ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย คุณสนุก, 4 พฤศจิกายน 2010.

  1. จงอาง

    จงอาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +7,799
    เหรียญหลวงพ่อจิต วัดควนจง รุ่นสอง เรื่องเหนียว ทั้งปืนทั้งระเบิด ไม่ได้กินเลือด ขอรับ ท่านดังมานานแล้ว ลองถามลุงเกิลดู ช่วงผมเก็บเหรียญ ราคา ประมาณ หลักพันต้น หลายปีแล้วนะ​


    ขอเพิ่มเติม น้องนวล ขอรับ
     
  2. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    สถานที่ควรไปสักการะบูชา ที่สำคัญ อีกแห่ง อยู่ระหว่างอ.หาดใหญ่-สงขลา

    พระพุทธมหามงคลบพิตร (วิหารน้ำน้อย)

    วิหารน้ำน้อย

    ที่มา
    http://www.kaskaew.com/index.asp?co...%B9%E9%CD%C2&getarticle=169&keyword=&catid=32


    วิหารน้ำน้อย

    พระพุทธมหามงคลบพิตร หรือ “สมเด็จพระพุทธมหามงคลบพิตร” เป็นพระพุทธรูปสำคัญองค์หนึ่งของไทยมาช้านาน แต่น้อยคนนักที่รู้จัก มีแต่การเดาและเล่าขานกันต่าง ๆ นานาในบางกลุ่มเท่านั้น ดังนั้น จึงขอนำเรื่องราวของท่านมาเล่าขานสู่กันฟังจากการบอกเล่าของครูอาจารย์และท่านผู้มีพระคุณ เพื่อความเป็นมงคลแก่ท่านที่สนใจ

    สมเด็จพระพุทธมหามงคลบพิตร ท่านสาธุชนพุทธบริษัทปัจจุบันมีอยู่สององค์ ประดิษฐานอยู่ที่บ้านน้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทั้งสององค์ก็เนื่องด้วยพระมหากษัตราธิราชเจ้า มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ และเป็นทองคำแท้ ๆ เนื้อเก้าองค์หนึ่ง อีกองค์หนึ่งเป็นทองสัมฤทธิ์ และการสร้างพระวิหารนี้ มีความเกี่ยวพันกับหลวงพ่อฤาษีพระราชพรหมยานทั้งในอดีตชาตินานมา และชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของท่าน พระพุทธมหามงคลบพิตรทั้งสององค์นั้น องค์ใหม่อยู่บนดินในพระวิหาร องค์เดิมอยู่ใต้ดินใต้พระวิหาร

    ท่านบอกว่าองค์ใต้ดินเป็นทองเนื้อเก้า ถอดออกได้เป็นเก้าชิ้น สวยงามมาก ขนาดหน้าตักกว้างราวสามเมตร ใหญ่กว่าองค์ใหญ่ในวิหาร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างสมัยสุโขทัยโดยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และพ่อขุนศรีเมืองมาน สมัยนั้นบ้านเมืองอุดมเจริญรุ่งเรืองมาก

    สำหรับความเป็นมาของการพบพระ และการทำนุบำรุงก่อสร้างวิหารน้ำน้อยหรือวิหารสมเด็จพระพุทธมหามงคลบพิตร พอสรุปรวมความจากคำบอกเล่าของผู้อยู่ในเหตุการณ์ (ม.ล.วรวัฒน นวรัตน์ คุณป้าจันทร์นวล นาคนิยม คุณยายกิมไล่ ชูโตชนะ) รวมทั้งท่านเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน พระครูปลัดอนันต์ พุทธญาโณ และที่หลวงพ่อฤาษีท่านเคยเล่าขานไว้คือ

