พระเครื่อง พระกรุ นิยม

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย พลังชาตรี 13, 5 กรกฎาคม 2011.

  1. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    พระกลีบบัว กรุวัดใหม่ปากบาง อยุธยา
    หลวงปู่ทรัพย์ ลูกศิษย์สมเด็จพุฒาจารย์โตได้นำผงสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักนำมาจัดสร้างเป็นมวลสารสำคัญและบรรจุไว้ในกรุเจดีย์วัดใหม่ปากบางในปี 2430

    วัดใหม่ปากบาง ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าตอ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่เดิมวัดนี้มีชื่อว่า "วัดสกุณีเทศฐาราม" ที่ตั้งของวัด เดิมเป็นที่ดินของคุณย่านกเทศ ต่อมาได้ถวายเป็นที่ธรณีสงฆ์ ซึ่งในสมัยนั้นได้มีพระภิกษุ 2 รูปธุดงค์มาในแถบตำบลท่าตออยู่เสมอ ชาวบ้านแถบนั้นต่างก็เลื่อมใสในปฏิปทาของท่านเป็นอันมาก จึงนิมนต์ให้ท่านอยู่จำพรรษา โดยคุณย่านกเทศได้สร้างกุฏิสงฆ์หลังเล็กๆ ซึ่งอยู่ในที่ดินของคุณย่านกเทศ และต่อมาจึงได้มอบที่ดินให้ตั้งเป็นสำนักสงฆ์ พระองค์แรกนั้นมีชื่อว่าทรัพย์ ส่วนอีกองค์ไม่มีใครจำชื่อได้ หลวงปู่ทรัพย์ท่านได้อยู่จำพรรษา ณ สำนักสงฆ์แห่งนี้และได้ก่อสร้างเป็นวัดขึ้นมา และตั้งชื่อวัดนี้ว่า วัดสกุณีเทศฐาราม โดยเอานามของคุณย่านกเทศมาตั้งชื่อวัด กาลต่อมาจึงได้เปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็น "วัดใหม่ปากบาง" เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อหมู่บ้านในภายหลัง
    หลวง ปู่ทรัพย์ ท่านเป็นชาวชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ท่านเป็นพระธุดงคมาปักกลดอยู่ในตำบลท่าตอ และเริ่มสร้างวัดจนสำเร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ.2394 โดยประชาชนในตำบลท่าตอได้ช่วยกันสร้างกุฏิ หอสวดมนต์ จนเจริญรุ่งเรืองเป็นวัดขึ้นมา หลวงปู่ทรัพย์ท่านเป็นพระที่ใจดีมีเมตตาธรรมสูง ท่านเก่งหนังสือขอม ท่านได้เขียน
    หนังสือขอมไว้ในสมุดใบลานประมาณสิบกระสอบ หลวงปู่ทรัพย์ท่านจะสอนหนังสือ
    พระเณรภายในวัดทุกวัน และท่านเป็นพระที่เคร่ง ครัดในพระธรรมวินัยมาก พระเณรในวัดต่างก็เกรงท่านมาก และท่านก็เป็นที่รักเคารพของชาวบ้านในแถบนั้น หลวงปู่ทรัพย์ได้สร้างพระเครื่องเนื้อผงไว้จำนวนมาก มีด้วยกันหลายพิมพ์ เช่น พิมพ์พระประจำวัน พระนางพญา พระสมเด็จ 3 ชั้น เป็นต้น และพระทั้งหมดท่านได้นำบรรจุไว้ในองค์ พระเจดีย์ย่อไม้สิบสอง
    หลังจาก ที่หลวงปู่ทรัพย์ท่านได้มรณภาพไปนานแล้ว ในราวปีพ.ศ. 2485-95 ทางวัด
    คิดจะสร้างหอสวดมนต์และหอระฆัง แต่ก็ขัดสนเรื่องทุนทรัพย์ จะด้วยเหตุผลใดก็ไม่ทราบได้ ได้มีนกเอี้ยงที่อาศัยอยู่ที่คอระฆัง คุ้ยเขี่ยเอาพระร่วงหล่นลงมา ทำให้มีคนรู้ว่ามีพระบรรจุอยู่ที่คอระฆังและเริ่มมีคนเข้ามาขโมยเอาพระ ท่านเจ้าอาวาสในสมัยนั้นจึงได้ให้ทำการเปิดกรุโดยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะ หนึ่งทำการเปิดกรุพระ และนำมาจำหน่ายให้แก่ประชาชนเพื่อนำรายได้มาสร้างหอสวดมนต์และหอระฆังดัง กล่าวเสีย และการสร้างหอระฆังและหอสวดมนต์ก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีหลังจากนั้นอีกหลายปีต่อมา ทางวัดได้เริ่มสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ จึงได้นำพระ ออกมาจากกรุทั้งหมดเพื่อนำมาจำหน่ายให้แก่ประชา ชน เพื่อนำมาเป็นทุนทรัพย์ในการสร้างพระอุโบสถและพระอุโบสถหลังใหม่ก็สร้าง สำเร็จด้วยดี ดังที่เห็นในปัจจุบันนี้ พระเครื่องของหลวงปู่ทรัพย์ กรุวัดใหม่ปากบางนี้เป็นพระเครื่องเนื้อผง โดยส่วนใหญ่ จะปรากฏคราบกรุแทบทุกองค์ มีพิมพ์ต่างๆ อยู่หลายพิมพ์ รูปทรงไม่งดงามนักแต่ก็มากไปด้วพุทธคุณครับ จึงเป็นพระดีที่น่าสนใจอีกกรุหนึ่ง
    ด้วยความจริงใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  2. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    พระพิมพ์พระพรหม พิมพ์ใหญ่ มีพระธรรมธาตุเสด็จ ปี 2517

    แบบพิมพ์ที่คุณโอภาส ประพิศพงษ์พานิช(โกโอ่ง)เป็นผู้แกะแบบพิมพ์ด้วยหินสบู่แล้วนำมาถวายหลวงปู่ดู่ เพื่อใช้เป็นแบบพิมพ์ในการสร้างพระเนื้อผงพุทธคุณผสมปูน หลวงปู่ดู่ใช้แบบพิมพ์นี้ทำการสร้างพระอยู่ระยะหนึ่ง หลังจากนั้นหลวงปู่ดู่ได้ปรับปรุงแบบพิมพ์ให้มีความสวยงามยิ่งขึ้น โดยทำกรอบทั้ง ๔ ด้านด้วยพลาสติกเลี่ยมพระ จึงทำให้เกิดแบบพิมพ์พระพรหมพิมพ์ใหญ่แบบมีกรอบขึ้นและได้นำแบบพิมพ์มาสร้างพระพรหมเนื้อผงพุทธคุณผสมปูนนับตั้งแต่ปี ๑๗ เรื่อยมาอีกหลายปี องค์ที่ลง มีพระธรรมธาตุเสด็จ ขึ้นในเนื้อพระกระจายทั่วองค์ ดูสวยงามมากๆ ซึ่งมีจำนวนน้อยมากที่มีพระธาตุขึ้นลักษณะนี้ น่าบูชามากครับ

    พระพิมพ์นี้มีผู้นำมาให้บูชากันมากครับแต่ไม่บอกให้ชัดเจนว่าทันหรือไม่ทันหลวงปู่ดู่ปลุกเสก ในราคาที่ถูกๆหลักพันต้นๆ โปรดระวังครับ

    ดูพิมพ์ดูเนื้อองค์นี้ให้แม่นๆนะครับ หรือขั้นแรกให้ดูการตัดของขอบพระเป็นหลักไว้ก่อนครับ จะต้องเป็นตะใบหยาบๆตัด จุดตายก็ว่าได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  3. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    พระผงสุพรรณ เนื้อผง วัดโพธิ์นิมิต กรุงเทพฯ มวลสารดี พิธีดีพิธีใหญ่

    พระผงสุพรรณ ปี2512 เนื้อผง วัดโพธิ์นิมิต กรุงเทพฯ มวลสารดี พิธีดีพิธีใหญ่
    - หลวงพ่อฑูรย์ เจ้าอาวาสวัดโพธินิมิตร ท่านเป็นศิษย์รัก ของ สมเด็จพุฒาจารย์นวม วัดอนงค์ หลวงพ่อฑูรย์ ท่านมีความสามารถ ทางด้าน ปฏิบัติภาวนา และเป็นพระที่มีอายุยืน รูปหนึ่ง


    สมเด็จพุฒาจารย์นวม วัดอนงค์ ได้เรียก หลวงพ่อฑูรย์ ไปพบแล้วมอบ ผงวิเศษให้ โดยผงวิเศษดังกล่าว เป็นผงที่ สมเด็จท่านทำเองและรวบรวมจากพระเกจิสมัยนั้นหลายองค์ รวมทั้งผงหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่าด้วย โดยสมเด็จพุฒาจารย์นวม ได้บอกให้หลวงพ่อฑูรย์นำผงดังกล่าวไปสร้างพระ หลวงพ่อฑูรย์ ได้ไปหาพระอาจารย์ที่มีคุณวิเศษในสมัยนั้น อาทิ เช่น

    หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ “ อาตมาภาพ เห็นว่าท่านเป็นคนจังหวัด (สุพรรณบุรี) เดียวกัน ก็ไปขอว่า “ขออิทธิเจผมสักกระดาน.. จะเอาไปทำพระ “ ซึ่งในที่สุด ท่านได้รวบรวมมวลสารต่างๆ มาได้ เป็นจำนวนมาก ท่านได้เริ่มพิมพ์พระ ในปี 2485 จนถึงปี 2497 จึงเริ่มแจก พระผง เกศมงคล ซึ่ง รุ่นที่ได้รับความนิยม โดยผสมผงพระเกศาของสมเด็จพุฒาจารย์นวมด้วย จึงเรียกชื่อว่า รุ่นเกศมงคล เป็นพิมพ์สมเด็จหลังยันต์นูน โดยสมเด็จพุฒาจารย์นวมท่านเมตตาปลุกเศกให้ และมีนำไปแจกที่วัดอนงค์ ด้วย
    การปลุกเสกมีพระเกจิที่หลวงพ่อฑูรย์รักใคร่สนิทสนม ได้หมุนเวียนมาปลุกเสกเดี่ยวให้โดยมี


