ไสยศาสตร์ฉบับชาวบ้าน..มี.สาระ แบบกันเอง

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย tang_2536, 24 ตุลาคม 2012.

แท็ก: แก้ไข
  1. tatty

    tatty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    8,976
    ค่าพลัง:
    +8,226
    เมื่อวานคุยกับลูกศิษย์ครูบาแถวเชียงรายท่านหนึ่ง เขาบอกว่าเมษานี้ท่านจะออกมาแล้ว
     
  2. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    ได้ทราบข่าวจากลูกน้องทางใต้ พื้นที่ ยะลา..น่าหนักใจครับ เราทางนี้ได้เล่นสงกรานต์ ทางเจ้าหน้าที่ทางใต้ ไม่ได้ออกไปไหนกันเลยในช่วงนี้ระวังตัวแจ..ใครเผลอ ก็ คลุมธงชาติกันไป..
    เดวนี้มีการพัฒนาฯระเบิดลูกใหญ่ๆมาเล่นงาน รถเกราะ ได้ มันน่าหนักใจครับ...ระเบิดพวกนี้ทำกันง่ายๆครับ แค่เพิ่มจำนวนดินระเบิดเข้าไปมากๆ..แต่ถ้าชาวบ้านไม่ร่วมมือ มันก็ดีพอจะยากหน่อยในการหาของ..แต่โจรก็บังคับชาวบ้านได้ซะแล้ว..มันเลยไม่ค่อยยากเย็นอะไรในการหาของแบบนี้

    ลูกน้อง(ทหารพราน)ก็มาเล่า ปสก.ให้ฟังว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คลาดแคล้วหวุดหวิด เพราะกำลังจะเดินทางไป อำเภอบันนังสตา ยะลา เพื่อรับเงิน ไปกับชาวบ้าน..พอดีไปถึงจุดที่คนร้ายซ่อนระเบิดไว้..รถเกิดอาการสะดุดเหมือนจะดับต้องจอดข้างทาง พอจอดลงดูเครื่องยนต์ก็ไม่เป้นไร ระหว่างนั้น ทหารพรานนายหนึ่งเดินลงไปข้างทางเพื่อ ระวังป้องกัน บังเอิญไปเห็นร่องรอยผิดสังเกตุด้านหน้าประมาณ ๑๐ เมตร จึงส่งสันญานเตือน ปรากฎว่า พวกมาซุกระเบิดลากสายไว้แล้ว...รอกดอย่างเดว แต่พวกนี้จะรีบหนีทันทีเพราะกลัวการค้นพบ ส่วนใหญ่จะมาแค่ ๑-๒ คน ไม่กล้ายิงเรา เพราะถ้าเรารู้จุดซ่อนตัว โจรจะเสียเปรียบมากกว่า.
    ก็ถามว่า..คิดว่าเป็นเพราะอะไร..เขาก็บอกว่า เวลาออกจากฐานฯทุกครั้งจะ อาราธนาแม่ธรณี หยิบก้อนดินวางไว้ที่หน้ารถยนต์ก่อนไปทุกครั้ง ที่ผ่านมาไม่เคยเจอ..ก็บอกว่าดีแล้ว..แม่ธรณี นั้นช่วยได้จริงในเรื่องนี้ขอให้ถือมั่นเชื่อมั่น..เพราะเราไม่รู้หรอกว่าระเบิดมันจะอยู่ตรงไหน ระเบิดตอนไหน..และ ถ้าให้ระเบิดแล้ว..ถึงจะเหนียว มันก็มีสิทธิ์คอหักตายได้เพราะแรงระเบิดมันจะมีพลังมากกว่า..สิ่งคุ้มครอง..แคล้วคลาดดีที่สุด..
    นำมาเล่าสู่กันฟังครับ...พวกเราๆที่อยู่ในมุมสงบจะได้รับรู้ว่า มุมหนึ่งของไทยเรายังมี คนกลุ่มหนึ่งที่มี ความลำบาก เสี่ยงอันตรายทุกฝีก้าวอยุ่..ต้องเผชิญกับความเป็นจริงในสิ่งที่เรียกว่า ความตาย บาดเจ็บ..แต่เขาเหล่านั้นก็ไม่เคยย่อท้อ ไม่เคยร้องขอความเห้นใจจากใคร เขาแค่รู้ว่า มันคือหน้าที่ ที่ต้องทำ เพื่อคนไทยทั้งประเทศ..เพื่อคำว่า ชาติ ให้ดำรงคงอยู่ครับ
     