    สมัยที่หลวงพ่อฤาษีเดินทางไปสงเคราะห์ลูกหลานพุทธบริษัททางภาคใต้ครั้งแรก พ.ศ.2518 โดยมีหลวงปู่สิมพุทธจาโร วัดถ้ำผาปล่อง หลวงปู่ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวงร่วมไปด้วย ที่จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา ภูเก็ต ตรัง พัทลุง และสงขลา พอคณะของหลวงพ่อเดินทางไปถึง สามแยกควนเนียง (เป็นทางแยกมีถนนไปสตูลบรรจบกับถนนจากพัทลุงและไปหาดใหญ่) มีเทวดาเครื่องทรงแพรวพราวสวยงาม ปรากฎกายหน้ารถต้อนรับหลวงพ่อและเหนือศีรษะเทวดาองค์นั้น มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ลอยอยู่ เป็นนิมิตรหมายสะดุดตา เมื่อหลวงพ่อท่านเข้าที่พักผ่อนตอนกลางคืน ขณะเอนกายลงนอนมีพรหมองค์หนึ่งมานั่งอยู่ทางปลายเท้าและบอกกับหลวงพ่อว่า “จะมาบอกเรื่องพระใหญ่” แล้วได้เล่าให้หลวงพ่อฟังว่า มีพระพุทธรูปทองคำเนื้อเก้าเป็นทองคำแท้ฝังอยู่ใต้ดิน (ที่บ้านน้ำน้อย หาดใหญ่) จุดนั้นอยู่ห่างจากทางรถไฟไปประมาณ 30 วา และออกจากเมืองหาดใหญ่ไปประมาณห้ากิโลเมตร เดิมพระพุทธรูปองค์นี้อยู่ในเมืองสงขลา สร้างในสมัยสุโขทัย สมัยนั้นสร้างพระทองคำใหญ่สามองค์ด้วยกัน ขนาดเล็กกว่ากันลดขนาดลงมานิดหน่อยตามลำดับแต่ละองค์ สามารถถอดออกได้ ประกอบได้เป็นเก้าชิ้น ไม่มีโลหะเจือปน ทั้งนี้ความมุ่งหมายในการก่อสร้างนั้น ท่านบอกว่ามีนัยเพื่ออาศัยพุทธานุภาพป้องกันภยันตราย ทุพภิกขภัย ให้ชาวไทยอยู่ร่มเย็นเป็นสุข และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจพุทธบริษัท รวมทั้งการเป็นปึกแผ่นของแผ่นดินไทยเพื่อลูกหลานเหลนไทยในอนาคตกาลข้างหน้า พระพุทธรูปทองคำองค์ใหญ่สุดท่านบอกว่า ขณะนี้ประดิษฐานอยู่ที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร คือหลวงพ่อพระพุทธสุโขทัยไตรมัตร อยู่ประจำภาคกลางของประเทศในกรุงเทพมหานคร

    องค์ที่สองเล็กกว่าองค์แรกเล็กน้อย เล็กเท่าใดไม่แน่ชัด ขนาดหน้าตักเกือบสามเมตร เดิมประดิษฐานอยู่ในตัวเมืองสงขลา เป็นพระประจำภาคใต้ ขณะนี้อยู่ใต้ดิน ใต้วิหารน้ำน้อย องค์ที่สาม เล็กกว่าองค์ที่สอง เป็นองค์น้องสุดในสามองค์ แต่น้ำหนักเป็นตันด้วยทองคำแท้ ๆ องค์ที่สามนี้อยู่ในลำน้ำโขงตรงกลางแม่น้ำแบ่งเขตแดนไทยกับชาติอื่น มีผู้รู้ท่านหนึ่งเล่าว่า ไม่นานมานี้ขณะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำโขง บริษัทรับเหมาก่อสร้างพบเห็นพระพุทธรูปองค์นี้ พยายามใช้ลวดสลิงขนาดใหญ่ดึงองค์พระขึ้นมาจากน้ำ ปรากฎว่าลวดสลิงขาด พระท่านจมลงไปในน้ำไม่สามารถนำขึ้นมาได้