    1. ลป โตีะ วัดประดู่ฉิมพลี
    2. ลพ เส่ง วัดกัลยาฯ
    3. ลพ สา วัดราชนัดดา
    4. ลพ ถีร์ วัดป่าเลไลย์


    พระผง หลวงพ่อฑูรย์ มีเจตนาสร้างดี เป็นพระเครื่องที่มีประสบการณ์ เป็นที่ทราบโดยทั่วไป ทั้งทางด้านค้าขาย เมตตามหานิยมและ แคล้วคลาด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  4. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม

    สมเด็จหลังพระสีวลี เนื้อผงน้ำมัน เอวเล็ก ปี 2515


    พระชุดนี้แตกออกมาจากฐานชุกชีของพระประธานในโบสถ์ มีหลักฐานยืนยันแน่นอนว่า หลวงพ่อกวยท่านได้สร้างเองไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2515
    โดยที่หลวงพ่อกวยท่านกดพิมพ์เอง ท่านได้นำไปเก็บซ่อนเอาไว้ในฐานประธาน พระชุดนี้มีของเก๊ทำเลียนแบบออกมามากมายนะครับ แต่ฝีมือยังห่างไกล ทั้งพิมพ์และเนื้อหา
    ค้นหาประวัติของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตารามดูนะครับ หลังจากที่ท่านเริ่มดังมายี่สิบปี พระเครื่องและวัตถุมงคลต่างๆมีของเก๊ออกมามากมาย บูชา สะสม ควรพืจารณาให้ดีๆครับ พระแท้ราคาแท้ครับพระไม่แท้.......


    แนะนำพระดีๆพิธีดีๆประวัติชัดเจนหลวงพ่อกวยตั้งใจสร้างโดยกดพิมพ์เองครับ
    พระสมเด็จฐานสามชั้น หลังพระสิวลี เป็นพระที่หลวงพ่อสร้างเอง ผสมเนื้อ และกดพิมพ์ สร้างเมื่อ ประมาณ ปีพ.ศ. 2514 – 2515 กดพิมพ์เองที่วัดบ้านแค เป็นการกดแบบทำเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อน ได้จำนวนมากพอควร และหลวงพ่อเสกเองทั้งหมดพระทั้งหมด แตกกรุออกมาเมื่อปี พ.ศ. 2539 แต่ยังไม่เผยแพร่มากนัก เพราะพระไปตกอยู่ในมือ นักขุดกรุ ที่ให้เช่าเข้ารังใหญ่ทั้งหมด เพิ่งจะมีการนำพระออกจากรัง พระสมเด็จพิมพ์ ฐาน 3 ชั้น หลังเป็นพระสิวลี ซึ่งท่านลบ ถม ทำผง เอง และได้กดเป็นพระสมเด็จหลังพระสิวลีขึ้น พระพิมพ์นี้ ท่านปลุกเสกให้เป็นอย่างดี ยิ่งกว่านั้นยังมีผงพระสมเด็จของแท้ผสมด้วย และผ่านการปลุกเสกจากหลวงพ่อกวย หลายวาระด้วย กัน จึงมีพุทธคุณสูง สามารถแก้เวร ตัดกรรมได้ ผู้บูชาเจริญรุ่งเรือง และด้วยว่าด้านหลังแกะพิมพ์เป็นพระสิวลี ท่านจึงเสกเน้นหนักด้าน โชคลาภ โภคทรัพย์ ทำมาหากินขึ้นดี อีกด้วย

    หากท่านอยากได้พระสมเด็จแท้ ๆ ของหลวงพ่อกวย ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นหน่อเนื้อเชื้อสมเด็จ ไว้บูชาสักองค์ สององค์หรืออยากหาพระหลวงพ่อกวยแท้ ๆ ที่ราคาไม่แพงนัก เก็บรักษาไว้ให้ลูกหลาน เพราะต่อไป จะหาพระแท้ ที่หลวงพ่อกวย เสกไว้จริง และเสกเป็นเวลายาวนานอย่างนี้ ยากขึ้นทุกที หรือท่านอยากจะได้พระสมเด็จที่มีพุทธคุณสูง อำนวยความเจริญ รุ่งเรือง แก่ผู้บูชา ทำให้ค้าขายขึ้น ประกอบกิจการงานใด ๆ ก็ เจริญ รุ่งเรือง เป็นเมตตา มหาลาภ แก่คนทั่วไป อยากจะแนะนำให้ท่านรีบหาพระสมเด็จของหลวงพ่อกวย พิมพ์หลังพระสิวลี ไว้บูชากัน

    จุดสังเกตในพระสมเด็จพิมพ์นี้ ของหลวงพ่อกวย เผื่อท่านไปพบเจอที่ไหน จะได้ดูได้ว่าเป็นพระรุ่นที่หลวงพ่อทำหรือไม่ คือ

    1. เนื้อพระส่วนใหญ่ จะเป็นเนื้อผงผสมน้ำมันตังอิ้ว (ที่เป็นเนื้อผงใบลานจัด ๆ และเนื้อผงอิทธิเจ นั้นมีน้อย) ซึ่งผ่านมาถึงปัจจุบันตกเกือบ 40 ปีแล้ว พระจึงแห้งผาก แลดูแกร่ง และบางองค์ก็ปรากฏคราบกรุให้เห็น พิมพ์ทรง คมชัด เนื้อแกร่ง เก่า ได้อายุ หลายองค์ มีรอยเนื้อปลิ้น เนื้อเกิน ของการกดพระให้เห็น จึงตัดปัญหาเรื่องของเก๊ ของปลอม ของทำเสริมออกไปได้

    2.เนื่องจากเป็นการกดพิมพ์คันโยก พระส่วนใหญ่ จะมีเนื้อเกิน เนื้อล้น ไม่ด้านหน้าพระ ก็ด้านหลังพระ มากบ้าง น้อยบ้าง ตามแต่แรงกดพระ

    3.ทั้งพระพิมพ์เอวเล็ก และเอวใหญ่ องค์พระด้านหน้า บริเวณข้อพระหัตถ์ข้างซ้ายมือองค์พระ จะปรากฏเส้นปลายจีวร ในพิมพ์ ที่เซียนพระสายหลวงพ่อกวย เรียกว่า มีกำไล ทุกองค์ และเห็นชัดเจน ในองค์ ที่สวย สภาพเดิม คล้ายเป็นอุบายธรรม ที่หลวงพ่อกวย ท่านแสดงให้เห็นว่า ท่านปลุกเสกพระพิมพ์นี้ ให้มีพุทธคุณด้านโภคทรัพย์สูง ทำมาหากินดี มากที่สุด มีกำไล ไม่มีขาดทุน และ พระสิวลีด้านหลัง ทั้งพิมพ์เอวเล็ก และเอวใหญ่ จะมีขอบสองขอบ และอักขระ นะชาลิติ ปรากฏอยู่ สี่มุม จึงจะเป็นพระที่หลวงพ่อกวย สร้างโดยแท้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  5. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    เหรียญชินบัญชรมหาปราบ พ.ศ.2546

    ร่วมสร้างและปลุกเสกโดยคณะศิษย์ บรรพชิต และ คฤหัสถ์ ของหลวงพ่อทิม อิสริโก

    ชนวนศักดิ์สิทธิ์ประกอบไปด้วย ชนวนพระกริ่งชินบัญชรรุ่นแรก ชนวนพระกริ่งชินบัญชรมหาโสฬส ชนวนพระกริ่งชินบัญชรพญากาลนาค
    ตะกรุดสำคัยของหลวงปู่ทิม แผ่นยันต์จากหลวงปู่ธรรมรังษี หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร หลวงพ่อสาคร มนุญโญ และที่สำคัญคือตะกรุดมหาปราบ
    ที่หลวงปู่ทิมลงให้ โดยถวายให้กับหลวงพ่อสาครใส่ลงในเบ้าหลอม พระอาทิตย์ทรงกลดและสายฝนโปรยเบาบางประมาณ 5 นาที


    พิธีเททองเริ่ม 13.19 น.บัณฑิตอ่านโองการเชิญครูบาอาจารย์ เทพยดาทุกชั้นฟ้า จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระสงฆ์ 9 รูปสวดชยันโต พราหม์ลั่นฆ้อง
    พระเทพคุณาธาร จุดเทียนชัย พระคณาจารย์นั่งปรก 4 ทิศ หลวงปู่ธรรมรังษี, หลวงพ่อสาคร , หลวงพ่อฟู , หลวงพ่อแจ่ม วดเขาสำเภาทอง จากนั้น
    ช่างสมรเริ่มเททอง อากาศซึ่งร้อนอบอ้าวกลับเย็นสบาย ท้องฟ้ามืดครึ้มไปด้วยเมฆฝน แต่ในพิธีกลับไม่มีฝนเลย เกือบ 4 ชม.หลังจากเทพระเสร็จ
    ฝนเริ่มตกลงมาปรอยๆ นับเป็นเรื่องอัศจรรย์เพราะรอบๆวัดฝนตก น้ำท่วมอย่างหนัก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  6. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    พุทธคุณ มีดหมอมีดีอย่างใด มากน้อยแค่ไหน เรามาดูกันครับ