  3. ฟากห้วย

    ฟากห้วย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +1,736
    น่ากลัวครับบ้านยายผมอยู่รือเสาะเคยลงไปเมื่อปีก่อนนั่งรถไฟไปคนเดียวทั้งรถไฟมีแต่อิสลามพูดยวีกันทั้งนั้นผมลองดูในตู้ที่ผมนั่งมีคนไทยน่าจะ 5 คนเองนอกนั้นแขกหมดเลยนั่งแบบเงียบๆเกร็งๆ พอใกล้ถึงรือเสาะเลยถามแขกที่นั่งหน้าผมว่าข้างหน้าใช่สถานีรือเสาะมั๊ยเท่านั้นแหละหันมามองผมกันทั้งตู้เพราะผมพูดไทย มองเหมือนผมเป็นตัวประหลาด ดีที่คนไทยที่อยู่ในตู้ที่ผมขึ้นเค้าบอกผมว่าอีกสองสถานีถึงรือเสาะ ถามแขกก็ไม่อยากบอกพูดไทยก็ไม่ชัดฟังไม่รู้เรื่องอีก นั่งคิดในใจว่านี่ผมอยู่ในเมืองไทยเหรอทำไมกดดันยังงี้ไปไหนไม่เคยกดดันขนาดนี้พอถึงรือเสาะค่อยโล่งหน่อยน้าผมมารับพอดีแต่ก็เสียวๆเพราะน้าผมเป็นครูไทย-พุทธต้องรีบเข้าบ้านเพราะเริ่มเย็นแล้ว ตอนไม่มีเหตุการน่าอยู่มาก เอามอไซด์ไปแว้นในสวนยางของยาย555มันมากเดี๋ยวนี้ไม่กล้าเข้าไปกลัวถูกยิง ตอนนนั้นอากาศดีเที่ยวสนุกอาหารอร่อยมากเมื่อก่อนจะไปบ้านยายช่วงสงกรานต์นี่แหละครับ บ้านยายอยู่ในตลาดเมื่อก่อนคนไทยเชื้อสายจีนในตลาดเยอะมากไปวัดทีมีแต่สาวแจ่มๆลูกคนจีนในตลาดทั้งนั้นเดี๋ยวนี้ไม่มีอีกแล้วย้ายหนีตายกันหมด เห้อเมื่อไหร่จาสงบถ้าไม่มีเหตุการณ์ผมว่าน่าอยู่มากมีแต่ต้นไม้บรรยากาศมีกลิ่นยางนิดๆข้าวหมกไก่งี้กินทุกเช้า 2 ห่อตอนกลางคืนนั่งจิบน้ำชากาแฟเดี๋ยวนี้มีแต่แขกนั่งไทยไม่กล้านั่ง
     
  4. พญายา

    พญายา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,265
    ค่าพลัง:
    +8,171
    วันนี้เป็นวันเนา โชคดีมีหลวงพี่ซึ่งเป็นพระลูกวัดเพิ่งกลับจากงานปริวาส โทรให้มาหาที่วัด และเล่าข้อคิดให้ฟัง ปกติวันที่13-14-15นี้พญายาจะไม่ไปไหนไกลเพราะกลัวเปียก พอมาเปิดเจอข้อมูลเก่าก็พบว่า ท่านเสธฯเคยพูดถึงการใช้วิชาขับนาค(ส่วนตัวเรียกว่าเป็นคาถาคัด-ถอน) จึงนึกขึ้นได้ว่า คนสมัยก่อนที่เคยถูกลอบยิงแล้วไม่รอดก็คงจะโดนแบบนี้ แต่ก็เห็นเพื่อนหลายๆคนคล้องพระแท้ๆในคอแต่เขาก็ยังซดเบียร์และสายตาก็จ้องขาสาวๆ พร้อมทั้งด่าส่งให้ผัวเขาฯ
     