    พระพุทธรูปองค์ที่สอง อยู่ที่เมืองสงขลามาตลอด จนถึง พ.ศ.2310 ที่กรุงศรีอยุธยาเสียเมืองแก่พม่า พวกพม่าทำลายวัดวาอารามเอาพระพุทธรูปสำคัญ ๆ ลอกเอาทองคำกลับเมืองตนมากมาย เฉพาะทองคำที่พระศรีสรรเพชรองค์เดียวที่พม่าข้าศึกทำลายองค์พระนำทองไป มีน้ำหนักกว่า 25,000 ชั่ง ข่าวนี้ได้แพร่ไปถึงภาคใต้ ซึ่งกองทัพส่วนหนึ่งของพม่ายกลงไปตีภาคใต้ ชาวเมืองสงขลารู้ข่าว จึงระดมคนแอบนำพระพุทธรูปทองคำล้วนทั้งองค์ล่องไปตามลำน้ำทางเรือ หาทำเลซ่อนองค์พระ พอไปถึงบ้านน้ำน้อยเห็นทำเลเหมาะเพราะเป็นป่าทึบ จึงเกณฑ์คนกว่าสามร้อยคนช่วยกันขุดหลุมลึกกว้าง 5 วา แล้วสร้างกำแพงอิฐโดยรอบยารอยต่อกันน้ำซึมเข้าลักษณะคล้าย ๆ สี่เหลี่ยมผืนผ้า บรรจุอัญมณีเครื่องประดับมีค่ามากมายไว้กับองค์พระเป็นพุทธบูชา แล้วเก็บงำเป็นความลับสุดยอดจนคนต่อ ๆ มาไม่มีใครรู้ จนลุถึง พ.ศ. 2518 จึงนำความมาบอกหลวงพ่อฤาษีฯ เพราะท่านบอกว่า คณะเราเป็นนักบุญแท้ไม่ทอดทิ้งงานพระพุทธศาสนา จึงขอให้สร้างเจดีย์หรือสถูปบนดินเหนือองค์พระ กันไม่ให้คนเดินข้ามเศียรพระ จะเป็นโทษแก่พวกเขา นอกจากนี้สมัยก่อนโน้น หลวงพ่อก็เป็นผู้ร่วมสร้างพระทองคำทั้งสามองค์ด้วย

    พระพุทธรูปทั้งสององค์ทั้งในดินและในน้ำ ท่านบอกว่าเมื่อถึงเวลาคือประชาชนมีจิตใจดี มีศีลธรรมมากกว่านี้ ทั้งสององค์จะปรากฎขึ้นมาเอง ถ้านำขึ้นมาก่อนจะมีโทษมากกว่าประโยชน์ เพราะความโลภของคนและหลวงพ่อบอกว่าสำคัญมากสำหรับแดนดิน ไม่ควรนำขึ้นมาเป็นอันขาด

    เมื่อเราทราบข่าวว่า พระครูปลัดอนันต์และลูกหลานหลวงพ่อจะไปบูรณะเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปี เมื่อ 25 สิงหาคม 2539 ของการสร้างวิหาร การบูชาพระมหามงคลบพิตร จึงเกิดความสงสัยใคร่รู้ว่า พระใหญ่ในดินนั้นเป็นเช่นไร แล้วก็ฝันไป (ฝันก่อนได้ยินเขาเล่าขานจากผู้รู้) ว่าเป็นพระใต้ดินปางมารวิชัยองค์ใหญ่เป็นวา หน้ายิ้มละมัยสวยชวนมอง ค่อนข้างกลม อิ่มเอิบสมส่วน (บรรยายยาก) เห็นแล้วชี่นใจ และถ้าจำทิศไม่ผิดพลาดท่านหันหน้าไปทางทิศตะวันออก พระสององค์สำคัญทั้งในดินและในน้ำที่กล่าวแล้วนั้น ช่วยป้องกันและเชื่อมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียว เพราะมีคนคอยจ้องจะทำลายเป็นศัตรูอยู่ตลอดเวลา แบบปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ รอฉกฉวยโอกาสให้เราคนไทยวุ่นวายหงุดหงิดเป็นนิจ ต่อมาข้าพเจ้าจึงได้รับฟังคำบอกเล่าจากผู้รู้และอยู่ในเหตุการณ์สมัยหลวงพ่อท่านเริ่มไปสงเคราะห์ภาคใต้ ซึ่งก็ใกล้เคียงกันมาก ๆ