    1. ป้องกันคุณไสย ไม่ว่าจะเป็นคุณคน คุณผี ถ้ามีมีดหมอของหลวงพ่อแล้วไม่ต้องกลัวใคร ไม่มีใครจะทำอันตรายคุณด้วยวิธีนี้ได้
    2. ป้องกันตัวจากศัตรู มีดของหลวงพ่อเดิม ท่านลงวิชาทางมหาอำนาจ เมตตา แคล้วคลาด และเป็นมหาอุต
    3. ขับไล่พวกผีปีศาจ ที่มาเข้าสิงสู่ผู้คน เพื่อที่จะมากินเครื่องเซ่นไหว้ หรือ เป็นผีป่าที่คนเข้าไปเก็บของป่า แล้วเกิดไปทำผิด จึงโดนผีป่าเข้าเล่นงาน ใช้มีดหลวงพ่อขับไล่ได้
    4. อาราชธนาทำน้ำมนต์แก้อาถรรพ์ หรือโดนคุณไสยต่างๆ แก้เสนียดจัญไรต่างๆ
    5. แก้อาถรรพ์ความคงกระพันธ์ต่างๆ ผู้ที่หนังเหนียวยิงไม่เข้า ฟันด้วยดาบไม่ละคลายผิวหนัง ไม่ว่าจะมีของดีอะไรอยู่ในตัว ถ้าโดนมีดหมอของหลวงพ่อได้เลือดทุกคน
    6. ด้ามงาอาถรรพ์ ใช้ฝนกับฝาละมี ( เป็นฝาหม้อดินที่สมัยเก่าเขาใช้หุงข้าว ต้มยาหม้อ ) เอาด้ามงานั้นฝนกับฝาหม้อ แล้วเอาน้ำเปล่ามาเทลงไปในระหว่างที่ฝนด้ามมีดอยู่นั้น น้ำที่ได้นำมาทาตรงที่ถูกสัตว์กัดต่อย จะแก้พิษสัตว์กัดต่อยได้เป็นอย่างดี
    7. ป้องกันอสรพิษ พวกสัตว์มีพิษทั้งหลาย และสัตว์เขี้ยวงาต่างๆ จะไม่เข้ามาใกล้ กับผู้ที่มีมีดหมอของหลวงพ่อเดิมพกติดตัว
    8. มีดหมอของหลวงพ่อเดิม จะไม่ทำร้ายผู้ที่มีมีดหมอของหลวงพ่อพกติดอยู่กับตัว เพื่อเป็นการกันไม่ให้ลูกศิษย์อาจารย์เดียวกันทำร้ายกันเอง
    9. บูชามีดหมอของหลวงพ่อ ไว้กับบ้านจะป้องกันอัคคีภัย และโจรภัยต่างๆ นาๆ เมื่อผู้เป็นเจ้าของอาราชธนามีด ให้ช่วยคุ้มครองป้องกันบ้านของตน แล้วถ้าจะเกิดภัยอันตรายอะไร มีดจะทำการเตือนเจ้าของให้รู้ตัวก่อนเสมอ
    10. เมื่อไปต่างถิ่นต่านแดน หรือนอนกลางดินกลางทรายในป่า ให้เจ้าของมีดกล่าว ขอขมากับแม่พระธรณี แล้วเอาปลายมีดขีดเป็นวงรอบ ๆ บริเวณที่ตัวเองนอนพักผ่อนค้างแรม ภูติผีปีศาจรวมถึงสัตว์เล็กสัตว์น้อย หรือแม้แต่สัตว์ใหญ่จะไม่เข้าใกล้เลยตลอดทั้งคืน
    11. เมื่อต้องลงไปในน้ำ และกลัวว่าจะเกิดอันตรายจากสัตว์น้ำ เช่น จระเข้ ปลาไหลไฟฟ้า หรือ แม้แต่ผีพราย ผีน้ำต่างๆ ให้ชักมีดออกจากฝักแล้วเอามีดคาบไว้ในปาก หรือ เอามีดถือไว้ในมือ แล้วโบกน้ำนำหน้าไปจะปลอดภัยทุกประการ
    12. เมื่อเป็นฝีร้าย มีอาการกลัดหนองปวดร้าวทรมาน หรือเพิ่งเริ่มเป็นไข้ ใช้ปลายมีดหมอวนเป็นวงกลมเบาๆ รอบหัวฝีนั้น หากเริ่มเป็นจะยุบลง แต่ถ้าเป็นมาก หัวฝีจะแตกภายในสามวันจะไม่ทุกข์ทรมานอีก
    13. เมื่อเดินท่างไปต่างถิน จำต้องกินอาหารที่มีผู้นำมาให้ ถ้าไม่แน่ใจว่าอาหารนั้นมีพิษหรือไม่ ให้ใช้ด้ามมีดจุ่มลงไปในอาหาร ที่เขายกมาให้เรากิน ถ้าอาหามีพิษ ด้ามมีดที่เป็นงาจะมีสีดำทันที ในกรณีที่กินเข้าไปแล้วมีอาการแสลง ให้เอามีดทำน้ำมนต์ดื่มจะแก้ยาเบื่อยาสั่งได้
    14. เมื่อถูกของ หรือ ลมเพลมพัด ซึ่งปล่อยมาในอากาศ จะทำให้มีอาการบวมตามตัวเล็กน้อย เดี๋ยวบวมที่ตรงนั้น เดี๋ยวบวมที่ตรงนี้ เปลี่ยนที่ไปตลอด ได้รับความเจ็บปวดมาก ให้เอาปลายมีดหมอไล่ไปตามจุดที่บวม ก้อนนั้นจะหนีปลายมีด ให้เอาปลายมีดไล่ไปเรื่อย ๆ ก้อนที่บวมนั้นจะออกจากตัวผู้ถูกกระทำไปเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  7. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ แม่นางกวัก ออกปี 2517

    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ แม่นางกวัก ปี17 ออกให้บูชาเนื่องในพิธีฝังลูกนิมิตรเป็นรูปแม่นางกวักชุบกระไหร่ทอง เลี่ยมเดิมจากวัดละหารไร่ ระยอง
    หลวงปู่ทิมท่านได้เมตตาดำหริให้จัดทำขึ้นแจกจ่ายในงานพิธี โดยมีพุทธคุณมหาเมตตา/ค้าขาย/กวักโชด/กวักลาภ/การเจรจาติดต่อค้าขายธุรกิจดีนักแล
    พูดได้ว่าเป็นของดีราคาเยาว์ถูกของเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของประเทศซึ่งท่านมีความเมตตาสุงสุดๆในประสบการณ์ผู้บูชา หลวงปู่ทิม แห่งวัดละหารไร่ เมื่อท่านได้สัมผัสแล้วบูชาท่านก็จะรู้ครับแรงได้ใจครับท่าน

    พอดีได้พบแห่งใหญ่สายศิษย์หลวงปู่ครับเอามาแบ่งกันในราคาเบาๆไว้ค้าขายเจรจาธุรกิจและเสริงเสน่ห์ในเมตตามหานิยม

    พระคาถามหาแม่นางกวักชุดใหญ่


    คาถาบูชาแม่นางกวัก (ดีทางด้านค้าขาย เมตตา มหานิยม) แบบย่อ

    ว่านะโม ๓ จบแล้วกล่าวดังนี้

    โอมปู่เจ้าเขาเขียวมีลูกสาวคนเดียว ชื่อว่าแม่นางกวัก หญิงเห็นหญิงรัก ชายเห็นชายรัก อยู่ทุกถ้วนหน้า เอหิมามะมะ อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ เอหิมามะมะ จะค้าขายก็ขอให้เป็นเศรษฐี หนึ่งปีให้เป็นพ่อค้าสำเภาทอง จะค้าเงินขอให้เงินเข้ามากอง จะค้าทองขอให้ไหลมาเทมา เต็มบ้านเต็มเรือน จะค้าขายสิ่งหนึ่งประการใด ขอให้ซื้อง่ายขายคล่อง ขอให้ซื้อง่ายขายดี ขอให้เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ เอหิมามะมะ นะมะอะอุ นะชาลีติ อิกะวิติ พุทธะสังมิ ทุสะมะนิ อิธะคะมะ จะพะกะสะ น าสังสิโม สุมะโมโล นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ นะเมตตา โมขายดี พุทธไม่ต่อ ธาซื้อดี ยะใจดี


    และตามด้วยพระคาถาหลวงปู่ทิมครับ

    สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ อานุภาเวนะ ๆ ๆ จงอยู่ใต้พุทธบารมี

    อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ มะอะอุ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  8. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    พระปิดตา"อุดมสุข" หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน อายุ ๑๐๕ ปี เสาร์ ๕ พ.ศ.๒๕๔๓
    เนื้อทองผสมชนวนพระบูชา และแผ่นยันต์ ๑๐๘ นะ ๑๔ นะผิวทอง ตอกโค๊ด "มะ" สวยงาม
    จัดสร้างถวายโดย พระมหาสุระขันธ์ วัดไตรมิตรวิทยาราม
    หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อายุ ๑๐๕ ปี วัดบ้านจาน จ.ศรีษะเกศ ถอดพิมพ์และแก้ไข มาจาก องค์ต้นแบบ พระปิดตา เหล็กน้ำพี้ เสาร์ ๕ โดยเปลี่ยนจาก "เสาร์ 5" มาเป็น "หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล" เพื่อไม่ให้ สับสนในการแยกพิมพ์
    เสก พิธีเสาร์ ๕ มหาเศรษฐี (วัดป่าหนองหล่ม) วันที่ ๘ เมษายน ๒๕๔๓ หลวงปู่หมุน เป็นประธานพิธีร่วมกับ หลวงปู่กอง อายุ ๑๐๒ ปี วัดสระมณฑล จ.อยุธยา
    - หลวงปู่ละมัย วัดโพธิ์เย็น เพชรบูรณ์ (อายุ ๑๐๑ ปี)
    - หลวงพ่อสม วัดบ้านด่าน ศิษย์เอกหลวงพ่อเอีย
    - ครูบาเที่ยงธรรม สำนักเวฬุวรรณ จ.ศรีษะเกศ
    - หลวงปู่ฤทธิ์ วัดบ้านโนน จ.บุรีรัมย์
    - หลวงปู่สรวง นักบุญแห่งบ้านสายลม บุรีรัมย์ มาอธิษฐานจิตตั้งกสิณไฟ ปลุกเสก
    เสก พิธีมหาพุทธาภิเษก ณ. มณฑลพิธี วัดไตรมิตรวิทยาราม สถานที่ประดิษฐานพระทองคำ หลวงพ่อสุโขทัยไตรมิตร โดยมี ท่านเจ้าคุณธงชัย (พระราชภาวนาวิกรม) เป็นเจ้าพิธี ซึ่งได้รับความเมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกโดย
    -หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม
    - หลวงปู่พรหมา วัดถ้ำหินผานางคอย
    - หลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต วัดป่าพูนคำ
    - หลวงพ่อแพง ปริสุทโธ วัดพระธาตุท่าอุเทน
    และพระเกจิอาจารย์อีหลายรูป
    เสกพร้อมพระปิดตา เนื้อเหล็กน้ำพี้ เสาร์ ๕ ซึ่งหายากมาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  9. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    ท้าวเวสสุวรรณ หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน รุ่นจักรพรรดิตราธิราช