  5. frankenstine

    frankenstine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +144
    สอบถามหน่อยครับ ถ้าผมมีพระเครื่อง ตะกรุด หรือเครื่องรางอื่นๆ แล้วผมไม่รู้คาถากำกับ ผมจะสามารถใช้บท "พุทธัง อาราธนานัง ธัมมัง อารธนานัง สังฆัง อาราธนานัง พุทธัง ประสิทธิเม ธัมมัง ประสิทธิเม สังฆัง ประสิทธิเม"
    แค่นี้ได้หรือเปล่าครับ
     
  6. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    ได้ครับ เพราะเป็นการอัญเชิญคุณพระรัตนตรัย เพื่อเป็นมงคลให้ตัวเรา.(ในขณะกล่าวคำอาราธนาก็ให้น้อมจิตนึกถึงพระรัตนตรัยเป็นที่ตั้ง ที่ยึด ในใจไว้) ..แต่หลักนิยมคนโบราณ จะต้องทำทุกวัน..ก่อนคล้องพระ/วัตถุุมงคล ครับ..สมัยนี้ดูจะไม่ค่อยจะอาราธนากันนัก บางคนคล้องเป็นเดือน เป็น ปีไม่เคยถอดเลยก็มี..แถมยัง เวลามีเพศสัมพันธ์ก็ไม่ได้ถอดด้วยซ้ำไป..แบบนี้ไม่ได้ครับ
    ถ้าไม่ถอดจากคอ ก็อย่างน้อยก็อาราธนาในคอนั่นแหละครับ เพื่อสิริมงคลกับตัวเรา ถ้าคิดแบบง่ายๆ ก็คิดเสียว่า อย่างน้อยใน ๑ วัน จิตเราก็จะได้ระลึกถึงพระรัตนตรัยบ้าง..ถึงแม้จะใช้เวลาไม่ถึง นาที เท่านั้น ครับ...
     
  7. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    วันนี้(๑๕ เม.ย.)ตามความเชื่อของภาคเหนือเรียกว่าวันพญาวัน ทำอะไรก็จะดีหมดครับวันนี้...
    สมัยก่อน ครูอาจารย์ก็จะทำพิธีการไหว้ครูให้กับลูกศิษย์ รดน้ำขอพร และก็ทดลองวิชากัน...เมากันทั่วหน้าครับ๕๕
    เพราะตอนผมเด็กๆวัยรุ่น ก็จะเห็น พวกร่ำเรียนวิชาไสยฯ ก็จะฮึกเหิมกันน่าดู..บางคนที่เรียนวิชาปะทะมึ่น..พอกินเหล้าเข้าไปก็คันยิบยับไปทั่วตัว(เรียกว่าของขึ้น) ต้องถอดเสื้อผ้าออก แล้วเอาตัวไปถูกับต้นหนามแหลมบ้าง ลวดหนามบ้าง...แล้วแต่จะมีในบริเวณนั้น..แต่วิชานี้ไม่ค่อยนิยมนักเพราะใครเรียนมาจะร้อนมากกว่าเย็น คนโบราณว่า เรียนแล้วทำกินไม่ขึ้น คือ ไปปลูกผัก ทำนาทำไร่ไม่ได้กินกับเขาแล้ว มันไม่เจริญงอกงาม เหมือนคนอื่นๆ ส่วนวิชาเล่นๆอีกวิชาคือ วิชาลิงลม พวกนี้ก็จะวิ่งไปหาต้นกล้วยไปนั่งบนกล้านกล้วยได้ แต่คนโบราณก็จะบอกว่า อย่าทักมันๆ..เพราะถ้าไปทักก็จะตกลงมาตุ้บเลย..ก็ไม่รู้ว่าเกิดจากเคล็ดอะไร..สมัยนี้ไม่มีให้ดูแล้ว..พวกคุณลุงแก่ๆพวกนั้นก็ไม่มีแรงเล่นแบบนั้นซะแล้วเพราะอายุปาเข้าไป ๘๐กว่าๆ หลายคนก็ไม่มีชีวิตแล้ว..
    ในปัจจุบัน พวกเราก็จะคอยดู เฝ้าดุกันอยู่ตามโลกออนไลน์ เพราะไม่ได้ไปพบเจอ อะไรแบบนั้นแล้ว..เพราะความเจริญด้านวัตถุ เข้ามาแทนที่..ในมุมด้านอื่นๆ แบบสมัยก่อนที่เน้นทางด้านจิต ก็จะดูหายๆไป..แต่ถ้าถามว่ามันหายสาบสูญไปหรือไม่นี่...ผมก็ว่ามันยังอยู่ครับ เพียงแต่ว่า มุมของเราไม่ได้ไปเจอกับมัน..เพราะเราอยู่ในต่างที่ ต่างเวลา กับสิ่งนั้นซะมากกว่า..