    ทีนี้หลวงพ่อและหลวงปู่เมื่อไปพิสูจน์ดูก็เห็นเป็นจริงตามที่พรหมบอก แต่ปู่ครู “หลวงปู่ธรรมชัย” เห็นทีหลังหลวงพ่อและหลวงปู่สิมว่ามีพระและอัญมณีมากมายควรค่าแก่กษัตริย์ เนื่องจากถูกกเทวดาล้อเล่นโดยเอามือปิดบังเอาไว้ จากนั้นหลวงพ่อก็ติดต่อหาเจ้าของที่ดินของซื้อที่ตรงนั้น เจ้าของคือคุณยายกิมไล่ ชูโตชนะ และสามีไม่ยอมขาย แต่ยกให้ฟรี ๆ ตามแต่ต้องการ หลวงพ่อรับมาเพียง 200 ตารางวาเศษ ๆ เพื่อจัดสร้างวิหาร คณะศิษย์ท่าน โดยเฉพาะทางกรุงเพทฯ โดยท่าน “อ๋อย” คุณเฉิดศรี และท่านเจ้ากรมเสริม สุขสวัสดิ์ เป็นหัวหน้าจัดหาเงินเป็นค่าวัสดุก่อสร้าง 240,000 บาท ม.ล.วรวัฒน์ นวรัตน์ ผู้อำนวยการการไฟฟ้ากระบี่สมัยนั้น จัดแรงงานมาฟรีโดยคณะการไฟฟ้ากระบี่และนายณรงค์ ณ ตะกั่วทุ่ง ออกแบบวิหารวันที่ 15 พฤษภาคม 2519 พลเอกบุญชัย บำรุงพงศ์ ได้ถวายพระพุทธรูป (แบบพระพุทธชินราช) แด่หลวงพ่อเพื่อประดิษฐานที่วิหารนี้ เป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ และเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2519 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เสด็จพระราชดำเนินไปที่วิหารน้ำน้อยและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่เศียรพระพุทธรูปองค์ใหม่นี้ (องค์เดิมในดิน มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ในพระอุระ) ตอนนั้นมีพระอริยเจ้าที่มีขันธ์ 5 ไปร่วมพิธีอีก 6 องค์ นอกจากหลวงพ่อของเรา ได้แก่ หลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโร หลวงปู่ชุ่ม โพธิ์โก หลวงปู่บุดดา ถาวโร หลวงปู่ครูบาธรรมชัย หลวงปู่ครูบาชัยวงษา และหลวงน้ามหาอำพัน ส่วนการกระทำพิธีบวงสรวง อัญเชิญพระพุทธรูปประดิษฐานในวิหารครั้งแรกนั้น มีหลวงปู่สิม หลวงปู่ครูบาธรรมชัย และหลวงพ่อของเราดำเนินการ

    สำหรับพระบรมสารีริกธาตุที่หลวงพ่อจัดเตรียมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงบรรจุในพระพุทธมหามงคลบพิตรนั้น เป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาเองพร้อมตลับเงินฉลุสวยงาม คุณป้าจันทร์นวล นาคนิยม เล่าว่า ตอนนั้นหลวงพ่อเดินไปมาคิดว่าจะเอาพระบรมสารีริกธาตุจากไหนถวายจึงจะเหมาะ องค์เล็ก ๆ หลวงพ่อก็มีอยู่มากแล้ว ท่านเห็นห่อผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองริมลูกไม้วางอยู่ เมื่อหยิบมาเปิดดูข้างในห่อผ้ามีตลับเหลี่ยมลายเงินฉลุงามมาก มีฝาเปิดได้คล้ายนาฬิกาพกแบบโบราณ เมื่อเปิดฝาตลับ มีลูกกลม ๆ หินใส ๆ สองข้างมองเห็นข้างใน มีพระบรมสารีริกธาตุกว่าสิบองค์ หลายสีสวยงามมาก ที่เด่นชัดองค์โตราว ๆ เม็ดถั่วเขียว เป็นสีชมพูทับทิม 4-5 องค์ สีงาช้าง สีอิฐ สีขาว หลวงพ่อจึงจัดเตรียมพระบรมสารีริกธาตุนี้แด่พระเจ้าอยู่หัวในวันนั้น

    มีเกร็ดเล่าถึงวันที่ “ในหลวง” เสด็จวิหารน้ำน้อย 26 สิงหาคม 2519 ว่า มีประชาชนมารอรับเสด็จมากมาย บางคนกลัวฝนตกจะเป็นที่ลำบาก จึงได้บนกรมหลวงชุมพรหรือท่านท้าววิรุฬหก ขอฝนอย่าตกจนกว่าพระองค์ท่านเสด็จกลับ แต่ท่านไม่รับการบน ท่านบอกว่า ถ้าผู้มีบุญมาฝนต้องตกอย่างน้อยแบบปรอย ๆ (แต่ถ้าทำไม่ดีไม่ถูกต้องฝนจะตกหนัก) ก็เป็นจริงตามนั้น ฝนตกปรอย ๆ พอชื่นใจ แบบที่เราพูดกันว่า “เทวดาพรมน้ำมนต์อวยพรให้” ซึ่งมีปรากฎการณ์เช่นเดียวกันนี้ในวันฉลองวิหารครบ 20 ปี เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2539 เช่นกัน

