การปฏิบัติสมาธิเพื่อสุขภาพกายและจิตให้เหนือธรรมดาตามในทางพุทธศาสนา

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย visnu, 4 ตุลาคม 2010.

  1. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    ใช่ครับพิจรนาสังขาร เป็นนิวร เป็นสมาถะ เป็นกสินกลายๆ เป็นอสุภะเล็กน้อย อยู่ที่การตีโจทย์

    ปวดมากอยู่ที่ว่าเอาจิตไปจับหรือเปล่า ปรกติก็เจ็บแต่ถ้าคิดว่าเป็นการฝึกจิต จะต้องเป็นนายกาย

    นิวรก็ไม่มีผลกับเราครับ
     
  2. itou

    itou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +1,196
    ส่งการบ้านครับ
    บทที่ ๑
    เข้า ออก ๑๐๐
    พุทโธ ๑๐๐
    เกศา โลมาฯ ๑๐๐
    พุทโธ ๑๐๐

    รู้สึกว่าไม่ค่อยฟุ้ง ไม่ค่อยหลุด
    มีอาการปวดเกิดขึ้น ก็ไม่ดิ้นรน เหมือนแต่ก่อน
    แต่พอมีอาการอะไรขึ้นมา ตัวอยากได้ฤทธ์ขึ้นมาทันที
    ตัดไม่ได้สักที ทั้งทีรู้ว่าเป็นอาการทางจิตธรรมดา
     
  3. noolegza

    noolegza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +3,844
    สวัสดีครับ
    วันนี้สวดมนต์ นั่งภาวนาตามปกติ
    รู้สึกช่วงหลังจะฟุ้งมาก ความรู้สึกอยากสงบ อยากนิ่งมันเพิ่มขึ้น . .ก็ดูมัน นั่งไปสอนตัวเองไป ว่ามันไม่เหมือนกันทุกวัน . .อย่าไปยึด
    ก็ภาวนาไปเรื่อยๆ ดูลม หลุดแล้วก็ภาวนาใหม่อยู่ 3 - 4 รอบ ก็ออกสมาธิครับ
     
  4. itou

    itou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +1,196
    ส่งการบ้าน บทที่ 1 ครับ
    ช่วง
    เข้า ออก ๑๐๐
    พุทโธ ๑๐๐
    เกศา โลมา ๑๐๐
    หลุดแบบแปลกๆ
    คือเหมือนคิดอะไรไม่รู้ไร้สาระไปเรื่อย
    แต่ยังจับลมหายใจ กับ คำภาวนาไว้ได้(เกือบ)ตลอด
    ปกติคือหลุดแล้ว หลุดเลย ไปจับความคิดแทน

    ช่วง
    พุทโธ ๑๐๐
    แผ่เมตตา แล้วนั่งเรื่อยๆ
    เหมือนหยุดไปเฉย มีโผล่ขึ้นมาประปราย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 เมษายน 2013
  5. Ariya:

    Ariya: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +1,082
    นั่งต่อเลยครับ
     
  6. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    อธิบายหน่อยดิ. แหม่
     
  7. Ariya:

    Ariya: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +1,082
    ผมอธิบายไม่เก่งอ่าครับ

    ใจเย็นๆค่อยเป็นค่อยไป คิดอะไรก็ ปล่อยมันไป ภาวนาก็ภาวนาไป

    ไปเรื่อยๆอย่าเร่ง อย่าขาด หาเมื่อหาจังหวะ หรือเริ่มคล่องจะเข้าใจ

    ตอนนี้นั่งแบบนี้ก่อนนะครับ
     
  8. กะทิจันทร์

    กะทิจันทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +569
    ขอบคุณค่ะอาจารย์. ช่วงนี้พักรักษาตัวก็มีนั่งบ้าน. นอนบ้างภาวนาปฏิบัติ. อาจจะไม่ได้ทำเต็มที่แต่ก็ไม่ละ. อาจจะเป็นเพราะยาหรืออาการยังไม่สมบูรณ์จิตก็เลยไม่ฟุ้งซ่านมากนัก. พอปฏิบัติก็จะสงบเร็วแต่สงบเกินเรื่อยค่ะ. สัปหงกไปเลย. เป็นงี้เรื่อยค่ะ. อาจารย์ค่ะ. เชื้อโรคพวกไวรัส. แบคทีเรีย เนี่ย. เรากินยาไปฆ่าเชื้อเหล่านั้นเนี่ยถือว่าเข้าข่าย. ผิดศีลข้อ1ป่าวคะ