    อย่างพระผู้ปฏิบัติดี หรือ ผู้มีฤทธิ์ สมัยนี้ท่านก็คงไม่อยากมาย่างกาย ในเมือง เพราะมันเต็มไปด้วยสิ่งลามก อนาจาร เต็มไปหมด..ท่านก็คงจะหลีกเร้นอยุ่ในมุมสงบ ป่าเขา ลำเนาไพรไป..
     
  8. ฟากห้วย

    ฟากห้วย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +1,736
    ผมสงกรานต์นอกจากรดน้ำให้พ่อกับแม่ก็ออกไปขับรถดูในตลาดนิดหน่อยอยู่แต่บ้านไม่ได้เล่นมาหลายปีแล้วเพราะถ้าออกไปเล่นก็ไม่พ้นแต่เรื่องแต๊ะอั๋งปะแป้งสาวๆดูแล้วไม่เกิดประโยชณ์อะไรนอนอยู่บ้านดีกว่า
     
  9. หนึ่ง1

    หนึ่ง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,639
    ปีนี้นำดอกไม้ธูปเทียนแพร ไปขอขมากราบเท้าท่านเป็นปีแรก และจะทำทุกๆปีต่อไปครับ มีความรู้สึกอิ่มเอิบใจมากกว่าทำบุญอื่นๆ โดยส่วนตัว ชอบไปทำบุญตามวัดต่างๆ โดยเฉพาะวัดที่มีเกจิดังๆ ต่อไปคงไม่วิ่งไปไหน ทำกับพระที่บ้าน หรือพาท่านไปทำบุญด้วย สุขใจเป็นพิเศษครับสงกรานต์ปีนี้
     
  10. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,805
    เมื่อวาน 15 เมษา ไม่มีโอกาสได้ไปกราบ สรงน้ำ ครูบาอาจารย์ก็เลยเอาเหรียญ และรูปเหมือนของท่านมาแล้วรดน้ำแทน ระลึกถึงท่าน ขอให้เปรียบเสมือนได้กราบสรงน้ำท่านกับองค์จริงครับ มี ลป.ทองดำ ,ลพ.เงิน ,พระอุปคุต ลป.พิศดู ,ครูบากฤษดา เอาน้ำอบ แป้ง ดอกไม้โรยใส่น้ำแล้วก็สรง จากนั้นก็นำน้ำที่สรงมารดหัวเราเป็นน้ำมนต์...... แบบนี้พอได้มั้ยครับพี่คำรณ....
     
  11. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,342
    ฮ่าๆๆ นึกถึงเมื่อก่อนเคยเดินไปขอน้อย ขอหนานกับเพื่อน เพื่อหาเรียนวิชา เพื่อนมันจะหาแต่ข่ามคง ผมจะเอาแต่สาวหุม จนป่านนี้ยังไม่ได้เลย จนเพื่อนเป็นอาจารย์อยู่่ทางแม่ริมไปละ
     
  12. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072

     
  13. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,805
    กำลังเดินทางไปกราบ ลป.จรูญ วัดดอกไม้ ที่พี่คำรณแนะนำครับ....ตอนนี้ถึง อ.ตรอนแล้ว...มากันทั้งบ้านเลย....
     