    ท้าวเวสสุวรรณ หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน รุ่นจักรพรรดิตราธิราช เนื้อนวะ ปลุกเสก 3 เดือน สร้างน้อย หายาก สภาพสวยเดิม โค๊ดชัด

    ท้าวเวสสุวรรณ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน อายุ 108 ปีเนื้อนวะโลหะผสมชนวนเก่า รุ่น"มหาจักรพรรดิ์" พ.ศ.2545…สร้างตามตำราพิชัยสงครามตำรับดั้งเดิมแต่โบราณกาลโบราณท่านว่าให้บูชาไว้ประจำกายจักจำเริญด้วยเกียรติ์ สมบัติ เจริญด้วยวัยมีแต่สวัสดิมงคลและศัตรูจะแพ้ภัยตัวเองจะหยิบจะจับกิจการใดก็เจริญรุ่งเรือง ป้องกันภูตผีปีศาจมนต์ดำอาถรรพ์ต่างๆได้อย่างราบคาบได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษก วันที่ 1 มิ.ย. 45 พิธีเททองหล่อพระกริ่งและชนวนมวลสาร ณ. วัดบ้านจาน. วันที่ 18 ก.ย. 45 พิธีจักรพรรดิ์พุทธาภิเษก ณ. พระอุโบสถวัดใหญ่ชัยมงคล จ.อยุธยา โดยมีเกจิชื่อดังเข้าร่วมพิธีทั้งหมด24รูป 16 พ.ย. 45 พิธีจักรพรรตราธิราช ณ. วัดลาดระโหง จ.อยุธยา โดยมีเกจิชื่อดังเข้าร่วมพิธีทั้งหมด108รูป ได้อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวในกุฎิวัดบ้านจาน ตลอดไตรมาส ปี45 5 ธ.ค. 45 พิธีมหาจักรพรรตราธิราช ณ.อุโบสถวัดบ้านจาน เนื้อนวะโลหะผิวเดิมๆตอกโค๊ตด้านหลัง สวยแท้ ของจริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  10. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    หลวงปู่ทวด คอกหมู หลังเตารีดพิมพ์ใหญ่ 2505 อาจารย์ทิม วัดช้างใหหลวงปู่ทวด ปี 05 หลังเตารีดพิมพ์ใหญ่ (คอกหมู)
    พระหลวงปู่ทวดหลังเตารีดวัดคอกหมู มีด้วยหรือ แล้ววัดคอกหมูคือวัดไหน กันแน่
    ก่อนอื่นมารู้จักวัดคอกหมูกันก่อนนะครับ วัดคอกหมูมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ”วัดสิตาราม” อยู่ถนนดำรงรักษ์ บนถนนจักรพรรดิพงษ์เยื้องๆวัดสะเกศจะมีสี่แยกย่อย(เดิมเรียกว่าแยกสะพานสาวร้องไห้) ก่อนถึงสี่แยกหลานหลวง เลี้ยวขวาเข้าถนนดำรงรักษ์ทางจะไปมหานาค บริเวณวัดนี้เมื่อก่อนชาวจีนได้มาเลี้ยงหมูจนร่ำรวยภายหลังได้ถวายที่ดินส่วนนี้ให้สร้างวัด ชื่อวัดแต่ดั้งเดิมจึงเรียกกันว่า วัดคอกหมูและต่อมาจึงได้เปลี่ยนเป็นชื่อ "วัดสิตาราม"

    ระแวกวัดนี้ในอดีตมีช่างหล่อและโรงหล่อของช่างอิน(บางท่านเรียกว่าช่างแสวง) นายอินผู้นี้คือช่างผู้หล่อพระกริ่งหน้าอินเดียให้กับวัดสุทัศน์ ต่อมาในปี2491 นายอินพาทีมช่างหล่อลงใต้ไปสงขลาเพื่อทำการหล่อพระกริ่งโภคทรัพย์ให้ พ่อท่านเส่ง วัดปหลมทราย

    ครั้นในปี2505 พระอาจารย์ทิม แห่งวัดช้างให้ สร้างพระพ่อปู่ทวดหลังเตารีดขึ้นที่วัดช้างให้ ปรากฎว่าเนื่องด้วยเวลาที่กระชั้นชิดช่างหล่อทำงานไม่ทันกำหนด จึงได้ให้ช่างอินในกรุงเทพฯ ช่วยหล่ออีกแรงหนึ่ง พิมพ์ที่ช่างอินทำการหล่อคือ ลป.ทวดเตารีดใหญ่พิมพ์เอ พระของช่างอินที่หล่อจะแก่ทองเหลืองไม่ออกแดงอย่างที่หล่อพระลป.ทวดพิพม์เตารีดที่วัดช้างให้ ..ครั้นเมื่อช่างอินหล่อพระเสร็จแล้วก็จะคัดงานดีที่หล่อสวยแยกไว้ในลัง ส่วนงานพระที่หล่อติดไม่คมชัดหรือชำรุดหล่อติดแต่ไม่สวย ได้คัดแยกไว้ต่างหากและทำการตอกโค๊ตรูปหมูไว้ที่หลังองค์พระ จุดประสงค์เพื่อนำไปถวายวัดคอกหมู พระทั้งสองแบบได้ถูกนำส่งผ่านไปทางรถไฟเพื่อไปยังวัดช้างให้สำหรับเข้าในพิธีปลุกเสกปี๒๕๐๕ ครั้นเมื่อ พระอาจารย์ทิมปลุกเสกในพิธีเสร็จแล้ว ท่านก็นำพระในส่วนที่ช่างอินคัดสวยให้เอาไปแจกญาติโยมที่วัดช้างให้ ส่วนอีกส่วนที่ช่างอินคัดไว้และตอกโค๊ตรูปหมูไว้ด้านหลัง ท่านก็ส่งกลับคืนมายังช่างอินที่กรุงเทพฯ เพื่อให้ช่างอินนำไปถวายที่วัดคอกหมู นั้นหมายความว่า พระลป.ทวดหลังเตารีดที่แจกที่วัดคอกหมูนั้น

    เป็นพระเข้าในพิธีเดียวกับพระลป.ทวดหลังเตารีดวัดช้างให้ พุทธคุณจึงเสมอเหมือนกันทุกประการ

    สำหรับโค๊ตหมูที่ตอกไว้ด้านหลังนั้น มีปรากฏตั้งแต่๑ตัว ๒ตัว ๓ตัว ๔ตัว จนถึง๙ตัว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  11. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    ปลัดขิก หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    จารมือยุคแรก สร้างโดย หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ปลัดขิกของหลวงปู่ทิม ถือเป็นสุดยอดเครื่องรางอีกอย่างหนึ่งของท่าน ดีทางโชคลาภ เมตตา แคล้วคลาด คงกระพัน มหาเสน่ห์ มหาอุด ท่านได้ตำราตกทอดของหลวงพ่อสังข์เฒ่า ซึ่งเป็นปู่ของท่าน ต้องปลุกเสกจนปลัดขิกเคลื่อนไหวได้ จึงถือว่าสำเร็จ เริ่มแรกหลวงปู่ปลุกเสก แต่ปลัดขิกไม่เคลื่อนไหว จึงเดินทางไปหาหลวงพ่ออี๋ หลวงพ่ออี๋ ท่านแนะว่า มันอยู่ที่ใจของเรา หลังจากกลับมา หลวงปู่ปลุกเสกอีก แต่ปลัดขิกก็ยังไม่เคลื่อนไหว ท่านจึงเดินทางไปหาหลวงพ่อเหลือ ท่านก็แนะนำแบบเดียวกับหลวงพ่ออี๋ว่า มันอยู่ที่ใจเรา ท่านจึงกลับมาฝึกจิตเป็นการใหญ่ ในที่สุด ท่านก็สามารถปลุกเสกจนปลัดขิกเคลื่อนไหวได้ ต่อมาท่านไปทำให้หลวงพ่ออี๋ดู จนหลวงพ่ออี๋พูดเปรยๆว่า ที่ระยองเขามีช้างเผือกเหมือนกันนะ คาดว่าท่านคงได้วิชามาจากหลวงพ่ออี๋ด้วย ยุคแรก ท่านลงเหล็กจารด้วยตัวเอง (เล่นหาแพงมาก) ยุคต่อมา ท่านจะครอบครู และ ให้ลูกศิษย์เป็นคนลงจาร อาทิเช่น หลวงพ่อสาคร, หลวงพ่อแก้ว, อาจารย์เย็น, ฯลฯ จากนั้นท่านจะนำมาไว้ในบาตร ปลุกเสกจนปลัดขิกเคลื่อนไหวได้ และแจกจ่ายต่อไป สร้างจากวัสดุหลายชนิด เช่น ไม้คูณ, ไม้ชองระอา, กัลปังหา, ไม้พญาดำดง, เขาควายเผือก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  12. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    กระดาษสารพัดกัน จัดสร้างในปี ๒๕๑๘