    อีกคำถาม(อาจารย์เมตตาอีกหน่อยนะคะ). ที่บอกว่าแค่นี้ของอาจารย์ในคำตอบที่ผ่านมาหมายถึงโรคนี้ที่เกิดขึ้นใช่ป่าวคะ. แล้วที่มากกว่านั้นยังมีโรคหรืออะไรเยอะๆอยู่ที่ต้องรักษา. อาจารย์เมตตาอีกนิดนะคะ โปรดแนะนำวิธีด้วยค่ะ.
     
  9. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    ธรรมมะหรือศีลต่างๆถูกกำหนดสร้างเพื่อความปรกติ ความไม่เบียดเบียนต้องดูในปัจจุบันเราถูกโรคเบียดเบียน

    และต้องดูว่าโรคนั้นเกิดจากอะไร

    1.โรคอันเกิดมาจากกรรม
    2.โรคอันเกิดแต่โรค
    3.โรคอันเกิดจากพรรติกรรม

    ต้องแยกออกจากกันแต่เท่าที่ดูเหมือนจะครบทั้ง 3 แบบ กล่าวคือโรคที่เกิดจากกรรมเกิดก่อน

    แล้วก็ลามอันนี้คือโรคอันเกิดแต่โรค แล้วก็มาในช่วงพักฟื้นไม่ปรับวิธีคิดการใช้ชีวิตอันนี้ก็เป็นโรคอันเกิดจากพรรติกรรม

    คือที่ผมดูก่อนหน้านี้ผมไม่ได้ดูระเอียดเนื่องจากคุณไม่ได้ร้องขอให้ช่วยผมดูจากการบ้านที่เข้ามาตรวจ

    เจอจิตที่มันซัดส่าย จิตที่มันไปกะอุคนิมิตร จิตตัวนี้จับได้ว่าเป็นการยึดมั่นถือมั่นในตัวฟุ้ง ยึดเป็นจริงเป็นจัง

    เนื่องจากอะไร...เนื่องจากความทุกในออกที่ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเหตุผลมาจากอะไร แต่รวมๆเหมือนจะตำหนิตัวเอง

    รายละเอียดว่าจะเกิดอะไรขึ้นไม่อยากบอกเพราะไม่อยากให้ยึดติด แต่ให้ทำในปัจจุบัน

    กายนี้จิตนี้เกิดมาเพื่อคนเพียงคนเดียวและไปแค่เพียงดวงเดียว วางและทำในสิ่งที่รู้ ทุกอย่างล้วนสมมุติครับ
     
  10. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    แปลกแต่จริง คือผมเริ่มเขียนวิธีการฝึกการเปิดตาทิพย์การถอดกายกะจิต การดูกรรม การดูชะตาคน การอะไรอีกสาระพัด

    ใช้เวลาเขียนถ้าตั่งแต่กระทู้เก่าที่ผมลบทิ้งไป จนถึงกระทู้นี้ ตั่งแต่อาจารย์อาชวินยังไม่เสีย ตอนอาจารย์ยังไม่เสียอาจารย์ก็บอกว่าจะได้

    จะสำเร็จกี่คน ผมบอกว่าอาจารย์ครับถึงไม่มีคนอ่านผมก็จะเขียนเพราะอะไรนะหรือ เพราะในตอนที่ผมต้องการฝึกกลับไม่มีใครเขียนสอน

    ไม่รู้จะไปหาอ่านหาความรู้ที่ไหน ที่มีให้อ่านก็ไม่รู้เรื่องเพราะคนเขียนก็คัดลอกเค้ามาอีกที อาจารย์บอกว่าก็ดี อาจารย์จะได้เบาแรงเวลาคนมาจะได้ไม่ต้องสอน