  14. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    แล้วมาเล่าให้กันฟังบ้างนะได้อะไรดีๆมามั่งน่ะ
    ลป.ท่านคงไม่ไปไหน...พอดีพี่ก็ไม่ว่างในห้วงนี้ เลยไม่ได้ ไปกราบท่านเลย
     
  15. Tawatchai1889

    Tawatchai1889 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    6,406
    ค่าพลัง:
    +16,787
    ปีนี้ วันพญาวัน ตรงกับวันที่ 16 เมษายน 2556 ครับ ตามนี้ครับ

    ส่วนตัวแล้ว วันไหนก็ดี ถ้าเราทำดีครับ

    ประกาศสงกรานต์จุลศักราช ๑๓๗๕
    พุทธศักราช ๒๕๕๖

    วันมหาสงกรานต์ ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ ๑๔ เมษายน เวลา ๑ นาฬิกา ๕๘ นาที ๔๘ วินาที
    จันทรคติตรงกับ วันเสาร์ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือนห้า(๕) ปีมะเส็ง
    นางสงกรานต์นามว่า มโหทรเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกสามหาว(ผักตบชวา) อาภรณ์แก้วนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทราย
    หัตถ์ขวาทรงจักร หัตถ์ซ้ายทรงตรีศูล เสด็จไสยาสน์หลับเนตร(นอนหลับตา) มาเหนือหลังมยุรา(นกยุง) เป็นพาหนะ
    เกณฑ์พิรุณศาสตร์ ปีนี้ ศุกร์ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก ๖๐๐ ห่า
    ตกในเขาจักรวาล ๒๔๐ ห่า ตกในป่าหิมพานต์ ๑๘๐ ห่า ตกในมหาสมุทร ๑๒๐ ห่า ตกในโลกมนุษย์ ๖๐ ห่า
    เกณฑ์ธาราธิคุณ ชื่อ อาโป(ธาตุน้ำ) น้ำมาก น้ำท่วม
    เกณฑ์นาคราชให้น้ำ ปีมะเส็ง นาคราชให้น้ำ ๑ ตัว ทำนายว่า ฝนต้นปีมาก กลางปีงาม แต่ปลายปีน้อยแล
    เกณฑ์ธัญญาหารชื่อ ปาปะ ข้าวกล้าในไร่นา จะได้ ๑ ส่วน เสีย ๑๐ ส่วน คนทั้งหลายจะตกทุกข์ได้ยากลำบากแค้น เพราะกันดารอาหารบ้าง จะฉิบหายเป็นอันมากแล
    วันเถลิงศก ตรงกับ วันอังคารที่ ๑๖ เมษายน เวลา ๕ นาฬิกา ๕๖ นาที ๒๔ วินาที
    จันทรคติตรงกับ วันจันทร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือนห้า(๕) ปีมะเส็ง

    ที่มา
    ประกาศสงกรานต์ปี พ.ศ.2556 วันมหาสงกรานต์ วันเถลิงศก - myhora.com

    http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C
     
  16. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,805
    ไปกราบท่าน ท่านเมตตาครับ พระบ้านๆ อายุท่าน 91 ปีแล้วครับแต่ท่านยังแข็งแรง ท่านเมตตาจะให้ตะกรุด แต่..........ท่านหาไม่เจอ อดเลย 555 ท่านจะเดินกลับไปเอาที่กุฏิมาให้ ผมไม่อยากรบกวนหลวงปู่ท่านครับ ท่านเดินไม่ค่อยสะดวกเท่าไร ก็เลยขอเมตตาท่านเป่ากระหม่อมให้ครับ.....ท่านก็พูดถึงพี่คำรณด้วย หุหุหุ.... แล้วก็พูดถึงคาถาที่พี่คำรณเคยเอามาลงเอาไว้ครับ.....กุนุหุสุ..... ท่านบอกว่าเมื่อก่อนไปตามจับโจรขโมยควายแล้วไปเจออาจารย์ท่านนี้ก็เลยขอเรียนวิชามาครับแต่ยังได้ไม่ทันหมดอาจารย์ก็มาสิ้นไปก่อน....คาถาบทนี้ท่านใช้ลงตะกรุดของท่านด้วยครับ....
     