    พร้อมกับ ผ้ายันต์สารพัดกัน หลวงปู่ทิม ท่านเมตตาให้ยันต์ ที่ขึ้นต้นด้วย นะกัน โมกัน พุทกัน ธากัน กันนะ กันนา นะล้อม โมล้อม พระคาถา พระเจ้า ๑๖ พระองค์ และพระคาถาหัวใจต่างๆ อีกด้วย หลวงปู่ทิมได้เมตตาปลุกเสกไว้นานมาก ขนาดกระทัดรัด ไว้บูชาที่ร้านค้าขายนำมาสู่ความเจริญรุ่งเรืองในธุระกิจดีเยี่ยม ลมเพลมพัดและอาถรรท์ชั่วร้ายแก้เคล็ดต่างๆได้ดีเยี่ยม พุทธคุณก็ครบทุกด้าน ปกป้องคุ้มครองภัย ได้สารพัด เหมือนชื่อที่เรียกว่า " สารพัดกัน "

    ประสบการณ์เหลือหลายเกี่ยวกับการเดินทางรถยนตร์ (ติดใว้หน้ารถขยาดเท่ากับ พ.ร.บ)
    xN3TC8.jpg

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ
    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยง รับประกันจนมวลสารสะหลาย พลังชาตรี 13
    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์ พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  13. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    " ความเชื่อที่ผิดๆในเรื่องพระปิดตา "

    พระปิดตาเป็นพระเครื่องอีกรูปแบบหนึ่ง ที่คนนิยมกันมากในระยะหลัง เนื่องด้วยรูปแบบและกรรมวิธีการสร้าง

    พระปิดตา ในสมัยก่อนแรกๆจะไม่ค่อยมีคนสนใจเนื่องจาก มีความเชื่อกันมาก่อน เช่น มีพระปิดตาในบ้านแล้วคลอดลูกยากบ้าง มี พระปิดตา แล้วค้าขายของยาก ซึ่งเป็นความเข้าใจ
    "ที่ผิดๆ"
    กันมาตลอดเลยครับจริงแล้วพระปิดตาเป็น พระเมตตามหาโชดครับ


    พระเครื่องประเภทหนึ่งที่นิยมกันมาก ด้วยพุทธลักษณะขององค์พระที่แตกต่างทั้งกรรมวิธีการส ร้าง รวมทั้งมีพุทธศิลปะ เป็นเอกลักษณ์แตกต่าง จากพระเครื่อง ประเภทอื่นๆ จนกลายเป็น ความโดดเด่น และได้รับความนิยม อย่างสูงยิ่ง ในหมู่พุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะ วงการพระเครื่อง ซึ่งรู้จักกัน ในนาม "พระปิดตา" กับ "พระมหาอุต"

    พุทธลักษณะของพระปิดตา เป็นรูปองค์พระ ที่ค่อนข้างอวบอ้วน ยกพระหัตถ์ ขึ้นปิดพระพักตร์ บางสำนัก ก็จะทำเป็นรูปมือ เพิ่มอีก ๒ ข้าง เอื้อมไปปิดทวารด้านล่าง (วงการเรียก "โยงก้น") อีกด้วย

    ประวัติการสร้างพระปิดตาในประเทศไทยนั้น เริ่มต้นในยุคอยุธยาตอนปลาย

    การสร้างพระปิดตา เริ่มได้รับความนิยมแพร่หลายตั้งแต่ตอนต้นยุครัตนโกส ินทร์เรื่อยมา จากข้อมูลดังกล่าวอาจได้ข้อสรุปในเบื้องต้นว่า พระปิดตาทั้งหมดเป็นพระปิดตาคณาจารย์ ซึ่งหมายถึงพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณเป็นผู้จัดสร้าง ไม่ใช่เป็นพระกรุที่สร้างโดยเจ้าพระยามหากษัตริย์ และไม่มีการสร้างก่อนสมัยอยุธยาตอนปลาย

    ลักษณะเด่นของพระปิดตานั้นนับเป็นพระเครื่องที่แสดงถึง "นัย" หรือ "ปริศนาธรรม" แห่งงานพุทธศิลปะอย่างโดดเด่น ยากจะหาพระเครื่องประเภทใดเทียบเทียมได้

    ความหมายเบื้องต้นแห่งการปิดตาก็คือ การปิด "ทวาร" หรือทางเข้าทางออกแห่งอาสวะกิเลสทั้งหลาย

    ซึ่งเราชื่อกันว่าร่างกายของมนุษย์ (หรือสัตว์) มี "ทวาร" หมายถึง ประตูแห่งการเข้าออก ๙ ทาง ได้แก่ ตา ๒ จมูก ๒ หู ๒ ปาก ๑ รวมทั้ง ช่องทางขับถ่ายด้านหน้าและ ด้านหลังอีก ๒ รวมเป็น ทวารทั้ง ๙
    การปิดกั้นทวารทั้ง ๙ เป็น

    ปริศนาธรรม ที่กั้นกิเลสจากภายนอกไม่ให้เข้ามาสู่ ภายใน เพื่อจุดหมายแห่งการปฏิบัติกรรมฐาน ซึ่งโบราณาจารย์ที่สร้างพระปิดตา (หรือปิดทวาร) ในอดีตจะเป็นพระภิกษุที่ขึ้นชื่อลือเลื่องทางวิปัสสน าธุระทั้งสิ้น

    แต่การสร้างรูปจำลองในลักษณะนี้ ค่อนข้างยากต่อการออกแบบ ส่วนใหญ่จึงพบการแสดงความหมายให้เห็นเพียงการปิดพระพักตร์ ซึ่งรวมถึงการปิดปากเท่านั้น

    หากมองในแง่ความสำคัญทางการเมืองการปกครองจะพบว่า อำนาจของภิกษุสงฆ์ไม่ได้จำกัดอยู่ใน "พุทธจักร" อย่างเดียว หากแต่ยังก้าวไปถึง "อาณาจักร" อีกด้วย ตัวอย่างของบทบาทดังกล่าวจะเห็นได้ชัดในกรณี ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆัง ธนบุรี ที่สามารถเดินเข้าไปถาม เจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ถึงข่าวลือเรื่องการยึดอำนาจกลับจาก ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ และขอคำยืนยันว่าจะไม่เกิดเหตุดังกล่าว

    หรือแม้แต่การที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ จุดไต้ตอนกลางวันเข้าไปเตือนพระสติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ "พุทธจักร" ที่มีต่อ "อาณาจักร" อย่างเด่นชัด
    เป็นที่น่าสังเกตว่า พระเกจิอาจารย์ที่สร้างพระปิดตาในระยะแรกๆ จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับราชสำนักไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
    ดังนั้น "พระปิดตา" อาจถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของการประกาศตนไม่ยุ่งเกี่ยวก ับ "อาณาจักร" เพื่อมิให้เกิดการถูกนำไปอ้างอิงหรือใช้เป็นเครื่อง "ชี้นำ" ในชะตาของบ้านเมือง

    - พระปิดตาทวารทั้ง ๙ อัน เป็นการปิดกั้นอาสวะกิเลสแห่งทวารเข้าออกทั้ง ๙ ของร่างกาย

    - พระปิดตามหาอุด อันเป็นการป้องกันสรรพภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง
    ในกระบวนพระปิดตาของคณาจารย์แต่โบราณนั้น มีที่ขึ้นชื่อลือเลื่องหลายสำนักด้วยกัน วัสดุมวลสารที่นำมาประกอบเป็นองค์พระมีทั้งเนื้อชินต ะกั่ว เนื้อผงคลุกรัก เนื้อผงใบลาน เนื้อผงมวลสาร เนื้อสัมฤทธิ์ เนื้อเมฆพัด เนื้อเมฆสิทธิ์ เป็นต้น

    - พระปิดตามหาอุดหรือพระปิดทวารทั้ง 9 กันดูบ้าง ความเป็นจริงพระปิดตา ที่มีมือคู่เดียวยกขึ้นมาปิดที่ใบหน้า และพระปิดทวารทั้ง 9 นั้นก็หมายถึง

    พระภควัมปติหรือพระภควัมบดี เช่นเดียวกัน และพระมหาสังกัจจายน์ ก็คือพระอรหันต์องค์เดียวกันนั่นเองครับ

    ตามประวัติว่ากันว่าพระมหาสังกัจจายน์นั้นมีรูปร่างง ดงาม และได้รับคำชมจากพระบรมศาสดาว่า พระมหาสังกัจจายน์นั้นเป็นเอตทัคคะ และฉลาดล้ำเลิศในการอธิบายความแห่งคำที่ย่อได้อย่างพ ิสดาร ด้วยความฉลาดล้ำเลิศของพระมหาสังกัจจายน์นั่นเอง

    พระมหาสังกัจจายน์ ท่านเป็นผู้ที่มีผิวพรรณวรรณะงดงาม ตามพระบาลีว่า สุวณฺโณจวณฺณํ คือมีผิวเหลืองดังทองคำ เป็นที่เสน่ห์นิยม มิว่าท่านจะไปในสถานที่แห่งใด เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายต่างก็พากันสรรเสริญว่า ท่านคือ พระบรมศาสดาเสด็จมาแล้ว

    เพราะเหตุที่ท่านมีรูปโฉมละม้ายเหมือนพระศาสดานั่นเอ ง ท่านจึงได้รับสมญานามอีกชื่อหนึ่งว่า “พระภควัมปติ” ซึ่งมีความหมายทำนองว่า ผู้มีความงามละม้ายเหมือน พระผู้มีพระภาคเจ้านั่นเอง