    แต่แล้วก็เป็นแบบที่อาจารย์บอกจริงๆ555 จริงๆผมมีงานเขียนที่กะจะเอาไว้รวมเล่มกะอาจารย์ไว้อยู่ เป็นเรื่องที่เล่าในสิ่งที่คนตาทิพย์ได้พบเจอ

    แต่น่าเสียดายอาจารย์ไม่น่าจากไปเร็วเลย ผมคงจะมีคนคุยสนุกๆอีกคน คนบ้าได้คุยกับคนบ้า 555 เรื่องบางเรื่องก็เล่าให้ใครฟังไม่ได้หมด

    ตอนนี้มีคนอยากอ่านงานเขียนเหมือนของอาจารย์ และได้คุยกับผมอยู่ ซึงตอนนี้อยู่ในขั้นรวบรวมครับ คงจะได้อ่าน ถือเป็นแรงดลใจที่ทำให้อยากฝึกครับ
     
  11. กะทิจันทร์

    กะทิจันทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +569
    ขอบคุณค่ะอาจารย์ที่แนะนำ ทุกวันนี้พยายามค่ะที่วางลงเรื่องบางเรื่องที่มากระทบ. พยายามระลึกหลักการปฏิบัติไม่ให้จิตไหลไปกับความฟุ้งซ่าน. เพราะรู้ดีว่าตัวเองเป็นคนคิดมากโดยเฉพาะเรื่องของคนอื่น. เพราะคนอื่นที่ว่าก็คนในครอบครัวที่ยังมีปัญหา. และมีเรื่อยจนเศร้าใจเพราะเราช่วยเค้าไม่ได้. ที่อาจารย์บอกคราวก่อนว่าเมื่อปฏิบัติเข้าถึงสภาวะนึงที่เป็นสภาวะที่สุข. ไม่ทราบว่าจะใช่สภาวะเดียวกันหรือป่าว เพราะมันสุขมากอยู่ภายใน ข้างใน บางทีอยากจะร้องไห้ออกมาเพราะความสุขมันเหมือนกับมากมายมหาศาลล้นอกออกมา. มันมีแต่คำว่ารัก. ไม่ใช่รักแบบหนุ่มสาวนะคะ. รักแบบไม่มีขอบเขตรักแบบอยากให้เค้ามีความสุข มันลึกซึ้งค่ะ. ที่ว่าดีก็คือเราลดความแข็งกระด้างลง. เพราะปรกติอ่อนหวานไม่เป็น ดูแลใครไม่เป็น ทิฐิเยอะ แต่เม่ือมีอารมณ์นี้เกิดขึ้นก็ช่วยให้ตัวเอง มองย้อนตัวเองมากขึ้น. อีกอย่างจะพยายามจำคำของอาจารย์ที่ว่าทุกอย่างเป็นสิ่งสมมุติ. เห็นด้วยอย่างสูงและจะพยายามระลึกไว้เสมอค่ะจะได้ฝึกความคิด. สติ ไม่ให้ยึด ขอบคุณมากค่ะ. อาจารย์รู้ไหมคะว่าคำพูดบางคำเพียงไม่กี่ประโยคของอาจารย์มันมีประโยชน์ต่อลูกศิษย์และผู้อ่านอย่างมาก. บางอย่างเรารู้แต่สักว่ารู้แต่ถ้าไม่เข้าใจมันก็ไม่มีประโยชน์. เมื่ออาจารย์มาไขให้กระจ่างให้แล้วและทำให้เข้าใจมากขึ้น(จะพยายามค่ะ). ตาก็สว่างมากขึ้นตามค่ะ. ขอบคุณค่ะ
     
  12. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    การเข้าสมาธิมี 3ระดับในกรรมฐาน อย่างง่ายหรือปฐมฌาน
    1.ขณิกะ
    2.อุปจาระ
    3.อัปปนา
    แยกย่อยการเข้าทั้ง 3 นั้นยังยึดติดกับกายสังขารมีเวทนาเกิด กรรมจะย้อนมาในช่วงนี้

    แต่เป็นคุรุกรรมไม่มากมายอะไร จะทำให้เจ็บปวดบ้างเล็กน้อย ในตอนที่ผมฝึกชอบจะมีหลายคนที่บอกว่า