    ม.ล.วรวัฒนฯ เล่าเพิ่มเติมด้วยว่า สถานที่พระใต้ดินอยู่นั้น เดิมทีอยู่หลังวิหารปัจจุบัน ที่ตรงนั้นเป็นแอ่งน้ำ หลวงพ่อจึงให้สร้างค่อนมาทางหน้า เมื่อกระทำพิธีบวงสรวงเสร็จ พระพุทธรูปและทรัพย์อัญมณีก็เลื่อนเข้าไปอยู่ใต้วิหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะว่าเป็นอานุภาพของเทวดาที่อารักขาพระพุทธรูปอยู่จัดการให้ก็ได้ คณะศิษย์ของหลวงพ่อทางภาคใต้ได้ดำเนินการดูแลรักษาตลอดมา ซึ่งจริงดังที่พระพรหมท่านว่าไว้เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2537 คณะศิษย์ฯได้ซ่อมแซมทั้งอาคารและองค์พระพุทธรูปในวิหาร ใช้เงินประมาณ 200,000 บาท รวมทั้งได้อัญเชิญรูปหล่อของหลวงปู่ปานและหลวงพ่อฤาษี พระอาจารย์จากวัดท่าซุง อุทัยธานี ไปประดิษฐานที่วิหารนี้

    ท่านพุทธบริษัททั้งหลาย คุณยายกิมไล่ ชูโตชนะ ขณะนี้ได้ดำเนินการเรื่องยกที่ดิน 200 ตารางวาเศษ ผืนสำคัญนี้ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ด้วยความช่วยเหลือจาก ม.ล.วรวัฒน์ นวรัตน์) เนื่องจากคุณยายไม่มีลูก อายุก็มากแล้ว ราว 90 ปี ต่อไปอาจถูกคนโลภที่รู้เรื่องราวโกงเอาไปได้ ตัวอย่างมีให้เห็นอยู่แล้ว มีคนมาขออาศัยที่ของคุณยายใจดีท่านนี้ คุณยายก็ให้ แล้วเขาก็แอบไปออกโฉนดอ้างเป็นเจ้าของที่ยึดเอาไปเสียเฉย ๆ ที่แห่งนั้นก็มีอยู่หลังวิหารน้ำน้อย “สมเด็จพระพุทธมหามงคลบพิตร” อาศัยเป็นที่ทำมาหากินแบบอื่นนอกนัยพระพุทธศาสนา ซึ่งเราขอยืนยันวาไม่เกี่ยวกับ “พระพุทธมหามงคลบพิตร” ของเราแต่อย่างใด

    ก่อนจะจบเรื่องเล่า พระพุทธรูปทองคำเนื้อเก้า ถอดออกและประกอบได้เป็นเก้าชิ้นสำคัญ บังเอิญข้าพเจ้าได้ค้นพบเรื่องราวของ “พระทองคำวัดไตรมิตร” อันมีการเอ่ยอ้างถึงข้างต้น ล้วนช่วยสนับสนุนคำกล่าวของ “ท่าน” และเป็นการพิสูจน์อีกอย่างหนึ่งด้วยว่า สร้างสมัยสุโขทัย สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช โดยการพินิจพิเคราะห์เอาตามตำราศิลปะประจำยุคสมัย

    ข้อเขียนอาจารย์ฉันทิชย์ กระแสสินธ์ และพลตรีผจญ กิตติประพันธ์ ล้วนมีใจความคล้ายกันโดยสรุปว่า พระพุทธรูปทองคำแท้วัดไตรมิตร สร้างสมัยกรุงสุโขทัยยุคกลาง ประมาณรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ( พ.ศ.1820-1860) ขนาดหน้าตักกว้างหกศอก ห้านิ้ว (3.1 เมตร) พระเกตุยาวหนึ่งศอก หนึ่งคืบ (75 เซนติเมตร) ความสูงรวมพระเกตุมาลา (ไม่คิดอาสนะ) เจ็ดศอก หนึ่งคืบ เจ็ดนิ้ว (3.9 เมตร) ไม่รวมพระเกตุมาลาสูง 3.16 เมตร องค์พระถอดออกได้เป็นเก้าชิ้น เพิ่งจะรู้ว่าเป็นพระทองคำแท้เมื่อ 26 พฤษาภาคม 2498 หลังจากที่ปูนกะเทาะ และเอารักที่ทาไว้ออกโดยอุบัติเหตุ ภายในองค์พระมีกลไกสำหรับถอดออกและประกอบเข้าใหม่ได้ (แต่...ท่านเจ้าอาวาสองค์ก่อนได้ให้ประกอบไว้ถาวร กันการขโมยชิ้นส่วนพระแล้ว) ปูนที่พอกหุ้มองค์พระไว้แน่นหนาถาวรเป็นลักษณะอยุธยาตอนปลาย สันนิษฐานว่าเพื่อป้องกันพม่าข้าศึกทำลายยึดเอาทองคำไปเป็นสมบัติ และถูกปูนห่อหุ้มซ่อนไว้ไม่มีใครรู้ถึง 188 ปี