  17. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    [​IMG]

    ครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร กำหนดออกกรรมฐาน
    พฤหัสบดี 18 เมษายน 56 หลังจากปฏิบัติเข้ากรรมฐาน 3 ปี
    ตั้งแต่ 18 เม.ย.2553 อธิษฐานไม่เปล่งวาจา, ไม่พบบุคคลใดๆ ณ ถ้ำราชคฤห์ ต.แม่แก้ อ.งาว ลำปาง


    ที่มา..http://www.facebook.com/groups/440014926035348/#!/DhrammaPhuttho
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    ยินดีด้วยที่ได้กราบท่าน...แหม เสียดายนะที่ท่านหาไม่เจอ ไม่เป็นไร ถ้าคราวหน้าพี่ไปจะขอมาให้..
    พระบ้านนอก นี่แหละมี ปสก.จริงๆ เยอะดี ชอบให้ท่านเล่าให้ฟังสมัยหนุ่มๆ สมัยนั้น ชายไทยต่างแสวงหาของดี โดยเฉพาะคาถาอาคม มาไว้ป้องกันตัว..เพราะโดนกันแทบทุกเหตุการณ์ สาเหตุมาจากการปล้นทรัพย์ ในยุคนั้นบ้านเมืองกฏหมายยังเข้าไม่ถึง เสือ จึงมีอำนาจมากกว่า ตำราจ อยากได้ทรัพย์/ลูกสาว บ้านไหนก็ไปฉุดมาได้เลย..เสือก็มีทั้ง ดี ทั้งเลวธรรมดา เลวสุดๆ(ปล้นฆ่าข่มขืน)..สมัยก่อนเวลาโจรไปปล้น เจ้าของไม่ยอมบอกที่ซ่อน ก็จะเอากระด้งมาผ่ากลางให้พอดีคอสวมลงไป จะหมุนรอบๆคอเจ้าของบ้านไปเรื่อยๆจนกว่าจะบอก..ซึ่งญาติผมก็เลยเจอแบบนั้น สุดท้ายต้องยอมบอกเพราะมันเจ็บมากๆ..วิชาคงกระพัน จึงนิยมแสวงหามาก..และเมื่อได้มาแล้วก็ต้องสู้กับ โจร ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะถูกฆ่าตายซะก่อนเพราะขัดขืน ไม่ยอมสวามิภักดิ์...พวกที่ได้วิชาดี มาแล้วสู้โจรได้ ก็กลายเป็น โจร/เสือ ฝ่ายดี ขึ้นมา คือจะมีคนมาขออาศัยบารมีด้วย..เป็นอันว่ากลายเป็นตำนานของ โจร สร้าง โจร ไป..ท่านก็ยังเล่าว่า สมัยก่อนนั้น การยิงกัน ฆ่ากัน มันเรื่องง่ายมาก ..ตัวท่านเองก็โดนมามากแต่มันก็ไม่เคยดังซั้กนัด.(ขนาดท่านบวชเป็นพระแล้วยังมีคนมาแอบลองดีท่าน มาแอบยิงท่านข้างกุฎิ แซะ แซะ แซะ ท่านต้องบอกว่า อย่าไปยิงพระเลยมันบาปนะโยมเดวจะตกนรก).พอมาบวชกะว่าจะบวชพักเดว แต่พอบวชแล้วท่านก็ไม่ยอมสึก เพราะเห็นว่าสึกไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น นอกจากต้องไปตีรันฟันแทงกันไม่รู้จบ ...และท่านก็ได้สร้างตะกรุดขึ้นมาให้กับชาวบ้านที่ต้องการมีไว้ป้องกันตัว..ท่านก็ยังบอกเสมอว่า วิชาคาถาอาคม มีจริงนะ แล้วก็แปลกซะด้วยสิ มันไม่น่าเชื่อบางอย่างมันก็ต้องเชื่อ ท่านว่างั้น...
     
  19. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    ล่าสุดเมื่อเช้าเช็คข่าวกับศิษย์ใกล้ชิดยังไม่มีสัญญานใดๆ ส่งออกมาว่า ท่านจะออกจากถ้ำครับ
    แต่ท่านเคยบอกว่า ท่านจะอยู่ ๓ ปี ๓ เดือน ๓ วัน ...ซึ่งก็น่าจะราวๆก่อนเข้าพรรษา.ของปีนี้.ถึงจะครบกำหนดตามที่ท่านกำหนด..