    เมื่อเหตุการณ์เป็นไปดังนี้ ท่านจึงมาคิดว่า การที่เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายพากันสรรเสริญท่านดังน ี้ เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง สุดท้ายท่านจึงกระทำด้วยอิทธิฤทธิ์ เนรมิตกายให้เตี้ยลงจึงดูท้องพลุ้ย ไม่เป็นที่น่าดู เทพยดาและมนุษย์จะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิดอีกต่อไป

    ส่วนที่มีการทำ รูปเคารพเป็นรูปปิดทวารทั้ง 9 นั้น ก็คือมือคู่หนึ่งปิดหน้า คือปิดตา 2 ข้างปิดจมูก 2 ปิดปาก 1 และมีมืออีกคู่หนึ่งมาปิดที่หู 2 ข้าง ส่วนอีกมือคู่หนึ่งนั้นปิดที่ทวารทั้ง 2 รวมเป็นปิดทวารทั้งเก้า คือเป็นอุปเท่ห์หมายถึง ตอนที่พระภควัมปติท่านกำลังเข้านิโรธสมบัติ ทวารทั้งเก้าก็จะปิดสนิท ไม่ยินดียินร้ายกับกิเลสทั้งหลาย หมายถึงดับสนิท อาสวะกิเลสต่างๆ ไม่อาจที่จะเข้ามาแผ้วพานได้เลย

    จากมูลเหตุนี้เอง คณาจารย์ต่างๆ ท่านจึงสร้างรูปเคารพ เป็นรูปพระปิดตา (คือมีมือคู่เดียวมาปิดที่หน้า) บ้างเป็นรูปพระปิดทวารทั้งเก้าบ้าง และโดยส่วนใหญ่ถ้าเป็นพระปิดตาก็จะปลุกเสกให้เด่นไปท างเมตตามหานิยม โชคลาภโภคทรัพย์

    แต่ถ้าเป็นพระปิดทวารทั้ง 9 ก็จะปลุกเสกให้เด่นไปทางอยู่ยงคงกระพันชาตรีและแคล้ว คลาด พระปิดทวารทั้งเก้านั้นในสมัยโบราณ ถ้าบ้านไหนมีคนจะคลอดลูก ถึงกับต้องนำพระปิดทวารทั้งเก้าออกไปนอกบ้านเสียก่อน เชื่อกันว่าจะไม่สามารถคลอดลูกได้ก็มี ซึ่งเป็นความเชื่อกันในสมัยโบราณ "ที่ผิดๆ"

    ปริศนาธรรม ของพระปิดตา นั้นพุทธคุณเด่นในเรื่องของเมตตามหานิยมเป็นหลัก
     
  14. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    รายการที่ ๓๔.

    พระปิดตาลายกนกหลวงปู่ทิมปลุกเสกนาน ๙ เดือน

    ผสมผงพรายกุมารพลอยเสกพุทธคุณสุดเมตตามหานิยม

    องค์ที่ ๑. พิมพ์สามพระองค์ สุดหายาก

    [​IMG]

    พร้อมบัตรรับรองสากล

    [​IMG]

    ..........................................................

    องค์ที่ ๒. .

    [​IMG]

    .......................................................................................................

    องค์ที่ ๓. .

    [​IMG]

    [​IMG]

    บูชาพระแท้เปี่ยมด้วยพุทธคุณสบายใจกับ พลังชาตรี 13

    พระชุดวัดบ่อวิน อ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี

    พระชุดนี้ หลวงปู่ทิมได้มอบมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ให้คุณมาโนช เหล่าขวัญสถิตย์ เจ้าของร้านนาวาชายหาด ศิษย์ก้นกุฎิเป็นผู้ดำเนินการ จัดสร้างเมื่อราวปี พ.ศ. 2515-2516

    มวลสารที่ใช้ในการจัดสร้าง
    มวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงปู่ทิมมอบให้ในปริมาณมาก อาทิ ผงพุทธคุณต่างๆ,
    1. ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม จำนวนมากสุด,
    2. จีวร,
    3. เกศาของหลวงปู่ทิม,
    4. พลอยเสก หลวงปู่ทิม
    5. หมอนหนุนหัว ของหลวงปู่ทิม พลอยเสก (หมอนที่ใช้หนุนมาตั้งแต่บวชใหม่ๆ) และบอกว่า นี่แหละของดี เพราะหมอนมีความหมายถึงการหนุนดวง สำหรับคนดวงตก หมายถึงการค้ำดวง จากคำบอกเล่า ของครูดุก พัทยา ผู้เคยบวชร่วมสมัยกับพระอาจารย์กิม ซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อตาของคุณมาโนช ผู้สร้างพระชุดนี้ครับ

    เมื่อแล้วเสร็จคุณมาโนช ได้นำไปถวายให้พระอาจารย์สายกรรมฐาน เมตตาอธิษฐานจิตในวาระแรก
    รายนามพระอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระชุดวัดบ่อวิน
    1.หลวงปู่ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร
    2.หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
    3.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    4.หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล
    5.พระอาจารย์วัน วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม
    6.หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั่ง
    7.หลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม
    8.หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก
    หลังจากนั้นก็นำเข้าพิธีต่างๆ ในแถบภาคตะวันออกอีกไม่ต่ำกว่า 9 พิธี

    วาระสุดท้าย
    ได้นำไปถวายให้ หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ เมตตาอย่างมาก ปลุกเสกเดี่ยวให้ ตั้งแต่เมื่อ
    วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2517 จนถึง วันที่ 29 กรฎาคม พ.ศ.2518 เป็นระยะเวลานานมากถึง 9 เดือน 20 วัน ถือว่าเป็นพระของหลวงปู่ที่มีประวัติการปลุกเสกชัดเจนและมากด้วยคุณค่าอย่าง แท้จริง

    พระเครื่องพิมพ์นี้นั้นแบบพิมพ์ถูกแกะมาอย่างมีเอกลักษณ์ นับว่าเป็นของดีราคาเบาน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งครับ

    ถือว่าเป็นพระของหลวงปู่ที่มีประวัติการปลุกเสกชัดเจนและมากด้วยคุณค่า อีกทั้งเข้าพิธีปลุกเสกอีกครั้งในพิธีทำบุญ ๑๐๐ วันหลวงปู่ทิมโดยหลวงปู่แก้ว เกสาโร ปลุกเสกอีกครั้งหนึ่งครับ

    เล่นพระสวยพระดีมีมาตรฐาน เล่นแบบสบายใจพร้อมบัตรรับรองพระแท้

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13

    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กรกฎาคม 2013
  15. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    พระปิดตาเนื้อผงพุทธคุณ วัดเนินกระปรอท ด้านหลังเป็นยันต์ ๕ พบเจอน้อย ส่วนใหญ่จะตกอยู่กับคนพื้นที่ เป็นส่วนใหญ่.

    สร้างขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๑๖ เพื่อเป็นที่ระลึกในการ สร้างศาลาการเปรียญของวัดเนินกระปรอท โดยในครั้งนั้นได้มีการจัดงาน และ พิธีพุทธาภิเษก พระเครื่องเพื่อออกทำบุญเป็นที่ระลึกอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีการนิมนต์ พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง ของจังหวัดระยอง และ จังหวัดใกล้เคียงมาร่วมงานหลายท่านด้วยกัน เท่าที่ทราบก็มี

    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    ๒ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ท่านให้เกรียรติมาเป็นประธานพุทธาภิเษก

    ๓ หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า

    ๔ หลวงพ่อหอม วัดซากหมากป่าเรไรย์

    ๕ หลวงพ่อทองอยู่ วัดบางเสร่

    ๖ หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส

    ๗ หลวงปู่เหมือน วัดกำแพง

    ๘ พระอาจารย์ สมพงษ์ วัดซากลูกหญ้า


    สาเหตุที่ทางวัดสร้างวัตถุมงคล เป็นพระปิดตาดีเด่นในเรื่องเมตตามหานิยม และ ด้านหลังใช้ยันต์ครู (ยันต์ ๕ ยันต์มหาจินดามณี) ของท่าน ก็เพราะก่อนงาน พุทธาภิเษก หลวงปู่ทิม ท่านได้เมตตาปลุกเสกเดี่ยวให้ก่อนแล้ว และช่วงเวลานั้น หลวงปู่ทิม ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมาก และ ผู้คนชาว จ.ระยอง และ จังหวัดใกล้เคียงต่างก็อยากได้วัตถุมงคลของท่าน ติดตัวกันทั้งนั้น ทางวัดเลยขออนุญาตท่านจัดสร้างขึ้นเพื่อบำรุงวัด และ ท่านก็อนุญาตให้สร้างขึ้นได้ ครับ.
    นับเป็นวัตถุมงคล อีกรุ่นหนึ่งที่หลวงปู่ทิม ท่านได้เมตตาปลุกเสกให้ในช่วงแรกๆ ในการสร้างวัตถุมงคลของท่าน ที่นำมาแนะนำให้รู้จักกันครับท่าน.