    ท่านสาธุชน ลักษณะขององค์พระพุทธรูปทองคำเป็นคล้าย ๆ กับที่ข้าพเจ้าฝันไปถึงองค์พระทองคำใต้ดิน “พระพุทธมหามงคลบพิตร” ทั้งพุทธลักษณะ และขนาด อย่างคาดไม่ถึงจริง ๆ ตามข้อเขียนทั้งสองท่านระบุเอาไว้ด้วยว่า องค์พระทองคำวัดไตรมัตรเป็นศิลปสุโขทัย พระศก(ผม) ขมวดเป็นก้นหอย จมูกโด่งงามเป็นสัน ค่อนข้างงุ้มนิด ๆ แย้มพระโอษฐ์ พระหนุ (คาง) เสี้ยม พระกรรณ (หู) เหมือนกลีบบัวและยาว ปลายหูเจาะ พระศอ(คอ) เป็นปล้อง พระอุระ (อก) ผาย พระอังสะ (ไหล่) กว้าง พระกร (มือ) ยาว ปลายพระหัตถ์(นิ้ว) เหมือนมนุษย์ยาวไม่เสมอกัน ฯลฯ นั่งสมาธิราบ ฐานพระพุทธรูปเกลี้ยง ตรงกลางฐานเว้าเข้า พระพักตร์คล้ายพระร่วงโรจนฤทธิ์ที่พระปฐมเจดีย์ จีวรบางแนบเนื้อ พระเกตุมาลาเป็นเปลว รัศมียาวเกลียวเป็นรูปอุณาโลม ซึ่งต้องเป็นงานของพระมหากษัตริย์จัดสร้าง

    ดังได้กล่าวมาจะหาว่าฝันเฟื่องก็แล้วแต่ ความจริงมีปรากฎอยู่ อย่างน้อยไปพิสูจน์ดูที่วัดไตรมิตร ที่พระทองคำองค์ใหญ่หมายเลข 1 ประดิษฐานอยู่ ส่วนองค์รองที่สองและองค์สุดท้องที่สามก็จงตามไปดูเถิด ถ้ามีทิพจักขุญาณ มิฉะนั้นก็ต้องรออีกนานกว่าทั้งสององค์พระพุทธรูปท่านจะขึ้นมาปรากฎองค์ให้เห็น



    คัดจากหนังสือ พิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จพระพุทธมหามงคลบพิตรฯ วิหารน้ำน้อย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    อ่านประวัติการสร้างวิหารพระพุทธมหามงคลบพิตร(วิหารน้ำน้อย) ได้ที่

    ประวัติการสร้างวิหารพระพุทธมหามงคลบพิตร(วิหารน้ำน้อย) ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
    อนุโมทนาบุญ ค่ะ

    ที่มา...

    http://www.danpranipparn.com/web/praput/praput264.html
     
  4. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    ***สวยมากเลยครับ***
     
  5. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    ***สวัสดีครับ ท่าน อ.จงอาง
    ขอบพระคุณ มากๆเลยนะครับ (deejai)
     
  6. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    สวัสดียามค่ำค่ะ..
    ดอกบัวที่บ้านค่ะ...