    นะโม โพธิสัตโต ญาณะสังวะโร สาธุ สาธุ สาธุ
     
  20. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    ตอบคำถามให้กับท่านที่ถามว่า ไสยสาสตรืกับการฝึกสมาธิเกี่ยวข้องกันอย่างไร และพระที่มีอภิญญา ต้องมีวิชาไสยศาตร์ไหม

    ผมก็จะตอบตามที่เข้าใจมานะครับ..ไม่ได้การันตี หรือยืนยันว่าใช่
    -ผมเคยถามครูอาจารย์ รวมทั้งเคยอ่านตำราของ อ.เทพฯ ที่มาไสยฯ รากเหง้ามาจากวิชา ไศวะศาสตร์ของพราหม ต่อมาชาวพุทธกับพราหม ก้แยกกันแทบไม่ค่อยออก จึงมาดัดแปลงแก้ไขให้เป็น แบบพุทธ เรียกแผลง/เพี้ยนต่อๆกันว่าจนได้คำว่า ไสยศาสตร์...ดังนั้นจึงมีรากฐานคล้ายคลึงกันกับพราม แต่พุทธเราเน้นตรงใช้ พระรัตนตรัยเป็นที่ตั้ง ส่วนพราหม ใช้เทพเจ้าเป็นที่ตั้ง..
    -คำว่าอิทธิฤทธิ์ ไม่จำเป็นต้องมาจากวิชาไสยฯ เพราะความสำเร็จฤทธิ์ล้วนเกิดจากด้านจิตทั้งสิ้น...ผู้สำเร็จ ฌาน กสิน สามารถกำหนดฤทธิ์ได้โดยไม่ต้องพึ่งพา วิชาไสยฯ เพราะพลังนั้นจะมีเองจากอำนาจทางจิตที่ล้นเหลือแล้ว
    แต่วิชาไสยฯนั้นผมจะเรียกว่า การทำฤทธิ์แบบเร่งด่วนก็น่าจะได้อยู่ คือ ไม่ปราณีตบรรจงเท่าไหร่ ไม่มั่นคงนัก เสื่อมง่าย สู้การสร้างจาก ฤทธิ์ของด้านผู้สำเร็จอภิญญาไม่ได้..ยิ่งถ้าบวกวิชาไสยฯหรือตัวคาถาเข้าไปด้วย ยิ่งซุปเปอร์ฤทธิ์เลย...วิชาไสยฯ อย่างทั่วๆไป(รวมถึงผมด้วย) คงแค่ไม่ขีดไฟ(อาจจะชื้นด้วยซ้ำไปกว่าจะจุดติดก็ยาก) แต่ถ้าระดับผู้ทรงฌาน กสิน ก็คง เทียบไฟแช็ค ชั้นดี จุดได้ทันทีทันใด..ถ้าพระอภิญญา ก็ เทียบเท่าโรงงานพลังงานนิวเคลียร์..พร้อมจะทำลายได้ทุกอย่าง(แต่ท่านได้แค่มีเพราะท่านวางไว้เฉยๆ...)...
    -ถามว่า สมาธิ กับ ไสยฯ เกี่ยวสัมพันธ์กันไหม ก็ดังกล่าวข้างต้นครับ นักสมาธิส่วนใหญ่จะมุ่งเน้น สงบ หาทางสำเร็จ สมาธิ เพื่อนำไปสู่ความพ้นทุกข์ แต่ นักไสยฯไม่ได้เริ่มที่วิชาสมาธิ เริ่มที่ตัวคาถา แต่เมื่อท่องคาถาด้วยความจดจ่อ จิตก็ย่อมเกิดสมาธิ มันก็ไปกันได้แบบทางอ้อม..แต่ไม่เคยมีอาจารย์ไสยฯ คนไหนที่ผมไปเรียนวิชาไสยฯด้วยสอนให้ผมฝึกสมาธิเลย...สอนแต่วิชาไสยฯอย่างเดว ....
    ก็พิจารณาดูครับ
    ส่วนเรื่องราวที่มีประโยชน์ด้านไสยฯตรงๆ ไว้วันหน้าผมจะนำบทความดีๆของท่าน อ.เทพฯ มาลงไว้ให้กับท่านผู้สนใจได้อ่าน เพราะผมคิดว่าท่านเป็น ปรมาจารย์คนหนึ่งด้านวิชาไสยฯที่เขียนเรื่องราวไว้ได้น่าศึกาายิ่งนักครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...