    เข้าอุปจาระแล้วนิ่งสงบ ผมจะบอกว่าถ้านั่งอย่างที่ผมบอกทำที่ผมสอน ในตอนนี้ผมเองนั่งพิมพ์อยู่

    ยั่งเข้า อัปนาสมาธิได้อย่างสบาย จิตเกิดวสีมีความชำนาญ ย้อนไปมาเหมือนเวลานั่งสมาธิเพียงแต่ไม่ได้นั่งหลับตา

    สภาวะนี้เรียกว่าเด็กมากกับพระในสมัยพุทธการที่คลองอารมณ์ ฉะนั้นการเป็นพระอรหันต์

    จะต้องคลองอารมณ์เหนื่อกว่านี้มากเพราะเปี่ยมสมาธิคลองสติที่แจ่มใสไม่ขุ่นมัวดังแก้วเจรไน

    จะพูดอะไรหลงประเดนเลย 555

    คือจะบอกว่าตอนที่ผมตรวจการบ้านเห็นการนั่งของคุณไม่ไปไหนเพราะยึดติดกับบิติขั้นต้นเนี่ยแหละครับ

    ตรนี้สำคัญมากเพราะต้องวาง ที่ว่าวางคือมีได่สำผัสได้เห็นได้แต่ไม่ยึดติดในอารมณ์นั้น

    ที่ย้ำเพราะอยากให้รู้ว่าสุขในตอนนั้น แล้วเป็นไง มันสุขจริงหรือสุขนั้นยาวนานมาในการใช้ชีวิตหรือ

    สุขนั้นทำให้เราเกิดจิตที่หลง ที่เห็นความสุขนั้นเป็นเรื่องจริง แยกให้ออกครับ อันนี้ต้องตีโจทเองครับ

    พิจรณาเองครับไม่ได้ห้ามแต่ลองดูว่าต่อให้เรารับสุขนั้นถึงที่สุดแล้วสุขจริงหรือ

    หรือมันก็กลับมาสู่ความว่างเปล่าอยู่ดีครับ

    ................................................................

    ที่ผมสอนมาทั้งหมดเพื่อยกระดับจิตเราเมื่อสูงแล้ว คราวนี้จะมีคนมาสอนต่อเองครับในสมาธิ อันนั้นจะดีขึ้นไปอีกครับ

    ไม่อยากให้เชื่อแบบงมงายแต่อยากให้พบให้เจอเองแล้วจะได้รู้ว่า อันไหนจริงไม่จริงครับ
     
  13. noolegza

    noolegza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +3,844
    จะรอชมเรื่องเล่า อ.บาส นะครับ เชื่อว่าน่าจะสร้างแรงฮึดให้ใครได้อีกเยอะเลย . .
     
  14. กะทิจันทร์

    กะทิจันทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +569
    ขอบคุณค่ะอาจารย์. จะรับไปปฏิบัติตาม แล้วจะมาส่งการบ้านรายงานผลค่ะ. กลับมานั่งปปฏิบัติตามปรกติได้สองวันแล้ว. ฟุ้งซ่านเยอะค่ะเลยยังไม่รายงานอะไรมาก
    ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
     
  15. klaichid

    klaichid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +807
    จะรออ่านหนังสือที่อ.บาสรวบรวมพิมพ์เป็นเล่ม อย่างที่อาจารย์อาชวินได้ทำไว้

    ยังระลึกถึงอาจารย์สามตาเช่นกันค่ะ
     
  16. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
    อนุโมทนาด้วยครับ _/\_
     
  17. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    อันนี้เป็นเรื่องพระเครื่องครับ