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8801.jpg
      IMG_8801.jpg
      ขนาดไฟล์:
      281.8 KB
      เปิดดู:
      38
    • IMG_8806.jpg
      IMG_8806.jpg
      ขนาดไฟล์:
      255.9 KB
      เปิดดู:
      44
    • IMG_8804.JPG
      IMG_8804.JPG
      ขนาดไฟล์:
      280.7 KB
      เปิดดู:
      36
    • IMG_8803.JPG
      IMG_8803.JPG
      ขนาดไฟล์:
      288.8 KB
      เปิดดู:
      302
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 มิถุนายน 2013
  7. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,342
    อยากเจอพี่นวล อยากให้พี่นวลมาโขทัย
     
  8. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    ถ่ายจากที่วัดคลองพระยาค่ะพี่รุ่ง เมื่อวานไปทำบุญที่วัด
    ท่านเจ้าอาวาสถามถึงพี่รุ่งและคณะกองบุญแก้วมณีธรรมด้วยค่ะ...
     
  9. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    สวัสดีค่ะน้องโจ....หากพี่ไม่ติดอะไร วันที่ 3 สค.56 อยากไปร่วมงานพิธีหล่อพระประธานที่สุโขทัยด้วยค่ะ


    อนุโมทนาบุญน้องโจและทุกท่านนะคะที่ร่วมกันสร้างพระประธาน
     
  10. จงอาง

    จงอาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +7,799
    เหรียญ รุ่นสอง หลวงพ่อจิต วัดควนจง หาดใหญ่ สงขลา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • k111.jpg
      k111.jpg
      ขนาดไฟล์:
      174.1 KB
      เปิดดู:
      52
    • k222.jpg
      k222.jpg
      ขนาดไฟล์:
      287.9 KB
      เปิดดู:
      41
  11. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    จองเหรียญนี้หละ นาน ๆ มาที ต้องเอาให้คุ้มครับ
    หวัดดีครับอาจารย์ ซำบายดีเนาะครับ ผมเรื่อย ๆ ครับ:cool::cool::cool:
     
  12. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    ***ถ้า คราวหน้าไปอีก ว่าจะไปกราบท่าน อีกครับ คุณ นวล**
     
  13. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    ***อ.จงอาง พระเครื่องแต่ ละองค์ เนี่ย กริ๊บจากวัดเลยครับ ***
     
  14. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    ***คราวหน้า จะไปเที่ยว ที่บ้านใหม่ นะครับ อยากเจอกรุพระเครื่อง หลวงปู่ ทวดครับ***
     
  15. phattharaphong

    phattharaphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +11,460
    หลวงพ่อจิต วัดควนจง พระสายกรรมฐาน ประสบการณ์เยอะมากใน 3 จังหวัดครับ ปล.พี่นวลที่วัดมีพระให้บูชาป่าว
     
  16. phattharaphong

    phattharaphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +11,460
    วัดไหนครับพี่นวล (k)(k)(k)(k)
     
  17. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    กราบหลวงพ่อทวดค่ะ..
    สวัสดียามเย็นอาจารย์จงอาง และทุกท่านค่ะ...

    เมื่อวานไปรื้อดู....มี 3 เหรียญค่ะอาจารย์
    ไม่รู้ว่าได้รับมาจาก ท่านใดมอบให้บ้าง แต่ก่อนหน้านี้มีพี่ที่รพ. ประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว พี่เขาชวนไปทำบุญตักบาตรที่วัดเขาล้อม (ควนจง).....ก็ได้รู้จักวัดก็ต้องขอบพระคุณพี่นุ้ยค่ะ ที่ได้ชวนไปตักบาตรที่วัดนี้.....

    และเพิ่งจะได้กราบหลวงพ่อมหาจิต เมื่อปี 55 ครั้งที่คุณหมอกำพล ท่านชวนขึ้นไปกราบ (ตอนนั้นนำเหรียญ หลวงพ่อทวดทอดผ้าป่าของรพ. นำไปให้ท่านปลุกเสก แต่ก็ไปไม่ทันค่ะ เพราะคุณหมอ ท่านได้เข้าไปกราบหลวงพ่อตั้งแต่ 6.00 น.)

    พี่นวลไปถึงวัด 7.00 น. คุณหมอลงจากกุฎิของหลวงพ่อพอดี เลย ฝากบอกพี่ อีกคนให้พี่นวลได้ขึ้นไปกราบหลวงพ่อทีหลัง....

    ได้กราบหลวงพ่อ วันนั้นเป็นวัดแรกที่ได้เห็นหลวงพ่อ...ก็ได้นั่งสมาธิ ดูจิต และฟังหลวงพ่อสอน... พร้อมกับญาติธรรม หลายท่านซึ่งมานั่งอยู่ข้างในห้องแล้ว ครั้งนั้นพี่นวลก็ได้รับเหรียญ รุ่น 3 ค่ะ....