    ***** ขออนุญาตฺเจ้าของบทความ อ.เพียรวิทย์ จารุสถิติ นิตยสารร่มโพธิ *****

    วัตถุมงคลยอดนิยม หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ตอน พระปิดตา ปี 2516
    เมื่อ: มีนาคม 22, 2011, 10:10:54
    วัตถุมงคลยอดนิยม หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยองโดย อ.เพียรวิทย์ จารุสถิติ นิตยสารร่มโพธิ ได้รับอนุญาตจากอาจารย์เพียรวิทย์ จารุสถิติ ให้นำมาเผยแพร่ทาง Timpirus.com ขอเชิญท่านอ่านได้พบกับบทความดังกล่าวได้ตลอดไปครับ


    ตอน พระปิดตา ปี พ.ศ. 2516 ยิงไม่ออก ยิงไม่ถูก

    วัตถุมงคลที่ผ่านการปลุกเสกจากหลวงปู่ทิมอย่างแน่นอน ซึ่งหลวงปู่ทิมท่านได้มอบให้ อาจารย์บาง พระลูกวัดเขาน้อยเป็นผู้สร้าง คือพระปิดตาและพระชุดนี้ผมได้เห็นกับตาว่า หลวงปู่ทิมสามารถปลุกให้เต้นได้จริงๆ พระชุดนี้ผมได้ขอท่านเก็บไว้ด้วยความหวงแหนเป็นเวลานานพอสมควร ซึ่งพระชุดนี้สร้างปี พ.ศ.2516 นับถึงปีนี้ (พ.ศ.2542) เป็นเวลา 26 ปีเต็มพอดี จัดเป็นพระปิดตาของท่านรุ่นแรกก็ได้ มีผู้โทรมาถามผมว่า พระปิดตารุ่นนี้มีเนื้อกี่สี ซึ่งผมก็ให้คำตอบไม่ได้ เนื่องจากสมัยที่ผมอยู่กับหลวงปู่ทิม ก็ได้เห็นอยู่สีเดียว คือ สีเหลืองอ่อน บางองค์อาจแก่น้ำตาลไปนิดเดียว

    หลังจากที่หลวงปู่ทิมได้มรณภาพแล้ว ผมและ พระครูประดิษฐ์คุณวงศ์ เจ้าอาวาสวัดเนินกระปรอก ซึ่งท่านก็เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ทิมได้เดินทางไปยังวัดเขาน้อยเพื่อขอพระชุดนี้นำมาแจกผ้าป่าที่วัด ซึ่งในสมัยนั้น หลวงพ่อสูตร ได้รับพระปิดตาชุดนี้จากหลวงปู่ทิมเป็นจำนวนมากและได้นำมาแจกจ่ายให้ลูกศิษย์ของท่านจนหมด เมื่อลูกศิษย์ได้รับพระชุดนี้ไป ได้นำไปใช้ติดตัวเกิดปรากฏการณ์เด่นมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านคุ้มครอง ด้านเมตตา-มหานิยม ไปไหนเดินทางโดยปลอดภัย จึงได้มีผู้คนเดินทางมาขอท่านเป็นจำนวนมากซึ่งท่านได้แจกจ่ายไปจนหมดท่านจึงไม่รู้ว่าจะเอาที่ไหนมาแจกอีก จึงได้ชวนผมขึ้นไปหาอาจารย์บางที่วัดเขาน้อย ได้เห็นอาจารย์บางกำลังกดพระปิดตาพิมพ์นี้อยู่ ซึ่งท่านได้กดขึ้นเป็นจำนวนมาก มีหลายสีหลายเนื้อ บางองค์ก็ใส่พลอยลงไปด้วย จึงทำให้ผมไม่คิดเก็บสะสมพระเครื่องชุดนี้ เก็บเฉพาะที่ตนเองได้รับมาจากหลวงปู่ทิมเมื่อ ปี 16 เท่านั้น

    ถ้าใครเคยไปกราบหลวงปู่ทิมที่วัดเมื่อ ปี พ.ศ.2516 และไปขอวัตถุมงคลจากท่านในปีนั้น หลวงปู่จะเดินเข้าไปในห้องและหยิบพระปิดตารุ่นนี้มาแจก ซึ่งท่านจะแจกให้เพียงองค์เดียว และขอเพิ่มท่านจะไม่ให้ และถ้าไปเซ้าซี้ท่านมากๆ ท่านจะวางเฉยเสีย และวันนั้นอย่าหวังเลยที่จะได้รับของจากท่านอีก ซึ่งผมได้เห็นมากับตาจริงๆ

    วันนั้นได้มี นายอินและนายลุ้ง ซึ่งเป็นช่างตัดผมอยู่ข้างวิกศรีอุดม จ.ระยอง เดินทางไปกราบหลวงปู่ทิมที่วัด หลังจากได้กราบและนั่งพูดคุยกับหลวงปู่แล้ว ก่อนจะกลับทั้งสองได้ขอวัตถุมงคลจากหลวงปู่ฯ ซึ่งท่านก็ได้เมตตาเดินเข้าไปในห้องนอนและหยิบพระปิดตารุ่นนี้ออกมาก 2 องค์พร้อมกับลูกอม 2 เม็ด นายอินจึงบอกหลวงปู่ขอพระปิดตาเพิ่มอีก ท่านได้ฟังเช่นนั้นจึงเอาวัตถุมงคลทั้ง 2 อย่างที่หยิบมาจากในห้องนอนวางไว้ข้างๆ ตัว และนั่งที่หน้าห้องทำแบบไม่สนใจ

    นายอินและนายลุ้ง พยายามขอจากท่าน ท่านก็ไม่ส่งให้ นั่งรออยู่ตั้งนานก็ไม่เห็นหลวงปู่หยิบให้เสียที ซึ่งผมนั่งดูอยู่ในที่นั้นรู้ทันทีว่า 2 คนนี้ไม่มีโอกาสได้รับของดีจากหลวงปู่แล้ว ถ้าจะได้ก็ต้องมาวันหลัง

    จากเหตุการณ์วันนั้น ทำให้ผมมีความรู้สึกว่า หลวงปู่ท่านย่อมมองเห็นคุณค่าของวัตถุมงคลที่ท่านจะมอบให้ใคร เพราะท่านย่อมทราบดีว่าวัตถุมงคลที่ท่านทำในแต่ละครั้งไม่ใช่ “ของง่าย” ท่านทำด้วยจิตที่บริสุทธิ์ ฉะนั้นถ้าใครไม่ทราบถึงนัยนี้ จะมาขอท่านเหมือนขอขนม ท่านจะไม่ยอมให้ใครงายๆ เช่นกัน

    ผมเคยนำพระปิดตารุ่นนี้ ไปทดลองยิงที่หลังวัดละหารไร่ เนื่องจากสงสัยว่า “มหาอุด” จะมีจริงอยู่ในองค์พระซึ่งสร้างด้วยเนื้อผงล้วนๆ จะมีอานุภาพกันปืนได้หรือไม่ จึงได้ชักชวน พี่นำ และ เณรฉ่ำ เดินทางเข้าไปในทุ่งนา ซึ่งอยู่หลังวัดละหารไร่โดยใช้ปืนของพี่นำ (นายบุญนำ นาคภักดี) เป็นผู้ยิง

    ผลการทดลองครั้งนั้น พระปิดตาปี 16 รุ่นนี้ ยิงครั้งแรกไม่ออก ยิงครั้งที่ 2 และที่ 3 ออกแต่ไม่ถูก ส่วนตะกรุดโทนและลูกอมที่ใส่รวมกันปรากฏว่ายิงไม่ออกทั้ง 3 นัด

    กลับมาถึงวัดถูกหลวงปู่ทำโทษใช้ให้ไปขุดต้นไม้และล้างส้วมถึง 3 วัน เล่นเอาพวกเราเข็ดหลาบไปตามๆ กัน จากการทดลองในครั้งนั้น ทำให้ผมเห่อพระปิดตารุ่นนี้มาก ได้เลี่ยมและอาราธนาติดตัวอยู่เสมอ แม้ทุกวันนี้พระปิดตาองค์นี้ที่ทดลองก็ยังอาราธนาใส่อยู่ในตลับทอง ใครจะว่าของใครดีเราไม่สน เพราะเราทดลองและเห็นมากับตา จึงเป็นสิ่งยืนยันได้

    ภายหลังผมได้เห็นเหตุการณ์ที่เหลือเชื่อ เมื่อหลวงปู่ทิมปลุกเสกพระปิดตารุ่นนี้ ถึงกับเคลื่อนไหวเต้นกราวอยู่บนถาด แบบนี้จะไม่ให้ผมนับถือท่านและจะให้ผมไปนับถือใคร จึงทำให้ผมได้มีโอกาสขอพระปิดตารุ่นนี้ที่เต้นกราวจากหลวงปู่ซึ่งท่านก็เมตตาให้ไว้

    ปัจจุบันวัตถุมงคลที่ได้รับการปลุกเสกจากหลวงปู่ทิม ย่อมเป็นที่เสาะแสวงหาของชนทั่วไป อาจเป็นเพราะว่า กาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่า ท่านเป็นพระจริงพระแท้ และวัตถุมงคลที่ท่านได้ปลุกเสกให้ศิษยานุศิษย์นำไปใช้นั้น สามารถคุ้มครองและป้องกันภัยให้บุคคลผู้นั้นได้จริง จึงทำให้วัตถุมงคลของท่านเปรียบเสมือนสิ่งที่ “ล้ำค่า” ที่ใครๆ อยากได้ไว้เป็นเจ้าของซึ่งบางคนก็ต้องเสี่ยงกับ “ของปลอม” บางคนห้อยคออยู่มานาน มารู้ภายหลังว่าสิ่งที่ตนเองนับถือเป็นของไม่จริง ก็รู้สึกเสียความรู้สึกเช่นกัน แต่ทำไงได้โดนไปแล้วต้องทำใจ