    พระเครื่อง ชื่อนี้เราท่านคงจะได้ยินมาตั่งแต่เด็กๆ ซึ่งเป็นเรื่องปรกติของชาวเมืองพุทธอย่างประเทศไทย แต่ทำไม่ที่อื่นไม่ค่อยมี เนื่องจากไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขาด ครับประเทศเรามีการสู้รบตลอดเวลา สิ่งที่ยึดเหนี่ยวให้กำลังใจ ในยามศึกสงครามก็คือศาสนาครับ
    ..………………………………............................................................…………
    เรื่องราวนี้เนื่องจากที่บ้านผมมีพระเยอะมากและพ่อผมก็เป็นทหาร จึงมีพระเยอะมาก แล้วผมก็มาเจอ อ.อาชวิน ครั้งแรกที่เห็นบอกตรงๆเลยว่าไม่เชื่อ แต่อาจารย์สอนและเราพอรู้และมีสัมผัส ผมจึงเริ่มฝึก แรกๆก็ฝึกตามสายพลังจักวาลครับ ก็พูดตามตรงนะครับเดิมผมไม่ชอบการนั่งสมาธิแบบธรรมดาเพราะคิดว่าน่าจะน่าเบื่อ จึงเริ่มจากแนวทางของพลังจักวาล ถามว่าดีไหมตามความรู้สึกคือก้าวหน้ามาก แต่ถ้าเป็นตอนนี้ผมจะฝึกจากปรกติไปเพราะพื้นฐานจะแน่นกว่าจิตจะมีความละเอียด และรางกายไม่โทรมจากภายในอายุไม่สั้น

    เข้าเรื่องแล้วกันครับ หลังจากที่ฝึกผมสามารถดูได้ ดูได้ในที่นี้เนื่องจากโดนสอนมาจากการสัมผัสก็ต้องเอามือดึงขึ้นมา จึงจะรู้ หลังๆมองก็เห็น ครับพลังพระเครื่องเท่าที่เห็นมา จะมี 6-8 แบบ เท่าที่เห็นมา
    1.คงกะพ้น 2.คลาดแคล้ว 3.มหาอำนาจ 4.เมตา ค้าขาย 5.กันผีกันคุณไสยกันของไม่ดี 6.รักษาโรค ทำน้ำมนต์ 7.อธิฐานขอพร 8.โชคลาภ แต่หลังๆมีแบบแปลกๆมาเพิ่ม เลยรู้ว่าแล้วแต่สมาธิแล้วแต่เวลา และ สถานที่ พลังพระเครื่งนั้นเหมือนหลอดไฟ มีด้านหน้าและด้านหลัง ความสว่างได้ไกลประมาณเกิบ200 เมตร แต่ตรงนี้มีตัวแปลเยอะมากครับ แลัวแต่คนใส่ด้วยครับว่าช่วงไหนชะตาเป็นอย่างไร ถ้าคนนั้นทำแต่เรื่องไม่ดี เหมือนเอาเลข 1,000-100 ยังไงก็ติดลบ แขวนพระเครืองอาจทำให้ติดลบน้อยหน่อยหรือได้กลับมาบ้างครับ ความรู้ความสามารถนี้ทำให้ผมได้นำมาใช้ประโยชน........เนื้อหาประมาณนี้ครับ

    เนื่อเรื่องเป็นตอนๆ แบบแปลกๆพวกสิ่งที่เราเจอโดบบังเอิน เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น อย่างที่ผมเห็น การที่คนเอาดวงไปฟากไว้ตามที่ต่างๆบ้าง ผีตามที่ต่างๆ คำสาปที่ทำใส่ของบางอย่าง การรักษามะเร็งด้วยจิต ประมาณนี้นะครับ
     
  18. daGaz

    daGaz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +2,706
    มารออ่านต่อนะครับผม ส่วนนั่งก็นั่งอยู่ พยายามนั่งทุกวัน แต่เหมือนจะเข้าทำนอง สามสี่วัน แล้ว ไม่ได้นั่งวัน
     
  19. ล้อเล่น

    ล้อเล่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,924
    ค่าพลัง:
    +18,649
    ขอร่วมอ่านด้วยคนจร้า........................
     
  20. chaivat chinkidjakar

    chaivat chinkidjakar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    1,601
    ค่าพลัง:
    +21,734
    มารายงานดัวบ้างครับ
    ยังปฏิบัติอยู่ทุกวันครับ สวดมนฆ์ แล้วก็พยายามรักษาโรคให้กับแฟนและลูกสาวทั้งสองคน
    ปล่อยวางก็ยากมากๆและไม่ค่อยสงบเลยครับ
    ผมจะรองทำเตโชกสิณตามที่น้องAriyaแนะดูครับ เผื่อจะดีขึ้นบ้าง
    ขอบพระคุณ อาจารย์ บาสครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...