    ครั้งที่ 2 ถัดจากนั้น อีก 3 เดือน พี่นวลก็ไปขอความเมตตาหลวงพ่อ ให้ท่านเสกแผ่นตะกั่ว แต่ก็ต้องเรียนแม่ชีก่อน...และท่านแม่ชีไปกราบนมัสการบอกหลวงพ่อมหาจิต ได้หรือไม่...ซึ่งต้องบอกที่มาที่ไปว่าไป นำไปเพื่อวัตถุประสงค์เรื่องใด ต้องเป็นงานบุญ.. เมื่อหลวงพ่ออนุญาต ท่่านก็จะให้เข้าไป และท่านก็เมตตาเสกให้.....เป็นแผ่นตะกั่ว ของพี่ผาแดง

    และครั้งที่ 3 ที่ไปกราบหลวงพ่อ ก็ประมาณ เดือนตค.55 ซึ่งช่วงนั้น พี่นำสติกเกอร์ผ้ายันต์ ไปพร้อมกับนายกอบต. และผู้จัดการไฟฟ้า ซึ่งหลวงพ่อท่านให้ทั้งสองท่านเข้าพบ (เพราะได้ดูแลเรื่องระบบไฟในวัด)....พี่เลยได้รับอนิสงส์..หลวงพ่อเมตตา เสกสติกเกอร์ให้ค่ะ....และครั้งนี้ก็ได้รับพิมพ์สี่เหลี่ยมรรูปพระสมเด็จและรูปหลวงพ่อมหาจิต

    ส่วนครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 8 มิย.56 ซึ่งได้นำแผ่นโลหะ เงิน ทอง นาค และมีหนังสือวัตถุประสงค์ของการหล่อพระประธาน ขอความเมตตาหลวงพ่อให้ท่านเสก เพื่อนำไปหล่อสร้างพระประธานที่จังหวัดสุโขทัย...แต่ก็ต้องขออนุญาตพี่ที่ดูแลหลวงพ่อ....ให้ท่านช่วยกราบนมัสการหลวงพ่อว่าได้หรือไม่.....เป็นเวลาพอดีหรือเปล่า....

    และเมื่อวันที่ 16 มิย.56 พี่ก็ไปใส่บาตรที่วัด เสร็จ ก็ขึ้นไปกราบหลวงพ่อ..
    สอบถามเรื่องแผ่นโลหะ..... พี่เขาก็บอกว่า หลวงพ่อท่านเสกให้แล้ว

    นับว่าเป็นบุญของพี่นวลค่ะ ...(มีพี่เขาแนะนำว่า หากเราอยากได้พบหลวงพ่อให้เราอธิฐานค่ะ....เมื่อถึงเวลาพอดี ก็จะได้พบหลวงพ่อค่ะ)

    บางท่านไป ก็ไม่ได้พบหลวงพ่อเพราะไปไม่ตรงเวลา และหลวงพ่อท่านจำวัด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 มิถุนายน 2013
  18. ไทแทน

    ไทแทน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +297
    กราบหลวงพ่อทวดครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • _MG_1029.jpg
      _MG_1029.jpg
      ขนาดไฟล์:
      127.1 KB
      เปิดดู:
      65
    • _MG_1030.jpg
      _MG_1030.jpg
      ขนาดไฟล์:
      141.7 KB
      เปิดดู:
      59
  19. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    พี่นวลถ่ายจากวัดคลองพระยาค่ะ มีพระท่านนำมาร่วมบุญให้กับทางวัดคลองพระยาค่ะ....

    แต่ไม่รู้ว่าพระท่านนำกลับไปแล้วยัง....องค์ค่อนข้างใหญ่ค่ะ...แต่ข้างหลังมีเป็นพญานาค...ท่านให้บูชา ใบสีม่วงค่ะน้องภัทร....(f)
     
  20. anusart34

    anusart34 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2011
    โพสต์:
    509
    ค่าพลัง:
    +868
    เมื่อวานนี้ ไปขึ้นมะขามป้อมให้ น้าชายเลยมอบพระให้ 1 องค์ ในความขยัน

    หลวงปู่ทวด 5 แชะ หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์ ปี 2538 เดิมๆๆ สภาพไม่ผ่านการใช้งาน




    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...