้อยู่กับทหารซะตั้งแต่แรก..ตามเจตนาเดิม
    ...สมัยก่อน..ก็เลยมีวิ่งอยู่ในตลาดน้อย...ในช่วงนั้น..
    ............เอาแค่นี้..พอหอมปากหอมคอ..นะน้อง...วันหลังจะมาแนะนำวิธี..อยากได้ของหลวงพ่อ
    ที่ปลุกเสกไม่เกินปี ๑๘ ราคาถูกมากๆ..แล้วมีหน้าหลวงพ่อด้วย..รุ่นไหนเหมาะ..
    ........................สวัสดี.......................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2013
  18. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    ว้าววววววว
    ยาวเอาการเลยนะครับอ้ายมด
    พักบ้างเด้ออ้าย แบบเรื่อย ๆ คือรถไฟอะครับผม ฉึกฉัก ๆ ๆ ๆ
     
  19. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...มันอย่างนี้..พลศิริน้องรัก..
    ..คือ..เรื่องของเรื่อง..มันไม่จบซะที..พี่ก็เลยกัดฟัน..ลุยเขียนให้จบ..
    ..เพราะ..จะได้ต่อเรื่องเดิม...คนอย่างพี่..ไม่ชอบชี้แจงใครกำๆกวมๆ..ก็ให้เต็มไปเลย..ยิ่งเป็นกำธรด้วย..ก็เห็นใจเขา..เพราะทำมาหากินเรื่องนี้..เป็นงานเสริมอยู่..อีกอย่างเรื่องนี้..มันมีประโยชน์..กับคนที่อยู่ในวงการยุคใหม่ด้วย..พี่เคยอ่าน..มีการพูดกันถึงหลายครั้ง..มันคาใจคนหลายคน..
    ....เพราะจำนวนมาก..จะไม่ทันเหตุการณ์ในช่วงนั้น(ไม่ใช่เกิดไม่ทัน..
    แต่เข้าไปในวงการ..ไม่ทัน)..แล้วหนังสือพระ..มันก็รู้อยู่ว่า..เขียนไม่ดี..มันก็เข้าตัวเอง..ผลประโยชน์เยอะ..ถูกใจคนโน้น..ไม่ถูกใจ..คนนี้
    ...เรารู้รึเปล่าว่า..ตอนนั้น..ไอ้พวกเก็งกำไร..เช่าเหรียญปี ๑๙..ที่ออกมาเก็บไว้..เป็นกะตั้ก..เพราะ..พวกนี้บางเจ้าเคยเก็ง..และทำกำไร..กับปี ๑๘ มาแล้วอย่างดี...หวังรวยต่อ..เรียกว่า..มีทั้งเจ้าเก่า..เจ้าใหม่..คิดว่า
    ..มันไม่น่าจะมีผลจริงจัง...เจ๊งบ๊งกันเป็นแถบ..กว่าจะผลักดันของๆตนออกไปหมด..แบบแทบไม่มีกำไรแทบแย่....อุทาหรณ์ของวงการนี้..ก็คือ
    ....หู..ตา..แพรวพราว (รับฟัง..ทุกข้อมูล..ดูให้เห็นกับตา..updateข้อมูล..ต่อเนื่อง)...
    ....รู้จักให้ได้ทุกระดับ (..พยายาม..รู้จักให้ทั่ว..กับ..คนที่อยู่ในวงการ..ตั้งแต่..กระจอกแผงลอย..ยัน...เซียนใหญ่ห้องปิดติดแอร์)
    ....ชั่งน้ำหนักให้เป็น (..เอาข้อมูลที่ได้..มาถามไถ่..คนที่รู้จัก...
    ..รับฟังคำตอบมาแล้ว..ชั่งน้ำหนักความน่าเชื่อถือ..แล้ว..ตัดที่เลื่อนลอยออกไป)...
    ....ตัดสินใจเด็ดขาด..(ประเมินข้อมูล..ที่กรองแล้ว..ต้องไม่ว่อกแว่กอีก..ฟันธงเลย).....
    ...............ทำได้แค่นี้..รับรองพลาดยาก..อยู่ในวงการได้นาน...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013
  20. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    ชัดเจนมากครับ เป็นคำแนะนำที่ตรงไปตรงมาดีครับ ชอบครับคุณอา
     

แชร์หน้านี้

Loading...