    มีบางคนถามว่า มวลสารที่ผสมในพระปิดตาชุดนี้เป็นอย่างไร ผมขอรับรองว่า มวลสารที่ผสมอยู่นี้ย่อมคงคุณค่าอย่างแน่นอน สมัยก่อนไม่ได้สร้างเพื่อเป็น “พุทธพานิช” เหมือนสมัยนี้ บรรดาเกจิอาจารย์ที่มีความรู้จริงย่อมพิจารณาผงวิเศษต่างๆ และมวลสารที่มีคุณค่าสูงซึ่งกว่าจำได้แตะละชนิดต้องใช้เวลา เมื่อทำเสร็จแล้วก็ต้องทำพิธีปลุกเสกให้ถูกต้องตามตำราที่ตนเรียนมา บางคน “ร้อนวิชา” มากๆ อาจจะทำการทดลองให้เห็นจริงเสียก่อน เมื่อเป็นจริงและเห็นจริงแล้วจึงค่อยมอบลูกศิษย์เอาไปใช้ ถ้าเป็นของไม่ดีให้ไปใช้มีหวังกระบาลแยกกลับวัดแน่ๆ รังแต่จะทำให้เสียชื่อวัดเปล่าๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  16. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    พระปิดตาจัมโบ้ วัดบ่อวิน หลวงปู่ทิมปลุกเสก องค์แชมป์ งานพื้นที่ศรีราชา
    พระชุดวัดบ่อวิน อ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี


    พระชุดนี้ หลวงปู่ทิมได้มอบมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ให้คุณมาโนช เหล่าขวัญสถิตย์ เจ้าของร้านนาวาชายหาด ศิษย์ก้นกุฎิเป็นผู้ดำเนินการ จัดสร้างเมื่อราวปี พ.ศ. 2515-2516

    มวลสารที่ใช้ในการจัดสร้าง
    มวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงปู่ทิมมอบให้ในปริมาณมาก อาทิ ผงพุทธคุณต่างๆ,
    1. ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม จำนวนมากสุด,
    2. จีวร,
    3. เกศาของหลวงปู่ทิม,
    4. พลอยเสก หลวงปู่ทิม
    5. หมอนหนุนหัว ของหลวงปู่ทิม พลอยเสก (หมอนที่ใช้หนุนมาตั้งแต่บวชใหม่ๆ) และบอกว่า นี่แหละของดี เพราะหมอนมีความหมายถึงการหนุนดวง สำหรับคนดวงตก หมายถึงการค้ำดวง จากคำบอกเล่า ของครูดุก พัทยา ผู้เคยบวชร่วมสมัยกับพระอาจารย์กิม ซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อตาของคุณมาโนช ผู้สร้างพระชุดนี้ครับ


    เมื่อแล้วเสร็จคุณมาโนช ได้นำไปถวายให้พระอาจารย์สายกรรมฐาน เมตตาอธิษฐานจิตในวาระแรก
    รายนามพระอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระชุดวัดบ่อวิน
    1.หลวงปู่ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร
    2.หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
    3.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    4.หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล
    5.พระอาจารย์วัน วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม
    6.หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั่ง
    7.หลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม
    8.หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก
    หลังจากนั้นก็นำเข้าพิธีต่างๆ ในแถบภาคตะวันออกอีกไม่ต่ำกว่า 9 พิธี


    วาระสุดท้าย

    ได้นำไปถวายให้ หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ เมตตาอย่างมาก ปลุกเสกเดี่ยวให้ ตั้งแต่เมื่อ
    วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2517 จนถึง วันที่ 29 กรฎาคม พ.ศ.2518 เป็นระยะเวลานานมากถึง 9 เดือน 20 วัน ถือว่าเป็นพระของหลวงปู่ที่มีประวัติการปลุกเสกชัดเจนและมากด้วยคุณค่าอย่าง แท้จริง

    พระเครื่องพิมพ์นี้นั้นแบบพิมพ์ถูกแกะมาอย่างมีเอกลักษณ์ นับว่าเป็นของดีราคาเบาน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งครับ

    ถือว่าเป็นพระของหลวงปู่ที่มีประวัติการปลุกเสกชัดเจนและมากด้วยคุณค่า อีกทั้งเข้าพิธีปลุกเสกอีกครั้งในพิธีทำบุญ ๑๐๐ วันหลวงปู่ทิมโดยหลวงปู่แก้ว เกสาโร ปลุกเสกอีกครั้งหนึ่งครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  17. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    พระปิดตาหลวงปู่สิม "รุ่นเมตตา" ๒๕๑๗

    พระอรหันต์องค์ที่ 17. ของเมืองไทย


    หลวงปู่ทิมปลุกเสก


    พระปิดตาหลวงปู่สิม "รุ่นเมตตา" ๒๕๑๗ หลวงปู่ทิมปลุกเสก

    องค์ที่นำมาลงประมูลนี้เป็น ๑ ในจำนวน ๒๐๐๐ องค์ ที่ปิดทอง และ มีเส้นเกศา(ผม)ของหลวงปู่สิมชัดเจนที่ด้านหลัง สภาพสวยมากๆ

    ***ประวัติการสร้างพระปิดตาหลวงปู่สิม***

    พระปิดตาผงคลุกรัก รุ่นเมตตา หลวงปู่สิม พุทธาจาโร สร้างเมื่อปี ๒๕๑๗ หลวงปู่ทิมเมตตาปลุกเสกและมอบผงพุทธคุณ คุณธงชัย อุดมความสุขได้กราบขออนุญาตหลวงปู่สิมในการสร้างวัตถุมงคลชุดนี้ เพื่อหาปัจจัยไป ซื้อยารักษาโรคให้กับพระภิกษุสงฆ์ที่อาพาธในโรงพยาบาลสงฆ์ จังหวัดเชียงใหม่,ผู้ป่วยในโรงพยาบาลปอด จ.เชียงใหม


    พระปิดตาผงคลุกรักรุ่นเมตตานี้ สร้างพร้อมกับเหรียญรุ่นเมตตา ที่นักสะสมพระเครื่องสายนี้รู้จักเป็นอย่างดี คุณธงชัย อุดมความสุข ได้ไปขอความอนุเคราะห์จาก "อาจารย์ประถม อาจสาคร" ศิษย์ฆราวาสที่ได้รับการถ่ายทอดพิธีกรรมในการสร้างพระปิดตาจาก ท่านเจ้าคุณวรพจน์ปัญญาจารย์(หลวงปู่เฮี้ยง) วัดป่าฯ จ.ชลบุรี และเป็นผู้ที่ได้รับผงวิเศษต่างๆจากท่านเจ้าคุณวรพจน์ฯมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นผู้สร้างพระเนื้อผงยุคแรกๆให้หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่


    อาจารย์ประถม เล็งเห็นถึงกุศลเจตนาอันแรงกล้าของ คุณธงชัย อุดมความสุข ในการสร้างพระครั้งนี้ จึงรับปากที่จะช่วย และได้บอกกล่าวกับ คุณธงชัย อุดมความสุข ว่าจะจัดทำให้เป็นครั้งสุดท้าย

    สำหรับผงวิเศษที่รวบรวมมานั้น นำมาผสมสร้างพระปิดตารุ่นนี้หมด ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยว่าพระปิดตาเนื้อผงคลุกรักนี้ ดีอย่างไร เนื้อหามวลสารในการสร้าง

    จากข้อเขียนของคุณธงชัย อุดมความสุข และอาจารย์ประถม อาจสาคร ที่เผยแพร่ในหนังสืออภินิหารและพระเครื่องในช่วงปี พ.ศ.2517-2518 พอจะสันนิษฐานได้ว่า พระปิดตาผงคลุกรัก หลวงปู่สิม พุทธาจาโร สร้างขึ้นจากมวลสารต่างๆดังนี้

    1.ผงท่านเจ้าคุณวรพจน์ปัญญาจารย์(เฮี้ยง) วัดป่าอรัญญิกาวาส
    2.ผงพระสัตตะนาเค หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่
    3.ดินขุยปู ๑๐๘ รู
    4.ข้าวสารดำ
    5.พระไตรปิฏก ๓ ภาษา(ขอมใหญ่ สันสกฤต มอญ)
    6.ดินสังเวชนียสถาน ๔ แห่ง
    7.ผงพระโบราณสมัยศรีวิชัย
    8.ผงประชุมอรหันตมงคลมหาลาภ วัดสารนารถฯ จ.ระยอง
    9.ผงรัตนมาลาของชีปะขาวสิงห์อินทิปัตย์
    10.ผงวิเศษของท่านพระอาจารย์เฟื่อง วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพ
    11.ผงธูปเสกของ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง

    12.ผงว่านร้อยแปด
    13.ผงเกสรร้อยแปด
    14.เกศา(เส้นผม)หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

    จำนวนการสร้างทั้งหมด 2,000 องค์ ปลุกเสกเดี่ยวพร้อมเหรียญเมตตา โดยหลวงปู่สิม พุทธาจาโร เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๑๗ ที่วัดถ้ำผาปล่อง พระปิดตารุ่นนี้ส่วนมากจะปิดทอง ไม่ปิดทองก็มีบ้างแต่จำนวนน้อย พุทธคุณเน้นหนักไปทางเมตตามหานิยม

    ที่สำคัญหลวงปู่ทิม ยังได้ปลุกเสกพร้อมมอบผงวิเศษ(สัตตะนาเค) + ผงธูป การจัดสร้างในครั้งนี้ด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  18. lokithunder

    lokithunder Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +34
    ขอจองเหรียญหลวงปู่แก้ว เกสาโร โค้ต 784 ไว้ก่อนนะครับวันจันทร์โอนเงินให้ครับขอบคุณครับ
     
  19. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    ขอบพระคุณมากครับ ท่าน lokithunder
     
  20. pakornkiatr

    pakornkiatr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +732
    พี่พลังชาตรี ครับ ผมขออนุญาติรบกวนพี่ช่วยดูองค์นี้ให้หน่อยครับ ไม่ทราบว่าเป็นรุ่นไหน ปีไหนครับ มีกริ่งด้วยครับ และต้องขอโทษที่โพสต์ในกระทู้นี้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • photo.PNG
      photo.PNG
      ขนาดไฟล์:
      246.8 KB
      เปิดดู:
      231

แชร์หน้านี้

Loading...